เพลงคร่ำครวญ 2:1-22
เพลงคร่ำครวญ 2:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แย่แล้ว แย่แล้ว ด้วยความโกรธของพระยาห์เวห์ พระองค์ได้ทำให้นางสาวศิโยน น่าขยะแขยง พระองค์ได้โยนศักดิ์ศรีของอิสราเอลจากท้องฟ้าลงสู่ดิน พระองค์ไม่สนใจที่จะปกป้องเกียรติของที่วางเท้าของพระองค์ ตอนที่พระองค์โกรธ พระยาห์เวห์ได้ทำลายที่พักอาศัยทั้งหมดของยาโคบ พระองค์ไม่มีเมตตากับเขาเลย ตอนที่พระองค์โกรธ พระองค์ได้ทำลายพวกป้อมปราการของนางสาวยูดาห์ พระองค์ดึงเธอลงมาบนดิน พระองค์ทำให้อาณาจักรของยูดาห์และผู้นำทั้งหลายเสื่อมเกียรติไป ตอนที่พระองค์โกรธ พระองค์ได้ตัดเขาสัตว์ของอิสราเอล พระองค์เลิกปกป้องอิสราเอล ในขณะที่ข้าศึกกำลังบุกเข้ามาใกล้ และพระองค์ก็เผายาโคบ เหมือนเปลวเพลิงที่เผาผลาญทุกอย่างรอบๆมัน พระองค์โก่งคันธนูราวกับว่าเป็นศัตรู มือขวาของพระองค์เล็งอย่างไม่สั่นไหวราวกับเป็นปรปักษ์ พระองค์ฆ่าชายที่หล่อเหลาของยูดาห์จนหมด พระองค์เทความโกรธแค้นของพระองค์เหมือนไฟเข้าไปในเต็นท์ของนางสาวศิโยน องค์เจ้าชีวิตเป็นเหมือนศัตรู พระองค์กลืนกินอิสราเอล พระองค์กลืนกินป้อมปราการทั้งหมดของเธอ พระองค์กลืนกินเมืองทั้งหลายของเธอที่มีกำแพงกั้น พระองค์ทวีความเศร้าโศกและการคร่ำครวญให้กับนางสาวยูดาห์ พระองค์ถอนวิหารของพระองค์เหมือนกับถอนเพิงในสวน พระองค์ทำลายเต็นท์นัดพบของพระองค์ พระองค์ทำให้เทศกาลและวันหยุดทางศาสนาทั้งหลายจบสิ้นไปในเมืองศิโยน พระองค์ดูถูกเหยียดหยามทั้งกษัตริย์และนักบวชตอนที่พระองค์โกรธจัด พระยาห์เวห์ทอดทิ้งแท่นบูชาของพระองค์ พระองค์บอกปัดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ พระองค์มอบกำแพงป้อมปราการของเยรูซาเล็มให้ตกอยู่ในกำมือศัตรู พวกศัตรูต่างโห่ร้องกันในวิหารของพระยาห์เวห์ เหมือนกับมีงานเทศกาล พระยาห์เวห์ได้ตัดสินใจทำลายกำแพงเมืองของนางสาวศิโยน พระองค์ได้วัดดูแล้วว่าจะทำลายถึงแค่ไหน พระองค์ไม่ได้หดมือกลับจากการทำลายมัน พระองค์ทำให้ป้อมปราการและกำแพงร้องคร่ำครวญ พวกมันทรุดโทรมไปด้วยกัน ประตูเมืองต่างๆของเยรูซาเล็มทรุดลงในดิน พระองค์ทำลายเหล็กดาลประตูทั้งหลาย จนแตกละเอียด กษัตริย์และผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย ไม่เหลือใครเลยที่จะอยู่ให้คำสั่งสอน แม้แต่พวกผู้พูดแทนพระเจ้าของเธอก็ไม่ได้รับนิมิตจากพระยาห์เวห์ พวกผู้อาวุโสของนางสาวศิโยน ต่างพากันนั่งเงียบอยู่กับพื้น พวกเขาต่างก็โยนฝุ่นลงบนหัวของตน พวกเขาสวมใส่เสื้อผ้ากระสอบ พวกหญิงสาวบริสุทธิ์ของเยรูซาเล็มต่างก้มหัวลงถึงพื้นด้วยความเสียใจ ตาของผมมีน้ำตาคลอเบ้า ท้องไส้ผมปั่นป่วนไปหมดแล้ว ตับผมทะลักลงสู่ดินแล้ว เพราะคนของผมถูกทำลาย ลูกเล็กเด็กแดงก็เป็นลมล้มพับไปบนถนนในเมือง พวกเด็กๆพูดกับแม่ของพวกเขาว่า “แม่จ๋า อาหารและเครื่องดื่มอยู่ที่ไหน” พวกเขาเป็นลมล้มพับไปที่ลานเมือง เหมือนคนบาดเจ็บและตายไปในอ้อมอกของแม่ นางสาวเยรูซาเล็ม จะให้ผมเปรียบเจ้าเหมือนกับอะไรดี จะให้เปรียบเจ้ากับอะไรดี นางสาวศิโยน จะให้ผมเอาเจ้าไปเปรียบกับอะไรดี จะให้ผมปลอบโยนเจ้ายังไงดี ความหายนะของเจ้านั้นยิ่งใหญ่เหมือนทะเล ใครจะเยียวยารักษาเจ้าได้ พวกผู้พูดแทนพระเจ้าของเจ้าได้บอกเจ้าเกี่ยวกับนิมิตที่พวกเขาเห็น แต่นิมิตพวกนั้นมันไร้สาระและเชื่อไม่ได้ พวกเขาไม่ได้เปิดเผยความผิดบาปของเจ้า เพื่อเจ้าจะได้คืนสู่สภาพดีเหมือนเดิม แต่พวกเขากลับพูดนิมิตจอมปลอมเกี่ยวกับเจ้า เพื่อนำให้เจ้าหลงไป ทุกคนที่เดินผ่านมาทางนั้นต่างตบมือเยาะเจ้า พวกเขาผิวปากและส่ายหัวต่อเจ้า นางสาวเยรูซาเล็ม พวกเขาพูดเยาะว่า “นี่นะหรือเมืองที่ผู้คนต่างพูดกันว่า เป็นเมืองที่สวยอย่างไม่มีที่ติ ซึ่งเคยให้ความสุขกับคนทั้งโลก” พวกศัตรูทั้งหมดของเจ้าจะเปิดปากกว้างหัวเราะเยาะเจ้า พวกเขาจะผิวปากและกัดฟันและพูดว่า “เราได้กลืนกินพวกเขาไปจนหมด นี่แหละเป็นวันที่พวกเรารอคอย วันนั้นได้มาถึงแล้ว และเราก็ได้เห็นมันกับตาของพวกเราเอง” พระยาห์เวห์ได้ทำในสิ่งที่พระองค์วางแผนไว้ พระองค์ได้ทำตามคำขู่ของพระองค์ พระองค์ได้ทำตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้นานมาแล้ว พระองค์ได้ทำลายมันลงโดยไม่สงสาร พระองค์ทำให้ศัตรูของเจ้าเฉลิมฉลองกัน พระองค์ได้ทำให้ศัตรูของเจ้าเข้มแข็งขึ้น กำแพงเมืองของนางสาวศิโยน ร้องเรียกองค์เจ้าชีวิตจากใจของเจ้า ให้น้ำตาของเจ้าไหลพรั่งพรูออกมาเหมือนลำธาร ทั้งวันทั้งคืน อย่าได้หยุดร้องเลย อย่าให้ดวงตาของเจ้าได้หยุดพักจากการร้องไห้ ลุกขึ้นมาร้องตะโกนในยามค่ำคืน ลุกขึ้นมาร้องตะโกนในทุกช่วงต้นยาม เทใจของเจ้าออกมาเหมือนน้ำต่อหน้าองค์เจ้าชีวิต ชูมือของเจ้าขึ้นต่อพระองค์เพื่อขอชีวิตของลูกๆเจ้าที่เป็นลมล้มพับไปเพราะความหิวตามหัวถนนต่างๆ มองดูสิ พระยาห์เวห์ สังเกตดูสิว่า พระองค์ได้ทำอย่างนี้กับใคร สมควรแล้วหรือที่ผู้หญิงจะกินลูกของตัวเอง ลูกๆที่พวกเขาดูแล สมควรแล้วหรือที่พวกนักบวชและพวกผู้พูดแทนพระเจ้าจะถูกฆ่าในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าชีวิต ทั้งคนหนุ่มและคนแก่นอนคว่ำอยู่บนพื้นกลางถนน คนสาวๆและหนุ่มๆของผมถูกดาบฆ่าฟันล้มลง พระองค์ฆ่าพวกเขาในวันที่พระองค์โกรธ พระองค์สังหารพวกเขาอย่างไร้ความเมตตา พระองค์เรียกศัตรูจากรอบข้างให้มาข่มขวัญฉันราวกับว่าพระองค์เชิญพวกเขามางานเลี้ยง ในวันที่พระยาห์เวห์โกรธนั้น ไม่มีใครหนีพ้นหรือรอดชีวิตอยู่ ศัตรูของฉันได้ทำลายลูกๆที่ฉันเฝ้าทะนุถนอมเลี้ยงดูมาจนหมดสิ้น
เพลงคร่ำครวญ 2:1-22 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ด้วยพระพิโรธ พระเจ้าทรงใช้เมฆ บังธิดาของศิโยนหนอ พระองค์ได้ทรงเหวี่ยงสง่าราศีของอิสราเอล ให้ตกลงจากฟ้าถึงดิน พระองค์มิได้ทรงระลึกถึงแท่นรองพระบาทของพระองค์เลย ในยามที่พระองค์ทรงกริ้ว พระเจ้าทรงทำลายที่อยู่ของยาโคบเสียสิ้นแล้ว โดยปราศจากพระกรุณา ด้วยพระพิโรธของพระองค์ได้ทรงพัง ที่กำบังทั้งหลายของธิดาแห่งยูดาห์ให้ทลายลง พระองค์ได้ทรงกระทำให้ต่ำลงถึงดิน และทรงให้ราชอาณาจักรและเจ้านายเป็นสิ่งมลทิน ด้วยพระพิโรธ พระองค์ได้ทรงตัด บรรดาอำนาจแห่งอิสราเอลให้ขาดสิ้นไป พระองค์ทรงหดพระหัตถ์เบื้องขวา มาเสียจากเขา ต่อหน้าศัตรู พระองค์ทรงเผาผลาญตระกูลยาโคบดุจเพลิง ลุกโพลงไหม้ไปรอบๆ พระองค์ทรงโก่งธนูของพระองค์อย่างศัตรู ทรงยกพระหัตถ์เบื้องขวาทีท่าปัจจามิตร และได้ทรงประหารบรรดาคนที่ตาของเราจะอวดได้นั้นเสีย ในกระโจมของธิดาแห่งศิโยน พระองค์ได้ทรงระบายพระพิโรธของพระองค์ออกมาดุจเพลิง พระเจ้าทรงกลายเป็นศัตรู พระองค์ได้ทรงทำลายพวกอิสราเอลเสีย พระองค์ได้ทรงทำลายบรรดาวังของเขาหมด และได้ทรงทำลายที่กำบังของเขาให้ปรักหักพัง ทรงทวีความเศร้าโศกและการคร่ำครวญ ในธิดาแห่งยูดาห์ พระองค์ได้ทรงพังพลับพลา ของพระองค์เสียเหมือนหนึ่งเป็นเพิงในสวน ทรงให้สถานประชุมของพระองค์ปรักหักพังไป พระเจ้าได้ทรงกระทำทั้งเทศกาลและวันสะบาโต ให้หมดสิ้นไปในศิโยน ด้วยพระพิโรธ พระองค์ทรงดูถูกองค์กษัตริย์และปุโรหิต พระเจ้าได้ทรงทิ้งแท่นบูชาของพระองค์เสีย พระองค์ทรงเกลียดสถานนมัสการของพระองค์ กำแพงวังทั้งหลายนั้น พระองค์ได้ทรงมอบไว้ในเงื้อมมือศัตรู เขาทั้งหลายได้ส่งเสียงอึกทึก ในพระนิเวศแห่งพระเจ้า เหมือนอย่างในวันเทศกาล พระเจ้าได้ทรงตั้งพระทัยไว้แล้วที่จะทำลาย กำแพงของธิดาแห่งศิโยนเสีย พระองค์ได้ทรงขึงเส้นวัดไว้แล้ว พระองค์มิได้ทรงหดพระหัตถ์เลิกการทำลาย เหตุฉะนี้พระองค์ได้ทรงกระทำให้ เนินดินและกำแพงนั้นคร่ำครวญ ให้ทรุดโทรมร่วงโรยไปด้วยกัน ประตูเมืองศิโยนทั้งสิ้นทรุดลงในดินแล้ว พระองค์ได้ทรงทำลาย และทรงหักดาลประตูทั้งปวงเสียสิ้น กษัตริย์และเจ้านายทั้งหลายแห่งศิโยนก็ตกอยู่ท่ามกลางประชาชาติ ที่ที่ไม่มีธรรมบัญญัติ เออ บรรดาผู้เผยพระวจนะแห่งเมืองศิโยน หาได้รับนิมิตจากพระเจ้าอีกไม่ พวกผู้ใหญ่ของธิดาแห่งศิโยน ก็กำลังนั่งเงียบอยู่บนพื้นแผ่นดิน เขาทั้งหลายเอาผงคลีดินซัดขึ้นบนศีรษะของตัว และนุ่งห่มผ้ากระสอบ สาวพรหมจารีทั้งหลายแห่งกรุงเยรูซาเล็มคอตก นัยน์ตาของข้าพเจ้าก็ร่วงโรย เพราะร้องไห้ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าก็ระทม เพราะความพินาศของธิดาแห่งชนชาติของข้าพเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าก็ระทม และเพราะเหล่าลูกเด็กเล็กแดงที่ดูดนมอยู่นั้น เป็นลมสลบอยู่ตามลานในกรุง ลูกทั้งหลายถามแม่ของตัวว่า <<แม่จ๋า ข้าวและเหล้าองุ่นอยู่ที่ไหน>> เขาพากันถาม ขณะเมื่อเขาเป็นลม ดุจคนที่ถูกบาดเจ็บที่ลานในกรุง เมื่อชีวิตของเขาต้องสิ้นไป ที่อกแม่ของเขาทั้งหลาย โอ ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย ข้าพเจ้าจะเอาอะไรมาเปรียบกับเจ้าได้ ข้าพเจ้าจะเปรียบเจ้ากับอะไร โอ ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยนเอ๋ย ข้าพเจ้าจะเอาเจ้าไปเปรียบได้แก่อะไร เพื่อข้าพเจ้าจะเล้าโลมเจ้าได้ เพราะความอับปางของเจ้าก็ใหญ่เทียมเท่าสมุทร ผู้ใดจะให้เจ้ากลับสู่สภาพเดิมเล่า ผู้เผยพระวจนะของเจ้าได้เห็น นิมิตลวงและนิมิตไม่เป็นเรื่องเป็นราวมาบอกเจ้า แทนที่เขาจะเผยบาปของเจ้าออกมาให้ประจักษ์ เพื่อจะให้เจ้ากลับสู่สภาพดี เขาทั้งหลายกลับได้ครุวาท เป็นเหตุให้เจ้าหลง บรรดาคนที่ได้ผ่านเจ้าไป ก็ได้ตบมือเยาะเจ้า เขาทั้งหลายได้หยัน และได้สั่นศีรษะ เยาะธิดาแห่งเยรูซาเล็มแล้วว่า <<นี่หรือคือกรุง ที่คนทั้งหลายได้ขนานนาม ว่างามหมดจด ว่าเป็นความชื่นชมยินดีของคนทั่วทั้งโลก>> บรรดาศัตรูของเจ้า ได้อ้าปากตะโกนโพนทะนาเจ้า เขาทั้งหลายแสยะปากและขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขาพากันร้องว่า <<พวกเราได้ทำลายเมืองนี้แล้ว วันนี้แหละ คือวันที่พวกเราได้จ้องมองหา พวกเราได้พบแล้ว พวกเราเห็นแล้ว>> พระเจ้าได้ทรงกระทำตามพระประสงค์แล้ว ได้ทรงกระทำให้พระดำรัสของพระองค์สำเร็จ ตามที่พระองค์ได้สถาปนาไว้นานแล้ว พระองค์ก็ได้ทรงทำลายลงอย่างไม่มีพระเมตตา พระองค์ทรงกระทำให้ศัตรูเปรมปรีดิ์เย้ยเจ้า พระองค์ได้ทรงชูกำลังพวกศัตรูของเจ้าขึ้น จิตใจของเขาทั้งหลายร้องทูลพระเจ้าว่า โอ กำแพงของธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย จงหลั่งน้ำตาให้ไหลอาบ ทั้งกลางวันและกลางคืนดุจน้ำในลำธาร เจ้าอย่าได้หยุดหย่อนเลย อย่าให้น้ำตาแห้งจากลูกตาเลย จงลุกขึ้นร้องไห้ในกลางคืน ตามยาม ระบายความในใจของเจ้าออกมาอย่างน้ำ ตรงพระพักตร์พระเจ้า จงชูมือทั้งสองของเจ้าขึ้นตรงไปยังพระองค์ เพื่อขอชีวิตของบรรดาลูกเด็กเล็กแดงของเจ้า ที่หิวจนเป็นลมสลบไป ตามหัวถนนหนทางทุกแห่ง ข้าแต่พระเจ้า ขอทอดพระเนตรเถิดว่า พระองค์ได้ทรงกระทำการเช่นนี้แก่ผู้ใด ควรที่พวกผู้หญิงจะกินลูกของตนหรือ จะกินทารกที่ยังอุ้มอยู่หรือ พวกปุโรหิตและพวกผู้เผยพระวจนะ ควรจะถูกประหารในสถานนมัสการขององค์พระผู้เป็นเจ้าหรือ คนหนุ่มและคนแก่ นอนเหยียดอยู่ตามพื้นดินในถนน สาวพรหมจารีและชายหนุ่มของข้าพระองค์ ถูกคมกระบี่หวดล้มลงแล้ว พระองค์ได้ทรงประหารเขาในวันเมื่อพระองค์ทรงกริ้ว ได้ทรงสังหารเขาเสียโดยปราศจากพระกรุณา พระองค์ได้ทรงเรียกผู้ที่ข้าพระองค์กลัวรอบทุกด้านมาอย่างในวันเทศกาล พอถึงวันที่พระองค์ทรงพระพิโรธ ก็ไม่มีสักคนหนึ่งหนีเอาตัวรอดได้หรือคงเหลือตกค้างรอดตายอยู่ ผู้ที่ข้าพระองค์ได้อุ้มชูและเลี้ยงดูมานั้น ศัตรูของข้าพระองค์ได้เผาผลาญเสียหมดแล้ว
เพลงคร่ำครวญ 2:1-22 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
พระผู้เป็นเจ้าคลุมธิดาแห่งศิโยน ด้วยเมฆหมอกแห่งความกริ้วของพระองค์ พระองค์เหวี่ยงความรุ่งเรืองของอิสราเอล จากฟ้าสวรรค์ลงสู่แผ่นดินโลก พระองค์ไม่ระลึกถึงที่วางเท้าของพระองค์ ในวันที่พระองค์กริ้ว พระผู้เป็นเจ้าได้ทำลายที่อยู่อาศัย ของยาโคบอย่างไม่ปรานี พระองค์พังป้อมปราการอันแข็งแกร่ง ของธิดาแห่งยูดาห์เป็นการลงโทษ พระองค์ทำให้อาณาจักรและบรรดาผู้ปกครองแผ่นดิน ล้มลงจมกองธุลีอย่างไร้เกียรติ พระองค์ทำให้อิสราเอลอ่อนกำลังลง ด้วยความกริ้วอันร้อนแรง พระองค์ไม่ช่วยเหลือพวกเขาอีก ในเวลาที่ปะทะกับศัตรู พระองค์โกรธมากดั่งเปลวไฟที่ลุกในยาโคบ ซึ่งเผาผลาญทุกสิ่งโดยรอบ พระองค์โก่งคันธนูประดุจศัตรู มือขวาของพระองค์เล็งประดุจปรปักษ์ พระองค์ได้สังหารทุกคนที่พวกเรารัก ความกริ้วของพระองค์ได้พลุ่งขึ้นดั่งเปลวไฟ ในกระโจมของธิดาแห่งศิโยน พระผู้เป็นเจ้าเป็นประดุจศัตรู พระองค์ได้ทำให้อิสราเอลพินาศ พระองค์ได้ทลายวังทั้งหลาย และป้อมปราการอันแข็งแกร่งลง พระองค์ทำให้มีการร้องรำพันและร้องคร่ำครวญมากยิ่งขึ้น ในเขตแดนของธิดาแห่งยูดาห์ พระองค์ได้พังที่พำนักของพระองค์เหมือนกระทำกับสวน พังสถานที่นัดพบของพระองค์ พระผู้เป็นเจ้าได้ทำให้ศิโยนไม่ระลึกถึงเทศกาลที่กำหนดไว้และวันสะบาโต พระองค์โกรธมหันต์จึงได้ทำให้เกียรติของกษัตริย์และบรรดาปุโรหิตเสื่อมลง พระผู้เป็นเจ้าไม่ยอมรับแท่นบูชาของพระองค์ และทอดทิ้งที่พำนักของพระองค์ พระองค์ปล่อยให้ศัตรู