มัทธิว 15:1-20

มัทธิว 15:1-20 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พวก​ฟาริสี​และ​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ​ได้​เดิน​ทาง​จาก​เมือง​เยรูซาเล็ม​มา​หา​พระองค์ และ​ถาม​พระองค์​ว่า “ทำไม​ศิษย์​ของ​คุณ​ถึง​ไม่​ทำ​ตาม​ประเพณี​ที่​สืบทอด​กัน​มา​จาก​บรรพบุรุษ ทำไม​พวก​เขา​ถึง​ไม่​ล้าง​มือ​ก่อน​กิน​อาหาร” พระเยซู​ตอบ​ว่า “แล้ว​ทำไม​พวก​คุณ​ถึง​ขัด​คำสั่ง​พระเจ้า​เพราะ​เห็นแก่​ประเพณี​ของ​พวก​คุณ​ล่ะ พระเจ้า​บอก​ว่า ‘ให้​เคารพ​นับถือ​พ่อ​และ​แม่’ และ ‘ใคร​สาปแช่ง​พ่อแม่​จะ​มี​โทษ​ถึง​ตาย’ แต่​พวก​คุณ​กลับ​สอน​ว่า​ไม่​ผิด​ที่​จะ​บอก​พ่อแม่​ว่า ‘สิ่ง​ที่​ลูก​จะ​เอา​มา​ช่วย​พ่อแม่​ได้​นั้น ลูก​ได้​ยก​ให้​กับ​พระเจ้า​ไป​หมด​แล้ว’ ด้วย​วิธีนี้ เขา​ก็​เลย​ไม่​ต้อง​เคารพ​พ่อ​ของ​เขา เพราะ​เห็นแก่​ประเพณี​ของ​คุณ คุณ​ยกเลิก​พระคำ​ของ​พระเจ้า ไอ้​พวก​หน้าซื่อใจคด อิสยาห์​ได้​พูด​แทน​พระเจ้า​เกี่ยว​กับ​พวก​คุณ​ไว้​ถูกต้อง​เลย​ที่​ว่า ‘คน​พวกนี้​นับถือ​เรา​แต่​ปาก​เท่า​นั้น แต่​ใจ​ของ​เขา​ห่างไกล​จาก​เรา​มาก จึง​ไม่​มี​ประโยชน์​ที่​เขา​จะ​บูชา​เรา เพราะ​สิ่ง​ที่​เขา​สอน​กัน​นั้น เป็น​แค่​กฎ​ที่​มนุษย์​ตั้ง​ขึ้น’” พระเยซู​เรียก​ฝูงชน​เข้า​มา​และ​พูด​ว่า “ฟัง​ให้​เข้าใจ​นะ สิ่ง​ที่​เข้า​ไป​ใน​ปาก​ไม่​ทำ​ให้​คน​สกปรก​ใน​สายตา​พระเจ้า​หรอก แต่​สิ่ง​ที่​ออก​มา​จาก​ปาก​นั่น​แหละ ที่​ทำ​ให้​คน​สกปรก​ใน​สายตา​พระเจ้า” พวก​ศิษย์​เข้า​มา​บอก​พระเยซู​ว่า “อาจารย์​รู้​หรือ​เปล่า ที่​อาจารย์​พูด​ไป​นั้น ทำ​ให้​พวก​ฟาริสี​โกรธ​แค้น​มาก” พระเยซู​ตอบ​ว่า “ต้นไม้​ทุก​ต้น​ที่​พระบิดา​ของ​เรา​บน​สวรรค์​ไม่​ได้​ปลูก ก็​จะ​ถูก​ถอนราก​ถอนโคน​จน​หมด ไม่​ต้อง​ไป​สนใจ​หรอก พวก​เขา​เป็น​คน​นำ​ทาง​ตาบอด ถ้า​คน​ตาบอด​นำทาง​คน​ตาบอด ทั้ง​สอง​คน​ก็​จะ​ตก​ลง​ไป​ใน​คู” เปโตร​บอก​พระเยซู​ว่า “ช่วย​อธิบาย​เรื่อง​เปรียบเทียบ​ที่​เพิ่ง​พูด​ไป​นั้น​ให้​ฟัง​หน่อย​ครับ” พระเยซู​พูด​ว่า “อะไร​กัน ยัง​ไม่​เข้าใจ​อีก​หรือ ไม่​เห็น​หรือ​ว่า ทุก​อย่าง​ที่​คน​กิน​เข้า​ไป​ใน​ปาก​จะ​ตก​ลง​ไป​ใน​ท้อง แล้ว​ถ่าย​ออก​มา แต่​สิ่ง​ที่​พูด​ออก​มา​จาก​ปาก​นั้น มัน​มา​จาก​ใจ และ​สิ่งนี้​เอง​ที่​ทำ​ให้​คน​สกปรก​ใน​สายตา​พระเจ้า เพราะ​สิ่ง​ที่​ออก​มา​จาก​ใจ คือ​ความคิด​ชั่วร้าย การเข่นฆ่ากัน การมีชู้ ความผิดบาป​ทางเพศ​อื่นๆ การลักขโมย การโกหก การใส่ร้ายป้ายสีกัน สิ่ง​เหล่านี้​แหละ​เป็น​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​คน​สกปรก​ใน​สายตา​พระเจ้า แต่​การ​ที่​ไม่​ได้​ล้าง​มือ​ก่อน​กิน​อาหาร ไม่​ทำ​ให้​คน​สกปรก​ใน​สายตา​พระเจ้า​หรอก”

มัทธิว 15:1-20 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ครั้งนั้นพวกฟาริสีและพวกธรรมาจารย์ออกจากกรุงเยรูซาเล็ม มาทูลถามพระเยซูว่า <<ทำไมพวกสาวกของท่านจึงละเมิดคำสอนที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ด้วยว่าเขามิได้ล้างมือเมื่อรับประทานอาหาร>> พระองค์จึงตรัสตอบเขาว่า <<เหตุไฉนพวกท่านจึงละเมิดพระบัญญัติของพระเจ้า ด้วยเห็นแก่คำสอนที่พวกท่านรับมาจากบรรพบุรุษเล่า เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ว่า <จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า> และ <ผู้ใดประณามบิดามารดาจะต้องมีโทษถึงตาย> แต่พวกท่านกลับสอนว่า <ผู้ใดจะกล่าวแก่บิดามารดาว่า <<สิ่งใดของข้าพเจ้าซึ่งอาจเป็นประโยชน์แก่ท่าน สิ่งนั้นเป็นของถวายแด่พระเจ้าแล้ว>> ผู้นั้นจึงไม่ต้องให้เกียรติบิดามารดาของตน> อย่างนั้นแหละ ท่านทั้งหลายทำให้ธรรมบัญญัติของพระเจ้าเป็นหมันไป เพราะเห็นแก่คำสอนของพวกท่าน โอ คนหน้าซื่อใจคด อิสยาห์ได้พยากรณ์ถึงพวกท่านถูกแล้วว่า ประชาชนนี้ให้เกียรติเราแต่ปาก ใจของเขาห่างไกลจากเรา เขานมัสการเราโดยหาประโยชน์มิได้ ด้วยเอาบทบัญญัติของมนุษย์มาตู่ว่า เป็นพระดำรัสสอนของพระเจ้า>> แล้วพระองค์ทรงเรียกประชาชนและตรัสกับเขาว่า <<จงฟังและเข้าใจเถิด มิใช่สิ่งซึ่งเข้าไปในปากจะทำให้มนุษย์เป็นมลทิน แต่สิ่งซึ่งออกมาจากปากนั้นแหละทำให้มนุษย์เป็นมลทิน>> ขณะนั้นพวกสาวกมาทูลพระองค์ว่า <<พระองค์ทรงทราบแล้วหรือว่า เมื่อพวกฟาริสีได้ยินคำตรัสนั้นเขาแค้นเคืองนัก>> พระองค์จึงตรัสตอบว่า <<ต้นไม้ใดๆทุกต้น ซึ่งพระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ มิได้ทรงปลูกไว้จะต้องถอนเสีย ช่างเขาเถิด เขาเป็นคนนำทางตาบอด ถ้าคนตาบอดนำทางคนตาบอด ทั้งสองจะตกลงไปในบ่อ>> ฝ่ายเปโตรทูลพระองค์ว่า <<ขอพระองค์ทรงโปรดอธิบายคำเปรียบเทียบนั้น ให้พวกข้าพระองค์ทราบ>> ฝ่ายพระเยซูตรัสตอบว่า <<ท่านทั้งหลายยังไม่เข้าใจด้วยหรือ ท่านยังไม่เห็นหรือว่า สิ่งใดๆซึ่งเข้าไปในปากก็ลงไปในท้อง แล้วก็ถ่ายออกลงส้วมไป แต่สิ่งที่ออกจากปากก็ออกมาจากใจ สิ่งนั้นแหละทำให้มนุษย์เป็นมลทิน ความคิดชั่วร้าย การฆ่าคน การผิดผัวผิดเมีย การล่วงประเวณี การลักขโมย การเป็นพยานเท็จ การใส่ร้าย ก็ออกมาจากใจ สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน แต่ซึ่งจะรับประทานอาหารโดยไม่ล้างมือก่อน ไม่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน>>

