โยชูวา 6:1-27

โยชูวา 6:1-27 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เพราะเหตุคนอิสราเอลเมืองเยรีโคต้อง ถูกปิดไว้ไม่มีคนเข้าออกได้เลย พระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า <<ดูแน่ะเราได้มอบเมืองเยรีโคไว้ในมือเจ้าแล้ว ทั้งกษัตริย์และทแกล้วทหาร เจ้าทั้งหลายจงเดินขบวนรอบเมือง คือให้บรรดาทหารไปรอบเมืองครั้งหนึ่ง เจ้าจงทำเช่นนี้หกวัน ให้ปุโรหิตเจ็ดคนถือเขาแกะเจ็ดคันนำหน้าหีบ และในวันที่เจ็ดนั้นเจ้าทั้งหลายจงเดินรอบเมืองเจ็ดครั้ง ให้ปุโรหิตเป่าเขาแกะไปด้วย และเมื่อเขาเป่าเขาแกะเป็นเสียงยาว พอเจ้าได้ยินเสียงเขาแกะนั้น ก็ให้ประชาชนทั้งปวงโห่ร้องขึ้นด้วยเสียงอันดัง กำแพงเมืองนั้นก็จะพังลงราบ และประชาชนจะขึ้นไป ทุกคนต่างตรงไปข้างหน้าตน>> ฝ่ายโยชูวาบุตรนูนจึงเรียกปุโรหิตมาสั่งว่า <<จงยกหีบพันธสัญญาขึ้นหามไป ให้ปุโรหิตเจ็ดคนถือแตรเขาแกะเจ็ดคันเดิน นำหน้าหีบแห่งพระเจ้า>> และท่านสั่งประชาชนว่า <<จงออกเดินรอบเมืองนั้น ให้ทหารถืออาวุธเดินข้างหน้าหีบแห่งพระเจ้า>> เมื่อโยชูวาบัญชาแก่ประชาชนแล้ว ปุโรหิตเจ็ดคนที่ถือเขาแกะเจ็ดคันต่อ พระพักตร์พระเจ้าก็เดินข้างหน้าเป่าเขาแกะไป และมีหีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้าตามเขามา และทหารถืออาวุธเดินอยู่หน้าปุโรหิตผู้เป่าเขาแกะ และกองระวังหลังก็เดินตามหีบฝ่ายเขาแกะนั้นก็เป่า อยู่เรื่อยไป แต่โยชูวาบัญชาประชาชนว่า <<ท่านอย่าโห่ร้อง อย่าให้ใครได้ยินเสียงของท่าน อย่าให้ถ้อยคำหลุดออกจากปากของท่านทั้งหลายเลย จนกว่าจะถึงวันที่ข้าพเจ้าบอกให้ท่านโห่ร้อง ท่านจึงโห่ร้องกัน>> ท่านได้กระทำให้หีบแห่งพระเจ้าเวียนรอบเมืองดังนี้แหละ คือเวียนรอบหนึ่งเที่ยวเขาก็กลับเข้าค่าย นอนค้างคืนอยู่ในค่ายนั้น โยชูวาตื่นขึ้นแต่เช้าและปุโรหิตก็ยกหีบแห่งพระเจ้าขึ้นหาม และปุโรหิตเจ็ดคนถือเขาแกะเจ็ดคันเดิน หน้าหีบแห่งพระเจ้าเป่าเขาแกะเรื่อยไป และทหารถืออาวุธก็เดินอยู่ข้างหน้าเขา และกองระวังหลังก็เดินอยู่ข้างหลังหีบแห่งพระเจ้า ฝ่ายเขาแกะก็เป่าเรื่อยไป และในวันที่สองเขาก็ เดินรอบเมืองนั้นครั้งหนึ่งแล้วกลับเข้าค่ายอีก เขาทำเช่นนี้อยู่หกวัน ในวันที่เจ็ด เขาลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ เดินกระบวนรอบเมืองอย่างเคยเจ็ดครั้ง เฉพาะวันเดียวนั้นเขาได้เดินกระบวนรอบเมืองเจ็ดครั้ง ในครั้งที่เจ็ด เมื่อปุโรหิตเป่าเขาแกะ โยชูวาบอกแก่ประชาชนว่า <<จงโห่ร้องขึ้นเถิด เพราะพระเจ้าทรงมอบเมืองให้แก่ท่านแล้ว เมืองนั้นและสารพัดในเมืองนั้นเป็นของที่ต้อง ทำลายถวายแด่พระเจ้า เว้นแต่ราหับหญิงโสเภณีกับคนทั้งหลายที่อยู่ใน เรือนของนางจะรอดชีวิต เพราะว่านางได้ซ่อนผู้สื่อสารที่พวกเราใช้ไป แต่ส่วนท่านทั้งหลายจงห่างไกลจากของ ที่ต้องทำลายถวายนั้น เกรงว่าเมื่อท่านทั้งหลายได้ถวายสิ่งเหล่านั้นแล้ว ท่านจะเก็บสิ่งที่ถวายแล้วนั้นไว้บ้าง ก็จะทำให้ค่ายของคนอิสราเอลเป็นสิ่งที่ต้องทำลาย และนำความทุกข์ลำบากมาสู่ แต่บรรดาเงินและทอง และเครื่องใช้ที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ และเหล็กเป็นของถวายแด่พระเจ้า ให้นำเข้าไปไว้ในคลังของพระเจ้า>> เหตุฉะนั้นประชาชนก็โห่ร้อง และแตรก็เป่า พอประชาชนได้ยินเสียงเขาแกะ เขาก็โห่ร้องดัง และกำแพงก็พังลงราบ ประชาชนจึงขึ้นไปในเมือง ทุกคนต่างตรงไปข้างหน้าตนและเข้ายึดเมืองนั้น แล้วเขาก็ทำลายสารพัดที่อยู่ในเมืองนั้นเสียสิ้นด้วยคมดาบ ทั้งชายและหญิง หนุ่มและแก่ทั้งวัว แกะและลา โยชูวาจึงสั่งชายสองคนผู้ที่ไปสอดแนมแผ่นดินนั้นว่า <<จงเข้าไปในเรือนของหญิงโสเภณี และนำหญิงนั้นกับสารพัดซึ่งหญิงนั้นมีอยู่ออกมาดังที่ท่าน ได้ปฏิญาณแก่นางไว้>> ดังนั้นชายหนุ่มที่เป็นผู้สอดแนมก็เข้าไปนำราหับออกมา กับบิดามารดาและพี่น้องผู้ชายและสารพัดซึ่งเป็นของนาง และเขานำญาติพี่น้องทั้งหมดของนางออกมาให้ไปพักอยู่ นอกค่ายของอิสราเอล ส่วนเมืองนั้นเขาก็จุดไฟเผาเสียทั้งสารพัดที่อยู่ในเมืองนั้น