มัทธิว 26:1-30

มัทธิว 26:1-30 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

เมื่อ​พระเยซู​พูด​เรื่อง​พวกนี้​เสร็จ​แล้ว พระองค์​บอก​กับ​พวก​ศิษย์​ว่า “พวก​คุณ​ก็​รู้​แล้ว​ว่า อีก​สอง​วัน​จะ​ถึง​เทศกาล​วัน​ปลด​ปล่อย และ​บุตร​มนุษย์​จะ​ถูก​ส่ง​มอบ​ไป​ให้​ศัตรู​เพื่อ​เอา​ไป​ตรึง​ที่​กางเขน” พวก​หัวหน้า​นักบวช​และพวก​ผู้นำ​อาวุโส​มา​ประชุม​กัน​ที่​บ้าน​ของ​คายาฟาส​นักบวช​สูงสุด พวก​เขา​วางแผน​จับ​ตัว​พระเยซู​ไป​ฆ่า แต่​พวก​เขา​ตกลง​กัน​ว่า “อย่า​เพิ่ง​ทำ​ใน​ช่วง​เทศกาล เพราะ​ประชาชน​จะ​ก่อ​การจลาจล​ขึ้น” ใน​เมือง​เบธานี ขณะ​ที่​พระเยซู​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​ซีโมน​ที่​เคย​เป็น​โรค​ผิวหนัง​ร้ายแรง มี​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​ถือ​ขวด​ใส่​น้ำหอม​ราคา​แพง​มาก​มาหา​พระองค์ เธอ​ชโลม​น้ำหอม​ลง​บน​ศีรษะ​ของ​พระองค์ ขณะ​ที่​พระองค์​กำลัง​กิน​อาหาร​อยู่ เมื่อ​พวก​ศิษย์​เห็น​อย่าง​นั้น​ก็​โกรธ ต่าง​พูด​กัน​ว่า “ทำไม​ถึง​ทำ​ให้​เสีย​ของ​อย่างนี้ มัน​คง​ขาย​ได้​เงิน​มาก​ที​เดียว แล้ว​ก็​เอา​เงิน​นั้น​ไป​แจก​จ่าย​ให้​กับ​คน​จน” เมื่อ​พระเยซู​ได้ยิน จึง​ห้าม​พวก​ศิษย์​ว่า “ไป​วุ่นวาย​กับ​เธอ​ทำไม เธอ​ได้​ทำ​สิ่ง​ที่​ดี​งาม​ให้​กับ​เรา พวก​คุณ​จะ​มี​คน​จน​อยู่​ด้วย​เสมอ แต่​เรา​จะ​ไม่​อยู่​กับ​พวก​คุณ​เสมอ​ไป ที่​เธอ​เท​น้ำหอม​ลง​บน​ตัว​เรา​นั้น ก็​เพื่อ​เตรียม​เรา​ไว้​สำหรับ​การฝังศพ เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ไม่ว่า​ข่าวดีนี้​จะ​ประกาศ​ออก​ไป​ที่​ไหนๆ​ใน​โลกนี้ ก็​จะ​มี​คน​พูด​ถึง​เรื่อง​ที่​เธอ​ทำ​ให้​กับ​เรา​นี้​เสมอ เพื่อ​เป็น​การ​ระลึก​ถึง​เธอ” ยูดาส อิสคาริโอท ศิษย์​เอก​คน​หนึ่ง​ใน​สิบสอง​คน​ของ​พระเยซู ได้​ไป​พบ​พวก​หัวหน้า​นักบวช เขา​ถาม​ว่า “ถ้า​ผม​ส่ง​ตัว​พระเยซู​ให้ จะ​จ่าย​ให้​ผม​เท่าไหร่” แล้ว​พวก​เขา​ก็​ให้​เงิน​ยูดาส​สามสิบ​เหรียญ ตั้งแต่นั้น​มา ยูดาส​ก็​คอย​จ้อง​หา​โอกาส​ที่​จะ​ส่ง​พระเยซู​ให้​กับ​พวก​เขา วัน​แรก​ของ​เทศกาล​กิน​ขนมปัง​ไร้​เชื้อ พวก​ศิษย์​ได้​เข้า​มา​ถาม​พระเยซู​ว่า “อาจารย์​จะ​ให้​พวก​เรา​เตรียม​อาหาร​สำหรับ​เทศกาล​วัน​ปลด​ปล่อย​ให้​อาจารย์​ที่​ไหน​ครับ” พระเยซู​ตอบ​ว่า “ให้​เข้า​ไป​ใน​เมือง​หา​ชาย​คน​หนึ่ง แล้ว​บอก​เขา​ว่า ‘อาจารย์​บอก​ว่า เวลา​ของ​เรา​ใกล้​มา​ถึง​แล้ว เรา​จะ​เลี้ยงฉลอง​เทศกาล​วัน​ปลด​ปล่อย​กับ​พวก​ศิษย์​ของ​เรา​ที่​บ้าน​ของ​คุณ’” พวก​ศิษย์​ทำ​ตาม​ที่​พระเยซู​บอก และ​จัด​เตรียม​อาหาร​สำหรับ​เทศกาล​วัน​ปลด​ปล่อย​ที่​นั่น เมื่อ​ถึง​ตอน​เย็น พระเยซู​เอน​ตัว​อยู่​ที่​โต๊ะ​อาหาร พร้อม​กับ​ศิษย์​ทั้ง​สิบสอง​คน ขณะ​ที่​กำลัง​กิน​กัน​อยู่​นั้น พระเยซู​ได้​พูด​ขึ้น​ว่า “เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า คน​หนึ่ง​ใน​พวก​คุณ​จะ​หักหลัง​เรา” พวก​ศิษย์​ตระหนก​ตกใจ​มาก