มัทธิว 15:1-20 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

แล้วพวกฟาริสีและธรรมาจารย์จากกรุงเยรูซาเล็มมาทูลถามพระเยซูว่า “เหตุใดสาวกของท่านจึงละเมิดธรรมเนียมของผู้อาวุโส? พวกเขาไม่ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร!” พระเยซูตรัสว่า “แล้วทำไมพวกท่านละเมิดพระบัญชาของพระเจ้าด้วยเห็นแก่ธรรมเนียมเล่า? เพราะพระเจ้าตรัสว่า ‘จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า’ และ ‘ผู้ใดแช่งด่าบิดามารดาจะต้องมีโทษถึงตาย’ แต่พวกท่านบอกว่าหากใครพูดกับบิดามารดาว่า ‘สิ่งใดๆ จากข้าพเจ้าซึ่งอาจเป็นประโยชน์แก่ท่านก็เป็นของที่ได้อุทิศถวายแด่พระเจ้าแล้ว’ เขาจึงไม่ได้ ‘ให้เกียรติบิดา’ ด้วยสิ่งนั้น เหตุนี้ท่านจึงทำให้พระวจนะของพระเจ้าเป็นโมฆะไปเพราะเห็นแก่ธรรมเนียมของท่าน เจ้าคนหน้าซื่อใจคด อิสยาห์พูดถูกแล้วเมื่อเขาเผยพระวจนะเกี่ยวกับพวกเจ้าว่า “ ‘ประชากรเหล่านี้ยกย่องเราแต่ปาก แต่ใจของพวกเขาห่างไกลจากเรา พวกเขานมัสการเราโดยเปล่าประโยชน์ คำสอนของพวกเขาเป็นเพียงกฎเกณฑ์ที่มนุษย์สอนกันมา’” พระเยซูทรงเรียกฝูงชนเข้ามาหาพระองค์และตรัสว่า “จงฟังและเข้าใจเถิดว่า สิ่งที่เข้าไปในปากมนุษย์ไม่ได้ทำให้เขา ‘เป็นมลทิน’ แต่สิ่งที่ออกจากปากของเขาต่างหากที่ทำให้เขา ‘เป็นมลทิน’ ” แล้วเหล่าสาวกมาทูลถามพระองค์ว่า “พระองค์ทรงทราบหรือไม่ว่าพวกฟาริสีขัดเคืองยิ่งนักเมื่อได้ยินเช่นนี้?” พระองค์ตรัสว่า “ต้นไม้ทุกต้นที่พระบิดาของเราในสวรรค์ไม่ได้ปลูกไว้จะถูกขุดรากถอนโคน ช่างเขาเถิด เขาเป็นคนนำทางที่ตาบอด ถ้าคนตาบอดนำทางให้คนตาบอด ทั้งคู่ก็จะตกหลุมตกบ่อ” เปโตรทูลว่า “ขอทรงอธิบายคำอุปมานี้แก่พวกข้าพระองค์เถิด” พระเยซูตรัสถามพวกเขาว่า “พวกท่านยังไม่เข้าใจอีกหรือ? ไม่เห็นหรือว่าสิ่งใดๆ ที่เข้าไปในปากมนุษย์ก็ลงท้องแล้วออกจากร่างกาย? แต่สิ่งที่ออกมาจากปากนั้นออกมาจากใจ และสิ่งเหล่านี้ทำให้มนุษย์ ‘เป็นมลทิน’ เพราะความคิดชั่ว การเข่นฆ่า การล่วงประเวณี การผิดศีลธรรมทางเพศ การลักขโมย การเป็นพยานเท็จ การนินทาว่าร้าย ล้วนออกมาจากจิตใจ สิ่งเหล่านี้ทำให้มนุษย์ ‘เป็นมลทิน’ ส่วนการรับประทานอาหารโดยไม่ได้ล้างมือไม่ได้ทำให้ ‘เป็นมลทิน’ ”

