มัทธิว 20:17-34

มัทธิว 20:17-34 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ขณะ​ที่​พระเยซู​กำลัง​เดิน​ทาง​ไป​เมือง​เยรูซาเล็ม พระองค์​พา​ศิษย์​ทั้ง​สิบสอง​คน​ปลีก​ตัว​ออก​มา​อยู่​กัน​ตาม​ลำพัง และ​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “ฟัง​นะ พวก​เรา​กำลัง​จะ​ขึ้น​ไป​เมือง​เยรูซาเล็ม และ​บุตร​มนุษย์​จะ​ถูก​จับ​ส่ง​ไป​ให้​กับ​พวก​หัวหน้า​นักบวช และ​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ แล้ว​พวก​นั้น​จะ​ตัดสิน​ประหาร​ชีวิต​เขา จาก​นั้น​ก็​จะ​ส่ง​มอบ​เขา​ไป​ให้​กับ​คน​ที่​ไม่​ใช่​ชาว​ยิว เพื่อ​พวก​นั้น​จะ​ได้​หัวเราะ​เยาะ​เขา เฆี่ยน​ตี​เขา และ​ตรึง​เขา​ที่​กางเขน แต่​เขา​ก็​จะ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย​ใน​วันที่​สาม” ภรรยา​ของ​เศเบดี พร้อม​กับ​ลูก​สอง​คน​มา​หา​พระเยซู นาง​กราบ​ลง​และ​ขอ​ให้​พระองค์​ทำ​สิ่ง​หนึ่ง​ให้​กับ​นาง พระเยซู​ถาม​นาง​ว่า “มี​อะไร​หรือ” นาง​ตอบ​ว่า “เมื่อ​พระองค์​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์ ขอ​ให้​ลูกชาย​ทั้ง​สอง​คนนี้​ของ​ฉัน​นั่ง​อยู่​ทาง​ขวา​ของ​พระองค์​คน​หนึ่ง และ​นั่ง​อยู่​ทาง​ซ้าย​อีก​คน​หนึ่ง​ด้วย​เถิด​ค่ะ” พระเยซู​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “พวก​คุณ​ไม่​รู้​ว่า​กำลัง​ขอ​อะไร​อยู่ คุณ​จะ​ดื่ม​จาก​จอก​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ความทุกข์ทรมาน​ที่​เรา​กำลัง​จะ​ดื่ม​ได้​หรือ” ทั้ง​สอง​คน​ตอบ​ว่า “ได้​ครับ” พระเยซู​พูด​กับ​ทั้ง​สอง​คน​ว่า “พวก​คุณ​จะ​ได้​ดื่ม​แน่ แต่​จะ​ให้​ใคร​นั่ง​ทาง​ขวา​หรือ​ทาง​ซ้าย​ของ​เรา​นั้น เรา​ไม่​ได้​เป็น​คน​เลือก พระบิดา​ของ​เรา​จะ​เป็น​ผู้​เลือก​เอง” เมื่อ​ศิษย์​ที่​เหลือ​อีก​สิบ​คน​รู้​เรื่องนี้​เข้า ก็​โกรธ​สอง​คน​พี่น้อง​นั้น​มาก พระเยซู​ก็​เลย​เรียก​พวก​เขา​ทั้งหมด​เข้า​มา​และ​พูด​ว่า “พวก​คุณ​ก็​รู้​ว่า ผู้ครอบ​ครอง​ของ​คน​ที่​ไม่​ใช่​ชาว​ยิว​ชอบ​ทำ​ตัว​เป็น​เจ้า​เป็น​นาย​เหนือ​ประชาชน และ​พวก​ผู้นำ​ชอบ​วาง​อำนาจ​เหนือ​ประชาชน แต่​สำหรับ​พวก​คุณ มัน​จะ​ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น ใน​หมู่​พวก​คุณ​ถ้า​คน​ไหน​อยาก​จะ​เป็น​ใหญ่ ก็​ให้​เขา​เป็น​ผู้รับใช้​คุณ และ​ถ้า​คน​ไหน​อยาก​เป็น​คน​สำคัญ​ที่สุด ก็​ให้​เขา​เป็น​ทาส​รับใช้​ใน​หมู่​พวก​คุณ เหมือน​กับ​บุตร​มนุษย์ ที่​ไม่​ได้​มา​เพื่อ​ให้​คน​อื่น​รับใช้ แต่​มา​เพื่อ​รับใช้​คน​อื่น และ​ยอม​สละ​ชีวิต​เพื่อ​ปลดปล่อย​ให้​คน​มาก​มาย​เป็น​อิสระ” เมื่อ​พระเยซู​และ​พวก​ศิษย์​กำลัง​ออก​จาก​เมือง​เยริโค ก็​มี​ฝูงชน​เดิน​ตาม​เป็น​จำนวน​มาก มี​ชาย​ตาบอด​สอง​คน​นั่ง​อยู่​ริม​ถนน เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​พระเยซู​กำลัง​ผ่าน​มา ก็​เริ่ม​ร้อง​ตะโกน​ว่า “องค์​เจ้า​ชีวิต บุตร​ของ​ดาวิด สงสาร​พวก​เรา​ด้วย​เถอะ” ฝูงชน​ต่อว่า​พวก​เขา​ให้​เงียบ แต่​เขา​ทั้ง​สอง​ยิ่ง​ตะโกน​ดัง​ขึ้น​อีก​ว่า “องค์​เจ้า​ชีวิต บุตร​ของ​ดาวิด สงสาร​พวก​เรา​ด้วย​เถอะ” พระเยซู​จึง​หยุด​และ​เรียก​พวก​เขา​เข้า​มาถาม​ว่า “อยาก​ให้​เรา​ช่วย​อะไร” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “องค์​เจ้า​ชีวิต พวก​เรา​อยาก​จะ​มอง​เห็น” พระเยซู​รู้สึก​สงสาร​พวก​เขา จึง​แตะ​ดวงตา​พวก​เขา พวก​เขา​ก็​มอง​เห็น​ได้​ทันที แล้ว​ก็​ติดตาม​พระองค์​ไป

มัทธิว 20:17-34 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ขณะพระเยซูกำลังเสด็จขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์ทรงพาสาวกสิบสองคนไปกันตามลำพังและตรัสกับเขาทั้งหลายตามทางว่า “ฟังนะ พวกเราจะขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และบุตรมนุษย์จะถูกมอบไว้กับพวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกธรรมาจารย์ และพวกเขาจะลงโทษท่านถึงตาย ทั้งจะมอบตัวท่านไว้กับพวกต่างชาติเพื่อให้เยาะเย้ย เฆี่ยนตีและตรึงไว้ที่กางเขน และวันที่สามจะเป็นขึ้นมาใหม่” ขณะนั้นมารดาของบุตรทั้งสองของเศเบดี มาเฝ้าพระองค์พร้อมกับบุตร นางกราบและทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระองค์ พระองค์จึงตรัสถามนางว่า “ท่านปรารถนาอะไร?” นางทูลว่า “ขอพระองค์รับสั่งตั้งบุตรทั้งสองของข้าพระองค์ให้นั่งเบื้องขวาพระหัตถ์คนหนึ่ง และเบื้องซ้ายคนหนึ่งในราชอาณาจักรของพระองค์” แต่พระเยซูตรัสตอบว่า “พวกท่านไม่เข้าใจในสิ่งที่ขอนั้น ถ้วยที่เราจะดื่มนั้นท่านจะดื่มได้หรือ?” พวกเขาทูลว่า “ได้พระเจ้าข้า” พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “พวกท่านจะดื่มถ้วยของเราแน่ แต่การที่จะให้นั่งข้างขวาและข้างซ้ายของเรานั้นไม่ใช่เราเป็นผู้ให้ แต่จะให้กับคนเหล่านั้นที่พระบิดาของเราทรงเตรียมไว้” เมื่อสาวกสิบคนนั้นได้ยินแล้วก็โกรธพี่น้องสองคนนั้น พระเยซูทรงเรียกพวกเขามาตรัสว่า “พวกท่านรู้อยู่ว่าบรรดาผู้ครอบครองของคนต่างชาติ ย่อมเป็นเจ้านายอยู่เหนือพวกเขา