ลูกา 23:32-46
ลูกา 23:32-46 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ยังมีผู้ร้ายอีกสองคนที่ถูกนำตัวมาฆ่าพร้อมๆกับพระเยซูด้วย เมื่อเขามาถึงสถานที่ที่เรียกว่า “หัวกะโหลก” พวกเขาก็ตรึงพระเยซูบนไม้กางเขนระหว่างผู้ร้ายสองคนนั้น ทางขวาคนหนึ่งและทางซ้ายคนหนึ่ง แล้วพระเยซูก็พูดว่า “พระบิดา ช่วยยกโทษให้กับพวกเขาด้วย เพราะพวกเขาไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังทำอะไรลงไป” แล้วพวกเขาเอาเสื้อผ้าของพระองค์มาจับสลากแบ่งกัน ประชาชนก็ยืนดูอยู่ ส่วนพวกผู้นำชาวยิวต่างพากันหัวเราะเยาะและพูดถากถางว่า “ในเมื่อเขาช่วยคนอื่นได้ ก็ให้เขาช่วยตัวเองด้วยสิ ถ้าเขาเป็นพระคริสต์ผู้ที่พระเจ้าได้เลือกไว้จริง” พวกทหารก็พากันมาล้อเลียน พวกเขาเอาเหล้าองุ่นเปรี้ยวให้พระองค์ พวกเขาพูดว่า “ถ้าแกเป็นกษัตริย์ของชาวยิวจริง ก็ช่วยตัวเองสิ” เหนือตัวพระองค์ขึ้นไปมีป้ายเขียนไว้ว่า “นี่คือกษัตริย์ของชาวยิว” ผู้ร้ายคนหนึ่งที่ถูกตรึงอยู่พูดเสียดสีว่า “แกเป็นพระคริสต์ไม่ใช่หรือ ช่วยตัวแกเองและพวกเราด้วยสิ” แต่ผู้ร้ายอีกคนหนึ่งห้ามเขา และพูดขึ้นว่า “แกก็มีโทษถึงตายเหมือนกับเขา แกไม่กลัวพระเจ้าหรือยังไง พวกเรามันสมควรตายอยู่แล้ว แต่ชายคนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย” แล้วเขาก็พูดว่า “เยซู อย่าลืมผมนะครับ เมื่อพระองค์เข้าสู่อาณาจักรของพระองค์” พระองค์จึงตอบว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า วันนี้คุณจะได้อยู่กับเราในสวนสวรรค์อย่างแน่นอน” ประมาณเที่ยง มีแต่ความมืดมิดปกคลุมไปทั่วทั้งแผ่นดินจนถึงบ่ายสามโมง เพราะดวงอาทิตย์หยุดส่องแสงและม่านในวิหาร ก็ขาดกลางออกเป็นสองท่อน พระเยซูร้องตะโกนว่า “พระบิดา ลูกขอมอบจิตวิญญาณของลูกไว้ในมือพระองค์” เมื่อพูดจบพระองค์ก็สิ้นใจตาย
ลูกา 23:32-46 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
มีอีกสองคนที่เป็นผู้ร้าย ซึ่งเขาพาไปประหารชีวิตพร้อมกับพระองค์ เมื่อไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่เรียกว่ากะโหลกศีรษะ เขาก็ตรึงพระองค์ไว้ที่นั่นบนกางเขนพร้อมกับผู้ร้ายสองคนนั้น ข้างขวาคนหนึ่งข้างซ้ายคนหนึ่ง พระเยซูตรัสว่า “พระบิดาเจ้าข้า ขอทรงยกโทษพวกเขาเพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” แล้วพวกเขาก็เอาฉลองพระองค์มาจับฉลากแบ่งกัน ประชาชนก็ยืนมองดูอยู่ พวกผู้นำก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วยว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ ก็ให้เขาช่วยตัวเองด้วยซิ ถ้าหากเขาเป็นพระคริสต์ของพระเจ้าที่ทรงเลือกไว้” พวกทหารก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วย และเข้ามาเอาเหล้าองุ่นเปรี้ยวส่งให้พระองค์ แล้วกล่าวว่า “ถ้าเจ้าเป็นกษัตริย์ของพวกยิวก็จงช่วยตัวเองให้รอดเถิด” เหนือพระองค์มีคำจารึกไว้ด้วยว่า “คนนี้เป็นกษัตริย์ของพวกยิว” ผู้ร้ายคนหนึ่งที่ถูกตรึงไว้จึงพูดหมิ่นประมาทพระองค์ว่า “เจ้าเป็นพระคริสต์ไม่ใช่หรือ? จงช่วยตัวเองกับเราทั้งสองให้รอดเถิด” แต่อีกคนหนึ่งห้ามปรามเขาว่า “เจ้าไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือ? เพราะเจ้าก็ถูกลงโทษเหมือนกัน และเราทั้งสองก็สมควรกับโทษนั้นจริง เพราะเราได้รับผลสมกับการกระทำ แต่ท่านผู้นี้ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย” แล้วคนนั้นจึงทูลว่า “พระเยซู ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในแผ่นดินของพระองค์” พระเยซูทรงตอบเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” เวลานั้นประมาณเที่ยงวัน เกิดมืดมัวทั่วทั้งแผ่นดินจนถึงบ่ายสามโมง ดวงอาทิตย์ก็มืดไป ม่านในพระวิหารก็ขาดตรงกลาง พระเยซูทรงร้องเสียงดังตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอฝากจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์” ตรัสอย่างนั้นแล้วก็สิ้นพระชนม์
ลูกา 23:32-46 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
มีอีกสองคนที่เป็นผู้ร้ายซึ่งเขาได้พามาจะประหารเสียพร้อมกับพระองค์ เมื่อมาถึงสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเรียกว่า กะโหลกศีรษะ เขาก็ตรึงพระองค์ไว้ที่กางเขนที่นั่น พร้อมกับผู้ร้ายสองคนนั้น ข้างขวาพระหัตถ์คนหนึ่ง และข้างซ้ายอีกคนหนึ่ง ฝ่ายพระเยซูจึงทรงอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระบิดา ขอโปรดอภัยโทษเขา เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไร” เขาก็เอาฉลองพระองค์จับสลากแบ่งปันกัน คนทั้งปวงก็ยืนมองดู พวกขุนนางก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วยว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ ถ้าเขาเป็นพระคริสต์ของพระเจ้าที่ทรงเลือกไว้ ให้เขาช่วยตัวเองเถิด” พวกทหารก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วย เข้ามาเอาน้ำองุ่นเปรี้ยวส่งให้พระองค์ แล้วว่า “ถ้าท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิว จงช่วยตัวเองให้รอดเถิด” และมีคำเขียนไว้เหนือพระองค์ด้วยเป็นอักษรกรีก ลาติน และฮีบรูว่า “ผู้นี้เป็นกษัตริย์ของพวกยิว” ฝ่ายคนหนึ่งในผู้ร้ายที่ถูกตรึงไว้จึงพูดหยาบช้าต่อพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นพระคริสต์ จงช่วยตัวเองกับเราให้รอดเถิด” แต่อีกคนหนึ่งห้ามปรามเขาว่า “เจ้าก็ไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือ เพราะเจ้าเป็นคนถูกโทษเหมือนกัน และเราก็สมกับโทษนั้นจริง เพราะเราได้รับสมกับการที่เราได้กระทำ แต่ท่านผู้นี้หาได้กระทำผิดประการใดไม่” แล้วคนนั้นจึงทูลพระเยซูว่า “พระองค์เจ้าข้า ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จเข้าในอาณาจักรของพระองค์” ฝ่ายพระเยซูทรงตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่เจ้าว่า วันนี้เจ้าจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” เวลานั้นประมาณเวลาเที่ยง ก็บังเกิดความมืดทั่วทั้งแผ่นดินจนถึงบ่ายสามโมง ดวงอาทิตย์ก็มืดไป ม่านในพระวิหารก็ขาดตรงกลาง พระเยซูทรงร้องเสียงดังตรัสว่า “พระบิดาเจ้าข้า ข้าพระองค์ฝากจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์” ตรัสอย่างนั้นแล้ว จึงทรงปล่อยพระวิญญาณจิตออกไป
