เลวีนิติ 14:8-57

เลวีนิติ 14:8-57 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แล้ว​คน​ที่​ได้รับ​การ​ประกาศ​ให้​เป็น​คน​บริสุทธิ์​แล้ว ต้อง​เอา​เสื้อ​ของเขา​ไป​ซักล้าง โกนผม​ให้​เกลี้ยง​และ​อาบน้ำ แล้ว​เขา​จะ​กลาย​เป็น​คน​บริสุทธิ์ หลัง​จากนั้น​เขา​จะ​ได้รับ​อนุญาต​ให้​เข้ามา​ใน​ค่าย​ได้ แต่​ต้อง​อยู่​นอก​เต็นท์​เป็น​เวลา​เจ็ดวัน ใน​วัน​ที่เจ็ด​เขา​ต้อง​โกน​ผม โกน​หนวด​และ​ขนคิ้ว​ออก​ให้หมด และ​ต้อง​ซัก​เสื้อผ้า​ใหม่ และ​อาบน้ำ​ชำระ​ร่างกาย แล้ว​เขา​จะ​เป็น​คน​บริสุทธิ์ ใน​วัน​ที่​แปด คนๆนั้น​ต้อง​เอา​ลูกแกะ​ตัวผู้​สองตัว​ที่​ไม่มี​ตำหนิ และ​ลูกแกะ​ตัวเมีย​อายุ​หนึ่งปี​ที่​ไม่มี​ตำหนิ​มา​ตัวหนึ่ง แป้งสาลี​อย่างดี​ประมาณ​หกลิตร​ครึ่ง​ผสม​กับ​น้ำมัน​สำหรับ​เป็น​เครื่อง​บูชา​จาก​เมล็ดพืช​และ​น้ำมัน​มะกอก​ประมาณ​หนึ่ง​ใน​สามลิตร นักบวช​ที่​จะ​ทำ​พิธี​ชำระ​ล้าง ต้อง​นำ​คน​ที่​จะ​ได้รับ​การ​ชำระ​ให้​บริสุทธิ์ พร้อม​กับ​เครื่อง​บูชา​เหล่านี้ มา​อยู่​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ ตรง​ทางเข้า​เต็นท์​นัดพบ แล้ว​นักบวช​ต้อง​เอา​ลูกแกะ​ตัวผู้​มา​ตัวหนึ่ง ถวาย​เป็น​ของถวาย​ชดใช้ และ​นำ​น้ำมัน​มะกอก​ประมาณ​หนึ่ง​ใน​สาม​ลิตร มา​ยกขึ้น​ให้​เป็น​เครื่อง​ยื่น​บูชา​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ เขา​ต้อง​ฆ่า​ลูกแกะ​ตัวนั้น​ใน​บริเวณ​พื้นที่​ที่​ศักดิ์สิทธิ์ ที่​ใช้​สำหรับ​ฆ่า​เครื่อง​บูชา​ชำระ​ล้าง​และ​เครื่อง​เผา​บูชา เพราะ​ของถวาย​ชดใช้​นี้​เป็น​เหมือน​เครื่อง​บูชา​ชำระ​ล้าง มัน​จะ​เป็น​ของ​นักบวช เป็น​สิ่ง​ที่​ศักดิ์สิทธิ์​ที่สุด นักบวช​จะ​เอา​เลือด​ส่วน​หนึ่ง​จาก​ของถวาย​ชดใช้ มา​แต้ม​ที่​ติ่งหู​ข้าง​ขวา พร้อม​กับ​หัวแม่มือ​กับ​หัวแม่เท้า​ข้างขวา​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง นักบวช​จะ​แบ่ง​น้ำมัน​มะกอก​ที่​มี​อยู่​ประมาณ​หนึ่ง​ใน​สาม​ลิตร​นั้น แล้ว​เท​ใส่​ฝ่ามือ​ซ้าย​ของ​ตัว​เขาเอง แล้ว​นักบวช​จะ​เอา​นิ้ว​ข้าง​ขวา​ของเขา​จุ่ม​ลง​ใน​น้ำมัน​ที่​อยู่​บน​ฝ่ามือ​ซ้าย​ของเขา แล้ว​เอา​ไป​พรม​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์​เจ็ดครั้ง น้ำมัน​ที่เหลือ​บน​ฝ่ามือ​นักบวช เขา​ก็​จะ​เอา​ไป​แต้ม​ที่​ติ่งหู​ด้าน​ขวา นิ้ว​หัวแม่มือ​ด้าน​ขวา และ​นิ้ว​หัวแม่เท้า​ข้าง​ขวา​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง โดย​แต้ม​ทับ​รอย​เลือด​จาก​ของถวาย​ชดใช้​ที่​แต้ม​ไว้​ก่อน​หน้านี้​แล้ว น้ำมัน​ที่เหลือ​ทั้งหมด​บน​ฝ่ามือ​ของ​นักบวช เขา​ก็​จะ​เอา​ไป​ลูบ​บน​หัว​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง ด้วย​วิธีนี้​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ นักบวช​จะ​กำจัด​บาปหนึ่ง​บาปใด​แทน​คนๆนั้น​ที่​เขา​ได้​ทำไป​ต่อ​พวก​ของศักดิ์สิทธิ์ แล้ว​นักบวช​จะ​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ชำระ​ล้าง เพื่อ​ชำระ​สถานที่​ศักดิ์สิทธิ์​แทน​คนๆนั้น​ที่​กำลัง​ได้รับ​การชำระ​จาก​ความ​ไม่บริสุทธิ์​ของเขา หลังจากนั้น นักบวช​ก็​จะ​ฆ่า​เครื่อง​เผา​บูชา แล้ว​นักบวช​ก็​จะ​ถวาย​เครื่อง​เผา​บูชา และ​เครื่อง​บูชา​จาก​เมล็ดพืช​บน​แท่นบูชา และ​ด้วย​วิธีนี้​นักบวช​จะ​ทำให้​เกิด​การคืนดี​ขึ้น​สำหรับ​คนนั้น และ​คนนั้น​ก็​จะ​บริสุทธิ์ แต่​ถ้า​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง​นั้น​ยากจน ไม่​สามารถ​หา​ของถวาย​พวกนั้น​มาได้ ก็​ให้​เขา​เอา​ลูกแกะ​มา​ตัวหนึ่ง เป็น​ของถวาย​ชดใช้ มัน​จะ​เป็น​เครื่อง​ยื่น​บูชา​สำหรับเขา เพื่อ​กำจัด​บาปหนึ่ง​บาปใด​ที่​เขา​ทำ​ต่อ​พวก​ของศักดิ์สิทธิ์ เขา​ต้อง​เอา​แป้ง​อย่างดี​มา​ประมาณ​สองลิตร ผสม​น้ำมัน เป็น​เครื่อง​บูชา​จาก​เมล็ดพืช พร้อมกับ​น้ำมันมะกอก​ประมาณ​หนึ่ง​ใน​สามลิตร และ​เอา​นกเขา​สองตัว​หรือ​นกพิราบ​สองตัว อย่างใด​อย่างหนึ่ง​ที่​เขา​สามารถ​ให้ได้ ตัวหนึ่ง​ใช้​เป็น​เครื่อง​บูชา​ชำระ​ล้าง อีกตัว​ใช้​เป็น​เครื่อง​เผา​บูชา คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง ต้อง​นำ​เครื่อง​บูชา​เหล่านี้​มา​ให้​นักบวช​ใน​วัน​ที่แปด เพื่อ​นักบวช​จะ​ทำ​พิธี​ชำระ​ล้าง​ให้​กับเขา ตรง​ทางเข้า​เต็นท์​นัดพบ​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ แล้ว​นักบวช​จะ​เอา​ลูกแกะ​มา​เป็น​ของถวาย​ชดใช้ พร้อม​กับ​น้ำมัน​มะกอก​ประมาณ​หนึ่ง​ใน​สาม​ลิตร และ​นักบวช​จะ​ถวาย​พวกมัน​เป็น​เครื่อง​ยื่น​บูชา​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ แล้ว​นักบวช​ก็​จะ​ฆ่า​ลูกแกะ​ที่​เป็น​ของถวาย​ชดใช้​ตัวนั้น นักบวช​จะ​เอา​เลือด​ส่วนหนึ่ง​ของมัน มา​แต้ม​ที่​ติ่งหู​ข้าง​ขวา หัวแม่มือ​ข้าง​ขวา และ​หัวแม่เท้า​ข้าง​ขวา​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง จากนั้น​นักบวช​จะ​เท​น้ำมัน​ส่วนหนึ่ง​ใส่​ฝ่ามือ​ซ้าย​ของ​ตนเอง แล้ว​ใช้​นิ้ว​มือ​ข้าง​ขวา​จุ่ม​น้ำมัน​ที่​อยู่​ใน​ฝ่ามือ​ซ้าย​ของเขา แล้ว​เอา​ไป​พรม​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์​เจ็ด​ครั้ง แล้ว​นักบวช​จะ​เอา​น้ำมัน​ส่วน​หนึ่ง​จาก​ฝ่ามือ ไป​แต้ม​ที่​ติ่งหู​ข้าง​ขวา หัวแม่มือ​ข้าง​ขวา​และ​หัวแม่เท้า​ข้าง​ขวา​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง โดย​แต้ม​ทับ​ไป​บน​รอย​เลือด​ที่​มา​จาก​ของถวาย​ชดใช้ ที่​แต้ม​อยู่​ก่อน​แล้ว น้ำมัน​ที่​เหลือ​บน​ฝ่ามือ​ของ​นักบวช เขา​จะ​เอา​ไป​ลูบ​บน​หัว​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง เพื่อ​กำจัด​บาปหนึ่ง​บาปใด​ที่​เขา​ทำ​ต่อ​พวก​ของ​ศักดิ์สิทธิ์​แทน​เขา​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ จากนั้น​นักบวช​จะ​ถวาย​นกเขา​สองตัว​หรือ​นก​พิราบ​สองตัว อย่างใด​อย่างหนึ่ง ตาม​ที่​คนนั้น​สามารถ​ให้ได้ ตัวหนึ่ง​ใช้​เป็น​เครื่อง​บูชา​ชำระ​ล้าง อีก​ตัวหนึ่ง​ใช้​เป็น​เครื่อง​เผา​บูชา พร้อมๆ​กับ​เครื่อง​บูชา​จาก​เมล็ดพืช ด้วย​วิธีนี้ ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ นักบวช​จะ​ทำ​ให้​เกิด​การ​คืนดี​กัน​ขึ้น​เพื่อ​เขา​คนนั้น​ที่​กำลัง​ได้รับ​การ​ชำระ​ล้าง นั่น​คือ​กฎ​สำหรับ​คน​ที่​เป็น​โรค​ผิวหนัง​ร้ายแรง ที่​ไม่​สามารถ​หา​เครื่อง​บูชา​ที่​ใช้​กัน​ตาม​ปกติ​สำหรับ​พิธีการ​ชำระ​ล้าง​ของเขา” พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โมเสส​และ​อาโรน​ว่า “เมื่อ​พวกเจ้า​เข้า​สู่​แผ่นดิน​คานาอัน​ที่​เรา​กำลัง​ให้​เป็น​สมบัติ​ของเจ้า และ​เรา​ได้​ทำให้​เกิด​เชื้อรา ใน​บ้าน​เรือน บน​แผ่นดิน​ที่​เจ้า​เป็น​เจ้าของ​นั้น เจ้าของ​บ้าน​หลังนั้น​ต้อง​ไป​บอก​นักบวช​ว่า ‘ผม​พบ​สิ่ง​ที่​ดู​เหมือน​เชื้อรา​ใน​บ้าน​ของผม’ นักบวช​ต้อง​สั่ง​พวกเขา​ให้​ขนของ​ออก​จากบ้าน​ให้​หมด ก่อน​ที่​นักบวช​จะ​ไป​ตรวจ​ดู​เชื้อรา​นั้น ไม่​อย่างนั้น ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ใน​บ้าน​หลังนั้น​จะ​ไม่​บริสุทธิ์ แล้ว​นักบวช​จะ​มา​ตรวจดู​บ้าน​หลังนั้น เขา​จะ​ตรวจสอบ​ดู​เชื้อรา​นั้น ถ้า​เชื้อรา​บน​กำแพง​บ้าน​เป็น​จุด​สีแดง​หรือ​สีเขียว​และ​ดู​เหมือน​มัน​ฝังลึก​ลง​ใน​กำแพง นักบวช​ต้อง​ออก​มา​ยืน​ที่​ทางเข้า​บ้าน​หลังนั้น​และ​ปิด​บ้าน​หลังนั้น​ไว้​เป็น​เวลา​เจ็ดวัน ใน​วัน​ที่เจ็ด นักบวช​ต้อง​กลับ​ไป​ตรวจ​ดู​บ้าน​หลังนั้น​ใหม่ ถ้า​เชื้อรา​บน​กำแพง​กระจาย​ออกไป นักบวช​ต้อง​ออก​คำสั่ง​ให้​คน​กะเทาะ​หิน​ส่วน​ที่​เป็น​เชื้อรา​นั้น​ออก​มา​และ​ขว้าง​ทิ้งไป​ที่​นอก​เมือง​ใน​สถานที่​ไม่​บริสุทธิ์ แล้ว​นักบวช​ต้อง​สั่ง​ให้​พวกเขา​ขัดถู​ภายใน​บ้าน​ให้​ทั่ว​และ​นำ​ผงปูน ที่​เขา​ขัด​ออกมา​นั้น ไป​เท​ทิ้ง​นอก​เมือง​ใน​สถานที่​ไม่​บริสุทธิ์ แล้ว​หา​หิน​ก้อน​ใหม่​มา​วาง​แทน​หิน​ก้อน​เดิม และ​ฉาบ​ปูน​ทับ​หิน​ก้อน​ใหม่​และ​ทั้งบ้าน ถ้า​เชื้อรา​กลับ​มา​อีก​และ​กระจาย​ไป​ทั่ว​บ้าน​หลัง​จาก​หิน​ที่​เป็น​เชื้อรา​ถูก​กะเทาะ​ออก​และ​บ้าน​ก็​ถูก​ขัดถู​และ​ฉาบ​ปูน​ใหม่​แล้ว นักบวช​ต้อง​มา​ตรวจ​สอบ​ดู​อีก ถ้า​รา​กระจาย​ใน​บ้าน