ลูกา 23:26-56

ลูกา 23:26-56 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ใน​ระหว่าง​ทาง​ที่​นำ​ตัว​พระเยซู​ไป​นั้น พวก​เขา​ก็​จับ​ตัว​ซีโมน​ชาวไซรีน ที่​เพิ่ง​มา​จาก​ชนบท บังคับ​ให้​เขา​แบก​ไม้กางเขน​เดิน​ตามหลัง​พระเยซู​ไป ฝูงชน​จำนวน​มาก​เดิน​ตาม​ไป รวม​ทั้ง​ผู้หญิง​หลาย​คน​ที่​ร้องห่มร้องไห้ คร่ำครวญ​สงสาร​พระเยซู พระเยซู​ก็​ได้​หัน​ไป​บอก​พวก​นาง​ว่า “หญิง​ชาว​เยรูซาเล็ม​เอ๋ย อย่า​ร้องไห้​ให้​กับ​เรา​เลย แต่​ร้องไห้​ให้​กับ​ตัวเอง​และ​ลูกๆ​ของ​คุณ​เอง​ดี​กว่า เวลา​นั้น​จะ​มา​ถึง ที่​คน​จะ​พูด​ว่า ‘หญิง​ที่​เป็น​หมัน ไม่​เคย​คลอด​ลูก และ​ไม่​เคย​เลี้ยง​นม​ลูก ก็​ได้​เปรียบ​จริงๆ’ แล้ว​พวก​เขา​ก็​จะ​ขอ​ร้อง​กับ​ภูเขา​ว่า ‘ช่วย​พัง​ลง​มา​ทับ​เรา​ด้วย’ และ​อ้อนวอน​กับ​เนิน​เขา​ว่า ‘ช่วย​ฝัง​เรา​หน่อย’ เพราะ​ถ้า​พวก​เขา​ทำ​อย่างนี้​กับ​คน​ที่​บริสุทธิ์ แล้ว​มัน​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​คน​ที่​ทำ​ผิด” ยัง​มี​ผู้ร้าย​อีก​สอง​คน​ที่​ถูก​นำ​ตัว​มา​ฆ่า​พร้อมๆ​กับ​พระเยซู​ด้วย เมื่อ​เขา​มา​ถึง​สถานที่​ที่​เรียกว่า “หัวกะโหลก” พวก​เขา​ก็​ตรึง​พระเยซู​บน​ไม้กางเขน​ระหว่าง​ผู้ร้าย​สอง​คน​นั้น ทาง​ขวา​คน​หนึ่ง​และ​ทาง​ซ้าย​คน​หนึ่ง แล้ว​พระเยซู​ก็​พูด​ว่า “พระบิดา ช่วย​ยกโทษ​ให้​กับ​พวกเขา​ด้วย เพราะ​พวก​เขา​ไม่​รู้ตัว​หรอก​ว่า​กำลัง​ทำ​อะไร​ลง​ไป” แล้ว​พวก​เขา​เอา​เสื้อผ้า​ของ​พระองค์​มา​จับสลาก​แบ่ง​กัน ประชาชน​ก็​ยืน​ดู​อยู่ ส่วน​พวก​ผู้นำ​ชาวยิว​ต่าง​พา​กัน​หัวเราะ​เยาะ​และ​พูด​ถากถาง​ว่า “ใน​เมื่อ​เขา​ช่วย​คน​อื่น​ได้ ก็​ให้​เขา​ช่วย​ตัวเอง​ด้วย​สิ ถ้า​เขา​เป็น​พระคริสต์​ผู้ที่​พระเจ้า​ได้​เลือก​ไว้​จริง” พวก​ทหาร​ก็​พา​กัน​มา​ล้อเลียน พวกเขา​เอา​เหล้า​องุ่น​เปรี้ยว​ให้​พระองค์ พวกเขา​พูด​ว่า “ถ้า​แก​เป็น​กษัตริย์​ของ​ชาวยิว​จริง ก็​ช่วย​ตัวเอง​สิ” เหนือ​ตัว​พระองค์​ขึ้น​ไป​มี​ป้าย​เขียน​ไว้​ว่า “นี่​คือ​กษัตริย์​ของ​ชาวยิว” ผู้ร้าย​คน​หนึ่ง​ที่​ถูก​ตรึง​อยู่​พูด​เสียดสี​ว่า “แก​เป็น​พระคริสต์​ไม่​ใช่​หรือ ช่วย​ตัว​แก​เอง​และ​พวก​เรา​ด้วย​สิ” แต่​ผู้ร้าย​อีก​คน​หนึ่ง​ห้าม​เขา และ​พูด​ขึ้น​ว่า “แก​ก็​มี​โทษ​ถึง​ตาย​เหมือน​กับ​เขา แก​ไม่​กลัว​พระเจ้า​หรือ​ยังไง พวก​เรา​มัน​สมควร​ตาย​อยู่​แล้ว แต่​ชาย​คนนี้​ไม่​ได้​ทำ​อะไร​ผิด​เลย” แล้ว​เขา​ก็​พูด​ว่า “เยซู อย่า​ลืม​ผม​นะ​ครับ เมื่อ​พระองค์​เข้า​สู่​อาณาจักร​ของ​พระองค์” พระองค์​จึง​ตอบ​ว่า “เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า วันนี้​คุณ​จะ​ได้​อยู่​กับ​เรา​ใน​สวน​สวรรค์​อย่าง​แน่​นอน” ประมาณ​เที่ยง มี​แต่​ความ​มืดมิด​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน​จน​ถึง​บ่าย​สาม​โมง เพราะ​ดวง​อาทิตย์​หยุด​ส่อง​แสง​และ​ม่าน​ใน​วิหาร ก็​ขาด​กลาง​ออก​เป็น​สอง​ท่อน พระเยซู​ร้อง​ตะโกน​ว่า “พระบิดา ลูก​ขอ​มอบ​จิต​วิญญาณ​ของ​ลูก​ไว้​ใน​มือ​พระองค์” เมื่อ​พูด​จบ​พระองค์​ก็​สิ้นใจ​ตาย เมื่อ​นายร้อย​คน​หนึ่ง​เห็น​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น เขา​ก็​สรรเสริญ​พระเจ้า​และ​พูด​ว่า “เขา​เป็น​คน​บริสุทธิ์​แน่ๆ” ส่วน​ฝูงชน​ที่​ได้​พา​กัน​มา​มุง​ดู​เหตุการณ์​ที่​น่า​ตื่นเต้น​นี้ เมื่อ​พวก​เขา​เห็น​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น ต่าง​ก็​กลับ​บ้าน​และ​ทุบอก​ตัวเอง​ด้วย​ความเสียอก​เสียใจ ส่วน​เพื่อน​สนิท​ทั้งหมด​ของ​พระเยซู และ​พวก​ผู้หญิง​ที่​ติดตาม​พระองค์​มา​จาก​แคว้น​กาลิลี​นั้น ยัง​คง​ยืน​ดู​อยู่​ห่างๆ มี​ชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ว่า โยเซฟ เป็น​สมาชิก​สภาสูง​ของ​ชาวยิว เขา​เป็น​คน​ซื่อสัตย์​ที่​ทำ​ตามใจ​พระเจ้า เขา​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การตัดสินใจ​และ​การกระทำ​ของ​พวกผู้นำ​ชาวยิว​คน​อื่นๆ​เกี่ยวกับ​พระเยซู เขา​มา​จาก​เมือง​อาริมาเธีย​ใน​แคว้น​ยูเดีย และ​เฝ้าคอย​อาณาจักร​ของ​พระเจ้า​อยู่ เขา​ไป​หา​ปีลาต​เพื่อ​ขอ​ศพ​พระเยซู แล้ว​จึง​เอา​ศพ​ของ​พระองค์​ลง​มา​จาก​ไม้กางเขน และ​พัน​ด้วย​ผ้า​ลินิน แล้ว​นำ​ไป​ไว้​ใน​อุโมงค์​ฝัง​ศพ ซึ่ง​เจาะ​ไว้​ใน​หิน และ​ยัง​ไม่​เคย​ใช้​วาง​ศพ​ใคร​มา​ก่อน วัน​นั้น​เป็น​วัน​ศุกร์ ซึ่ง​เป็น​วันจัดเตรียม​และ​วันหยุดทางศาสนา ก็​ใกล้​จะ​เริ่มต้น​แล้ว ส่วน​พวก​ผู้หญิง​ที่​ติดตาม​พระเยซู​มา​จาก​แคว้น​กาลิลี​ก็​ตาม​โยเซฟ​ไป​ที่​อุโมงค์ และ​เห็น​ว่า​เขา​วาง​ศพ​ไว้​ที่นั่น หลังจากนั้น​พวก​เขา​ก็​กลับ​บ้าน​ไป​เตรียม​เครื่อง​หอม​กับ​น้ำมันหอม​ไว้​อาบ​ศพ​พระองค์ แล้ว​ใน​วันหยุดทางศาสนา​พวก​เขา​ก็​หยุด​พักผ่อน​ตาม​ที่​กฎ​ของ​โมเสส​สั่ง

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 23

ลูกา 23:26-56 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เมื่อกำลังพาพระองค์ออกไป พวกเขาเกณฑ์ซีโมนชาวไซรีนที่มาจากบ้านนอก แล้วเอากางเขนวางบนตัวเขา ให้แบกตามพระเยซูไป มีคนจำนวนมากตามพระองค์ไปด้วย ทั้งพวกผู้หญิงที่กำลังทุกข์โศกและคร่ำครวญเพราะพระองค์ พระเยซูทรงหันมาทางพวกเขาตรัสว่า “ธิดาทั้งหลายแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่าร้องไห้สงสารเราเลย แต่จงร้องไห้สงสารตนเองและลูกๆ เถิด เพราะว่าจะมีเวลาหนึ่งที่พวกเขาจะกล่าวว่า ‘พวกผู้หญิงที่เป็นหมัน และครรภ์ที่ไม่ได้ปฏิสนธิ และเต้านมที่ไม่เคยเลี้ยงลูก ก็เป็นสุข’ ในเวลานั้นเขาจะเริ่ม พูดกับภูเขาทั้งหลายว่า ‘จงพังลงมาทับเรา’ และพูดกับเนินเขาว่า ‘จงปกคลุมเราไว้’ เพราะว่าถ้าเขาทำอย่างนี้เมื่อไม้ยังสดอยู่ อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไม้แห้งแล้ว?” มีอีกสองคนที่เป็นผู้ร้าย ซึ่งเขาพาไปประหารชีวิตพร้อมกับพระองค์ เมื่อไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่เรียกว่ากะโหลกศีรษะ เขาก็ตรึงพระองค์ไว้ที่นั่นบนกางเขนพร้อมกับผู้ร้ายสองคนนั้น ข้างขวาคนหนึ่งข้างซ้ายคนหนึ่ง พระเยซูตรัสว่า “พระบิดาเจ้าข้า ขอทรงยกโทษพวกเขาเพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” แล้วพวกเขาก็เอาฉลองพระองค์มาจับฉลากแบ่งกัน ประชาชนก็ยืนมองดูอยู่ พวกผู้นำก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วยว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ ก็ให้เขาช่วยตัวเองด้วยซิ ถ้าหากเขาเป็นพระคริสต์ของพระเจ้าที่ทรงเลือกไว้” พวกทหารก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วย และเข้ามาเอาเหล้าองุ่นเปรี้ยวส่งให้พระองค์ แล้วกล่าวว่า “ถ้าเจ้าเป็นกษัตริย์ของพวกยิวก็จงช่วยตัวเองให้รอดเถิด” เหนือพระองค์มีคำจารึกไว้ด้วยว่า “คนนี้เป็นกษัตริย์ของพวกยิว” ผู้ร้ายคนหนึ่งที่ถูกตรึงไว้จึงพูดหมิ่นประมาทพระองค์ว่า “เจ้าเป็นพระคริสต์ไม่ใช่หรือ? จงช่วยตัวเองกับเราทั้งสองให้รอดเถิด” แต่อีกคนหนึ่งห้ามปรามเขาว่า “เจ้าไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือ? เพราะเจ้าก็ถูกลงโทษเหมือนกัน และเราทั้งสองก็สมควรกับโทษนั้นจริง เพราะเราได้รับผลสมกับการกระทำ แต่ท่านผู้นี้ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย” แล้วคนนั้นจึงทูลว่า “พระเยซู ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในแผ่นดินของพระองค์” พระเยซูทรงตอบเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” เวลานั้นประมาณเที่ยงวัน เกิดมืดมัวทั่วทั้งแผ่นดินจนถึงบ่ายสามโมง ดวงอาทิตย์ก็มืดไป ม่านในพระวิหารก็ขาดตรงกลาง พระเยซูทรงร้องเสียงดังตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอฝากจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์” ตรัสอย่างนั้นแล้วก็สิ้นพระชนม์ เมื่อนายร้อยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ จึงสรรเสริญพระเจ้าว่า “แท้จริงท่านผู้นี้เป็นคนชอบธรรม” ฝูงชนทั้งหมดที่มาชุมนุมกันเพื่อจะดูเหตุการณ์นั้น เมื่อเห็นแล้วก็พากันตีอกชกตัวกลับไป ทุกคนที่รู้จักพระองค์ รวมทั้งพวกผู้หญิงซึ่งตามพระองค์มาจากกาลิลี ก็ยืนอยู่แต่ไกลมองเห็นสิ่งเหล่านี้ มีชายคนหนึ่งชื่อโยเซฟ ท่านเป็นสมาชิกสภา เป็นคนดีและชอบธรรม ท่านไม่เห็นด้วยกับมติและการกระทำของสภานั้น ท่านเป็นชาวอาริมาเธียซึ่งเป็นเมืองของพวกยิว และเป็นคนที่คอยแผ่นดินของพระเจ้า ชายคนนี้เข้าไปหาปีลาตขอพระศพของพระเยซู เมื่อเขาเอาพระศพลงแล้ว จึงเอาผ้าป่านพันหุ้มไว้ แล้วนำพระศพไปวางไว้ในอุโมงค์ซึ่งเจาะไว้ในศิลา อุโมงค์นั้นยังไม่เคยวางศพของใครเลย วันนั้นเป็นวันจัดเตรียม และใกล้จะถึงวันสะบาโตแล้ว พวกผู้หญิงที่ตามพระองค์มาจากแคว้นกาลิลีก็ตามไปและเห็นอุโมงค์นั้น ทั้งเห็นว่าเขาวางพระศพของพระองค์ไว้อย่างไรด้วย แล้วพวกนางก็กลับไปจัดแจงเครื่องหอมกับน้ำมันหอม ในวันสะบาโตนั้นพวกเขาก็หยุดพักตามบัญญัติ

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 23

ลูกา 23:26-56 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เมื่อเขาพาพระองค์ออกไป เขาเกณฑ์​ซี​โมนชาวไซรี​นที​่มาจากบ้านนอก แล​้วเอากางเขนวางบนเขาให้แบกตามพระเยซู​ไป มี​คนเป็​นอ​ันมากตามพระองค์​ไป ทั้งพวกผู้หญิงที่พิลาปและคร่ำครวญเพราะพระองค์ พระเยซู​จึงหันพระพักตร์มาทางเขาตรั​สว​่า “ธิดาเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่าร้องไห้เพราะเราเลย แต่​จงร้องไห้เพราะตนเอง และเพราะลูกทั้งหลายของตนเถิด ด้วยว่า ดู​เถิด จะมีเวลาหนึ่งที่เขาทั้งหลายจะว่า ‘​ผู้​หญิงเหล่านั้​นที​่​เป็นหมัน และครรภ์​ที่​มิได้​ปฏิสนธิ และหัวนมที่​มิได้​ให้​ดู​ดเลย ก็​เป็นสุข​’ คราวนั้นเขาจะเริ่มกล่าวแก่​ภู​เขาทั้งหลายว่า ‘จงล้​มท​ับเราเถิด’ และแก่เนินเขาว่า ‘จงปกคลุมเราไว้’ เพราะว่าถ้าเขาทำอย่างนี้เมื่อไม้​สด อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไม้​แห​้งแล้วเล่า” มี​อี​กสองคนที่เป็นผู้ร้ายซึ่งเขาได้พามาจะประหารเสียพร้อมกับพระองค์ เมื่อมาถึงสถานที่​แห่งหน​ึ่งซึ่งเรียกว่า กะโหลกศีรษะ เขาก็ตรึงพระองค์​ไว้​ที่​กางเขนที่​นั่น พร​้อมกับผู้ร้ายสองคนนั้น ข้างขวาพระหัตถ์คนหนึ่ง และข้างซ้ายอีกคนหนึ่ง ฝ่ายพระเยซูจึงทรงอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระบิดา ขอโปรดอภัยโทษเขา เพราะว่าเขาไม่​รู้​ว่าเขาทำอะไร” เขาก็เอาฉลองพระองค์จับสลากแบ่งปั​นก​ัน คนทั้งปวงก็ยืนมองดู พวกขุนนางก็เยาะเย้ยพระองค์​ด้วยว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ ถ้าเขาเป็นพระคริสต์ของพระเจ้าที่ทรงเลือกไว้ ให้​เขาช่วยตัวเองเถิด” พวกทหารก็เยาะเย้ยพระองค์​ด้วย เข​้ามาเอาน้ำองุ่นเปรี้ยวส่งให้​พระองค์ แล​้​วว​่า “ถ้าท่านเป็นกษั​ตริ​ย์ของพวกยิว จงช่วยตัวเองให้รอดเถิด” และมีคำเขียนไว้เหนือพระองค์ด้วยเป็​นอ​ักษรกรีก ลาติน และฮีบรู​ว่า “​ผู้​นี้​เป็นกษั​ตริ​ย์ของพวกยิว” ฝ่ายคนหนึ่งในผู้ร้ายที่​ถู​กตรึงไว้จึงพูดหยาบช้าต่อพระองค์​ว่า “ถ้าท่านเป็นพระคริสต์ จงช่วยตัวเองกับเราให้รอดเถิด” แต่​อี​กคนหนึ่งห้ามปรามเขาว่า “​เจ้​าก็​ไม่​เกรงกลัวพระเจ้าหรือ เพราะเจ้าเป็นคนถูกโทษเหมือนกัน และเราก็สมกับโทษนั้นจริง เพราะเราได้รับสมกับการที่เราได้​กระทำ แต่​ท่านผู้​นี้​หาได้กระทำผิดประการใดไม่” แล​้วคนนั้นจึงทูลพระเยซู​ว่า “​พระองค์​เจ้าข้า ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จเข้าในอาณาจักรของพระองค์” ฝ่ายพระเยซูทรงตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่​เจ้​าว่า วันนี้​เจ้​าจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” เวลานั้นประมาณเวลาเที่ยง ก็​บังเกิดความมืดทั่​วท​ั้งแผ่นดินจนถึ​งบ​่ายสามโมง ดวงอาทิตย์​ก็​มืดไป ม่านในพระวิหารก็ขาดตรงกลาง พระเยซู​ทรงร้องเสียงดังตรั​สว​่า “พระบิดาเจ้าข้า ข้าพระองค์ฝากจิตวิญญาณของข้าพระองค์​ไว้​ในพระหัตถ์ของพระองค์” ตรั​สอย​่างนั้นแล้ว จึงทรงปล่อยพระวิญญาณจิตออกไป ฝ่ายนายร้อยเมื่อเห็นเหตุ​การณ์​ซึ่​งบ​ังเกิดขึ้นนั้น จึงสรรเสริญพระเจ้าว่า “​แท้​จร​ิงท่านผู้​นี้​เป็นคนชอบธรรม” คนทั้งปวงที่มาชุ​มนุ​มกันเพื่อจะดู​การณ์​นี้ เมื่อเห็นแล้​วก​็พากันตีอกของตัวกลับไป คนทั้งปวงที่​รู้​จักพระองค์และพวกผู้หญิงซึ่งได้ตามพระองค์มาจากกาลิลี ก็​ยืนอยู่​แต่ไกล มองดู​เหตุการณ์​เหล่านี้ และดู​เถิด มี​ชายคนหนึ่งชื่อโยเซฟ ท่านเป็นสมาชิกสภา เป็นคนดีและชอบธรรม (ท่านมิ​ได้​ยอมเห็นด้วยในมติและการกระทำของเขาทั้งหลาย) ท่านเป็นชาวบ้านอาริมาเธียหมู่บ้านพวกยิว และเป็นผู้คอยท่าอาณาจักรของพระเจ้า ชายคนนี้จึงเข้าไปหาปีลาตขอพระศพพระเยซู เมื่อเชิญพระศพลงแล้ว เขาจึงเอาผ้าป่านพันหุ้มไว้ แล​้วเชิญพระศพไปประดิษฐานไว้ในอุโมงค์ ซึ่งเจาะไว้ในศิลาที่ยั​งม​ิ​ได้​วางศพผู้ใดเลย วันนั้นเป็​นว​ันจัดเตรี​ยม และวันสะบาโตก็​เก​ือบจะถึงแล้ว ฝ่ายพวกผู้หญิงที่ตามพระองค์มาจากแคว้นกาลิ​ลีก​็ตามไปและได้​เห​็​นอ​ุโมงค์ ทั้งได้​เห​็นเขาวางพระศพของพระองค์​ไว้​อย่างไรด้วย แล​้วเขาก็​กล​ับไปจัดแจงเครื่องหอมกั​บน​้ำมันหอม ในวันสะบาโตนั้นเขาก็หยุดการไว้ตามพระบัญญั​ติ

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 23