มัทธิว 15:1-20 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เวลานั้นพวกฟาริสีและพวกธรรมาจารย์ออกจากกรุงเยรูซาเล็ม มาทูลถามพระเยซูว่า “ทำไมสาวกของท่านจึงละเมิดคำสอนที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ? เพราะว่าพวกเขาไม่ได้ล้างมือเมื่อรับประทานอาหาร” พระองค์จึงตรัสตอบเขาทั้งหลายว่า “เพราะเหตุใดท่านทั้งหลายจึงละเมิดพระบัญญัติของพระเจ้า เพราะคำสอนสืบทอดของท่าน? เพราะว่าพระเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า ‘จงให้เกียรติบิดามารดาของตน’ และ ‘ใครประณามบิดามารดาจะต้องมีโทษถึงตาย’ แต่พวกท่านกลับสอนว่า ‘ใครกล่าวกับบิดามารดาว่า “สิ่งใดของข้าพเจ้าซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน สิ่งนั้นเป็นของที่ถวายแด่พระเจ้าแล้ว” คนนั้นก็ไม่ต้องให้เกียรติบิดาของตน’อย่างนั้นแหละ พวกท่านทำให้พระวจนะของพระเจ้าเป็นโมฆะไป เพราะคำสอนสืบทอดของท่าน พวกหน้าซื่อใจคด อิสยาห์พยากรณ์ถึงท่านทั้งหลายถูกแล้วว่า ‘ชนชาตินี้ให้เกียรติเราแต่ปาก ใจของพวกเขาห่างไกลจากเรา พวกเขานมัสการเราโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเอากฎเกณฑ์ของมนุษย์มาสอนว่าเป็นพระดำรัสสอน’ ” แล้วพระองค์ทรงเรียกฝูงชนและตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “จงฟังและเข้าใจเถิด ไม่ใช่สิ่งซึ่งเข้าไปในปากจะทำให้มนุษย์เป็นมลทิน แต่สิ่งซึ่งออกมาจากปากนั้นแหละทำให้มนุษย์เป็นมลทิน” ขณะนั้นบรรดาสาวกมาทูลพระองค์ว่า “พระองค์ทรงทราบหรือไม่ว่า เมื่อพวกฟาริสีได้ยินคำตรัสนั้นเขาทั้งหลายไม่พอใจมาก?” พระองค์จึงตรัสตอบว่า “ต้นไม้ทุกต้น ซึ่งพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ ไม่ได้ทรงปลูกไว้จะต้องถูกถอนออกเสีย ช่างเถิด เขาทั้งหลายเป็นผู้นำที่ตาบอด [ของคนตาบอด] ถ้าคนตาบอดนำทางคนตาบอด ทั้งสองคนจะตกลงไปในบ่อ” เปโตรทูลพระองค์ว่า “ขอพระองค์โปรดอธิบายอุปมานั้นให้พวกข้าพระองค์ทราบ” พระเยซูตรัสตอบว่า “ท่านทั้งหลายยังไม่เข้าใจด้วยหรือ? ท่านทั้งหลายไม่เห็นหรือ? ว่าสิ่งใดๆ ซึ่งเข้าไปในปากก็ลงไปในท้อง แล้วก็ถ่ายออกลงส้วมไป แต่สิ่งที่ออกจากปากก็ออกมาจากใจ สิ่งนั้นแหละทำให้มนุษย์เป็นมลทิน ความคิดชั่วร้าย การฆ่าคน การเป็นชู้ การล่วงประเวณี การลักขโมย การเป็นพยานเท็จ การใส่ร้าย ก็ล้วนออกมาจากใจ สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน แต่การรับประทานอาหารโดยไม่ล้างมือก่อน ไม่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน”

