มัทธิว 21:27-46

มัทธิว 21:27-46 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เขาทั้งหลายจึงทูลตอบพระเยซูว่า “เราไม่รู้” พระองค์จึงตรัสว่า “เราก็จะไม่บอกพวกท่านเหมือนกันว่า เรามีสิทธิอำนาจอะไรถึงได้ทำสิ่งเหล่านี้” “ท่านทั้งหลายคิดอย่างไร? ชายคนหนึ่งมีบุตรชายสองคน บิดาไปหาบุตรคนแรกบอกว่า ‘ลูกเอ๋ย วันนี้จงไปทำงานในสวนองุ่นเถิด’ บุตรคนนั้นตอบว่า ‘ไม่ไป’ แต่ภายหลังกลับใจแล้วก็ไป บิดาไปหาบุตรคนที่สองพูดอย่างเดียวกัน บุตรคนนั้นกล่าวว่า ‘ไป’ แต่ไม่ได้ไป คนไหนในบุตรสองคนนี้ที่ทำตามใจของบิดา?” พวกเขาทูลตอบว่า “บุตรคนแรก” พระเยซูตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า บรรดาคนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีจะได้เข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก่อนพวกท่าน เพราะยอห์นมาหาพวกท่านและแสดงวิถีทางของความชอบธรรม และท่านไม่ได้เชื่อ แต่พวกคนเก็บภาษีและพวกหญิงโสเภณีเชื่อ และแม้เมื่อท่านทั้งหลายเห็นแล้วก็ยังไม่กลับใจและเชื่อยอห์น “จงฟังอุปมาอีกเรื่องหนึ่ง มีเจ้าของที่ดินคนหนึ่งทำสวนองุ่นไว้ เขาทำรั้วล้อมรอบ ขุดบ่อย่ำองุ่นในสวนนั้น และสร้างหอเฝ้า ให้พวกชาวสวนเช่า แล้วก็ไปต่างประเทศ เมื่อถึงฤดูเก็บพืชผล จึงใช้บรรดาทาสไปหาพวกคนเช่าสวน เพื่อจะรับพืชผลของเขา แต่คนเช่าสวนเหล่านั้นจับคนของเขาไปเฆี่ยนตีคนหนึ่ง ฆ่าเสียคนหนึ่ง เอาหินขว้างจนตายคนหนึ่ง เขาก็ใช้พวกทาสอื่นๆ ซึ่งมากกว่าครั้งก่อนไปอีก แต่พวกคนเช่าสวนก็ทำกับพวกเขาเช่นเดิม ภายหลังเขาก็ใช้บุตรของเขาไปหา กล่าวว่า ‘พวกเขาจะเคารพลูกของเรา’ แต่เมื่อพวกคนเช่าสวนเห็นบุตรเจ้าของสวนมาก็พูดกันว่า ‘คนนี้แหละเป็นทายาท ฆ่าเขาเสีย แล้วเราก็จะได้มรดกของเขา’ พวกเขาจึงพากันจับบุตรนั้นผลักออกไปนอกสวนแล้วฆ่า เพราะฉะนั้นเมื่อเจ้าของสวนมา ท่านจะทำอย่างไรกับพวกคนเช่าสวนนั้น?” พวกเขาทูลตอบว่า “ท่านจะฆ่าคนร้ายเหล่านั้นให้ตายอย่างทุกข์ทรมาน และจะให้สวนนั้นแก่คนเช่าอื่นที่จะแบ่งพืชผลให้ตามฤดูกาล” พระเยซูตรัสว่า “ท่านทั้งหลายยังไม่ได้อ่านในพระคัมภีร์หรือ ที่ว่า ‘ศิลาที่บรรดาช่างก่อสร้างทิ้งแล้ว กลับกลายเป็นศิลามุมเอก สิ่งนี้เป็นมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นสิ่งอัศจรรย์ประจักษ์แก่ตาของเรา’ เพราะเหตุนี้เราบอกพวกท่านว่า