มัทธิว 16:1-14
มัทธิว 16:1-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
พวกฟาริสีและสะดูสีมาหาพระเยซูและทดสอบพระองค์โดยขอให้ทรงแสดงหมายสำคัญจากฟ้าสวรรค์ พระเยซูทรงตอบว่า “ตอนเย็นท่านพูดว่า ‘อากาศจะปลอดโปร่งเพราะฟ้าแดง’ และตอนเช้าท่านพูดว่า ‘วันนี้จะเกิดพายุเพราะฟ้าแดงและครึ้มฝน’ ท่านยังพยากรณ์อากาศได้จากลักษณะของท้องฟ้า แต่หมายสำคัญของวาระต่างๆ ท่านกลับตีความไม่ออก คนในยุคที่ชั่วร้ายและทรยศต่อพระเจ้ามองหาหมายสำคัญ แต่จะไม่ได้รับหมายสำคัญใดๆ ยกเว้นหมายสำคัญของโยนาห์” แล้วพระเยซูทรงละจากพวกเขาไป เมื่อข้ามฟากเหล่าสาวกลืมเอาขนมปังมาด้วย พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “จงระวังเชื้อของพวกฟาริสีและสะดูสี” เขาจึงหารือกันว่า “เป็นเพราะเราลืมเอาขนมปังมาด้วย” พระเยซูทรงทราบสิ่งที่พวกเขาพูดกันจึงตรัสถามว่า “ผู้มีความเชื่อน้อย ทำไมพวกท่านจึงพูดกันเรื่องไม่มีขนมปัง? ท่านยังไม่เข้าใจหรือ? จำไม่ได้หรือว่าขนมปังห้าก้อนเลี้ยงคนห้าพันคนแล้วท่านเก็บที่เหลือได้กี่ตะกร้า? หรือขนมปังเจ็ดก้อนเลี้ยงคนสี่พันคนแล้วท่านก็เก็บที่เหลือได้กี่ตะกร้า? เหตุใดท่านจึงไม่เข้าใจว่าเราไม่ได้พูดถึงขนมปัง? แต่พวกท่านจงระวังเชื้อของพวกฟาริสีและสะดูสี” แล้วพวกเขาจึงเข้าใจว่าพระองค์ไม่ได้ทรงเตือนให้ระวังเชื้อที่ใช้ในขนมปัง แต่ให้ระวังคำสอนของพวกฟาริสีและสะดูสี เมื่อมาถึงเขตซีซารียาฟีลิปปี พระองค์ตรัสถามเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “ผู้คนพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นใคร?” สาวกทูลว่า “บางคนก็ว่าเป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา บางคนว่าเป็นเอลียาห์ ยังมีบางคนว่าเป็นเยเรมีย์หรือผู้เผยพระวจนะคนใดคนหนึ่ง”
มัทธิว 16:1-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
พวกฟาริสีและพวกสะดูสีเรียกให้พระเยซูทำเรื่องอัศจรรย์ให้ดู เพื่อทดสอบว่าพระองค์มาจากพระเจ้าจริงหรือไม่ พระเยซูตอบว่า “เมื่อท้องฟ้าสีแดงในตอนเย็น คุณบอกว่าพรุ่งนี้อากาศจะดี เมื่อท้องฟ้าสีแดงและมืดครึ้มในตอนเช้า คุณบอกว่าวันนี้ฝนจะตก คุณรู้จักที่จะตีความหมายของดินฟ้าอากาศ แต่กลับไม่รู้จักความหมายของสิ่งเหล่านี้ที่เราทำ มีแต่คนที่ชั่วและไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้า ที่เรียกร้องให้ทำการอัศจรรย์ให้ดู แต่เราจะไม่ทำอะไรให้ดูนอกจากการอัศจรรย์ของโยนาห์” แล้วพระเยซูก็ไปจากพวกเขา ขณะที่พวกศิษย์ของพระเยซูกำลังข้ามทะเลสาบไปอีกฟากหนึ่งนั้น ก็ลืมเอาขนมปังมาด้วย พระเยซูได้เตือนพวกเขาว่า “ระวังเชื้อของพวกฟาริสีและพวกสะดูสีให้ดีนะ” พวกศิษย์จึงพูดกันว่า “ที่อาจารย์พูดอย่างนี้ ต้องเป็นเพราะพวกเราลืมเอาขนมปังมาแน่ๆ” พระเยซูรู้ว่าพวกเขากำลังพูดเรื่องอะไร จึงพูดว่า “พวกคุณนี่ช่างมีความเชื่อน้อยจริงๆ ไปพูดกันถึงเรื่องไม่มีขนมปังทำไม นี่พวกคุณยังไม่เข้าใจอีกหรือ จำไม่ได้แล้วหรือ ตอนที่เราแบ่งขนมปังห้าก้อนเลี้ยงคนห้าพันคน พวกคุณเก็บเศษที่เหลือได้กี่เข่ง หรือตอนที่เราแบ่งขนมปังเจ็ดก้อนเลี้ยงคนสี่พันคน พวกคุณเก็บเศษที่เหลือได้กี่เข่ง ทำไมพวกคุณถึงไม่เข้าใจนะว่า เราไม่ได้พูดถึงเรื่องขนมปัง แต่เราเตือนให้พวกคุณระวังเชื้อของพวกฟาริสีและพวกสะดูสี” ในที่สุดพวกศิษย์ก็เข้าใจแล้วว่า พระองค์ไม่ได้พูดถึงเชื้อที่ใส่ในขนมปัง แต่เตือนให้ระวังเรื่องคำสอนของพวกฟาริสีและสะดูสี เมื่อพระเยซูมาถึงแคว้นซีซารียาฟีลิปปี พระองค์ถามพวกศิษย์ว่า “คนเขาพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นใครกัน” พวกศิษย์ตอบว่า “บางคนว่าเป็นยอห์นคนที่ทำพิธีจุ่มน้ำ บางคนก็ว่าเป็นเอลียาห์ บางคนก็ว่าเป็นเยเรมียาห์หรือเป็นคนหนึ่งในพวกผู้พูดแทนพระเจ้า”
มัทธิว 16:1-14 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
พวกฟาริสีกับพวกสะดูสีมาทดลองพระองค์ โดยขอให้พระองค์ทรงแสดงหมายสำคัญจากฟ้าสวรรค์ให้เห็น พระองค์จึงตรัสตอบเขาทั้งหลายว่า “[พอตกเย็นท่านทั้งหลายพูดว่า ‘อากาศจะปลอดโปร่งเพราะท้องฟ้าสีแดง’ พอรุ่งเช้าพวกท่านก็พูดว่า ‘วันนี้จะมีพายุฝนเพราะท้องฟ้าสีแดงและมืดครึ้ม’ ท้องฟ้านั้นท่านทั้งหลายยังรู้จักสังเกตและเข้าใจ แต่หมายสำคัญแห่งกาลเวลานี้พวกท่านกลับไม่เข้าใจ] คนในยุคชั่วร้ายและไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าชอบแสวงหาหมายสำคัญ แต่จะไม่โปรดให้หมายสำคัญแก่เขาทั้งหลาย เว้นไว้แต่หมายสำคัญของโยนาห์เท่านั้น” แล้วพระองค์ก็เสด็จไปจากพวกเขา เมื่อข้ามฟากไปแล้ว สาวกของพระองค์ลืมเอาขนมปังไปด้วย เมื่อพระเยซูตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “จงสังเกตและระวังเชื้อของพวกฟาริสี และพวกสะดูสีให้ดี” พวกสาวกจึงพูดกันว่า “เพราะเราไม่ได้เอาขนมปังมา” พระเยซูทรงทราบจึงตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “พวกท่านช่างมีความเชื่อน้อยจริงๆ ทำไมพวกท่านถึงพูดกันเรื่องไม่มีขนมปัง? ท่านยังไม่เข้าใจหรือ? พวกท่านจำไม่ได้หรือเรื่องขนมปังห้าก้อนกับคนห้าพันคนนั้น พวกท่านเก็บที่เหลือได้กี่ตะกร้า? หรือเรื่องขนมปังเจ็ดก้อนกับคนสี่พันคนนั้น ท่านเก็บที่เหลือได้กี่กระบุง? ทำไมถึงไม่เข้าใจว่า เราไม่ได้พูดกับท่านทั้งหลายเรื่องขนมปัง แต่ให้ระวังเชื้อของพวกฟาริสีและพวกสะดูสีให้ดี?” พวกสาวกจึงเข้าใจว่า พระองค์ไม่ได้ตรัสสั่งเขาทั้งหลายให้ระวังเชื้อ แต่ให้ระวังคำสอนของพวกฟาริสีและพวกสะดูสี เมื่อพระเยซูเสด็จเข้าไปในเขตเมืองซีซารียาฟีลิปปี พระองค์ตรัสถามพวกสาวกของพระองค์ว่า “คนทั่วไปพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นใคร?” เขาทั้งหลายทูลตอบว่า “บางคนว่าเป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา แต่บางคนว่าเป็นเอลียาห์ ส่วนคนอื่นๆ ว่าเป็นเยเรมีย์ หรือเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้เผยพระวจนะ”
