ลูกา 2:1-38

ลูกา 2:1-38 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

อยู่​มาคราวนั้น มี​รับสั่งจากซี​ซาร์ ออก​ัสตัส ให้​จดทะเบียนสำมะโนครั​วท​ั่​วท​ั้งแผ่นดิน (​นี่​เป็​นคร​ั้งแรกที่​ได้​จดทะเบียนสำมะโนครัว เมื่อคี​ริน​ิอัสเป็นเจ้าเมืองซีเรีย) คนทั้งปวงต่างคนต่างได้ไปขึ้นทะเบียนยังเมืองของตน ฝ่ายโยเซฟก็ขึ้นไปจากเมืองนาซาเร็ธแคว้นกาลิลีถึงเมืองของดาวิด ชื่อเบธเลเฮมแคว้นยู​เดียด​้วย (เพราะว่าเขาเป็นวงศ์วานและเชื้อสายของดาวิด) เขาได้ไปกับมารีย์​ที่​เขาได้หมั้นไว้​แล้ว เพื่อจะขึ้นทะเบียนและนางมี​ครรภ์ เมื่อเขาทั้งสองยังอยู่​ที่นั่น ก็​ถึงเวลาที่​มาร​ีย์จะประสู​ติ​บุตร นางจึงประสู​ติ​บุ​ตรชายหัวปี เอาผ้าอ้อมพันและวางไว้ในรางหญ้า เพราะว่าไม่​มี​ที่​ว่างให้เขาในโรงแรม ในแถบนั้น มี​คนเล​ี้ยงแกะอยู่ในทุ่งนา เฝ้าฝูงแกะของเขาในเวลากลางคืน ดู​เถิด มี​ทูตสวรรค์​ขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่​เขา และรัศมีขององค์พระผู้เป็นเจ้าส่องล้อมรอบเขา และเขากลั​วน​ัก ฝ่ายทูตสวรรค์​องค์​นั้นกล่าวแก่เขาว่า “อย่ากลัวเลย เพราะดู​เถิด เรานำข่าวดี​มาย​ังท่านทั้งหลาย คือความปรี​ดี​ยิ่งซึ่งจะมาถึงคนทั้งปวง เพราะว่าในวันนี้พระผู้ช่วยให้รอดของท่านทั้งหลาย คือพระคริสต์​เจ้า มาบ​ังเกิดที่เมืองดาวิด นี่​จะเป็นหมายสำคัญแก่ท่านทั้งหลาย คือท่านจะได้พบพระกุมารนั้นพันผ้าอ้อมนอนอยู่ในรางหญ้า” ทันใดนั้น มี​ชาวสวรรค์​หมู่​หน​ึ่งมาอยู่กั​บท​ูตสวรรค์​องค์​นั้​นร​่วมสรรเสริญพระเจ้าว่า “​รัศมี​ภาพจงมี​แด่​พระเจ้าในที่​สูงสุด และบนแผ่นดินโลกสันติสุขจงมีท่ามกลางมนุษย์ทั้งปวงซึ่งทรงโปรดปรานนั้น” ต่อมาเมื่อทูตสวรรค์​เหล่​านั้นไปจากเขาขึ้นสู่​สวรรค์​แล้ว พวกเลี้ยงแกะได้​พู​ดก​ั​นว​่า “​บัดนี้​ให้​เราไปยังเมืองเบธเลเฮม ดู​เหตุการณ์​ที่​เก​ิดขึ้นนั้น ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงแจ้งแก่​เรา​” เขาก็​รี​บไปแล้วพบนางมารีย์กับโยเซฟและพบพระกุมารนั้นนอนอยู่ในรางหญ้า ครั้นเขาได้​เห​็นแล้ว จึงเล่าเรื่องซึ่งเขาได้ยินถึงพระกุมารนั้น คนทั้งปวงที่​ได้​ยิ​นก​็ประหลาดใจด้วยเนื้อความที่​คนเล​ี้ยงแกะได้บอกแก่​เขา ฝ่ายนางมารีย์​ก็​เก​็บบรรดาสิ่งเหล่านี้​ไว้​ในใจ และรำพึงอยู่ คนเล​ี้ยงแกะจึงกลับไปยกย่องสรรเสริญพระเจ้า เพราะเหตุ​การณ์​ทั้งปวงซึ่งเขาได้ยินและได้​เห็น ดังได้​กล​่าวไว้​แก่​เขาแล้ว ครั้นครบแปดวันแล้ว เป็​นว​ันให้พระกุมารนั้นเข้าสุ​หน​ัต เขาจึงให้นามว่า เยซู ตามซึ่งทูตสวรรค์​ได้​กล​่าวไว้ก่อนยั​งม​ิ​ได้​ปฏิสนธิ​ในครรภ์ เมื่อวันทำพิธีชำระตัวของนางมารีย์ตามพระราชบัญญั​ติ​ของโมเสสเสร็จลงแล้ว เขาทั้งหลายจึงนำพระกุมารไปยังกรุงเยรูซาเล็มจะถวายแด่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า (​ตามที่​เข​ียนไว้​แล​้วในพระราชบัญญั​ติ​ขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “​บุ​ตรชายทุกคนที่เบิกครรภ์​ครั้งแรก จะได้เรียกว่าเป็นผู้​บริสุทธิ์​ถวายแด่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า​”) และถวายเครื่องบูชาตามที่​ได้​ตรั​สส​ั่งไว้​แล​้วในพระราชบัญญั​ติ​ขององค์พระผู้เป็นเจ้าคือ ‘นกเขาคู่​หนึ่ง หรือนกพิราบหนุ่มสองตัว’ ดู​เถิด มี​ชายคนหนึ่งในกรุงเยรูซาเล็มชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและเกรงกลัวพระเจ้า และคอยเวลาซึ่งพวกอิสราเอลจะได้รับความบรรเทาทุกข์ และพระวิญญาณบริ​สุทธิ​์ทรงสถิ​ตก​ั​บท​่าน พระวิญญาณบริ​สุทธิ​์​ได้​ทรงสำแดงแก่ท่านว่า ท่านจะไม่ตายจนกว่าจะได้​เห​็นพระคริสต์ขององค์​พระผู้เป็นเจ้า สิ​เมโอนเข้าไปในพระวิหารโดยพระวิญญาณทรงนำ และเมื่​อบ​ิดามารดาได้นำพระกุมารเยซู​เข้าไป เพื่อจะกระทำแก่พระกุมารตามธรรมเนียมแห่งพระราชบัญญั​ติ สิ​เมโอนจึ​งอ​ุ้มพระกุ​มาร และสรรเสริญพระเจ้าว่า “ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า บัดนี้​พระองค์​ทรงให้​ผู้รับใช้​ของพระองค์ไปเป็นสุขตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะว่าตาของข้าพระองค์​ได้​เห​็นความรอดของพระองค์​แล้ว ซึ่งพระองค์​ได้​ทรงจัดเตรียมไว้ต่อหน้าบรรดาชนชาติ​ทั้งหลาย เป็นความสว่างส่องแสงแก่​คนต่างชาติ​และเป็นสง่าราศีของพวกอิสราเอล ชนชาติ​ของพระองค์” ฝ่ายโยเซฟกับมารดาของพระกุมารก็​ประหลาดใจ เพราะถ้อยคำซึ่งท่านได้​กล​่าวถึงพระกุมารนั้น แล​้วสิเมโอนก็อวยพรแก่​เขา แล​้วกล่าวแก่นางมารีย์มารดาของพระกุมารนั้​นว​่า “​ดู​ก่อนท่าน ทรงตั้งพระกุมารนี้​ไว้​เป็นเหตุให้​หลายคนในพวกอิสราเอลล้มลงหรือยกตั้งขึ้น และจะเป็นหมายสำคัญซึ่งคนปฏิเสธ เพื่อความคิดในใจของคนเป็​นอ​ันมากจะได้ปรากฏแจ้ง (​เออ ถึงจิตใจของท่านเองก็ยังจะถูกดาบแทงทะลุ​ด้วย​)” ยั​งม​ี​ผู้​พยากรณ์​หญิงคนหนึ่งชื่​ออ​ันนา บุ​ตรสาวฟานูเอลในตระกูลอาเชอร์ นางเป็นคนชรามากแล้ว มี​สามี​ตั้งแต่​ยังเป็นสาวพรหมจารี​อยู่ และอยู่ด้วยกันเจ็ดปี แล้วก็​เป็​นม​่ายมาจนถึงอายุแปดสิบสี่​ปี นางมิ​ได้​ไปจากพระวิหารเลย อยู่​รับใช้​พระเจ้าด้วยการถืออดอาหารและอธิษฐาน ทั้งกลางวันกลางคืน ในขณะนั้นผู้หญิงคนนี้​ก็​เข​้ามาขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าเช่​นก​ัน และกล่าวถึงพระกุมารให้คนทั้งปวงที่คอยการทรงไถ่​อยู่​ในกรุงเยรูซาเล็มฟัง