นอกจากเงินและทอง และเครื่องใช้ที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์และด้วยเหล็กนั้น เขานำมาไว้ในคลังในพระนิเวศของพระเจ้า ส่วนราหับหญิงโสเภณี และครอบครัวบิดาของนาง และสารพัดที่เป็นของนาง โยชูวาได้ไว้ชีวิต และนางก็อาศัยอยู่ใน อิสราเอลจนทุกวันนี้ เพราะว่านางซ่อนผู้สื่อสาร ซึ่งโยชูวาส่งไปสอดแนมเมืองเยรีโค ในคราวนั้นโยชูวาให้คนทั้งหลายสาบานว่า ผู้ใดที่ลุกขึ้นสร้างเมืองนี้ใหม่คือเมืองเยรีโค ก็ให้ผู้นั้นได้รับคำสาปแช่งเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ผู้ใดวางรากลงก็ให้ผู้นั้นเสียบุตรหัวปี ผู้ใดตั้งประตูเมืองขึ้นก็ให้เสียบุตรสุดท้อง ดังนั้นแหละพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับโยชูวา และชื่อเสียงของท่านเลื่องลือไปตลอดแผ่นดิน

โยชูวา 6:1-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

เป็น​เพราะ​ชาว​อิสราเอล ประตู​เมือง​เยริโค​จึง​ถูก​ปิดลง​และ​มี​การ​ป้องกัน​อย่าง​แน่นหนา ไม่มี​ใคร​เข้า​หรือ​ออก​จาก​เมือง​เลย พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โยชูวา​ว่า “ดูเถิด เรา​ได้​ยก​เมือง​เยริโค​ให้​กับเจ้า​แล้ว ทั้ง​กษัตริย์​และ​เหล่า​ทหาร​กล้า​ของมัน​ด้วย พวกเจ้า คือ​กองทหาร​ทั้งหมด​ต้อง​เดิน​ขบวน​ไป​รอบๆ​เมือง​หนึ่ง​รอบ เจ้า​ต้อง​ทำ​อย่างนี้​หกวัน ให้​นักบวช​เจ็ดคน​ถือ​แตร​เขาแกะ​คนละ​อัน เดิน​นำ​หน้า​หีบ​ศักดิ์สิทธิ์ ใน​วัน​ที่เจ็ด​ให้​พวกเจ้า​เดิน​รอบ​เมือง​เจ็ด​รอบ และ​ให้​พวก​นักบวช​เป่า​แตร​เขาแกะ​ไปด้วย เมื่อ​เขา​เป่า​แตร​เสียง​ยาว เมื่อ​พวกเจ้า​ทั้งหลาย​ได้ยิน​เสียง​แตร​นั้น ก็​ให้​ประชาชน​ทั้งหมด​โห่ร้อง​เสียงดัง และ​กำแพง​ก็​จะ​พัง​ราบ​ลงมา แล้ว​ทุกคน​ก็​จะ​บุก​เข้าไป​ตรง​หน้า” โยชูวา​ลูกชาย​ของ​นูน​จึง​ได้​เรียก​พวก​นักบวช​มา​สั่ง​ว่า “ให้​ยก​หีบ​ที่​เก็บ​ข้อตกลง​ขึ้น และ​ให้​นักบวช​เจ็ด​คน​ถือ​แตร​เขาแกะ​คนละ​อัน นำ​หน้า​หีบ​ของ​พระยาห์เวห์​ไป” โยชูวา​ได้​สั่ง​กับ​ประชาชน​ว่า “ให้​เคลื่อน​ขบวน​ไป​ข้างหน้า​และ​เดินแถว​ไป​รอบๆ​เมือง ให้​ทหาร​ที่​ติด​อาวุธ​เดิน​นำ​หน้า​หีบ​แห่ง​พระยาห์เวห์” ทุกอย่าง​เป็น​ไป​ตาม​ที่​โยชูวา​ได้​สั่ง​กับ​ประชาชน​คือ นักบวช​เจ็ด​คน​ที่​ถือ​แตร​เขาแกะ​คนละ​อัน เดิน​นำ​หน้า​หีบ​ของ​พระยาห์เวห์ และ​เป่า​แตร​ไป และ​หีบ​ที่​เก็บ​ข้อตกลง​ของ​พระยาห์เวห์​ได้​เคลื่อน​ตาม​พวกเขา​ไป พวก​ทหาร​เดิน​นำ​หน้า​พวก​นักบวช​ที่​กำลัง​เป่า​แตร​อยู่ และ​มี​กอง​ระวัง​หลัง​เดิน​รั้งท้าย​หีบ​นั้น และ​เขาแกะ​ก็​เป่า​ต่อไป​เรื่อยๆ โยชูวา​ได้​สั่ง​ประชาชน​ว่า “อย่า​ได้​โห่ร้อง หรือ​ให้​ใคร​ได้ยิน​เสียง​ของท่าน และ​อย่า​ให้​คำพูด​หลุด​ออก​มา​จาก​ปาก​ท่าน จนกว่า​จะ​ถึง​วัน​ที่​เรา​จะ​บอก​ให้​พวกท่าน​โห่ร้อง เมื่อนั้น​พวกท่าน​ถึง​ค่อย​โห่ร้อง​ออก​มา” ดังนั้น โยชูวา​ให้​นำ​หีบ​ของ​พระยาห์เวห์​ออก​ไป​วน​รอบ​เมือง​หนึ่ง​รอบ แล้ว​พวกเขา​ก็​กลับ​เข้ามา​ใน​ค่าย และ​ค้างคืน​อยู่​ใน​ค่ายนั้น โยชูวา​ตื่น​ขึ้น​แต่​เช้าตรู่ และ​พวก​นักบวช​ก็​ยก​หีบ​ของ​พระยาห์เวห์​ขึ้น​แบก นักบวช​เจ็ด​คน​ที่​ถือ​แตร​เขาแกะ​คนละ​อัน เดิน​นำ​หน้า​หีบ​ของ​พระยาห์เวห์​ไป และ​เป่า​แตร​ไป​เรื่อยๆ​มี​ทหาร​เดิน​อยู่​ข้างหน้า​พวกเขา และ​มี​กอง​ระวัง​หลัง​เดิน​รั้งท้าย​อยู่​หลัง​หีบ​ของ​พระยาห์เวห์ เขาแกะ​ก็​ถูก​เป่า​ไป​เรื่อยๆ ใน​วันที่​สอง​นั้น พวกเขา​เดิน​รอบ​เมือง​หนึ่ง​รอบ แล้ว​ก็​กลับ​เข้า​ค่าย พวกเขา​ทำ​อย่างนี้​จน​ครบ​หก​วัน ใน​วัน​ที่เจ็ด พวกเขา​ลุกขึ้น​เมื่อ​ท้องฟ้า​เริ่ม​ทอแสง และ​ได้​เดิน​ขบวน​ไป​รอบๆ​เมือง​อย่าง​เคย แต่​วันนี้​เดิน​เจ็ด​รอบ เฉพาะ​วันนี้​วันเดียว​พวกเขา​เดิน​ไป​รอบ​เมือง​เจ็ด​รอบ เมื่อ​ถึง​รอบ​ที่​เจ็ด พวก​นักบวช​ก็​เป่า​แตร​เขาแกะ​ขึ้น โยชูวา​ได้​พูด​กับ​ประชาชน​ว่า “โห่ร้อง​เถิด