ลูกา 22:1-30
ลูกา 22:1-30 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เมื่อใกล้ถึงเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อที่เรียกว่าเทศกาลวันปลดปล่อย พวกผู้นำนักบวช และพวกครูสอนกฎปฏิบัติต่างพยายามหาทางที่จะฆ่าพระเยซู แต่พวกเขาก็กลัวชาวบ้าน ซาตานได้เข้าสิงยูดาส อิสคาริโอทซึ่งเป็นศิษย์เอกคนหนึ่งในสิบสองคน ยูดาสไปหาพวกผู้นำนักบวชและพวกทหารเฝ้าวิหาร เพื่อเสนอตัวที่จะช่วยจับพระเยซูให้ พวกเขาดีใจมาก และสัญญาว่าจะให้เงินกับยูดาส ยูดาสตกลงและเริ่มหาโอกาสที่จะส่งตัวพระเยซูไปให้พวกเขาตอนที่ไม่มีฝูงชนอยู่กับพระองค์ เมื่อถึงเทศกาลวันกินขนมปังไร้เชื้อ ซึ่งเป็นวันที่พวกยิวจะฆ่าลูกแกะถวายพระเจ้าสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยด้วย พระเยซูบอกเปโตรกับยอห์นว่า “ไปเตรียมอาหารสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยให้พวกเรากินกัน” พวกเขาจึงถามว่า “จะให้ไปเตรียมที่ไหนดีครับ” พระองค์ตอบว่า “ให้เข้าไปในเมือง แล้วจะเจอผู้ชายที่แบกเหยือกน้ำ ให้ตามเขาเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ให้พูดกับเจ้าของบ้านนั้นว่า ‘อาจารย์ถามว่า ห้องที่เราจะใช้กินอาหารในเทศกาลวันปลดปล่อยกับพวกศิษย์อยู่ที่ไหน’ เขาก็จะพาคุณขึ้นไปดูห้องใหญ่ชั้นบนที่เตรียมไว้พร้อมแล้ว ก็ให้จัดเตรียมอาหารที่นั่น” พวกเขาก็ไปและมันก็เป็นไปตามที่พระเยซูบอกทุกอย่าง พวกเขาจึงจัดเตรียมอาหารสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยที่นั่น เมื่อถึงเวลากินอาหารสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อย พระเยซูนั่งเอนตัวอยู่ที่โต๊ะอาหารกับพวกศิษย์เอก แล้วพูดว่า “เราอยากจะกินอาหารสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยมื้อนี้กับพวกคุณมาก ก่อนที่เราจะถูกทรมาน เราจะบอกให้รู้ว่า เราจะไม่กินอาหารสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยนี้อีก จนกว่าความหมายที่แท้จริงของเทศกาลวันปลดปล่อยนี้จะสำเร็จครบถ้วนในอาณาจักรของพระเจ้า” แล้วพระองค์ก็ยกถ้วยขึ้นมาและขอบคุณพระเจ้า พร้อมกับพูดว่า “รับถ้วยนี้ไปแบ่งกันดื่ม เราจะบอกให้รู้ว่า เราจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นอีกจนกว่าอาณาจักรของพระเจ้าจะมาถึง” หลังจากนั้นพระองค์ก็หยิบขนมปังขึ้นมา ขอบคุณพระเจ้า พร้อมหักส่งให้พวกเขา พระองค์พูดว่า “นี่คือร่างกายของเราที่ให้กับพวกคุณ ให้ทำอย่างนี้เพื่อเป็นการระลึกถึงเรา” เมื่อพวกเขากินอาหารเย็นเสร็จแล้ว พระองค์ก็หยิบถ้วยขึ้นมาทำเหมือนเดิม แล้วพูดว่า “นี่เป็นเลือดของเราที่ได้หลั่งไหลออกมาเพื่อคุณ พระเจ้าได้ทำสัญญาขึ้นใหม่กับพวกคุณด้วยเลือดนี้” พระเยซูพูดว่า “คนที่จะหักหลังเรา ก็นั่งอยู่ที่โต๊ะนี้กับเราด้วย บุตรมนุษย์จะต้องตายตามที่พระเจ้าได้กำหนดไว้แล้วล่วงหน้า แต่คนที่หักหลังพระองค์นี้น่าละอายที่สุด” พวกศิษย์เอกเหล่านั้นถามกันใหญ่ว่าใครจะทำอย่างนั้น พวกศิษย์เอกต่างเถียงกันว่า พวกเขาคนไหนใหญ่ที่สุด พระเยซูบอกว่า “พวกกษัตริย์ของคนต่างชาติชอบออกคำสั่งประชาชนของเขาไปทั่ว ส่วนพวกนั้นที่มีอำนาจ ก็ชอบให้คนเรียกว่า ‘ผู้ทำประโยชน์เพื่อสังคม’ แต่พวกคุณต้องไม่เป็นอย่างนั้น ในพวกคุณ คนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดควรจะเป็นเหมือนเด็กที่สุด คนที่เป็นหัวหน้าควรจะเป็นเหมือนคนรับใช้ ใครใหญ่กว่ากัน คนที่นั่งโต๊ะหรือคนที่ยืนรับใช้ คนนั่งไม่ใช่หรือ แต่เราอยู่ท่ามกลางพวกคุณเหมือนกับคนรับใช้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เมื่อเราถูกข่มเหง พวกคุณยืนเคียงข้างเราเสมอ เราก็จะให้พวกคุณปกครองเป็นกษัตริย์ เหมือนกับที่พระบิดาของเราให้เราเป็นกษัตริย์ เพื่อพวกคุณจะได้ดื่มกินกับเราในอาณาจักรของเรา และพวกคุณจะได้นั่งบนบัลลังก์ตัดสินชนชาติอิสราเอลสิบสองเผ่า”
ลูกา 22:1-30 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
เทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อที่เรียกว่าปัสกามาใกล้แล้ว พวกหัวหน้าปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์กำลังหาช่องทางว่าจะฆ่าพระเยซูอย่างไร เพราะพวกเขากลัวประชาชน ซาตานเข้าดลใจยูดาสที่เรียกว่าอิสคาริโอทซึ่งเป็นหนึ่งในสาวกสิบสองคน ยูดาสไปปรึกษากับพวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกนายทหารรักษาพระวิหารว่าจะมอบพระองค์ให้กับพวกเขาด้วยวิธีใด พวกเขาดีใจและสัญญากับยูดาสว่าจะให้เงิน ยูดาสจึงยอมตกลง และคอยหาโอกาสเหมาะที่จะมอบพระองค์ให้กับเขาทั้งหลายเมื่อปลอดคน พอถึงวันกินขนมปังไร้เชื้อ เมื่อเขาต้องฆ่าลูกแกะสำหรับปัสกา พระองค์ทรงใช้เปโตรและยอห์นไป สั่งเขาว่า “จงไปจัดเตรียมปัสกาให้พวกเรารับประทาน” พวกเขาทูลถามพระองค์ว่า “จะให้พวกข้าพระองค์จัดเตรียมที่ไหน?” พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “นี่แน่ะเมื่อเข้าไปในกรุงแล้ว จะมีชายคนหนึ่งทูนหม้อน้ำมาพบ คนนั้นจะเข้าไปในบ้านไหน ก็จงตามเข้าไปในบ้านนั้น และจงพูดกับเจ้าของบ้านว่า ‘พระอาจารย์ให้ถามท่านว่า “ห้องที่เราจะรับประทานปัสกากับพวกสาวกของเรานั้นอยู่ที่ไหน?” ’ เจ้าของบ้านจะชี้ให้เห็นห้องใหญ่ชั้นบนที่ตกแต่งไว้แล้ว ที่นั่นแหละจงจัดเตรียมไว้เถิด” เขาทั้งสองจึงไปและพบเหมือนอย่างที่พระองค์ตรัสกับเขา