ลูกา 23:26-56 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เมื่อเขาพาพระองค์ออกไป เขาเกณฑ์ซีโมนชาวไซรีนที่มาจากบ้านนอก แล้วเอากางเขนวางบนเขาให้แบกตามพระเยซูไป มีคนเป็นอันมากตามพระองค์ไป ทั้งพวกผู้หญิงที่พิลาปและคร่ำครวญเพราะพระองค์ พระเยซูจึงหันพระพักตร์มาทางเขาตรัสว่า <<ธิดาเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่าร้องไห้สงสารเราเลย แต่จงร้องไห้สงสารตนเอง และสงสารลูกทั้งหลายของตนเถิด ด้วยว่า ดูเถิด จะมีเวลาหนึ่งที่เขาทั้งหลายจะว่า <ผู้หญิงเหล่านั้นที่เป็นหมันและครรภ์ที่มิได้ปฏิสนธิ และหัวนมที่มิได้ให้ดูดเลย ก็เป็นสุข> คราวนั้นเขาจะเริ่มว่าแก่ภูเขาทั้งหลายว่า <จงพังลงทับเรา> และแก่เนินเขาว่า <จงคลุมเราไว้> เพราะว่าถ้าเขาทำอย่างนี้เมื่อไม้สด อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไม้แห้งแล้วเล่า>> มีอีกสองคนที่เป็นผู้ร้ายซึ่งเขาได้พามาจะฆ่าเสียพร้อมกับพระองค์ เมื่อมาถึงตำบลหนึ่งที่เรียกว่ากระโหลกศีรษะ เขาจึงตรึงพระองค์ไว้ที่กางเขนที่นั่นพร้อมกับผู้ร้ายสองคนนั้น ข้างขวาคนหนึ่งข้างซ้ายคนหนึ่ง ฝ่ายพระเยซูจึงทรงอธิษฐานว่า <<โอพระบิดาเจ้าข้า ขอโปรดอภัยโทษเขาเพราะว่า เขาไม่รู้ว่า เขาทำอะไร>> เขาก็เอาฉลองพระองค์ จับฉลากแบ่งปันกัน คนทั้งปวงก็ยืนมองดู พวกขุนนางก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วยว่า <<เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ ถ้าเขาเป็นพระคริสต์ของพระเจ้าที่ทรงเลือกไว้ ให้เขาช่วยตัวเองเถิด>> พวกทหารก็เย้ยหยันพระองค์ด้วย เข้ามาเอาเหล้าองุ่นเปรี้ยวส่งให้พระองค์ แล้วว่า <<ถ้าท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิว จงช่วยตัวเองให้รอดเถิด>> และมีคำเขียนไว้เหนือพระองค์ว่า <<ผู้นี้เป็นกษัตริย์ของพวกยิว>> ฝ่ายคนหนึ่งในผู้ร้ายที่ถูกตรึงไว้จึงพูดหยาบช้าต่อพระองค์ว่า <<ท่านเป็นพระคริสต์มิใช่หรือ จงช่วยตัวเองกับเราให้รอดเถิด>> แต่อีกคนหนึ่งห้ามปรามเขาว่า <<เจ้าก็ไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือ เพราะเจ้าเป็นคนถูกโทษเหมือนกัน และเราก็สมกับโทษนั้นจริง เพราะเราได้รับสมกับการที่เราได้กระทำ แต่ท่านผู้นี้หาได้กระทำผิดประการใดไม่>> แล้วคนนั้นจึงทูลว่า <<พระเยซูเจ้าข้า ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์ เมื่อพระองค์เสด็จเข้าในแผ่นดินของพระองค์>> ฝ่ายพระเยซูทรงตอบเขาว่า <<เราบอกความจริงแก่เจ้าว่า วันนี้เจ้าจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม>> เวลานั้นประมาณเวลาเที่ยง ก็บังเกิดมืดมัวทั่วแผ่นดิน จนถึงบ่ายสามโมง ดวงอาทิตย์ก็มืดไป ม่านในพระวิหารก็ขาดตรงกลาง พระเยซูทรงร้องเสียงดังตรัสว่า <<พระบิดาเจ้าข้า ข้าพระองค์ฝากวิญญาณจิตของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์>> ตรัสอย่างนั้นแล้วก็สิ้นพระชนม์ ฝ่ายนายร้อยเมื่อเห็นเหตุการณ์ซึ่งบังเกิดขึ้นนั้น จึงสรรเสริญพระเจ้าว่า <<แท้จริงท่านผู้นี้เป็นคนชอบธรรม>> คนทั้งปวงที่มาชุมนุมกันเพื่อจะดูการณ์นั้น เมื่อเห็นแล้วก็พากันตีอกของตัวกลับไป คนทั้งปวงที่รู้จักพระองค์ และพวกผู้หญิงซึ่งได้ตามพระองค์มาจากกาลิลี ก็ยืนอยู่แต่ไกลมองเห็นเหตุการณ์เหล่านั้น มีชายคนหนึ่งชื่อโยเซฟ ชาวบ้านอาริมาเธียหมู่บ้านพวกยิว ท่านเป็นสมาชิกสภา เป็นคนดีและชอบธรรม