ทลายกำแพงเมืองของนางลง พวกเขาตะโกนร้องในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ประหนึ่งวันฉลองเทศกาล พระผู้เป็นเจ้าตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า จะทลายกำแพงเมืองของธิดาแห่งศิโยน พระองค์ใช้เชือกเป็นมาตรฐานในการวัด และไม่ยั้งมือที่จะทำลาย พระองค์ทำให้ที่คุ้มกันและกำแพงเมืองร้องร่ำรำพัน และทรุดโทรมไปด้วยกัน ประตูเมืองของนางทรุดลงที่พื้นดิน พระองค์ได้หักและพังดาลประตูลง กษัตริย์และบรรดาผู้สูงศักดิ์ลี้ภัยไปอยู่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ไม่มีกฎบัญญัติอีกต่อไป บรรดาผู้เผยคำกล่าวไม่ได้รับภาพนิมิต จากพระผู้เป็นเจ้าอีกต่อไป บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของธิดาแห่งศิโยน นั่งนิ่งเงียบบนพื้นดิน และได้ปาฝุ่นผงลงบนหัวของตน และสวมผ้ากระสอบ บรรดาพรหมจาริณีแห่งเยรูซาเล็ม ก็ได้ก้มหัวลงกับพื้นดิน ตาของข้าพเจ้าพร่าพรายจากการร้องไห้ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าว้าวุ่น ข้าพเจ้าใจแทบขาดด้วยความเศร้า ก็เพราะธิดาแห่งชนชาติของข้าพเจ้าถูกสังหาร ทารกและเด็กหมดเรี่ยวแรง อยู่ในที่สาธารณะ เด็กเหล่านั้นร้องถามบรรดาแม่ๆ ของพวกเขาว่า “ไหนล่ะ อาหารและน้ำ” เมื่อพวกเขาหมดเรี่ยวแรงเหมือนกับคนบาดเจ็บในที่สาธารณะ เมื่อชีวิตของพวกเขาแทบจะสลาย ในอ้อมอกแม่ ข้าพเจ้าจะเป็นพยานพูดอะไรให้ท่านได้ ข้าพเจ้าจะเปรียบท่านกับอะไร โอ ธิดาแห่งเยรูซาเล็ม มีอะไรที่ข้าพเจ้าจะเห็นด้วยกับท่าน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ปลอบประโลมท่าน โอ ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยน แผลของท่านลึกเทียบเท่าท้องทะเล ใครจะรักษาท่านให้หายได้ บรรดาผู้เผยคำกล่าวบอกพวกท่านถึงภาพนิมิต ซึ่งเท็จและลวงหลอก พวกเขาไม่ได้บอกท่านว่า ท่านกระทำบาป เพื่อท่านจะได้หลุดพ้นจากการเป็นเชลย แต่พวกเขากลับพูดถึงภาพนิมิต ซึ่งเท็จและทำให้ท่านหลงผิด ทุกคนที่เดินผ่านมาก็ตบมือใส่ท่าน พวกเขาเหน็บแนมและส่ายหัว ให้กับธิดาแห่งเยรูซาเล็ม “นี่หรือ เมืองที่เรียกว่า ดีเพียบพร้อมและงามตระการ เป็นที่ยินดีไปทั่วแผ่นดินโลก” ศัตรูทุกคนของท่านพูดล้อเลียนท่าน พวกเขาเหน็บแนมและเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ และพูดว่า “พวกเรากลืนนางได้แล้ว เออ พวกเรารอคอยวันนี้มานานแล้ว เรามีชีวิตอยู่ก็เพื่อจะได้เห็นอย่างนี้นี่เอง” พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำสิ่งที่พระองค์มุ่งหมาย พระองค์ได้ทำให้เกิดขึ้นตามคำกล่าวของพระองค์ ซึ่งพระองค์บัญชาไว้นานมาแล้ว พระองค์ได้ทำให้ท่านหายนะอย่างไม่ปรานี พระองค์ทำให้ท่านเป็นที่สะใจของพวกศัตรู พระองค์ได้ให้พละกำลังของเหล่าปรปักษ์แข็งแกร่ง ใจของพวกเขาร้องต่อพระผู้เป็นเจ้า โอ กำแพงเมืองของธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย ให้น้ำตาไหลพรากอย่างกระแสน้ำ ตลอดวันและคืนเถิด ท่านไม่ต้องพัก ไม่ต้องหยุดร้อง จงลุกขึ้น ร่ำไห้ในยามค่ำ ตลอดทุกยาม จงเปิดใจของท่าน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า ยกมือของท่านอธิษฐานต่อพระองค์ เพื่อชีวิตของลูกๆ ของท่าน ซึ่งหมดเรี่ยวแรงเพราะความหิว อยู่ตามถนนหนทาง โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดเหลียวดูและมองดู พระองค์เคยกระทำเช่นนี้ต่อใครบ้าง บรรดาผู้หญิงควรจะกินลูกในไส้ของตน ที่เคยเลี้ยงดูมาอย่างนั้นหรือ ปุโรหิตและผู้เผยคำกล่าวควรจะถูกฆ่า ในที่พำนักของพระผู้เป็นเจ้าหรือ ทั้งเด็กและคนชรา นอนตายบนถนน บรรดาชายหนุ่มและหญิงสาว ถูกดาบฆ่าตาย พระองค์ได้สังหารพวกเขาในวันที่พระองค์กริ้ว พระองค์ประหารพวกเขาอย่างไร้ความปรานี พระองค์เรียกศัตรูของข้าพเจ้ามาจากทุกแห่งหน อย่างกับว่าพระองค์เรียกให้มาในวันฉลอง ไม่มีใครหนีรอดหรือคงชีวิตอยู่ได้ ในวันแห่งความกริ้วของพระผู้เป็นเจ้า พวกศัตรูของข้าพเจ้าได้ทำให้ บรรดาผู้ที่ข้าพเจ้าดูแลและอุ้มชูพินาศ
เพลงคร่ำครวญ 2:1-22 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
อนิจจา ด้วยพระพิโรธ องค์เจ้านายทรงทำให้ธิดาแห่งศิโยนอับอาย พระองค์ได้ทรงเหวี่ยงศักดิ์ศรีของอิสราเอล ให้ตกจากฟ้าถึงดิน พระองค์มิได้ทรงระลึกถึงแท่นรองพระบาท ในวันแห่งพระพิโรธ ב (เบท) องค์เจ้านายทรงทลายที่อยู่ทั้งสิ้นของยาโคบ โดยปราศจากพระกรุณา ด้วยความกริ้ว พระองค์ได้ทรงพัง ที่กำบังทั้งหลายของธิดาแห่งยูดาห์ พระองค์ได้ทรงดึงให้ต่ำลงถึงดินและเสื่อมเกียรติ คือราชอาณาจักรและเจ้านาย ג (กิเมล) ด้วยพระพิโรธรุนแรง พระองค์ได้ทรงตัด เขาของอิสราเอลจนสิ้น พระองค์หดพระหัตถ์ขวาจากพวกเขา ต่อหน้าศัตรู พระองค์ทรงเผาผลาญยาโคบดุจเปลวเพลิง ที่ไหม้ไปโดยรอบ ד (ดาเลท) พระองค์ทรงโก่งคันศรอย่างทรงเป็นศัตรู พระองค์ยกพระหัตถ์ขวาอย่างทรงเป็นอริ และได้ทรงประหารทุกคนที่ดวงตาของเราชมชอบนั้น ในกระโจมของธิดาแห่งศิโยน พระองค์ได้ทรงระบายพระพิโรธออกมาดุจเพลิง ה (เฮ) องค์เจ้านายทรงเป็นดั่งศัตรู พระองค์ทรงทลายอิสราเอล พระองค์ทรงทลายวังทุกแห่งของเธอ พระองค์ทรงทำลายที่กำบังของเธอ และพระองค์ทรงทวีความเศร้าโศกและการคร่ำครวญ ในธิดาแห่งยูดาห์ ו (วาว) พระองค์ทรงพังพลับพลาของพระองค์เหมือนเพิงในสวน ทรงทำลายสถานที่ประชุมของพระองค์ พระยาห์เวห์ทรงทำให้ทั้งเทศกาลเลี้ยงและวันสะบาโต หมดสิ้นไปในศิโยน ด้วยพระพิโรธเกรี้ยวกราด พระองค์ทรงดูถูก กษัตริย์และปุโรหิต ז (ซายิน) องค์เจ้านายทรงทิ้งแท่นบูชาของพระองค์ ทรงเกลียดสถานนมัสการของพระองค์ พระองค์ทรงมอบไว้ในมือศัตรู คือทรงมอบกำแพงวังทั้งหลายนั้น เขาทั้งหลายได้ส่งเสียงอึกทึกในพระนิเวศแห่งพระยาห์เวห์ เหมือนอย่างในวันเทศกาลเลี้ยง ח (เฆท) พระยาห์เวห์ตั้งพระทัยแล้วที่จะทลาย กำแพงของธิดาแห่งศิโยน พระองค์ทรงขึงสายวัดไว้แล้ว พระองค์มิได้หดพระหัตถ์จากการทำลาย พระองค์ทรงทำให้เนินดินและกำแพงนั้นคร่ำครวญ ให้ทรุดโทรมร่วงโรยไปด้วยกัน ט (เทท) ประตูทั้งหลายของศิโยนทรุดลงในดินแล้ว พระองค์ได้ทรงทำลายและหักดาลประตู กษัตริย์และบรรดาเจ้านายแห่งศิโยนตกอยู่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ไม่มีธรรมบัญญัติ บรรดาผู้เผยพระวจนะแห่งศิโยน ก็หาได้รับนิมิตจากพระยาห์เวห์อีกไม่ י (โยด) พวกผู้ใหญ่ของธิดาแห่งศิโยน นั่งเงียบอยู่บนพื้นแผ่นดิน เขาเอาผงคลีดินซัดขึ้นบนศีรษะ และนุ่งห่มผ้ากระสอบ บรรดาสาวพรหมจารีแห่งเยรูซาเล็ม ค้อมศีรษะลงจดดิน כ (คาฟ) ดวงตาข้าพเจ้าก็ร่วงโรยเพราะร้องไห้ จิตข้าพเจ้าก็วุ่นวาย ใจข้าพเจ้าก็ระทม เพราะความพินาศแห่งประชาชนของข้าพเจ้า และเพราะเด็กเล็กและเด็กอ่อนเป็นลมสลบ อยู่ตามลานเมือง ל (ลาเมค) เด็กๆ ถามแม่ของตัวว่า “อาหารและน้ำดื่มอยู่ที่ไหน?” ขณะเขาเป็นลมสลบดุจคนบาดเจ็บสาหัส อยู่ตามลานเมือง เมื่อชีวิตของเขาต้องสิ้นไป ที่อกแม่ของเขา מ (เมม) โอ ธิดาแห่งเยรูซาเล็ม ข้าจะพูดอะไรเพื่อช่วยเจ้า? ข้าจะเปรียบเจ้ากับอะไร? โอ ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยน ข้าจะเทียบเจ้ากับอะไร เพื่อจะปลอบโยนเจ้าได้? เพราะหายนะของเจ้าใหญ่ดุจทะเล ผู้ใดจะเยียวยาเจ้าได้เล่า? נ (นูน) ผู้เผยพระวจนะของเจ้าได้เห็น นิมิตลวงและนิมิตหลอกมาบอกเจ้า แทนที่เขาจะเผยบาปของเจ้า เพื่อให้เจ้ากลับสู่สภาพดี เขากลับเห็นนิมิตสำหรับเจ้า อันเป็นเท็จและล่อลวง ס (สาเมค) ทุกคนที่ผ่านทางนั้น ก็ตบมือเยาะเจ้า เขาทั้งหลายได้หยันและสั่นศีรษะ เย้ยธิดาแห่งเยรูซาเล็มว่า “นี่หรือคือนครที่คนทั้งหลายได้ขนานนามว่า งามเลิศ ว่าเป็นความชื่นชมยินดีของคนทั่วโลก?” פ (เพ) ศัตรูทั้งหมดของเจ้า ได้อ้าปากว่าเจ้า เขาทั้งหลายหยันและขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขาพากันร้องว่า “เราได้ทลายเมืองนี้แล้ว วันนี้แหละที่เรารอคอย เราพบแล้ว เราเห็นแล้ว” ע (อายิน) พระยาห์เวห์ทรงทำตามพระประสงค์แล้ว ทรงทำให้พระดำรัสสำเร็จ ตามที่ทรงบัญชาไว้นานแล้ว พระองค์ได้ทรงทำลายลงโดยปราศจากพระกรุณา ทรงทำให้ศัตรูเปรมปรีดิ์เย้ยเจ้า ทรงเสริมกำลังแก่พวกศัตรูของเจ้า צ (ซาเด) ใจของพวกเขาร้องทูลองค์เจ้านายว่า โอ กำแพงของธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย จงให้น้ำตาไหลพรั่งพรูดุจสายธาร ทั้งกลางวันและกลางคืน เจ้าอย่าได้หยุดหย่อนเลย อย่าให้ดวงตาได้พักเลย ק (โคฟ) จงลุกขึ้นร้องทูลตอนกลางคืนทุกยาม จงระบายความในใจของเจ้าออกมาอย่างน้ำ เฉพาะพระพักตร์องค์เจ้านาย จงชูมือทั้งสองของเจ้าขึ้นตรงไปยังพระองค์ เพื่อขอชีวิตลูกเด็กเล็กแดงของเจ้า ที่หิวจนเป็นลมสลบไป ตามหัวถนนทุกแห่ง ר (เรช) ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทอดพระเนตรเถิดว่า พระองค์ได้ทรงทำการเช่นนี้แก่ผู้ใด? ควรที่ผู้หญิงจะกินลูกของตน จะกินทารกที่ยังอุ้มอยู่หรือ? ปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะควรจะถูกประหาร ในสถานนมัสการขององค์เจ้านายหรือ? ש (ซิน) ผู้อ่อนวัยและผู้สูงวัย นอนอยู่ตามพื้นดินบนถนน คนหนุ่มและคนสาวของข้าพระองค์ ล้มลงด้วยดาบ พระองค์ทรงประหารพวกเขาในวันแห่งพระพิโรธ ทรงสังหารโดยปราศจากพระกรุณา ת (ทาว) พระองค์ทรงเรียกผู้ที่ข้าพระองค์กลัวจากรอบด้าน มาอย่างในวันเทศกาลเลี้ยง พอถึงวันแห่งพระพิโรธของพระยาห์เวห์ ก็ไม่มีสักคนหนึ่งหนีรอดได้ ผู้ที่ข้าพระองค์ได้อุ้มชูและเลี้ยงดูมานั้น ศัตรูของข้าพระองค์ได้ทำลายแล้ว
เพลงคร่ำครวญ 2:1-22 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ด้วยพระพิโรธ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้เมฆบังธิดาของศิโยนหนอ พระองค์ได้ทรงเหวี่ยงสง่าราศีของอิสราเอลให้ตกลงจากฟ้าถึงดิน พระองค์มิได้ทรงระลึกถึงแท่นรองพระบาทของพระองค์เลยในยามที่พระองค์ทรงกริ้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกลืนที่อยู่ทั้งสิ้นของยาโคบเสียแล้ว และไม่ทรงเมตตา พระองค์ได้ทรงพังป้อมปราการทั้งหลายของธิดาแห่งยูดาห์ให้ลงด้วยพระพิโรธของพระองค์ พระองค์ได้ทรงทลายป้อมปราการเหล่านั้นลงถึงดิน และทรงกระทำให้ราชอาณาจักรและเจ้านายทั้งหลายในนั้นเป็นมลทินไป พระองค์ได้ทรงตัดบรรดาเขาแห่งอิสราเอลให้ขาดสิ้นไปด้วยพระพิโรธอันรุนแรงของพระองค์ พระองค์ทรงดึงพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์กลับมาเสียจากเขาต่อหน้าศัตรู และพระองค์ทรงเผาผลาญคนยาโคบดุจเพลิงลุกโพลงไหม้ไปรอบๆ พระองค์ทรงโก่งธนูของพระองค์อย่างศัตรู ทรงยกพระหัตถ์เบื้องขวาทีท่าปัจจามิตร และได้ทรงประหารบรรดาคนที่ตาของเราจะอวดได้นั้นเสียในกระโจมของธิดาแห่งศิโยน พระองค์ได้ทรงระบายพระพิโรธของพระองค์ออกมาดุจเพลิง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นเหมือนศัตรู พระองค์ได้ทรงกลืนพวกอิสราเอลเสีย พระองค์ได้ทรงกลืนบรรดาวังของเขาหมด และได้ทรงทำลายที่กำบังของเขาให้ ทรงทวีความเศร้าโศกและการคร่ำครวญในธิดาแห่งยูดาห์ พระองค์ได้ทรงพังพลับพลาของพระองค์เสียเหมือนหนึ่งเป็นเพิงในสวน ทรงทำลายสถานที่ประชุมทั้งหลายของพระองค์ พระเยโฮวาห์ได้ทรงกระทำทั้งเทศกาลตามกำหนดและวันสะบาโตให้ลืมเลือนไปในศิโยน ด้วยพระพิโรธอันเดือดดาลพระองค์ทรงดูถูกองค์กษัตริย์และปุโรหิต องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงทิ้งแท่นบูชาของพระองค์เสีย พระองค์ทรงเกลียดสถานบริสุทธิ์ของพระองค์ กำแพงวังทั้งหลายนั้น พระองค์ได้ทรงมอบไว้ในเงื้อมมือศัตรู เขาทั้งหลายได้ส่งเสียงอึกทึกในพระนิเวศแห่งพระเยโฮวาห์เหมือนอย่างในวันเทศกาลตามกำหนด พระเยโฮวาห์ได้ทรงตั้งพระทัยไว้แล้วว่าจะทำลายกำแพงของธิดาแห่งศิโยนเสีย พระองค์ได้ทรงขึงเส้นวัดไว้แล้ว พระองค์มิได้ทรงหดพระหัตถ์เลิกการทำลาย เหตุฉะนี้พระองค์ได้ทรงกระทำให้เนินดินและกำแพงนั้นคร่ำครวญ ให้ทรุดโทรมร่วงโรยไปด้วยกัน ประตูเมืองศิโยนทั้งสิ้นทรุดลงในดินแล้ว พระองค์ได้ทรงทำลายและทรงหักดาลประตูทั้งปวงเสียสิ้น กษัตริย์และเจ้านายทั้งหลายแห่งศิโยนก็ตกอยู่ท่ามกลางประชาชาติ ไม่มีพระราชบัญญัติอีกต่อไป บรรดาผู้พยากรณ์แห่งเมืองศิโยนหาได้รับนิมิตจากพระเยโฮวาห์อีกไม่ พวกผู้ใหญ่ของธิดาแห่งศิโยนก็กำลังนั่งเงียบอยู่บนพื้นแผ่นดิน เขาทั้งหลายเอาผงคลีดินซัดขึ้นบนศีรษะของตัว และนุ่งห่มผ้ากระสอบ สาวพรหมจารีทั้งหลายแห่งกรุงเยรูซาเล็มคอตกไปถึงดิน นัยน์ตาของข้าพเจ้าก็ร่วงโรยเพราะร้องไห้ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าก็ระทม เพราะความพินาศของธิดาแห่งชนชาติของข้าพเจ้า ตับของข้าพเจ้าเทออกบนพื้นดิน และเพราะเหล่าเด็กเล็กและเด็กที่ยังดูดนมนั้นเป็นลมสลบอยู่ตามถนนในกรุง ลูกทั้งหลายถามแม่ของตัวว่า “แม่จ๋า ข้าวและน้ำองุ่นอยู่ที่ไหน” ขณะเมื่อเขาเป็นลมดุจคนที่ถูกบาดเจ็บตามถนนในกรุง เมื่อชีวิตของเขาต้องเทออกที่อกแม่ของเขาทั้งหลาย โอ ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย ข้าพเจ้าจะเอาอะไรมาเป็นพยานฝ่ายเจ้าได้ ข้าพเจ้าจะเปรียบเจ้ากับอะไร โอ ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยนเอ๋ย ข้าพเจ้าจะหาอะไรที่มาเทียบกับเจ้าได้เล่า เพื่อข้าพเจ้าจะเล้าโลมเจ้าได้ เพราะความอับปางของเจ้าก็ใหญ่เทียมเท่าสมุทร ผู้ใดจะรักษาเจ้าได้เล่า ผู้พยากรณ์ทั้งหลายของเจ้าได้เห็นสิ่งที่โง่เขลาและไร้สาระมาบอกเจ้า แทนที่เขาจะเผยความชั่วช้าของเจ้าออกมาให้ประจักษ์ เพื่อจะให้เจ้ากลับสู่สภาพดี เขาทั้งหลายกลับได้เห็นภาระที่เทียมเท็จอันเป็นเหตุให้เกิดการเนรเทศ บรรดาคนที่ได้ผ่านไปมาก็ตบมือเยาะเย้ยเจ้า เขาทั้งหลายได้เย้ยหยันและได้สั่นศีรษะใส่ธิดาแห่งเยรูซาเล็มแล้วว่า “นี่หรือคือกรุงที่คนทั้งหลายได้ขนานนามว่า งามหมดจด ว่า เป็นความชื่นชมยินดีของคนทั่วทั้งโลก” บรรดาศัตรูของเจ้าได้อ้าปากตะโกนโพนทะนาเจ้า เขาทั้งหลายเย้ยหยันและขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขาพากันร้องว่า “พวกเราได้กลืนเมืองนี้แล้ว วันนี้แหละคือวันที่พวกเราได้จ้องมองหา พวกเราได้พบแล้ว พวกเราเห็นแล้ว” พระเยโฮวาห์ได้ทรงกระทำตามพระประสงค์แล้ว ได้ทรงกระทำให้พระดำรัสของพระองค์สำเร็จ ตามที่พระองค์ได้บัญชาไว้นานแล้ว พระองค์ก็ได้ทรงทำลายอย่างไม่มีพระเมตตา พระองค์ทรงกระทำให้ศัตรูเปรมปรีดิ์เย้ยเจ้า พระองค์ได้ทรงชูเขาของพวกศัตรูของเจ้าขึ้น จิตใจของเขาทั้งหลายร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า โอ กำแพงของธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย จงให้น้ำตาไหลลงดุจสายน้ำทั้งกลางวันและกลางคืน อย่าให้เจ้าได้หยุดพัก อย่าให้แก้วตาของเจ้าหยุดหย่อนเลย จงลุกขึ้นร้องไห้ในกลางคืน ในต้นยามจงระบายความในใจของเจ้าออกอย่างน้ำตรงพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า จงชูมือทั้งสองของเจ้าขึ้นตรงไปยังพระองค์เพื่อขอชีวิตของบรรดาลูกเล็กเด็กแดงของเจ้า ที่หิวจนเป็นลมสลบไป ตามหัวถนนหนทางทุกแห่ง โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทอดพระเนตรและพิจารณาเถิดว่า พระองค์ได้ทรงกระทำการเช่นนี้แก่ผู้ใด ควรที่พวกผู้หญิงจะกินลูกของตนหรือ จะกินทารกที่ยังอุ้มอยู่หรือ พวกปุโรหิตและพวกผู้พยากรณ์ควรจะถูกประหารในสถานบริสุทธิ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าหรือ คนหนุ่มและคนแก่นอนเหยียดอยู่ตามพื้นดินในถนน สาวพรหมจารีและชายหนุ่มของข้าพระองค์ถูกคมดาบหวดล้มลงแล้ว พระองค์ได้ทรงประหารเขาในวันเมื่อพระองค์ทรงกริ้ว ได้ทรงสังหารเขาเสียโดยปราศจากพระกรุณา พระองค์ได้ทรงเรียกผู้ที่ข้าพระองค์กลัวรอบทุกด้านมาอย่างในวันเทศกาล พอถึงวันที่พระเยโฮวาห์ทรงพระพิโรธก็ไม่มีสักคนหนึ่งหนีเอาตัวรอดได้ หรือคงเหลือตกค้างรอดตายอยู่ ผู้ที่ข้าพระองค์ได้อุ้มชูและเลี้ยงดูมานั้น ศัตรูของข้าพระองค์ได้เผาผลาญเสียหมดแล้ว
เพลงคร่ำครวญ 2:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
โอ เมฆแห่งพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า ปกคลุมเหนือธิดาแห่งศิโยน! พระองค์ทรงเหวี่ยงความโอ่อ่าตระการของอิสราเอล จากฟ้าลงดิน ในวันแห่งพระพิโรธ พระองค์ไม่ได้ทรงระลึกถึงแท่นรองพระบาทของพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลาย ที่อาศัยทุกแห่งของยาโคบอย่างไร้ความปรานี พระองค์ทรงทลายที่มั่นทั้งหลายของธิดาแห่งยูดาห์ ด้วยพระพิโรธของพระองค์ ทรงนำอาณาจักรและเหล่าเจ้านายของยูดาห์ ตกต่ำลงมาถึงดินอย่างน่าอัปยศอดสู พระองค์ทรงล้มล้างอำนาจทั้งสิ้นของอิสราเอล ด้วยพระพิโรธอันรุนแรงของพระองค์ พระองค์ทรงเพิกถอนการปกป้องรักษา เมื่อศัตรูรุกเข้ามาโจมตี ทรงเผาผลาญยาโคบเหมือนเปลวไฟลุกโชน ซึ่งแผดเผาทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ มัน พระองค์ทรงน้าวคันศรเหมือนทรงเป็นศัตรู พระหัตถ์ขวาของพระองค์เตรียมพร้อมจะปล่อยลูกศร ทรงประหารทุกคนผู้เป็นที่ชื่นตาชื่นใจ เหมือนทรงเป็นศัตรู ทรงระบายพระพิโรธเหมือนไฟ แผดเผาเต็นท์ของธิดาแห่งศิโยน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นเหมือนศัตรู พระองค์ทรงกลืนกินอิสราเอลให้สิ้นไป ทรงกวาดล้างปราสาทราชวัง และทรงทำลายที่มั่นต่างๆ ในอิสราเอล ทรงทำให้การร้องไห้คร่ำครวญทวีเพิ่มขึ้น สำหรับธิดาแห่งยูดาห์ พระองค์ทรงทิ้งที่ประทับของพระองค์ให้รกร้างดั่งสวนร้าง ทรงทำลายสถานนมัสการของพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้ศิโยนหลงลืม