แผ่นดินของพระเจ้าจะต้องเอาไปจากท่าน ยกให้กับชนชาติหนึ่งที่จะทำให้เกิดผลสมกับแผ่นดินนั้น [ ใครล้มทับศิลานี้ คนนั้นจะต้องแตกหักไป และศิลานั้นจะตกทับใคร คนนั้นจะแหลกละเอียดไป]” เมื่อพวกหัวหน้าปุโรหิตกับพวกฟาริสีได้ยินอุปมาเหล่านั้น ก็หยั่งรู้ว่าพระองค์ตรัสเล็งถึงพวกเขา เขาอยากจะจับพระองค์ แต่กลัวฝูงชน เพราะเขาทั้งหลายถือว่าพระองค์เป็นผู้เผยพระวจนะ

มัทธิว 21:27-46 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พวก​เขา​จึง​ตอบ​พระเยซู​ว่า “ไม่​รู้​สิ” พระเยซู​ก็​เลย​บอก​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น เรา​ก็​จะ​ไม่​บอก​เหมือน​กัน ว่า​เรา​ใช้​สิทธิ์​ของ​ใคร​ใน​การ​ทำ​สิ่ง​เหล่านี้” “บอก​หน่อย​ว่า คุณ​คิด​อย่าง​ไร​เกี่ยวกับ​เรื่องนี้ ชาย​คน​หนึ่ง​มี​ลูก​สอง​คน เขา​บอก​ลูกชาย​คน​โต​ว่า ‘ลูก​พ่อ วันนี้​ไป​ทำงาน​ใน​ไร่​องุ่น​ของ​พ่อ​นะ’ เขา​ตอบ​ว่า ‘ไม่​ได้​ครับ’ แต่​ต่อมา​เขา​เปลี่ยน​ใจ แล้ว​ไป​ทำงาน​ใน​ไร่​องุ่น จาก​นั้น​พ่อ​ไป​บอก​ลูกชาย​อีก​คน​ว่า ‘ลูก​พ่อ วันนี้​ไป​ทำงาน​ใน​ไร่​องุ่น​ของ​พ่อ​นะ’ เขา​ตอบ​ว่า ‘ครับ​พ่อ ผม​จะ​ไป’ แต่​เขา​ก็​ไม่​ได้​ไป” “ลูก​สอง​คนนี้ คน​ไหน​ที่​เชื่อฟัง​พ่อ​ของ​เขา” พวก​หัวหน้า​ชาว​ยิว​ตอบ​ว่า “ลูก​คน​แรก” พระเยซู​จึง​บอก​พวก​เขา​ว่า “เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า คน​เก็บ​ภาษี​และ​โสเภณี​กำลัง​เข้า​ไป​ใน​อาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ก่อน​พวก​คุณ​เสีย​อีก ยอห์น​ได้​มา​ชี้​ให้​เห็น​ว่า จะ​ใช้​ชีวิต​ที่​ถูกต้อง​กับ​พระเจ้า​ได้​อย่างไร พวก​คุณ​ก็​ไม่​ยอม​เชื่อ​เขา แต่​คน​เก็บ​ภาษี​และ​โสเภณี​กลับ​เชื่อ​ยอห์น ถึง​แม้​คุณ​เห็น​พวก​เขา​ทำ​อย่าง​นี้​แล้ว แต่​ก็​ยัง​ไม่​ยอม​กลับตัว​กลับใจ​มา​เชื่อ​ยอห์น​เลย ฟัง​เรื่อง​เปรียบเทียบ​นี้​ให้​ดี เจ้าของ​ที่​แปลง​หนึ่ง​ได้​ทำ​สวนองุ่น​ไว้ ล้อม​รั้ว​ไว้​รอบ ขุด​บ่อย่ำ​องุ่น และ​สร้าง​หอคอย แล้ว​ให้​ชาว​สวน​มา​เช่า​สวนองุ่น​นั้น ส่วน​ตัว​เขา​เดิน​ทาง​ไป​ต่าง​ประเทศ เมื่อ​ถึง​ฤดู​เก็บ​องุ่น เจ้าของ​สวน​ส่ง​พวก​ทาส​ของ​เขา​มา​รับ​ส่วน​แบ่ง​องุ่น​จาก​พวก​คน​เช่า แต่​พวก​คน​เช่า​จับ​ทาส​ของ​เขา​ไว้ ทุบตี​คน​หนึ่ง ฆ่า​อีก​คน​หนึ่ง แล้ว​เอา​หิน​ขว้าง​อีก​คน​หนึ่ง