ลูกา 4:1-32

ลูกา 4:1-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พระเยซู​เต็ม​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พระวิญญาณ​บริสุทธิ์ พระองค์​กลับ​จาก​แม่น้ำ​จอร์แดน และ​พระวิญญาณ​นำ​พระองค์​ไป​ใน​ที่​เปล่า​เปลี่ยว​แห้งแล้ง มารร้าย​มา​ลองใจ​พระองค์​ถึง​สี่สิบ​วัน ใน​ช่วง​นั้น​พระองค์​ไม่​ได้​กิน​อะไร​เลย เมื่อ​ครบ​สี่สิบ​วัน​แล้ว พระเยซู​ก็​หิว​จัด มารร้าย​ท้าทาย​กับ​พระองค์​ว่า “ถ้า​เป็น​ลูก​พระเจ้า ก็​เสก​หิน​ก้อนนี้​ให้​กลาย​เป็น​ขนมปัง​สิ” แต่​พระเยซู​ตอบ​ว่า “พระคัมภีร์ เขียน​ไว้​ว่า ‘ชีวิต​ที่​เที่ยงแท้​ไม่​ได้​ขึ้น​อยู่​กับ​ขนมปัง​เพียง​อย่าง​เดียว’” แล้ว​มารร้าย​ก็​นำ​พระเยซู​ขึ้น​ไป​บน​ที่​สูง แล้ว​แสดง​อาณาจักร​ทั้งหมด​ใน​โลก​ให้​พระองค์​เห็น​ใน​ชั่ว​พริบตา​เดียว มัน​พูด​ว่า “เรา​จะ​ยก​อำนาจ​และ​ความรุ่งเรือง​ทั้งหมดนี้​ให้ เพราะ​มัน​ถูก​มอบ​ให้​กับ​เรา​แล้ว และ​เรา​อยาก​จะ​ให้​กับ​ใคร​ก็​ให้​ได้ ถ้า​ท่าน​กราบไหว้บูชา​เรา แผ่นดิน​ทั้งหมดนี้​ก็​จะ​เป็น​ของ​ท่าน” พระเยซู​ตอบ​ว่า “พระคัมภีร์​ได้​เขียน​ไว้​ว่า ‘ให้​กราบไหว้บูชา​องค์​เจ้า​ชีวิต​พระเจ้า​ของ​เจ้า และ​ให้​รับใช้​พระองค์​แต่​เพียง​ผู้​เดียว’” แล้ว​มารร้าย​ก็​นำ​พระเยซู​ไป​ที่​เมือง​เยรูซาเล็ม ให้​พระองค์​ไป​ยืน​บน​จุด​ที่​สูง​ที่สุด​ของ​วิหาร มัน​พูด​ว่า “ถ้า​ท่าน​เป็น​ลูก​พระเจ้า​จริง​ก็​กระโดด​ลง​ไป​เลย เพราะ​พระคัมภีร์​เขียน​ไว้​ว่า ‘พระเจ้า​จะ​สั่ง​เหล่า​ทูตสวรรค์​ของ​พระองค์ มา​ปกป้อง​คุ้มครอง​ท่าน เหล่า​ทูตสวรรค์​ก็​จะ​รับ​ท่าน​ไว้ เพื่อ​ไม่​ให้​เท้า​ของ​ท่าน​กระแทก​หิน’” แต่​พระเยซู​ตอบ​ว่า “พระคัมภีร์​ยัง​บอก​อีก​ว่า ‘อย่า​ได้​ลองดี​กับ​องค์​เจ้า​ชีวิต​พระเจ้า​ของ​เจ้า’” เมื่อ​มารร้าย​ได้​ลองใจ​พระองค์​ครบ​ทุก​อย่าง​แล้ว มัน​ก็​จาก​ไป​เพื่อ​คอย​หา​โอกาส​เหมาะ​อีก พระเยซู​กลับ​ไป​แคว้น​กาลิลี พระองค์​เต็ม​ไป​ด้วย​ฤทธิ์เดช​ของ​พระวิญญาณ ชื่อเสียง​ของ​พระองค์​แพร่กระจาย​ไป​ทั่ว​แถบ​นั้น พระองค์​สอน​อยู่​ตาม​ที่ประชุม​ต่างๆ และ​ทุก​คน​ต่าง​ยกย่อง​พระองค์ แล้ว​พระเยซู​ก็​ไป​เมือง​นาซาเร็ธ ซึ่ง​เป็น​เมือง​ที่​พระองค์​เติบโต​มา เมื่อ​ถึง​วันหยุดทางศาสนา พระองค์​ก็​ไป​ที่ประชุม​เหมือน​ที่​ทำ​เป็น​ประจำ พระองค์​ยืน​ขึ้น​เพื่อ​อ่าน​ข้อความ​จาก​พระคัมภีร์ พระองค์​ได้รับ​ม้วน​หนังสือ​มา เป็น​หนังสือ​อิสยาห์​ซึ่ง​เป็น​ผู้พูดแทนพระเจ้า​คน​หนึ่ง แล้ว​คลี่​ม้วน​หนังสือ​นั้น​ออก​เพื่อ​หา​ข้อความ​ที่​เขียน​ไว้​ว่า “พระวิญญาณ​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต​อยู่​กับ​เรา เพราะ​พระองค์​แต่งตั้ง​ให้​เรา​ประกาศ​ข่าว​ดี​กับ​คน​จน พระองค์​ส่ง​เรา​มา​บอก​นักโทษ​ว่า​จะ​ได้​เป็น​อิสระ บอก​คน​ตาบอด​ว่า​จะ​มอง​เห็น บอก​คน​ที่​ถูก​กดขี่​ข่มเหง​ว่า​จะ​ได้​เป็น​อิสระ และ​บอก​ว่า​ถึง​เวลา​แล้ว​ที่​พระเจ้า​จะ​มา​ช่วย​คน​ของ​พระองค์” จาก​นั้น​พระองค์​ม้วน​หนังสือ​ส่ง​คืน​ให้​กับ​เจ้าหน้าที่​ผู้ดูแล แล้ว​นั่ง​ลง แล้ว​ทุก​สายตา​ใน​ที่​นั้น​ก็​จ้อง​เขม็ง​มา​ที่​พระองค์ พระองค์​เริ่ม​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “ใน​วันนี้​เรื่อง​ใน​พระคัมภีร์​ที่​คุณ​เพิ่ง​ได้ยิน​เรา​อ่าน​ไป​นั้น​ได้​เป็น​จริง​แล้ว” ทุก​คน​ก็​ได้​พูด​เยินยอ​พระองค์ และ​แปลกใจ​ใน​คำพูด​น่าทึ่ง​ที่​ออก​มา​จาก​ปาก​พระองค์ พวก​เขา​ถาม​กัน​ว่า “นี่​ลูก​โยเซฟ​ไม่​ใช่​หรือ” แล้ว​พระองค์​พูด​ว่า “พวก​คุณ​จะ​ต้อง​ยก​คำ​สุภาษิตนี้​มา​อ้าง​กับ​เรา​แน่ ที่​ว่า ‘หมอ​เอ๋ย รักษา​ตัวเอง​เสีย​ก่อน​เถอะ’ แล้ว​พวก​คุณ​คง​อยาก​จะ​พูด​ว่า ‘ทำ​เรื่อง​อัศจรรย์​ที่​นี่​ใน​บ้าน​เมือง​ของ​เจ้าสิ อย่าง​ที่​เรา​ได้ยิน​ว่า​เจ้า​ทำ​ที่​เมือง​คาเปอรนาอุม’ แต่​เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​นะ​ว่า ไม่​มี​ผู้พูดแทนพระเจ้า​คน​ไหน​ที่​ได้รับ​การยอมรับ​ใน​บ้านเมือง​ของ​ตัวเอง​หรอก ดู​อย่าง​สมัย​ของ​เอลียาห์​สิ เมื่อ​เกิด​ฝน​แล้ง​เป็น​เวลา​ถึง​สาม​ปี​ครึ่ง จน​เกิด​ความ​อด​อยาก​ไป​ทั่ว มี​แม่ม่าย​มาก​มาย​ใน​หมู่​ชาว​อิสราเอล แต่​พระเจ้า​ก็​ไม่​ได้​ส่ง​เอลียาห์​ไป​หา​แม่ม่าย​ชาว​อิสราเอล​พวก​นั้น แต่​กลับ​ส่ง​ไป​หา​แม่ม่าย​คน​หนึ่ง​ที่​ไม่​ใช่​คน​ยิว​ที่​เมือง​ศาเรฟัท​ใน​เขต​แดน​ไซดอน ก็​เหมือน​กับ​ใน​สมัย​ของ​เอลีชา ที่​เป็น​ผู้พูดแทนพระเจ้า มี​คน​เป็น​โรค​ผิวหนัง​ร้ายแรง​มากมาย​ใน​อิสราเอล แต่​ไม่​มี​ใคร​ได้รับ​การชำระ​ให้​สะอาด​เลย ยกเว้น​แต่​คน​ที่​ชื่อ​นาอามาน​เพียง​คน​เดียว และ​เขา​เป็น​คน​ซีเรีย​ไม่​ใช่​คน​ยิว” เมื่อ​ทุก​คน​ที่​อยู่​ใน​ที่​ประชุม​ชาวยิว​ได้ยิน​อย่าง​นั้น ก็​โกรธ​แค้น​มาก เขา​ลุกฮือ​กัน​ขึ้น บังคับ​ให้​พระเยซู​ออก​ไป​นอก​เมือง ไป​ที่​หน้าผา​บน​เขา​ที่​เมือง​นั้น​ตั้ง​อยู่ หวัง​จะ​ผลัก​พระองค์​ลง​ไป แต่​พระองค์​ก็​ฝ่า​วง​ล้อม​ของ​พวก​เขา​ไป​ได้ พระเยซู​ไป​เมือง​คาเปอรนาอุม​ใน​แคว้น​กาลิลี และ​พระองค์​สั่งสอน​ประชาชน​ใน​วัน​หยุด​ทาง​ศาสนา พวก​เขา​ต่าง​ก็​ทึ่ง​ใน​คำสอน​ของ​พระองค์ เพราะ​พระองค์​สอน​อย่าง​คน​ที่​มี​สิทธิอำนาจ

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 4

ลูกา 4:1-32 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พระเยซูทรงเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงกลับจากแม่น้ำจอร์แดน และพระวิญญาณทรงนำพระองค์ไปในถิ่นทุรกันดาร ที่ซึ่งพระองค์ทรงถูกมารทดลองถึงสี่สิบวัน ตลอดวันเหล่านั้นพระองค์ไม่ได้เสวยอะไรเลย และเมื่อสิ้นสุดแล้ว พระองค์ก็ทรงหิว มารจึงพูดกับพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงสั่งก้อนหินนี้ให้กลายเป็นขนมปัง” แต่พระเยซูตรัสตอบมารว่า “มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘มนุษย์จะดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้’ ” แล้วมารจึงนำพระองค์ขึ้นไปบนที่สูง สำแดงราชอาณาจักรต่างๆ ทั่วพิภพให้พระองค์เห็นภายในพริบตาเดียว แล้วมารพูดกับพระองค์ว่า “อำนาจและความรุ่งโรจน์ทั้งหมดนี้เราจะยกให้แก่ท่าน เพราะว่าเราได้รับมอบสิทธิ์นี้ไว้แล้ว และเราปรารถนาจะให้ใครก็ได้ตามใจเรา ถ้าท่านกราบนมัสการเรา ทุกๆ สิ่งจะเป็นของท่าน” แต่พระเยซูตรัสตอบมารว่า “พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์ แต่ผู้เดียว’” แล้วมารจึงนำพระองค์ไปที่กรุงเยรูซาเล็ม และให้พระองค์ประทับอยู่ที่ยอดหลังคาพระวิหาร แล้วพูดกับพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงกระโจนลงไปจากที่นี่ เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘พระเจ้าจะรับสั่งเรื่องท่านต่อบรรดาทูตสวรรค์ของพระองค์ ให้ป้องกันรักษาท่านไว้ และ เหล่าทูตสวรรค์จะเอามือประคองชูท่าน ไม่ให้เท้าของท่านกระทบหิน ’ ” พระเยซูจึงตรัสตอบมารว่า “มีคำกล่าวไว้ว่า ‘อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน’ ” เมื่อมารทดลองทุกอย่างจนหมดแล้ว จึงจากพระองค์ไปจนกว่าจะถึงโอกาสเหมาะ พระเยซูเสด็จกลับไปที่แคว้นกาลิลีด้วยฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณ และกิตติศัพท์ของพระองค์ก็เลื่องลือไปทั่วทุกแว่นแคว้นโดยรอบ พระองค์ทรงสั่งสอนในธรรมศาลาของพวกเขา และได้รับการสรรเสริญจากคนทั้งหลาย แล้วพระองค์เสด็จมาถึงเมืองนาซาเร็ธ ที่ซึ่งพระองค์ทรงเจริญวัยขึ้น พระองค์เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาในวันสะบาโตเช่นเคย และทรงยืนขึ้นเพื่อจะอ่านพระธรรม เขาจึงส่งคัมภีร์อิสยาห์ผู้เผยพระวจนะให้แก่พระองค์ เมื่อพระองค์ทรงคลี่หนังสือนั้นออก ก็ทรงพบข้อที่เขียนไว้ว่า “พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้า สถิตกับข้าพเจ้า เพราะว่าพระองค์ทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้ เพื่อนำข่าวดีมายังคนยากจน พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้ามาประกาศอิสรภาพแก่พวกเชลย ประกาศแก่คนตาบอดว่าจะได้เห็นอีก ปล่อยผู้ถูกบีบบังคับให้เป็นอิสระ และประกาศปีแห่งความโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า” แล้วพระองค์ทรงม้วนหนังสือส่งคืนให้แก่เจ้าหน้าที่ แล้วประทับลง และตาของทุกคนที่อยู่ในธรรมศาลาก็จ้องดูพระองค์ พระองค์จึงเริ่มต้นตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “พระคัมภีร์ตอนนี้ที่พวกท่านได้ยินกับหูก็สำเร็จแล้วในวันนี้” ทุกคนก็กล่าวชมเชยพระองค์ และประหลาดใจในถ้อยคำที่ประกอบด้วยพระคุณซึ่งพระองค์ตรัส และกล่าวว่า “คนนี้เป็นลูกของโยเซฟไม่ใช่หรือ?” พระองค์จึงตรัสกับพวกเขาว่า “พวกท่านคงอยากจะกล่าวภาษิตข้อนี้แก่เราเป็นแน่ คือ ‘หมอจงรักษาตัวเองเถิด’ และพวกท่านคงอยากจะพูดว่า ‘สิ่งต่างๆ ที่เราได้ยินว่าท่านทำในเมืองคาเปอรนาอุม จงทำในเมืองของตัวเองที่นี่ด้วยซิ’ ” พระองค์ตรัสต่อไปว่า “เราบอกความจริงแก่พวกท่านว่า ไม่มีผู้เผยพระวจนะคนใดได้รับการยอมรับในบ้านเกิดของตัวเอง และเราบอกความจริงแก่พวกท่านว่า มีหญิงม่ายอยู่มากมายท่ามกลางพวกอิสราเอลในสมัยของเอลียาห์ เมื่อท้องฟ้าปิดถึงสามปีหกเดือนจนเกิดการกันดารอาหารอย่างมากทั่วทั้งแผ่นดิน พระเจ้าไม่ทรงใช้เอลียาห์ให้ไปหาหญิงม่ายคนใดในพวกนั้นเลย เว้นแต่หญิงม่ายในบ้านศาเรฟัทแขวงเมืองไซดอน และมีคนโรคเรื้อนอยู่มากมายท่ามกลางพวกอิสราเอลในสมัยของเอลีชาผู้เผยพระวจนะด้วย แต่ไม่มีใครได้รับการรักษาให้หายเว้นแต่นาอามานชาวซีเรีย” เมื่อทุกคนในธรรมศาลาได้ยินอย่างนั้นก็ฉุนเฉียวอย่างยิ่ง จึงลุกขึ้นผลักไสพระองค์ออกจากเมือง และพาพระองค์ไปที่หน้าผาของเนินเขาที่เมืองนั้นตั้งอยู่ ตั้งใจจะผลักให้พระองค์ตกลงไป แต่พระองค์ทรงฝ่าพ้นพวกเขาและเสด็จจากไป แล้วพระองค์เสด็จไปถึงเมืองคาเปอรนาอุมแคว้นกาลิลี และทรงสั่งสอนพวกเขาในวันสะบาโต เขาก็อัศจรรย์ใจด้วยคำสอนของพระองค์ เพราะพระดำรัสของพระองค์ประกอบด้วยสิทธิอำนาจ