มัทธิว 16:1-14 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
พวกฟาริสีกับพวกสะดูสีได้มาทดลองพระองค์โดยขอร้องให้พระองค์สำแดงหมายสำคัญจากฟ้าสวรรค์ให้เขาเห็น พระองค์จึงตรัสตอบเขาว่า “พอตกเย็นท่านทั้งหลายพูดว่า ‘รุ่งขึ้นอากาศจะโปร่งดีเพราะฟ้าสีแดง’ ในเวลาเช้าท่านพูดว่า ‘วันนี้จะเกิดพายุฝนเพราะฟ้าแดงและมัว’ โอ คนหน้าซื่อใจคด ท้องฟ้านั้นท่านทั้งหลายยังอาจสังเกตรู้และเข้าใจได้ แต่หมายสำคัญแห่งกาลนี้ท่านกลับไม่เข้าใจ คนชาติชั่วและเล่นชู้แสวงหาหมายสำคัญ และจะไม่โปรดให้หมายสำคัญแก่เขา เว้นไว้แต่หมายสำคัญของโยนาห์ศาสดาพยากรณ์เท่านั้น” แล้วพระองค์ก็เสด็จไปจากเขา ฝ่ายพวกสาวกของพระองค์ เมื่อข้ามฟากนั้นได้ลืมเอาขนมปังไปด้วย พระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงสังเกตและระวังเชื้อแห่งพวกฟาริสีและพวกสะดูสีให้ดี” เหล่าสาวกจึงปรึกษากันว่า “เพราะเหตุที่เรามิได้เอาขนมปังมา” ฝ่ายพระเยซูทรงทราบจึงตรัสกับเขาว่า “โอ ผู้มีความเชื่อน้อย เหตุไฉนพวกท่านจึงปรึกษากันและกันถึงเรื่องไม่ได้เอาขนมปังมา ท่านยังไม่เข้าใจและจำไม่ได้หรือ เรื่องขนมปังห้าก้อนกับคนห้าพันคนนั้น ท่านเก็บที่เหลือได้กี่กระบุง หรือขนมปังเจ็ดก้อนกับคนสี่พันคนนั้น ท่านเก็บที่เหลือได้กี่กระบุง เป็นไฉนพวกท่านถึงไม่เข้าใจว่า เรามิได้พูดกับท่านด้วยเรื่องขนมปัง แต่ได้ว่าให้ท่านระวังเชื้อแห่งพวกฟาริสีและพวกสะดูสีให้ดี” แล้วพวกสาวกก็เข้าใจว่า พระองค์มิได้ตรัสสั่งเขาให้ระวังเชื้อขนมปัง แต่ให้ระวังคำสอนของพวกฟาริสีและพวกสะดูสี ครั้นพระเยซูเสด็จเข้าไปในเขตเมืองซีซารียาฟีลิปปี พระองค์จึงตรัสถามพวกสาวกของพระองค์ว่า “คนทั้งหลายพูดกันว่าเราซึ่งเป็นบุตรมนุษย์คือผู้ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “บางคนว่าเป็นยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา แต่บางคนว่าเป็นเอลียาห์ และคนอื่นว่าเป็นเยเรมีย์ หรือเป็นคนหนึ่งในพวกศาสดาพยากรณ์”
มัทธิว 16:1-14 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
พวกฟาริสีกับพวกสะดูสีได้มาทดลองพระองค์ โดยขอแสดงหมายสำคัญจากฟ้าสวรรค์ให้เขาเห็น พระองค์จึงตรัสตอบเขาว่า [<<พอตกเย็นท่านทั้งหลายพูดว่า <รุ่งขึ้นอากาศจะโปร่งดีเพราะฟ้าสีแดง> ในเวลาเช้าท่านพูดว่า <วันนี้จะเกิดพายุฝนเพราะฟ้าแดงและมัว> ท้องฟ้านั้นท่านทั้งหลายยังอาจสังเกตรู้และเข้าใจได้ แต่หมายสำคัญแห่งกาละนี้ท่านกลับไม่เข้าใจ] คนชาติชั่วและคิดคดทรยศต่อพระเจ้าแสวงหาหมายสำคัญ และจะไม่โปรดให้หมายสำคัญแก่เขา เว้นไว้แต่หมายสำคัญของโยนาห์เท่านั้น>> แล้วพระองค์ก็เสด็จไปจากเขา ฝ่ายพวกสาวกของพระองค์ เมื่อข้ามฟากนั้นได้ลืมเอาขนมปังไปด้วย เมื่อพระเยซูตรัสกับเขาว่า <<จงสังเกตและระวังเชื้อแห่งพวกฟาริสี และพวกสะดูสีให้ดี>> เหล่าสาวกจึงพูดกันว่า <<เพราะเหตุที่เรามิได้เอาขนมปังมา>> ฝ่ายพระเยซูทรงทราบจึงตรัสกับเขาว่า <<โอ ผู้มีความเชื่อน้อย เหตุไฉนพวกท่านจึงพูดกันและกันถึงเรื่องไม่มีขนมปัง ท่านยังไม่หยั่งรู้และจำไม่ได้หรือ เรื่องขนมปังห้าก้อนกับคนห้าพันคนนั้น ท่านเก็บที่เหลือได้กี่กระบุง หรือขนมปังเจ็ดก้อนกับคนสี่พันคนนั้น ท่านเก็บที่เหลือได้กี่ตะกร้า เป็นไฉนพวกท่านจึงไม่หยั่งรู้ว่า เรามิได้พูดกับท่านด้วยเรื่องขนมปัง แต่ได้ว่าให้ระวังเชื้อแห่งพวกฟาริสีและพวกสะดูสีให้ดี>> แล้วพวกสาวกก็เข้าใจว่า พระองค์มิได้ตรัสสั่งเขาให้ระวังเชื้อขนมปัง แต่ให้ระวังคำสอนของพวกฟาริสีและพวกสะดูสี ครั้นพระเยซูเสด็จเข้าไปในเขตเมืองซีซารียา ฟีลิปปี จึงตรัสถามพวกสาวกของพระองค์ว่า <<คนทั้งหลายพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นผู้ใด>> เขาจึงทูลตอบว่า <<เขาว่าเป็นยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา แต่บางคนว่าเป็นเอลียาห์ และคนอื่นว่าเป็นเยเรมีย์ หรือเป็นคนหนึ่งในพวกผู้เผยพระวจนะ>>
มัทธิว 16:1-14 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
พวกฟาริสีและสะดูสีเข้ามาใกล้พระเยซูเพื่อทดสอบขอให้พระองค์แสดงปรากฏการณ์อัศจรรย์จากสวรรค์ พระองค์กล่าวตอบพวกเขาว่า “เมื่อถึงเวลาเย็น พวกท่านจะพูดว่า ‘อากาศจะดี เพราะท้องฟ้าแดง’ ในเวลาเช้าก็ว่า ‘วันนี้จะมีพายุ เพราะท้องฟ้าแดงครึ้ม’ ท่านรู้จักตีความหมายของความเป็นไปของท้องฟ้า แต่ปรากฏการณ์อัศจรรย์ต่างๆ ของเวลานี้ ท่านไม่สามารถตีความได้ คนในช่วงกาลเวลาอันชั่วโฉดและไม่ภักดีต่อพระเจ้า แสวงหาปรากฏการณ์อัศจรรย์แต่จะไม่ได้รับ นอกจากปรากฏการณ์อัศจรรย์ของโยนาห์เท่านั้น” ครั้นแล้วพระองค์ก็จากไป บรรดาสาวกข้ามไปยังอีกฟากหนึ่งและลืมเอาขนมปังไปด้วย พระเยซูกล่าวกับพวกเขาว่า “จงระวังเชื้อยีสต์ของพวกฟาริสีและสะดูสีให้ดี” พวกเขาจึงพูดกันเองว่า “เป็นเพราะว่าพวกเราไม่ได้เอาขนมปังมาด้วย” พระเยซูทราบเรื่องดีจึงกล่าวว่า “ช่างมีความเชื่อน้อยจริง ทำไมพวกเจ้าจึงพูดกันในพวกเจ้าถึงเรื่องไม่มีขนมปัง พวกเจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ จำเรื่องขนมปัง 5 ก้อนกับคน 5,000 คนไม่ได้หรือ และเจ้าเก็บได้เต็มกี่ตะกร้า หรือขนมปัง 7 ก้อนกับคน 4,000 คน เจ้ารวบรวมได้กี่ตะกร้าใหญ่ เป็นอย่างไรนะ ที่พวกเจ้าไม่เข้าใจว่าเราไม่ได้พูดกับเจ้าเรื่องขนมปังเลย แต่จงระวังเชื้อยีสต์ของพวกฟาริสีและสะดูสี” แล้วพวกสาวกจึงเข้าใจว่าพระองค์ไม่ได้กล่าวว่า ให้ระวังเชื้อยีสต์ในขนมปัง แต่ให้ระวังการสั่งสอนของพวกฟาริสีและสะดูสี เมื่อพระเยซูเข้าไปถึงเขตเมืองซีซารียาฟีลิปปี พระองค์เริ่มถามบรรดาสาวกว่า “ผู้คนพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นใคร” พวกเขาพูดว่า “บางคนพูดว่า เป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา บ้างพูดว่าเป็นเอลียาห์ บางคนก็ว่าเป็นเยเรมีย์ หรือเป็นผู้หนึ่งในบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า”