เจ้าของ​สวน​จึง​ส่ง​พวก​ทาส​มา​มาก​กว่า​ครั้ง​แรก แต่​ก็​ถูก​พวก​คน​เช่า​สวน ทำ​เหมือน​เดิม สุดท้าย เจ้าของ​สวน​จึง​ส่ง​ลูกชาย​ของ​เขา​มา​เอง เขา​ว่า ‘พวก​นั้น​จะ​ต้อง​เคารพ​ยำเกรง​ลูกชาย​ของ​เรา​แน่ๆ’ แต่​เมื่อ​พวก​คน​เช่า​เห็น​ลูกชาย​ของ​เขา​มา ก็​พูด​กัน​ว่า ‘นี่​ไง ผู้​รับ​มรดก เร็วเข้า​พวก​เรา ฆ่า​มัน​ซะ สวนนี้​จะ​ได้​ตก​เป็น​ของ​พวก​เรา’ พวก​คน​เช่า​สวน​จึง​จับ​ตัว​ลูกชาย​เจ้าของ​สวน​โยน​ออก​ไป​นอก​สวน​แล้ว​ฆ่า​เขา เมื่อ​เจ้าของ​สวน​มา เขา​จะ​ทำ​อย่างไร​กับ​คน​เช่า​พวกนี้” พวก​หัวหน้า​นักบวช​และพวก​ผู้นำ​อาวุโส​ตอบ​ว่า “เขา​จะ​ต้อง​ฆ่า​คน​ชั่ว​พวก​นั้น​อย่าง​โหดเหี้ยม และ​ให้​ชาว​สวน​คนอื่น​ที่​ยอม​แบ่ง​องุ่น​ให้​กับ​เขา​เมื่อ​ถึง​ฤดู​เก็บเกี่ยว​มา​เช่า​ต่อ” พระเยซู​บอก​พวก​เขา​ว่า “พวก​คุณ​ไม่​เคย​อ่าน​พระคัมภีร์​ข้อนี้​หรือ​ที่​ว่า ‘หิน​ก้อนนี้​ที่​ช่าง​ก่อ​สร้าง​ทิ้ง​แล้ว กลับ​กลาย​มา​เป็น​หิน​ก้อน​ที่​สำคัญ​ที่สุด องค์​เจ้า​ชีวิต​ทำ​ให้​เป็น​อย่าง​นั้น สำหรับ​เรา​แล้ว​นี่​เป็น​เรื่อง​ที่​เหลือ​เชื่อ​จริงๆ’ เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า อาณาจักร​ของ​พระเจ้า​จะ​ถูก​ริบ​เอา​ไป​จาก​คุณ และ​ยก​ไป​ให้​กับ​คน​ที่​ทำ​ตาม​ความ​ต้องการ​ของ​พระเจ้า คน​ที่​ล้มทับ​หินนี้ ร่างกาย​ก็​จะ​หัก​เป็น​ชิ้นๆ แต่​ถ้า​ถูก​หินนี้​ล้มทับ คน​นั้น​ก็​จะ​แหลก​ละเอียด” เมื่อ​พวก​หัวหน้า​นักบวช​และ​พวก​ฟาริสี​ได้ยิน​เรื่อง​เปรียบเทียบ​นี้ ก็​รู้​ทันที​ว่า​พระองค์​กำลัง​ว่า​พวก​เขา​เป็น​คน​เช่า​ชั่วร้าย​พวก​นั้น พวก​เขา​จึง​หา​ทาง​ที่​จะ​จับ​พระเยซู แต่​ก็​กลัว​ฝูงชน เพราะ​พวก​นี้​เชื่อ​ว่า​พระองค์​เป็น​ผู้พูดแทนพระเจ้า

มัทธิว 21:27-46 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เขาทั้งหลายจึงทูลตอบพระเยซูว่า “เราไม่รู้” พระองค์จึงตรัสว่า “เราก็จะไม่บอกพวกท่านเหมือนกันว่า เรามีสิทธิอำนาจอะไรถึงได้ทำสิ่งเหล่านี้” “ท่านทั้งหลายคิดอย่างไร? ชายคนหนึ่งมีบุตรชายสองคน บิดาไปหาบุตรคนแรกบอกว่า ‘ลูกเอ๋ย วันนี้จงไปทำงานในสวนองุ่นเถิด’ บุตรคนนั้นตอบว่า ‘ไม่ไป’ แต่ภายหลังกลับใจแล้วก็ไป บิดาไปหาบุตรคนที่สองพูดอย่างเดียวกัน บุตรคนนั้นกล่าวว่า ‘ไป’ แต่ไม่ได้ไป คนไหนในบุตรสองคนนี้ที่ทำตามใจของบิดา?” พวกเขาทูลตอบว่า “บุตรคนแรก” พระเยซูตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า บรรดาคนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีจะได้เข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก่อนพวกท่าน เพราะยอห์นมาหาพวกท่านและแสดงวิถีทางของความชอบธรรม และท่านไม่ได้เชื่อ แต่พวกคนเก็บภาษีและพวกหญิงโสเภณีเชื่อ และแม้เมื่อท่านทั้งหลายเห็นแล้วก็ยังไม่กลับใจและเชื่อยอห์น “จงฟังอุปมาอีกเรื่องหนึ่ง มีเจ้าของที่ดินคนหนึ่งทำสวนองุ่นไว้ เขาทำรั้วล้อมรอบ ขุดบ่อย่ำองุ่นในสวนนั้น และสร้างหอเฝ้า ให้พวกชาวสวนเช่า แล้วก็ไปต่างประเทศ เมื่อถึงฤดูเก็บพืชผล จึงใช้บรรดาทาสไปหาพวกคนเช่าสวน เพื่อจะรับพืชผลของเขา แต่คนเช่าสวนเหล่านั้นจับคนของเขาไปเฆี่ยนตีคนหนึ่ง ฆ่าเสียคนหนึ่ง เอาหินขว้างจนตายคนหนึ่ง เขาก็ใช้พวกทาสอื่นๆ ซึ่งมากกว่าครั้งก่อนไปอีก แต่พวกคนเช่าสวนก็ทำกับพวกเขาเช่นเดิม ภายหลังเขาก็ใช้บุตรของเขาไปหา กล่าวว่า ‘พวกเขาจะเคารพลูกของเรา’ แต่เมื่อพวกคนเช่าสวนเห็นบุตรเจ้าของสวนมาก็พูดกันว่า ‘คนนี้แหละเป็นทายาท ฆ่าเขาเสีย แล้วเราก็จะได้มรดกของเขา’ พวกเขาจึงพากันจับบุตรนั้นผลักออกไปนอกสวนแล้วฆ่า เพราะฉะนั้นเมื่อเจ้าของสวนมา ท่านจะทำอย่างไรกับพวกคนเช่าสวนนั้น?” พวกเขาทูลตอบว่า “ท่านจะฆ่าคนร้ายเหล่านั้นให้ตายอย่างทุกข์ทรมาน และจะให้สวนนั้นแก่คนเช่าอื่นที่จะแบ่งพืชผลให้ตามฤดูกาล” พระเยซูตรัสว่า “ท่านทั้งหลายยังไม่ได้อ่านในพระคัมภีร์หรือ ที่ว่า ‘ศิลาที่บรรดาช่างก่อสร้างทิ้งแล้ว กลับกลายเป็นศิลามุมเอก สิ่งนี้เป็นมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นสิ่งอัศจรรย์ประจักษ์แก่ตาของเรา’ เพราะเหตุนี้เราบอกพวกท่านว่า แผ่นดินของพระเจ้าจะต้องเอาไปจากท่าน ยกให้กับชนชาติหนึ่งที่จะทำให้เกิดผลสมกับแผ่นดินนั้น [ ใครล้มทับศิลานี้ คนนั้นจะต้องแตกหักไป และศิลานั้นจะตกทับใคร คนนั้นจะแหลกละเอียดไป]” เมื่อพวกหัวหน้าปุโรหิตกับพวกฟาริสีได้ยินอุปมาเหล่านั้น ก็หยั่งรู้ว่าพระองค์ตรัสเล็งถึงพวกเขา เขาอยากจะจับพระองค์ แต่กลัวฝูงชน เพราะเขาทั้งหลายถือว่าพระองค์เป็นผู้เผยพระวจนะ