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 4

ลูกา 4:1-32 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

พระเยซู​ประกอบด้วยพระวิญญาณบริ​สุทธิ​์​ได้​เสด็จกลับไปจากแม่น้ำจอร์​แดน และพระวิญญาณได้ทรงนำพระองค์ไปในถิ่นทุ​รก​ันดาร ทรงถูกพญามารทดลองถึงสี่​สิ​บวัน ในวันเหล่านั้นพระองค์​มิได้​เสวยอะไรเลย และเมื่อสิ้นสี่​สิ​บวันแล้ว พระองค์​ทรงอยากพระกระยาหาร พญามารจึงทูลพระองค์​ว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงสั่​งก​้อนหินนี้​ให้​กลายเป็นขนมปัง” ฝ่ายพระเยซูตรัสตอบมารว่า “​มี​พระคัมภีร์​เข​ียนไว้​ว่า ‘​มนุษย์​จะบำรุงชีวิ​ตด​้วยอาหารสิ่งเดียวก็​หามิได้ แต่​บำรุ​งด​้วยพระวจนะทุกคำของพระเจ้า’” แล​้วพญามารจึงนำพระองค์ขึ้นไปยังภูเขาที่​สูง สำแดงบรรดาราชอาณาจักรทั่วพิภพในขณะเดียวให้​พระองค์​ทอดพระเนตร แล​้วพญามารได้ทูลพระองค์​ว่า “อำนาจทั้งสิ้นนี้และสง่าราศีของราชอาณาจั​กรน​ั้นเราจะยกให้​แก่​ท่าน เพราะว่ามอบเป็นสิทธิ​ไว้​แก่​เราแล้ว และเราปรารถนาจะให้​แก่​ผู้​ใดก็จะให้​แก่​ผู้​นั้น เหตุ​ฉะนั้น ถ้าท่านจะกราบนมัสการเรา สรรพสิ่งนั้นจะเป็นของท่านทั้งหมด” ฝ่ายพระเยซูตรัสตอบมารว่า “อ้ายซาตาน จงถอยไปข้างหลังเรา เพราะมีพระคัมภีร์​เข​ียนไว้​ว่า ‘จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน และปรนนิบั​ติ​พระองค์​แต่ผู้เดียว​’” แล​้วมารจึงนำพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และให้​พระองค์​ประทั​บอย​ู่​ที่​ยอดหลังคาพระวิ​หาร แล​้​วท​ูลพระองค์​ว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรพระเจ้า จงโจนลงไปจากที่​นี่​เถิด เพราะพระคัมภีร์​มี​เข​ียนไว้​ว่า ‘​พระองค์​จะรับสั่งเหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ในเรื่องท่าน ให้​ป้องกั​นร​ักษาท่านไว้’ และ ‘​เหล่​าทูตสวรรค์จะเอามือประคองชูท่านไว้ เกรงว่าในเวลาหนึ่งเวลาใดเท้าของท่านจะกระแทกหิน’” พระเยซู​จึงตรัสตอบมารว่า “​มี​คำกล่าวไว้​ว่า ‘อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน’” เมื่อพญามารทำการทดลองทุกอย่างสิ้นแล้ว จึงละพระองค์ไปชั่วคราว พระเยซู​ได้​เสด็จกลับไปด้วยฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณยังแคว้นกาลิลี และกิตติ​ศัพท์​ของพระองค์เลื่องลือไปตามถิ่นโดยรอบ พระองค์​ทรงสั่งสอนในธรรมศาลาต่างๆของเขา และได้รับความสรรเสริญจากคนทั้งปวง แล​้วพระองค์เสด็จมาถึงเมืองนาซาเร็ธ เป็​นที​่ซึ่งพระองค์ทรงเจริญวัยขึ้น พระองค์​เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาในวันสะบาโตตามเคย และทรงยืนขึ้นเพื่อจะอ่านพระคัมภีร์ เขาจึงส่งพระคัมภีร์อิสยาห์​ศาสดาพยากรณ์​ให้​แก่​พระองค์ เมื่อพระองค์ทรงคลี่​หน​ังสือนั้นออก ก็​ค้นพบข้อที่​เข​ียนไว้​ว่า ‘พระวิญญาณแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตอยู่บนข้าพเจ้า เพราะว่าพระองค์​ได้​ทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้​ให้​ประกาศข่าวประเสริฐแก่​คนยากจน พระองค์​ได้​ทรงใช้ข้าพเจ้าให้รักษาคนที่​ชอกช้ำระกำใจ ให้​ร้องประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย ให้​ประกาศแก่คนตาบอดว่าจะได้​เห​็​นอ​ีก ให้​ปล่อยผู้ฟกช้ำเป็​นอ​ิ​สระ และให้ประกาศปี​แห่​งความโปรดปรานขององค์​พระผู้เป็นเจ้า​’ แล​้วพระองค์ทรงม้วนหนังสือส่งคืนให้​แก่​เจ้าหน้าที่ แล​้วทรงนั่งลงและตาของคนทั้งปวงในธรรมศาลาก็​เพ่งดู​พระองค์ พระองค์​จึงเริ่มตรัสแก่เขาว่า “​คัมภีร์​ตอนนี้​ที่​ท่านได้ยิ​นก​ับหูของท่านก็สำเร็จในวันนี้​แล้ว​” คนทั้งปวงก็เป็นพยานรับรองคำของพระองค์ และประหลาดใจด้วยถ้อยคำอันประกอบด้วยคุณซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ และว่า “คนนี้เป็นบุตรชายของโยเซฟมิ​ใช่​หรือ​” พระองค์​จึงตรัสแก่เขาว่า “ท่านทั้งหลายจะกล่าวคำสุภาษิตข้อนี้​แก่​เราเป็นแน่ คือว่า ‘หมอจงรักษาตัวเองเถิด คือบรรดาการซึ่งเราได้ยิ​นว​่า ท่านได้กระทำในเมืองคาเปอรนาอุม จงกระทำในเมืองของตนที่​นี่​ด้วย​’” พระองค์​ตรั​สว​่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ไม่มี​ศาสดาพยากรณ์​คนใดได้รับการต้อนรับในบ้านเมืองของตน แต่​เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า มี​หญิ​งม​่ายหลายคนในพวกอิสราเอลคราวเอลียาห์ เมื่อท้องฟ้าปิดเสียถึงสามปีกับหกเดือนจึงเกิ​ดก​ันดารอาหารมากทั่วแผ่นดิน และเอลียาห์​มิได้​รับใช้​ให้​ไปหาหญิ​งม​่ายคนใด เว้นแต่​หญิ​งม​่ายคนหนึ่งในบ้านศาเรฟัทแคว้นเมืองไซดอน และมีคนโรคเรื้อนหลายคนในพวกอิสราเอลคราวเอลีชาศาสดาพยากรณ์ แต่​ไม่มี​ผู้​ใดได้รับการรักษาให้หายโรคนั้นเลย เว้นแต่​นาอามานชาวซีเรีย” เมื่อคนทั้งปวงในธรรมศาลาได้ยินดังนั้​นก​็โกรธยิ่งนัก จึงลุกขึ้นผลักพระองค์ออกจากเมือง พาไปยังแง่ของเงื้อมเขาที่เมืองของเขา ซึ่งตั้งอยู่บนเนินนั้น หมายจะผลักพระองค์ลงไป แต่​พระองค์​ทรงดำเนินผ่านท่ามกลางเขาพ้นไป พระองค์​เสด็จลงไปถึงเมืองคาเปอรนาอุมแคว้นกาลิลี และได้สั่งสอนเขาทั้งหลายทุกวันสะบาโต คนทั้งปวงก็​อัศจรรย์​ใจด้วยการสอนของพระองค์ เพราะคำของพระองค์ประกอบด้วยอำนาจ