มัทธิว 15:1-20 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ครั้งนั้น พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริ​สี ซึ่งมาจากกรุงเยรูซาเล็ม มาทูลถามพระเยซู​ว่า “ทำไมพวกสาวกของท่านจึงละเมิดประเพณีสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ด้วยว่าเขามิ​ได้​ล้างมือเมื่อเขารับประทานอาหาร” แต่​พระองค์​ได้​ตรัสตอบเขาว่า “​เหตุ​ไฉนพวกท่านจึงละเมิดพระบัญญั​ติ​ของพระเจ้าด้วยประเพณีของพวกท่านด้วยเล่า เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงบัญญั​ติ​ไว้​ว่า ‘จงให้​เกียรติ​แก่​บิ​ดามารดาของตน’ และ ‘​ผู้​ใดด่าแช่​งบ​ิดามารดาของตน ผู้​นั้นต้องถูกปรับโทษถึงตาย’ แต่​พวกท่านกลับสอนว่า ‘​ผู้​ใดจะกล่าวแก่​บิ​ดามารดาว่า “​สิ​่งใดของข้าพเจ้าซึ่งอาจเป็นประโยชน์​แก่​ท่าน สิ​่งนั้นเป็นของถวายแล้ว” ผู้​นั้นจึงไม่ต้องให้​เกียรติ​บิ​ดามารดาของตน’ อย่างนั้นแหละท่านทั้งหลายทำให้พระบัญญั​ติ​ของพระเจ้าเป็นหมันไปเพราะเห็นแก่​ประเพณี​ของพวกท่าน ท่านคนหน้าซื่อใจคด อิสยาห์​ได้​พยากรณ์​ถึงพวกท่านถูกแล้​วว​่า ‘ประชาชนนี้​เข​้ามาใกล้เราด้วยปากของเขา และให้​เกียรติ​เราด้วยริมฝีปากของเขา แต่​ใจของเขาห่างไกลจากเรา เขานมัสการเราโดยหาประโยชน์​มิได้ ด้วยเอาบทบัญญั​ติ​ของมนุษย์มาอวดอ้างว่า เป็นพระดำรัสสอน’” แล​้วพระองค์ทรงเรียกประชาชนและตรัสกับเขาว่า “จงฟังและเข้าใจเถิด มิใช่​สิ​่งซึ่งเข้าไปในปากจะทำให้​มนุษย์​เป็นมลทิน แต่​สิ​่งซึ่งออกมาจากปากนั้นแหละทำให้​มนุษย์​เป็นมลทิน” ขณะนั้นพวกสาวกมาทูลพระองค์​ว่า “​พระองค์​ทรงทราบแล้วหรือว่า เมื่อพวกฟาริ​สี​ได้​ยินคำตรั​สน​ั้น เขาแค้นเคืองใจนัก” พระองค์​จึงตรัสตอบว่า “​ต้นไม้​ใดๆทุกต้นซึ่งพระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์​มิได้​ทรงปลูกไว้จะต้องถอนเสีย ช่างเขาเถิด เขาเป็นผู้นำตาบอดนำทางคนตาบอด ถ้าคนตาบอดนำทางคนตาบอด ทั้งสองจะตกลงไปในบ่อ” ฝ่ายเปโตรทูลพระองค์​ว่า “ขอทรงโปรดอธิบายคำอุปมานี้​ให้​พวกข้าพระองค์ทราบเถิด” ฝ่ายพระเยซูตรัสตอบว่า “ท่านทั้งหลายยังไม่​เข​้าใจด้วยหรือ ท่านยังไม่​เข​้าใจหรือว่า สิ​่งใดๆซึ่งเข้าไปในปากก็ลงไปในท้อง แล้วก็​ถ่ายออกลงส้วมไป แต่​สิ​่งที่ออกจากปากก็ออกมาจากใจ สิ​่งนั้นแหละทำให้​มนุษย์​เป็นมลทิน ความคิดชั่วร้าย การฆาตกรรม การผิดผัวผิดเมีย การล่วงประเวณี การลักขโมย การเป็นพยานเท็จ การพูดหมิ่นประมาท ก็​ออกมาจากใจ สิ​่งเหล่านี้แหละที่​ทำให้​มนุษย์​เป็นมลทิน แต่​ซึ่งจะรับประทานอาหารโดยไม่ล้างมื​อก​่อน ไม่​ทำให้​มนุษย์​เป็นมลทิน”

มัทธิว 15:1-20 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

มี​พวก​ฟาริสี​และ​อาจารย์​ฝ่าย​กฎ​บัญญัติ​บาง​คน​มา​จาก​เมือง​เยรูซาเล็ม​มา​พูด​กับ​พระ​องค์​ว่า “ทำไม​บรรดา​สาวก​ของ​ท่าน​ละเมิด​ประเพณี​นิยม​ของ​บรรพบุรุษ พวก​เขา​ไม่​ล้าง​มือ​เวลา​รับประทาน​อาหาร” พระ​องค์​กล่าว​ตอบ​ว่า “แล้ว​ทำไม​พวก​ท่าน​จึง​ละเมิด​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​เจ้า​เพื่อ​เห็นแก่​ประเพณี​นิยม​ของ​ท่าน​เอง พระ​เจ้า​กล่าว​ว่า ‘จง​ให้​เกียรติ​บิดา​มารดา​ของ​เจ้า’ และ ‘คน​ที่​พูด​ว่าร้าย​บิดา​มารดา ก็​ให้​เขา​ได้​รับ​โทษ​ถึง​ตาย’ แต่​พวก​ท่าน​พูด​ว่า ‘ถ้า​ผู้​ใด​พูด​กับ​บิดา​หรือ​มารดา​ว่า “สิ่งของ​ของ​เรา​ที่​จะ​ช่วยเหลือ​ท่าน​ได้​นั้น ได้​มอบ​ให้​แด่​พระ​เจ้า​แล้ว” ดังนั้น​เขา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ให้​เกียรติ​บิดา​หรือ​มารดา​ของ​เขา’ ซึ่ง​เป็น​อันว่า​พวก​ท่าน​ยกเลิก​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​เพื่อ​เห็นแก่​ประเพณี​นิยม​ของ​ท่าน พวก​ท่าน​เป็น​คน​หน้าไหว้​หลังหลอก อิสยาห์​ได้​เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ถึง​พวก​ท่าน​ถูกต้อง​แล้ว​ว่า ‘คน​เหล่า​นี้​ให้​เกียรติ​เรา​เพียง​แค่​ปาก แต่​ใจ​ของ​เขา​ห่าง​ไกล​จาก​เรา พวก​เขา​กราบ​นมัสการ​เรา​โดย​ไร้​ประโยชน์ เขา​สอน​กฎเกณฑ์​ของ​มนุษย์ เสมือน​ว่า​เป็น​คำ​สั่งสอน​ของ​พระ​เจ้า’” หลัง​จาก​พระ​องค์​ได้​เรียก​ฝูง​ชน​มา​แล้ว พระ​องค์​กล่าว​ว่า “จง​ฟัง​และ​เข้าใจ​ว่า ไม่​ใช่​สิ่ง​ที่​เข้า​ปาก​ที่​ทำ​ให้​คน​เป็น​มลทิน แต่​สิ่ง​ที่​ออกจาก​ปาก​นั่นแหละ​ที่​ทำ​ให้​คน​เป็น​มลทิน” บรรดา​สาวก​มา​พูด​กับ​พระ​องค์​ว่า “พระ​องค์​ทราบ​ไหม​ว่า พวก​ฟาริสี​โกรธ​เคือง​มาก​ที่​ได้ยิน​พระ​องค์​กล่าว​เช่น​นั้น” พระ​องค์​กล่าว​ตอบ​ว่า “ต้นไม้​ทุก​ต้น​ที่​พระ​บิดา​ใน​สวรรค์​ของ​เรา​ไม่​ได้​ปลูก​ไว้​จะ​ถูก​ถอน​ราก​เสีย ช่าง​พวก​เขา​เถิด พวก​คน​ตาบอด​เป็น​คน​นำ​คน​ตาบอด​เอง ถ้า​ชาย​ตาบอด​คน​หนึ่ง​นำ​คน​ตาบอด​อีก​คน​หนึ่ง ทั้ง​สอง​ก็​จะ​พา​กัน​ตก​บ่อ” เปโตร​พูด​ตอบ​พระ​องค์​ว่า “โปรด​อธิบาย​คำ​อุปมา​แก่​พวก​เรา​ด้วย” พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “เจ้า​ยัง​ไม่​เข้าใจ​เช่น​กัน​หรือ เจ้า​ไม่​เข้าใจ​หรือ​ว่า ทุก​สิ่ง​ที่​เข้า​ปาก ผ่าน​เข้าไป​ใน​ท้อง แล้ว​ก็​ออก​นอก​กาย​ไป แต่​สิ่ง​ที่​ออกจาก​ปาก​มา​จาก​ใจ สิ่ง​นี้​แหละ​ที่​ทำ​ให้​คน​เป็น​มลทิน เพราะ​ว่า​สิ่ง​ที่​ออก​จาก​ใจ​คือ​ความ​คิด​ชั่วร้าย การ​ฆ่า​คน การ​ผิด​ประเวณี การ​ประพฤติ​ผิด​ทาง​เพศ การ​ลัก​ขโมย การ​เป็น​พยาน​เท็จ การ​ใส่ร้าย สิ่ง​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​คน​เป็น​มลทิน แต่​การ​รับประทาน​ด้วย​มือ​ที่​ไม่​ล้าง​ไม่​ทำ​ให้​คน​เป็น​มลทิน”