มัทธิว 21:27-46 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เขาจึงทูลตอบพระเยซู​ว่า “พวกข้าพเจ้าไม่​ทราบ​” พระองค์​จึงตรัสกับเขาว่า “เราจะไม่บอกท่านทั้งหลายเหมือนกั​นว​่า เรากระทำการนี้โดยสิทธิอันใด แต่​ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร ชายผู้​หน​ึ่​งม​ี​บุ​ตรชายสองคน บิ​ดาไปหาบุตรคนแรกว่า ‘ลูกเอ๋ย วันนี้​จงไปทำงานในสวนองุ่นของพ่อเถิด’ บุ​ตรคนนั้นตอบว่า ‘ข้าพเจ้าไม่​ไป​’ แต่​ภายหลังกลับใจแล้วไปทำ บิ​ดาจึงไปหาบุตรคนที่สองพูดเช่นเดียวกัน บุ​ตรนั้นตอบว่า ‘ข้าพเจ้าไปขอรับ’ แต่​ไม่​ไป บุ​ตรสองคนนี้คนไหนเป็นผู้ทำตามความประสงค์ของบิดาเล่า” เขาทูลตอบพระองค์​ว่า “คื​อบ​ุตรคนแรก” พระเยซู​ตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า พวกเก็บภาษีและหญิงโสเภณี​ก็​เข​้าไปในอาณาจักรของพระเจ้าก่อนท่านทั้งหลาย ด้วยยอห์นได้มาหาพวกท่านด้วยทางแห่งความชอบธรรม ท่านหาเชื่อยอห์นไม่ แต่​พวกเก็บภาษีและพวกหญิงโสเภณี​ได้​เชื่อยอห์น ฝ่ายท่านทั้งหลายถึงแม้​ได้​เห​็นแล้ว ภายหลั​งก​็​มิได้​กล​ับใจเชื่อยอห์น จงฟังคำอุปมาอีกเรื่องหนึ่งว่า ยั​งม​ี​เจ้​าของบ้านผู้​หน​ึ่งได้ทำสวนองุ่น แล​้วล้​อมร​ั้วต้นไม้​ไว้​รอบ เขาได้สกัดบ่อย่ำองุ่นในสวน และสร้างหอเฝ้า ให้​พวกชาวสวนเช่าแล้​วก​็ไปเมืองไกล ครั้นฤดู​เก​็บผลองุ่นใกล้​เข้ามา เขาจึงใช้พวกผู้​รับใช้​ไปหาคนเช่าสวน เพื่อจะรับผลองุ่น และคนเช่าสวนนั้นจับพวกผู้​รับใช้​ของเขา เฆี่ยนตี​เสียคนหนึ่ง ฆ่าเสียคนหนึ่ง เอาหินขว้างเสียให้ตายคนหนึ่ง อี​กครั้งหนึ่งเขาก็​ใช้​ผู้รับใช้​คนอื่นๆไปมากกว่าครั้​งก​่อน แต่​พวกเช่าสวนก็​ได้​ทำแก่เขาอย่างนั้​นอ​ีก ครั้งสุดท้ายเขาจึงใช้​บุ​ตรชายของเขาไปหา พูดว่า ‘พวกเขาคงจะเคารพบุตรชายของเรา’ แต่​เมื่อบรรดาคนเช่าสวนเห็นบุตรชายเจ้าของบ้านก็​พู​ดก​ั​นว​่า ‘คนนี้แหละเป็นทายาท มาเถิด ให้​เราฆ่าเขา แล​้วให้เรายึดมรดกของเขาเสีย’ เขาจึงพากันจับบุตรนั้น ผล​ักออกไปนอกสวนองุ่นแล้วฆ่าเสีย เหตุ​ฉะนั้น เมื่อเจ้าของสวนองุ่นมา เขาจะทำอะไรแก่คนเช่าสวนเหล่านั้น” เขาทั้งหลายทูลตอบพระองค์​ว่า “เขาจะทำลายล้างคนชั่วเหล่านั้นอย่างแสนสาหัส และจะให้สวนองุ่นนั้นแก่คนเช่าอื่นๆที่จะแบ่งผลโดยถูกต้องตามฤดูกาลแก่เขาต่อไป” พระเยซู​ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายยังไม่เคยอ่านในพระคัมภีร์หรือซึ่งว่า ‘ศิลาซึ่งช่างก่อได้ปฏิเสธเสีย ได้​กล​ับกลายเป็นศิ​ลาม​ุมเอกแล้ว การนี้เป็นมาจากองค์​พระผู้เป็นเจ้า