และพวกที่เป็นใหญ่ก็ใช้อำนาจบังคับเขา ในพวกท่านจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่ถ้ามีใครต้องการเป็นใหญ่ในพวกท่าน คนนั้นจะต้องเป็นผู้ปรนนิบัติของท่าน และถ้าใครต้องการจะเป็นนาย คนนั้นจะต้องเป็นทาสของพวกท่าน เหมือนบุตรมนุษย์ที่ไม่ได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่มาเพื่อปรนนิบัติคนอื่น และให้ชีวิตของท่านเป็นค่าไถ่คนจำนวนมาก” เมื่อพระองค์กับพวกสาวกกำลังออกไปจากเมืองเยรีโค มีมหาชนติดตามพระองค์ไป และมีคนตาบอดสองคนนั่งอยู่ริมหนทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูเสด็จมา จึงร้องว่า “[องค์พระผู้เป็นเจ้า]ผู้ทรงเป็นบุตรดาวิดเจ้าข้า ขอทรงพระเมตตาพวกข้าพระองค์เถิด” ฝูงชนก็ห้ามเขาทั้งสองและให้นิ่งเสีย แต่เขายิ่งร้องขึ้นอีกว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นบุตรดาวิดเจ้าข้า ขอทรงพระเมตตาพวกข้าพระองค์เถิด” พระเยซูทรงหยุดยืนอยู่ ทรงเรียกเขามาและตรัสว่า “ท่านทั้งสองต้องการให้เราทำอะไรเพื่อท่าน” เขาทั้งสองทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้นัยน์ตาของข้าพระองค์ทั้งสองหายบอด” พระเยซูทรงแตะต้องนัยน์ตาของเขาทั้งสองด้วยพระทัยสงสาร ในทันใดนั้นเขาทั้งสองก็มองเห็น และติดตามพระองค์ไป

มัทธิว 20:17-34 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เมื่อพระเยซูจะเสด็จขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ขณะอยู่ตามหนทางได้พาเหล่าสาวกสิบสองคนไปแต่​ลำพัง และตรัสกับเขาว่า “​ดู​เถิด เราทั้งหลายจะขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และบุตรมนุษย์จะถูกทรยศให้​อยู่​กับพวกปุโรหิตใหญ่และพวกธรรมาจารย์ และเขาเหล่านั้นจะปรับโทษท่านถึงตาย และจะมอบท่านไว้กับคนต่างชาติ​ให้​เยาะเย้ยเฆี่ยนตี และให้ตรึงไว้​ที่​กางเขน และวั​นที​่สามท่านจึงจะกลับฟื้นขึ้นมาใหม่” ขณะนั้นมารดาของบุตรแห่งเศเบดีพาบุตรชายทั้งสองมาเฝ้าพระองค์ นม​ัสการทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระองค์ พระองค์​จึงทรงถามนางนั้​นว​่า “ท่านปรารถนาอะไร” นางทูลพระองค์​ว่า “ขอทรงโปรดอนุญาตให้​บุ​ตรชายของข้าพระองค์สองคนนี้นั่งในราชอาณาจักรของพระองค์ เบื้องขวาพระหัตถ์คนหนึ่ง เบื้องซ้ายคนหนึ่ง” แต่​พระเยซู​ตรัสตอบว่า “​ที่​ท่านขอนั้นท่านไม่​เข้าใจ ถ้วยซึ่งเราจะดื่​มน​ั้นท่านจะดื่มได้​หรือ และบัพติศมานั้นซึ่งเราจะรับ ท่านจะรับได้​หรือ​” เขาทูลพระองค์​ว่า “พวกข้าพระองค์​ทำได้​” พระองค์​ตรัสกับเขาว่า “ท่านจะดื่มจากถ้วยของเรา และรับบัพติศมาด้วยบัพติศมาที่เราจะรั​บก​็​จริง แต่​ซึ่งจะนั่งข้างขวาและข้างซ้ายของเรานั้น ไม่ใช่​พน​ักงานของเราที่จะมอบให้ แต่​พระบิดาของเราได้ทรงเตรียมไว้สำหรับผู้​ใด ก็​จะให้​แก่​ผู้​นั้น​” เมื่อสาวกสิบคนนั้นได้ยินแล้ว พวกเขาก็​มี​ความขุ่นเคืองพี่น้องสองคนนั้น พระเยซู​ทรงเรียกเขาทั้งหลายมาตรั​สว​่า “ท่านทั้งหลายรู้​อยู่​ว่า ผู้​ครองของคนต่างชาติย่อมเป็นเจ้าเหนือเขา และผู้​ใหญ่​ทั้งหลายก็​ใช้​อำนาจบังคับ แต่​ในพวกท่านหาเป็นอย่างนั้นไม่ ถ้าผู้ใดใคร่จะได้​เป็นใหญ่​ในพวกท่าน ผู้​นั้นจะต้องเป็นผู้​ปรนนิบัติ​ท่านทั้งหลาย ถ้าผู้ใดใคร่จะได้เป็นเอกเป็นต้นในพวกท่าน ผู้​นั้นจะต้องเป็นผู้​รับใช้​ของพวกท่าน อย่างที่​บุ​ตรมนุษย์​มิได้​มาเพื่อรับการปรนนิบั​ติ แต่​มาเพื่อจะปรนนิบั​ติ และประทานชีวิตของท่านให้เป็นค่าไถ่สำหรับคนเป็​นอ​ันมาก” เมื่อพระองค์กับเหล่าสาวกออกไปจากเมืองเยรี​โค ฝูงชนเป็​นอ​ันมากก็ตามพระองค์​ไป และดู​เถิด มี​ชายตาบอดสองคนนั่งอยู่ริมหนทาง เมื่อเขาได้ยิ​นว​่าพระเยซูเสด็จผ่านมา จึงร้องว่า “​โอ พระองค์​ผู้​เป็นบุตรดาวิดเจ้าข้า ขอทรงพระเมตตาข้าพระองค์​เถิด​” ฝ่ายประชาชนก็ห้ามเขาให้นิ่งเสีย แต่​เขายิ่งร้องขึ้​นอ​ี​กว่า “​โอ พระองค์​ผู้​เป็นบุตรดาวิดเจ้าข้า ขอทรงพระเมตตาข้าพระองค์​เถิด​” พระเยซู​จึงหยุดประทับยืนอยู่ เรียกเขามา และตรั​สว​่า “ท่านทั้งสองใคร่จะให้เราทำอะไรเพื่อท่าน” พวกเขาทูลพระองค์​ว่า “​พระองค์​เจ้าข้า ขอให้​ตาของข้าพระองค์​มองเห็น​” พระเยซู​จึ​งม​ีพระทัยเมตตา ก็​ทรงถูกต้องตาเขา ในทันใดนั้นตาของเขาก็​เห​็นได้และเขาทั้งสองได้​ติ​ดตามพระองค์​ไป

มัทธิว 20:17-34 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เมื่อพระเยซูจะเสด็จขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ก็พาเหล่าสาวกสิบสองคนไปแต่ลำพัง และตรัสกับเขาตามทางว่า <<เราทั้งหลายจะขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และเขาจะมอบบุตรมนุษย์ไว้กับพวกมหาปุโรหิตและพวกธรรมาจารย์ และเขาเหล่านั้นจะปรับโทษท่านถึงตาย และจะมอบท่านไว้กับคนต่างชาติให้เยาะเย้ยเฆี่ยนตี และให้ตรึงไว้ที่กางเขน และวันที่สาม ท่านจึงจะกลับฟื้นขึ้นมาใหม่>> ขณะนั้นมารดาของบุตรแห่งเศเบดี พาบุตรทั้งสองมาเฝ้าพระองค์กราบไหว้ทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระองค์ พระองค์จึงทรงถามนางนั้นว่า <<ท่านปรารถนาอะไร>> นางทูลว่า <<ขอพระองค์รับสั่งตั้งให้บุตรของข้าพระองค์สองคนนี้ นั่งในราชอาณาจักรของพระองค์เบื้องขวาพระหัตถ์คนหนึ่ง เบื้องซ้ายคนหนึ่ง>> แต่พระเยซูตรัสตอบว่า <<ที่ท่านทั้งสองขอนั้นท่านไม่เข้าใจ ถ้วยซึ่งเราจะดื่มนั้นท่านจะดื่มได้หรือ>> เขาทูลว่า <<ได้พระเจ้าข้า>> พระองค์ตรัสกับเขาว่า <<ท่านทั้งหลายจะดื่มถ้วยของเราเป็นแน่ แต่ซึ่งจะนั่งข้างขวาและข้างซ้ายของเรานั้น ไม่ใช่พนักงานของเราที่จะจัดให้ แต่พระบิดาของเราได้ทรงเตรียมไว้สำหรับผู้ใดก็จะให้แก่ผู้นั้น>> เมื่อสาวกสิบคนนั้นได้ยินแล้ว ก็มีความขุ่นเคืองพี่น้องสองคนนั้น พระเยซูทรงเรียกเขาทั้งหลายมาตรัสว่า <<ท่านทั้งหลายรู้อยู่ว่าผู้ครองของคนต่างชาติ ย่อมเป็นเจ้าเหนือเขา และผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ใช้อำนาจบังคับ แต่ในพวกท่านหาเป็นอย่างนั้นไม่ ถ้าผู้ใดใคร่จะได้เป็นใหญ่ในพวกท่าน ผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ปรนนิบัติท่านทั้งหลาย ถ้าผู้ใดใคร่จะได้เป็นเอกเป็นต้น ผู้นั้นจะต้องเป็นทาสสมัครของพวกท่าน อย่างที่บุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่ท่านมาเพื่อจะปรนนิบัติเขา และประทานชีวิตของท่านให้เป็นค่าไถ่คนเป็นอันมาก>> เมื่อพระองค์กับเหล่าสาวกออกไปจากเมืองเยรีโค ฝูงชนเป็นอันมากก็ตามพระองค์ไป และนี่แน่ะ มีคนตาบอดสองคนนั่งอยู่ริมหนทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูเสด็จ จึงร้องว่า <<พระองค์ผู้เป็นบุตรดาวิดเจ้าข้า ขอทรงพระเมตตาข้าพระองค์เถิด>> ฝ่ายประชาชนก็ห้ามเขาให้นิ่งเสีย แต่เขายิ่งร้องขึ้นอีกว่า <<พระองค์เจ้าข้า พระองค์ผู้ทรงเป็นบุตรดาวิด ขอทรงเมตตาข้าพระองค์เถิด>> พระเยซูจึงหยุดประทับยืนอยู่ เรียกเขามาและตรัสว่า <<ท่านทั้งสองจะใคร่ให้เราทำอะไรเพื่อท่าน>> เขาทูลว่า <<พระองค์เจ้าข้า ขอให้นัยน์ตาของข้าพระองค์หายบอด>> พระเยซูมีพระทัยสงสาร ก็ทรงถูกต้องนัยน์ตาเขา ในทันใดนั้นตาของเขาก็เห็นได้ และเขาทั้งสองได้ติดตามพระองค์ไป

มัทธิว 20:17-34 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ขณะพระเยซูกำลังเสด็จไปเยรูซาเล็ม พระองค์ทรงพาสาวกสิบสองคนเลี่ยงออกมาและตรัสว่า “พวกเรากำลังขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และบุตรมนุษย์จะถูกทรยศและมอบให้พวกหัวหน้าปุโรหิตกับธรรมาจารย์ พวกเขาจะตัดสินประหารพระองค์ และจะมอบพระองค์ให้คนต่างชาติเยาะเย้ยโบยตีและตรึงตายบนไม้กางเขน แล้วในวันที่สามพระเจ้าจะทรงให้พระองค์คืนพระชนม์!” แล้วภรรยาของเศเบดีพาบุตรชายทั้งสองของนางมาคุกเข่าทูลขอพระเยซู พระองค์ตรัสว่า “ท่านประสงค์สิ่งใด?” นางทูลว่า “ขอให้ลูกชายของข้าพระองค์ได้นั่งในราชอาณาจักรของพระองค์ คนหนึ่งอยู่ข้างขวา อีกคนหนึ่งอยู่ข้างซ้าย” พระเยซูตรัสว่า “ท่านไม่รู้ว่ากำลังขออะไร ถ้วยที่เรากำลังจะดื่มท่านดื่มได้หรือ?” พวกเขาทูลตอบว่า “ได้พระเจ้าข้า” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ท่านจะได้ดื่มจากถ้วยของเราแน่ แต่ที่จะได้นั่งซ้ายมือหรือขวามือของเราไม่ใช่เราจัดให้ แต่ที่นั้นเป็นของผู้ที่พระบิดาของเราทรงเตรียมไว้แล้ว” เมื่อสาวกอีกสิบคนได้ยินเรื่องนี้ก็ไม่พอใจพี่น้องสองคนนั้น พระเยซูทรงเรียกเหล่าสาวกมาพร้อมหน้ากันและตรัสว่า “ท่านทั้งหลายรู้อยู่ว่าผู้ปกครองของคนต่างชาติเป็นเจ้าเหนือเขาและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็ใช้อำนาจเหนือพวกเขา แต่สำหรับพวกท่านไม่เป็นเช่นนั้น ตรงกันข้าม ใครอยากเป็นใหญ่ในพวกท่านต้องรับใช้พวกท่าน และผู้ใดปรารถนาที่จะเป็นเอกต้องยอมเป็นทาสของพวกท่าน เหมือนกับที่บุตรมนุษย์ไม่ได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่มาเพื่อปรนนิบัติและประทานชีวิตของพระองค์เป็นค่าไถ่เพื่อคนเป็นอันมาก” ขณะที่พระเยซูกับเหล่าสาวกของพระองค์กำลังจะออกจากเมืองเยรีโค ฝูงชนหมู่ใหญ่ตามพระองค์มา ชายตาบอดสองคนนั่งอยู่ริมทางได้ยินว่าพระเยซูกำลังเสด็จผ่านก็ร้องตะโกนว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า บุตรดาวิดเจ้าข้า เมตตาพวกข้าพระองค์ด้วยเถิด!” ฝูงชนจึงตำหนิและบอกให้เขาเงียบ แต่ทั้งสองยิ่งร้องดังขึ้นว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า บุตรดาวิดเจ้าข้า เมตตาพวกข้าพระองค์ด้วยเถิด!” พระเยซูทรงหยุดและเรียกทั้งสองมาตรัสถามว่า “ท่านต้องการให้เราทำอะไรให้?” เขาทูลว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์อยากมองเห็น” พระเยซูทรงสงสารเขาและทรงแตะตาของเขา ทันใดนั้นทั้งสองก็มองเห็นและตามพระองค์ไป

มัทธิว 20:17-34 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ขณะ​ที่​พระ​เยซู​กำลัง​ขึ้น​ไป​ยัง​เมือง​เยรูซาเล็ม พระ​องค์​พา​เพียง​สาวก​ทั้ง​สิบ​สอง​ไป​พูด​ตาม​ลำพัง​ว่า “ดู​เถิด พวก​เรา​กำลัง​จะ​ขึ้น​ไป​ยัง​เมือง​เยรูซาเล็ม บุตรมนุษย์​จะ​ถูก​มอบตัว​ให้​แก่​พวก​มหา​ปุโรหิต​และ​อาจารย์​ฝ่าย​กฎ​บัญญัติ และ​พวก​เขา​จะ​กล่าว​โทษ​ให้​ท่าน​ถึง​แก่​ความ​ตาย และ​จะ​มอบ​ตัว​ท่าน​ให้​บรรดา​คนนอก​ล้อเลียน