ต่าง​ถาม​พระองค์​ว่า “คง​ไม่​ใช่​ผม​นะ อาจารย์” พระเยซู​ตอบ​ว่า “คน​ที่​เอา​มือ​จิ้ม​ลง​ใน​ชาม​เดียว​กับ​เรา​จะ​เป็น​คน​ที่​หักหลัง​เรา บุตร​มนุษย์​จะ​ต้อง​ตาย เหมือน​กับ​ที่​พระคัมภีร์​ได้​เขียน​ไว้​แล้ว แต่​คน​ที่​หักหลัง​บุตร​มนุษย์​นี้​น่าละอาย​จริงๆ ถ้า​เขา​ไม่​ได้​เกิด​มา ก็​คง​จะ​ดี​กว่า” พอ​ยูดาส​คน​ที่​จะ​หักหลัง​พระองค์​ถาม​ว่า “คง​ไม่​ใช่​ผม​นะ อาจารย์” พระองค์​จึง​ตอบ​ว่า “คุณ​นั่น​แหละ” ขณะ​ที่​กำลัง​กิน​กัน​อยู่​นั้น พระเยซู​หยิบ​ขนมปัง​มา ขอบคุณ​พระเจ้า จาก​นั้น​หัก​ขนมปัง​ให้​พวก​ศิษย์​และ​พูด​ว่า “รับ​ไป​กิน​สิ นี่​คือ​ร่างกาย​ของ​เรา” แล้ว​พระองค์​หยิบ​ถ้วย​ขึ้น​มา ขอบคุณ​พระเจ้า ส่ง​ไป​ให้​พวก​เขา​และ​พูด​ว่า “ให้​ทุก​คน​ดื่ม​จาก​ถ้วยนี้ เพราะ​นี่​คือ​เลือด​ของ​เรา พระเจ้า​ได้​ทำ​สัญญา​ขึ้น​มา​ด้วย​เลือดนี้ มัน​ได้​หลั่งไหล​ออก​มา​เพื่อ​ยกโทษ​ให้​กับ​ความบาป​ของ​คน​ทั้งหลาย เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า เรา​จะ​ไม่​ดื่ม​เหล้า​องุ่นนี้​อีก จน​กว่า​จะ​ถึง​วัน​นั้น​ที่​เรา​จะ​ได้​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​ใหม่​ด้วย​กัน​กับ​พวก​คุณ​ใน​อาณาจักร​ของ​พระบิดา​เรา” เมื่อ​พวก​เขา​ได้​ร้องเพลง​สรรเสริญ​พระเจ้า​แล้ว ก็​ออก​ไป​ที่​ภูเขา​มะกอกเทศ

มัทธิว 26:1-30 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เมื่อพระเยซูตรัสถ้อยคำเหล่านี้เสร็จแล้ว จึงตรัสกับบรรดาสาวกของพระองค์ว่า “พวกท่านรู้อยู่ว่าอีกสองวันจะถึงเทศกาลปัสกา และบุตรมนุษย์จะถูกมอบตัวให้เอาไปตรึงที่กางเขน” เวลานั้นพวกหัวหน้าปุโรหิตและบรรดาผู้ใหญ่ของประชาชนมาประชุมกันที่สำนักของมหาปุโรหิตที่ชื่อว่าคายาฟาส เขาทั้งหลายปรึกษากันที่จะจับพระเยซูด้วยอุบายและเอาไปฆ่าเสีย แต่เขาพูดกันว่า “อย่าเพิ่งทำในช่วงเทศกาลเลย มิฉะนั้นประชาชนจะเกิดความวุ่นวาย” ในระหว่างที่พระเยซูประทับอยู่ที่หมู่บ้านเบธานีในบ้านของซีโมนคนเคยเป็นโรคเรื้อน มีหญิงคนหนึ่งถือขวดน้ำมันหอมราคาแพงมากมาหาพระองค์ แล้วเทน้ำมันนั้นบนพระเศียรของพระองค์ขณะพระองค์ประทับและเสวยอาหาร เมื่อสาวกทั้งหลายของพระองค์เห็นก็ไม่พอใจ จึงพูดว่า “ทำไมต้องสิ้นเปลืองอย่างนี้? น้ำมันหอมนี้ถ้าขายก็ได้เงินจำนวนมาก แล้วเอาไปแจกคนยากจนได้” พระเยซูทรงทราบจึงตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “กวนใจหญิงคนนี้ทำไม? นางได้ทำความดีต่อเรา เพราะว่าคนยากจนมีอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอแต่เราไม่ได้อยู่กับท่านเสมอไป การที่หญิงนี้เทน้ำมันหอมบนกายเราก็เพื่อเตรียมการฝังศพของเรา เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า สิ่งที่หญิงคนนี้ทำจะถูกกล่าวขวัญถึงทั่วโลกที่มีการประกาศข่าวประเสริฐนี้ เพื่อเป็นการระลึกถึงนาง” เวลานั้นคนหนึ่งในสาวกสิบสองคนชื่อยูดาสอิสคาริโอทไปหาพวกหัวหน้าปุโรหิต