แล้วก็จัดเตรียมปัสกาไว้พร้อม เมื่อถึงเวลา พระองค์ประทับลงและเสวยพร้อมกับพวกอัครทูต พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “เรามีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะรับประทานปัสกานี้กับท่านก่อนที่เราจะต้องทนทุกข์ เราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่รับประทานปัสกานี้อีกจนกว่าจะสำเร็จความหมายของปัสกานั้นในแผ่นดินของพระเจ้า” พระองค์ทรงหยิบถ้วย เมื่อขอบพระคุณแล้วตรัสว่า “จงรับถ้วยนี้ไปแบ่งกันดื่ม เราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มจากผลของเถาองุ่นอีกต่อไปจนกว่าแผ่นดินของพระเจ้าจะมา” พระองค์ทรงหยิบขนมปัง เมื่อขอบพระคุณแล้วก็ทรงหักส่งให้พวกเขา ตรัสว่า “นี่เป็นกายของเรา [ซึ่งให้ไว้สำหรับท่านทั้งหลาย จงทำอย่างนี้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเรา” เมื่อรับประทานแล้ว จึงทรงหยิบถ้วยและทรงทำเหมือนกันตรัสว่า “ถ้วยนี้ที่เทออกเพื่อท่านทั้งหลาย เป็นพันธสัญญาใหม่โดยโลหิตของเรา] แต่มือของผู้ที่จะทรยศเราก็อยู่กับเราบนโต๊ะนี้ เพราะบุตรมนุษย์จะเสด็จไปเหมือนที่ทรงดำริไว้แต่ก่อนแล้ว แต่วิบัติแก่คนนั้นที่ทรยศท่าน” พวกเขาจึงเริ่มถามกันและกันว่าคนไหนในพวกเขาที่จะทำสิ่งนี้ มีการโต้เถียงกันในพวกสาวกว่าใครในพวกเขาที่นับว่าเป็นใหญ่ พระองค์จึงตรัสกับพวกเขาว่า “กษัตริย์ของคนต่างชาติย่อมเป็นเจ้านายเหนือเขาทั้งหลาย และผู้ที่มีอำนาจเหนือเขานั้นเรียกตัวเองว่าเจ้าบุญนายคุณ แต่พวกท่านจะไม่เป็นอย่างนั้น ในพวกท่านคนที่เป็นใหญ่ต้องเป็นเหมือนเด็ก และคนที่เป็นนายต้องเป็นเหมือนผู้ปรนนิบัติ ใครเป็นใหญ่กว่ากัน ผู้ที่นั่งรับประทานหรือผู้ปรนนิบัติ? ผู้ที่นั่งรับประทานไม่ใช่หรือ? แต่ว่าเราอยู่ท่ามกลางพวกท่านเหมือนกับผู้ปรนนิบัติ “ท่านทั้งหลายเป็นคนที่อยู่กับเราในเวลาที่เราถูกทดลอง พระบิดาทรงจัดเตรียมและทรงมอบอาณาจักรให้แก่เราอย่างไร เราก็จัดเตรียมและมอบให้แก่ท่านเหมือนกัน เพื่อที่ท่านทั้งหลายจะได้กินและดื่มที่โต๊ะของเราในอาณาจักรของเรา และท่านจะได้นั่งบนบัลลังก์พิพากษาอิสราเอลสิบสองเผ่า
ลูกา 22:1-30 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
เทศกาลเลี้ยงขนมปังไร้เชื้อที่เรียกว่าปัสกามาใกล้แล้ว พวกปุโรหิตใหญ่กับพวกธรรมาจารย์หาช่องทางว่าเขาจะฆ่าพระองค์ได้อย่างไร เพราะเขากลัวประชาชน ฝ่ายซาตานเข้าดลใจยูดาสที่เรียกว่าอิสคาริโอทที่นับเข้าในพวกสาวกสิบสองคน ยูดาสได้ไปปรึกษากับพวกปุโรหิตใหญ่และพวกนายทหารว่า จะทรยศพระองค์ให้เขาได้ด้วยวิธีใด คนเหล่านั้นดีใจ และตกลงกับยูดาสว่าจะให้เงิน ยูดาสจึงให้สัญญา และคอยหาโอกาสที่จะทรยศพระองค์ให้แก่เขาเมื่อว่างคน พอถึงวันกินขนมปังไร้เชื้อ เมื่อเขาต้องฆ่าลูกแกะสำหรับปัสกา พระองค์จึงทรงใช้เปโตรและยอห์นไปสั่งว่า “จงไปจัดเตรียมปัสกาให้เราทั้งหลายกิน” เขาทูลถามพระองค์ว่า “พระองค์ทรงปรารถนาจะให้ข้าพระองค์ทั้งหลายจัดเตรียมที่ไหน” พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ดูเถิด เมื่อท่านเข้าไปในกรุงก็จะมีชายคนหนึ่งทูนหม้อน้ำมาพบท่าน เขาจะเข้าไปเรือนไหน จงตามเขาไปในเรือนนั้น จงพูดกับเจ้าของเรือนว่า ‘พระอาจารย์ให้ถามท่านว่า “ห้องที่เราจะกินปัสกากับเหล่าสาวกของเราได้นั้นอยู่ที่ไหน”’ เจ้าของเรือนจะชี้ให้ท่านเห็นห้องใหญ่ชั้นบนที่ตกแต่งไว้แล้ว ที่นั่นแหละจงจัดเตรียมไว้เถิด” เขาทั้งสองจึงไปและพบเหมือนคำที่พระองค์ได้ตรัสแก่เขา แล้วได้จัดเตรียมปัสกาไว้พร้อม เมื่อถึงเวลาพระองค์ทรงเอนพระกายลงเสวยพร้อมกับอัครสาวกสิบสองคน พระองค์ตรัสกับเขาว่า “เรามีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะกินปัสกานี้กับพวกท่าน ก่อนเราจะต้องทนทุกข์ทรมาน ด้วยเราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่กินปัสกานี้อีกจนกว่าจะสำเร็จในอาณาจักรของพระเจ้า” พระองค์ทรงหยิบถ้วย ขอบพระคุณแล้วตรัสว่า “จงรับถ้วยนี้แบ่งกันดื่ม เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มน้ำองุ่นจากเถาองุ่นต่อไปอีกจนกว่าอาณาจักรของพระเจ้าจะมา” พระองค์ทรงหยิบขนมปัง ขอบพระคุณแล้วหักส่งให้แก่เขาทั้งหลายตรัสว่า “นี่เป็นกายของเรา ซึ่งได้ให้สำหรับท่านทั้งหลาย จงกระทำอย่างนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงเรา” เมื่อรับประทานแล้ว จึงทรงหยิบถ้วยกระทำเหมือนกันตรัสว่า “ถ้วยนี้เป็นพันธสัญญาใหม่โดยโลหิตของเราซึ่งเทออกเพื่อท่านทั้งหลาย แต่ดูเถิด มือของผู้ที่จะทรยศเราก็อยู่กับเราบนโต๊ะ เพราะบุตรมนุษย์จะเสด็จไปเหมือนได้ทรงดำริไว้แต่ก่อนแล้ว แต่วิบัติแก่ผู้นั้นที่ทรยศพระองค์” เหล่าสาวกจึงเริ่มถามกันและกันว่า จะเป็นใครในพวกเขาที่จะกระทำการนั้น มีการเถียงกันด้วยว่าจะนับว่าใครในพวกเขาเป็นใหญ่ที่สุด พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า “กษัตริย์ของคนต่างชาติย่อมเป็นเจ้าเหนือเขา และผู้ที่มีอำนาจเหนือเขานั้น เขาเรียกว่าเจ้าบุญนายคุณ แต่พวกท่านจะหาเป็นอย่างนั้นไม่ ผู้ใดในพวกท่านที่เป็นใหญ่ที่สุด ให้ผู้นั้นเป็นเหมือนผู้เล็กน้อยที่สุด และผู้ใดเป็นนาย ให้ผู้นั้นเป็นเหมือนคนรับใช้ ด้วยว่าใครเป็นใหญ่กว่า ผู้ที่เอนกายลงรับประทานหรือผู้รับใช้ ผู้ที่เอนกายลงรับประทานมิใช่หรือ แต่ว่าเราอยู่ท่ามกลางท่านทั้งหลายเหมือนผู้รับใช้ ฝ่ายท่านทั้งหลายเป็นคนที่ได้อยู่กับเราในเวลาที่เราถูกทดลอง และพระบิดาของเราได้ทรงจัดเตรียมอาณาจักรมอบให้แก่เราอย่างไร เราก็จะจัดเตรียมอาณาจักรมอบให้แก่ท่านทั้งหลายเหมือนกัน คือท่านทั้งหลายจะกินและดื่มที่โต๊ะของเราในอาณาจักรของเรา และจะนั่งบนที่นั่งพิพากษาพวกอิสราเอลสิบสองตระกูล”