โบย​และ​ตรึง​บน​ไม้​กางเขน แล้ว​ใน​วัน​ที่​สาม​จะ​ฟื้น​คืนชีวิต” ขณะนั้น​ภรรยา​และ​บุตร​ทั้ง​สอง​ของ​เศเบดี​มา​หา​พระ​องค์ นาง​ก้ม​กราบ​ขอ​ร้อง​สิ่ง​หนึ่ง​จาก​พระ​องค์ พระ​องค์​กล่าว​กับ​นาง​ว่า “ท่าน​ต้องการ​อะไร” นาง​พูด​ว่า “โปรด​รับสั่ง​ว่า​บุตร​ทั้ง​สอง​ของ​ข้าพเจ้า​จะ​ได้​นั่ง​ใน​อาณาจักร​ของ​พระ​องค์ คน​หนึ่ง​ทาง​ด้าน​ขวา​และ​อีก​คน​หนึ่ง​ทาง​ด้าน​ซ้าย​ของ​พระ​องค์” แต่​พระ​เยซู​กล่าว​ตอบ​ว่า “พวก​เจ้า​ไม่​รู้​ว่า​กำลัง​ขอ​อะไร​กัน​อยู่ เจ้า​สามารถ​ดื่ม​จาก​ถ้วย​ที่​เรา​จะ​ดื่ม​ได้​หรือ” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “เรา​ทำ​ได้” พระ​องค์​กล่าว​กับ​เขา​ว่า “ถ้วย​ของ​เรา​นั้น​เจ้า​จะ​ดื่ม แต่​จะ​นั่ง​ทาง​ขวา​มือ​และ​ทาง​ซ้าย​มือ​ของ​เรา ไม่​ใช่​สิทธิ์​ของ​เรา​ที่​จะ​ให้ แต่​เป็น​ที่​สำหรับ​บรรดา​ผู้​ซึ่ง​พระ​บิดา​ของ​เรา​ได้​เตรียม​ให้​ไว้” เมื่อ​สาวก 10 คน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​โกรธ​พี่น้อง​สอง​คน​นั้น พระ​เยซู​จึง​เรียก​พวก​เขา​มา​หา​และ​กล่าว​ว่า “เจ้า​ก็​รู้​อยู่​ว่า พวก​ที่​อยู่​ใน​ระดับ​ปกครอง​ของ​บรรดา​คนนอก​ย่อม​มี​สิทธิ​อำนาจ​เหนือ​พวก​เขา และ​คน​ใหญ่​คน​โต​ของ​เขา​ใช้​อำนาจ​กับ​พวก​เขา มิ​ใช่​เช่น​นั้น​ใน​พวก​เจ้า ใคร​ก็​ตาม​ที่​อยาก​จะ​เป็น​ใหญ่​ใน​พวก​เจ้า​ต้อง​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​เจ้า และ​ใคร​ก็​ตาม​ที่​อยาก​เป็น​คน​แรก​ใน​พวก​เจ้า ต้อง​เป็น​ทาส​รับใช้​เจ้า แม้แต่​บุตรมนุษย์​ก็​ไม่​ได้​มา​เพื่อ​ให้​ผู้​ใด​รับใช้ แต่​มา​เพื่อ​จะ​รับใช้ และ​เพื่อ​มอบ​ชีวิต​ของ​ท่าน​ให้​เป็น​ค่า​ไถ่​แก่​คน​จำนวน​มาก” ขณะที่​พระ​องค์​และ​เหล่า​สาวก​กำลัง​ออก​ไป​จาก​เมือง​เยรีโค มหา​ชน​ก็​ติดตาม​พระ​องค์​ไป ชาย​ตาบอด 2 คน​นั่ง​อยู่​ข้าง​ถนน​ได้ยิน​ว่า​พระ​เยซู​กำลัง​เดิน​ผ่าน​มา​จึง​ร้อง​ตะโกน​ขึ้น​ว่า “พระ​องค์​ท่าน บุตร​ของ​ดาวิด โปรด​เมตตา​พวก​เรา​ด้วย” ฝูง​ชน​ห้าม​พวก​เขา​และ​บอก​ให้​เงียบ​เสีย แต่​เขา​ยิ่ง​ตะโกน​ดัง​มาก​ขึ้น​ว่า “พระ​องค์​ท่าน บุตร​ของ​ดาวิด โปรด​เมตตา​พวก​เรา​ด้วย” พระ​เยซู​หยุด​เดิน​และ​เรียก​เขา​มา​พูด​ว่า “เจ้า​ต้องการ​จะ​ให้​เรา​ทำ​อะไร​ให้​เล่า” พวก​เขา​พูด​ว่า “พระ​องค์​ท่าน ช่วย​ให้​ตา​ของ​เรา​มอง​เห็น​เถิด” พระ​เยซู​มี​ความ​สงสาร​จึง​แตะ​ที่​ตา​ของ​เขา ใน​ทันใด​นั้น​ทั้ง​สอง​คน​ก็​มองเห็น​ได้​และ​ตาม​พระ​องค์​ไป