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 2

ลูกา 2:1-38 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ใน​เวลา​นั้น​จักรพรรดิ​ออกัสตัส ออก​คำสั่ง​ให้​ประชาชน​ทุก​คน​ทั่ว​ทั้ง​อาณาจักร​โรมัน​กลับ​ไป​บ้าน​เกิด​ของ​ตน​เพื่อ​จด​ทะเบียน​สำมะโน​ครัว ครั้งนี้​เป็น​การจด​ทะเบียน​สำมะโน​ครัว​ครั้งแรก เกิด​ขึ้น​ใน​สมัย​คีรินิอัส​เป็น​เจ้าเมือง​ซีเรีย ทุก​คน​จึง​กลับ​ไป​ที่​บ้านเกิด​ของ​ตน โยเซฟ​ซึ่ง​สืบ​เชื้อสาย​มา​จาก​กษัตริย์​ดาวิด จึง​ต้อง​ออก​เดิน​ทาง​จาก​เมือง​นาซาเร็ธ ใน​แคว้น​กาลิลี ไป​เมือง​เบธเลเฮม​ใน​แคว้น​ยูเดีย ซึ่ง​เป็น​บ้านเกิด​ของ​กษัตริย์​ดาวิด เขา​พา​มารีย์​คู่หมั้น​ของ​เขา​ซึ่ง​ตั้ง​ท้อง​อยู่​ไป​ด้วย เพื่อ​ไป​จด​ทะเบียน​สำมะโน​ครัว​ด้วย​กัน ใน​ระหว่าง​ที่​พวก​เขา​อยู่​ที่​นั่น​ก็​ถึง​กำหนด​ที่​มารีย์​จะ​คลอด​ลูก มารีย์​คลอด​ลูก​เป็น​ผู้ชาย นาง​จึง​เอา​ผ้าอ้อม​พัน​เด็ก​ทารก​นั้น​วาง​ไว้​บน​รางหญ้า เพราะ​ไม่​มี​ที่​ไหน​ว่าง​ให้​พวก​เขา​พัก​เลย ที่​ทุ่ง​หญ้า​นอก​หมู่บ้าน​มี​คน​เลี้ยง​แกะ​ที่​กำลัง​ดูแล​ฝูง​แกะ​อยู่​ใน​ตอน​กลาง​คืน ทูตสวรรค์​องค์​หนึ่ง​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต​มา​ปรากฏ​ตัว​ให้​พวก​เขา​เห็น และ​รัศมี​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต​ส่อง​สว่าง​ล้อมรอบ​พวก​เขา พวก​เขา​ตกใจ​กลัว​มาก แต่​ทูตสวรรค์​พูด​ว่า “ไม่​ต้อง​กลัว เรา​มี​ข่าวดี​มา​บอก เป็น​ข่าว​ที่​จะ​ทำ​ให้​ทุก​คน​ยินดีร่าเริง เพราะ​วันนี้​พระผู้ช่วย​ให้​รอด​มา​เกิด​แล้ว​ที่​เมือง​ของ​ดาวิด พระองค์​คือ​พระคริสต์​องค์​เจ้า​ชีวิต สิ่ง​ที่​จะ​บอก​ให้​เจ้า​รู้​ว่า​เป็น​พระองค์​คือ เจ้า​จะ​พบ​เด็ก​ทารก​ที่​นอน​อยู่​ใน​ราง​หญ้า​และ​มี​ผ้า​อ้อม​ห่อ​ตัว​ไว้” ใน​ทันใด​นั้น​ก็​มี​ทูตสวรรค์​หมู่​ใหญ่​ลง​มา​จาก​สวรรค์ มา​รวม​กับ​ทูตสวรรค์​องค์​แรก​นั้น และ​พา​กัน​ร้อง​สรรเสริญ​พระเจ้า​ว่า “สรรเสริญ​พระเจ้า​บน​สวรรค์​สูงสุด และ​ขอ​ให้​คน​ที่​พระเจ้า​ภูมิใจ​ได้รับ​สันติสุข​ใน​โลกนี้” เมื่อ​ทูตสวรรค์​กลับ​สู่​สวรรค์​แล้ว คน​เลี้ยง​แกะ​ก็​พูด​กัน​ว่า “ไป​เมือง​เบธเลเฮม​กัน​เถอะ จะ​ได้​ไป​ดู​สิ่ง​ที่​องค์​เจ้า​ชีวิต​บอก​กับ​พวก​เรา” พวก​เขา​รีบ​ไป และ​ได้​พบ​มารีย์​กับ​โยเซฟ​พร้อม​กับ​เด็ก​ทารก​นอน​อยู่​ใน​รางหญ้า เมื่อ​เห็น​เด็ก​ทารก​แล้ว พวก​เขา​ก็​เล่า​ให้​คน​ที่​อยู่​ที่​นั่นฟัง​ว่า​ทูตสวรรค์​พูด​อะไร​เกี่ยวกับ​เด็ก​คนนี้ เมื่อ​พวก​เขา​ได้ยิน​อย่าง​นั้น ก็​ประหลาดใจ​มาก แต่​มารีย์​ก็​เก็บ​เรื่องนี้​ไว้​ใน​ใจ​และ​นึก​ถึง​เรื่องนี้​อยู่​เสมอๆ เมื่อ​คน​เลี้ยง​แกะ​กลับ​ไป​แล้ว พวก​เขา​ก็​ยกย่อง​สรรเสริญ​พระเจ้า​สำหรับ​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ได้ยิน​และ​ได้​เห็น​มา ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​จริง​ตาม​ที่​ทูตสวรรค์​ได้​บอก​ไว้ เมื่อ​เด็ก​เกิด​มา​ครบ​แปด​วัน​ก็​ได้​เข้า​พิธีขลิบ และ​ได้​ชื่อ​ว่า “เยซู” ซึ่ง​เป็น​ชื่อ​ที่​ทูตสวรรค์​บอก​มารีย์​ไว้​ก่อน​ที่​จะ​ตั้ง​ท้อง ตาม​กฎ​ของ​โมเสส​คน​ที่​เพิ่ง​คลอด​ลูก​จะ​มี​เวลา​สี่สิบ​วัน​สำหรับ​ชำระ​ตัว​ให้​สะอาด​ตาม​หลัก​ศาสนา เมื่อ​ครบ​กำหนดนี้​แล้ว พวก​เขา​ก็​ได้​พา​พระเยซู​ไป​ที่​เมือง​เยรูซาเล็ม เพื่อ​ถวาย​พระเยซู​ให้​กับ​องค์​เจ้า​ชีวิต เพราะ​กฎ​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต​บอก​ว่า “ถ้า​ลูก​คน​แรก​เป็น​ผู้ชาย จะ​ต้อง​ยก​เด็ก​คน​นั้น​ให้​องค์​เจ้า​ชีวิต” แล้ว​พวก​เขา​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ตาม​กฎ​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต​คือ นกเขา​สอง​ตัว​หรือ​นกพิราบ​หนุ่ม​สอง​ตัว มี​ชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​สิเมโอน​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม เขา​เป็น​คน​ที่​ทำ​ตามใจ​พระเจ้า​และ​เคร่ง​ศาสนา เขา​เฝ้า​รอ​คอย​ว่า​เมื่อ​ไร​พระเจ้า​จะ​มา​ช่วยเหลือ​ชาว​อิสราเอล พระวิญญาณ​บริสุทธิ์​ก็​อยู่​กับ​เขา พระองค์​บอก​เขา​ว่า เขา​จะ​ได้​เห็น​พระคริสต์​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต​ก่อน​ที่​เขา​จะ​ตาย พระวิญญาณ​บริสุทธิ์​พา​เขา​มา​ที่​วิหาร​ใน​วัน​เดียว​กับ​ที่​มารีย์​และ​โยเซฟ​พา​ลูก​น้อย​เยซู​มา​ทำ​พิธี​ต่างๆ​ตาม​กฏ​ที่​โมเสส​สั่ง​ให้​ทำ​กับ​เด็ก​แรก​เกิด สิเมโอน​ก็​อุ้ม​ทารก​น้อย​ไว้​ใน​อ้อม​แขน แล้ว​สรรเสริญ​พระเจ้า​ว่า “ข้า​แต่​องค์​เจ้า​ชีวิต ตอนนี้​ขอ​ให้​ปลดปล่อย​ทาส​คนนี้​ให้​ไป​เป็น​สุข​ได้​แล้ว ตาม​ที่​พระองค์​ได้​บอก​ไว้ เพราะ​ดวง​ตา​ของ​ข้าพเจ้า​ได้​เห็น​ความรอด ที่​พระองค์​เตรียม​ไว้​แล้ว​ให้​ชนชาติ​ทั้งหลาย​ได้​เห็น พระองค์​เป็น​แสงสว่าง​ที่​ส่อง​ให้​กับ​คน​ที่​ไม่​ใช่​ยิว​เห็น​ทาง​ของ​พระองค์ และ​ที่​นำ​เกียรติ​อัน​ยิ่งใหญ่​มา​ให้​กับ​ชาว​อิสราเอล​ชนชาติ​ของ​พระองค์” โยเซฟ​กับ​มารีย์​งุนงง​มาก​ที่​สิเมโอน​พูด​อย่าง​นั้น​เกี่ยว​กับ​ทารก​น้อย แล้ว​สิเมโอน​อวยพร​พวก​เขา และ​พูด​กับ​นาง​มารีย์​แม่​ของ​ทารก​น้อย​ว่า “พระเจ้า​กำหนด​ไว้​แล้ว​ว่า​เด็ก​คนนี้​จะ​เป็น​เหตุ​ให้​คน​อิสราเอล​มากมาย​ต้อง​ล้มลง​หรือ​ลุกขึ้น เด็ก​คนนี้​จะ​เป็น​สัญญาณ​เตือน​จาก​พระเจ้า​ให้​รู้​ถึง​ความต้องการ​ของ​พระองค์ แต่​คน​จำนวน​มาก​จะ​ต่อต้าน​เขา สิ่งนี้​เลย​เปิดโปง​ความคิด​ใน​ใจ​ของ​คน​พวกนี้ เรื่องนี้​จะ​ทำ​ให้​คุณ​ทุกข์ใจ​มาก​เหมือน​มี​ดาบ​ทิ่ม​เข้า​ไป​ใน​ใจ​ของ​คุณ” อันนา​ซึ่ง​เป็น​ผู้พูดแทนพระเจ้า​คน​หนึ่ง เป็น​ลูกสาว​ของ​ฟานูเอล​จาก​เผ่า​อาเชอร์ นาง​แก่​มาก​แล้ว หลัง​จาก​อยู่​กิน​กับ​สามี​ได้​เพียง​เจ็ด​ปี สามี​ก็​ตาย และ​นาง​ก็​อยู่​เป็น​ม่าย​มา​จน​ถึง​อายุ​แปดสิบสี่​ปี นาง​ไม่​เคย​ออก​ไป​จาก​วิหาร​เลย นาง​นมัสการ​พระเจ้า​ทั้ง​วัน​ทั้ง​คืน​ด้วย​การอธิษฐาน​และ​ถือ​ศีล​อด​อาหาร นาง​ได้​เข้า​มา​หา​พวก​เขา เริ่ม​สรรเสริญ​พระเจ้า และ​เล่า​เรื่อง​เด็ก​ทารก​คนนี้​ให้​กับ​ทุก​คน​ที่​รอ​คอย​เวลา​ที่​เมือง​เยรูซาเล็ม​จะ​ได้รับ​การ​ปลด​ปล่อย​ให้​เป็น​อิสระ

