มัทธิว 16:13-28
มัทธิว 16:13-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เมื่อพระเยซูมาถึงแคว้นซีซารียาฟีลิปปี พระองค์ถามพวกศิษย์ว่า “คนเขาพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นใครกัน” พวกศิษย์ตอบว่า “บางคนว่าเป็นยอห์นคนที่ทำพิธีจุ่มน้ำ บางคนก็ว่าเป็นเอลียาห์ บางคนก็ว่าเป็นเยเรมียาห์หรือเป็นคนหนึ่งในพวกผู้พูดแทนพระเจ้า” พระเยซูถามพวกศิษย์ว่า “แล้วพวกคุณล่ะ ว่าเราเป็นใคร” ซีโมน เปโตร ตอบว่า “พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ พระบุตรของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่” พระเยซูตอบว่า “ซีโมนลูกของโยนาห์ คุณนี่ได้รับเกียรติจริงๆ ในเรื่องนี้ พระบิดาของเราที่อยู่บนสวรรค์เป็นผู้เปิดเผยให้คุณรู้นะ ไม่ใช่มนุษย์หรอก เราจะบอกให้รู้ว่า คุณคือเปโตร และบนหินก้อนนี้ เราจะสร้างหมู่ประชุมของเราขึ้นมา และอำนาจทั้งหมดของความตาย จะไม่สามารถเอาชนะหมู่ประชุมของเราได้ เราจะให้กุญแจของอาณาจักรแห่งสวรรค์กับคุณ อะไรก็ตามที่คุณห้ามไม่ให้ทำบนโลกนี้ พระเจ้าที่อยู่บนสวรรค์ก็จะห้ามไม่ให้ทำด้วย ส่วนอะไรก็ตามที่คุณให้ทำบนโลกนี้ พระเจ้าที่อยู่บนสวรรค์ก็จะให้ทำด้วย” แล้วพระเยซูได้สั่งพวกศิษย์ ห้ามไม่ให้บอกใครว่าพระองค์เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พระเยซูเริ่มอธิบายให้พวกศิษย์ฟังว่า พระองค์จะต้องไปเมืองเยรูซาเล็มและต้องทนทุกข์ทรมานหลายอย่างจากพวกผู้นำอาวุโสของชาวยิว พวกหัวหน้านักบวช และพวกครูสอนกฎปฏิบัติ พระองค์จะถูกฆ่า แต่จะฟื้นขึ้นมาใหม่ในวันที่สาม เปโตรดึงพระองค์มาข้างๆและต่อว่าพระองค์ว่า “ไม่มีทางหรอกอาจารย์ มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอย่างนั้นแน่” พระองค์หันมาพูดกับเปโตรว่า “ไปให้พ้น ไอ้ซาตาน แกกำลังขัดขวางเรา เพราะแกไม่ได้คิดแบบพระเจ้า แต่คิดแบบมนุษย์” แล้วพระเยซูก็พูดกับพวกศิษย์ว่า “ถ้าใครอยากจะติดตามเรา คนนั้นต้องเลิกตามใจตัวเอง และแบกกางเขนของตัวเองตามเรามา คนที่อยากจะเอาตัวรอดจะไม่รอด แต่คนที่ยอมสละตัวเองเพื่อเราจะค้นพบตัวเอง มันจะได้กำไรตรงไหน ถ้าได้โลกทั้งใบ แต่ตัวเองถูกทำลายไป จะเอาอะไรไปแลกเพื่อจะได้ตัวเองกลับคืนมาได้หรือ เพราะบุตรมนุษย์จะกลับมาด้วยความสง่างามของพระบิดาของพระองค์ และมาพร้อมกับทูตสวรรค์ของพระองค์ แล้วบุตรมนุษย์จะมาตัดสินมนุษย์ทุกคนตามการกระทำของเขา เราจะบอกให้รู้ว่า มีบางคนในพวกคุณที่ยืนอยู่ที่นี่จะยังไม่ตาย จนกว่าจะได้เห็นบุตรมนุษย์มาในอาณาจักรของพระองค์”
มัทธิว 16:13-28 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ครั้นพระเยซูเสด็จเข้าไปในเขตเมืองซีซารียา ฟีลิปปี จึงตรัสถามพวกสาวกของพระองค์ว่า <<คนทั้งหลายพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นผู้ใด>> เขาจึงทูลตอบว่า <<เขาว่าเป็นยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา แต่บางคนว่าเป็นเอลียาห์ และคนอื่นว่าเป็นเยเรมีย์ หรือเป็นคนหนึ่งในพวกผู้เผยพระวจนะ>> พระองค์ตรัสถามเขาว่า <<แล้วพวกท่านเล่า ว่าเราเป็นใคร>> ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า <<พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่>> พระเยซูตรัสกับเขาว่า <<ซีโมนบุตรโยนาห์เอ๋ย ท่านก็เป็นสุขเพราะว่ามนุษย์มิได้แจ้งความนี้แก่ท่าน แต่พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงแจ้งให้ทราบ ฝ่ายเราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร และบนศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นหามิได้ เราจะมอบลูกกุญแจแผ่นดินสวรรค์ให้ไว้แก่ท่าน ท่านจะกล่าวห้ามสิ่งใดในโลก สิ่งนั้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์ เมื่อท่านจะกล่าวอนุญาตสิ่งใดในโลก สิ่งนั้นจะกล่าวอนุญาตในสวรรค์ด้วย>> แล้วพระองค์ทรงกำชับห้ามเหล่าสาวกของพระองค์มิให้บอกผู้ใดว่า พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์ ตั้งแต่เวลานั้นมา พระเยซูทรงเริ่มเผยแก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่า พระองค์จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม และจะต้องทนทุกข์ทรมานหลายประการจากพวกผู้ใหญ่ และพวกมหาปุโรหิตและพวกธรรมาจารย์ จนต้องถึงถูกประหารชีวิต แต่ในวันที่สามพระองค์จะทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาใหม่ ฝ่ายเปโตรเอามือจับพระองค์ทูลท้วงว่า <<พระองค์เจ้าข้าให้เหตุการณ์นั้นอยู่ห่างไกลจากพระองค์เถิด อย่าให้เป็นอย่างนั้นแก่พระองค์เลย>> พระองค์จึงหันพระพักตร์ตรัสกับเปโตรว่า <<อ้ายซาตานจงไปให้พ้น เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเรา เพราะเจ้าคิดอย่างคน มิได้คิดอย่างพระเจ้า>> ขณะนั้นพระเยซูจึงตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า <<ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามาให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา เพราะว่าผู้ใดใคร่จะเอาชีวิตรอด ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เรา ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลกแต่ต้องเสียชีวิตของตน ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร หรือผู้นั้นจะนำอะไรไปแลกเอาชีวิตของตนกลับคืนมา เหตุว่าเมื่อบุตรมนุษย์จะเสด็จมาด้วยพระสิริแห่งพระบิดา และพร้อมด้วยทูตสวรรค์ของพระองค์ เมื่อนั้นจะประทานบำเหน็จให้ทุกคนตามการกระทำของตน เรากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ในพวกท่านที่ยืนอยู่ที่นี่ มีบางคนที่ยังจะไม่รู้รสความตาย จนกว่าจะได้เห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาด้วยราชอำนาจของพระองค์ท่าน>>
มัทธิว 16:13-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
เมื่อมาถึงเขตซีซารียาฟีลิปปี พระองค์ตรัสถามเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “ผู้คนพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นใคร?” สาวกทูลว่า “บางคนก็ว่าเป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา บางคนว่าเป็นเอลียาห์ ยังมีบางคนว่าเป็นเยเรมีย์หรือผู้เผยพระวจนะคนใดคนหนึ่ง” พระองค์ทรงถามว่า “แล้วพวกท่านเล่า พวกท่านว่าเราเป็นใคร?” ซีโมนเปโตรทูลว่า “พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” พระเยซูตรัสว่า “ความสุขมีแก่ท่าน ซีโมนบุตรโยนาห์เอ๋ย เพราะมนุษย์ไม่ได้สำแดงเรื่องนี้แก่ท่าน แต่พระบิดาของเราในสวรรค์ทรงสำแดง เราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร และบนศิลานี้เราจะสร้างคริสตจักรของเราและประตูแดนมรณาจะเอาชนะคริสตจักรนั้นไม่ได้เลย เราจะมอบกุญแจแห่งอาณาจักรสวรรค์แก่ท่าน ท่านผูกมัดสิ่งใดในโลกสิ่งนั้นจะถูกผูกมัดในสวรรค์ ท่านปลดปล่อยสิ่งใดในโลกสิ่งนั้นจะถูกปลดปล่อยในสวรรค์” แล้วพระองค์ทรงเตือนเหล่าสาวกของพระองค์ไม่ให้บอกใครว่าพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์ นับแต่นั้นมาพระเยซูทรงเริ่มชี้แจงแก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่าพระองค์จะต้องไปยังเยรูซาเล็ม ต้องทนทุกข์หลายประการด้วยน้ำมือของบรรดาผู้อาวุโสและพวกหัวหน้าปุโรหิตกับเหล่าธรรมาจารย์ พระองค์จะต้องถูกประหาร และในวันที่สามจะทรงมีชีวิตกลับเป็นขึ้นมาใหม่ เปโตรดึงพระองค์เลี่ยงไปอีกทางหนึ่งและทูลติติงพระองค์ว่า “ไม่มีทางพระองค์เจ้าข้า! สิ่งนี้ไม่มีทางจะเกิดขึ้นกับพระองค์!” พระเยซูทรงหันมาตรัสกับเปโตรว่า “ถอยไปเจ้าซาตาน! เจ้าเป็นหินให้เราสะดุด เจ้าไม่ได้คิดอย่างพระเจ้าแต่คิดอย่างมนุษย์” แล้วพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกว่า “หากผู้ใดปรารถนาจะเป็นสาวกของเราให้ผู้นั้นปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบก และตามเรามา เพราะผู้ใดต้องการเอาชีวิตรอดผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดพลีชีวิตเพื่อเราผู้นั้นจะได้ชีวิต จะมีประโยชน์อะไรถ้าคนๆ หนึ่งจะได้โลกนี้ทั้งโลกแต่ต้องสูญเสียจิตวิญญาณของตน? หรือใครจะเอาอะไรมาแลกกับจิตวิญญาณของตนได้? เพราะบุตรมนุษย์จะเสด็จมาด้วยพระเกียรติสิริของพระบิดาพร้อมกับทูตสวรรค์ของพระองค์ เมื่อนั้นพระองค์จะปูนบำเหน็จแก่แต่ละคนตามการกระทำของเขา เราบอกความจริงแก่ท่านว่าบางคนซึ่งยืนอยู่ที่นี่จะได้เห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาในอาณาจักรของพระองค์ก่อนที่จะลิ้มรสความตาย”
มัทธิว 16:13-28 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
เมื่อพระเยซูเสด็จเข้าไปในเขตเมืองซีซารียาฟีลิปปี พระองค์ตรัสถามพวกสาวกของพระองค์ว่า “คนทั่วไปพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นใคร?” เขาทั้งหลายทูลตอบว่า “บางคนว่าเป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา แต่บางคนว่าเป็นเอลียาห์ ส่วนคนอื่นๆ ว่าเป็นเยเรมีย์ หรือเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้เผยพระวจนะ” แล้วพระองค์ตรัสถามเขาทั้งหลายว่า “แล้วพวกท่านว่าเราเป็นใคร?” ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระองค์เป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ซีโมนบุตรโยนาห์เอ๋ย ท่านก็เป็นสุข เพราะมนุษย์ไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้แก่ท่าน แต่พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผยให้ทราบ เราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร และบนศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรไม่ได้ เราจะมอบลูกกุญแจต่างๆ แห่งแผ่นดินสวรรค์ให้ไว้แก่ท่าน สิ่งใดที่ท่านกล่าวห้ามในโลก สิ่งนั้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์ และสิ่งใดที่ท่านกล่าวอนุญาตในโลก สิ่งนั้นก็จะได้รับอนุญาตในสวรรค์” พระองค์ทรงกำชับพวกสาวกของพระองค์ไม่ให้บอกใครว่า พระองค์เป็นพระคริสต์ ตั้งแต่เวลานั้นมา พระเยซูทรงเริ่มเผยแก่บรรดาสาวกของพระองค์ว่า พระองค์จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม และจะต้องทรงทนทุกข์ทรมานหลายประการจากพวกผู้ใหญ่ พวกหัวหน้าปุโรหิต และพวกธรรมาจารย์ และทรงถูกประหารชีวิต แต่ในวันที่สามพระองค์จะทรงเป็นขึ้นมาใหม่ เปโตรดึงพระองค์ออกมา และเริ่มว่ากล่าวพระองค์ว่า “อย่าให้เป็นเช่นนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้า