เพราะ​พระยาห์เวห์​ได้​ยก​เมืองนี้​ให้​กับ​พวกท่าน​แล้ว เมือง​ทั้ง​เมือง​และ​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ภายใน​เมืองนี้​จะ​ต้อง​ถูก​ทำลาย​ให้​หมดสิ้น​เพื่อ​เป็น​ของถวาย​แด่​พระยาห์เวห์ เว้น​แต่​โสเภณี​ที่​ชื่อ​ราหับ​และ​คน​ทั้งหมด​ที่​อยู่​กับ​นาง​ใน​บ้าน​ของนาง​เท่านั้น​ที่​จะ​รอด​ชีวิต เพราะ​นาง​ได้​ให้​ที่​หลบซ่อน​แก่​พวก​ผู้​สอดแนม​ที่​เรา​ได้​ส่ง​ไป อย่า​ไป​แตะต้อง​สิ่ง​ที่​จะ​ต้อง​ทำลาย​เพื่อ​ถวาย​ให้​กับ​พระยาห์เวห์​นั้น เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​ไม่​เกิด​ความ​โลภ แล้ว​เก็บ​ส่วนหนึ่ง​ของ​สิ่ง​ที่​จะ​ต้อง​ทำลาย​ให้​หมดสิ้น​นั้น​กลับ​มา ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​ค่าย​ของ​ชาว​อิสราเอล​ต้อง​ถูก​ทำลาย​ไป และ​พวกท่าน​ก็​จะ​เป็น​ต้นเหตุ​ของ​ความ​ทุกข์ยาก​นั้น แต่​บรรดา​เงิน ทอง และ​สิ่งของ​ที่​ทำ​จาก​ทอง​สัมฤทธิ์​และ​เหล็ก เป็น​ของ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระยาห์เวห์ ให้​นำ​พวกมัน​ไป​เก็บ​ไว้​ใน​คลัง​สมบัติ​ของ​พระยาห์เวห์” ดังนั้น​ประชาชน​จึง​โห่ร้อง และ​พวก​นักบวช​ก็​ได้​เป่า​แตร​ขึ้น ทันที​ที่​ประชาชน​ได้ยิน​เสียง​แตร พวกเขา​ก็​โห่ร้อง​เสียง​ดัง กำแพง​ก็​พัง​ทลาย​ลง ทหาร​ก็​บุก​ตรง​เข้าไป​ใน​เมือง​และ​ยึด​เมือง​ไว้ได้ พวกเขา​ทำลาย​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ใน​เมือง​ด้วย​คม​ดาบ ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ชาย​หรือ​หญิง เด็ก​หรือ​แก่ รวมทั้ง​วัว แกะ​และ​ลา โยชูวา​ได้​สั่ง​ชาย​สองคน​ที่​เขา​เคย​ส่ง​เข้า​มา​สอดแนม​ว่า “ให้​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ของ​หญิง​โสเภณี​คนนั้น และ​นำ​ตัว​นาง​รวมทั้ง​คนอื่นๆ​ที่​อยู่​กับ​นาง​ออก​มา ดัง​ที่​พวก​ท่าน​ได้​เคย​สัญญา​ไว้​กับ​นาง” ดังนั้น ชาย​หนุ่ม​ทั้งสอง​ที่​เคย​เป็น​ผู้​สอดแนม​จึง​ได้​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ของ​ราหับ และ​ได้​นำ​ตัว​ราหับ พ่อแม่ พี่น้อง และ​ทุกคน​ที่​อยู่​ที่นั่น​กับ​นาง​ออก​มา พวกเขา​ได้​พา​ญาติๆ​ทั้งหมด​ของ​นาง​ไป​ไว้​ที่​นอก​ค่าย​ของ​อิสราเอล พวกเขา​จึง​ได้​จุดไฟ​เผา​เมือง และ​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ใน​เมืองนั้น ส่วน​เงิน ทอง เครื่องใช้​ที่​ทำ​จาก​ทอง​สัมฤทธิ์​และ​เหล็ก พวกเขา​ได้​นำ​มา​ไว้​ใน​คลัง​สมบัติ​ใน​บ้าน​ของ​พระยาห์เวห์ แต่​โยชูวา​ได้​ไว้​ชีวิต​ราหับ​ที่​เป็น​โสเภณี​และ​ครอบครัว​ทั้งหมด​ของ​นาง รวมทั้ง​ทุกคน​ที่​อยู่​กับ​นาง และ​พวก​ลูกหลาน​ของ​นาง ก็​ได้​อาศัย​อยู่​ท่ามกลาง​ชาว​อิสราเอล​มา​จนถึง​ทุกวันนี้ เพราะ​นาง​ได้​ซ่อนตัว​พวก​คน​ส่งข่าว​ที่​โยชูวา​ได้​ส่ง​เข้า​ไป​สอดแนม​ใน​เมือง​เยริโค แล้ว​โยชูวา​ได้​สาบาน​ไว้​ว่า “ขอให้​ใคร​ก็ตาม​ที่​พยายาม​สร้าง​เมือง​เยริโค​นี้​ขึ้น​มา​ใหม่ ถูก​สาปแช่ง​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ ถ้า​เขา​วาง​รากฐาน​ของ​เมืองนี้ ก็​ขอให้​ลูกชาย​คนแรก​ของเขา​ตาย ถ้า​เขา​ตั้ง​ประตูเมือง​ขึ้น ก็​ขอให้​ลูกชาย​คนเล็ก​ของเขา​ตาย” ดังนั้น​พระยาห์เวห์​ได้​อยู่​กับ​โยชูวา และ​ชื่อเสียง​ของท่าน​ก็​ได้​เลื่องลือ​ไป​ทั่ว​แผ่นดิน

โยชูวา 6:1-27 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เพราะเหตุพงศ์พันธุ์อิสราเอล เมืองเยรีโคจึงถูกปิดมิดชิดไม่ให้คนเข้าออก พระยาห์เวห์ตรัสกับโยชูวาว่า “ดูแน่ะ เราได้มอบเมืองเยรีโคไว้ในมือเจ้าแล้ว ทั้งกษัตริย์และพวกนักรบกล้าหาญ พวกเจ้าจงเดินขบวนรอบเมือง คือให้พวกทหารวนรอบเมืองครั้งหนึ่ง เจ้าจงทำเช่นนี้หกวัน ให้ปุโรหิตเจ็ดคนถือแตรเขาแกะเจ็ดคันนำหน้าหีบ และในวันที่เจ็ดนั้นพวกเจ้าจงเดินรอบเมืองเจ็ดครั้ง ให้ปุโรหิตเป่าแตรไปด้วย และเมื่อเขาเป่าเขาแกะเป็นเสียงยาว พอเจ้าได้ยินเสียงแตรนั้น ก็ให้ประชาชนทั้งปวงโห่ร้องขึ้นด้วยเสียงดัง กำแพงเมืองนั้นก็จะพังลงราบ และประชาชนจะขึ้นไป ทุกคนต่างตรงไปข้างหน้าตน” โยชูวาบุตรนูนจึงเรียกปุโรหิตมาสั่งว่า “จงยกหีบพันธสัญญาขึ้นหามไป ให้ปุโรหิตเจ็ดคนถือแตรเขาแกะเจ็ดคันเดินนำหน้าหีบแห่งพระยาห์เวห์” และท่านสั่งประชาชนว่า “จงออกเดินรอบเมืองนั้น ให้มีทหารถืออาวุธเดินข้างหน้าหีบแห่งพระยาห์เวห์” เมื่อโยชูวากล่าวแก่ประชาชนแล้ว ปุโรหิตเจ็ดคนที่ถือแตรเขาแกะเจ็ดคันเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ก็เดินข้างหน้าเป่าแตรไป และมีหีบพันธสัญญาแห่งพระยาห์เวห์ตามเขามา และทหารถืออาวุธเดินอยู่หน้าปุโรหิตผู้เป่าแตร และกองระวังหลังก็เดินตามหีบ ส่วนแตรนั้นก็เป่าอยู่เรื่อยไป แต่โยชูวาบัญชาประชาชนว่า “อย่าโห่ร้อง อย่าให้ใครได้ยินเสียงของท่าน อย่าให้ถ้อยคำหลุดออกจากปากของท่านเลย จนกว่าจะถึงวันที่ข้าพเจ้าบอกให้ท่านโห่ร้อง ท่านจึงโห่ร้องกัน” หีบแห่งพระยาห์เวห์จึงเวียนไปรอบเมือง คือเวียนรอบหนึ่งเที่ยวแล้วพวกเขาก็กลับเข้าค่าย นอนค้างคืนอยู่ในค่ายนั้น โยชูวาลุกขึ้นแต่เช้าและพวกปุโรหิตก็ยกหีบแห่งพระยาห์เวห์ขึ้นหาม และปุโรหิตเจ็ดคนถือแตรเขาแกะเจ็ดคันเดินหน้าหีบแห่งพระยาห์เวห์เป่าแตรเรื่อยไป และทหารถืออาวุธก็เดินอยู่ข้างหน้าเขา และกองระวังหลังก็เดินอยู่ข้างหลังหีบแห่งพระยาห์เวห์ ส่วนแตรก็เป่าเรื่อยไป และในวันที่สองเขาก็เดินรอบเมืองนั้นครั้งหนึ่งแล้วกลับเข้าค่ายอีก เขาทำเช่นนี้อยู่หกวัน ในวันที่เจ็ด พวกเขาลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ เดินขบวนรอบเมืองอย่างเคยเจ็ดครั้ง เฉพาะวันเดียวนั้นเขาได้เดินขบวนรอบเมืองเจ็ดครั้ง ในครั้งที่เจ็ด เมื่อปุโรหิตเป่าแตร โยชูวาบอกประชาชนว่า “จงโห่ร้องขึ้นเถิด เพราะพระยาห์เวห์ทรงมอบเมืองนั้นให้ท่านแล้ว เมืองนั้นและทุกสิ่งในเมืองนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำลายถวายแด่พระยาห์เวห์ เว้นแต่ราหับหญิงโสเภณีกับทุกคนที่อยู่ในบ้านของนางจะรอดชีวิต เพราะนางได้ซ่อนผู้สื่อสารที่พวกเราใช้ไป ส่วนพวกท่านจงตีตัวออกห่างจากสิ่งที่ต้องทำลายถวายนั้น เกรงว่าท่านเองจะถูกทำลายเมื่อท่านเก็บสิ่งที่ต้องทำลายถวายนั้นไว้บ้าง และจะทำให้ค่ายของอิสราเอลเป็นสิ่งที่ต้องทำลายถวายไปด้วย นำมาซึ่งความทุกข์ยากลำบาก แต่เงินและทองทั้งหมด กับเครื่องใช้ที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์และเหล็ก เป็นของถวายแด่พระยาห์เวห์ให้นำเข้าไปไว้ในคลังของพระองค์” แล้วประชาชนก็โห่ร้อง และมีการเป่าแตร พอประชาชนได้ยินเสียงแตร เขาก็โห่ร้องดัง และกำแพงก็พังลงราบ ประชาชนจึงขึ้นไปในเมือง ทุกคนต่างตรงไปข้างหน้าตนและเข้ายึดเมืองนั้น แล้วพวกเขาก็ทำลายทุกสิ่งที่อยู่ในเมืองนั้นเสียสิ้นด้วยคมดาบ ทั้งชายและหญิง คนหนุ่มและคนอาวุโส ทั้งวัว แกะและลา โยชูวาจึงสั่งชายสองคนผู้ไปสอดแนมแผ่นดินนั้นว่า “จงเข้าไปในบ้านของหญิงโสเภณี และนำหญิงนั้นกับทุกสิ่งซึ่งเป็นของนางออกมาดังที่ท่านได้สาบานต่อนางไว้” ดังนั้นชายหนุ่มที่เป็นผู้สอดแนมก็เข้าไปนำราหับออกมากับบิดามารดาและพี่น้องผู้ชายและทุกสิ่งซึ่งเป็นของนาง และเขานำญาติพี่น้องทั้งหมดของนางออกมาให้ไปพักอยู่นอกค่ายของอิสราเอล ส่วนเมืองนั้น พวกเขาก็จุดไฟเผาเสียรวมทั้งทุกสิ่งที่อยู่ในเมืองนั้น นอกจากเงินและทอง กับเครื่องใช้ที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์และด้วยเหล็กนั้น เขานำมาไว้ในคลังในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ส่วนราหับหญิงโสเภณี และครอบครัวบิดาของนาง และทุกสิ่งซึ่งเป็นของนาง โยชูวาได้ไว้ชีวิต และนางก็อาศัยอยู่ในอิสราเอลจนทุกวันนี้ เพราะว่านางได้ซ่อนผู้สื่อสาร ซึ่งโยชูวาส่งไปสอดแนมเมืองเยรีโค คราวนั้นโยชูวาให้สาบานว่า ใครที่พยายามสร้างเมืองนี้คือเยรีโคขึ้นใหม่ ก็ให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ผู้ใดวางรากลงก็ให้ผู้นั้นเสียบุตรหัวปี ผู้ใดตั้งประตูเมืองขึ้นก็ให้เสียบุตรสุดท้อง ดังนั้นแหละพระยาห์เวห์สถิตอยู่กับโยชูวา และชื่อเสียงของท่านเลื่องลือไปตลอดแผ่นดิน

โยชูวา 6:1-27 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เพราะเหตุคนอิสราเอลเมืองเยรีโคต้องถูกปิดไว้ ไม่มี​คนเข้าออกได้​เลย พระเยโฮวาห์ตรัสกับโยชู​วาว​่า “​ดู​แน่ะ เราได้มอบเมืองเยรีโคไว้ในมือเจ้าแล้ว ทั้งกษั​ตริ​ย์และทแกล้วทหาร เจ้​าทั้งหลายจงเดินขบวนรอบเมือง คือให้บรรดาทหารไปรอบเมืองครั้งหนึ่ง เจ้​าจงทำเช่นนี้หกวัน ให้​ปุ​โรหิตเจ็ดคนถือแตรเขาแกะตัวผู้​เจ​็ดคันนำหน้าหีบ และในวั​นที​่​เจ​็ดนั้นเจ้าทั้งหลายจงเดินรอบเมืองเจ็ดครั้ง ให้​ปุ​โรหิตเป่าแตรไปด้วย และต่อมาเมื่อเขาเป่าเขาแกะตัวผู้เป็นเสียงยาว พอเจ้าได้ยินเสียงแตรนั้น ก็​ให้​ประชาชนทั้งปวงโห่ร้องขึ้นด้วยเสียงอันดัง กำแพงเมืองนั้​นก​็จะพังลงราบ และประชาชนจะขึ้นไปทุกคนต่างตรงไปข้างหน้าตน” ฝ่ายโยชู​วาบ​ุตรชายนูนจึงเรียกปุโรหิตมาสั่งว่า “จงยกหีบพันธสัญญาขึ้นหามไป ให้​ปุ​โรหิตเจ็ดคนถือแตรเขาแกะตัวผู้​เจ​็ดคันเดินนำหน้าหีบแห่งพระเยโฮวาห์” และท่านสั่งประชาชนว่า “จงออกเดินรอบเมืองนั้น ให้​ทหารถืออาวุธเดินข้างหน้าหีบแห่งพระเยโฮวาห์” ต่อมาเมื่อโยชู​วาบ​ัญชาแก่ประชาชนแล้ว ปุ​โรหิตเจ็ดคนที่ถือเขาแกะตัวผู้​เจ​็ดคั​นก​็เดินผ่านไปข้างหน้าต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์และเป่าแตรไปด้วย และมี​หี​บพันธสัญญาแห่งพระเยโฮวาห์ตามเขามา และทหารถืออาวุธเดินอยู่​หน​้าปุโรหิตผู้​เป่าแตร และกองระวังหลั​งก​็เดินตามหีบ ฝ่ายปุโรหิ​ตน​ั้​นก​็เดินเรื่อยไปเป่าแตรอยู่ แต่​โยชู​วาบ​ัญชาประชาชนว่า “ท่านอย่าโห่​ร้อง อย่าให้ใครได้ยินเสียงของท่าน อย่าให้ถ้อยคำหลุดจากปากของท่านทั้งหลายเลย จนกว่าจะถึงวั​นที​่ข้าพเจ้าบอกให้ท่านโห่​ร้อง ท่านจึงโห่ร้องกัน” หี​บแห่งพระเยโฮวาห์จึงเวียนรอบเมืองดังนี้​แหละ คือเวียนรอบหนึ่งเที่ยว เขาก็​กล​ับเข้าค่าย นอนค้างคืนอยู่ในค่ายนั้น โยชูวาตื่นขึ้นแต่เช้าและปุโรหิ​ตก​็ยกหีบแห่งพระเยโฮวาห์ขึ้นหาม และปุโรหิตเจ็ดคนถือแตรเขาแกะตัวผู้​เจ​็ดคันเดินนำหน้าหีบแห่งพระเยโฮวาห์เรื่อยไปและเป่าแตรไปด้วย และทหารถืออาวุธก็เดินอยู่ข้างหน้าเขา และกองหลั​งก​็เดินอยู่ข้างหลังหีบแห่งพระเยโฮวาห์ ฝ่ายปุโรหิ​ตน​ั้​นก​็เดินเป่าแตรไปเรื่อยๆ และในวั​นที​่สองเขาก็เดินรอบเมืองนั้​นคร​ั้งหนึ่งแล้วกลับเข้าค่ายอีก เขาทำเช่นนี้​อยู่​หกวัน ต่อมาในวั​นที​่​เจ​็ดเขาลุกขึ้นแต่​เช้าตรู่ เดินกระบวนรอบเมืองอย่างเคยเจ็ดครั้ง เฉพาะวันเดียวนั้นเขาได้เดินกระบวนรอบเมืองเจ็ดครั้ง อยู่​มาในครั้งที่​เจ็ด เมื่อปุโรหิตเป่าแตร โยชูวาบอกแก่ประชาชนว่า “จงโห่ร้องขึ้นเถิด เพราะพระเยโฮวาห์ทรงมอบเมืองให้​แก่​ท่านแล้ว เมืองนั้นและสารพัดในเมืองนั้นจะถูกสาปแช่งต่อพระเยโฮวาห์ เว้นแต่​ราหับหญิงโสเภณีกับคนทั้งหลายที่​อยู่​ในเรือนของนางจะรอดชีวิต เพราะว่านางได้ซ่อนผู้สื่อสารที่พวกเราใช้​ไป แต่​ส่วนท่านทั้งหลาย จงห่างไกลจากของที่​ถู​กสาปแช่งนั้น เกรงว่าเมื่อท่านทั้งหลายจะเก็บสิ่งที่​ถู​กสาปแช่งแล้​วน​ั้นไว้​บ้าง ท่านเองจะต้องถูกสาปแช่ง ทั้งจะทำให้ค่ายของคนอิสราเอลเป็นสิ่งที่​ถู​กสาปแช่ง และนำความทุกข์ลำบากมาสู่ แต่​บรรดาเงินและทอง และเครื่องใช้​ที่​ทำด้วยทองสัมฤทธิ์และเหล็กเป็นของถวายแด่พระเยโฮวาห์ ให้​นำเข้าไปไว้ในคลังของพระเยโฮวาห์” เหตุ​ฉะนั้นประชาชนก็​โห่​ร้องเมื่อปุโรหิตเป่าแตร ดังนั้นพอประชาชนได้ยินเสียงแตร เขาก็​โห่​ร้องดังและกำแพงก็พังลงราบ ประชาชนจึงขึ้นไปในเมืองทุกคนต่างตรงไปข้างหน้าตนและเข้ายึดเมืองนั้น แล​้วเขาก็ทำลายสารพัดที่​อยู่​ในเมืองนั้นเสียสิ้นด้วยคมดาบ ทั้งชายและหญิง หน​ุ่มและแก่ ทั้งวัว แกะและลา แต่​โยชูวาได้สั่งชายสองคนผู้​ที่​ไปสอดแนมแผ่นดินนั้​นว​่า “จงเข้าไปในเรือนของหญิงโสเภณี และนำหญิงนั้​นก​ับสารพัดซึ่งหญิงนั้​นม​ี​อยู่​ออกมาดังที่ท่านได้ปฏิญาณแก่นางไว้” ดังนั้นชายหนุ่​มท​ี่เป็นผู้สอดแนมก็​เข​้าไปนำราหับออกมา กับบิดามารดาและพี่น้องและสารพัดซึ่งเป็นของนาง และเขานำญาติ​พี่​น้องทั้งหมดของนางออกมาให้ไปพักอยู่นอกค่ายของอิสราเอล ส่วนเมืองนั้นเขาก็​จุ​ดไฟเผาเสียทั้งสารพัดที่​อยู่​ในเมืองนั้น นอกจากเงินและทองและเครื่องใช้​ที่​ทำด้วยทองสัมฤทธิ์และด้วยเหล็กนั้น เขานำมาไว้ในคลังในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ส่วนราหับหญิงโสเภณี และครอบครัวบิดาของนาง และสารพัดที่เป็นของนาง โยชูวาได้​ไว้ชีวิต และนางก็อาศัยอยู่ในอิสราเอลจนทุกวันนี้ เพราะว่านางซ่อนผู้​สื่อสาร ซึ่งโยชูวาส่งไปสอดแนมเมืองเยรี​โค ในคราวนั้นโยชูวาให้คนทั้งหลายปฏิญาณว่า “​ผู้​ใดที่​ลุ​กขึ้นสร้างเมืองนี้​ใหม่​คือเมืองเยรี​โค ก็​ให้​ผู้​นั้นได้รับคำสาปแช่งเฉพาะพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ผู้​ใดวางรากลงก็​ให้​ผู้​นั้นเสียบุตรหัวปี ผู้​ใดตั้งประตูเมืองขึ้​นก​็​ให้​เสียบ​ุตรสุดท้อง” ดังนั้นแหละพระเยโฮวาห์ทรงสถิตอยู่กับโยชูวา และชื่อเสียงของท่านเลื่องลือไปตลอดแผ่นดิน

โยชูวา 6:1-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ประตูเมืองเยรีโคถูกปิดแน่นหนา ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออกเลยเนื่องจากพวกเขากลัวชาวอิสราเอล แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า “เราได้มอบเมืองเยรีโค บรรดากษัตริย์และนักรบของเมืองนี้ไว้ในมือเจ้าแล้ว จงเดินขบวนรอบเมืองหนึ่งรอบพร้อมด้วยเหล่านักรบถืออาวุธ จงทำเช่นนี้เป็นเวลาหกวัน ให้ปุโรหิตเจ็ดคนถือแตรเขาแกะเดินนำหน้าหีบพันธสัญญา ในวันที่เจ็ดจงเดินรอบเมืองเจ็ดรอบ ให้ปุโรหิตทั้งเจ็ดนั้นเป่าแตรเขาแกะ และเมื่อเจ้าได้ยินเสียงแตรดังยาว จงให้ประชากรทั้งปวงโห่ร้องเสียงดัง แล้วกำแพงเมืองก็จะโค่นทลาย จากนั้นให้ประชาชนบุกเข้าเมืองทุกทิศทาง” โยชูวาบุตรนูนจึงเรียกประชุมปุโรหิตและสั่งว่า “จงหามหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าโดยมีปุโรหิตเจ็ดคนถือแตรเขาแกะเดินนำหน้า” แล้วเขาสั่งประชากรว่า “จงเดินขบวนรอบเมืองโดยมีกองคุ้มกันติดอาวุธครบมือ นำหน้าหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า” เมื่อโยชูวาสั่งประชากรเรียบร้อยแล้ว ปุโรหิตทั้งเจ็ดถือเขาแกะเจ็ดคันต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเดินนำหน้าพลางเป่าเขาแกะไปโดยมีหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าตามมา กองคุ้มกันถืออาวุธเดินนำหน้าปุโรหิตผู้เป่าแตรเขาแกะ และมีกองคุ้มกันระวังหลังอยู่ท้ายขบวนหีบพันธสัญญา เสียงเป่าแตรเขาแกะดังอยู่ตลอดเวลา แต่โยชูวาได้กำชับประชากรไว้แล้วว่า “อย่าโห่ร้อง อย่าส่งเสียง อย่าเอ่ยออกมาแม้แต่คำเดียว จนถึงวันที่ข้าพเจ้าสั่งให้โห่ร้อง จึงโห่ร้อง!” ดังนั้นเขาจึงให้หามหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าไปรอบเมืองวันละรอบ หลังจากนั้นทุกคนต่างกลับเข้าค่าย และค้างคืนที่นั่น วันรุ่งขึ้นโยชูวาตื่นแต่เช้า ปุโรหิตหามหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ปุโรหิตเจ็ดคนถือแตรเขาแกะคนละคัน เป่าแตรเขาแกะเดินนำหน้าขบวนหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้านักรบติดอาวุธนำขบวน กองคุ้มกันตามหลังหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าขณะเสียงแตรเขาแกะดังอยู่ ในวันที่สองพวกเขาเดินรอบเมืองหนึ่งรอบแล้วกลับไปยังค่ายพัก เขาทำเช่นนี้อยู่หกวัน เช้าตรู่ของวันที่เจ็ด เขาเดินรอบเมืองแบบเดียวกันอีก แต่คราวนี้ไม่ใช่เพียงรอบเดียว แต่เดินถึงเจ็ดรอบ ในรอบที่เจ็ด ขณะที่ปุโรหิตเป่าแตรเขาแกะ โยชูวาสั่งเหล่าประชากรว่า “จงโห่ร้อง! องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบเมืองนี้ให้เราแล้ว! ทั้งเมืองและทุกอย่างในเมืองนี้ต้องอุทิศถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าแต่ให้ไว้ชีวิตราหับหญิงโสเภณีและทุกคนในบ้านของนาง เพราะนางช่วยซ่อนตัวสายสืบของเรา