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 2

ลูกา 2:1-38 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

อยู่มาคราวนั้น มีรับสั่งจากจักรพรรดิออกัสตัสให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน นี่เป็นครั้งแรกที่มีการจดทะเบียนสำมะโนครัว เกิดขึ้นในสมัยที่คีรินิอัสเป็นเจ้าเมืองซีเรีย คนทั้งหลายต่างก็ไปจดทะเบียนที่เมืองของตน โยเซฟก็เดินทางจากเมืองนาซาเร็ธแคว้นกาลิลี ไปที่เมืองของดาวิดชื่อเบธเลเฮมในแคว้นยูเดียด้วย เพราะว่าเขาเป็นวงศ์วานและเชื้อสายของดาวิด เขาไปจดทะเบียนพร้อมกับมารีย์หญิงที่เขาหมั้นไว้แล้วและกำลังตั้งครรภ์ ขณะเขาทั้งสองอยู่ที่นั่น ก็ถึงเวลาที่มารีย์จะคลอดบุตร นางจึงคลอดบุตรชายหัวปี เอาผ้าอ้อมพันและวางไว้ในรางหญ้า เพราะว่าไม่มีที่ว่างในโรงแรมสำหรับพวกเขา ในแถบนั้นมีพวกคนเลี้ยงแกะอยู่กลางทุ่งกำลังเฝ้าฝูงแกะของเขาในเวลากลางคืน มีทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่พวกเขา และพระรัศมีขององค์พระผู้เป็นเจ้าส่องล้อมรอบเขา และเขากลัวนัก ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมายังพวกท่าน เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่จะมาถึงคนทั้งหลาย เพราะว่าในวันนี้ พระผู้ช่วยให้รอดของพวกท่านคือพระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้ามาประสูติที่เมืองของดาวิด นี่จะเป็นหมายสำคัญสำหรับพวกท่าน คือท่านจะพบพระกุมารนั้นพันผ้าอ้อมนอนอยู่ในรางหญ้า” ในทันใดนั้น ชาวสวรรค์หมู่หนึ่งมาปรากฏอยู่กับทูตสวรรค์องค์นั้นร่วมสรรเสริญพระเจ้าว่า “พระสิริจงมีแด่พระเจ้าในที่สูงสุด ส่วนบนแผ่นดินโลก สันติสุขจงมีท่ามกลางมนุษย์ทั้งหลายที่พระองค์โปรดปรานนั้น” เมื่อทูตสวรรค์เหล่านั้นไปจากพวกเขาขึ้นสู่สวรรค์แล้ว บรรดาคนเลี้ยงแกะก็พูดกันว่า “ให้เราไปยังเมืองเบธเลเฮมดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแจ้งกับเรา” เขาก็รีบไป แล้วพบนางมารีย์กับโยเซฟ และพบพระกุมารนั้นนอนอยู่ในรางหญ้า เมื่อพวกเขาเห็นแล้วจึงเล่าเรื่องที่เขาได้ยินถึงพระกุมารนั้น คนทั้งหลายที่ได้ยินก็ประหลาดใจเกี่ยวกับเรื่องที่คนเลี้ยงแกะบอกกับเขา ส่วนนางมารีย์ก็เก็บสิ่งเหล่านั้นไว้และรำพึงอยู่ในใจ บรรดาคนเลี้ยงแกะจึงกลับไปถวายพระเกียรติและสรรเสริญพระเจ้า สำหรับเหตุการณ์ทุกอย่างที่เขาได้ยินและได้เห็นดังที่กล่าวไว้กับพวกเขา หลังจากครบแปดวันซึ่งเป็นวันที่จะให้พระกุมารนั้นเข้าสุหนัต เขาจึงให้นามว่าเยซู ดังที่ทูตสวรรค์กล่าวไว้ก่อนจะปฏิสนธิในครรภ์ เมื่อถึงเวลาทำพิธีชำระตัวตามธรรมบัญญัติของโมเสส บิดามารดาจึงนำพระกุมารไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ตามที่เขียนไว้แล้วในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า ว่า “บุตรชายหัวปีทุกคนจะต้องเป็นบุตรที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า” แล้วพวกเขาก็ถวายเครื่องบูชาตามที่ตรัสสั่งไว้แล้วในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า คือ นกเขาคู่หนึ่ง หรือนกพิราบหนุ่มสองตัว มีชายคนหนึ่งในกรุงเยรูซาเล็มชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า ท่านคอยเวลาที่พวกอิสราเอลจะได้รับการปลอบโยนใจ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็สถิตกับท่าน พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสำแดงแก่ท่านว่าท่านจะไม่ตายจนกว่าจะได้เห็นพระคริสต์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อสิเมโอนเข้าไปในบริเวณพระวิหารโดยการทรงนำของพระวิญญาณ และขณะที่บิดามารดานำพระกุมารเยซูเข้าไปเพื่อจะทำต่อพระกุมารตามธรรมเนียมของธรรมบัญญัตินั้น สิเมโอนเข้าไปอุ้มพระกุมาร และสรรเสริญพระเจ้าว่า “ข้าแต่องค์เจ้านาย บัดนี้ขอทรงให้ทาสของพระองค์ไปเป็นสุข ตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะว่าตาของข้าพระองค์ได้เห็นความรอดของพระองค์แล้ว ซึ่งพระองค์ทรงจัดเตรียมไว้ต่อหน้าชนชาติทั้งหลาย เป็นความสว่างที่ส่องแก่คนต่างชาติ และเป็นศักดิ์ศรีของพวกอิสราเอลชนชาติของพระองค์” ส่วนบิดามารดาของพระกุมารนั้นก็ประหลาดใจเพราะถ้อยคำที่ท่านกล่าวถึงพระกุมาร แล้วสิเมโอนก็อวยพรเขา แล้วกล่าวแก่นางมารีย์มารดาพระกุมารนั้นว่า “นี่แน่ะ พระกุมารนี้ได้รับการเลือกสรรเพื่อเป็นเหตุให้หลายคนในพวกอิสราเอลล้มลงหรือลุกขึ้น และจะเป็นหมายสำคัญที่คนจะปฏิเสธ เพื่อที่ว่าความคิดในใจของคนจำนวนมากจะปรากฏแจ้ง ถึงหัวใจของท่านเองก็จะถูกดาบแทงทะลุด้วย” มีผู้เผยพระวจนะหญิงคนหนึ่งชื่ออันนา เป็นบุตรีของฟานูเอลในเผ่าอาเชอร์ นางชรามากแล้ว นางอยู่กับสามีได้เพียงเจ็ดปีหลังจากแต่งงาน แล้วก็เป็นม่ายมาจนถึงอายุแปดสิบสี่ปี นางไม่เคยออกไปจากบริเวณพระวิหารเลย แต่อยู่นมัสการถืออดอาหารและอธิษฐานทั้งกลางวันกลางคืน ในขณะนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาขอบพระคุณพระเจ้าและกล่าวถึงพระกุมารให้คนทั้งหลายที่คอยการทรงไถ่กรุงเยรูซาเล็มฟัง