บอกว่า “ถ้าข้าพเจ้ามอบตัวเขาให้พวกท่าน ท่านจะให้ข้าพเจ้าเท่าไหร่?” พวกเขาก็ให้เงินยูดาสสามสิบเหรียญ ตั้งแต่นั้นมา ยูดาสคอยหาช่องที่จะทรยศพระองค์ ในวันแรกของเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อบรรดาสาวกมาทูลถามพระเยซูว่า “จะให้พวกข้าพระองค์เตรียมปัสกาให้พระองค์เสวยที่ไหน?” พระองค์ตรัสตอบว่า “จงเข้าไปในเมืองหาคนผู้หนึ่ง แล้วบอกเขาว่า ‘อาจารย์พูดว่า “กำหนดเวลาของเรามาใกล้แล้ว เราจะถือปัสกาที่บ้านของท่านพร้อมกับสาวกทั้งหลายของเรา” ’ ” พวกสาวกจึงทำตามที่พระเยซูตรัสสั่ง และเตรียมปัสกาไว้พร้อม พอถึงเวลาพลบค่ำ พระองค์ประทับและเสวยอาหารกับสาวกสิบสองคน เมื่อรับประทานกันอยู่ พระองค์ตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในท่านจะทรยศเรา” พวกสาวกก็พากันเป็นทุกข์ ต่างคนต่างเริ่มทูลถามพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า คือข้าพระองค์หรือ?” พระองค์ตรัสตอบว่า “คนที่เอามือจิ้มลงในชามเดียวกันกับเรานั่นแหละ คือคนที่จะทรยศเรา บุตรมนุษย์จะต้องไปตามที่เขียนไว้เกี่ยวกับท่าน แต่วิบัติมีแก่คนที่ทรยศบุตรมนุษย์ ถ้าคนนั้นไม่ได้เกิดมาก็จะดีกว่า” ยูดาสคนที่ทรยศพระองค์ทูลว่า “พระอาจารย์ คือข้าพระองค์หรือ?” พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ท่านว่าถูกแล้ว” ระหว่างรับประทานอยู่นั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังขึ้นมา และเมื่อขอพระพรแล้ว ก็ทรงหักส่งให้บรรดาสาวกตรัสว่า “จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของเรา” แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย เมื่อขอบพระคุณแล้ว ก็ทรงส่งให้พวกเขาตรัสว่า “จงรับไปดื่มทุกคนเถิด เพราะว่านี่เป็นโลหิตของเราอันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาที่หลั่งออกเพื่อยกบาปโทษคนจำนวนมาก เราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มจากผลของเถาองุ่นนี้อีกต่อไปจนกว่าจะถึงวันนั้น ที่เราจะดื่มกับพวกท่านอีกในแผ่นดินแห่งพระบิดาของเรา” เมื่อร้องเพลงสรรเสริญแล้ว เขาทั้งหลายก็พากันไปที่ภูเขามะกอกเทศ

มัทธิว 26:1-30 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ต่อมาเมื่อพระเยซูตรัสถ้อยคำเหล่านี้เสร็จแล้ว พระองค์​จึงรับสั่งแก่พวกสาวกของพระองค์​ว่า “ท่านทั้งหลายรู้​อยู่​ว่าอีกสองวันจะถึงเทศกาลปัสกา และบุตรมนุษย์จะต้องถูกทรยศให้​ถู​กตรึงที่​กางเขน​” ครั้งนั้นพวกปุโรหิตใหญ่ พวกธรรมาจารย์ และพวกผู้​ใหญ่​ของประชาชนได้ประชุมกั​นที​่​คฤหาสน์​ของมหาปุโรหิต ผู้​ซึ่งเรียกขานกั​นว​่า คายาฟาส ปรึกษากันเพื่อจะจับพระเยซูด้วยอุบายเอาไปฆ่าเสีย แต่​พวกเขาพูดว่า “ในวันเทศกาลเลี้ยงอย่าพึ่งทำเลย กล​ั​วว​่าประชาชนจะเกิดการวุ่นวาย” ในคราวที่​พระเยซู​ทรงประทั​บอย​ู่​หมู่​บ้านเบธานีในเรือนของซีโมนคนโรคเรื้อน