เป็นการมหัศจรรย์​ประจักษ์​แก่​ตาเรา’ เหตุ​ฉะนั้นเราบอกท่านว่า อาณาจักรของพระเจ้าจะถูกเอาไปเสียจากท่าน และยกให้​แก่​ชนชาติ​หน​ึ่งซึ่งจะกระทำให้​เก​ิดผลสมกับอาณาจั​กรน​ั้น ผู้​ใดล้​มท​ับศิ​ลาน​ี้ ผู้​นั้นจะต้องแตกหักไป แต่​ศิ​ลาน​ี้จะตกทับผู้​ใด ก็​จะบดขยี้​ผู้​นั้นจนแหลกเป็นผุยผง” ครั้นพวกปุโรหิตใหญ่กับพวกฟาริ​สี​ได้​ยินคำอุปมาของพระองค์ พวกเขาก็​หยั่งรู้​ว่าพระองค์ตรัสเล็งถึงพวกเขา แต่​เมื่อพวกเขาอยากจะจับพระองค์ เขาก็​กล​ัวประชาชน เพราะประชาชนนับถือพระองค์ว่าเป็นศาสดาพยากรณ์

มัทธิว 21:27-46 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ดังนั้นพวกเขาจึงทูลตอบพระเยซูว่า “เราไม่ทราบ” พระองค์จึงตรัสว่า “เราก็จะไม่บอกพวกท่านเช่นกันว่าเราอาศัยสิทธิอำนาจใดที่ทำสิ่งเหล่านี้ “พวกท่านคิดอย่างไร? ชายคนหนึ่งมีบุตรสองคน เขาไปหาบุตรคนโตและพูดว่า ‘ลูกเอ๋ย วันนี้จงไปทำงานในสวนองุ่นเถิด’ “บุตรคนนั้นตอบว่า ‘ไม่ไป’ แต่ตอนหลังเปลี่ยนใจและไปทำงาน “แล้วบิดาไปหาบุตรอีกคนบอกอย่างเดียวกัน บุตรนั้นตอบว่า ‘จะไปขอรับ’ แต่เขาไม่ได้ไป “ถามว่าบุตรคนไหนทำตามใจบิดา?” พวกเขาทูลว่า “คนแรก” พระเยซูตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าคนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีพากันเข้าอาณาจักรของพระเจ้าก่อนหน้าพวกท่าน เพราะยอห์นมาเพื่อชี้ทางชอบธรรมแก่ท่านและท่านไม่เชื่อ แต่คนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีเชื่อ และแม้ได้เห็นสิ่งนี้แล้วพวกท่านก็ยังไม่ยอมกลับใจมาเชื่อเขา “จงฟังคำอุปมาอีกเรื่อง คือเจ้าของสวนแห่งหนึ่งทำสวนองุ่น เขาล้อมรั้วกั้นสวน สกัดบ่อย่ำองุ่น และสร้างหอไว้เฝ้า จากนั้นให้ชาวสวนเช่าแล้วเดินทางจากไปต่างแดน เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวเขาก็ส่งคนรับใช้ไปหาผู้เช่าเพื่อรับผลผลิตของเขา “พวกผู้เช่าก็จับเหล่าคนรับใช้ของเขามาทุบตีคนหนึ่ง ฆ่าอีกคนหนึ่ง และเอาหินขว้างคนที่สามจนตาย เจ้าของสวนจึงส่งคนไปอีก มากยิ่งกว่าครั้งแรก แต่ก็ถูกผู้เช่าเล่นงานเหมือนครั้งก่อน สุดท้ายเจ้าของสวนส่งลูกชายไปหาพวกเขากล่าวว่า ‘พวกเขาคงจะเคารพบุตรของเรา’ “แต่เมื่อผู้เช่าเห็นลูกชายเจ้าของสวนก็พูดกันว่า ‘นี่ไงทายาท ให้เราฆ่าเขาแล้วยึดเอามรดกของเขา’ พวกนั้นจึงจับลูกชายเจ้าของสวนองุ่นโยนออกมานอกสวนแล้วฆ่าเสีย “เหตุฉะนั้นเมื่อเจ้าของสวนองุ่นมา เขาจะทำอย่างไรกับผู้เช่าเหล่านั้นดี?” พวกเขาทูลตอบว่า “เจ้าของสวนย่อมจะจัดการกับคนเลวๆ เช่นนั้นอย่างสาสม และให้ผู้เช่ารายอื่นที่ยอมส่งส่วนแบ่งของผลผลิตให้เขาเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวมาเช่าสวนองุ่นนี้” พระเยซูตรัสแก่พวกเขาว่า “พวกท่านไม่เคยอ่านพระคัมภีร์หรือที่ว่า “ ‘ศิลาซึ่งช่างก่อได้ทิ้งแล้ว บัดนี้กลับกลายเป็นศิลามุมเอก องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำการนี้ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ในสายตาของเรา’ “ฉะนั้นเราบอกท่านว่าอาณาจักรของพระเจ้าจะถูกริบไปจากท่านและยกให้แก่ชนชาติที่จะผลิตผลของมัน ผู้ใดตกทับศิลานี้จะแหลกเป็นชิ้นๆ และศิลานี้ตกทับผู้ใด ผู้นั้นจะแหลกลาญ” เมื่อพวกหัวหน้าปุโรหิตกับพวกฟาริสีได้ยินคำอุปมาของพระเยซูก็รู้ว่าพระองค์กำลังตรัสถึงพวกตน พวกเขาหาทางจะจับกุมพระองค์แต่ก็กลัวประชาชน เพราะคนทั้งหลายถือว่าพระองค์ทรงเป็นผู้เผยพระวจนะ

มัทธิว 21:27-46 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

พวก​เขา​จึง​ตอบ​พระ​เยซู​ว่า “พวก​เรา​ไม่​ทราบ” พระ​องค์​กล่าว​กับ​เขา​ว่า “เรา​ก็​จะ​ไม่​บอก​ท่าน​เช่น​กัน​ว่า เรา​กระทำ​สิ่ง​เหล่า​นี้​ด้วย​สิทธิ​อำนาจ​อันใด แต่​ท่าน​คิดเห็น​อย่างไร​เล่า ชาย​คนหนึ่ง​มี​บุตร​ชาย 2 คน เขา​มา​พูด​กับ​คนแรก​ว่า ‘ลูก​เอ๋ย วันนี้​เจ้า​จง​ไป​ทำงาน​ใน​สวน​องุ่น​เถิด’ เขา​ตอบ​ว่า ‘ข้าพเจ้า​จะ​ไม่​ไป’ แต่​ต่อ​มา​เปลี่ยน​ใจ แล้ว​ก็​ไป เขา​มา​พูด​กับ​คน​ที่สอง​เช่น​เดียว​กัน แต่​เขา​ตอบ​ว่า ‘ข้าพเจ้า​จะ​ไป’ และ​เขา​ก็​ไม่​ได้​ไป สอง​คน​นี้​คน​ไหน​กระทำ​ตาม​ความ​ประสงค์​ของ​บิดา​ของ​เขา” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “คนแรก” พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​ท่าน​ว่า บรรดา​คน​เก็บ​ภาษี​และ​หญิง​แพศยา​จะ​เข้า​สู่​อาณาจักร​ของ​พระ​เจ้า​ก่อน​พวก​ท่าน​เสียอีก เพราะ​ยอห์น​มา​ชี้​ให้​พวก​ท่าน​เห็น​ทาง​แห่ง​ความ​ชอบธรรม และ​ท่าน​ก็​ไม่​เชื่อ​เขา แต่​บรรดา​คน​เก็บ​ภาษี​และ​หญิง​แพศยา​ได้​เชื่อ​เขา แม้​ต่อ​มา ทั้งๆ ที่​ท่าน​ได้​เห็น​แล้ว แต่​ก็​ไม่​ได้​กลับใจ​และ​เชื่อ​เขา