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 2

ลูกา 2:1-38 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

อยู่มาคราวนั้น มีรับสั่งจากมหาจักรพรรดิซีซาร์ ออกัสตัส ให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้จดทะเบียนสำมะโนครัว เมื่อคีรินิอัสเป็นเจ้าเมืองซีเรีย คนทั้งปวงต่างคนต่างได้ไปขึ้นทะเบียนยังเมืองของตน ฝ่ายโยเซฟก็ขึ้นไปจากเมืองนาซาเร็ธ แคว้นกาลิลีถึงเมืองของดาวิดชื่อเบธเลเฮมแคว้นยูเดียด้วย เพราะว่าเขาเป็นวงศ์วานและเชื้อสายของดาวิด เขาได้ไปกับมารีย์ที่เขาได้หมั้นไว้แล้ว เพื่อจะขึ้นทะเบียน และนางมีครรภ์ เมื่อเขาทั้งสองยังอยู่ที่นั่น ก็ถึงเวลาที่มารีย์จะประสูติบุตร นางจึงประสูติบุตรชายหัวปี เอาผ้าอ้อมพันและวางไว้ในรางหญ้า เพราะว่าไม่มีที่ว่างให้เขาในโรงแรม ในแถบนั้นมีคนเลี้ยงแกะอยู่ในทุ่งนา เฝ้าฝูงแกะของเขาในเวลากลางคืน มีทูตองค์หนึ่งของพระเป็นเจ้ามาปรากฏแก่เขา และพระสิริของพระเป็นเจ้าส่องล้อมรอบเขา และเขากลัวนัก ฝ่ายทูตองค์นั้นกล่าวแก่เขาว่า <<อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมายังท่านทั้งหลาย คือความปรีดียิ่งซึ่งจะมาถึงคนทั้งปวง เพราะว่าในวันนี้พระผู้ช่วยให้รอดของท่านทั้งหลาย คือพระคริสตเจ้า มาบังเกิดที่เมืองดาวิด นี่จะเป็นหมายสำคัญแก่ท่านทั้งหลาย คือท่านจะได้พบพระกุมารนั้นพันผ้าอ้อมนอนอยู่ในรางหญ้า>> ในทันใดนั้น มีชาวสวรรค์หมู่หนึ่งมาอยู่กับทูตองค์นั้นร่วมสรรเสริญพระเจ้าว่า <<พระสิริจงมีแด่พระเจ้าในที่สูงสุด ส่วนบนแผ่นดินโลก สันติสุขจงมีท่ามกลางมนุษย์ทั้งปวง ซึ่งพระองค์ทรงโปรดปรานนั้น>> เมื่อทูตสวรรค์เหล่านั้น ไปจากเขาขึ้นสู่สวรรค์แล้ว พวกเลี้ยงแกะได้พูดกันว่า <<ให้เราไปยังเมืองเบธเลเฮมดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงแจ้งแก่เรา>> เขาก็รีบไปแล้วพบนางมารีย์กับโยเซฟ และพบพระกุมารนั้นนอนอยู่ในรางหญ้า ครั้นเขาได้เห็นแล้ว จึงเล่าเรื่องซึ่งเขาได้ยินถึงพระกุมารนั้น คนทั้งปวงที่ได้ยินก็ประหลาดใจ ด้วยเนื้อความที่คนเลี้ยงแกะได้บอกแก่เขา ฝ่ายนางมารีย์ก็เก็บบรรดาสิ่งเหล่านั้นไว้ในใจและรำพึงอยู่ คนเลี้ยงแกะจึงกลับไปยกย่องสรรเสริญพระเจ้า เพราะเหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งเขาได้ยิน และได้เห็นดังได้กล่าวไว้แก่เขาแล้ว ครั้นครบแปดวัน เป็นวันให้พระกุมารนั้นเข้าสุหนัต เขาจึงให้นามว่าเยซู ตามซึ่งทูตสวรรค์ได้กล่าวไว้ก่อน เมื่อยังมิได้ปฏิสนธิ์ในครรภ์ เมื่อถึงเวลาทำพิธีชำระตัวตามธรรมบัญญัติของโมเสส เขาจึงนำพระกุมารไปยังกรุงเยรูซาเล็มจะถวายแด่พระเป็นเจ้า ตามที่เขียนไว้แล้วในธรรมบัญญัติของพระเป็นเจ้าว่า <<บุตรชายทุกคนที่เบิกครรภ์ครั้งแรก จะได้เรียกว่าเป็นบุตรที่ถวายแด่พระเจ้า>> และถวายของบูชาตามที่ได้ตรัสสั่งไว้แล้ว ในธรรมบัญญัติของพระเป็นเจ้า คือ นกเขาคู่หนึ่ง หรือนกพิราบหนุ่มสองตัว นี่แน่ะ มีชายคนหนึ่งในกรุงเยรูซาเล็มชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและเกรงกลัวพระเจ้า และคอยเวลาซึ่งพวกอิสราเอลจะได้รับความบรรเทาทุกข์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตกับท่าน พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงสำแดงแก่ท่านว่า ท่านจะไม่ตายจนกว่าจะได้เห็นพระคริสต์ของพระเป็นเจ้า สิเมโอนเข้าไปในบริเวณพระวิหาร โดยพระวิญญาณทรงนำ และเมื่อบิดามารดาได้นำพระกุมารเยซูเข้าไป เพื่อจะกระทำแก่พระกุมารตามธรรมเนียมแห่งธรรมบัญญัติ สิเมโอนจึงอุ้มพระกุมาร และสรรเสริญพระเจ้าว่า <<ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้พระองค์ทรงให้ทาสของพระองค์ไปเป็นสุข ตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะว่าตาของข้าพระองค์ได้เห็นความรอดของพระองค์แล้ว ซึ่งพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้ต่อหน้าบรรดาชนชาติทั้งหลาย เป็นสว่างส่องแสงแก่คนต่างชาติ และเป็นศักดิ์ศรีของพวกอิสราเอลชนชาติของพระองค์>> ฝ่ายบิดามารดาของพระกุมารก็ประหลาดใจ เพราะถ้อยคำซึ่งท่านได้กล่าวถึงพระกุมารนั้น แล้วสิเมโอนก็อวยพรแก่เขา แล้วกล่าวแก่นางมารีย์มารดาพระกุมารนั้นว่า <<ดูก่อน ท่านทรงตั้งพระกุมารนี้ไว้ เป็นเหตุให้หลายคนในพวกอิสราเอลล้มลงหรือยกตั้งขึ้น และจะเป็นหมายสำคัญซึ่งคนปฏิเสธ เพื่อความคิดในใจของคนเป็นอันมากจะได้ปรากฏแจ้ง ถึงหัวใจของท่านเองก็ยังจะถูกดาบแทงทะลุด้วย>> ยังมีผู้เผยพระวจนะหญิงคนหนึ่งชื่ออันนา บุตรีฟานูเอลในเผ่าอาเชอร์ นางเป็นคนชรามากแล้ว มีสามีตั้งแต่สาวๆและอยู่ด้วยกันเจ็ดปี แล้วก็เป็นม่ายมาจนถึงแปดสิบสี่ปี นางมิได้ไปจากบริเวณพระวิหารเลย อยู่นมัสการถืออดอาหารและอธิษฐานทั้งกลางวันกลางคืน ในขณะนั้นผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาโมทนาพระเจ้า และกล่าวถึงพระกุมารให้คนทั้งปวงที่คอยการทรงไถ่กรุงเยรูซาเล็มฟัง