แต่อย่าแตะต้องข้าวของใดๆ ทั้งสิ้นที่ต้องอุทิศถวาย มิฉะนั้นตัวเจ้าเองจะถูกทำลายล้างและทั่วทั้งค่ายของอิสราเอลจะต้องเดือดร้อนและถึงแก่หายนะ แต่เงิน ทอง และเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ที่ทำจากทองสัมฤทธิ์และเหล็ก เป็นของศักดิ์สิทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและต้องนำมายังพระคลังของพระองค์” เมื่อประชากรได้ยินเสียงเป่าแตรเขาแกะก็โห่ร้องสุดเสียง กำแพงเมืองเยรีโคก็พังครืนลงมา ชนอิสราเอลทุกคนบุกเข้ายึดเมือง พวกเขาอุทิศถวายเมืองนั้นแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในเมืองนั้นด้วยดาบ ไม่ว่าชายหรือหญิง คนแก่หรือเด็ก วัว แกะ และลา โยชูวาสั่งสายสืบสองคนนั้นว่า “จงไปที่บ้านของหญิงโสเภณี ช่วยนางกับคนของนางออกมาตามที่เจ้าสาบานกับนางไว้” คนทั้งสองที่ได้ไปสืบดูจึงเข้าไปนำนางราหับ พ่อแม่พี่น้องและคนของนางทั้งหมดออกมาทั้งครอบครัว และให้ไปพักอยู่นอกค่ายพักของอิสราเอล แล้วชนอิสราเอลก็เผาเมืองกับสิ่งของทุกอย่าง แต่นำเงิน ทอง ภาชนะทองสัมฤทธิ์ และเหล็กไปเก็บไว้ในคลังขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่โยชูวาได้ไว้ชีวิตราหับหญิงโสเภณี ครอบครัว และคนของนาง เพราะนางได้ซ่อนตัวสายสืบซึ่งโยชูวาส่งไปเมืองเยรีโค นางอาศัยอยู่ในหมู่ชนอิสราเอลตราบจนทุกวันนี้ ในครั้งนั้นโยชูวาประกาศแช่งว่า “ผู้ใดที่จะสร้างเมืองเยรีโคขึ้นใหม่ ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าดังนี้ “ผู้ใดวางฐานรากของเมือง บุตรหัวปีของผู้นั้นจะเสียชีวิต ผู้ใดติดตั้งประตูเมือง บุตรสุดท้องของผู้นั้นจะเสียชีวิต” เช่นนี้แหละองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยชูวา ชื่อเสียงของเขาเลื่องลือไปทั่วแผ่นดิน

โยชูวา 6:1-27 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ใน​เวลา​นั้น เป็น​เพราะ​ชาว​อิสราเอล เยรีโค​จึง​ถูก​ปิด​อย่าง​แน่นหนา ไม่​มี​ใคร​เข้า​นอก​ออก​ใน​ได้​เลย พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​โยชูวา​ว่า “เห็น​ไหม​ว่า​เรา​ให้​เมือง​เยรีโค​อยู่​ใน​มือ​ของ​เจ้า​แล้ว รวม​ถึง​กษัตริย์​และ​นัก​รบ​ผู้​เก่ง​กล้า เจ้า​จง​เดิน​ทัพ​รอบ​เมือง ให้​บรรดา​ทหาร​ศึก​เดิน​รอบ​เมือง​หนึ่ง​ครั้ง ทำ​อย่าง​นี้​อยู่ 6 วัน ให้​ปุโรหิต 7 คน​ถือ​แตร​งอน 7 คัน​อยู่​ที่​หน้า​หีบ ใน​วัน​ที่​เจ็ด พวก​เจ้า​จง​เดิน​ทัพ​รอบ​เมือง 7 ครั้ง และ​ปุโรหิต​จะ​เป่า​แตร​งอน เมื่อ​พวก​เขา​เป่า​แตร​งอน​ยาวๆ และ​เมื่อ​เจ้า​ได้ยิน​เสียง​แตร ทุก​คน​จง​ตะโกน​ร้อง​เสียง​ดัง​พร้อมๆ กัน แล้ว​กำแพง​เมือง​ก็​จะ​พัง​ราบ​ลง ประชาชน​จะ​ขึ้น​ไป ทุก​คน​จะ​เดิน​ตรง​เข้า​ไป​ได้” ดังนั้น​โยชูวา​บุตร​ของ​นูน​เรียก​บรรดา​ปุโรหิต และ​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “จง​หาม​หีบ​พันธ​สัญญา​ขึ้น และ​ให้​ปุโรหิต 7 คน​ถือ​แตร​งอน 7 คัน​อยู่​ที่​หน้า​หีบ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” และ​ท่าน​พูด​กับ​ประชาชน​ว่า “จง​มุ่ง​หน้า​เดิน​ทัพ​รอบ​เมือง​ต่อ​ไป และ​ให้​ชาย​ที่​ถือ​อาวุธ​เดิน​ไป​ข้าง​หน้า​หีบ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” ทัน​ที​ที่​โยชูวา​บัญชา​ประชาชน​แล้ว ปุโรหิต 7 คน​ถือ​แตร​งอน ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​เดิน​หน้า​เป่า​แตร​งอน มี​หีบ​พันธ​สัญญา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ตาม​หลัง​ไป ชาย​ที่​ถือ​อาวุธ​เดิน​นำ​หน้า​ปุโรหิต​ที่​กำลัง​เป่า​แตร​งอน ทหาร​เดิน​ตาม​หลัง​หีบ ขณะ​ที่​แตร​ก็​เป่า​ต่อ​ไป​เรื่อยๆ แต่​โยชูวา​บัญชา​ประชาชน​ว่า “ท่าน​อย่า​ตะโกน​หรือ​ให้​ใคร​ได้ยิน​เสียง​ของ​ท่าน หรือ​หลุด​ปาก​พูด​อะไร​ออก​ไป​เลย จน​กว่า​จะ​ถึง​วัน​ที่​เรา​บอก​ให้​ท่าน​ตะโกน แล้ว​ท่าน​จึง​จะ​ตะโกน” ดังนั้น​โยชูวา​ให้​หีบ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​วน​ไป​รอบ​เมือง​นั้น 