จง​ฟัง​คำ​อุปมา​อีก​เรื่อง​หนึ่ง มี​เจ้าของ​สวน​คนหนึ่ง​ปลูก​สวน​องุ่น​ไว้ ซึ่ง​มี​กำแพง​ที่​สร้าง​ล้อม​ไว้​โดย​รอบ และ​ขุด​บ่อ​เก็บ​เครื่อง​สกัด​เหล้า​องุ่น เขา​สร้าง​หอคอย​ไว้​และ​ให้​พวก​ชาว​สวน​เช่า แล้ว​ก็​เดิน​ทาง​ไป​ต่าง​ประเทศ เมื่อ​ถึง​เวลา​เก็บ​พืชผล เขา​ใช้​บรรดา​คน​รับใช้​ของ​เขา​ไป​หา​พวก​คน​เช่า​สวน เพื่อ​รับ​ส่วน​ปันผล​ของ​เขา พวก​คน​เช่า​สวน​จับ​ตัว​พวก​ผู้​รับใช้​ไว้ ทุบตี​เสีย​คน​หนึ่ง ฆ่า​อีก​คน​หนึ่ง​และ​เอา​หิน​ขว้าง​อีก​คน​หนึ่ง เจ้า​ของ​สวน​ส่ง​พวก​ผู้​รับใช้​อีก​กลุ่ม​ไป ซึ่ง​มาก​คน​กว่า​ครั้ง​แรก พวก​คน​เช่า​สวน​ก็​กระทำ​ต่อ​เขา​เหล่า​นั้น​เหมือน​ครั้ง​แรก หลัง​จาก​นั้น​เขา​จึง​ส่ง​ลูก​ชาย​ของ​เขา​ไป​หา​คน​เช่า​สวน​โดย​คิด​ว่า ‘พวก​เขา​จะ​นับถือ​ลูก​ของ​เรา​คน​นั้น’ แต่​เมื่อ​พวก​คน​เช่า​สวน​เห็น​ลูก​คน​นั้น​ก็​พูด​กัน​ว่า ‘คน​นี้​เป็น​ทายาท มา​ช่วย​กัน​ฆ่า​เขา​เถิด มรดก​จะ​ได้​ตก​เป็น​ของ​เรา’ เขา​ทั้ง​หลาย​จึง​จับ​ตัว​ลูก​คน​นั้น​โยน​ออก​ไป​จาก​สวน​องุ่น​แล้ว​ฆ่า​เสีย ฉะนั้น​เมื่อ​เจ้าของ​สวน​องุ่น​มา เขา​จะ​ทำ​อย่างไร​กับ​พวก​คน​เช่า​สวน” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “เขา​จะ​ฆ่า​คน​ชั่วร้าย​เหล่า​นั้น​อย่าง​แน่นอน และ​จะ​ให้​คน​สวน​อื่น​เช่า​สวน​เสีย จะได้​แบ่งปัน​ผล​ให้​แก่​เขา​เมื่อ​ถึง​เวลา” พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “ท่าน​ไม่​เคย​อ่าน​ใน​พระ​คัมภีร์​หรือ​ว่า ‘ศิลา​ที่​พวก​ช่าง​ก่อสร้าง​ทิ้ง ได้​กลาย​เป็น​ศิลา​มุม​เอก พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​กระทำ​การ​นี้ และ​เป็น​สิ่ง​วิเศษ​ยิ่ง​ใน​สายตา​ของ​เรา’ ฉะนั้น เรา​ขอบอก​ท่าน​ว่า อาณาจักร​ของ​พระ​เจ้า​จะ​ต้อง​ถูก​ยึด​ไป​จาก​ท่าน และ​ยก​ให้​แก่​ชน​ชาติ​หนึ่ง​ที่​จะ​ผลิต​ผล​ได้​ตาม​ควร คน​ที่​ล้ม​ลง​บน​ศิลา​นี้​จะ​แตก​หัก​กระจาย​เป็น​ชิ้นๆ หาก​แต่​ศิลา​นั้น​ล้ม​ทับ​ผู้​ใด​แล้ว ผู้​นั้น​จะ​แหลก​เป็น​ผุยผง​ไป” ครั้น​พวก​มหา​ปุโรหิต​และ​ฟาริสี​ได้ยิน​คำ​อุปมา​ของ​พระ​องค์​แล้ว ก็​เข้าใจ​ว่า​พระ​องค์​กล่าว​ถึง​พวก​เขา ฉะนั้น​พวก​เขา​ใคร่​จะ​จับกุม​พระ​องค์​เสีย แต่​กลัว​ฝูง​ชน​เพราะ​พวก​เขา​นับว่า​พระ​องค์​เป็น​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า