โยชูวา 5:6-15
โยชูวา 5:6-15 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เพราะว่าคนอิสราเอลเดินทางสี่สิบปีอยู่ ในถิ่นทุรกันดารจนประชาชาติทั้งสิ้น คือทหารที่ออกมาจากอียิปต์สิ้นชีวิตเสียหมด เพราะเขามิได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงปฏิญาณกับเขาว่า พระองค์จะไม่ทรงยอมให้เขาเห็นแผ่นดิน ซึ่งพระเจ้าได้ปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะประทานแก่เรา ทั้งหลาย เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ แต่บุตรของเขาซึ่งพระองค์ทรงให้แทนเขานั้น โยชูวาก็ได้ให้เข้าสุหนัตเพราะว่าเขายังไม่เข้าสุหนัต เพราะว่าเขาไม่เคยได้รับเมื่อมาตามทาง เมื่อได้ให้ประชาชาติเข้าสุหนัตเสร็จหมดแล้ว เขาก็พักอยู่ในค่ายจนกว่าจะหายเป็นปกติ พระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า <<วันนี้เราได้กลิ้งความอดสูเพราะอียิปต์ไปให้พ้นเจ้าแล้ว>> จึงเรียกชื่อตำบลนั้นว่ากิลกาลจนทุกวันนี้ ฝ่ายคนอิสราเอลได้ตั้งค่ายที่กิลกาล เขาถือเทศกาลปัสกาใน วันที่สิบสี่เวลาเย็น ณ ที่ราบเมืองเยรีโค วันรุ่งขึ้นหลังวันเทศกาลปัสกา วันนั้นเองเขาก็รับประทานผลอันเกิดจากแผ่นดิน คือขนมไร้เชื้อและข้าวคั่ว ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นมานา ก็ขาดไปคือ เมื่อเขาได้รับประทานผลจากแผ่นดินคนอิสราเอล ไม่มีมานาอีกเลย ในปีนั้นเขารับประทานผลจากแผ่นดินคานาอัน เมื่อโยชูวาอยู่ข้างเมืองเยรีโคท่านก็เงยหน้าขึ้นมองดู เห็นชายคนหนึ่งชักดาบออกมาถือยืนอยู่ตรงหน้าท่าน โยชูวาเข้าไปหาชายนั้น กล่าวแก่เขาว่า <<ท่านอยู่ฝ่ายเราหรืออยู่ฝ่ายศัตรู>> ผู้นั้นจึงตอบว่า <<มิใช่ ที่เรามานี้ก็มาเป็นจอมพลโยธาของพระเจ้า>> ฝ่ายโยชูวาก็กราบลงถึงดินนมัสการแล้วถามว่า <<เจ้านายของข้าพเจ้าท่านจะให้ผู้รับใช้ของท่านกระทำอะไร>> และจอมพลโยธาของพระเจ้าจึงสั่งโยชูวาว่า <<จงถอดรองเท้าออกจากเท้าของเจ้าเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์>> โยชูวาก็กระทำตาม
โยชูวา 5:6-15 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ชาวอิสราเอลได้เดินทางไปในทะเลทรายเป็นเวลาสี่สิบปี จนชนชาติทั้งหมด คือพวกทหารที่ได้ออกมาจากอียิปต์เสียชีวิตกันไปหมด เพราะพวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังพระยาห์เวห์ พระองค์ได้สาบานกับพวกเขาว่า พระองค์จะไม่ยอมให้พวกเขาได้เห็นแผ่นดินที่พระองค์เคยสาบานกับบรรพบุรุษ ของพวกเขาว่าจะยกให้กับพวกเรา ซึ่งเป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์มาก ดังนั้น พระองค์จึงได้ยกพวกลูกชายของพวกเขาขึ้นมาแทนที่ และคนพวกนี้นี่แหละที่โยชูวาทำพิธีขลิบให้ เพราะพวกเขายังไม่เคยเข้าพิธีขลิบมาก่อนในระหว่างการเดินทาง เมื่อพวกเขาทั้งหมดได้รับการขลิบเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปที่พักของตนในค่ายจนกว่าจะหายดี พระยาห์เวห์ได้พูดกลับโยชูวาว่า “วันนี้เราได้กลิ้งความอดสูที่เกิดในอียิปต์พ้นไปจากพวกเจ้าแล้ว” ดังนั้น สถานที่นี้จึงมีชื่อว่า กิลกาล มาจนถึงทุกวันนี้ ขณะที่ชาวอิสราเอลตั้งค่ายอยู่ที่กิลกาล พวกเขาได้ฉลองเทศกาลวันปลดปล่อย