มิได้ยอมเห็นด้วยในมติและการกระทำของเขาทั้งหลาย และโยเซฟเป็นผู้คอยท่าแผ่นดินของพระเจ้า ชายคนนี้จึงเข้าไปหาปีลาตขอพระศพพระเยซู เมื่อเชิญพระศพลงแล้ว เขาจึงเอาผ้าป่านพันหุ้มไว้ แล้วเชิญพระศพไปประดิษฐานไว้ในอุโมงค์ ซึ่งเจาะไว้ในศิลาที่ยังมิได้วางศพผู้ใดเลย วันนั้นเป็นวันจัดเตรียมและวันสะบาโตก็เกือบจะถึงแล้ว ฝ่ายพวกผู้หญิงที่ตามพระองค์มาจากแคว้นกาลิลีก็ตามไปและได้เห็นอุโมงค์ ทั้งได้เห็นเขาวางพระศพของพระองค์ไว้อย่างไรด้วย แล้วเขาก็กลับไปจัดแจงเครื่องหอมกับน้ำมันหอม ในวันสะบาโตนั้นเขาก็หยุดการไว้ตามพระบัญญัติ

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 23

ลูกา 23:26-56 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ขณะพวกเขานำพระเยซูออกไป เขาเกณฑ์ซีโมนจากไซรีนที่เดินทางมาจากชนบทให้แบกไม้กางเขนตามหลังพระเยซู ผู้คนมากมายติดตามพระองค์มา รวมทั้งพวกผู้หญิงซึ่งร้องไห้คร่ำครวญเสียงดังเพราะพระองค์ พระเยซูทรงหันมาตรัสกับพวกผู้หญิงนั้นว่า “ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่าร้องไห้เพื่อเราเลย จงร้องไห้เพื่อตนเองและเพื่อลูกๆ ของตนเถิด เพราะวาระนั้นจะมาถึงเมื่อพวกท่านจะกล่าวว่า ‘ความสุขมีแก่หญิงผู้เป็นหมัน แก่ครรภ์ที่ไม่ได้คลอด และอกที่ไม่ได้ให้นมลูก!’ เมื่อนั้น “ ‘เขาจะกล่าวแก่ภูเขาทั้งหลายว่า “ล้มมาทับเราเถิด!” และบอกเนินเขาทั้งหลายว่า “ปกคลุมเราไว้เถิด!” ’ เพราะถ้าเขายังทำอย่างนี้กับต้นไม้เขียวสด อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไม้แห้งเล่า?” มีอาชญากรอีกสองคนถูกนำตัวมาประหารพร้อมกับพระองค์ เมื่อมาถึงที่ซึ่งเรียกว่า หัวกะโหลก เขาก็ตรึงพระองค์ไว้ที่ไม้กางเขนพร้อมกับอาชญากรสองคน คนหนึ่งอยู่ข้างซ้าย อีกคนหนึ่งอยู่ข้างขวาของพระองค์ พระเยซูตรัสว่า “พระบิดา ขอทรงยกโทษให้พวกเขา เพราะพวกเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” และพวกเขาเอาฉลองพระองค์มาจับฉลากแบ่งกัน ประชาชนพากันยืนดูและพวกผู้นำพูดถากถางพระองค์ว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ ถ้าเขาเป็นพระคริสต์ของพระเจ้า เป็นผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้ก็ให้เขาช่วยตนเองให้รอดเถิด” พวกทหารก็มาเยาะเย้ยพระองค์ด้วย พวกเขาเอาเหล้าองุ่นเปรี้ยวส่งให้พระองค์ แล้วพูดว่า “ถ้าท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิวก็จงช่วยตนเองให้รอดเถิด” เหนือพระองค์มีป้ายเขียนติดไว้ว่า “นี่คือกษัตริย์ของชาวยิว” อาชญากรคนหนึ่งที่ถูกตรึงอยู่ที่นั่นพูดสบประมาทพระองค์ว่า “เจ้าเป็นพระคริสต์ไม่ใช่หรือ? จงช่วยตนเองกับเราให้รอด!” แต่อีกคนตำหนิเขาว่า “เจ้าไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือในเมื่อเจ้าเองก็ต้องโทษสถานเดียวกัน? เราถูกลงโทษอย่างยุติธรรมเพราะเราได้รับสิ่งที่สมควรกับการกระทำของเราแล้ว แต่ท่านผู้นี้ไม่ได้ทำอะไรผิด” แล้วเขาทูลว่า “พระเยซูเจ้าข้า ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงเข้าสู่ราชอาณาจักรของพระองค์” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” เวลานั้นประมาณเที่ยงวัน เกิดมืดมัวไปทั่วแผ่นดินจนถึงบ่ายสามโมง เพราะดวงอาทิตย์หยุดส่องแสงและม่านในพระวิหารขาดเป็นสองท่อน พระเยซูทรงร้องเสียงดังว่า “พระบิดา ข้าพระองค์ขอมอบจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์” ตรัสดังนี้แล้วก็สิ้นพระชนม์ นายร้อยได้เห็นเหตุการณ์ก็สรรเสริญพระเจ้าและกล่าวว่า “แน่ทีเดียว ท่านผู้นี้เป็นผู้ชอบธรรม” เมื่อคนทั้งปวงที่มาชุมนุมกันเพื่อเป็นพยานในเหตุการณ์นี้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ทุบตีอกด้วยความเสียใจและจากไป แต่คนทั้งปวงที่รู้จักพระองค์ รวมทั้งพวกผู้หญิงที่ติดตามพระองค์มาจากกาลิลี ยืนเฝ้าดูสิ่งเหล่านี้อยู่ห่างๆ มีชายคนหนึ่งชื่อโยเซฟ เป็นสมาชิกสภา เขาเป็นคนดีและเที่ยงธรรม ซึ่งไม่เห็นด้วยกับมติและการกระทำของคนเหล่านั้น เขามาจากอาริมาเธียแคว้นยูเดีย และเขากำลังรอคอยอาณาจักรของพระเจ้า โยเซฟไปพบปีลาตเพื่อขอพระศพของพระเยซู จากนั้นเขาเชิญพระศพลงมา เอาผ้าลินินพัน และวางพระศพไว้ในอุโมงค์ซึ่งสกัดไว้ในศิลา และอุโมงค์ฝังศพนี้ยังไม่เคยวางศพของใครเลย วันนั้นเป็นวันเตรียม และวันสะบาโตกำลังจะเริ่มขึ้น พวกผู้หญิงจากกาลิลีที่มากับพระเยซูตามโยเซฟมาและได้เห็นอุโมงค์ ตลอดจนได้เห็นว่าเขาวางพระศพไว้ในอุโมงค์อย่างไร จากนั้นพวกเขาก็กลับบ้านไปเตรียมเครื่องหอมกับน้ำมันหอม แต่พวกเขาหยุดพักในวันสะบาโตอันเป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติ

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 23

ลูกา 23:26-56 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ขณะ​ที่​พวก​เขา​พา​พระ​องค์​ไป​ก็​ได้​คว้า​ตัว​ซีโมน​ชาว​ไซรีน​ซึ่ง​กำลัง​เดิน​ทาง​มา​จาก​ชนบท และ​วาง​ไม้​กางเขน​บน​หลัง​ซีโมน​เพื่อ​ให้​แบก​ตาม​พระ​เยซู​ไป ไม่​เพียง​หมู่​สตรี​ซึ่ง​ร้อง​คร่ำครวญ​และ​ร้องไห้​ฟูมฟาย​เท่า​นั้น​ที่​ตาม​พระ​องค์​ไป แต่​ยัง​มี​ประชาชน​จำนวน​มาก​อีก​ด้วย พระ​เยซู​หัน​กลับ​มา​เพื่อ​กล่าว​กับ​เหล่า​สตรี​ว่า “ลูก​หญิง​ของ​เมือง​เยรูซาเล็ม​เอ๋ย อย่า​ร้องไห้​เพื่อ​เรา​เลย จง​ร้องไห้​เพื่อ​พวก​เจ้า​และ​ลูกๆ ของ​เจ้า​เอง​เถิด ด้วย​ว่า​จะ​ถึง​เวลา​ที่​เจ้า​จะ​พูด​ว่า ‘พวก​ผู้​หญิง​ที่​เป็น​หมัน ท้อง​ที่​ไม่​เคย​อุ้ม และ​อก​ที่​ไม่​เคย​ให้​น้ำนม​ก็​เป็น​สุข’ แล้ว ‘เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​พูด​กับ​ภูเขา​ว่า ปกคลุม​เรา​เถิด และ​พูด​กับ​เนินเขา​ว่า กลิ้ง​ลง​มา​ทับ​เรา​เถิด’ ถ้า​หาก​ว่า​คน​กระทำ​สิ่ง​เหล่า​นี้​เมื่อ​ต้นไม้​ยัง​เขียว​ชอุ่ม แล้ว​อะไร​จะ​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​มัน​แห้ง​ลง” ชาย​คน​ร้าย​อีก 2 คน​ถูก​นำ​ตัว​ไป​กับ​พระ​องค์​ด้วย​เพื่อ​ประหาร เมื่อ​พวก​เขา​มา​ยัง​สถานที่​ที่​เรียก​ว่า​กะโหลก​ศีรษะ ที่​นั่น​แหละ​ที่​พวก​เขา​ตรึง​พระ​เยซู​ร่วม​กับ​คน​ร้าย คน​หนึ่ง​ทาง​ด้าน​ขวา และ​คน​หนึ่ง​ทาง​ด้าน​ซ้าย​ของ​พระ​องค์ พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “พระ​บิดา ช่วย​ยกโทษ​ให้​แก่​พวก​เขา​ด้วย​เถิด เพราะ​เขา​ต่าง​ไม่​ทราบ​ว่า​ตน​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่” และ​พวก​เขา​จับ​ฉลาก​เพื่อ​แบ่งปัน​เสื้อ​ตัว​นอก​ของ​พระ​องค์ ประชาชน​ต่าง​ยืน​ดู และ​แม้​แต่​พวก​ที่​อยู่​ใน​ระดับ​ปกครอง​ยัง​พูด​ดูหมิ่น​พระ​องค์​ว่า “เขา​ช่วย​คน​อื่น​ให้​รอด​ชีวิต​ได้ ถ้า​หาก​ว่า​เขา​เป็น​พระ​คริสต์​ของ​พระ​เจ้า