ขณะเมื่อพระองค์ทรงเอนพระกายลงเสวยอยู่ มี​หญิงผู้​หน​ึ่งถือผอบน้ำมันหอมราคาแพงมากมาเฝ้าพระองค์ แล​้วเทน้ำมันนั้นบนพระเศียรของพระองค์ พวกสาวกของพระองค์เมื่อเห็​นก​็​ไม่พอใจ จึงว่า “​เหตุ​ใดจึงทำให้ของนี้​เสียเปล่า ด้วยน้ำมันนี้ถ้าขายก็​ได้​เงินมาก แล​้วจะแจกให้คนจนก็​ได้​” เมื่อพระเยซูทรงทราบจึงตรัสแก่เขาว่า “กวนใจหญิงนี้​ทำไม เธอได้กระทำการดี​แก่​เรา ด้วยว่าคนยากจนมี​อยู่​กั​บท​่านเสมอ แต่​เราไม่​อยู่​กั​บท​่านเสมอไป ซึ่งหญิงนี้​ได้​เทน้ำมันหอมบนกายเรา เธอกระทำเพื่อการศพของเรา เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ที่​ไหนๆทั่วโลกซึ่งข่าวประเสริฐนี้จะประกาศไป การซึ่งหญิงนี้​ได้​กระทำจะเลื่องลือไปเป็​นที​่ระลึกถึงเขาที่นั่นด้วย” ครั้งนั้นคนหนึ่งในพวกสาวกสิบสองคนชื่อ ยู​ดาสอิสคาริโอท ได้​ไปหาพวกปุโรหิตใหญ่ ถามว่า “ถ้าข้าพเจ้าจะมอบพระองค์​ไว้​แก่​ท่าน ท่านทั้งหลายจะให้อะไรข้าพเจ้า” ฝ่ายเขาก็สัญญาจะให้เหรียญเงินแก่​ยู​ดาสสามสิบเหรียญ ตั้งแต่​เวลานั้นมายูดาสก็คอยหาช่องที่จะทรยศพระองค์ ในวันต้นเทศกาลกินขนมปังไร้​เชื้อ พวกสาวกมาทูลถามพระเยซู​ว่า “​พระองค์​ทรงปรารถนาจะให้ข้าพระองค์ทั้งหลายจัดเตรียมปัสกาให้​พระองค์​เสวยที่​ไหน​” พระองค์​จึงตรั​สว​่า “จงเข้าไปหาผู้​หน​ึ่งในกรุงนั้น บอกเขาว่า ‘พระอาจารย์​ว่า เวลาของเรามาใกล้​แล้ว เราจะถือปัสกาที่บ้านของท่านพร้อมกับพวกสาวกของเรา’” ฝ่ายสาวกเหล่านั้​นก​็กระทำตามที่​พระเยซู​ทรงรับสั่ง แล​้วได้จัดเตรียมปัสกาไว้​พร้อม ครั้นถึงเวลาพลบค่ำ พระองค์​เอนพระกายลงร่วมสำรั​บก​ับสาวกสิบสองคน เมื่อรับประทานกันอยู่​พระองค์​จึงตรั​สว​่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในพวกท่านจะทรยศเรา” ฝ่ายพวกสาวกก็พากันเป็นทุกข์​นัก ต่างคนต่างเริ่​มท​ูลถามพระองค์​ว่า “​พระองค์​เจ้าข้า คือข้าพระองค์​หรือ​” พระองค์​ตรัสตอบว่า “​ผู้​ที่​เอาอาหารจิ้มในชามเดียวกั​นก​ับเรา ผู้​นั้นแหละที่จะทรยศเรา บุ​ตรมนุษย์จะเสด็จไปตามที่​ได้​เข​ียนไว้ว่าด้วยพระองค์​นั้น แต่​วิบัติ​แก่​ผู้​ที่​ทรยศบุตรมนุษย์ ถ้าคนนั้​นม​ิ​ได้​บังเกิดมาก็จะเป็นการดีต่อคนนั้นเอง” ยู​ดาสที่​ได้​ทรยศพระองค์ทูลถามว่า “​อาจารย์​เจ้าข้า คือข้าพระองค์​หรือ​” พระองค์​ตรัสตอบเขาว่า “ท่านพูดเองแล้​วน​ี่” ระหว่างอาหารมื้อนั้น พระเยซู​ทรงหยิบขนมปังมา และเมื่อขอบพระคุณแล้ว ทรงหักส่งให้​แก่​เหล่​าสาวกตรั​สว​่า “จงรั​บก​ินเถิด นี่​เป็นกายของเรา” แล​้วพระองค์จึงทรงหยิบถ้วยมาขอบพระคุณและส่งให้​เขา ตรั​สว​่า “จงรับไปดื่​มท​ุกคนเถิด ด้วยว่านี่เป็นโลหิตของเราอันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาใหม่ ซึ่งต้องหลั่งออกเพื่อยกบาปโทษคนเป็​นอ​ันมาก เราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่​มน​้ำผลแห่งเถาองุ่นต่อไปอีกจนวันนั้นมาถึง คือวั​นที​่เราจะดื่มกันใหม่กับพวกท่านในอาณาจักรแห่งพระบิดาของเรา” เมื่อพวกเขาร้องเพลงสรรเสริญแล้ว เขาก็พากันออกไปยังภูเขามะกอกเทศ

มัทธิว 26:1-30 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เมื่อพระเยซูตรัสถ้อยคำเหล่านี้เสร็จแล้ว จึงรับสั่งแก่พวกสาวกของพระองค์ว่า <<ท่านทั้งหลายรู้อยู่ว่าอีกสองวันจะถึงเทศกาลปัสกา และบุตรมนุษย์จะต้องถูกอายัดไว้ให้เขาตรึงที่กางเขน>> ครั้งนั้นพวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ของประชาชน ได้ประชุมกันที่สำนักของมหาปุโรหิตประจำการชื่อคายาฟาส ปรึกษากันเพื่อจะจับพระเยซูด้วยอุบายเอาไปฆ่าเสีย แต่เขาตกลงกันว่า <<ในช่วงเทศกาลอย่าเพิ่งทำเลย เดี๋ยวประชาชนจะเกิดวุ่นวาย>> ในเวลาที่พระเยซูทรงประทับอยู่หมู่บ้านเบธานี ในเรือนของซีโมนคนโรคเรื้อน ขณะเมื่อทรงนั่งเสวยพระกระยาหารอยู่ มีหญิงผู้หนึ่งถือผอบน้ำมันหอมราคาแพงมากมาเฝ้าพระองค์ แล้วเทน้ำมันนั้นบนพระเศียรของพระองค์ พวกสาวกของพระองค์เมื่อเห็นก็ไม่พอใจ จึงว่า <<เหตุใดจึงทำให้ของนี้เสียเปล่า น้ำมันนั้นถ้าขายก็ได้เงินมาก แล้วจะแจกให้คนจนก็ได้>> พระเยซูทรงทราบจึงตรัสแก่เขาว่า <<กวนใจหญิงนี้ทำไม เขาได้กระทำการดีแก่เรา ด้วยว่าคนยากจนมีอยู่กับท่านเสมอแต่เราไม่อยู่กับท่านเสมอไป ซึ่งหญิงนี้ได้เทน้ำมันหอมบนกายเรา เขากระทำเพื่อการศพของเรา เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า การซึ่งหญิงนี้ได้กระทำจะเลื่องลือไปเป็นที่ระลึกถึงเขาที่ไหนๆที่ข่าวประเสริฐนี้จะประกาศไปทั่วพิภพ>> ครั้งนั้นคนหนึ่งในพวกสาวกสิบสองคนชื่อยูดาสอิสคาริโอท ได้ไปหาพวกมหาปุโรหิต ถามว่า <<ถ้าข้าพเจ้าจะชี้พระองค์ให้ท่านจับ ท่านทั้งหลายจะให้ข้าพเจ้าเท่าไร>> ฝ่ายเขาก็ให้เงินแก่ยูดาสสามสิบเหรียญเงิน ตั้งแต่นั้นมา ยูดาสคอยหาช่องที่จะชี้พระองค์ให้แก่เขา เมื่อวันต้นเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ พวกสาวกมาทูลถามพระองค์ว่า <<จะให้ข้าพระองค์จัดเตรียมปัสกาให้พระองค์เสวยที่ไหน>> พระองค์จึงตรัสตอบว่า <<จงเข้าไปหาผู้หนึ่งในกรุง บอกเขาว่า <พระอาจารย์ว่า <<กาลกำหนดของเรามาใกล้แล้ว เราจะถือปัสกาที่บ้านของท่านพร้อมกับพวกสาวกของเรา>> > >> ฝ่ายสาวกเหล่านั้นก็กระทำตามรับสั่ง แล้วได้จัดเตรียมปัสกาไว้พร้อม ครั้นถึงเวลาพลบค่ำ พระองค์ประทับร่วมสำรับกับสาวกสิบสองคน เมื่อรับประทานกันอยู่ จึงตรัสว่า <<เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในพวกท่านจะอายัดเรา>> ฝ่ายพวกสาวกก็พากันเป็นทุกข์นัก ต่างคนต่างทูลถามพระองค์ว่า <<พระองค์เจ้าข้า คือข้าพระองค์หรือ>> พระองค์ตรัสตอบว่า <<ผู้ที่เอาอาหารจิ้มในชามเดียวกันกับเรา ผู้นั้นแหละ ที่จะอายัดเราไว้ บุตรมนุษย์จะเสด็จไปตามที่ได้กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ ว่าด้วยพระองค์นั้น แต่วิบัติแก่ผู้ที่จะอายัดบุตรมนุษย์ไว้ ถ้าคนนั้นมิได้บังเกิดมา ก็จะดีกว่า>> ยูดาสที่ได้อายัดพระองค์ทูลถามว่า <<อาจารย์เจ้าข้า คือข้าพระองค์หรือ>> พระองค์ตรัสตอบเขาว่า<<ท่านว่าถูกแล้ว>> ระหว่างอาหารมื้อนั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังมา และเมื่อถวายสาธุการแล้ว ทรงหักส่งให้แก่เหล่าสาวกตรัสว่า <<จงรับกินเถิด นี่เป็นกายของเรา>> แล้วพระองค์จึงทรงหยิบถ้วยโมทนาพระคุณและส่งให้เขา ตรัสว่า <<จงรับไปดื่มทุกคนเถิด ด้วยว่านี่เป็นโลหิตของเรา อันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญา ซึ่งต้องหลั่งออกเพื่อยกบาปโทษคนเป็นอันมาก เราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มน้ำผลแห่งเถาองุ่นต่อไปอีกจนวันนั้นมาถึง คือวันที่เราจะดื่มกันใหม่กับพวกท่านในแผ่นดินแห่งพระบิดาของเรา>> เมื่อร้องเพลงสรรเสริญแล้ว เขาก็พากันออกไปยังภูเขามะกอกเทศ

มัทธิว 26:1-30 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

เมื่อจบคำอุปมาทั้งปวงนี้แล้ว พระเยซูก็ตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “พวกท่านก็รู้ว่าอีกสองวันจะถึงเทศกาลปัสกาและบุตรมนุษย์จะถูกมอบให้เขาตรึงตายที่ไม้กางเขน” ครั้งนั้นพวกหัวหน้าปุโรหิตและเหล่าผู้อาวุโสในหมู่ประชาชนมาประชุมกันที่คฤหาสน์ของมหาปุโรหิตชื่อคายาฟาส และพวกเขาคบคิดกันหาอุบายที่จะจับพระเยซูมาฆ่าเสีย เขาพูดกันว่า “แต่อย่าลงมือในช่วงเทศกาลเลย มิฉะนั้นจะเกิดจลาจลในหมู่ประชาชน” ที่หมู่บ้านเบธานี ขณะพระเยซูประทับอยู่ในบ้านของซีโมนคนโรคเรื้อน หญิงคนหนึ่งถือผอบน้ำมันหอมราคาแพงมากเข้ามารินรดพระเศียรขณะที่พระองค์ทรงนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่โต๊ะอาหาร เมื่อเหล่าสาวกเห็นดังนั้นก็ไม่พอใจจึงกล่าวว่า “ทำไมทำให้เสียของเปล่าๆ? น้ำมันหอมนี้ถ้าขายจะได้ราคาดี เอาเงินให้คนยากจนได้” พระเยซูทรงทราบจึงตรัสกับพวกเขาว่า “ไปกวนใจหญิงนี้ทำไม? นางได้ทำสิ่งดีงามให้แก่เรา ท่านจะมีคนยากจนอยู่กับท่านเสมอ แต่เราจะไม่ได้อยู่กับท่านเสมอไป ที่นางรินน้ำหอมนี้บนกายเราก็เพื่อเตรียมตัวเราสำหรับการฝังศพ เราบอกความจริงแก่ท่านว่าไม่ว่าข่าวประเสริฐจะเผยแผ่ไปที่ใดๆ ทั่วโลก เขาจะเล่าขานถึงสิ่งที่หญิงนี้ได้ทำเพื่อเป็นการระลึกถึงนาง” แล้วยูดาสอิสคาริโอท หนึ่งในสาวกสิบสองคน ไปพบพวกหัวหน้าปุโรหิต ถามว่า “พวกท่านจะให้อะไรแก่ข้าพเจ้าถ้าข้าพเจ้ามอบพระองค์ให้แก่ท่าน?” พวกเขาจึงนับเหรียญเงินสามสิบเหรียญส่งให้ยูดาส นับตั้งแต่นั้นยูดาสก็จ้องหาโอกาสที่จะมอบพระเยซูให้แก่คนเหล่านั้น วันแรกของเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อเหล่าสาวกมาทูลถามพระเยซูว่า “พระองค์ทรงประสงค์จะให้เราจัดเตรียมปัสกาให้พระองค์เสวยที่ไหน?” พระองค์ตรัสว่า “จงเข้าไปหาคนหนึ่งในเมือง บอกเขาว่า ‘พระอาจารย์ตรัสดังนี้ว่าใกล้จะถึงกำหนดเวลาของเราแล้ว เราจะฉลองปัสการ่วมกับเหล่าสาวกของเราที่บ้านของท่าน’ ” ดังนั้นเหล่าสาวกจึงไปทำตามที่พระเยซูทรงบัญชาและจัดเตรียมปัสกา