จะให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดกับพระองค์ไม่ได้” พระองค์จึงหันพระพักตร์มาตรัสกับเปโตรว่า “จงไปให้พ้น เจ้าซาตาน เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเราเพราะเจ้าไม่ได้คิดอย่างพระเจ้า แต่เจ้าคิดอย่างมนุษย์” พระเยซูจึงตรัสกับบรรดาสาวกของพระองค์ว่า “ถ้าใครต้องการจะติดตามเรา ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบกและตามเรามา เพราะว่าใครต้องการจะเอาชีวิตรอด คนนั้นจะเสียชีวิต แต่ใครยอมเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เรา คนนั้นจะได้ชีวิตรอด เพราะเขาจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าได้สิ่งของหมดทั้งโลกแต่ต้องเสียชีวิตของตน? หรือคนนั้นจะนำอะไรไปแลกชีวิตของตนกลับคืนมา? เพราะว่าเมื่อบุตรมนุษย์จะเสด็จมาด้วยพระรัศมีของพระบิดาพร้อมด้วยบรรดาทูตสวรรค์ของพระองค์ แล้วพระองค์จะทรงตอบแทนแต่ละคนตามการกระทำของเขา เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ในพวกท่านที่ยืนอยู่ที่นี่ มีบางคนยังจะไม่ลิ้มรสความตาย จนกว่าจะได้เห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาในราชอาณาจักรของพระองค์”
มัทธิว 16:13-28 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ครั้นพระเยซูเสด็จเข้าไปในเขตเมืองซีซารียาฟีลิปปี พระองค์จึงตรัสถามพวกสาวกของพระองค์ว่า “คนทั้งหลายพูดกันว่าเราซึ่งเป็นบุตรมนุษย์คือผู้ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “บางคนว่าเป็นยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา แต่บางคนว่าเป็นเอลียาห์ และคนอื่นว่าเป็นเยเรมีย์ หรือเป็นคนหนึ่งในพวกศาสดาพยากรณ์” พระองค์ตรัสถามเขาว่า “แล้วพวกท่านเล่าว่าเราเป็นผู้ใด” ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “ซีโมนบุตรโยนาเอ๋ย ท่านก็เป็นสุข เพราะว่าเนื้อหนังและโลหิตมิได้แจ้งความนี้แก่ท่าน แต่พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงแจ้งให้ทราบ ฝ่ายเราบอกท่านด้วยว่า ท่านคือเปโตร และบนศิลานี้เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ และประตูแห่งนรกจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นก็หามิได้ เราจะมอบลูกกุญแจของอาณาจักรแห่งสวรรค์ให้ไว้แก่ท่านท่าน จะผูกมัดสิ่งใดในโลก สิ่งนั้นก็จะถูกมัดในสวรรค์ และท่านจะปล่อยสิ่งใดในโลก สิ่งนั้นจะถูกปล่อยในสวรรค์” แล้วพระองค์ทรงกำชับห้ามเหล่าสาวกของพระองค์ มิให้บอกผู้ใดว่า พระองค์ทรงเป็นพระเยซูพระคริสต์ผู้นั้น ตั้งแต่เวลานั้นมา พระเยซูทรงเริ่มเผยแก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่า พระองค์จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม และจะต้องทนทุกข์ทรมานหลายประการจากพวกผู้ใหญ่และพวกปุโรหิตใหญ่และพวกธรรมาจารย์ จนต้องถูกประหารเสีย แต่ในวันที่สามจะทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาใหม่ ฝ่ายเปโตรเอามือจับพระองค์ เริ่มทูลท้วงพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า ให้เหตุการณ์นั้นอยู่ห่างไกลจากพระองค์เถิด อย่าให้เป็นอย่างนั้นแก่พระองค์เลย” พระองค์จึงหันพระพักตร์ตรัสกับเปโตรว่า “อ้ายซาตาน จงถอยไปข้างหลังเรา เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเรา เพราะเจ้ามิได้คิดตามพระดำริของพระเจ้า แต่ตามความคิดของมนุษย์” ขณะนั้นพระเยซูจึงตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา เพราะว่าผู้ใดใคร่จะเอาชีวิตของตนรอด ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตของตนเพราะเห็นแก่เรา ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องสูญเสียจิตวิญญาณของตน ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร หรือผู้นั้นจะนำอะไรไปแลกเอาจิตวิญญาณของตนกลับคืนมา เหตุว่าบุตรมนุษย์จะเสด็จมาด้วยสง่าราศีแห่งพระบิดา และพร้อมด้วยเหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ เมื่อนั้นพระองค์จะประทานบำเหน็จแก่ทุกคนตามการกระทำของตน เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ในพวกท่านที่ยืนอยู่ที่นี่ มีบางคนที่ยังจะไม่รู้รสความตาย จนกว่าจะได้เห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาในราชอาณาจักรของท่าน”
มัทธิว 16:13-28 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
เมื่อพระเยซูเข้าไปถึงเขตเมืองซีซารียาฟีลิปปี พระองค์เริ่มถามบรรดาสาวกว่า “ผู้คนพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นใคร” พวกเขาพูดว่า “บางคนพูดว่า เป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา บ้างพูดว่าเป็นเอลียาห์ บางคนก็ว่าเป็นเยเรมีย์ หรือเป็นผู้หนึ่งในบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า” พระองค์กล่าวว่า “แต่พวกเจ้าพูดว่าเราเป็นใคร” ซีโมนเปโตรตอบว่า “พระองค์เป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าผู้ดำรงอยู่” พระเยซูกล่าวตอบเปโตรว่า “ซีโมนบุตรโยนาห์เอ๋ย เจ้าก็เป็นสุข มนุษย์มิได้สำแดงเรื่องนี้ให้เจ้ารับรู้ แต่เป็นพระบิดาในสวรรค์ของเรา เราขอบอกเจ้าด้วยว่า เจ้าคือเปโตร เราจะสร้างคริสตจักรของเราบนหินนี้ และแม้พลังจากแดนคนตายก็ไม่อาจมีชัยต่อคริสตจักรนี้ได้ เราจะให้ลูกกุญแจของอาณาจักรแห่งสวรรค์แก่เจ้า อะไรก็ตามที่เจ้าห้ามในโลกก็จะถูกห้ามในสวรรค์ และอะไรก็ตามที่เจ้าอนุญาตในโลก ก็จะได้รับอนุญาตในสวรรค์” แล้วพระองค์กำชับบรรดาสาวกว่า พวกเขาจะต้องไม่บอกผู้ใดว่า พระองค์เป็นพระคริสต์ จากนั้นมา พระเยซูเริ่มแสดงให้บรรดาสาวกทราบว่า พระองค์ต้องไปยังเมืองเยรูซาเล็ม จะต้องทนทุกข์ทรมานหลายประการจากพวกผู้ใหญ่ มหาปุโรหิต และจากพวกอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติ พระองค์จะถูกประหารชีวิต แล้ว 3 วันต่อมาจะฟื้นคืนชีวิต เปโตรก็พูดทัดทานพระองค์เป็นการส่วนตัวว่า “พระองค์ท่าน ขอพระเจ้าโปรดอย่าให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นเลย จะให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นกับพระองค์ไม่ได้” แล้วพระองค์ก็หันไปพูดกับเปโตรว่า “เจ้าซาตาน จงไปให้พ้น เจ้าเป็นสิ่งกีดขวางเรา เพราะเจ้าไม่คิดในมุมมองของพระเจ้า แต่คิดจากมุมมองของมนุษย์” แล้วพระเยซูกล่าวกับบรรดาสาวกของพระองค์ว่า “ถ้าใครปรารถนาจะตามเรามา เขาต้องไม่เห็นแก่ตนเอง และแบกไม้กางเขนของเขา และติดตามเราไป เพราะใครก็ตามที่ต้องการช่วยชีวิตของตนให้รอด จะสูญเสียชีวิตนั้นไป แต่ใครก็ตามที่ยอมเสียชีวิตของเขาเพื่อเรา ก็จะรักษาชีวิตไว้ จะมีประโยชน์อันใด หากคนหนึ่งได้ทั้งโลกมาเป็นของตน แต่ต้องเสียชีวิตของเขาไป หรือคนหนึ่งจะเอาอะไรมาแลกเปลี่ยนกับชีวิตของตนได้ บุตรมนุษย์จะมาด้วยพระสง่าราศีของพระบิดาของท่าน พร้อมด้วยบรรดาทูตสวรรค์ของท่าน แล้วจะสนองตอบแก่ทุกคนตามแต่การกระทำของเขา เราขอบอกความจริงกับเจ้าว่า บางคนที่ยืนอยู่ที่นี่จะไม่รู้รสความตาย ก่อนที่จะเห็นบุตรมนุษย์มาในอาณาจักรของท่าน”