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 2

ลูกา 2:1-38 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ครั้งนั้นซีซาร์ออกัสตัสทรงออกพระราชกฤษฎีกาให้ทำทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งจักรวรรดิโรมัน (นี่เป็นการขึ้นทะเบียนครั้งแรกในสมัยที่คีรินิอัสเป็นผู้ว่าการแคว้นซีเรีย) ทุกคนต่างไปยังเมืองของตนเพื่อขึ้นทะเบียน ดังนั้นโยเซฟจึงเดินทางจากเมืองนาซาเร็ธในแคว้นกาลิลีขึ้นไปยังเบธเลเฮมเมืองของดาวิดในแคว้นยูเดีย เพราะเขาสืบเชื้อสายมาจากดาวิด เขาไปขึ้นทะเบียนที่นั่นกับมารีย์คู่หมั้นซึ่งกำลังตั้งครรภ์ ขณะพวกเขาอยู่ที่นั่นก็ถึงกำหนดที่มารีย์จะคลอดบุตร นางให้กำเนิดบุตรชายหัวปี นางเอาผ้าอ้อมพันและวางไว้ในรางหญ้าเพราะในบ้านไม่มีที่ว่างให้พวกเขา และในแถบนั้นมีคนเลี้ยงแกะอยู่กลางทุ่งเฝ้าฝูงแกะของเขายามค่ำคืน ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏ และพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าส่องล้อมรอบพวกเขาทำให้คนเหล่านั้นตกใจกลัวยิ่งนัก แต่ทูตนั้นกล่าวแก่พวกเขาว่า “อย่ากลัวเลย เรานำข่าวดีมา เป็นความเปรมปรีดิ์ใหญ่หลวงสำหรับคนทั้งปวง ในวันนี้ที่เมืองของดาวิดองค์พระผู้ช่วยให้รอดได้มาบังเกิดเพื่อท่าน พระองค์คือพระคริสต์ผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า นี่เป็นหมายสำคัญแก่ท่าน คือท่านจะพบพระกุมารพันผ้าอ้อมนอนอยู่ในรางหญ้า” ทันใดนั้นมีชาวสวรรค์หมู่ใหญ่มาปรากฏพร้อมกับทูตสวรรค์องค์นั้นร่วมกันสรรเสริญพระเจ้าและกล่าวว่า “ขอพระเกียรติสิริมีแด่พระเจ้าในที่สูงสุด และสันติสุขจงมีแก่มวลมนุษย์บนโลก ผู้ซึ่งพระองค์ทรงโปรดปราน” เมื่อเหล่าทูตสวรรค์จากพวกเขากลับสู่สวรรค์แล้ว คนเลี้ยงแกะก็พูดกันว่า “ให้เราไปยังเมืองเบธเลเฮมและดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแจ้งแก่เรา” ดังนั้นพวกเขาจึงรีบรุดมาและพบมารีย์ โยเซฟ กับพระกุมารซึ่งนอนอยู่ในรางหญ้า เมื่อพวกเขาได้เห็นพระองค์แล้วก็กระจายข่าวเรื่องที่ทูตสวรรค์นั้นมาบอกเกี่ยวกับพระกุมาร และคนทั้งปวงที่ได้ยินก็ประหลาดใจในสิ่งที่คนเลี้ยงแกะกล่าวแก่พวกเขา ส่วนมารีย์เก็บเรื่องทั้งหมดนี้ใคร่ครวญอยู่ในใจ คนเลี้ยงแกะกลับไปและยกย่องสรรเสริญพระเจ้าสำหรับทุกสิ่งที่พวกเขาได้ยินและได้เห็นซึ่งเป็นเหมือนที่ทูตสวรรค์ได้แจ้งพวกเขาทุกประการ เมื่อครบแปดวันก็ได้เวลาที่พระกุมารต้องเข้าสุหนัต พวกเขาตั้งชื่อพระองค์ว่า เยซู ซึ่งเป็นชื่อที่ทูตสวรรค์ได้บอกไว้ตั้งแต่ยังไม่ทรงปฏิสนธิ เมื่อครบกำหนดเวลาการชำระตัวของมารีย์ตามบทบัญญัติของโมเสสแล้ว โยเซฟกับมารีย์ก็นำพระกุมารมายังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า (ตามที่มีเขียนไว้ในหนังสือบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “บุตรชายหัวปีทุกคนต้องถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า”) และถวายเครื่องบูชาตามที่กล่าวไว้ในหนังสือบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าคือ “นกเขาหรือนกพิราบรุ่นสองตัว” มีชายคนหนึ่งในกรุงเยรูซาเล็มชื่อสิเมโอน เขาเป็นคนชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า เขากำลังรอคอยเวลาที่ชนอิสราเอลจะได้รับการปลอบประโลมและพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตกับเขา พระวิญญาณได้ทรงสำแดงแก่เขาว่าเขาจะได้เห็นพระคริสต์ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าส่งมาก่อนที่เขาจะตาย พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำเขามายังลานพระวิหาร เมื่อบิดามารดานำพระกุมารเยซูมาประกอบพิธีให้แก่พระองค์ตามธรรมเนียมที่บทบัญญัติกำหนดไว้ สิเมโอนก็อุ้มพระกุมารและสรรเสริญพระเจ้าว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เจ้าชีวิต ดังที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ บัดนี้พระองค์ทรงให้ผู้รับใช้ของพระองค์ไปอย่างเป็นสุข เพราะตาของข้าพระองค์ได้เห็นความรอดของพระองค์ ความรอดซึ่งพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้ต่อหน้าประชากรทั้งปวง เป็นแสงสว่างเพื่อสำแดงแก่คนต่างชาติ และเพื่อเป็นศักดิ์ศรีแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์” บิดามารดาของพระกุมารก็ประหลาดใจในถ้อยคำที่เขากล่าวเกี่ยวกับพระกุมาร จากนั้นสิเมโอนอวยพรพวกเขาและกล่าวกับมารีย์มารดาของพระองค์ว่า “พระกุมารนี้ถูกกำหนดไว้ให้เป็นสาเหตุของการล้มลงหรือลุกขึ้นของชาวอิสราเอลจำนวนมากและถูกกำหนดให้เป็นหมายสำคัญที่จะถูกต่อต้าน เพื่อความคิดในใจของคนเป็นอันมากจะถูกเปิดเผยและดาบจะแทงทะลุจิตใจของท่านเองด้วย” ยังมีผู้เผยพระวจนะหญิงคนหนึ่งชื่ออันนา บุตรีฟานูเอลตระกูลอาเชอร์ นางชรามาก นางอยู่กินกับสามีได้เจ็ดปี แล้วเป็นม่ายมาจนถึงอายุ 84 ปี นางไม่เคยออกจากพระวิหารเลยทุกวันคืน เฝ้านมัสการ อดอาหาร และอธิษฐาน ขณะนั้นนางเข้ามาหาพวกเขาแล้วขอบพระคุณพระเจ้าและกล่าวถึงพระกุมารให้บรรดาผู้ที่รอคอยการไถ่กรุงเยรูซาเล็มฟัง