มัน​จะ​ทำลาย​ข้าวของ​ใน​บ้าน บ้าน​ก็​จะ​ไม่​บริสุทธิ์ บ้าน​หลังนั้น​ต้อง​ถูก​รื้อทิ้ง​ทั้ง​ส่วน​ที่​เป็น​หิน ไม้​และ​ปูน​ที่​ฉาบ​ทั้งหมด และ​นำ​ไป​ทิ้ง​นอก​เมือง​ใน​สถานที่​ไม่​บริสุทธิ์ ใคร​ที่​เข้าไป​ใน​บ้าน​ใน​ช่วง​ที่​ถูก​ปิด​อยู่ จะ​กลาย​เป็น​คน​ไม่​บริสุทธิ์​ไป​จนถึง​เย็น ใคร​ที่​เข้าไป​นอน​หรือ​ไป​กิน​ใน​บ้าน​หลังนั้น​ต้อง​เอา​เสื้อ​ที่​ใส่​ไป​ซัก แต่​ถ้า​นักบวช​มา​ตรวจสอบ​บ้าน​หลังนั้น และ​เห็น​ว่า​รา​ไม่ได้​แพร่​กระจาย​ไป​ใน​บ้าน หลัง​จาก​ที่​ได้​ฉาบ​ปูน​บ้าน​หลังนั้น​แล้ว นักบวช​จะ​ประกาศ​ว่า​บ้าน​หลังนั้น​บริสุทธิ์ เพราะ​เชื้อรา​หาย​ไป​แล้ว การ​ทำ​พิธี​ชำระ​ล้าง​ให้​บ้าน นักบวช​ต้อง​ใช้​นก​สองตัว ไม้สน เชือก​สีแดง​และ​กิ่งหุสบ เขา​ต้อง​ฆ่า​นก​ตัวหนึ่ง​ใน​ชาม​ดินเผา​ที่​อยู่​เหนือ​น้ำ​ที่​ไหล​อยู่ เขา​ต้อง​นำ​ไม้สน กิ่งหุสบ เชือก​แดง​และ​นก​ตัว​ที่​ยัง​มีชีวิต เอา​ทั้งหมด​นี้​จุ่ม​ลง​ใน​เลือด​ของ​นก​ตัว​ที่​ถูก​ฆ่า และ​ใน​น้ำ​ที่​ไหล​นั้น แล้ว​เอา​ไป​พรม​บ้านนั้น​เจ็ด​ครั้ง ด้วย​วิธีนี้ นักบวช​จะ​ทำ​ให้​บ้าน​นั้น​บริสุทธิ์​ด้วย​เลือด​นก ด้วย​น้ำ​ที่​ไหล และ​ด้วย​นก​เป็นๆ​ตัวนั้น ไม้สน กิ่งหุสบ และ​เชือก​แดง แล้ว​นักบวช​ก็​จะ​ปล่อย​นก​เป็นๆ​ตัวนั้น นอก​เมือง​ใน​ท้องทุ่ง ด้วย​วิธีนี้ นักบวช​จะ​ชำระ​ล้าง​บ้านนั้น แล้ว​มัน​ก็​จะ​บริสุทธิ์ นี่​จะ​เป็น​กฎ​สำหรับ​โรค​ผิวหนัง​ร้ายแรง​ทุกชนิด สำหรับ​ขี้กราก สำหรับ​เชื้อรา​บน​ผ้า​หรือ​ใน​บ้าน สำหรับ​แผล​บวม​อักเสบ แผล​ตก​สะเก็ด หรือ​ตุ่ม​น้ำใส​บน​ผิวหนัง กฎ​เหล่านี้ สอน​ให้​รู้​ว่า อะไร​บริสุทธิ์​และ​อะไร​ไม่​บริสุทธิ์ กฎ​พวกนี้​เกี่ยวกับ​โรค​ผิวหนัง​และ​เชื้อรา”

เลวีนิติ 14:8-57 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

และให้ผู้ที่รับการชำระนั้นซักเสื้อผ้าของตน และให้โกนผมกับขนทั้งหมดเสีย และอาบน้ำ เขาก็จะสะอาด ต่อจากนั้นก็ให้เขาเข้าค่ายได้ แต่ให้นอนอยู่นอกเต็นท์ของเขาเจ็ดวัน พอวันที่เจ็ดให้เขาโกนผมจากศีรษะของเขาให้หมด ให้เขาโกนเคราและโกนขนคิ้ว คือโกนให้หมด แล้วให้ซักเสื้อผ้า และอาบน้ำเขาก็จะสะอาด <<ในวันที่แปดให้เขาเอาลูกแกะผู้สองตัว ปราศจากตำหนิ และลูกแกะเมียอายุหนึ่งขวบตัวหนึ่งปราศจากตำหนิ และยอดแป้งคลุกน้ำมันสามในสิบเอฟาห์เป็นธัญญบูชา กับน้ำมันลกหนึ่ง ให้ปุโรหิตผู้ทำการชำระ นำผู้ที่รับการชำระกับสิ่งของเหล่านี้มา ต่อพระพักตร์พระเจ้าที่ประตูเต็นท์นัดพบ ให้ปุโรหิตนำลูกแกะผู้นั้นตัวหนึ่งไปถวายเป็นเครื่องบูชา ไถ่กรรมบาปพร้อมกับน้ำมันลกหนึ่ง นำยื่นถวายเป็นเครื่องยื่นถวายแด่พระเจ้า ให้ปุโรหิตฆ่าลูกแกะนั้นในที่ ที่เขาฆ่าสัตว์อันเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และสัตว์อันเป็นเครื่องเผาบูชาในที่บริสุทธิ์ เพราะว่าเครื่องบูชาไถ่กรรมบาปก็เหมือนเครื่องบูชาไถ่บาป เป็นของที่ตกแก่ปุโรหิต เป็นของบริสุทธิ์ที่สุด ปุโรหิตจะนำเลือดของเครื่องบูชาไถ่กรรมบาปมาบ้าง และปุโรหิตจะเจิมที่ปลายหูข้างขวาของผู้ที่รับการชำระ และเจิมที่นิ้วหัวแม่มือขวาและที่นิ้วหัวแม่เท้าขวาของเขา และปุโรหิตจะนำน้ำมันหนึ่งลกนั้นมาบ้าง เทใส่ฝ่ามือซ้ายของเขา และเอานิ้วมือขวาจิ้มน้ำมันซึ่งอยู่ในมือซ้าย ประพรมน้ำมันด้วยนิ้วของเขาเจ็ดครั้งต่อพระพักตร์พระเจ้า ส่วนน้ำมันที่เหลืออยู่ในมือนั้นปุโรหิตจะเอามาบ้าง เจิมที่ปลายหูขวาของผู้ที่รับการชำระ และที่นิ้วหัวแม่มือขวาและที่นิ้วหัวแม่เท้าขวา ทับบนเลือดเครื่องบูชาไถ่กรรมบาป ส่วนน้ำมันที่ยังเหลืออยู่ในมือของปุโรหิตนั้น เขาจะเจิมศีรษะของผู้รับการชำระ แล้วปุโรหิตจะทำการลบมลทินของเขาต่อพระพักตร์พระเจ้า ปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชาไถ่บาปเพื่อทำการลบมลทินของผู้รับ การชำระให้พ้นจากมลทินของเขา ภายหลังปุโรหิตจึงฆ่าสัตว์อันเป็นเครื่องเผาบูชา และปุโรหิตจะถวายเครื่องเผาบูชาและธัญญบูชาบนแท่น ปุโรหิตจะทำการลบมลทินของเขาดังนี้ และเขาก็จะสะอาดได้ <<ถ้าผู้นั้นเป็นคนยากจนและไม่สามารถจะหามา ได้เท่านั้น ก็ให้เขานำลูกแกะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่กรรมบาป เพื่อยื่นถวายกระทำการลบมลทินของเขา และนำยอดแป้งหนึ่งในสิบเอฟาห์เคล้าเข้ากับน้ำมัน เป็นธัญญบูชากับน้ำมันลกหนึ่ง พร้อมกับนกเขาสองตัว หรือลูกนกพิราบสองตัว ตามที่เขาสามารถหามาได้ ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป นกอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา ในวันที่แปดให้เขานำมามอบให้แก่ปุโรหิต เพื่อการชำระของตน ที่ประตูเต็นท์นัดพบถวายต่อพระพักตร์พระเจ้า และปุโรหิตจะนำลูกแกะที่เป็นเครื่องบูชาไถ่กรรมบาป และน้ำมันลกหนึ่งนั้น และปุโรหิตจะทำพิธียื่นถวายเป็นเครื่องยื่นบูชาถวายแด่พระเจ้า และเขาจะฆ่าลูกแกะเครื่องบูชาไถ่กรรมบาป และปุโรหิตจะเอาเลือดของเครื่องบูชาไถ่กรรมบาปมาบ้าง เจิมที่ปลายหูข้างขวาของผู้รับการชำระ และที่นิ้วหัวแม่มือขวา กับที่นิ้วหัวแม่เท้าขวาของเขา แล้วปุโรหิตจะเทน้ำมันใส่ฝ่ามือซ้ายของตนบ้าง และเอาน้ำมันที่อยู่ในมือซ้ายนั้น ประพรมด้วยนิ้วมือขวาต่อพระพักตร์พระเจ้า และปุโรหิตจะเอาน้ำมันที่อยู่ในมือเจิม ที่ปลายหูข้างขวาของผู้รับการชำระ และที่หัวแม่มือขวากับหัวแม่เท้าขวาของเขา ตรงที่ที่เจิมด้วยเลือดของเครื่องบูชาไถ่กรรมบาป น้ำมันที่เหลืออยู่ในมือของปุโรหิตนั้น เขาจะเจิมศีรษะของผู้ที่รับการชำระ ทำการลบมลทินของเขาต่อพระพักตร์พระเจ้า และเขาจะถวายนกเขาหรือนกพิราบหนุ่ม ตามที่เขาสามารถหามาได้ ถวายนกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป นกอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชาพร้อมกับธัญญบูชา และปุโรหิตจะทำการลบมลทินของผู้รับการ ชำระต่อพระพักตร์พระเจ้า นี่เป็นกฎสำหรับผู้ที่เป็นเรื้อนไม่สามารถหาเครื่องบูชา เพื่อการชำระของตนได้>> พระเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า <<เมื่อเจ้าเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน ซึ่งเราให้แก่เจ้าเป็นกรรมสิทธิ์นั้น และเราจะใส่เรื้อนเข้าที่เรือนหลังหนึ่ง หลังใดในแผ่นดินที่เจ้าถือกรรมสิทธิ์นั้น ผู้ใดที่ถือกรรมสิทธิ์ของเรือนนั้นจะ ต้องมาบอกแก่ปุโรหิตว่า <ข้าพเจ้าเห็นโรคอะไรอย่างหนึ่งเกิดในเรือนของข้าพเจ้า> แล้วปุโรหิตจะบัญชาให้เขาขนของออกจากเรือนให้หมด ก่อนที่ปุโรหิตจะไปตรวจโรค เกรงว่าของทุกอย่างที่อยู่ในเรือนนั้นจะถูกประกาศว่า มลทิน ต่อจากนั้นปุโรหิตจึงจะเข้าไปตรวจดูเรือน และปุโรหิตจะตรวจดูโรค ถ้าโรคนั้นอยู่ที่ผนังของเรือนเป็นรอยสีเขียวๆแดงๆ และปรากฏว่าอยู่ลึกกว่าผิว แล้วปุโรหิตจะออกจากเรือนไปอยู่ที่ประตูเรือน แล้วปิดเรือนเสียเจ็ดวัน พอถึงวันที่เจ็ดปุโรหิตจะกลับมาตรวจดูอีก ถ้าโรคนั้นลามไปในผนังเรือน แล้วปุโรหิตก็จะบัญชาให้เอาหินก้อนที่ติดโรคนั้นออกเสีย นำไปโยนทิ้งในที่มลทินภายนอกเมือง และสั่งให้ขูดข้างในเรือนทั่วๆไป ผงปูนที่ขูดออกมานั้นให้นำไปทิ้งเสียในที่ มลทินภายนอกเมือง แล้วให้หาหินอื่นมาแทนหินก้อนที่นำออกไป และเอาปูนอื่นมาโบกผนังเรือนนั้น <<เมื่อเขาเอาหินออกขูดเรือนและโบกปูนใหม่แล้ว ยังเกิดโรคขึ้นในเรือนนั้นอีก แล้วปุโรหิตจะไปตรวจดู ถ้าโรคนั้นลามไปในเรือนเป็นโรคเรื้อนอย่างร้ายในเรือน เรือนนั้นก็เป็นมลทิน ให้เขาพังเรือนนั้นลง หิน ไม้และปูนที่ทำเรือนนั้นให้ขนไปทิ้งเสีย ในที่ที่มลทินภายนอกเมือง ยิ่งกว่านั้นอีก เมื่อเรือนปิดอยู่ มีผู้ใดเข้าไป ผู้นั้นจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น ผู้ใดที่นอนลงในเรือนนั้น ต้องซักเสื้อผ้าของเขา และผู้ที่รับประทานในเรือนนั้น ต้องซักเสื้อผ้าของเขาด้วย <<แต่ถ้าปุโรหิตมาทำการตรวจเห็นว่า เมื่อโบกปูนใหม่แล้ว โรคนั้นมิได้ลามไปในเรือน ปุโรหิตก็จะประกาศว่าเรือนนั้นสะอาด เพราะโรคหายแล้ว และเพื่อจะชำระเรือนนั้น ให้เจ้าของเรือนนำนกเล็กๆสองตัว กับไม้สนสีดาร์ ด้ายสีแดง และต้นหุสบ ให้ฆ่านกตัวหนึ่งในภาชนะดินข้างบนน้ำที่ไหล เอาไม้สนสีดาร์ ต้นหุสบ และด้ายสีแดง พร้อมกับนกตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ จุ่มลงในเลือดนกที่ได้ฆ่าข้างบนน้ำที่ไหลนั้น แล้วประพรมเรือนนั้นเจ็ดครั้ง ดังนี้เขาจะได้ชำระเรือนด้วยเลือดนก ด้วยน้ำไหลและด้วยนกที่มีชีวิต ด้วยไม้สนสีดาร์ ต้นหุสบ และด้ายสีแดง ให้เขาปล่อยนกที่มีชีวิตออกไปจากเมืองยังพื้นทุ่ง ดังนี้แหละ เขาจะได้ทำการลบมลทินของเรือน และเรือนนั้นก็สะอาด>> นี่เป็นกฎเกี่ยวกับเรื้อนต่างๆ โรคคัน โรคเรื้อนในเครื่องแต่งกายหรือในเรือน ที่บวมหรือพุ หรือที่ด่าง เพื่อจะแสดงว่าเมื่อไรจึงเรียกว่ามลทิน เมื่อไรเรียกว่าสะอาด นี่เป็นกฎเรื่องโรคเรื้อน

เลวีนิติ 14:8-57 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แล้ว​คน​ที่​ได้รับ​การ​ประกาศ​ให้​เป็น​คน​บริสุทธิ์​แล้ว ต้อง​เอา​เสื้อ​ของเขา​ไป​ซักล้าง โกนผม​ให้​เกลี้ยง​และ​อาบน้ำ แล้ว​เขา​จะ​กลาย​เป็น​คน​บริสุทธิ์ หลัง​จากนั้น​เขา​จะ​ได้รับ​อนุญาต​ให้​เข้ามา​ใน​ค่าย​ได้ แต่​ต้อง​อยู่​นอก​เต็นท์​เป็น​เวลา​เจ็ดวัน ใน​วัน​ที่เจ็ด​เขา​ต้อง​โกน​ผม โกน​หนวด​และ​ขนคิ้ว​ออก​ให้หมด และ​ต้อง​ซัก​เสื้อผ้า​ใหม่ และ​อาบน้ำ​ชำระ​ร่างกาย แล้ว​เขา​จะ​เป็น​คน​บริสุทธิ์ ใน​วัน​ที่​แปด คนๆนั้น​ต้อง​เอา​ลูกแกะ​ตัวผู้​สองตัว​ที่​ไม่มี​ตำหนิ และ​ลูกแกะ​ตัวเมีย​อายุ​หนึ่งปี​ที่​ไม่มี​ตำหนิ​มา​ตัวหนึ่ง แป้งสาลี​อย่างดี​ประมาณ​หกลิตร​ครึ่ง​ผสม​กับ​น้ำมัน​สำหรับ​เป็น​เครื่อง​บูชา​จาก​เมล็ดพืช​และ​น้ำมัน​มะกอก​ประมาณ​หนึ่ง​ใน​สามลิตร นักบวช​ที่​จะ​ทำ​พิธี​ชำระ​ล้าง ต้อง​นำ​คน​ที่​จะ​ได้รับ​การ​ชำระ​ให้​บริสุทธิ์ พร้อม​กับ​เครื่อง​บูชา​เหล่านี้ มา​อยู่​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ ตรง​ทางเข้า​เต็นท์​นัดพบ แล้ว​นักบวช​ต้อง​เอา​ลูกแกะ​ตัวผู้​มา​ตัวหนึ่ง ถวาย​เป็น​ของถวาย​ชดใช้ และ​นำ​น้ำมัน​มะกอก​ประมาณ​หนึ่ง​ใน​สาม​ลิตร มา​ยกขึ้น​ให้​เป็น​เครื่อง​ยื่น​บูชา​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ เขา​ต้อง​ฆ่า​ลูกแกะ​ตัวนั้น​ใน​บริเวณ​พื้นที่​ที่​ศักดิ์สิทธิ์ ที่​ใช้​สำหรับ​ฆ่า​เครื่อง​บูชา​ชำระ​ล้าง​และ​เครื่อง​เผา​บูชา เพราะ​ของถวาย​ชดใช้​นี้​เป็น​เหมือน​เครื่อง​บูชา​ชำระ​ล้าง มัน​จะ​เป็น​ของ​นักบวช เป็น​สิ่ง​ที่​ศักดิ์สิทธิ์​ที่สุด นักบวช​จะ​เอา​เลือด​ส่วน​หนึ่ง​จาก​ของถวาย​ชดใช้ มา​แต้ม​ที่​ติ่งหู​ข้าง​ขวา พร้อม​กับ​หัวแม่มือ​กับ​หัวแม่เท้า​ข้างขวา​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง นักบวช​จะ​แบ่ง​น้ำมัน​มะกอก​ที่​มี​อยู่​ประมาณ​หนึ่ง​ใน​สาม​ลิตร​นั้น แล้ว​เท​ใส่​ฝ่ามือ​ซ้าย​ของ​ตัว​เขาเอง แล้ว​นักบวช​จะ​เอา​นิ้ว​ข้าง​ขวา​ของเขา​จุ่ม​ลง​ใน​น้ำมัน​ที่​อยู่​บน​ฝ่ามือ​ซ้าย​ของเขา แล้ว​เอา​ไป​พรม​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์​เจ็ดครั้ง น้ำมัน​ที่เหลือ​บน​ฝ่ามือ​นักบวช เขา​ก็​จะ​เอา​ไป​แต้ม​ที่​ติ่งหู​ด้าน​ขวา นิ้ว​หัวแม่มือ​ด้าน​ขวา และ​นิ้ว​หัวแม่เท้า​ข้าง​ขวา​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง โดย​แต้ม​ทับ​รอย​เลือด​จาก​ของถวาย​ชดใช้​ที่​แต้ม​ไว้​ก่อน​หน้านี้​แล้ว น้ำมัน​ที่เหลือ​ทั้งหมด​บน​ฝ่ามือ​ของ​นักบวช เขา​ก็​จะ​เอา​ไป​ลูบ​บน​หัว​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง ด้วย​วิธีนี้​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ นักบวช​จะ​กำจัด​บาปหนึ่ง​บาปใด​แทน​คนๆนั้น​ที่​เขา​ได้​ทำไป​ต่อ​พวก​ของศักดิ์สิทธิ์ แล้ว​นักบวช​จะ​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ชำระ​ล้าง เพื่อ​ชำระ​สถานที่​ศักดิ์สิทธิ์​แทน​คนๆนั้น​ที่​กำลัง​ได้รับ​การชำระ​จาก​ความ​ไม่บริสุทธิ์​ของเขา หลังจากนั้น นักบวช​ก็​จะ​ฆ่า​เครื่อง​เผา​บูชา แล้ว​นักบวช​ก็​จะ​ถวาย​เครื่อง​เผา​บูชา และ​เครื่อง​บูชา​จาก​เมล็ดพืช​บน​แท่นบูชา และ​ด้วย​วิธีนี้​นักบวช​จะ​ทำให้​เกิด​การคืนดี​ขึ้น​สำหรับ​คนนั้น และ​คนนั้น​ก็​จะ​บริสุทธิ์ แต่​ถ้า​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง​นั้น​ยากจน ไม่​สามารถ​หา​ของถวาย​พวกนั้น​มาได้ ก็​ให้​เขา​เอา​ลูกแกะ​มา​ตัวหนึ่ง เป็น​ของถวาย​ชดใช้ มัน​จะ​เป็น​เครื่อง​ยื่น​บูชา​สำหรับเขา เพื่อ​กำจัด​บาปหนึ่ง​บาปใด​ที่​เขา​ทำ​ต่อ​พวก​ของศักดิ์สิทธิ์ เขา​ต้อง​เอา​แป้ง​อย่างดี​มา​ประมาณ​สองลิตร ผสม​น้ำมัน เป็น​เครื่อง​บูชา​จาก​เมล็ดพืช พร้อมกับ​น้ำมันมะกอก​ประมาณ​หนึ่ง​ใน​สามลิตร และ​เอา​นกเขา​สองตัว​หรือ​นกพิราบ​สองตัว อย่างใด​อย่างหนึ่ง​ที่​เขา​สามารถ​ให้ได้ ตัวหนึ่ง​ใช้​เป็น​เครื่อง​บูชา​ชำระ​ล้าง อีกตัว​ใช้​เป็น​เครื่อง​เผา​บูชา คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง ต้อง​นำ​เครื่อง​บูชา​เหล่านี้​มา​ให้​นักบวช​ใน​วัน​ที่แปด เพื่อ​นักบวช​จะ​ทำ​พิธี​ชำระ​ล้าง​ให้​กับเขา ตรง​ทางเข้า​เต็นท์​นัดพบ​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ แล้ว​นักบวช​จะ​เอา​ลูกแกะ​มา​เป็น​ของถวาย​ชดใช้ พร้อม​กับ​น้ำมัน​มะกอก​ประมาณ​หนึ่ง​ใน​สาม​ลิตร และ​นักบวช​จะ​ถวาย​พวกมัน​เป็น​เครื่อง​ยื่น​บูชา​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ แล้ว​นักบวช​ก็​จะ​ฆ่า​ลูกแกะ​ที่​เป็น​ของถวาย​ชดใช้​ตัวนั้น นักบวช​จะ​เอา​เลือด​ส่วนหนึ่ง​ของมัน มา​แต้ม​ที่​ติ่งหู​ข้าง​ขวา หัวแม่มือ​ข้าง​ขวา และ​หัวแม่เท้า​ข้าง​ขวา​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง จากนั้น​นักบวช​จะ​เท​น้ำมัน​ส่วนหนึ่ง​ใส่​ฝ่ามือ​ซ้าย​ของ​ตนเอง แล้ว​ใช้​นิ้ว​มือ​ข้าง​ขวา​จุ่ม​น้ำมัน​ที่​อยู่​ใน​ฝ่ามือ​ซ้าย​ของเขา แล้ว​เอา​ไป​พรม​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์​เจ็ด​ครั้ง แล้ว​นักบวช​จะ​เอา​น้ำมัน​ส่วน​หนึ่ง​จาก​ฝ่ามือ ไป​แต้ม​ที่​ติ่งหู​ข้าง​ขวา หัวแม่มือ​ข้าง​ขวา​และ​หัวแม่เท้า​ข้าง​ขวา​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง โดย​แต้ม​ทับ​ไป​บน​รอย​เลือด​ที่​มา​จาก​ของถวาย​ชดใช้ ที่​แต้ม​อยู่​ก่อน​แล้ว น้ำมัน​ที่​เหลือ​บน​ฝ่ามือ​ของ​นักบวช เขา​จะ​เอา​ไป​ลูบ​บน​หัว​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ล้าง เพื่อ​กำจัด​บาปหนึ่ง​บาปใด​ที่​เขา​ทำ​ต่อ​พวก​ของ​ศักดิ์สิทธิ์​แทน​เขา​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ จากนั้น​นักบวช​จะ​ถวาย​นกเขา​สองตัว​หรือ​นก​พิราบ​สองตัว อย่างใด​อย่างหนึ่ง ตาม​ที่​คนนั้น​สามารถ​ให้ได้ ตัวหนึ่ง​ใช้​เป็น​เครื่อง​บูชา​ชำระ​ล้าง อีก​ตัวหนึ่ง​ใช้​เป็น​เครื่อง​เผา​บูชา พร้อมๆ​กับ​เครื่อง​บูชา​จาก​เมล็ดพืช ด้วย​วิธีนี้ ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ นักบวช​จะ​ทำ​ให้​เกิด​การ​คืนดี​กัน​ขึ้น​เพื่อ​เขา​คนนั้น​ที่​กำลัง​ได้รับ​การ​ชำระ​ล้าง นั่น​คือ​กฎ​สำหรับ​คน​ที่​เป็น​โรค​ผิวหนัง​ร้ายแรง ที่​ไม่​สามารถ​หา​เครื่อง​บูชา​ที่​ใช้​กัน​ตาม​ปกติ​สำหรับ​พิธีการ​ชำระ​ล้าง​ของเขา” พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โมเสส​และ​อาโรน​ว่า “เมื่อ​พวกเจ้า​เข้า​สู่​แผ่นดิน​คานาอัน​ที่​เรา​กำลัง​ให้​เป็น​สมบัติ​ของเจ้า และ​เรา​ได้​ทำให้​เกิด​เชื้อรา ใน​บ้าน​เรือน บน​แผ่นดิน​ที่​เจ้า​เป็น​เจ้าของ​นั้น เจ้าของ​บ้าน​หลังนั้น​ต้อง​ไป​บอก​นักบวช​ว่า ‘ผม​พบ​สิ่ง​ที่​ดู​เหมือน​เชื้อรา​ใน​บ้าน​ของผม’ นักบวช​ต้อง​สั่ง​พวกเขา​ให้​ขนของ​ออก​จากบ้าน​ให้​หมด ก่อน​ที่​นักบวช​จะ​ไป​ตรวจ​ดู​เชื้อรา​นั้น ไม่​อย่างนั้น ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ใน​บ้าน​หลังนั้น​จะ​ไม่​บริสุทธิ์ แล้ว​นักบวช​จะ​มา​ตรวจดู​บ้าน​หลังนั้น เขา​จะ​ตรวจสอบ​ดู​เชื้อรา​นั้น ถ้า​เชื้อรา​บน​กำแพง​บ้าน​เป็น​จุด​สีแดง​หรือ​สีเขียว​และ​ดู​เหมือน​มัน​ฝังลึก​ลง​ใน​กำแพง นักบวช​ต้อง​ออก​มา​ยืน​ที่​ทางเข้า​บ้าน​หลังนั้น​และ​ปิด​บ้าน​หลังนั้น​ไว้​เป็น​เวลา​เจ็ดวัน ใน​วัน​ที่เจ็ด นักบวช​ต้อง​กลับ​ไป​ตรวจ​ดู​บ้าน​หลังนั้น​ใหม่ ถ้า​เชื้อรา​บน​กำแพง​กระจาย​ออกไป นักบวช​ต้อง​ออก​คำสั่ง​ให้​คน​กะเทาะ​หิน​ส่วน​ที่​เป็น​เชื้อรา​นั้น​ออก​มา​และ​ขว้าง​ทิ้งไป​ที่​นอก​เมือง​ใน​สถานที่​ไม่​บริสุทธิ์ แล้ว​นักบวช​ต้อง​สั่ง​ให้​พวกเขา​ขัดถู​ภายใน​บ้าน​ให้​ทั่ว​และ​นำ​ผงปูน ที่​เขา​ขัด​ออกมา​นั้น ไป​เท​ทิ้ง​นอก​เมือง​ใน​สถานที่​ไม่​บริสุทธิ์ แล้ว​หา​หิน​ก้อน​ใหม่​มา​วาง​แทน​หิน​ก้อน​เดิม และ​ฉาบ​ปูน​ทับ​หิน​ก้อน​ใหม่​และ​ทั้งบ้าน ถ้า​เชื้อรา​กลับ​มา​อีก​และ​กระจาย​ไป​ทั่ว​บ้าน​หลัง​จาก​หิน​ที่​เป็น​เชื้อรา​ถูก​กะเทาะ​ออก​และ​บ้าน​ก็​ถูก​ขัดถู​และ​ฉาบ​ปูน​ใหม่​แล้ว นักบวช​ต้อง​มา​ตรวจ​สอบ​ดู​อีก ถ้า​รา​กระจาย​ใน​บ้าน มัน​จะ​ทำลาย​ข้าวของ​ใน​บ้าน บ้าน​ก็​จะ​ไม่​บริสุทธิ์ บ้าน​หลังนั้น​ต้อง​ถูก​รื้อทิ้ง​ทั้ง​ส่วน​ที่​เป็น​หิน ไม้​และ​ปูน​ที่​ฉาบ​ทั้งหมด และ​นำ​ไป​ทิ้ง​นอก​เมือง​ใน​สถานที่​ไม่​บริสุทธิ์ ใคร​ที่​เข้าไป​ใน​บ้าน​ใน​ช่วง​ที่​ถูก​ปิด​อยู่ จะ​กลาย​เป็น​คน​ไม่​บริสุทธิ์​ไป​จนถึง​เย็น ใคร​ที่​เข้าไป​นอน​หรือ​ไป​กิน​ใน​บ้าน​หลังนั้น​ต้อง​เอา​เสื้อ​ที่​ใส่​ไป​ซัก แต่​ถ้า​นักบวช​มา​ตรวจสอบ​บ้าน​หลังนั้น และ​เห็น​ว่า​รา​ไม่ได้​แพร่​กระจาย​ไป​ใน​บ้าน หลัง​จาก​ที่​ได้​ฉาบ​ปูน​บ้าน​หลังนั้น​แล้ว นักบวช​จะ​ประกาศ​ว่า​บ้าน​หลังนั้น​บริสุทธิ์ เพราะ​เชื้อรา​หาย​ไป​แล้ว การ​ทำ​พิธี​ชำระ​ล้าง​ให้​บ้าน นักบวช​ต้อง​ใช้​นก​สองตัว ไม้สน เชือก​สีแดง​และ​กิ่งหุสบ เขา​ต้อง​ฆ่า​นก​ตัวหนึ่ง​ใน​ชาม​ดินเผา​ที่​อยู่​เหนือ​น้ำ​ที่​ไหล​อยู่ เขา​ต้อง​นำ​ไม้สน กิ่งหุสบ เชือก​แดง​และ​นก​ตัว​ที่​ยัง​มีชีวิต เอา​ทั้งหมด​นี้​จุ่ม​ลง​ใน​เลือด​ของ​นก​ตัว​ที่​ถูก​ฆ่า และ​ใน​น้ำ​ที่​ไหล​นั้น แล้ว​เอา​ไป​พรม​บ้านนั้น​เจ็ด​ครั้ง ด้วย​วิธีนี้ นักบวช​จะ​ทำ​ให้​บ้าน​นั้น​บริสุทธิ์​ด้วย​เลือด​นก ด้วย​น้ำ​ที่​ไหล และ​ด้วย​นก​เป็นๆ​ตัวนั้น ไม้สน กิ่งหุสบ และ​เชือก​แดง แล้ว​นักบวช​ก็​จะ​ปล่อย​นก​เป็นๆ​ตัวนั้น นอก​เมือง​ใน​ท้องทุ่ง ด้วย​วิธีนี้ นักบวช​จะ​ชำระ​ล้าง​บ้านนั้น แล้ว​มัน​ก็​จะ​บริสุทธิ์ นี่​จะ​เป็น​กฎ​สำหรับ​โรค​ผิวหนัง​ร้ายแรง​ทุกชนิด สำหรับ​ขี้กราก สำหรับ​เชื้อรา​บน​ผ้า​หรือ​ใน​บ้าน สำหรับ​แผล​บวม​อักเสบ แผล​ตก​สะเก็ด หรือ​ตุ่ม​น้ำใส​บน​ผิวหนัง กฎ​เหล่านี้ สอน​ให้​รู้​ว่า อะไร​บริสุทธิ์​และ​อะไร​ไม่​บริสุทธิ์ กฎ​พวกนี้​เกี่ยวกับ​โรค​ผิวหนัง​และ​เชื้อรา”

เลวีนิติ 14:8-57 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ให้ผู้ที่รับการชำระนั้นซักเสื้อผ้าของตน โกนผมกับขนทั้งหมดเสีย และอาบน้ำ เขาก็จะสะอาด ต่อจากนั้นก็ให้เขาเข้าค่ายได้ แต่ให้นอนอยู่นอกเต็นท์ของเขาเจ็ดวัน พอวันที่เจ็ดให้เขาโกนผมทั้งหมดจากศีรษะของเขา ให้เขาโกนเคราและโกนขนคิ้ว คือโกนให้หมด แล้วให้ซักเสื้อผ้า และอาบน้ำ แล้วเขาก็จะสะอาด “ในวันที่แปดให้เขาเอาลูกแกะผู้สองตัวปราศจากตำหนิ และลูกแกะเมียอายุหนึ่งปีตัวหนึ่งปราศจากตำหนิ และแป้งอย่างดีเคล้าน้ำมันสามกิโลกรัมเป็นธัญบูชา กับน้ำมันหนึ่งในสามลิตร ให้ปุโรหิตผู้ชำระ นำผู้รับการชำระกับสิ่งของเหล่านี้เข้ามาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ที่ประตูเต็นท์นัดพบ ให้ปุโรหิตนำลูกแกะผู้นั้นตัวหนึ่งไปถวายเป็นเครื่องบูชาชดใช้บาปพร้อมกับน้ำมันหนึ่งในสามลิตร นำโบกถวายเป็นเครื่องโบกถวายแด่พระยาห์เวห์ ให้ปุโรหิตฆ่าลูกแกะนั้นในที่ซึ่งเขาฆ่าสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปและสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัวในที่บริสุทธิ์ เพราะว่าเครื่องบูชาชดใช้บาปก็เหมือนเครื่องบูชาลบล้างบาป เป็นของที่ตกแก่ปุโรหิต เป็นของบริสุทธิ์ที่สุด ปุโรหิตจะนำเลือดของเครื่องบูชาชดใช้บาปมาเจิมปลายหูข้างขวาของผู้รับการชำระ และเจิมนิ้วหัวแม่มือขวาและนิ้วหัวแม่เท้าขวาของเขา และปุโรหิตจะนำส่วนหนึ่งของน้ำมันหนึ่งในสามลิตรนั้นมาเทใส่ฝ่ามือซ้ายของตนเอง และปุโรหิตเอานิ้วมือขวาจิ้มน้ำมันซึ่งอยู่ในมือซ้าย ประพรมน้ำมันด้วยนิ้วของตนเจ็ดครั้งเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ส่วนหนึ่งของน้ำมันที่เหลืออยู่ในมือนั้น ปุโรหิตจะเอามาเจิมที่ปลายหูข้างขวาของผู้รับการชำระ และที่นิ้วหัวแม่มือขวากับนิ้วหัวแม่เท้าขวาทับเลือดเครื่องบูชาชดใช้บาป และน้ำมันที่ยังเหลืออยู่ในมือของปุโรหิตนั้น เขาจะเจิมศีรษะของผู้รับการชำระ แล้วปุโรหิตจะลบมลทินของเขาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชาลบล้างบาปเพื่อลบมลทินของผู้รับการชำระให้พ้นจากมลทินของเขา ภายหลังปุโรหิตจึงฆ่าสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว และปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวและธัญบูชาบนแท่น ด้วยวิธีนี้ปุโรหิตจะลบมลทินของเขา และเขาก็จะสะอาด “ถ้าผู้นั้นเป็นคนยากจนและไม่สามารถถวายได้ตามนั้น ก็ให้เขานำลูกแกะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาชดใช้บาป เพื่อโบกถวายลบมลทินของเขา และนำแป้งอย่างดีหนึ่งกิโลกรัมเคล้าเข้ากับน้ำมัน เป็นธัญบูชากับน้ำมันหนึ่งในสามลิตร พร้อมกับนกเขาสองตัว หรือนกพิราบสองตัว ตามที่เขาสามารถหามาได้ ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว ในวันที่แปด ให้เขานำมามอบให้แก่ปุโรหิตเพื่อการชำระของตนที่ประตูเต็นท์นัดพบ ถวายเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ปุโรหิตจะนำลูกแกะที่เป็นเครื่องบูชาชดใช้บาปและน้ำมันหนึ่งในสามลิตรนั้นมา และโบกถวายเป็นเครื่องโบกถวายแด่พระยาห์เวห์ และปุโรหิตจะฆ่าลูกแกะที่เป็นเครื่องบูชาชดใช้บาป และปุโรหิตจะนำเลือดส่วนหนึ่งของเครื่องบูชาชดใช้บาปมาเจิมที่ปลายหูข้างขวาของผู้รับการชำระ และที่นิ้วหัวแม่มือขวากับนิ้วหัวแม่เท้าขวาของเขา แล้วปุโรหิตจะเทส่วนหนึ่งของน้ำมันใส่ฝ่ามือซ้ายของตน และปุโรหิตจะเอาน้ำมันที่อยู่ในมือซ้ายนั้นประพรมด้วยนิ้วมือขวาเจ็ดครั้งเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ และปุโรหิตจะนำน้ำมันที่อยู่ในมือเจิมปลายหูข้างขวาของผู้รับการชำระ และหัวแม่มือขวากับหัวแม่เท้าขวาของเขา ตรงที่เจิมด้วยเลือดของเครื่องบูชาชดใช้บาป น้ำมันที่เหลืออยู่ในมือของปุโรหิตนั้น เขาจะเจิมศีรษะของผู้รับการชำระ เพื่อลบมลทินของเขาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ และเขาจะถวายนกเขาหรือนกพิราบตามที่เขาสามารถหามาได้ ถวายนกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป นกอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัวพร้อมกับธัญบูชา แล้วปุโรหิตจะลบมลทินของผู้รับการชำระเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ นี่เป็นกฎสำหรับผู้เป็นโรคเรื้อนที่ไม่สามารถถวายเครื่องบูชาตามปกติเพื่อการชำระของตนได้” พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “เมื่อเจ้าเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน ซึ่งเราให้แก่เจ้าเป็นกรรมสิทธิ์นั้น และเราจะใส่เชื้อเรื้อนเข้าที่บ้านหลังหนึ่งหลังใดในแผ่นดินที่เจ้าถือกรรมสิทธิ์นั้น ให้ผู้ที่ถือกรรมสิทธิ์ของบ้านนั้นมาบอกแก่ปุโรหิตว่า ‘ข้าพเจ้าเห็นเชื้ออะไรอย่างหนึ่งเกิดในบ้านของข้าพเจ้า’ แล้วปุโรหิตจะบัญชาให้เขาขนของออกจากบ้านให้หมด ก่อนที่ปุโรหิตจะไปตรวจเชื้อ เกรงว่าของทุกอย่างที่อยู่ในบ้านนั้นจะถูกประกาศว่า มลทิน ต่อจากนั้นปุโรหิตจึงจะเข้าไปตรวจดูบ้าน และปุโรหิตจะตรวจดูเชื้อ ถ้าเชื้อนั้นอยู่ที่ผนังบ้านเป็นรอยสีเขียวๆ แดงๆ และปรากฏลึกกว่าผิวผนัง ปุโรหิตจะออกจากบ้านไปอยู่ที่ประตูบ้าน แล้วปิดบ้านเสียเจ็ดวัน พอถึงวันที่เจ็ดปุโรหิตจะกลับมาตรวจดูอีก ถ้าเชื้อนั้นลามไปในผนังบ้าน ปุโรหิตก็จะบัญชาให้เอาหินก้อนที่ติดเชื้อนั้นออกเสีย นำไปโยนทิ้งในที่ที่เป็นมลทินภายนอกเมือง และสั่งให้ขูดข้างในบ้านทั่วๆ ไป ผงปูนที่ขูดออกมานั้นให้นำไปทิ้งเสียในที่ที่เป็นมลทินภายนอกเมือง แล้วให้หาหินอื่นมาแทนหินก้อนที่นำออกไป และเอาปูนอื่นมาโบกผนังบ้านนั้น “ถ้าหลังจากเขาเอาหินออก ขูดบ้านและโบกปูนใหม่แล้ว ยังเกิดเชื้อขึ้นในบ้านนั้นอีก ปุโรหิตจะไปตรวจดู หากเขาเห็นว่าเชื้อยังลามไปในบ้านอีก เชื้อนั้นเป็นเชื้อเรื้อนอย่างร้ายแรง บ้านนั้นก็เป็นมลทิน ให้เขาพังบ้านนั้นลง ส่วนหิน ไม้ และปูนที่ทำบ้านนั้นให้ขนไปทิ้งเสีย ในที่ที่เป็นมลทินภายนอกเมือง ยิ่งกว่านั้นอีก ผู้ใดที่เข้าไปในขณะที่บ้านปิดอยู่ ผู้นั้นจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น ผู้ที่นอนลงในบ้านนั้น ต้องซักเสื้อผ้าของเขา และผู้ที่รับประทานในบ้านนั้น ต้องซักเสื้อผ้าของเขาด้วย “แต่ถ้าปุโรหิตมาตรวจ และเห็นว่า เมื่อโบกปูนใหม่แล้ว เชื้อนั้นไม่ได้ลามไปในบ้าน ปุโรหิตก็จะประกาศว่าบ้านนั้นสะอาด เพราะไม่มีเชื้อแล้ว และเพื่อจะชำระบ้านนั้น ให้เขานำนกสองตัว กับไม้สนสีดาร์ ด้ายสีแดง และต้นหุสบมา ให้ฆ่านกตัวหนึ่งบนน้ำสะอาดในภาชนะดิน เอาไม้สนสีดาร์ ต้นหุสบ และด้ายสีแดง พร้อมกับนกตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ จุ่มลงในเลือดของนกที่ถูกฆ่าบนน้ำสะอาดนั้น แล้วประพรมบ้านนั้นเจ็ดครั้ง โดยวิธีนี้เขาจะได้ชำระบ้านด้วยเลือดนก ด้วยน้ำสะอาดและด้วยนกที่มีชีวิต ด้วยไม้สนสีดาร์ ต้นหุสบ และด้ายสีแดง ให้เขาปล่อยนกที่มีชีวิตออกจากเมืองไปยังท้องทุ่ง โดยวิธีนี้แหละ เขาจะได้ลบมลทินของบ้าน และบ้านนั้นก็สะอาด” นี่เป็นกฎเกี่ยวกับโรคเรื้อนต่างๆ ผื่นคัน เชื้อเรื้อนในเครื่องแต่งกายหรือในบ้าน อาการที่บวม หรือแผลพุพอง หรือที่ด่าง เพื่อจะแสดงว่าเมื่อไรจึงเรียกว่ามลทิน เมื่อไรเรียกว่าสะอาด นี่เป็นกฎว่าด้วยโรคเรื้อน

เลวีนิติ 14:8-57 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

และให้​ผู้​ที่​รับการชำระนั้นซักเสื้อผ้าของตน และให้โกนผมกับขนทั้งหมดเสีย และอาบน้ำ เขาก็จะสะอาด ต่อจากนั้​นก​็​ให้​เขาเข้าค่ายได้ แต่​ให้​นอนอยู่นอกเต็นท์ของเขาเจ็ดวัน พอวั​นที​่​เจ​็ดให้เขาโกนผมจากศีรษะของเขาให้​หมด ให้​เขาโกนเคราและโกนขนคิ้ว คือโกนให้​หมด แล​้วให้ซักเสื้อผ้า และอาบน้ำ เขาก็จะสะอาด ในวั​นที​่แปดให้เขาเอาลูกแกะผู้สองตัวปราศจากตำหนิ และลูกแกะเมียอายุ​หน​ึ่งขวบตัวหนึ่งปราศจากตำหนิ และยอดแป้งคลุกน้ำมันสามในสิบเอฟาห์เป็นธัญญบู​ชา กั​บน​้ำมันลกหนึ่ง ให้​ปุ​โรหิตผู้ทำการชำระ นำผู้​ที่​รับการชำระกับสิ่งของเหล่านี้มาต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์​ที่​ประตู​พล​ับพลาแห่งชุ​มนุ​ม ให้​ปุ​โรหิตนำลูกแกะผู้นั้นตัวหนึ่งไปถวายเป็นเครื่องบูชาไถ่การละเมิดพร้อมกั​บน​้ำมันลกหนึ่ง ให้​แกว​่งไปแกว่งมาเป็นเครื่องบูชาแกว่งถวายต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ให้​ปุ​โรหิตฆ่าลูกแกะนั้นในที่​ที่​เขาฆ่าสัตว์อันเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปและสัตว์อันเป็นเครื่องเผาบูชาในที่​บริสุทธิ์ เพราะว่าเครื่องบูชาไถ่การละเมิ​ดก​็เหมือนเครื่องบูชาไถ่​บาป เป็นของที่ตกแก่​ปุ​โรหิต เป็นของบริ​สุทธิ​์​ที่สุด ปุ​โรหิตจะนำเลือดของเครื่องบูชาไถ่การละเมิดมาบ้าง และปุโรหิตจะเจิ​มท​ี่ปลายหูข้างขวาของผู้​ที่​รับการชำระ และเจิ​มท​ี่นิ้วหัวแม่มือขวาและที่นิ้วหัวแม่​เท​้าขวาของเขา และปุโรหิตจะนำน้ำมันหนึ่งลกนั้นมาบ้าง เทใส่ฝ่ามือซ้ายของตน และเอานิ้วมือขวาจิ้​มน​้ำมันซึ่งอยู่ในมือซ้าย ประพรมน้ำมันด้วยนิ้วของเขาเจ็ดครั้งต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ส่วนน้ำมั​นที​่​เหลืออยู่​ในมือนั้น ปุ​โรหิตจะเอามาบ้าง เจ​ิ​มท​ี่ปลายหูขวาของผู้​ที่​รับการชำระ และที่นิ้วหัวแม่มือขวาและที่นิ้วหัวแม่​เท​้าขวา ทับบนเลือดเครื่องบูชาไถ่การละเมิด ส่วนน้ำมั​นที​่ยังเหลืออยู่ในมือของปุโรหิ​ตน​ั้น เขาจะเจิมศีรษะของผู้รับการชำระ แล​้วปุโรหิตจะทำการลบมลทินของเขาต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ปุ​โรหิตจะถวายเครื่องบูชาไถ่​บาป เพื่อทำการลบมลทินของผู้รับการชำระให้พ้นจากมลทินของเขา ภายหลังปุโรหิตจะฆ่าสัตว์อันเป็นเครื่องเผาบู​ชา และปุโรหิตจะถวายเครื่องเผาบูชาและธัญญบูชาบนแท่น ปุ​โรหิตจะทำการลบมลทินของเขาดังนี้ และเขาก็จะสะอาดได้ ถ้าผู้นั้นเป็นคนยากจนและไม่สามารถจะหามาได้​เท่านั้น ก็​ให้​เขานำลูกแกะตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่การละเมิดเพื่อแกว่งไปแกว่งมา กระทำการลบมลทินของเขา และนำยอดแป้งหนึ่งในสิบเอฟาห์คลุ​กก​ั​บน​้ำมัน เป็นธัญญบูชากั​บน​้ำมันลกหนึ่ง พร​้อมกับนกเขาสองตัว หรือนกพิราบหนุ่มสองตัว ตามที่​เขาสามารถหามาได้ นกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่​บาป นกอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบู​ชา ในวั​นที​่แปดให้เขานำมามอบให้​แก่​ปุ​โรหิตเพื่อการชำระของตนที่​ประตู​พล​ับพลาแห่งชุ​มนุ​มถวายต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ และปุโรหิตจะนำลูกแกะที่เป็นเครื่องบูชาไถ่การละเมิดและน้ำมันลกหนึ่งนั้น และปุโรหิตจะแกว่งไปแกว่งมาเป็นเครื่องบูชาแกว่งถวายต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ และเขาจะฆ่าลูกแกะเครื่องบูชาไถ่การละเมิด และปุโรหิตจะเอาเลือดของเครื่องบูชาไถ่การละเมิดมาบ้าง เจ​ิ​มท​ี่ปลายหูข้างขวาของผู้รับการชำระ และที่นิ้วหัวแม่​มือขวา กั​บท​ี่นิ้วหัวแม่​เท​้าขวาของเขา แล​้วปุโรหิตจะเทน้ำมันใส่ฝ่ามือซ้ายของตนบ้าง และเอาน้ำมั​นที​่​อยู่​ในมือซ้ายนั้นประพรมด้วยนิ้วมือขวาเจ็ดครั้งต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ และปุโรหิตจะเอาน้ำมั​นที​่​อยู่​ในมือเจิ​มท​ี่ปลายหูข้างขวาของผู้รับการชำระ และที่หัวแม่มือขวากับหัวแม่​เท​้าขวาของเขา ตรงที่​ที่​เจ​ิ​มด​้วยเลือดของเครื่องบูชาไถ่การละเมิด น้ำมั​นที​่​เหลืออยู่​ในมือของปุโรหิ​ตน​ั้น เขาจะเจิมศีรษะของผู้​ที่​รับการชำระ ทำการลบมลทินของเขาต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ และเขาจะถวายนกเขาหรือนกพิราบหนุ่มตัวหนึ่งตามที่เขาสามารถหามาได้ คือตามที่เขาสามารถหามาได้​ให้​ถวายนกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่​บาป นกอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบู​ชา พร​้อมกับธัญญบู​ชา และปุโรหิตจะทำการลบมลทินของผู้รับการชำระต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ นี่​เป็นพระราชบัญญั​ติ​สำหรับผู้​ที่​เป็นโรคเรื้อนไม่สามารถหาเครื่องบูชาเพื่อการชำระของตนได้” พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “เมื่อเจ้าเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน ซึ่งเราให้​แก่​เจ้​าเป็นกรรมสิทธิ์​นั้น และเราจะใส่โรคเรื้อนเข้าที่เรือนหลังหนึ่งหลังใดในแผ่นดิ​นที​่​เจ้​าถือกรรมสิทธิ์​นั้น ผู้​ใดที่ถือกรรมสิทธิ์ของเรือนนั้นจะต้องมาบอกแก่​ปุ​โรหิตว่า ‘ข้าพเจ้าเห็นโรคอะไรอย่างหนึ่งเกิดในเรือนของข้าพเจ้า’ แล​้วปุโรหิตจะบัญชาให้เขาขนของออกจากเรือนให้​หมด ก่อนที่​ปุ​โรหิตจะเข้าไปตรวจโรค เกรงว่าของทุกอย่างที่​อยู่​ในเรือนนั้นจะถูกประกาศว่า มลทิน ต่อจากนั้นปุโรหิตจึงจะเข้าไปตรวจดู​เรือน และปุโรหิตจะตรวจดู​โรค ดู​เถิด ถ้าโรคนั้นอยู่​ที่​ผนังของเรือนเป็นรอยสี​เข​ียวๆแดงๆและปรากฏว่าอยู่ลึกกว่าผิว แล​้วปุโรหิตจะออกจากเรือนไปอยู่​ที่​ประตู​เรือนแล้วปิดเรือนเสียเจ็ดวัน พอถึงวั​นที​่​เจ​็ดปุโรหิตจะกลับมาตรวจดู​อีก ดู​เถิด ถ้าโรคนั้นลามไปในผนังเรือน แล​้วปุโรหิตจะบัญชาให้เอาหิ​นก​้อนที่​ติ​ดโรคนั้นออกเสียนำไปโยนทิ้งในที่มลทินภายนอกเมือง และสั่งให้ขูดข้างในเรือนทั่วๆไป ผงปู​นที​่ขูดออกมานั้นให้นำไปทิ้งเสียในที่มลทินภายนอกเมือง แล​้วให้หาหิ​นอ​ื่นมาแทนหิ​นก​้อนที่นำออกไป และเอาปู​นอ​ื่นมาโบกผนังเรือนนั้น เมื่อเขาเอาหินออก ขูดเรือนและโบกปูนใหม่​แล้ว ยังเกิดโรคขึ้นในเรือนนั้​นอ​ีก แล​้วปุโรหิตจะไปตรวจดู ดู​เถิด ถ้าโรคนั้นลามไปในเรือน เป็นโรคเรื้อนอย่างร้ายในเรือน เรือนนั้​นก​็เป็นมลทิน ให้​เขาพังเรือนนั้นลง หิน ไม้​และปู​นที​่ทำเรือนนั้นให้ขนไปทิ้งเสียในที่​ที่​มลทินภายนอกเมือง ยิ่งกว่านั้​นอ​ีกเมื่อเรือนปิ​ดอย​ู่ มี​ผู้​ใดเข้าไป ผู้​นั้นจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น ผู้​ใดที่นอนลงในเรือนนั้นต้องซักเสื้อผ้าของเขา และผู้​ที่​รับประทานในเรือนนั้นต้องซักเสื้อผ้าของเขาด้วย แต่​ปุ​โรหิตมาทำการตรวจ ดู​เถิด เมื่อโบกปูนใหม่​แล้ว โรคนั้​นม​ิ​ได้​ลามไปในเรือนแล้ว ปุ​โรหิตจะประกาศว่าเรือนนั้นสะอาด เพราะโรคหายแล้ว และเพื่อจะชำระเรือนนั้นให้เขานำนกสองตั​วก​ับไม้สนสีดาร์ ด้ายสี​แดง และต้นหุ​สบ ให้​ฆ่านกตัวหนึ่งในภาชนะดินข้างบนน้ำที่​ไหล เอาไม้สนสีดาร์ ต้นหุสบและด้ายสี​แดง พร​้อมกับนกตั​วท​ี่ยั​งม​ี​ชี​วิตอยู่​จุ​่มลงในเลือดนกที่​ได้​ฆ่าและในน้ำที่ไหลนั้น แล​้วประพรมเรือนนั้นเจ็ดครั้ง ดังนี้​เขาจะได้ชำระเรือนด้วยเลือดนก ด้วยน้ำไหลและด้วยนกที่​มีชีวิต ด้วยไม้สนสีดาร์ ต้นหุ​สบ และด้ายสี​แดง ให้​เขาปล่อยนกที่​มี​ชี​วิตออกไปจากเมืองยังท้องทุ่ง ดังนี้​แหละเขาจะได้ทำการลบมลทินของเรือน และเรือนนั้​นก​็​สะอาด​” นี่​เป็นพระราชบัญญั​ติ​เก​ี่ยวกับโรคเรื้อนต่างๆ โรคคัน โรคเรื้อนในเครื่องแต่งกายหรือในเรือน ที่​บวมหรือพุ หรือที่​ด่าง เพื่อจะแสดงว่าเมื่อไรจึงเรียกว่ามลทิน เมื่อไรเรียกว่าสะอาด นี่​เป็นพระราชบัญญั​ติ​เรื่องโรคเรื้อน

เลวีนิติ 14:8-57 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

และให้ผู้ที่รับการชำระนั้นซักเสื้อผ้าของตน และให้โกนผมกับขนทั้งหมดเสีย และอาบน้ำ เขาก็จะสะอาด ต่อจากนั้นก็ให้เขาเข้าค่ายได้ แต่ให้นอนอยู่นอกเต็นท์ของเขาเจ็ดวัน พอวันที่เจ็ดให้เขาโกนผมจากศีรษะของเขาให้หมด ให้เขาโกนเคราและโกนขนคิ้ว คือโกนให้หมด แล้วให้ซักเสื้อผ้า และอาบน้ำเขาก็จะสะอาด <<ในวันที่แปดให้เขาเอาลูกแกะผู้สองตัว ปราศจากตำหนิ และลูกแกะเมียอายุหนึ่งขวบตัวหนึ่งปราศจากตำหนิ และยอดแป้งคลุกน้ำมันสามในสิบเอฟาห์เป็นธัญญบูชา กับน้ำมันลกหนึ่ง ให้ปุโรหิตผู้ทำการชำระ นำผู้ที่รับการชำระกับสิ่งของเหล่านี้มา ต่อพระพักตร์พระเจ้าที่ประตูเต็นท์นัดพบ ให้ปุโรหิตนำลูกแกะผู้นั้นตัวหนึ่งไปถวายเป็นเครื่องบูชา ไถ่กรรมบาปพร้อมกับน้ำมันลกหนึ่ง นำยื่นถวายเป็นเครื่องยื่นถวายแด่พระเจ้า ให้ปุโรหิตฆ่าลูกแกะนั้นในที่ ที่เขาฆ่าสัตว์อันเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และสัตว์อันเป็นเครื่องเผาบูชาในที่บริสุทธิ์ เพราะว่าเครื่องบูชาไถ่กรรมบาปก็เหมือนเครื่องบูชาไถ่บาป เป็นของที่ตกแก่ปุโรหิต เป็นของบริสุทธิ์ที่สุด ปุโรหิตจะนำเลือดของเครื่องบูชาไถ่กรรมบาปมาบ้าง และปุโรหิตจะเจิมที่ปลายหูข้างขวาของผู้ที่รับการชำระ และเจิมที่นิ้วหัวแม่มือขวาและที่นิ้วหัวแม่เท้าขวาของเขา และปุโรหิตจะนำน้ำมันหนึ่งลกนั้นมาบ้าง เทใส่ฝ่ามือซ้ายของเขา และเอานิ้วมือขวาจิ้มน้ำมันซึ่งอยู่ในมือซ้าย ประพรมน้ำมันด้วยนิ้วของเขาเจ็ดครั้งต่อพระพักตร์พระเจ้า ส่วนน้ำมันที่เหลืออยู่ในมือนั้นปุโรหิตจะเอามาบ้าง เจิมที่ปลายหูขวาของผู้ที่รับการชำระ และที่นิ้วหัวแม่มือขวาและที่นิ้วหัวแม่เท้าขวา ทับบนเลือดเครื่องบูชาไถ่กรรมบาป ส่วนน้ำมันที่ยังเหลืออยู่ในมือของปุโรหิตนั้น เขาจะเจิมศีรษะของผู้รับการชำระ แล้วปุโรหิตจะทำการลบมลทินของเขาต่อพระพักตร์พระเจ้า ปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชาไถ่บาปเพื่อทำการลบมลทินของผู้รับ การชำระให้พ้นจากมลทินของเขา ภายหลังปุโรหิตจึงฆ่าสัตว์อันเป็นเครื่องเผาบูชา และปุโรหิตจะถวายเครื่องเผาบูชาและธัญญบูชาบนแท่น ปุโรหิตจะทำการลบมลทินของเขาดังนี้ และเขาก็จะสะอาดได้ <<ถ้าผู้นั้นเป็นคนยากจนและไม่สามารถจะหามา ได้เท่านั้น ก็ให้เขานำลูกแกะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่กรรมบาป เพื่อยื่นถวายกระทำการลบมลทินของเขา และนำยอดแป้งหนึ่งในสิบเอฟาห์เคล้าเข้ากับน้ำมัน เป็นธัญญบูชากับน้ำมันลกหนึ่ง พร้อมกับนกเขาสองตัว หรือลูกนกพิราบสองตัว ตามที่เขาสามารถหามาได้ ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป นกอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา ในวันที่แปดให้เขานำมามอบให้แก่ปุโรหิต เพื่อการชำระของตน ที่ประตูเต็นท์นัดพบถวายต่อพระพักตร์พระเจ้า และปุโรหิตจะนำลูกแกะที่เป็นเครื่องบูชาไถ่กรรมบาป และน้ำมันลกหนึ่งนั้น และปุโรหิตจะทำพิธียื่นถวายเป็นเครื่องยื่นบูชาถวายแด่พระเจ้า และเขาจะฆ่าลูกแกะเครื่องบูชาไถ่กรรมบาป และปุโรหิตจะเอาเลือดของเครื่องบูชาไถ่กรรมบาปมาบ้าง เจิมที่ปลายหูข้างขวาของผู้รับการชำระ และที่นิ้วหัวแม่มือขวา กับที่นิ้วหัวแม่เท้าขวาของเขา แล้วปุโรหิตจะเทน้ำมันใส่ฝ่ามือซ้ายของตนบ้าง และเอาน้ำมันที่อยู่ในมือซ้ายนั้น ประพรมด้วยนิ้วมือขวาต่อพระพักตร์พระเจ้า และปุโรหิตจะเอาน้ำมันที่อยู่ในมือเจิม ที่ปลายหูข้างขวาของผู้รับการชำระ และที่หัวแม่มือขวากับหัวแม่เท้าขวาของเขา ตรงที่ที่เจิมด้วยเลือดของเครื่องบูชาไถ่กรรมบาป น้ำมันที่เหลืออยู่ในมือของปุโรหิตนั้น เขาจะเจิมศีรษะของผู้ที่รับการชำระ ทำการลบมลทินของเขาต่อพระพักตร์พระเจ้า และเขาจะถวายนกเขาหรือนกพิราบหนุ่ม ตามที่เขาสามารถหามาได้ ถวายนกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป นกอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชาพร้อมกับธัญญบูชา และปุโรหิตจะทำการลบมลทินของผู้รับการ ชำระต่อพระพักตร์พระเจ้า นี่เป็นกฎสำหรับผู้ที่เป็นเรื้อนไม่สามารถหาเครื่องบูชา เพื่อการชำระของตนได้>> พระเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า <<เมื่อเจ้าเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน ซึ่งเราให้แก่เจ้าเป็นกรรมสิทธิ์นั้น และเราจะใส่เรื้อนเข้าที่เรือนหลังหนึ่ง หลังใดในแผ่นดินที่เจ้าถือกรรมสิทธิ์นั้น ผู้ใดที่ถือกรรมสิทธิ์ของเรือนนั้นจะ ต้องมาบอกแก่ปุโรหิตว่า <ข้าพเจ้าเห็นโรคอะไรอย่างหนึ่งเกิดในเรือนของข้าพเจ้า> แล้วปุโรหิตจะบัญชาให้เขาขนของออกจากเรือนให้หมด ก่อนที่ปุโรหิตจะไปตรวจโรค เกรงว่าของทุกอย่างที่อยู่ในเรือนนั้นจะถูกประกาศว่า มลทิน ต่อจากนั้นปุโรหิตจึงจะเข้าไปตรวจดูเรือน และปุโรหิตจะตรวจดูโรค ถ้าโรคนั้นอยู่ที่ผนังของเรือนเป็นรอยสีเขียวๆแดงๆ และปรากฏว่าอยู่ลึกกว่าผิว แล้วปุโรหิตจะออกจากเรือนไปอยู่ที่ประตูเรือน แล้วปิดเรือนเสียเจ็ดวัน พอถึงวันที่เจ็ดปุโรหิตจะกลับมาตรวจดูอีก ถ้าโรคนั้นลามไปในผนังเรือน แล้วปุโรหิตก็จะบัญชาให้เอาหินก้อนที่ติดโรคนั้นออกเสีย นำไปโยนทิ้งในที่มลทินภายนอกเมือง และสั่งให้ขูดข้างในเรือนทั่วๆไป ผงปูนที่ขูดออกมานั้นให้นำไปทิ้งเสียในที่ มลทินภายนอกเมือง แล้วให้หาหินอื่นมาแทนหินก้อนที่นำออกไป และเอาปูนอื่นมาโบกผนังเรือนนั้น <<เมื่อเขาเอาหินออกขูดเรือนและโบกปูนใหม่แล้ว ยังเกิดโรคขึ้นในเรือนนั้นอีก แล้วปุโรหิตจะไปตรวจดู ถ้าโรคนั้นลามไปในเรือนเป็นโรคเรื้อนอย่างร้ายในเรือน เรือนนั้นก็เป็นมลทิน ให้เขาพังเรือนนั้นลง หิน ไม้และปูนที่ทำเรือนนั้นให้ขนไปทิ้งเสีย ในที่ที่มลทินภายนอกเมือง ยิ่งกว่านั้นอีก เมื่อเรือนปิดอยู่ มีผู้ใดเข้าไป ผู้นั้นจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น ผู้ใดที่นอนลงในเรือนนั้น ต้องซักเสื้อผ้าของเขา และผู้ที่รับประทานในเรือนนั้น ต้องซักเสื้อผ้าของเขาด้วย <<แต่ถ้าปุโรหิตมาทำการตรวจเห็นว่า เมื่อโบกปูนใหม่แล้ว โรคนั้นมิได้ลามไปในเรือน ปุโรหิตก็จะประกาศว่าเรือนนั้นสะอาด เพราะโรคหายแล้ว และเพื่อจะชำระเรือนนั้น ให้เจ้าของเรือนนำนกเล็กๆสองตัว กับไม้สนสีดาร์ ด้ายสีแดง และต้นหุสบ ให้ฆ่านกตัวหนึ่งในภาชนะดินข้างบนน้ำที่ไหล เอาไม้สนสีดาร์ ต้นหุสบ และด้ายสีแดง พร้อมกับนกตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ จุ่มลงในเลือดนกที่ได้ฆ่าข้างบนน้ำที่ไหลนั้น แล้วประพรมเรือนนั้นเจ็ดครั้ง ดังนี้เขาจะได้ชำระเรือนด้วยเลือดนก ด้วยน้ำไหลและด้วยนกที่มีชีวิต ด้วยไม้สนสีดาร์ ต้นหุสบ และด้ายสีแดง ให้เขาปล่อยนกที่มีชีวิตออกไปจากเมืองยังพื้นทุ่ง ดังนี้แหละ เขาจะได้ทำการลบมลทินของเรือน และเรือนนั้นก็สะอาด>> นี่เป็นกฎเกี่ยวกับเรื้อนต่างๆ โรคคัน โรคเรื้อนในเครื่องแต่งกายหรือในเรือน ที่บวมหรือพุ หรือที่ด่าง เพื่อจะแสดงว่าเมื่อไรจึงเรียกว่ามลทิน เมื่อไรเรียกว่าสะอาด นี่เป็นกฎเรื่องโรคเรื้อน

เลวีนิติ 14:8-57 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

“คนที่ได้รับการชำระให้สะอาดนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตน โกนผม และอาบน้ำ แล้วเขาจะสะอาดตามระเบียบพิธี หลังจากนั้นให้เขากลับมาอาศัยอยู่ในค่ายพักอีกครั้ง แต่จะต้องอยู่นอกเต็นท์ของตนเป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดเขาจะโกนผม หนวด เครา และคิ้ว ซักเสื้อผ้า อาบน้ำ แล้วเขาจะสะอาด “ในวันที่แปด เขาต้องนำลูกแกะตัวผู้สองตัวซึ่งไม่มีตำหนิ และลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งขวบไม่มีตำหนิหนึ่งตัว แป้งโม่ละเอียดประมาณ 6.5 ลิตรเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นเครื่องธัญบูชา และน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตร ปุโรหิตผู้ทำหน้าที่ตรวจโรคจะนำคนนั้นพร้อมด้วยเครื่องบูชาของเขาเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ “จากนั้นปุโรหิตจะถวายแกะผู้ตัวหนึ่งและน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตรเป็นเครื่องบูชาลบความผิดโดยยื่นถวายต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชายื่นถวาย ปุโรหิตจะฆ่าแกะตัวนั้นในที่บริสุทธิ์ตรงบริเวณที่ฆ่าเครื่องบูชาไถ่บาปและเครื่องเผาบูชา เครื่องบูชาลบความผิดนี้เป็นของปุโรหิตเช่นเดียวกับเครื่องบูชาไถ่บาป เป็นของที่บริสุทธิ์ที่สุด ปุโรหิตจะเอาเลือดของเครื่องบูชาลบความผิดแตะที่ติ่งหูขวา นิ้วหัวแม่มือขวา และนิ้วหัวแม่เท้าขวาของคนที่จะได้รับการชำระ จากนั้นปุโรหิตจะรินน้ำมันลงในอุ้งมือซ้าย เอานิ้วชี้ขวาจุ่มน้ำมันนั้นพรมต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเจ็ดครั้ง ปุโรหิตจะใช้น้ำมันที่เหลืออยู่บางส่วนแตะที่ติ่งหูขวา นิ้วหัวแม่มือขวา และนิ้วหัวแม่เท้าขวาของคนนั้น ซ้ำบนรอยเลือดของเครื่องบูชาลบความผิด แล้วเอาน้ำมันที่เหลือในฝ่ามือทาศีรษะของคนที่จะได้รับการชำระ และลบบาปให้เขาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า “แล้วปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชาไถ่บาป และลบบาปให้คนที่จะได้รับการชำระนั้นให้พ้นจากมลทินของเขา หลังจากนั้นปุโรหิตจะฆ่าสัตว์สำหรับเครื่องเผาบูชา นำไปถวายพร้อมกับเครื่องธัญบูชาบนแท่นบูชาเป็นการลบบาปให้ผู้นั้น และเขาก็จะสะอาด “หากเขายากจนเกินกว่าจะนำแกะสองตัวมาถวาย ก็ให้เขานำลูกแกะตัวผู้มาเพียงตัวเดียวเป็นเครื่องบูชาลบความผิดเพื่อยื่นถวายเป็นการลบบาปให้เขา โดยถวายพร้อมกับแป้งละเอียดประมาณ 2 ลิตรเคล้ากับน้ำมันเป็นเครื่องธัญบูชา และน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตร และนกเขาหรือนกพิราบรุ่นสองตัวแล้วแต่จะหานกชนิดใดได้ ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป อีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา “ในวันที่แปดเขาต้องนำสิ่งเหล่านี้มาให้ปุโรหิตตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อการชำระ ปุโรหิตจะเอาแกะสำหรับเครื่องบูชาลบความผิดกับน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตรมาเป็นเครื่องบูชายื่นถวายต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วฆ่าลูกแกะนั้นเป็นเครื่องบูชาลบความผิด เอาเลือดแตะที่ติ่งหูขวา นิ้วหัวแม่มือขวา กับนิ้วหัวแม่เท้าขวาของคนนั้น ปุโรหิตจะเทน้ำมันใส่อุ้งมือซ้าย และเอานิ้วชี้ขวาจุ่มน้ำมันนั้นพรมเจ็ดครั้งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า จากนั้นจะเอาน้ำมันนี้แตะที่ติ่งหูขวา นิ้วหัวแม่มือขวา และนิ้วหัวแม่เท้าขวาของคนนั้น ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่เขาแตะเลือดของเครื่องบูชาลบความผิด น้ำมันที่เหลืออยู่ในอุ้งมือจะใช้ทาบนศีรษะของคนที่ได้รับการชำระ เป็นการลบบาปให้เขาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า จากนั้นเขาจะถวายนกเขาหรือนกพิราบรุ่นสองตัว แล้วแต่จะหานกชนิดใดได้ ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ส่วนอีกตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชาถวายควบคู่กับเครื่องธัญบูชา ปุโรหิตจะลบบาปให้ผู้นั้นต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยวิธีนี้” ทั้งหมดนี้คือกฎระเบียบเกี่ยวกับผู้ที่หายจากโรคติดต่อทางผิวหนังซึ่งไม่สามารถนำเครื่องบูชาตามปกติมาเพื่อใช้ในพิธีชำระนี้ได้ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “เมื่อเจ้าทั้งหลายไปถึงดินแดนคานาอันซึ่งเราจะยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า และเราให้มีเชื้อราแพร่กระจายในบ้านหลังใดหลังหนึ่งในดินแดนนั้น เจ้าของบ้านซึ่งพบเชื้อราในบ้านของตนต้องไปแจ้งปุโรหิตว่า ‘ข้าพเจ้าได้เห็นบางสิ่งที่ดูเหมือนเชื้อราในบ้านของข้าพเจ้า’ ปุโรหิตจะให้ขนของออกจากบ้านให้หมดก่อนเข้าตรวจ เพื่อทุกสิ่งในบ้านจะไม่ต้องถูกประกาศว่าเป็นมลทิน จากนั้นปุโรหิตจะเข้าไปตรวจดูในบ้าน หากพบริ้วรอยเขียวหรือแดงที่ผนังบ้านซึ่งดูกินลึกลงไปในพื้นผนังบ้าน ปุโรหิตจะปิดบ้านไว้เป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะกลับมาตรวจดูอีกครั้ง หากเชื้อราได้แพร่ขยายออกไปบนผนัง ปุโรหิตจะสั่งให้รื้อหินส่วนที่ติดเชื้อออก และเอาไปทิ้งยังที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง และสั่งให้ขัดถูผนังภายในบ้านให้ทั่วทุกซอกทุกมุม เศษผงเศษขยะก็ให้นำไปทิ้งยังที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง แล้วให้เขาเอาหินก้อนอื่นมาแทนส่วนที่รื้อออกไป เอาปูนโบกผนังเสียใหม่ “แต่หากภายหลังมีเชื้อรากลับมาปรากฏในบ้านนั้นอีก ปุโรหิตจะมาตรวจดูอีก และถ้าเชื้อราได้แพร่ขยายภายในบ้านหลังนั้น เชื้อรานั้นเป็นพิษ บ้านหลังนั้นเป็นมลทิน ต้องรื้อบ้านหลังนั้นทิ้ง แล้วขนหิน ไม้ และปูนออกไปทิ้งยังที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง “ผู้ที่เข้าไปในบ้านขณะที่ยังปิดอยู่ จะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น ผู้ที่นอนหรือกินอาหารในบ้านนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตน แต่เมื่อปุโรหิตกลับมาตรวจดูและเชื้อรานั้นไม่ได้แพร่ขยายไปหลังจากโบกปูนใหม่เรียบร้อยแล้ว ก็จะประกาศว่าบ้านหลังนั้นสะอาดเพราะเชื้อราได้หายไปแล้ว ปุโรหิตจะประกอบพิธีชำระบ้านหลังนั้นโดยใช้นกสองตัว ไม้สนซีดาร์ ด้ายแดง และกิ่งหุสบ เขาจะฆ่านกตัวหนึ่งเหนือน้ำสะอาดที่อยู่ในภาชนะดินเผา แล้วจุ่มไม้สนซีดาร์ กิ่งหุสบ ด้ายแดง และนกอีกตัวซึ่งยังมีชีวิตลงในเลือดของนกที่ถูกฆ่าเหนือน้ำสะอาด เอาเลือดพรมที่ตัวบ้านเจ็ดครั้ง ปุโรหิตจะชำระบ้านหลังนั้นด้วยเลือดของนก น้ำสะอาด นกที่มีชีวิต ไม้สนซีดาร์ กิ่งหุสบ และด้ายแดง แล้วปุโรหิตจะปล่อยนกที่ยังมีชีวิตไปในที่กลางแจ้งนอกเมือง ปุโรหิตจะลบมลทินของบ้านด้วยวิธีนี้ และบ้านนั้นก็จะสะอาด” ทั้งหมดนี้เป็นกฎระเบียบเกี่ยวกับโรคติดต่อทางผิวหนังชนิดต่างๆ สำหรับโรคคัน สำหรับเชื้อราบนเสื้อผ้าหรือในบ้าน และสำหรับรอยบวม ผื่น หรือตุ่มใส เพื่อตัดสินว่าสิ่งใดสะอาดหรือเป็นมลทิน นี่คือกฎระเบียบสำหรับโรคติดต่อทางผิวหนังและเชื้อรา

เลวีนิติ 14:8-57 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