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 4

ลูกา 4:1-32 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

พระเยซูทรงประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้กลับไปจากแม่น้ำจอร์แดน และพระวิญญาณได้ทรงนำพระองค์ไป ถึงสี่สิบวัน ในถิ่นทุรกันดาร ทรงถูกมารทดลอง ในวันเหล่านั้นพระองค์มิได้เสวยอะไรเลย และเมื่อสิ้นสี่สิบวันแล้ว พระองค์ทรงอยากพระกระยาหาร มารจึงทูลพระองค์ว่า <<ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า จงสั่งก้อนหินนี้ให้กลายเป็นพระกระยาหาร>> ฝ่ายพระเยซูตรัสตอบมารว่า <<มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้>> แล้วมารจึงนำพระองค์ขึ้นไป สำแดงบรรดาราชอาณาจักรทั่วพิภพในขณะเดียวให้พระองค์เห็น แล้วมารได้ทูลพระองค์ว่า <<อำนาจทั้งสิ้นนี้ และศักดิ์ศรีของราชอาณาจักรนั้นเราจะยกให้แก่ท่าน เพราะว่ามอบเป็นสิทธิ์ไว้แก่เราแล้ว และเราปรารถนาจะให้แก่ผู้ใดก็จะให้แก่ผู้นั้น เหตุฉะนั้นถ้าท่านจะกราบนมัสการเรา สรรพสิ่งนั้นจะเป็นของท่านทั้งหมด>> ฝ่ายพระเยซูตรัสตอบมารว่า <<มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า จงกราบนมัสการพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว>> แล้วมารจึงนำพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และให้พระองค์ประทับอยู่ที่ยอดหลังคาพระวิหาร แล้วทูลพระองค์ว่า <<ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงโจนลงไปจากที่นี่เถิด เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า พระเจ้าจะรับสั่งให้เหล่าทูตของพระองค์ในเรื่องท่าน ให้ป้องกันรักษาท่านไว้ และ เหล่าทูตสวรรค์ จะเอามือประคองชูท่านไว้ มิให้เท้าของท่านกระทบหิน>> พระเยซูจึงตรัสตอบมารว่า <<มีคำกล่าวไว้ว่า อย่าทดลองพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของท่าน>> เมื่อมารทำการทดลองทุกอย่างสิ้นแล้ว จึงละพระองค์ไปจนถึงโอกาสเหมาะ พระเยซูได้เสด็จกลับไปด้วยฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณยังแคว้นกาลิลี และกิตติศัพท์ของพระองค์เลื่องลือไปตามถิ่นโดยรอบ พระองค์ทรงสั่งสอนในธรรมศาลาของเขา และได้รับความสรรเสริญจากคนทั้งปวง แล้วพระองค์เสด็จมาถึงเมืองนาซาเร็ธ เป็นที่ซึ่งพระองค์ทรงเจริญวัยขึ้น พระองค์เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาในวันสะบาโตตามเคย และทรงยืนขึ้นเพื่อจะอ่านพระธรรม เขาจึงส่งพระคัมภีร์อิสยาห์ผู้เผยพระวจนะให้แก่พระองค์ เมื่อพระองค์ทรงคลี่หนังสือนั้นออก ก็ค้นพบข้อที่เขียนไว้ว่า พระวิญญาณแห่งพระเป็นเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะว่าพระองค์ได้ทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้ เพื่อนำข่าวดีมายังคนยากจน พระองค์ได้ทรงใช้ข้าพเจ้าให้ร้องประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย ให้ประกาศแก่คนตาบอดว่าจะได้เห็นอีก ให้ปล่อยผู้ถูกบีบบังคับเป็นอิสระ และให้ประกาศปีแห่งความโปรดปรานของพระเป็นเจ้า แล้วพระองค์ทรงม้วนหนังสือส่งคืนให้แก่เจ้าหน้าที่ แล้วทรงนั่งลง และตาของคนทั้งปวงในธรรมศาลาก็เพ่งดูพระองค์ พระองค์จึงเริ่มตรัสแก่เขาว่า <<คัมภีร์ตอนนี้ที่ท่านได้ยินกับหูของท่านก็สำเร็จในวันนี้แล้ว>> คนทั้งปวงก็กล่าวชมเชยพระองค์ และประหลาดใจด้วยถ้อยคำอันประกอบด้วยคุณ ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ และว่า <<คนนี้เป็นบุตรของโยเซฟมิใช่หรือ>> พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า <<ท่านทั้งหลายคงจะกล่าวคำสุภาษิตข้อนี้แก่เราเป็นแน่ คือว่า <หมอจงรักษาตัวเองเถิด คือบรรดาการซึ่งเราได้ยินว่า ท่านได้กระทำในเมืองคาเปอรนาอุมจงกระทำในเมืองของตนที่นี่ด้วย> >> พระองค์ตรัสอีกว่า <<เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ไม่มีผู้เผยพระวจนะคนใดได้รับการต้อนรับในเมืองของตน แต่เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า มีหญิงม่ายหลายคนในพวกอิสราเอล ในคราวเอลียาห์เมื่อท้องฟ้าปิดเสียถึงสามปีกับหกเดือน จึงเกิดกันดารอาหารมากทั่วแผ่นดิน และเอลียาห์มิได้รับใช้ให้ไปหาหญิงม่ายคนใด เว้นแต่หญิงม่ายคนหนึ่งในบ้านศาเรฟัทแขวงเมืองไซดอน และมีคนโรคเรื้อนหลายคนในพวกอิสราเอลในคราวเอลีชาผู้เผยพระวจนะ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับการรักษาให้หายโรคนั้นเลย เว้นแต่นาอามานชาวซีเรีย>> เมื่อคนทั้งปวงในธรรมศาลาได้ยินดังนั้นก็โกรธยิ่งนัก จึงลุกขึ้นผลักพระองค์ออกจากเมือง พาไปยังแง่ของเงื้อมเขาที่เมืองของเขาซึ่งตั้งอยู่บนเนินนั้น หมายจะผลักพระองค์ลงไป แต่พระองค์ทรงดำเนินผ่านท่ามกลางเขาพ้นไป พระองค์เสด็จลงไปถึงเมืองคาเปอรนาอุมแคว้นกาลิลี และได้ทรงสั่งสอนเขาทั้งหลายในวันสะบาโต คนทั้งปวงก็อัศจรรย์ใจด้วยการสอนของพระองค์ เพราะคำของพระองค์ประกอบด้วยสิทธิอำนาจ

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 4

ลูกา 4:1-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

พระเยซูทรงเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์เสด็จกลับมาจากแม่น้ำจอร์แดนและพระวิญญาณทรงนำพระองค์ไปยังถิ่นกันดาร พระองค์ทรงถูกมารทดลองที่นั่นเป็นเวลาสี่สิบวัน ในระหว่างนั้นพระองค์ไม่ได้เสวยอะไรเลย เมื่อสิ้นสี่สิบวันแล้วพระองค์ก็ทรงหิว มารทูลว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้าก็จงสั่งก้อนหินเหล่านี้ให้กลายเป็นขนมปัง” พระเยซูตรัสตอบว่า “มีคำเขียนไว้ว่า ‘มนุษย์ไม่อาจดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียว’” มารนำพระองค์ขึ้นไปยังที่สูงและสำแดงให้พระองค์เห็นอาณาจักรทั้งหมดของโลกในคราวเดียว และทูลพระองค์ว่า “สิทธิอำนาจและความโอ่อ่าตระการทั้งหมดนี้เราจะยกให้ท่าน เพราะสิ่งเหล่านี้ได้ถูกมอบไว้แก่เราแล้วและเราจะยกให้ใครก็ได้ตามใจชอบ ฉะนั้นหากท่านนมัสการเรา ทั้งหมดนี้จะเป็นของท่าน” พระเยซูตรัสตอบว่า “มีคำเขียนไว้ว่า ‘จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านและปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว’” มารนำพระองค์มายังกรุงเยรูซาเล็มและให้พระองค์ประทับยืนที่จุดสูงสุดของพระวิหารแล้วทูลว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงกระโดดลงไปจากที่นี่เถิด เพราะมีคำเขียนไว้ว่า “ ‘พระองค์จะทรงบัญชาทูตสวรรค์ของพระองค์ ให้ระแวดระวังพิทักษ์รักษาท่าน ทูตเหล่านั้นจะยื่นมือประคองท่าน เพื่อไม่ให้เท้าของท่านกระทบหิน’” พระเยซูตรัสตอบว่า “มีกล่าวไว้ว่า ‘อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน’” เมื่อมารทดลองทุกอย่างนี้แล้ว ก็ละพระองค์ไปจนถึงโอกาสเหมาะ พระเยซูเสด็จกลับไปยังแคว้นกาลิลี ทรงเปี่ยมด้วยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณ และกิตติศัพท์ของพระองค์เลื่องลือไปทั่วแถบนั้น พระองค์ทรงสั่งสอนในธรรมศาลาต่างๆ ของเขา ทุกคนพากันสรรเสริญพระองค์ พระองค์เสด็จมายังเมืองนาซาเร็ธที่ซึ่งทรงเติบโตขึ้น และในวันสะบาโตพระองค์เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาอย่างที่ปฏิบัติเป็นประจำและทรงยืนขึ้นอ่านพระธรรม เขาส่งม้วนพระคัมภีร์อิสยาห์ให้พระองค์ เมื่อพระองค์ทรงคลี่ออกมาก็พบข้อความที่เขียนไว้ว่า “พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้ ให้ประกาศข่าวดีแก่ผู้ยากไร้ พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้ามาประกาศอิสรภาพแก่ผู้ถูกจองจำ และให้คนตาบอดมองเห็น ให้ปลดปล่อยผู้ที่ถูกกดขี่ ให้ประกาศปีแห่งความโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า” จากนั้นพระองค์ทรงม้วนหนังสือส่งคืนแก่เจ้าหน้าที่แล้วประทับนั่งลง สายตาทุกคู่ในธรรมศาลาก็จ้องมองมาที่พระองค์ พระเยซูทรงเอ่ยขึ้นว่า “ในวันนี้พระคัมภีร์ตอนนี้เป็นจริงแล้วตามที่ท่านได้ฟัง” คนทั้งปวงกล่าวยกย่องพระองค์และประหลาดใจในพระดำรัสอันทรงพระคุณจากพระโอษฐ์ของพระองค์ พวกเขาถามกันว่า “คนนี้เป็นลูกของโยเซฟไม่ใช่หรือ?” พระเยซูตรัสแก่พวกเขาว่า “แน่นอน ท่านคงจะยกภาษิตนี้กล่าวกับเราว่า ‘หมอจงรักษาตัวเองเถิด! สิ่งที่เราได้ยินว่าท่านทำที่เมืองคาเปอรนาอุมจงทำในเมืองของตนที่นี่ด้วย’ ” พระองค์ตรัสต่อไปว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าไม่มีผู้เผยพระวจนะสักคนที่ได้รับการยอมรับในบ้านเกิดของตน เรายืนยันกับท่านว่ามีหญิงม่ายมากมายในอิสราเอลสมัยเอลียาห์เมื่อฟ้าถูกปิดไม่ให้ฝนตกเป็นเวลาสามปีครึ่งและเกิดการกันดารอาหารอย่างหนักทั่วแผ่นดิน กระนั้นเอลียาห์ก็ไม่ได้ถูกส่งไปหาใครยกเว้นหญิงม่ายที่ศาเรฟัทในเขตไซดอน และในสมัยผู้เผยพระวจนะเอลีชาก็มีคนโรคเรื้อนมากมายในอิสราเอล แต่ไม่มีคนไหนหายจากโรคยกเว้นนาอามานคนซีเรีย” เมื่อคนทั้งปวงในธรรมศาลาได้ยินเช่นนี้ก็โกรธจัด เขาจึงลุกขึ้นผลักไสพระองค์ออกจากเมืองมาถึงชะง่อนเขาที่ตั้งเมืองเพื่อจะผลักพระองค์ลงไปจากหน้าผา แต่พระองค์ทรงดำเนินฝ่าฝูงชนออกไปและเสด็จไปตามทางของพระองค์ จากนั้นพระองค์เสด็จมายังเมืองคาเปอรนาอุมซึ่งเป็นเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลี และพระองค์ทรงเริ่มสั่งสอนประชาชนในวันสะบาโต พวกเขาเลื่อมใสในคำสอนของพระองค์เพราะถ้อยคำของพระองค์มีสิทธิอำนาจ

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 4

ลูกา 4:1-32 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

พระ​เยซู​เปี่ยมล้น​ด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ พระ​องค์​กลับ​มา​จาก​แม่น้ำ​จอร์แดน และ​พระ​วิญญาณ​ได้​นำ​พระ​องค์​ไป​ยัง​ถิ่น​ทุรกันดาร ระหว่าง​นั้น​พญามาร​ยั่วยุ​พระ​องค์​เป็น​เวลา 40 วัน โดย​ที่​ตลอด​เวลา​นั้น​พระ​องค์​มิ​ได้​รับประทาน​อะไร​เลย​จึง​รู้สึก​หิว พญามาร​ได้​พูด​กับ​พระ​องค์​ว่า “ถ้า​ท่าน​เป็น​บุตร​ของ​พระ​เจ้า ก็​ทำ​ให้​หิน​ก้อน​นี้​กลาย​เป็น​ขนมปัง​สิ” พระ​เยซู​ตอบ​ว่า “มี​บันทึก​ไว้​ว่า ‘มนุษย์​มิ​อาจ​ยัง​ชีพ​ได้​ด้วย​ขนมปัง​เพียง​อย่าง​เดียว’” พญามาร​จึง​นำ​พระ​องค์​ขึ้น​ไป​เพื่อ​ให้​ดู​ทุก​อาณาจักร​ใน​โลก​ใน​พริบตา​เดียว แล้ว​พูด​กับ​พระ​องค์​ว่า “เรา​จะ​ยก​สิทธิ​อำนาจ​และ​ความ​รุ่งเรือง​ของ​อาณาจักร​เหล่า​นั้น​ให้​แก่​ท่าน เพราะ​เรา​ได้​รับ​มอบ​มา​แล้ว และ​เรา​จะ​ยก​ให้​ใคร​ก็​ได้ หาก​ท่าน​ก้มลง​นมัสการ​เรา สิ่ง​เหล่า​นี้​ก็​จะ​เป็น​ของ​ท่าน” พระ​เยซู​ตอบ​พญามาร​ว่า “มี​บันทึก​ไว้​ว่า ‘เจ้า​จง​กราบ​นมัสการ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เจ้า และ​รับใช้​พระ​องค์​เพียง​ผู้​เดียว’” พญามาร​ได้​นำ​พระ​องค์​ไป​ยัง​เมือง​เยรูซาเล็ม​โดย​ให้​ยืน​บน​ยอด​สูง​สุด​ของ​พระ​วิหาร และ​พูด​กับ​พระ​องค์​ว่า “ถ้า​ท่าน​เป็น​บุตร​ของ​พระ​เจ้า ก็​กระโดด​ลง​จาก​ที่​นี่​สิ เพราะ​มี​บันทึก​ไว้​ว่า ‘พระ​องค์​จะ​สั่ง​เหล่า​ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​องค์ มา​ปกป้อง​ท่าน​ให้​ปลอดภัย ทูต​สวรรค์​จะ​ช่วย​รับ​ท่าน​ไว้​ใน​มือ เพื่อ​ว่า​เท้า​ของ​ท่าน​จะ​ได้​ไม่​กระทบ​แม้​หิน​สัก​ก้อน’” พระ​เยซู​ตอบ​ว่า “มี​คำกล่าว​ไว้​ว่า ‘อย่า​ลองดี​กับ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เจ้า’” เมื่อ​พญามาร​จบ​สิ้น​การ​ยั่วยุ​ทุก​ประการ​แล้ว​ก็​ได้​จาก​ไป แต่​ก็​พร้อม​จะ​กลับ​มา​อีก​เมื่อ​มี​โอกาส พระ​เยซู​กลับ​ไป​ยัง​แคว้น​กาลิลี​โดย​ฤทธานุภาพ​ของ​พระ​วิญญาณ เรื่องราว​เกี่ยว​กับ​พระ​องค์​ได้​แพร่​ไป​ทั่ว​อาณาเขต​โดย​รอบ พระ​องค์​เริ่ม​สอน​ใน​ศาลา​ที่​ประชุม​ต่างๆ ซึ่ง​ก็​ได้​รับ​การ​สรรเสริญ​จาก​คน​ทั่วไป พระ​องค์​มา​ยัง​เมือง​นาซาเร็ธ อัน​เป็น​สถานที่​ซึ่ง​เจริญ​วัย​มา พระ​องค์​เข้า​ไป​ใน​ศาลา​ที่​ประชุม​ใน​วัน​สะบาโต​ตาม​ปกติ​วิสัย และ​ก็​ยืน​ขึ้น​อ่าน พระ​คัมภีร์​ที่​ยื่น​ให้​แก่​พระ​องค์​คือ​ฉบับ​ที่​อิสยาห์​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​บันทึก​ไว้ พระ​องค์​จึง​คลี่​พระ​คัมภีร์​ออก พบ​ตอน​ที่​เขียน​ว่า “พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​สถิต​กับ​เรา เพราะ​ว่า​พระ​องค์​เจิม​เรา เพื่อ​ประกาศ​ข่าว​ประเสริฐ​ให้​แก่​ผู้​ยากไร้ พระ​องค์​ส่ง​เรา​มา​ประกาศ​กับ​นักโทษ เพื่อ​ให้​ได้​รับ​การ​ปลดปล่อย คน​ตา​บอด​จะ​มอง​เห็น และ​เพื่อ​ปลดปล่อย​ผู้​ที่​ถูก​บีบ​บังคับ​ไป​สู่​อิสระ เพื่อ​ประกาศ​ปี​ที่​โปรดปราน​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” แล้ว​พระ​เยซู​ก็​ม้วน​พระ​คัมภีร์ ก่อน​จะ​คืน​ให้​กับ​ผู้​ที่​เก็บ​รักษา จาก​นั้น​ก็​นั่ง​ลง​ขณะ​ที่​อยู่​ใน​เป้า​สายตา​ของ​ผู้​คน​ทั้ง​หลาย​ใน​ศาลา​ที่​ประชุม พระ​องค์​ได้​เริ่ม​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “สิ่ง​ที่​พระ​คัมภีร์​ระบุ​ไว้​ใน​ตอน​นี้​ได้​บรรลุ​ผล​แล้ว​ขณะ​ที่​ท่าน​กำลัง​ฟัง​กัน​ใน​วัน​นี้” ผู้​คน​ทั้ง​ปวง​ก็​พา​กัน​สรรเสริญ​พระ​องค์ แต่​ก็​ประหลาด​ใจ​ใน​คำกล่าว​อัน​เป็น​พระ​คุณ​ซึ่ง​ออก​มา​จาก​ปาก​ของ​พระ​องค์ เขา​ทั้ง​หลาย​จึง​พูด​กัน​ว่า “นี่​เป็น​บุตร​ของ​โยเซฟ​มิ​ใช่​หรือ” พระ​เยซู​ได้​กล่าว​ขึ้น​ว่า “พวก​ท่าน​คง​จะ​ต้อง​กล่าว​สุภาษิต​นี้​กับ​เรา​อย่าง​แน่นอน ‘เป็น​แพทย์​ก็​ต้อง​รักษา​ตน​เอง’ อะไร​ก็​ตาม​ที่​พวก​เรา​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​แสดง​ใน​เมือง​คาเปอร์นาอุม ก็​เชิญ​แสดง​ใน​เมือง​ที่​ท่าน​เติบโต​มา​นี้​ด้วย” พระ​องค์​พูด​ต่อ​ไป​อีก​ว่า “เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​ท่าน​ว่า ไม่​มี​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ผู้​ใด​เป็น​ที่​ยอมรับ​ใน​เมือง​ที่​ตน​เติบโต​มา แต่​เรา​จะ​ย้ำ​ความ​จริง​กับ​ท่าน​ว่า ใน​สมัย​ของ​เอลียาห์ มี​หญิง​ม่าย​จำนวน​มาก​ใน​อิสราเอล ขณะ​ที่​ท้องฟ้า​ไม่​เอื้อ​ฝน​ถึง​สาม​ปี​ครึ่ง ความ​อดอยาก​แผ่​ขยาย​ไป​ทั่ว​แผ่นดิน พระ​เจ้า​ก็​ไม่​ได้​ส่ง​เอลียาห์​ไป​ช่วย​หญิง​ม่าย​เหล่า​นั้น แต่​ไป​เพื่อ​ช่วย​หญิง​ม่าย​เพียง​คน​เดียว​ใน​เมือง​ศาเรฟัท​แขวง​ไซดอน และ​ใน​สมัย​เอลีชา​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า มี​ผู้​เป็น​โรค​เรื้อน​จำนวน​มาก​ใน​อิสราเอล และ​ไม่​มี​ใคร​สัก​คน​ที่​ได้​รับ​การ​รักษา​ให้​หาย ยกเว้น​นาอามาน​ชาว​ซีเรีย​เท่า​นั้น” เมื่อ​ทุก​คน​ใน​ศาลา​ที่​ประชุม​ฟัง​แล้ว​ก็​เกิด​โทสะ​ขึ้น จึง​ลุก​ขึ้น​ไล่​พระ​องค์​ไป​จาก​เมือง และ​นำ​ไป​ยัง​หน้าผา​ที่​เมือง​นั้น​ตั้ง​อยู่ เพื่อ​จะ​โยน​พระ​องค์​ลง​มา แต่​พระ​องค์​ฝ่า​หมู่​คน​เหล่า​นั้น​ไป​ได้ และ​ไป​ตาม​ทาง​ของ​พระ​องค์ พระ​เยซู​มา​ยัง​เมือง​คาเปอร์นาอุม​ใน​แคว้น​กาลิลี และ​สั่งสอน​ประชาชน​ใน​วัน​สะบาโต ผู้​คน​พา​กัน​อัศจรรย์ใจ​กับ​การ​สั่งสอน​ของ​พระ​องค์ เพราะ​คำ​พูด​ของ​พระ​องค์​มี​สิทธิ​อำนาจ

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 4