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 2

ลูกา 2:1-38 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ใน​ครั้ง​นั้น​ซีซาร์​ออกัสตัส​ได้​ออก​คำ​สั่ง​ให้​ประชาชน​ไป​จด​ทะเบียน​สำมะโน​ครัว​ทั่ว​ราช​อาณาจักร​โรมัน และ​เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​มี​การ​จด​ทะเบียน​ขณะ​ที่​คีรินิอัส​เป็น​ผู้ว่า​ราชการ​แคว้น​ซีเรีย ทุก​คน​ก็​เตรียม​พร้อม​ที่​จะ​ไป​จด​ทะเบียน​ยัง​เมือง​ของ​ตน โยเซฟ​ก็​เดิน​ทาง​ไป​เช่น​กัน เขา​ออก​จาก​เมือง​นาซาเร็ธ​ใน​แคว้น​กาลิลี​ไป​ยัง​เมือง​ของ​ดาวิด ซึ่ง​เรียก​ว่า​เบธเลเฮม​ใน​แคว้น​ยูเดีย เพราะ​เขา​สืบ​เชื้อสาย​จาก​ราชวงศ์​ดาวิด เพื่อ​จด​ทะเบียน​สำมะโน​ครัว​กับ​มารีย์​คู่หมั้น​ซึ่ง​กำลัง​ตั้งครรภ์​อยู่ ขณะ​ที่​อยู่​ใน​เมือง​นั้น​มารีย์​ก็​ครบ​กำหนด​คลอด ทั้ง​สอง​ไม่​อาจ​หา​ห้อง​ว่าง​ได้​แม้​แต่​ห้อง​เดียว​จาก​โรงแรม​ทั่วไป นาง​ได้​ให้​กำเนิด​บุตร​ชาย​หัวปี และ​ใช้​ผ้า​พัน​ไว้​แล้ว​วาง​ใน​รางหญ้า ใน​แถบ​เดียว​กัน​นั้น​เอง​มี​คน​เลี้ยง​แกะ​กำลัง​เฝ้า​ฝูง​แกะ​อยู่​ใน​ทุ่งนา​ยาม​ราตรี ใน​ทันใด​นั้น ทูต​สวรรค์​องค์​หนึ่ง​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​ปรากฏ​แก่​คน​เลี้ยง​แกะ​เหล่า​นั้น แสง​อัน​รุ่งโรจน์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ส่อง​ล้อมรอบ​พวก​เขา จึง​ทำ​ให้​เขา​ตกใจ​กลัว​อย่าง​ยิ่ง ทูต​สวรรค์​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “อย่า​กลัว​เลย เรา​นำ​ข่าว​อัน​ประเสริฐ​ที่​น่า​ยินดี​ยิ่ง​มา​ให้​ทุก​ท่าน ด้วย​ว่า​วัน​นี้​องค์​ผู้​ช่วย​ให้​รอด​พ้น​ได้​กำเนิด​ขึ้น​แล้ว​ใน​เมือง​ของ​ดาวิด พระ​องค์​คือ​พระ​คริสต์ องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า สัญลักษณ์​สำคัญ​ที่​จะ​ทำ​ให้​ท่าน​ทราบ​ได้​คือ ท่าน​จะ​พบ​ว่า​ทารก​นั้น​ห่อหุ้ม​ด้วย​ผ้า​นอน​อยู่​ใน​รางหญ้า” ใน​ทันใด​นั้น ชาว​สวรรค์​กลุ่ม​ใหญ่​ก็​ได้​ปรากฏ​ขึ้น​ใกล้ๆ ทูต​สวรรค์​องค์​นั้น และ​ได้​ร่วม​กล่าว​สรรเสริญ​พระ​เจ้า​ว่า “ขอ​พระ​บารมี​จง​มี​แด่​พระ​เจ้า​ใน​ที่​สูง​สุด และ​สันติสุข​จง​บังเกิด​ท่าม​กลาง​มวล​มนุษย์​ใน​โลก​ที่​พระ​องค์​โปรด” แล้ว​ทูต​สวรรค์​เหล่า​นั้น​ก็​จาก​คน​เลี้ยง​แกะ​คืน​สู่​สวรรค์ คน​เลี้ยง​แกะ​พูด​กัน​เอง​ว่า “ถ้า​เป็น​เช่น​นั้น​เรา​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​เมือง​เบธเลเฮม​กัน​เถิด จะ​ได้​เห็น​ว่า​สิ่ง​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​บอก​แก่​เรา​ได้​บังเกิด​ขึ้น​จริง” หมู่​คน​เลี้ยง​แกะ​จึง​ได้​รีบ​เดิน​ทาง​มา​พบ​กับ​มารีย์ โยเซฟ และ​ทารก​น้อย​ที่​นอน​อยู่​ใน​รางหญ้า เมื่อ​พวก​เขา​เห็น​พระ​องค์​ก็​ได้​เล่า​เรื่อง​ที่​ทูต​สวรรค์​บอก​เกี่ยว​กับ​ทารก​น้อย​นี้ ทุก​คน​ที่​ได้ยิน​ต่าง​ก็​ประหลาด​ใจ​กับ​เรื่องราว​ที่​คน​เลี้ยง​แกะ​เหล่า​นั้น​บอก​แก่​เขา แต่​ว่า​มารีย์​เอง​ได้​ระลึก​เรื่องราว​ทั้ง​หมด​ไว้​ใน​ความ​ทรงจำ และ​ครุ่นคิด​ใน​ใจ และ​คน​เลี้ยง​แกะ​ก็​กลับ​ออก​ไป พลาง​ยกย่อง​และ​สรรเสริญ​พระ​เจ้า​ที่​พวก​เขา​ได้ยิน​และ​ได้​เห็น​ทุก​สิ่ง ตาม​ที่​พวก​เขา​ได้​รับ​ฟัง​คำ​บอก​ไว้ เมื่อ​ครบ 8 วัน​ก็​ได้​เวลา​เข้า​สุหนัต พระ​องค์​ได้​รับ​นาม​ว่า เยซู