ลูกา 23:32-46 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
มีอีกสองคนที่เป็นผู้ร้ายซึ่งเขาได้พามาจะฆ่าเสียพร้อมกับพระองค์ เมื่อมาถึงตำบลหนึ่งที่เรียกว่ากระโหลกศีรษะ เขาจึงตรึงพระองค์ไว้ที่กางเขนที่นั่นพร้อมกับผู้ร้ายสองคนนั้น ข้างขวาคนหนึ่งข้างซ้ายคนหนึ่ง ฝ่ายพระเยซูจึงทรงอธิษฐานว่า <<โอพระบิดาเจ้าข้า ขอโปรดอภัยโทษเขาเพราะว่า เขาไม่รู้ว่า เขาทำอะไร>> เขาก็เอาฉลองพระองค์ จับฉลากแบ่งปันกัน คนทั้งปวงก็ยืนมองดู พวกขุนนางก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วยว่า <<เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ ถ้าเขาเป็นพระคริสต์ของพระเจ้าที่ทรงเลือกไว้ ให้เขาช่วยตัวเองเถิด>> พวกทหารก็เย้ยหยันพระองค์ด้วย เข้ามาเอาเหล้าองุ่นเปรี้ยวส่งให้พระองค์ แล้วว่า <<ถ้าท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิว จงช่วยตัวเองให้รอดเถิด>> และมีคำเขียนไว้เหนือพระองค์ว่า <<ผู้นี้เป็นกษัตริย์ของพวกยิว>> ฝ่ายคนหนึ่งในผู้ร้ายที่ถูกตรึงไว้จึงพูดหยาบช้าต่อพระองค์ว่า <<ท่านเป็นพระคริสต์มิใช่หรือ จงช่วยตัวเองกับเราให้รอดเถิด>> แต่อีกคนหนึ่งห้ามปรามเขาว่า <<เจ้าก็ไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือ เพราะเจ้าเป็นคนถูกโทษเหมือนกัน และเราก็สมกับโทษนั้นจริง เพราะเราได้รับสมกับการที่เราได้กระทำ แต่ท่านผู้นี้หาได้กระทำผิดประการใดไม่>> แล้วคนนั้นจึงทูลว่า <<พระเยซูเจ้าข้า ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์ เมื่อพระองค์เสด็จเข้าในแผ่นดินของพระองค์>> ฝ่ายพระเยซูทรงตอบเขาว่า <<เราบอกความจริงแก่เจ้าว่า วันนี้เจ้าจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม>> เวลานั้นประมาณเวลาเที่ยง ก็บังเกิดมืดมัวทั่วแผ่นดิน จนถึงบ่ายสามโมง ดวงอาทิตย์ก็มืดไป ม่านในพระวิหารก็ขาดตรงกลาง พระเยซูทรงร้องเสียงดังตรัสว่า <<พระบิดาเจ้าข้า ข้าพระองค์ฝากวิญญาณจิตของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์>> ตรัสอย่างนั้นแล้วก็สิ้นพระชนม์
ลูกา 23:32-46 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
มีอาชญากรอีกสองคนถูกนำตัวมาประหารพร้อมกับพระองค์ เมื่อมาถึงที่ซึ่งเรียกว่า หัวกะโหลก เขาก็ตรึงพระองค์ไว้ที่ไม้กางเขนพร้อมกับอาชญากรสองคน คนหนึ่งอยู่ข้างซ้าย อีกคนหนึ่งอยู่ข้างขวาของพระองค์ พระเยซูตรัสว่า “พระบิดา ขอทรงยกโทษให้พวกเขา เพราะพวกเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” และพวกเขาเอาฉลองพระองค์มาจับฉลากแบ่งกัน ประชาชนพากันยืนดูและพวกผู้นำพูดถากถางพระองค์ว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ ถ้าเขาเป็นพระคริสต์ของพระเจ้า เป็นผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้ก็ให้เขาช่วยตนเองให้รอดเถิด” พวกทหารก็มาเยาะเย้ยพระองค์ด้วย พวกเขาเอาเหล้าองุ่นเปรี้ยวส่งให้พระองค์ แล้วพูดว่า “ถ้าท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิวก็จงช่วยตนเองให้รอดเถิด” เหนือพระองค์มีป้ายเขียนติดไว้ว่า “นี่คือกษัตริย์ของชาวยิว” อาชญากรคนหนึ่งที่ถูกตรึงอยู่ที่นั่นพูดสบประมาทพระองค์ว่า “เจ้าเป็นพระคริสต์ไม่ใช่หรือ? จงช่วยตนเองกับเราให้รอด!” แต่อีกคนตำหนิเขาว่า “เจ้าไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือในเมื่อเจ้าเองก็ต้องโทษสถานเดียวกัน? เราถูกลงโทษอย่างยุติธรรมเพราะเราได้รับสิ่งที่สมควรกับการกระทำของเราแล้ว แต่ท่านผู้นี้ไม่ได้ทำอะไรผิด” แล้วเขาทูลว่า “พระเยซูเจ้าข้า ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงเข้าสู่ราชอาณาจักรของพระองค์” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” เวลานั้นประมาณเที่ยงวัน เกิดมืดมัวไปทั่วแผ่นดินจนถึงบ่ายสามโมง เพราะดวงอาทิตย์หยุดส่องแสงและม่านในพระวิหารขาดเป็นสองท่อน พระเยซูทรงร้องเสียงดังว่า “พระบิดา ข้าพระองค์ขอมอบจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์” ตรัสดังนี้แล้วก็สิ้นพระชนม์
ลูกา 23:32-46 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ชายคนร้ายอีก 2 คนถูกนำตัวไปกับพระองค์ด้วยเพื่อประหาร เมื่อพวกเขามายังสถานที่ที่เรียกว่ากะโหลกศีรษะ ที่นั่นแหละที่พวกเขาตรึงพระเยซูร่วมกับคนร้าย คนหนึ่งทางด้านขวา และคนหนึ่งทางด้านซ้ายของพระองค์ พระเยซูกล่าวว่า “พระบิดา ช่วยยกโทษให้แก่พวกเขาด้วยเถิด เพราะเขาต่างไม่ทราบว่าตนกำลังทำอะไรอยู่” และพวกเขาจับฉลากเพื่อแบ่งปันเสื้อตัวนอกของพระองค์ ประชาชนต่างยืนดู และแม้แต่พวกที่อยู่ในระดับปกครองยังพูดดูหมิ่นพระองค์ว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดชีวิตได้ ถ้าหากว่าเขาเป็นพระคริสต์ของพระเจ้า ผู้ที่พระเจ้าได้เลือกละก็ ให้เขาช่วยตัวเองให้รอดสิ” พวกทหารก็ล้อเลียนพระองค์แล้วเอาเหล้าองุ่นเปรี้ยวมาให้ เขาพูดว่า “ถ้าท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิว ก็ช่วยตัวเองให้รอดสิ” เหนือร่างของพระองค์มีข้อความจารึกไว้ว่า “นี่คือกษัตริย์ของชาวยิว” ผู้ร้ายคนหนึ่งซึ่งถูกตรึงอยู่ที่นั่นได้กล่าววาจาดูหมิ่นพระองค์ว่า “ท่านไม่ใช่พระคริสต์หรอกหรือ ช่วยตัวท่านเองแล้วช่วยเราให้รอดด้วยสิ” คนร้ายอีกคนห้ามเขาว่า “เจ้าไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือ ในเมื่อเจ้าก็ถูกโทษเช่นเดียวกัน เราถูกลงโทษอย่างยุติธรรม เพราะว่าเราสมควรจะได้รับโทษตามสิ่งที่เราทำไป แต่ท่านผู้นี้ไม่ได้ทำผิดแต่อย่างใดเลย” แล้วเขาพูดว่า “พระเยซู เวลาพระองค์เข้าสู่อาณาจักรของพระองค์ โปรดระลึกถึงข้าพเจ้าด้วยเถิด” พระเยซูตอบเขาว่า “เราขอบอกความจริงกับเจ้าว่า วันนี้เจ้าจะไปอยู่กับเราในสวนสวรรค์” ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงวัน แต่ความมืดปกคลุมไปทั่วแผ่นดินจนถึงบ่าย 3 โมง ดวงอาทิตย์หยุดส่องแสง ผ้าม่านในพระวิหารขาดออกเป็น 2 ท่อน พระเยซูร้องเสียงดังว่า “พระบิดา ข้าพเจ้าขอฝากวิญญาณของข้าพเจ้าไว้ในมือของพระองค์ด้วย” พระองค์กล่าวจบพร้อมกับหายใจเฮือกสุดท้าย