ลูกา 22:1-30 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อที่เรียกว่าปัสกา มาใกล้แล้ว พวกมหาปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์จะฆ่าพระองค์ก็ต้องแสวงหาช่อง เพราะเขากลัวราษฎร ฝ่ายซาตานเข้าดลใจยูดาสที่เรียกว่าอิสคาริโอทที่นับเข้าในพวกสาวกสิบสองคน ยูดาสได้ไปปรึกษากับพวกมหาปุโรหิต และพวกนายทหารรักษาพระวิหารว่าจะชี้พระองค์ด้วยวิธีใดให้เขาจับ คนเหล่านั้นดีใจ และสัญญากับยูดาสว่าจะให้เงิน ยูดาสจึงยอมตกลง และคอยหาช่องที่จะชี้พระองค์ให้แก่เขาเมื่อว่างคน พอถึงวันกินขนมปังไร้เชื้อ เมื่อเขาต้องฆ่าลูกแกะสำหรับปัสกา พระองค์จึงทรงใช้เปโตรและยอห์นไป สั่งเขาว่า <<จงไปจัดเตรียมปัสกาให้เราทั้งหลายกิน>> เขาทูลถามพระองค์ว่า <<จะให้ข้าพระองค์จัดเตรียมที่ไหน>> พระองค์ตรัสตอบเขาว่า <<ดูเถิด เมื่อท่านจะเข้าไปในกรุง ก็จะมีชายคนหนึ่งทูนหม้อน้ำมาพบท่าน เขาจะเข้าในเรือนไหน จงตามเขาไปในเรือนนั้น จงพูดกับเจ้าของเรือนว่า <พระอาจารย์ให้ถามท่านว่า <<ห้องที่เราจะกินปัสกากับเหล่าสาวกของเราได้นั้นอยู่ที่ไหน>> > เจ้าของเรือนจะชี้ให้ท่านเห็นห้องใหญ่ชั้นบนที่ตกแต่งไว้แล้ว ที่นั่นแหละจงจัดเตรียมไว้เถิด>> เขาทั้งสองจึงไปและพบเหมือนคำที่พระองค์ได้ตรัสแก่เขา แล้วได้จัดเตรียมปัสกาไว้พร้อม เมื่อถึงเวลา พระองค์ทรงเอนพระกายเสวยพร้อมกับอัครทูต พระองค์ตรัสกับเขาว่า <<เรามีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะกินปัสกานี้กับพวกท่านก่อนเราจะต้องทนทุกข์ทรมาน ด้วยเราบอกท่านทั้งหลายว่าเราจะไม่กินปัสกานี้อีก จนกว่าจะสำเร็จความหมายของปัสกานั้นในแผ่นดินของพระเจ้า>> พระองค์ทรงหยิบถ้วยโมทนาพระคุณแล้วตรัสว่า <<จงรับถ้วยนี้แบ่งกันดื่ม เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มน้ำผลแห่งเถาองุ่นต่อไปอีก จนกว่าแผ่นดินของพระเจ้าจะมา>> พระองค์ทรงหยิบขนมปัง โมทนาพระคุณ แล้วหักส่งให้แก่เขาทั้งหลาย ตรัสว่า <<นี่เป็นกายของเรา [ซึ่งได้ให้สำหรับท่านทั้งหลาย จงกระทำอย่างนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงเรา>> เมื่อรับประทานแล้ว จึงทรงหยิบถ้วยกระทำเหมือนกันตรัสว่า <<ถ้วยนี้ซึ่งเทออกเพื่อท่านทั้งหลายเป็นคำสัญญาใหม่ โดยโลหิตของเรา] แต่ดูเถิด มือของผู้ที่จะอายัดเราไว้ก็อยู่กับเราบนโต๊ะ เพราะบุตรมนุษย์จะเสด็จไปเหมือนได้ทรงดำริไว้แต่ก่อนแล้ว แต่วิบัติแก่ผู้นั้นที่จะอายัดพระองค์ไว้>> เหล่าสาวกจึงเริ่มถามกันและกันว่า จะเป็นใครในพวกเขาที่จะกระทำการนั้น มีการเถียงกันด้วยว่าจะนับว่าใครในพวกเขาเป็นใหญ่ที่สุด พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า <<กษัตริย์ของคนต่างชาติย่อมเป็นเจ้าเหนือเขา และผู้ที่มีอำนาจเหนือเขานั้น เขาเรียกว่าเจ้าบุญนายคุณ แต่พวกท่านจะหาเป็นอย่างนั้นไม่ ผู้ใดในพวกท่านที่เป็นใหญ่ที่สุด ให้ผู้นั้นเป็นเหมือนผู้เยาว์ที่สุด และผู้ใดเป็นนายให้ผู้นั้นเป็นเหมือนคนรับใช้ ด้วยว่าใครเป็นใหญ่กว่า ผู้ที่นั่งโต๊ะหรือผู้เดินโต๊ะ ผู้ที่นั่งโต๊ะมิใช่หรือ แต่ว่าเราอยู่ท่ามกลางท่านทั้งหลายเหมือนผู้รับใช้ <<ฝ่ายท่านทั้งหลายเป็นคนที่ได้อยู่กับเรา ในเวลาที่เราถูกทดลอง และพระบิดาได้ทรงจัดเตรียมแผ่นดินมอบให้แก่เราอย่างไร เราก็จัดเตรียมมอบอะไรให้แก่ท่านทั้งหลายเหมือนกัน คือท่านทั้งหลาย จะกินและดื่มที่โต๊ะของเราในแผ่นดินของเรา และท่านทั้งหลายจะนั่งบนที่นั่งพิพากษาพวกอิสราเอลสิบสองเผ่า
ลูกา 22:1-30 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
บัดนี้ใกล้จะถึงเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อที่เรียกว่าปัสกาแล้ว พวกหัวหน้าปุโรหิตกับธรรมาจารย์กำลังหาช่องทางที่จะกำจัดพระเยซูเพราะพวกเขากลัวประชาชน แล้วซาตานเข้าดลใจยูดาสที่เรียกว่าอิสคาริโอท หนึ่งในสาวกสิบสองคน และยูดาสจึงได้ไปพบกับพวกหัวหน้าปุโรหิตและหัวหน้ากองยามพระวิหาร และหารือกันว่าเขาจะมอบพระเยซูให้พวกนั้นได้อย่างไร พวกนั้นดีใจและตกลงจะให้เงินเขา ยูดาสจึงเห็นชอบและจ้องหาโอกาสที่จะมอบพระองค์ให้พวกเขาเมื่อปลอดคน เมื่อถึงวันเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อซึ่งจะต้องถวายแกะปัสกา พระเยซูทรงสั่งเปโตรกับยอห์นว่า “จงไปจัดเตรียมปัสกาสำหรับพวกเรา” พวกเขาทูลถามว่า “พระองค์ทรงประสงค์ให้จัดเตรียมปัสกาถวายที่ไหน?” พระองค์ตรัสตอบว่า “เมื่อท่านเข้าไปในเมือง จะมีชายคนหนึ่งทูนหม้อน้ำมาพบท่าน จงตามคนนั้นไปในบ้านที่เขาเข้าไป และกล่าวแก่เจ้าของบ้านว่า ‘พระอาจารย์ตรัสถามว่าห้องรับรองแขกที่เราจะรับประทานปัสการ่วมกับเหล่าสาวกของเราอยู่ที่ไหน?’ เขาจะให้ดูห้องใหญ่ชั้นบนซึ่งตกแต่งเตรียมไว้เรียบร้อย จงเตรียมปัสกาที่นั่น” ทั้งสองก็ไปและได้พบสิ่งต่างๆ ตามที่พระเยซูตรัสไว้ พวกเขาจึงเตรียมปัสกา เมื่อถึงเวลา พระเยซูกับเหล่าอัครทูตก็นั่งลงรับประทานที่โต๊ะ พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เราปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะรับประทานปัสกานี้ร่วมกับพวกท่านก่อนที่เราจะทนทุกข์ เพราะเราบอกท่านว่า เราจะไม่รับประทานปัสกานี้อีกจนกว่าปัสกานี้สำเร็จครบถ้วนในอาณาจักรของพระเจ้า” พระองค์ทรงหยิบถ้วย ขอบพระคุณพระเจ้า แล้วตรัสว่า “จงรับถ้วยนี้แบ่งกันดื่ม เพราะเราบอกท่านว่า เราจะไม่ดื่มน้ำจากผลองุ่นอีกจนกว่าอาณาจักรของพระเจ้ามาถึง” และพระองค์ทรงหยิบขนมปัง ขอบพระคุณพระเจ้า แล้วหักส่งให้พวกเขาและตรัสว่า “นี่คือกายของเราซึ่งให้แก่ท่าน จงทำเช่นนี้เป็นการระลึกถึงเรา” หลังจากรับประทานแล้ว พระองค์ทรงหยิบถ้วยและกระทำอย่างเดียวกัน แล้วตรัสว่า “ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่ด้วยโลหิตของเราซึ่งหลั่งรินออกเพื่อท่าน แต่มือของผู้ที่จะทรยศเราก็อยู่บนโต๊ะนี้ด้วยกันกับเรา บุตรมนุษย์จะไปตามที่กำหนดไว้ แต่วิบัติแก่ผู้ที่ทรยศต่อบุตรมนุษย์” เหล่าสาวกจึงเริ่มถามกันเองว่าใครในพวกเขาที่จะทำเช่นนั้น ทั้งมีการโต้เถียงกันในหมู่พวกเขาด้วยว่าใครที่นับว่าเป็นใหญ่ที่สุด พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “กษัตริย์ของคนต่างชาติย่อมเป็นเจ้าเป็นนายเขา และผู้ที่ใช้อำนาจเหนือเขาเรียกตนเองว่าเจ้าบุญนายคุณ แต่พวกท่านไม่ควรเป็นเช่นนั้น ตรงกันข้าม ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหมู่พวกท่านควรเป็นเหมือนผู้เยาว์ที่สุด และผู้ที่ปกครองเสมือนเป็นผู้รับใช้ เพราะคนที่นั่งโต๊ะกับคนที่คอยรับใช้ ใครยิ่งใหญ่กว่ากัน? คนที่นั่งโต๊ะไม่ใช่หรือ? แต่เราอยู่ท่ามกลางพวกท่านเหมือนคนรับใช้ พวกท่านคือผู้ที่ยืนอยู่เคียงข้างเราในยามที่เราเผชิญการทดลอง และเรายกอาณาจักรหนึ่งให้แก่ท่าน เหมือนที่พระบิดาทรงยกอาณาจักรหนึ่งให้เรา เพื่อท่านจะร่วมกินและดื่มที่โต๊ะของเราในอาณาจักรของเรา และนั่งบนบัลลังก์ตัดสินชนอิสราเอลสิบสองเผ่า
ลูกา 22:1-30 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
เมื่อเทศกาลขนมปังไร้เชื้อซึ่งเรียกว่าเทศกาลปัสกาใกล้จะถึง บรรดามหาปุโรหิตและอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติกำลังหาทางกำจัดพระเยซูอย่างลับๆ เพราะกลัวผู้คน ซาตานก็เข้าไปสิงอยู่ในยูดาสอิสคาริโอทผู้เป็นหนึ่งในอัครทูตทั้งสิบสอง ยูดาสไปหาพวกมหาปุโรหิตและพวกนายทหารประจำพระวิหาร เพื่อปรึกษาดูว่าเขาจะมอบพระองค์ให้แก่พวกเขาได้อย่างไร เขาทั้งหลายยินดีและตกลงให้เงินแก่เขา ยูดาสยินยอม และรอโอกาสที่จะทรยศแล้วมอบพระเยซูให้แก่พวกเขาเมื่อไม่มีผู้คน เมื่อถึงเทศกาลขนมปังไร้เชื้อซึ่งมีการสังเวยลูกแกะปัสกา พระเยซูให้เปโตรและยอห์นไปโดยกล่าวว่า “จงไปเตรียมอาหารวันปัสกาให้พวกเรารับประทานกันเถิด” เขาทั้งสองถามว่า “พระองค์ประสงค์จะให้พวกเราเตรียมไว้ที่ไหน” พระองค์ตอบว่า “ขณะที่เจ้าเข้าไปในตัวเมือง จะมีชายคนหนึ่งแบกโถน้ำมาพบเจ้า ถ้าเขาเข้าไปบ้านใดก็จงตามไปบ้านนั้น จงพูดกับเจ้าของบ้านว่า ‘อาจารย์ถามว่า ห้องรับรองที่เราจะรับประทานอาหารวันปัสกากับเหล่าสาวกของเราอยู่ที่ไหน’ เขาจะชี้ให้เจ้าเห็นห้องใหญ่ชั้นบนที่ตกแต่งไว้แล้ว จงเตรียมไว้ที่นั่น” เขาทั้งสองก็ไปและพบตามสิ่งที่พระองค์ได้บอกพวกเขาไว้ เขาจึงเตรียมอาหารวันปัสกากัน เมื่อถึงเวลา พระเยซูและอัครทูตของพระองค์ก็เอนกายลงรับประทาน และพระองค์กล่าวกับพวกเขาว่า “เราปรารถนาอย่างยิ่งที่จะรับประทานอาหารวันปัสกาครั้งนี้กับเจ้า ก่อนที่เราจะทนทุกข์ทรมาน เราขอบอกเจ้าว่า เราจะไม่รับประทานปัสกาอีกจนกว่าความหมายของปัสกาจะบรรลุผลในอาณาจักรของพระเจ้า” พระองค์หยิบถ้วย กล่าวขอบคุณพระเจ้าและกล่าวต่อไปว่า “จงเอาถ้วยนี้ไปแบ่งกันดื่ม เราขอบอกเจ้าว่า เราจะไม่ดื่มน้ำจากผลของเถาองุ่นอีกจนกว่าอาณาจักรของพระเจ้าจะมาถึง” ครั้นพระองค์หยิบขนมปังและกล่าวขอบคุณพระเจ้าแล้ว ก็บิเป็นชิ้น ยื่นให้แก่เหล่าสาวก พลางกล่าวว่า “นี่เป็นกายของเราซึ่งมอบไว้เพื่อพวกเจ้า จงปฏิบัติเช่นนี้เพื่อระลึกถึงเรา” ในทำนองเดียวกัน หลังจากอาหารเย็น พระองค์หยิบถ้วยพลางกล่าวว่า “ถ้วยนี้เป็นพันธสัญญาใหม่ในโลหิตของเราซึ่งได้หลั่งเพื่อพวกเจ้า แต่ดูเถิด มือของคนที่กำลังจะทรยศเราอยู่ด้วยกันกับมือของเราบนโต๊ะ เพราะว่าบุตรมนุษย์ก้าวไปสู่ทางที่ได้กำหนดไว้แล้ว วิบัติจะเกิดกับคนที่ทรยศท่าน” เขาทั้งหลายก็เริ่มถามกันและกันว่าคนใดในพวกเขาเป็นคนที่จะกระทำการนี้ เหล่าสาวกได้ถกเถียงกันว่าคนใดในพวกเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด พระเยซูกล่าวว่า “เหล่ากษัตริย์ของบรรดาคนนอกมีสิทธิอำนาจในการปกครองเหนือผู้คน และพวกที่แสดงอำนาจเรียกตนว่าเป็นผู้อุปถัมภ์ แต่ว่าพวกเจ้าไม่ควรเป็นเช่นนั้น ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพวกเจ้าควรเป็นอย่างผู้ที่เยาว์ที่สุด และเป็นผู้ที่ปกครองที่มีน้ำใจรับใช้ ใครจะเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่ากัน ผู้ที่เอนกายลงรับประทานหรือผู้ที่รับใช้ มิใช่ผู้ที่เอนกายลงรับประทานหรือ แต่ว่าเราเป็นอย่างผู้รับใช้ในท่ามกลางพวกเจ้า เจ้าเป็นพวกที่ยืนเคียงข้างเราเวลาที่เราเผชิญความลำบาก เรามอบหมายอาณาจักรให้แก่เจ้าดังที่พระบิดาของเราได้มอบหมายให้แก่เรา เพื่อว่าเจ้าจะได้กินและดื่มที่โต๊ะในอาณาจักรของเรา และนั่งบนบัลลังก์ตัดสินความ 12 เผ่าของอิสราเอล