ผู้​ที่​พระ​เจ้า​ได้​เลือก​ละ​ก็ ให้​เขา​ช่วย​ตัว​เอง​ให้​รอด​สิ” พวก​ทหาร​ก็​ล้อเลียน​พระ​องค์​แล้ว​เอา​เหล้า​องุ่น​เปรี้ยว​มา​ให้ เขา​พูด​ว่า “ถ้า​ท่าน​เป็น​กษัตริย์​ของ​ชาว​ยิว ก็​ช่วย​ตัว​เอง​ให้​รอด​สิ” เหนือ​ร่าง​ของ​พระ​องค์​มี​ข้อความ​จารึก​ไว้​ว่า “นี่​คือ​กษัตริย์​ของ​ชาว​ยิว” ผู้​ร้าย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ถูก​ตรึง​อยู่​ที่​นั่น​ได้​กล่าว​วาจา​ดูหมิ่น​พระ​องค์​ว่า “ท่าน​ไม่​ใช่​พระ​คริสต์​หรอก​หรือ ช่วย​ตัว​ท่าน​เอง​แล้ว​ช่วย​เรา​ให้​รอด​ด้วย​สิ” คน​ร้าย​อีก​คน​ห้าม​เขา​ว่า “เจ้า​ไม่​เกรงกลัว​พระ​เจ้า​หรือ ใน​เมื่อ​เจ้า​ก็​ถูก​โทษ​เช่น​เดียว​กัน เรา​ถูก​ลง​โทษ​อย่าง​ยุติธรรม เพราะ​ว่า​เรา​สมควร​จะ​ได้​รับ​โทษ​ตาม​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ​ไป แต่​ท่าน​ผู้​นี้​ไม่​ได้​ทำ​ผิด​แต่​อย่างใด​เลย” แล้ว​เขา​พูด​ว่า “พระ​เยซู เวลา​พระ​องค์​เข้า​สู่​อาณาจักร​ของ​พระ​องค์ โปรด​ระลึก​ถึง​ข้าพเจ้า​ด้วย​เถิด” พระ​เยซู​ตอบ​เขา​ว่า “เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​เจ้า​ว่า วัน​นี้​เจ้า​จะ​ไป​อยู่​กับ​เรา​ใน​สวน​สวรรค์” ขณะ​นั้น​เป็น​เวลา​ประมาณ​เที่ยง​วัน แต่​ความ​มืด​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​แผ่นดิน​จน​ถึง​บ่าย 3 โมง ดวง​อาทิตย์​หยุด​ส่อง​แสง ผ้า​ม่าน​ใน​พระ​วิหาร​ขาด​ออก​เป็น 2 ท่อน พระ​เยซู​ร้อง​เสียงดัง​ว่า “พระ​บิดา ข้าพเจ้า​ขอ​ฝาก​วิญญาณ​ของ​ข้าพเจ้า​ไว้​ใน​มือ​ของ​พระ​องค์​ด้วย” พระ​องค์​กล่าว​จบ​พร้อม​กับ​หายใจ​เฮือก​สุดท้าย นาย​ร้อย​เห็น​เหตุการณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​ก็​สรรเสริญ​พระ​เจ้า​และ​พูด​ว่า “จริง​ที​เดียว ชาย​ผู้​นี้​เป็น​ผู้​มี​ความ​ชอบธรรม” คน​ทั้ง​ปวง​ได้​ชุมนุม​กัน​เพื่อ​จะ​ดู​เหตุการณ์ เมื่อ​เห็น​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น จึง​ได้​ตี​อก​ชก​ตัว​แล้ว​ก็​จาก​ไป คน​ทั้ง​ปวง​ที่​รู้จัก​พระ​องค์ รวม​ทั้ง​พวก​ผู้​หญิง​ซึ่ง​ได้​ติดตาม​พระ​องค์​ไป​จาก​แคว้น​กาลิลี​ก็​ยืน​อยู่​ห่างๆ เฝ้าดู​เหตุการณ์​เหล่า​นั้น มี​ชาย​ผู้​หนึ่ง​ชื่อ​โยเซฟ​ซึ่ง​เป็น​สมาชิก​ใน​ศาสนสภา เป็น​คน​ดี​และ​มี​ความ​ชอบธรรม โยเซฟ​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การ​ตัดสิน​และ​การ​กระทำ​ของ​เขา​เหล่า​นั้น เขา​เป็น​ชาว​เมือง​อาริมาเธีย​ซึ่ง​เป็น​เมือง​ของ​ชาว​ยิว และ​กำลัง​รอคอย​อาณาจักร​ของ​พระ​เจ้า เขา​ไป​หา​ปีลาต​เพื่อ​ขอ​ร่าง​ของ​พระ​เยซู เขา​วาง​ร่าง​ลง​แล้ว​พัน​หุ้ม​ด้วย​ผ้าป่าน ใส่​ใน​ถ้ำ​เก็บ​ศพ​ซึ่ง​เจาะ​เข้า​ไป​ใน​หิน​และ​ยัง​ไม่​เคย​มี​ร่าง​อื่น​วาง​ไว้​มา​ก่อน วัน​นั้น​เป็น​วัน​จัดเตรียม​ซึ่ง​ใกล้​วัน​สะบาโต​แล้ว พวก​ผู้​หญิง​ที่​มา​กับ​พระ​เยซู​จาก​แคว้น​กาลิลี​ก็​ตาม​โยเซฟ​ไป และ​เห็น​ถ้ำ​เก็บ​ศพ อีก​ทั้ง​เห็น​ด้วย​ว่า​เขา​วาง​ร่าง​ของ​พระ​องค์​ไว้​อย่างไร แล้ว​เขา​เหล่า​นั้น​จึง​กลับ​บ้าน​ไป​เพื่อ​เตรียม​เครื่อง​หอม​กับ​น้ำหอม และ​จะ​พักผ่อน​ใน​วัน​สะบาโต​ตาม​พระ​บัญญัติ

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 23

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา