เพลงคร่ำครวญ 5:1-21
เพลงคร่ำครวญ 5:1-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขออย่าได้ลืมสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเรา ดูสิ พวกเราต้องอับอายขายหน้าขนาดไหน แผ่นดินของเราก็ถูกยกไปให้กับคนแปลกหน้า บ้านของเราถูกยกไปให้กับคนต่างชาติ พวกเราได้กลายเป็นลูกกำพร้าพ่อ แม่ของพวกเรากลายเป็นหม้าย น้ำก็ต้องซื้อเขาดื่ม ฟืนก็ต้องซื้อเขาใช้ เราถูกตามล่ามาติดติด เราหมดแรงและไม่สามารถหยุดพักได้ เราได้ทำสัญญากับอียิปต์ และกับอัสซีเรีย เพื่อจะได้มีอาหารเลี้ยงปากท้อง บรรพบุรุษของเราทำบาปและหายไปแล้ว แล้วพวกเราต้องมารับกรรมจากความผิดบาปนั้น พวกทาสมีอำนาจเหนือเรา ไม่มีใครช่วยเราให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกเขา เราต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้อาหารมา เพราะมีภัยอันตรายถึงตายในทะเลทราย ผิวของเราร้อนเหมือนเตาอบ เรามีไข้สูงเพราะขาดแคลนอาหาร พวกทหารของศัตรูได้ข่มขืนพวกผู้หญิงของศิโยน พวกเขาข่มขืนพวกสาวพรหมจรรย์ในเมืองต่างๆของยูดาห์ พวกเชื้อพระวงศ์ต่างๆก็ถูกแขวนด้วยฝีมือของศัตรู พวกผู้นำอาวุโสไม่ได้รับความเคารพนับถือ คนหนุ่มถูกบังคับให้โม่แป้ง เด็กหนุ่มล้มลุกคลุกคลานเพราะต้องแบกฟืนอันหนักอึ้ง พวกผู้นำอาวุโสก็ไม่อยู่ตามประตูเมืองอีกแล้ว คนหนุ่มๆก็หยุดเล่นดนตรี ความสุขของพวกเราสิ้นสุดลง การเต้นรำของเราได้เปลี่ยนเป็นการไว้ทุกข์ มงกุฎได้หล่นลงจากหัวของเรา มันช่างเลวร้ายจริงๆสำหรับเราเพราะพวกเราได้ทำบาป จิตใจของเราก็ป่วยเพราะเรื่องทั้งหมดนี้ ดวงตาของเราก็มืดบอดไปเพราะเรื่องทั้งหมดนี้ เดี๋ยวนี้ ภูเขาศิโยนได้ถูกทิ้งร้างว่างเปล่า และฝูงหมาจิ้งจอกมาเดินเพ่นพ่านอยู่บนนั้น พระยาห์เวห์เจ้าข้า แต่พระองค์ครอบครองตลอดกาล บัลลังก์ของพระองค์จะอยู่สืบไปชั่วลูกชั่วหลาน ทำไมพระองค์ถึงได้ลืมเราอยู่อย่างนี้ ทำไมพระองค์ถึงได้ทอดทิ้งพวกเรานานขนาดนี้ พระยาห์เวห์เจ้าข้า โปรดนำเรากลับมาหาพระองค์ด้วย เพื่อว่าเราจะได้กลับมาหาพระองค์ โปรดทำให้ชีวิตของเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมด้วยเถิด
เพลงคร่ำครวญ 5:1-21 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย ดูเถิด ขอทรงพิจารณาความอดสูของพวกข้าพระองค์ มรดกของพวกข้าพระองค์กลับเป็นของพวกต่างชาติ บ้านเรือนของพวกข้าพระองค์เป็นของพวกต่างด้าว พวกข้าพระองค์เป็นลูกกำพร้าพ่อ และแม่ของข้าพระองค์เป็นดั่งหญิงม่าย น้ำก็ต้องซื้อเขาดื่ม ฟืนก็ต้องซื้อเขาใช้ พวกข้าพระองค์ถูกไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด ทั้งอ่อนเพลียและไม่ได้พักผ่อนเลย พวกข้าพระองค์ยอมจำนนต่ออียิปต์และอัสซีเรีย เพื่อจะได้อาหารกิน บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายทำบาปและตายแล้ว พวกข้าพระองค์ต้องรับโทษเพราะบาปของพวกเขา พวกทาสปกครองข้าพระองค์ทั้งหลาย ไม่มีผู้ใดช่วยพวกข้าพระองค์ให้พ้นมือของพวกเขาได้ พวกข้าพระองค์ได้อาหารมาโดยเสี่ยงชีวิต เพราะผู้ถือดาบในถิ่นทุรกันดาร ผิวหนังของพวกข้าพระองค์ก็ร้อนปานเตาอบ เพราะความร้อนแผดเผาแห่งการกันดารอาหาร ผู้หญิงในศิโยนถูกขืนใจ รวมทั้งสาวพรหมจารีในเมืองต่างๆ ของยูดาห์ เจ้านายต้องถูกมัดมือแขวนไว้ ไม่มีผู้ใดนับถือพวกผู้ใหญ่ คนหนุ่มถูกบังคับให้โม่แป้ง และเด็กต้องเดินโซเซเพราะแบกฟืนหนัก พวกคนแก่หายไปจากประตูเมือง คนหนุ่มได้หยุดเล่นดนตรีแล้ว ความปลาบปลื้มก็หายไปจากใจของพวกข้าพระองค์ การเต้นรำของพวกข้าพระองค์กลายเป็นการไว้ทุกข์ มงกุฎได้ร่วงหล่นจากศีรษะพวกข้าพระองค์แล้ว วิบัติแก่พวกข้าพระองค์ เพราะพวกข้าพระองค์ทำบาป เพราะเหตุนี้เอง ใจพวกข้าพระองค์จึงอ่อนระอา เพราะสิ่งเหล่านี้ ตาข้าพระองค์จึงมัวไป เพราะภูเขาศิโยนรกร้าง สุนัขป่ามาเดินเพ่นพ่านอยู่ที่นั้น ข้าแต่พระยาห์เวห์ แต่พระองค์ทรงครอบครองอยู่เป็นนิตย์ พระที่นั่งของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วชาติพันธุ์ ไฉนพระองค์ทรงลืมพวกข้าพระองค์เสียเป็นนิตย์? ไฉนทรงทอดทิ้งพวกข้าพระองค์เสียนานดังนี้? ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงช่วยพวกข้าพระองค์ให้กลับสู่พระองค์เถิด แล้วพวกข้าพระองค์จะกลับสู่พระองค์ ขอทรงฟื้นวันเวลาของข้าพระองค์ให้เหมือนดังก่อน
เพลงคร่ำครวญ 5:1-21 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงระลึกว่ามีอะไรตกถึงข้าพระองค์ ขอทรงพิจารณาและทอดพระเนตรความอดสูของข้าพระองค์ มรดกของพวกข้าพระองค์ได้ไปตกอยู่กับพวกต่างประเทศ บ้านเรือนของพวกข้าพระองค์เป็นของคนต่างด้าว พวกข้าพระองค์เป็นคนกำพร้าและคนกำพร้าพ่อ และเหล่ามารดาของข้าพระองค์เป็นดั่งหญิงม่าย น้ำก็ต้องซื้อเขาดื่ม ฟืนก็ต้องซื้อเขาใช้ ผู้ข่มขี่ได้ขี่คอพวกข้าพระองค์ไว้ พวกข้าพระองค์ทำงานหนักและไม่มีเวลาพักเลย พวกข้าพระองค์พนมมือให้คนอียิปต์และคนอัสซีเรีย เพื่อจะได้อาหารรับประทานอิ่มหนึ่ง บรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์ได้กระทำบาป และก็ตายหมดแล้ว พวกข้าพระองค์ต้องถูกโทษเพราะความชั่วช้าของเขา ทาสกลับปกครองพวกข้าพระองค์ ไม่มีผู้ใดช่วยข้าพระองค์ให้พ้นมือของเขาได้ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้อาหารมาโดยเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพราะดาบแห่งถิ่นทุรกันดาร ผิวหนังของพวกข้าพระองค์ก็ร้อนปานเตาอบ เพราะความเดือดร้อนของทุพภิกขภัย เขาทั้งหลายขืนใจพวกผู้หญิงในกรุงศิโยน และข่มใจสาวพรหมจารีในหัวเมืองแห่งยูดาห์ พวกเจ้านายต้องถูกผูกมือแขวน ไม่มีใครแสดงความนับถือต่อหน้าพวกผู้ใหญ่ พวกคนหนุ่มถูกบังคับให้โม่แป้ง และพวกเด็กต้องแบกฟืนหนักล้มลุกคลุกคลาน พวกผู้ใหญ่หายตัวไปจากประตูเมือง พวกคนหนุ่มได้หยุดดีดสีตีเป่าแล้ว ความปลาบปลื้มก็ประลาตไปจากใจของพวกข้าพระองค์สิ้น การเต้นรำของพวกข้าพระองค์กลายเป็นการร่ำไห้ มงกุฎได้ร่วงหล่นจากศีรษะข้าพระองค์แล้ว วิบัติแก่พวกข้าพระองค์ เพราะพวกข้าพระองค์กระทำบาปไว้ เหตุนี้เองใจพวกข้าพระองค์จึงอ่อนกำลัง เพราะการเหล่านี้เองนัยน์ตาข้าพระองค์จึงมัวไป เหตุด้วยภูเขาศิโยนซึ่งรกร้างไป พวกสุนัขจิ้งจอกจึงมาเดินเพ่นพ่านอยู่บนนั้น โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ แต่พระองค์ทรงสถิตอยู่เป็นนิตย์ พระที่นั่งของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วอายุ เป็นไฉนพระองค์ทรงลืมพวกข้าพระองค์เสียเป็นนิตย์ เป็นไฉนได้ทรงทอดทิ้งพวกข้าพระองค์เสียนานดังนี้ โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้กลับสู่พระองค์เถิด แล้วพวกข้าพระองค์จะกลับสู่พระองค์ ขอทรงฟื้นเดือนปีของข้าพระองค์ให้เหมือนดังก่อน
เพลงคร่ำครวญ 5:1-21 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงระลึกว่ามีอะไรตกถึงข้าพระองค์ ดูเถิด ขอทรงพิจารณาความอดสูของข้าพระองค์ มรดกของพวกข้าพระองค์ได้ไปตกอยู่กับพวกต่างประเทศ บ้านเรือนของพวกข้าพระองค์ เป็นของคนต่างด้าว พวกข้าพระองค์เป็นคนกำพร้าบิดา และเหล่ามารดาของข้าพระองค์เป็นดั่งหญิงม่าย น้ำก็ต้องซื้อเขาดื่ม ฟืนก็ต้องซื้อเขาใช้ ผู้ข่มขี่ได้ขี่คอพวกข้าพระองค์ไว้ พวกข้าพระองค์อ่อนเพลียและเขาไม่ให้มีเวลาพักเลย พวกข้าพระองค์พนมมือให้คนอียิปต์ และคนอัสซีเรีย เพื่อจะได้อาหารรับประทานอิ่มหนึ่ง บรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์ได้กระทำบาป และก็ตายหมดแล้ว พวกข้าพระองค์ต้องถูกโทษเพราะบาปของเขา ทาสกลับปกครองพวกข้าพระองค์ ไม่มีผู้ใดช่วยข้าพระองค์ให้พ้นมือของเขาได้ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้อาหารมาโดยเอาชีวิตเข้าเสี่ยง เพราะดาบแห่งถิ่นทุรกันดาร ผิวหนังของพวกข้าพระองค์ก็ร้อนปานเตาอบ เพราะความเดือดร้อนของทุพภิกขภัย เขาทั้งหลายขืนใจพวกผู้หญิงในกรุงศิโยน และข่มใจสาวพรหมจารีในหัวเมืองแห่งยูดาห์ พวกเจ้านายต้องถูกผูกมือแขวน ไม่มีใครนับถือพวกผู้ใหญ่ พวกคนหนุ่มถูกบังคับให้โม่แป้ง และพวกเด็กต้องแบกฟืนหนักล้มลุกคลุกคลาน พวกผู้ใหญ่หายตัวไปจากประตูเมือง พวกคนหนุ่มได้หยุดดีดสีตีเป่าแล้ว ความปลาบปลื้มก็ปลาตไปจากใจของพวกข้าพระองค์สิ้น การเต้นรำของพวกข้าพระองค์กลายเป็นการร่ำไห้ มงกุฎได้ร่วงหล่นจากศีรษะข้าพระองค์แล้ว วิบัติแก่พวกข้าพระองค์เพราะพวกข้าพระองค์กระทำบาปไว้ เหตุนี้เอง ใจพวกข้าพระองค์จึงเจ็บปวด เพราะการเหล่านี้เอง นัยน์ตาข้าพระองค์จึงมัวไป เหตุด้วยภูเขาศิโยนซึ่งเกิดเริศร้าง พวกสุนัขจิ้งจอกมาเดินเพ่นพ่านอยู่บนนั้น ข้าแต่พระเจ้า แต่พระองค์ทรงครอบครองอยู่เป็นนิตย์ พระที่นั่งของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วชาติพันธุ์ เป็นไฉนพระองค์ทรงลืมพวกข้าพระองค์เสียเป็นนิตย์ เป็นไฉนได้ทรงทอดทิ้งพวกข้าพระองค์เสียนานดังนี้ ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้กลับสู่พระองค์เถิด แล้วพวกข้าพระองค์จะกลับสู่พระองค์ ขอทรงฟื้นเดือนปีของข้าพระองค์ให้เหมือนดังก่อน
เพลงคร่ำครวญ 5:1-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอโปรดทอดพระเนตรดูความอัปยศอดสูของข้าพระองค์ทั้งหลาย มรดกของข้าพระองค์ทั้งหลายตกไปเป็นของคนต่างด้าว เหย้าเรือนของข้าพระองค์ทั้งหลายตกเป็นของคนต่างชาติ ข้าพระองค์ทั้งหลายกลายเป็นลูกกำพร้า เป็นลูกไม่มีพ่อ แม่ของข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นเหมือนแม่ม่าย ข้าพระองค์ทั้งหลายต้องซื้อน้ำไว้ดื่ม ข้าพระองค์ทั้งหลายต้องซื้อฟืนไว้ใช้ ผู้รุกไล่ตามติดส้นเท้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ข้าพระองค์ทั้งหลายอ่อนระโหยและไม่ได้พักผ่อน ข้าพระองค์ทั้งหลายยอมจับมือกับอียิปต์และอัสซีเรีย เพื่อให้มีอาหารพอกิน บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายทำบาปและตายไปแล้ว ส่วนข้าพระองค์ทั้งหลายต้องมารับโทษแทน พวกทาสปกครองข้าพระองค์ทั้งหลาย และไม่มีใครช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกเขา ข้าพระองค์ทั้งหลายต้องเสี่ยงชีวิตในถิ่นกันดาร เพื่อให้มีอาหารกิน ผิวหนังของข้าพระองค์ทั้งหลายร้อนผ่าวเหมือนเตาผิง ระบมไข้เพราะความหิวโหย พวกผู้หญิงถูกข่มขืนในศิโยน และสาวพรหมจารีในหัวเมืองของยูดาห์ถูกย่ำยี บรรดาเจ้านายถูกมัดมือแขวนไว้ พวกผู้อาวุโสไม่ได้รับความเคารพนับถือ คนหนุ่มๆ ถูกเกณฑ์ไปโม่แป้ง เด็กๆ แบกฟืนล้มลุกคลุกคลาน บรรดาผู้อาวุโสไม่นั่งอยู่ที่ประตูเมืองอีกต่อไป บรรดาคนหนุ่มก็เลิกบรรเลงเพลง ความชื่นชมยินดีหายลับไปจากใจของข้าพระองค์ทั้งหลาย การเต้นรำของข้าพระองค์ทั้งหลายกลับกลายเป็นการคร่ำครวญ มงกุฎร่วงหล่นไปจากศีรษะของข้าพระองค์ทั้งหลาย วิบัติแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาป! เพราะสิ่งเหล่านี้ ดวงใจของข้าพระองค์ทั้งหลายจึงอ่อนระโหย ดวงตาของข้าพระองค์ทั้งหลายจึงพร่ามัว เนื่องด้วยภูเขาศิโยนซึ่งเริศร้าง เป็นที่เพ่นพ่านของฝูงหมาใน ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงครอบครองอยู่เป็นนิตย์ พระบัลลังก์ของพระองค์ยั่งยืนตลอดทุกชั่วอายุ เหตุใดพระองค์ทรงลืมข้าพระองค์ทั้งหลายอยู่ร่ำไป? เหตุใดทรงทอดทิ้งข้าพระองค์ทั้งหลายไปนานถึงเพียงนี้? ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงกอบกู้ข้าพระองค์ทั้งหลายกลับคืนสู่พระองค์ เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะหวนกลับมา โปรดทรงฟื้นฟูอดีตอันรุ่งเรืองของข้าพระองค์ทั้งหลายกลับคืนมา
เพลงคร่ำครวญ 5:1-21 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดระลึกเถิดว่า ได้เกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา โปรดมองดูความอับอายของพวกเรา แผ่นดินของพวกเรากลายเป็นของคนแปลกหน้าแล้ว บ้านเมืองของเราเป็นของชนต่างชาติ พวกเราได้กลายมาเป็นคนกำพร้าพ่อ แม่ของพวกเราเป็นเหมือนแม่ม่าย พวกเราต้องซื้อน้ำดื่ม ไม้เราก็ต้องซื้อ พวกเราถูกใช้งานด้วยแอกที่สวมคอ พวกเราเหนื่อยล้า แต่เขาไม่ยอมให้พัก พวกเรายอมก้มต่ออียิปต์และอัสซีเรีย ก็เพื่อให้ได้อาหารเพียงพอจากพวกเขา บรรพบุรุษของพวกเราทำบาปและเสียชีวิตไปหมดแล้ว ส่วนเราต้องทนทุกข์รับโทษจากความชั่วของพวกเขา บรรดาทาสปกครองเหนือพวกเรา ไม่มีใครที่ช่วยพวกเราให้พ้นจากอำนาจของพวกเขาได้ พวกเราเสี่ยงชีวิตก็เพื่อหาอาหาร เหตุเพราะมีคนที่ใช้อาวุธอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ผิวหนังของพวกเราร้อนเหมือนเตาอบ เราหิวโหยจนเป็นไข้ บรรดาผู้หญิงถูกข่มขืนในศิโยน บรรดาหญิงบริสุทธิ์ก็ถูกย่ำยีในเมืองแห่งยูดาห์ บรรดาผู้นำถูกพวกเขาแขวนคอ ไม่มีใครเคารพต่อบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ บรรดาชายหนุ่มถูกบังคับให้ทำงานที่โรงโม่ เด็กผู้ชายแบกหามไม้หนักเกินกำลัง บรรดาผู้สูงอายุเลิกให้คำปรึกษาที่ประตูเมือง ชายหนุ่มหยุดเล่นดนตรี ความรื่นเริงไม่อยู่ในจิตใจของพวกเราแล้ว การร่ายรำก็กลายเป็นการร้องคร่ำครวญ มงกุฎได้หลุดจากศีรษะของพวกเรา วิบัติตกอยู่กับพวกเราเพราะบาปที่กระทำ เพราะเหตุนี้ พวกเราจึงระทมใจ เพราะสิ่งเหล่านี้สายตาจึงมืดลง เพราะภูเขาศิโยนเป็นที่รกร้าง พวกหมาในจึงวนเวียนหาเหยื่ออยู่บนนั้น โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ครองบัลลังก์ตลอดกาล บัลลังก์ของพระองค์มั่นคงอยู่ทุกชั่วอายุคน เหตุใดพระองค์จึงลืมพวกเราเสมอ เหตุใดพระองค์จึงทอดทิ้งพวกเรานานเช่นนี้ โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดนำพวกเรากลับมาหาพระองค์เถิด พวกเราจะได้กลับมาและมีชีวิตขึ้นใหม่อย่างที่เคยเป็นในสมัยก่อน