พอพลบค่ำพระเยซูทรงนั่งรับประทานอาหารที่โต๊ะอาหารร่วมกับสาวกสิบสองคน ระหว่างรับประทานอาหารกันอยู่นั้นพระองค์ตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าคนหนึ่งในพวกท่านจะทรยศเรา” เหล่าสาวกเสียใจมากต่างทูลพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า ไม่ใช่ข้าพระองค์แน่ใช่ไหม?” พระเยซูตรัสตอบว่า “ผู้ที่หยิบอาหารจุ่มในชามเดียวกับเราคือผู้ที่จะทรยศเรา บุตรมนุษย์จะไปตามที่เขียนไว้ แต่วิบัติแก่ผู้นั้นที่ทรยศบุตรมนุษย์! ถ้าเขาไม่ได้เกิดมาเลยยังจะดีกับตัวเขามากกว่า” แล้วยูดาสผู้ที่จะทรยศต่อพระองค์ทูลว่า “รับบี ไม่ใช่ข้าพระองค์แน่ใช่ไหม?” พระเยซูตรัสตอบว่า “คือท่านเอง” ขณะรับประทานอาหารพระเยซูทรงหยิบขนมปัง ทรงขอบพระคุณพระเจ้า แล้วหักส่งให้เหล่าสาวกและตรัสว่า “จงรับไปรับประทานเถิด นี่เป็นกายของเรา” แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย ทรงขอบพระคุณพระเจ้า แล้วยื่นให้กับพวกเขาและตรัสว่า “ท่านทุกคนจงรับไปดื่มเถิด นี่คือโลหิตของเราอันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาซึ่งหลั่งรินเพื่ออภัยโทษบาปแก่คนเป็นอันมาก เราบอกท่านว่าเราจะไม่ดื่มน้ำจากผลองุ่นนี้อีกตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะถึงวันนั้นที่เราดื่มร่วมกับท่านใหม่ในอาณาจักรของพระบิดาของเรา” เมื่อร้องเพลงสรรเสริญแล้วพวกเขาก็ออกไปยังภูเขามะกอกเทศ

มัทธิว 26:1-30 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

เมื่อ​พระ​เยซู​กล่าว​ถึง​สิ่ง​เหล่า​นั้น​จบ​แล้ว ก็​กล่าว​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​องค์​ว่า “พวก​เจ้า​รู้​แล้ว​ว่า​อีก 2 วัน​ก็​จะ​ถึง​เทศกาล​ปัสกา บุตรมนุษย์​จะ​ถูก​มอบตัว​ไป​ตรึง​บน​ไม้​กางเขน” พวก​มหา​ปุโรหิต​และ​พวก​ผู้ใหญ่​ของ​ประชาชน​เข้า​ร่วม​ประชุม​กัน​ใน​วัง​ของ​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต​ชื่อ​คายาฟาส เขา​เหล่า​นั้น​วางแผน​กัน​เพื่อ​จับกุม​และ​ฆ่า​พระ​เยซู​อย่าง​ลับๆ พวก​เขา​พูด​ว่า “ต้อง​ไม่​ทำ​ใน​ระหว่าง​เทศกาล มิ​ฉะนั้น​จะ​เกิด​การ​จลาจล​ใน​หมู่​ผู้​คน” ขณะ​ที่​พระ​เยซู​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​ซีโมน​ชาย​โรค​เรื้อน​ใน​หมู่บ้าน​เบธานี มี​หญิง​คน​หนึ่ง​เอา​ผอบ​หิน​ซึ่ง​บรรจุ​ด้วย​น้ำมัน​หอม​ราคา​แพง​มาก​มา​หา​พระ​องค์ และ​ชโลม​บน​ศีรษะ​ของ​พระ​องค์​ขณะ​ที่​พระ​องค์​เอน​กาย​ลง​รับประทาน แต่​พวก​สาวก​เห็น​เข้า​ก็​โกรธ​และ​พูด​ว่า “ทำไม​จึง​ทำ​ให้​เสีย​ของ​เปล่าๆ เช่นนี้ เพราะ​ว่า​น้ำหอม​นี้​อาจ​จะ​ขาย​ได้​ราคา​สูง และ​เอา​เงิน​ไป​แจก​แก่​ผู้​ยากไร้​ได้” พระ​เยซู​ตระหนัก​ดี​ถึง​สิ่ง​นั้น จึง​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “ทำไม​เจ้า​จึง​ยุ่ง​กับ​หญิง​คนนี้ นาง​ได้​ทำ​สิ่ง​ดี​ให้​เรา พวก​เจ้า​มี​ผู้​ยากไร้​อยู่​ด้วย​เสมอ แต่​เรา​จะ​ไม่​ได้​อยู่​กับ​พวก​เจ้า​ตลอด​ไป การ​ที่​นาง​เท​น้ำมัน​หอม​บน​กาย​ของ​เรา เท่า​กับ​นาง​ได้​เตรียม​พิธี​ฝัง​ศพ​ของ​เรา เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​เจ้า​ว่า ไม่​ว่า​ข่าว​ประเสริฐ​นี้​จะ​ถูก​ประกาศ​ไป​ที่​ใด​ใน​โลก​ก็​ตาม สิ่ง​ที่​นาง​ได้​ทำ​จะ​เป็น​ที่​กล่าว​ขวัญ​ถึง เพื่อ​เป็น​การ​ระลึก​ถึง​นาง” คนหนึ่ง​ใน​สาวก​ทั้ง​สิบ​สอง​ชื่อ​ยูดาส​อิสคาริโอท​ไป​หา​พวก​มหา​ปุโรหิต และ​พูด​ว่า “ถ้า​ข้าพเจ้า​มอบ​พระ​องค์​ให้​ท่าน​จับกุม​ตัว ท่าน​จะ​ให้​อะไร​แก่​ข้าพเจ้า” แล้ว​พวก​เขา​ก็​นับ​เหรียญ​เงิน​ให้ 30 เหรียญ หลัง​จาก​นั้น เขา​ก็​รอ​โอกาส​ที่​จะ​ทรยศ​พระ​องค์ ใน​วัน​แรก​ของ​เทศกาล​ขนมปัง​ไร้​เชื้อ พวก​สาวก​มาหา​พระ​เยซู​แล้ว​พูด​ว่า “พระ​องค์​ประสงค์​จะ​ให้​พวก​เรา​เตรียม​อาหาร​วัน​ปัสกา​เพื่อ​พระ​องค์​รับประทาน​ที่ไหน” พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “จง​เข้า​ไป​ใน​เมือง ไป​หา​ชาย​คนหนึ่ง​และ​พูด​กับ​เขา​ว่า ‘อาจารย์​กล่าว​ว่า “ถึง​กำหนด​เวลา​ของ​เรา​แล้ว เรา​ต้อง​ฉลอง​ปัสกา​กับ​สาวก​ของ​เรา​ที่​บ้าน​ของ​ท่าน”’” เหล่า​สาวก​กระทำ​ตามที่​พระ​เยซู​ได้​สั่ง​พวก​เขา​ไว้ แล้ว​ก็​เตรียม​อาหาร​วัน​ปัสกา​กัน ครั้น​เย็นลง พระ​องค์​เอน​กาย​ลง​รับประทาน​กับ​เหล่า​สาวก​ทั้ง​สิบ​สอง ขณะ​ที่​พวก​เขา​กำลัง​รับประทาน​อยู่ พระ​องค์​กล่าว​ว่า “เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​เจ้า​ว่า คน​หนึ่ง​ใน​พวก​เจ้า​จะ​ทรยศ​เรา” เหล่า​สาวก​เศร้า​ใจ​ยิ่งนัก ต่าง​ก็​พูด​ว่า “พระ​องค์​ท่าน เป็น​ข้าพเจ้า​หรือ​เปล่า” พระ​องค์​กล่าว​ตอบ​ว่า “คน​ที่​ใช้​มือ​จิ้ม​ร่วม​กับ​เรา​ใน​ถ้วย​นี้​เป็น​คน​ที่​จะ​ทรยศ​เรา บุตรมนุษย์​ต้อง​ไป ตาม​ที่​มี​บันทึก​ไว้​เกี่ยว​กับ​ท่าน แต่​วิบัติ​จะ​เกิด​กับ​คน​ที่​ทรยศ​บุตรมนุษย์ ถ้า​คน​นั้น​ไม่​ได้​มา​เกิด​ก็​จะ​ดี​กว่า” ยูดาส​คน​ที่​กำลัง​ทรยศ​พระ​องค์​ถาม​ว่า “รับบี เป็น​ข้าพเจ้า​หรือ​เปล่า” พระ​องค์​กล่าว​ว่า “เจ้า​ได้​พูด​ขึ้น​เอง” ขณะ​ที่​เขา​เหล่า​นั้น​กำลัง​รับประทาน​กัน​อยู่ พระ​เยซู​หยิบ​ขนมปัง​และ​กล่าว​ขอบคุณ​พระ​เจ้า แล้ว​ก็​บิ​เป็น​ชิ้น ยื่น​ให้​แก่​เหล่า​สาวก พลาง​กล่าว​ว่า “เอาไป​รับประทาน​เถิด นี่​เป็น​กาย​ของ​เรา” เมื่อ​พระ​องค์​หยิบ​ถ้วย​และ​กล่าว​ขอบคุณ​พระ​เจ้า​แล้ว พระ​องค์​จึง​ยื่น​ให้​แก่​พวก​เขา​และ​กล่าว​ว่า “ทุก​คน​จง​ดื่ม​จาก​ถ้วย​นี้ เพราะ​นี่​เป็น​โลหิต​แห่ง​พันธ​สัญญา​ของ​เรา​ซึ่ง​หลั่ง​ออก​ให้​แก่​คน​จำนวน​มาก เพื่อ​เป็น​การ​ยกโทษ​บาป เรา​ขอบอก​เจ้า​ว่า เรา​จะ​ไม่​ดื่ม​น้ำ​จาก​ผล​ของ​เถา​องุ่น​อีก จน​จะ​ถึง​วัน​นั้น คือ​วัน​ที่​เรา​จะ​ดื่ม​กัน​ใหม่​กับ​พวก​เจ้า​ใน​อาณาจักร​ของ​พระ​บิดา​ของ​เรา” หลัง​จาก​ที่​ได้​ร้อง​เพลง​สรรเสริญ​กัน​แล้ว​ก็​พา​กัน​ออก​ไป​ยัง​ภูเขา​มะกอก