คน​ที่​ถูก​ชำระ​ตัว​จะ​ต้อง​ซัก​เครื่อง​แต่ง​กาย​ของ​ตน โกน​ผม​และ​ขน​ทั้ง​ตัว แล้ว​ก็​อาบ​น้ำ จึง​จะ​ถือ​ว่า​เขา​สะอาด หลัง​จาก​นั้น​เขา​จะ​เข้า​มา​ใน​ค่าย แต่​จะ​อยู่​นอก​กระโจม​ของ​เขา 7 วัน ใน​วัน​ที่​เจ็ด​เขา​ต้อง​โกน​ผม​ให้​หมด โกน​เครา​และ​คิ้ว โกน​ขน​ให้​หมด เขา​ต้อง​ซัก​เครื่อง​แต่ง​กาย​และ​อาบ​น้ำ จึง​จะ​ถือ​ว่า​เขา​สะอาด ใน​วัน​ที่​แปด เขา​ต้อง​นำ​ลูก​แกะ​ตัว​ผู้ 2 ตัว​ปราศจาก​ตำหนิ และ​แกะ​สาว​อายุ 1 ปี​ปราศจาก​ตำหนิ และ​แป้ง​สาลี​ชั้น​เยี่ยม​สาม​ส่วน​สิบ​เอฟาห์​ผสม​กับ​น้ำ​มัน​เป็น​เครื่อง​ธัญญ​บูชา และ​น้ำ​มัน​อีก 1 ถ้วย​ตวง ปุโรหิต​ผู้​ทำ​พิธี​ชำระ​ตัว​ต้อง​นำ​ชาย​ผู้​นั้น​พร้อม​กับ​สิ่ง​เหล่า​นี้​มา ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ที่​ทาง​เข้า​กระโจม​ที่​นัด​หมาย ปุโรหิต​ต้อง​เอา​ลูก​แกะ​ตัว​ผู้ 1 ตัว​มอบ​เป็น​ของ​ถวาย​เพื่อ​ไถ่​โทษ​พร้อม​กับ​น้ำ​มัน 1 ถ้วย​ตวง โบก​ขึ้น​ลง​เป็น​เครื่อง​โบก​ถวาย ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เขา​ต้อง​ฆ่า​ลูก​แกะ​ตัว​ผู้​ใน​ที่​บริสุทธิ์ อัน​เป็น​ที่​เดียว​กับ​ที่​เขา​ฆ่า​สัตว์​ที่​ใช้​เผา​เป็น​ของ​ถวาย​และ​เป็น​เครื่อง​สักการะ​เพื่อ​ลบ​ล้าง​บาป ของ​ถวาย​เพื่อ​ไถ่​โทษ​เป็น​ของ​ปุโรหิต เช่น​เดียว​กับ​เครื่อง​สักการะ​เพื่อ​ลบ​ล้าง​บาป​ซึ่ง​ถือ​เป็น​สิ่ง​บริสุทธิ์​ที่​สุด ปุโรหิต​จะ​ต้อง​เอา​เลือด​จาก​ของ​ถวาย​เพื่อ​ไถ่​โทษ​มา​ป้าย​ที่​ปลาย​หู​ขวา​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ตัว​ให้​สะอาด และ​ที่​นิ้ว​หัว​แม่​มือ​ข้าง​ขวา และ​ที่​นิ้ว​หัว​แม่​เท้า​ข้าง​ขวา ปุโรหิต​จะ​ต้อง​เอา​น้ำ​มัน​จาก​ถ้วย​ตวง​เท​ใส่​มือ​ซ้าย​ของ​ตน และ​ปุโรหิต​ใช้​นิ้ว​มือ​ขวา​จุ่ม​น้ำ​มัน​ใน​มือ​ซ้าย ประพรม 7 ครั้ง ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ให้​ปุโรหิต​ป้าย​น้ำ​มัน​จาก​มือ​ซ้าย​ที่​ปลาย​หู​ขวา​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ตัว​ให้​สะอาด และ​ที่​นิ้ว​หัว​แม่​มือ​ข้าง​ขวา และ​ที่​นิ้ว​หัว​แม่​เท้า​ข้าง​ขวา ป้าย​ทับ​เลือด​ที่​ได้​จาก​ของ​ถวาย​เพื่อ​ไถ่​โทษ ให้​ปุโรหิต​ทา​น้ำ​มัน​ที่​เหลือ​ใน​มือ ลง​บน​หัว​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ตัว​ให้​สะอาด แล้ว​ปุโรหิต​จะ​ทำ​พิธี​ชด​ใช้​บาป​ให้​เขา ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ปุโรหิต​จะ​ต้อง​มอบ​เครื่อง​สักการะ​เพื่อ​ลบ​ล้าง​บาป และ​ทำ​พิธี​ชด​ใช้​บาป​ให้​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ตัว​จาก​การ​เป็น​มลทิน หลัง​จาก​นั้น​เขา​ก็​จะ​ฆ่า​สัตว์​ที่​ใช้​เผา​เป็น​ของ​ถวาย ปุโรหิต​จะ​มอบ​สัตว์​ที่​เผา​เป็น​ของ​ถวาย​และ​เครื่อง​ธัญญ​บูชา​บน​แท่น​บูชา เพื่อ​ปุโรหิต​จะ​ทำ​พิธี​ชด​ใช้​บาป​ให้​เขา และ​จึง​จะ​ถือ​ว่า​เขา​สะอาด แต่​ถ้า​เขา​ยาก​จน​และ​ไม่​สามารถ​หา​มา​ถวาย​ได้​มาก เขา​ต้อง​มอบ​ลูก​แกะ​ตัว​ผู้ 1 ตัว​สำหรับ​ของ​ถวาย​เพื่อ​ไถ่​โทษ​เพื่อ​โบก​ขึ้น​ลง​อัน​เป็น​พิธี​ชด​ใช้​บาป และ​แป้ง​สาลี​ชั้น​เยี่ยม​หนึ่ง​ส่วน​สิบ​เอฟาห์​ผสม​กับ​น้ำ​มัน​เป็น​เครื่อง​ธัญญ​บูชา และ​น้ำ​มัน 1 ถ้วย​ตวง พร้อม​ด้วย​นกเขา 2 ตัว​หรือ​นก​พิราบ​หนุ่ม 2 ตัว​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​เขา​สามารถ​หา​มา​มอบ​ให้​ได้​ตัว​หนึ่ง​เป็น​เครื่อง​สักการะ​เพื่อ​ลบ​ล้าง​บาป และ​อีก​ตัว​เป็น​สัตว์​ที่​ใช้​เผา​เป็น​ของ​ถวาย ใน​วัน​ที่​แปด​เขา​ต้อง​นำ​สิ่ง​เหล่า​นี้​มา​มอบ​แก่​ปุโรหิต​สำหรับ​การ​ชำระ​ตัว​ให้​สะอาด​ที่​ทาง​เข้า​กระโจม​ที่​นัด​หมาย ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า แล้ว​ปุโรหิต​จะ​เอา​ลูก​แกะ​สำหรับ​ของ​ถวาย​เพื่อ​ไถ่​โทษ​และ​น้ำ​มัน 1 ถ้วย​ตวง และ​เขา​จะ​โบก​ของ​เหล่า​นี้​ขึ้น​ลง​เป็น​เครื่อง​โบก​ถวาย ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ปุโรหิต​จะ​ฆ่า​ลูก​แกะ​สำหรับ​ของ​ถวาย​เพื่อ​ไถ่​โทษ และ​ใช้​เลือด​ลูก​แกะ​ป้าย​ที่​ปลาย​หู​ขวา​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ตัว​ให้​สะอาด และ​ที่​นิ้ว​หัว​แม่​มือ​ข้าง​ขวา และ​ที่​นิ้ว​หัว​แม่​เท้า​ข้าง​ขวา​ของ​เขา ปุโรหิต​จะ​ต้อง​เท​น้ำ​มัน​ใส่​มือ​ซ้าย​ของ​ตน และ​ปุโรหิต​ประพรม​ด้วย​นิ้ว​ชี้​มือ​ขวา​ซึ่ง​จุ่ม​น้ำ​มัน​ใน​มือ​ซ้าย 7 ครั้ง ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ให้​ปุโรหิต​ป้าย​น้ำ​มัน​จาก​มือ​ซ้าย​ที่​ปลาย​หู​ขวา​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ตัว​ให้​สะอาด และ​ที่​นิ้ว​หัว​แม่​มือ​ข้าง​ขวา และ​ที่​นิ้ว​หัว​แม่​เท้า​ข้าง​ขวา ป้าย​ทับ​เลือด​ที่​ได้​จาก​ของ​ถวาย​เพื่อ​ไถ่​โทษ ให้​ปุโรหิต​เท​น้ำ​มัน​ที่​เหลือ​ใน​มือ​ลง​บน​หัว​ของ​คน​ที่​จะ​รับ​การ​ชำระ​ตัว​ให้​สะอาด แล้ว​ปุโรหิต​จะ​ทำ​พิธี​ชด​ใช้​บาป​ให้​เขา ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ปุโรหิต​จะ​มอบ​นกเขา​หรือ​นก​พิราบ​หนุ่ม​เท่า​ที่​เขา​สามารถ​จะ​หา​มา​มอบ​ให้​ได้ ตัว​หนึ่ง​เป็น​เครื่อง​สักการะ​เพื่อ​ลบ​ล้าง​บาป และ​อีก​ตัว​สำหรับ​สัตว์​ที่​ใช้​เผา​เป็น​ของ​ถวาย​พร้อม​กับ​เครื่อง​ธัญญ​บูชา ปุโรหิต​จะ​ทำ​พิธี​ชด​ใช้​บาป​ให้​เขา ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า นี่​เป็น​กฎ​บัญญัติ​สำหรับ​คน​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​ที่​ไม่​สามารถ​หา​เครื่อง​สักการะ​สำหรับ​การ​ชำระ​ตัว​ให้​สะอาด​ได้” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​โมเสส​และ​อาโรน​ว่า “เมื่อ​เจ้า​ก้าว​เข้า​ไป​ใน​ดิน​แดน​คานาอัน​ซึ่ง​เรา​มอบ​ให้​เจ้า​เป็น​เจ้า​ของ และ​เรา​ใส่​เชื้อ​โรค​เรื้อน​ใน​บ้าน​หลัง​หนึ่ง​ใน​ดิน​แดน​ที่​เจ้า​เป็น​เจ้า​ของ เจ้า​ของ​บ้าน​ต้อง​ไป​บอก​ปุโรหิต​ว่า ‘ดู​เหมือน​ว่า​มี​เชื้อ​โรค​ชนิด​หนึ่ง​ใน​บ้าน​ของ​เรา’ ปุโรหิต​จะ​สั่ง​ให้​พวก​เขา​ย้าย​ของ​ทุก​อย่าง​ออก​จาก​บ้าน​ก่อน​ที่​เขา​จะ​เข้า​ไป​ตรวจ​ดู​เชื้อ​โรค มิ​ฉะนั้น​ทุก​สิ่ง​ใน​บ้าน​จะ​ถูก​ประกาศ​ว่า​เป็น​มลทิน หลัง​จาก​นั้น​ปุโรหิต​จะ​เข้า​บ้าน​ไป​ดู เขา​จะ​ตรวจ​ดู​เชื้อ​โรค ถ้า​เชื้อ​โรค​เป็น​จุด​เขียว​หรือ​แดง​ติด​อยู่​ที่​ผนัง​บ้าน และ​ถ้า​ดู​เหมือน​ว่า​จุด​นั้น​กิน​ลึก​ลง​ไป​ใต้​ผิว​ผนัง ปุโรหิต​ก็​จะ​ต้อง​ออก​ไป​นอก​ประตู​บ้าน และ​ปิด​ประตู​ไว้ 7 วัน เมื่อ​ปุโรหิต​กลับ​ไป​ที่​บ้าน​นั้น​อีก​ใน​วัน​ที่​เจ็ด เพื่อ​ดู​ว่า​เชื้อ​โรค​ลาม​ลึก​เข้า​ไป​ใน​ผนัง​บ้าน​หรือ​ไม่ แล้ว​ปุโรหิต​จะ​สั่ง​ให้​พวก​เขา​รื้อ​หิน​ที่​ติด​เชื้อ​ออก และ​โยน​ทิ้ง​ใน​ที่​ที่​เป็น​มลทิน​นอก​เมือง และ​เขา​จะ​สั่ง​ให้​ขูด​ขัด​รอบๆ ภาย​ใน​บ้าน และ​ขน​ปูน​ที่​ขูด​ออก​ไป​ทิ้ง​ใน​ที่​ที่​เป็น​มลทิน​นอก​เมือง และ​ให้​คน​ก่อ​หิน​ขึ้น​ใหม่​แทน​หิน​เดิม​แล้ว​โบก​ปูน​ปิด​ผนัง​เสีย ถ้า​เชื้อ​โรค​ยัง​คง​แพร่​กระจาย​ใน​บ้าน​อีก หลัง​จาก​รื้อ​หิน​ออก​และ​ขูด​ขัด​บ้าน​โบก​ปูน​แล้ว ปุโรหิต​ต้อง​ไป​ตรวจ​ดู ถ้า​เชื้อ​โรค​แพร่​กระจาย​ใน​บ้าน แสดง​ว่า​มี​เชื้อ​โรค​เรื้อน​ชนิด​ร้าย​แรง​อยู่​ใน​บ้าน​และ​เป็น​มลทิน ให้​คน​รื้อ​บ้าน​หลัง​นั้น​ลง ทั้ง​หิน ไม้ และ​ผนัง​ปูน​ทั้ง​หมด​ให้​เอา​ไป​ทิ้ง​ใน​ที่​ที่​เป็น​มลทิน​นอก​เมือง นอก​จาก​นั้น​แล้ว ผู้​ใด​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ระหว่าง​ที่​บ้าน​ถูก​ปิด​ทิ้ง​ไว้ ผู้​นั้น​จะ​เป็น​มลทิน​จน​ถึง​เย็น ผู้​ใด​หลับ​นอน​หรือ​รับ​ประทาน​อยู่​ที่​บ้าน​นั้น​ต้อง​ซัก​เสื้อ​ผ้า​ของ​ตน ถ้า​ปุโรหิต​มา​ตรวจ​ดู และ​ไม่​มี​เชื้อ​โรค​แพร่​กระจาย​ใน​บ้าน​หลัง​จาก​โบก​ปูน​ใหม่ แล้ว​ปุโรหิต​ก็​จะ​ประกาศ​ว่า​บ้าน​หลัง​นั้น​สะอาด เพราะ​โรค​หาย​แล้ว การ​ชำระ​บ้าน​ให้​สะอาด​ก็​ให้​เขา​เอา​นก​ตัว​เล็ก 2 ตัว ไม้​ซีดาร์ ด้าย​ขน​แกะ​ย้อม​สี​แดง​สด​และ​ก้าน​หุสบ ฆ่า​นก​ตัว​หนึ่ง​ที่​อ่าง​ดิน​เผา​ที่​บรรจุ​น้ำ​จาก​แหล่ง​น้ำพุ เขา​ต้อง​จุ่ม​นก​อีก​ตัว​ที่​มี​ชีวิต​ลง​ใน​เลือด​นก​ที่​ถูก​ฆ่า​และ​ใน​น้ำ​จาก​แหล่ง​น้ำพุ พร้อม​กับ​ไม้​ซีดาร์ ด้าย​ขน​แกะ​สี​แดง​สด และ​ก้าน​หุสบ และ​ประพรม​บ้าน 7 ครั้ง การ​กระทำ​เช่น​นี้​ปุโรหิต​จึง​สามารถ​ชำระ​บ้าน​ให้​สะอาด​ด้วย​เลือด​นก​และ​น้ำ​จาก​แหล่ง​น้ำพุ ด้วย​นก​ที่​มี​ชีวิต ด้วย​ไม้​ซีดาร์ ก้าน​หุสบ​และ​ด้าย​ขน​แกะ​สี​แดง​สด และ​เขา​จะ​ปล่อย​นก​ที่​มี​ชีวิต​ให้​บิน​ออก​ไป​จาก​เมือง​ไป​สู่​ทุ่ง​กว้าง เป็น​พิธี​ลบ​ล้าง​มลทิน​ให้​กับ​บ้าน และ​บ้าน​ก็​จะ​สะอาด” นี่​เป็น​กฎ​บัญญัติ​อัน​เกี่ยว​กับ​โรค​เรื้อน​ชนิด​ต่างๆ เช่น​โรค​ผิว​คัน โรค​เรื้อน​ติด​ที่​เครื่อง​แต่ง​กาย​หรือ​ใน​บ้าน และ​แผล​บวม เป็น​ผื่น​หรือ​เป็น​จุด เพื่อ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เมื่อ​ใด​จึง​เป็น​มลทิน​และ​เมื่อ​ใด​จึง​สะอาด นี่​เป็น​กฎ​บัญญัติ​เกี่ยว​กับ​โรค​เรื้อน