เทศกาลตามกำหนดและสะบาโตทั้งหลาย พระองค์ทรงเขี่ยทั้งกษัตริย์และปุโรหิตทิ้ง ด้วยพระพิโรธอันรุนแรงของพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิเสธแท่นบูชา และทอดทิ้งสถานนมัสการของพระองค์ พระองค์ทรงมอบกำแพงปราสาทราชวัง ไว้ในมือของศัตรู เหล่าศัตรูส่งเสียงโห่ร้องในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า ราวกับวันฉลองตามเทศกาล องค์พระผู้เป็นเจ้าตั้งพระทัย ที่จะทลายกำแพงล้อมรอบธิดาแห่งศิโยน พระองค์ทรงพิจารณาโทษอย่างถี่ถ้วน ไม่ได้ทรงยั้งพระหัตถ์จากการทำลายล้าง ทรงทำให้เชิงเทินและกำแพง พังทลายไปด้วยกันต่อหน้าพระองค์ ประตูทั้งหลายของเยรูซาเล็มทรุดจมดิน ลูกกรงประตูทั้งหลายหักทลาย กษัตริย์และบรรดาเจ้านายตกเป็นเชลยในชาติต่างๆ บทบัญญัติสูญสิ้นไปแล้ว และผู้เผยพระวจนะทั้งหลายไม่ได้รับนิมิต จากองค์พระผู้เป็นเจ้าอีกต่อไป เหล่าผู้อาวุโสของเยรูซาเล็ม นั่งซึมอยู่ที่พื้นท่ามกลางความเงียบสงัด โปรยฝุ่นธุลีบนศีรษะ และนุ่งห่มผ้ากระสอบ บรรดาหญิงสาวแห่งเยรูซาเล็ม ซบหน้าลงกับพื้นด้วยความอับอาย นัยน์ตาของข้าพเจ้าหมองช้ำเพราะการร้องไห้ ข้าพเจ้าทุกข์ระทมอยู่ภายใน ดวงใจของข้าพเจ้าแหลกสลาย เพราะพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าถูกทำลาย เพราะลูกเล็กเด็กแดงเป็นลม อยู่ตามถนนหนทางในเมือง “แม่จ๋า ไหนล่ะอาหาร?” เด็กๆ เอ่ยกับแม่ ขณะหมดแรง เหมือนคนบาดเจ็บกลางถนน ขณะชีวิตหลุดลอยไป จากอ้อมอกแม่ ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย เราจะพูดอะไรเพื่อเจ้าได้? เราจะเปรียบเจ้ากับอะไรหนอ? ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยนเอ๋ย เราจะเทียบเจ้ากับสิ่งใดดี เพื่อจะปลอบโยนเจ้าได้? บาดแผลของเจ้าลึกดั่งทะเล ใครเล่าจะเยียวยารักษาเจ้าได้? นิมิตของเหล่าผู้เผยพระวจนะของเจ้า ล้วนจอมปลอมไร้ค่า พวกเขาไม่ได้ตีแผ่บาปของเจ้า ทำให้เจ้าต้องตกเป็นเชลยต่อไป พระดำรัสที่พวกเขาแจ้งเจ้านั้น จอมปลอมและพาให้หลงผิด คนทั้งปวงที่ผ่านไปมา ตบมือเยาะเย้ยเจ้า พวกเขาถากถางและส่ายศีรษะ สมเพชธิดาแห่งเยรูซาเล็มว่า “นี่น่ะหรือกรุงที่ได้รับการขนานนาม ว่างามเพียบพร้อม เป็นความชื่นชมยินดีของคนทั้งโลก?” ศัตรูทั้งปวงของเจ้า อ้าปากเย้ยหยันเจ้า ส่งเสียงเยาะเย้ย ยิงฟันใส่ และกล่าวว่า “ในที่สุดเราก็ทำลายเจ้าลงได้ นี่เป็นวันที่เรารอคอยมานาน เราอยู่มาจนได้เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น” องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำตามที่ดำริไว้ ทรงทำให้สำเร็จตามที่ลั่นวาจาไว้ ซึ่งพระองค์มีประกาศิตไว้เมื่อนานมาแล้ว พระองค์ทรงล้มเจ้าลงโดยไม่ปรานี ทรงยอมให้ศัตรูลิงโลดอยู่เหนือเจ้า พระองค์ทรงเชิดชูพลังของศัตรูของเจ้า จิตใจของพวกเขา ร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า ปราการของธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย ให้น้ำตาของเจ้าหลั่งไหลดั่งแม่น้ำ ตลอดทั้งวันทั้งคืน อย่าได้หยุดหย่อน อย่าให้ตาของเจ้าได้พักเลย จงลุกขึ้นร่ำไห้ในยามค่ำคืน ตั้งแต่เริ่มมืด จงระบายความในใจของเจ้าออกมาเหมือนสายน้ำ ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า จงชูมือขึ้นอ้อนวอนพระองค์ เพื่อชีวิตลูกเล็กเด็กแดงทั้งหลายของเจ้า ซึ่งเป็นลมไปเพราะความหิวโหย อยู่ทุกหัวถนน “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงทอดพระเนตรและใคร่ครวญเถิด พระองค์ทรงเคยทำเช่นนี้แก่ใครบ้าง? ควรหรือที่คนเป็นแม่จะกินเลือดเนื้อเชื้อไขของตน คือบรรดาลูกในไส้ที่ตนฟูมฟักเลี้ยงดูมา? ควรหรือที่ปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะจะถูกฆ่า ในสถานนมัสการขององค์พระผู้เป็นเจ้า? “ทั้งคนหนุ่มคนแก่ทั้งหลาย นอนคลุกฝุ่นอยู่ด้วยกันกลางถนน คนหนุ่มคนสาวของข้าพระองค์ ล้มตายด้วยคมดาบ พระองค์ทรงประหารพวกเขาในวันแห่งพระพิโรธ ทรงเข่นฆ่าพวกเขาโดยไม่ปรานี “พระองค์ทรงระดมความอกสั่นขวัญแขวนรอบด้านเข้าใส่ข้าพระองค์ เหมือนเกณฑ์คนมาในวันงานเลี้ยงตามเทศกาล ในวันแห่งพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีใครหนีรอดหรือรอดชีวิตไปได้เลยแม้สักคนเดียว ศัตรูของข้าพระองค์ได้ทำลายล้าง บรรดาผู้ที่ข้าพระองค์ฟูมฟักเลี้ยงดูมา”