1 ครั้ง แล้ว​กลับ​เข้า​ค่าย พัก​แรม​อยู่​ที่​นั่น โยชูวา​ตื่น​ขึ้น​แต่​เช้า​ตรู่ และ​บรรดา​ปุโรหิต​หาม​หีบ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ขึ้น ปุโรหิต 7 คน​เดิน​ถือ​แตร​งอน 7 คัน​ที่​หน้า​หีบ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ไป และ​เป่า​แตร​งอน​ต่อ​ไป​เรื่อยๆ และ​บรรดา​ชาย​ที่​ถือ​อาวุธ​ก็​เดิน​นำ​หน้า​ปุโรหิต​ทั้ง​เจ็ด ทหาร​เดิน​ตาม​หลัง​หีบ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ขณะ​ที่​แตร​ก็​เป่า​ต่อ​ไป​เรื่อยๆ ใน​วัน​ที่​สอง​พวก​เขา​เดิน​ทัพ​รอบ​เมือง 1 ครั้ง แล้ว​กลับ​เข้า​ค่าย ทำ​อยู่​อย่าง​นั้น​เป็น​เวลา 6 วัน ใน​วัน​ที่​เจ็ด​เขา​ทั้ง​หลาย​ตื่น​ขึ้น​แต่​เช้า​ตรู่ จวน​ใกล้​รุ่ง และ​เดิน​ทัพ​รอบ​เมือง​แบบ​เดิม 7 ครั้ง เป็น​วัน​นั้น​วัน​เดียว​ที่​เดิน​รอบ​เมือง 7 ครั้ง และ​ครั้ง​ที่​เจ็ด​นั้น​เอง​เมื่อ​ปุโรหิต​เป่า​แตร​งอน โยชูวา​ก็​บอก​ประชาชน​ว่า “จง​ตะโกน​ร้อง​เถิด เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​มอบ​เมือง​นี้​ให้​แก่​พวก​ท่าน​แล้ว ทั้ง​ตัว​เมือง​และ​ทุก​สิ่ง​ใน​เมือง​จะ​ถูก​ถวาย​แด่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ยก​เว้น​ราหับ​หญิง​แพศยา​และ​ทุก​คน​ที่​อยู่​ใน​บ้าน​กับ​นาง​เท่า​นั้น​ที่​จะ​รอด​ชีวิต เพราะ​นาง​ช่วย​ซ่อน​ตัว​ผู้​ส่ง​ข่าว​ที่​เรา​ส่ง​ไป แต่​พวก​ท่าน​จง​อย่า​เกี่ยวข้อง​กับ​สิ่ง​ที่​ถูก​ถวาย​แล้ว หาก​ท่าน​ถวาย และ​กลับ​รับ​เอา​สิ่ง​เหล่า​นั้น​กลับ​มา ท่าน​จะ​ทำ​ให้​ค่าย​ของ​อิสราเอล​พินาศ และ​นำ​ปัญหา​มา​ให้​อิสราเอล ส่วน​เงิน​และ​ทองคำ ภาชนะ​ทอง​สัมฤทธิ์​และ​เหล็ก​ทุก​ชิ้น​เป็น​ของ​บริสุทธิ์​สำหรับ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า จง​ยก​ให้​แก่​คลัง​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” ดังนั้น ประชาชน​จึง​ตะโกน​ร้อง และ​แตร​งอน​ก็​ดัง​ลั่น​ขึ้น ทัน​ที​ที่​ประชาชน​ได้ยิน​เสียง​แตร​งอน พวก​เขา​ตะโกน​ร้อง​เสียง​ดัง​พร้อม​กัน กำแพง​จึง​พัง​ราบ​ลง ทุก​คน​ต่าง​พา​กัน​เดิน​หน้า​ออก​ไป​ยึด​เมือง​ไว้​ได้ แล้ว​เขา​ทั้ง​หลาย​ถวาย​เมือง​นั้น​ให้​แด่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​ใช้​ดาบ​ทำลาย​ทุก​สิ่ง​ที่​มี​ชีวิต​ใน​เมือง​คือ ชาย​และ​หญิง เด็ก​เล็ก​และ​คน​ชรา โค แกะ และ​ลา แต่​โยชูวา​พูด​กับ​ชาย 2 คน​ที่​เคย​ไป​เป็น​สาย​สืบ​ใน​แผ่นดิน​ว่า “จง​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​หญิง​แพศยา และ​พา​หญิง​คน​นั้น​มา​พร้อม​กับ​ทุก​คน​ที่​เกี่ยวดอง​กับ​นาง​ตาม​ที่​ท่าน​สัญญา​กับ​นาง​ไว้” ดังนั้น​ชาย​หนุ่ม​ที่​เป็น​สาย​สืบ​จึง​เข้า​ไป​พา​ราหับ​กับ​บิดา​มารดา พี่​น้อง​และ​ทุก​คน​ที่​เกี่ยวดอง​กับ​นาง และ​พา​ญาติ​ทุก​คน​ของ​นาง​ไป​อยู่​ที่​นอก​ค่าย​ของ​อิสราเอล จาก​นั้น​พวก​เขา​ก็​เผา​เมือง​รวม​ทั้ง​ทุก​สิ่ง​ใน​เมือง​ด้วย ยก​เว้น​เงิน​และ​ทองคำ ภาชนะ​ทอง​สัมฤทธิ์​และ​เหล็ก​ที่​เขา​เก็บ​ไว้​ใน​คลัง​พระ​ตำหนัก​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า แต่​โยชูวา​ไว้​ชีวิต​หญิง​แพศยา​และ​ตระกูล​ของ​นาง​และ​ทุก​คน​ที่​เกี่ยวดอง​กับ​นาง และ​นาง​อาศัย​อยู่​ใน​อิสราเอล​มา​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ เพราะ​นาง​ซ่อน​ตัว​ผู้​ส่ง​ข่าว 2 คน​ที่​โยชูวา​ให้​ไป​สืบ​ความ​ใน​เยรีโค ใน​ครั้ง​นั้น โยชูวา​สาบาน​ว่า “ผู้​ใด​ลุก​ขึ้น​มา​สร้าง​เมือง​เยรีโค​นี้​ขึ้น​ใหม่ ขอ​ให้​ถูก​สาป​แช่ง​ต่อ​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ใคร​ก็​ตาม​ที่​วาง​ฐาน​ราก จะ​เสีย​บุตร​ชาย​หัว​ปี ใคร​ก็​ตาม​ที่​สร้าง​ประตู​เมือง จะ​เสีย​บุตร​คน​สุด​ท้อง” ดังนั้น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​สถิต​กับ​โยชูวา และ​กิตติศัพท์​ของ​ท่าน​เลื่อง​ลือ​ไป​ทั่ว​แผ่นดิน