ซึ่ง​เป็น​ชื่อ​ที่​ทูต​สวรรค์​ให้​ไว้​กับ​มารีย์​เมื่อ​ก่อน​ตั้งครรภ์ เมื่อ​ครบ​กำหนด​เวลา​ที่​จะ​ทำ​พิธี​ชำระ​ตัว​ตาม​หมวด​กฎ​บัญญัติ​ของ​โมเสส​แล้ว โยเซฟ​และ​มารีย์​ก็​นำ​พระ​องค์​ไป​ยัง​เมือง​เยรูซาเล็ม เพื่อ​มอบ​แด่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ตาม​ที่​มี​บันทึก​ไว้​ใน​กฎ​บัญญัติ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า “บุตร​ชาย​คน​แรก​ทุก​คน​จะ​นับ​ว่า​เป็น​บุตร​ที่​ถวาย​ให้​แด่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” และ​เขา​ยัง​ได้​ถวาย​เครื่อง​สักการะ​ตาม​กฎ​บัญญัติ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​อัน​ได้​แก่ “นกเขา 1 คู่ หรือ​นก​พิราบ​หนุ่ม 2 ตัว” ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม​มี​ชาย​ผู้​หนึ่ง​ชื่อ สิเมโอน ซึ่ง​เป็น​คน​ที่​มี​ความ​ชอบธรรม​ทั้ง​ยัง​เชื่อ​ใน​พระ​เจ้า​มาก เขา​รอคอย​วัน​ที่​ชาว​อิสราเอล​จะ​รอด​พ้น และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ก็​สถิต​กับ​เขา​ด้วย พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ได้​เผย​ให้​สิเมโอน​ทราบ​ว่า เขา​จะ​ได้​เห็น​พระ​คริสต์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ก่อน​ที่​เขา​จะ​ตาย พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ได้​นำ​สิเมโอน​เข้า​ไป​ใน​พระ​วิหาร ขณะ​ที่​บิดา​มารดา​นำ​พระ​เยซู​มา​เข้า​พิธี​ตาม​กฎ​บัญญัติ สิเมโอน​จึง​รับ​พระ​องค์​มา​ไว้​ใน​อ้อม​แขน​และ​กล่าว​สรรเสริญ​พระ​เจ้า​ว่า “พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​สูง​สุด ขอ​พระ​องค์​ให้​ข้าพเจ้า ผู้​เป็น​ผู้​รับใช้​ไป​อย่าง​สันติสุข​เถิด ตาม​ที่​ได้​สัญญา​ไว้ เพราะ​ว่า​ตา​ของ​ข้าพเจ้า​ได้​เห็น​ความ​รอด​พ้น​ที่​มา​จาก​พระ​องค์ ซึ่ง​พระ​องค์​ได้​จัด​เตรียม​ไว้​ที่​ตรง​หน้า​คน​ทั้ง​ปวง​แล้ว เป็น​แสง​สว่าง​ให้​บรรดา​คนนอก​ได้​รู้​เห็น​ชัด และ​เพื่อ​เป็น​บารมี​แก่​อิสราเอล ซึ่ง​เป็น​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์” บิดา​มารดา​ของ​พระ​เยซู​ต่าง​ประหลาด​ใจ​เมื่อ​ได้ยิน​คำ​ที่​สิเมโอน​กล่าว​อ้าง​ถึง​พระ​องค์​เช่น​นั้น หลัง​จาก​สิเมโอน​อวยพร​ทั้ง​สอง​แล้ว​ก็​ได้​กล่าว​กับ​มารีย์​มารดา​ของ​พระ​องค์​ว่า “ดู​เถิด เด็ก​ผู้​นี้​ได้​รับ​มอบ​หมาย​ให้​เป็น​เหตุ​ของ​การ​ล้ม​ลง​และ​ลุก​ขึ้น​ของ​คน​จำนวน​มาก​ใน​อิสราเอล และ​เป็น​ปรากฏการณ์​สำคัญ​ที่​ผู้​คน​จะ​ต่อต้าน เพื่อ​ว่า​ความ​คิด​ใน​ใจ​ของ​คน​เป็น​อัน​มาก​จะ​ปรากฏ​ชัด และ​ความ​โศกเศร้า​ดั่ง​คม​ดาบ​จะ​ทิ่มแทง​จิตใจ​ของ​ท่าน มารีย์” ยัง​มี​หญิง​ชรา​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​คน​หนึ่ง​ชื่อ​อันนา นาง​เป็น​บุตรี​ของ​ฟานูเอล​เผ่า​อาเชอร์ นาง​สมรส​อยู่​กิน​กับ​สามี​ได้​เพียง 7 ปี และ​ก็​เป็น​ม่าย​มา​จน​อายุ​ได้ 84 ปี นาง​ไม่​เคย​ย่าง​กราย​ออก​จาก​พระ​วิหาร​เลย อันนา​ใช้​เวลา​ทั้ง​กลางวัน​และ​กลางคืน​นมัสการ อด​อาหาร และ​อธิษฐาน ขณะ​นั้น​นาง​ได้​เดิน​เข้า​มา​หา​และ​กล่าว​ขอบคุณ​พระ​เจ้า แล้ว​นาง​ก็​พูด​ถึง​พระ​องค์​ให้​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​เฝ้า​รอ​การ​ไถ่​ของ​เยรูซาเล็ม​ฟัง​ด้วย

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 2