ในเย็นวันที่สิบสี่ของเดือน ตรงที่ราบของเมืองเยริโค วันรุ่งขึ้นหลังจากเทศกาลวันปลดปล่อย พวกเขาได้กินผลผลิตที่เกิดจากแผ่นดิน คือ ขนมปังไร้เชื้อและข้าวคั่ว ในวันนั้นที่พวกเขาได้กินผลผลิตจากแผ่นดิน มานาก็หยุดตก ต่อจากนั้นมาชาวอิสราเอลก็ไม่ได้กินมานาอีกเลย ในปีนั้นพวกเขาได้กินพืชผลที่เก็บเกี่ยวจากแผ่นดินคานาอัน มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อโยชูวาอยู่แถวชานเมืองเยริโค เขาได้เงยหน้าขึ้นเห็นชายคนหนึ่งที่มีดาบที่ชักออกมาแล้วอยู่ในมือ ยืนอยู่ต่อหน้าท่าน โยชูวาเข้าไปหาชายคนนั้นและถามว่า “ท่านอยู่ฝ่ายเราหรือฝ่ายศัตรู” ชายคนนั้นตอบว่า “ไม่ใช่ทั้งนั้น แต่เรามาที่นี่ในฐานะแม่ทัพของกองทัพแห่งพระยาห์เวห์” ดังนั้น โยชูวาจึงก้มหน้ากับพื้นกราบไหว้ชายคนนั้น และพูดว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ท่านจะสั่งให้ผู้รับใช้ของท่านทำอะไรครับ” แม่ทัพของกองทัพแห่งพระยาห์เวห์พูดกับโยชูวาว่า “ถอดรองเท้าของเจ้าออก เพราะที่ที่เจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์” โยชูวาก็ทำตามนั้น
โยชูวา 5:6-15 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
เพราะว่าคนอิสราเอลเดินทาง 40 ปีในถิ่นทุรกันดารจนชนชาติทั้งสิ้น คือพวกทหารที่ออกมาจากอียิปต์สิ้นชีวิตทั้งหมด เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์ ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงปฏิญาณกับเขาว่า พระองค์จะไม่ทรงยอมให้เขาเห็นแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ได้ทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของเขาว่าจะประทานแก่เราทั้งหลาย เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ แต่บรรดาบุตรของพวกเขาซึ่งพระองค์ทรงให้มาแทนเขานั้น โยชูวาก็ให้เข้าสุหนัตเพราะเขายังไม่ได้เข้าสุหนัต เนื่องจากเขาไม่เคยให้เข้าสุหนัตเมื่อมาตามทาง เมื่อได้ให้ชนชาติทั้งหมดเข้าสุหนัตแล้ว พวกเขาก็พักอยู่ในค่ายจนกว่าจะหายเป็นปกติ พระยาห์เวห์ตรัสกับโยชูวาว่า “วันนี้เราได้กลิ้งความอดสูเพราะอียิปต์ไปให้พ้นเจ้าแล้ว” จึงเรียกชื่อตำบลนั้นว่ากิลกาลจนทุกวันนี้ ประชาชนอิสราเอลได้ตั้งค่ายที่กิลกาล และถือเทศกาลปัสกาในวันที่สิบสี่เวลาเย็น ณ ที่ราบเมืองเยรีโค วันรุ่งขึ้นหลังวันเทศกาลปัสกา วันนั้นเองพวกเขาก็รับประทานผลจากแผ่นดิน คือขนมปังไร้เชื้อและข้าวคั่ว ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นมานาก็ขาดไป คือเมื่อเขาได้รับประทานผลจากแผ่นดิน ประชาชนอิสราเอลไม่มีมานาอีกเลย ในปีนั้นเขารับประทานผลจากแผ่นดินคานาอัน เมื่อโยชูวาอยู่ข้างเมืองเยรีโคท่านได้เงยหน้าขึ้นมองดู นี่แน่ะ ชายคนหนึ่งชักดาบออกมาถือยืนอยู่ตรงหน้าท่าน โยชูวาเข้าไปหาชายนั้น กล่าวแก่เขาว่า “ท่านอยู่ฝ่ายเราหรืออยู่ฝ่ายศัตรู?” ผู้นั้นจึงตอบว่า “ไม่ใช่ เรามาในฐานะจอมทัพของพระยาห์เวห์” ฝ่ายโยชูวาก็กราบลงถึงดินนมัสการแล้วถามว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ท่านจะให้ผู้รับใช้ของท่านทำอะไร?” จอมทัพของพระยาห์เวห์จึงสั่งโยชูวาว่า “จงถอดรองเท้าออกจากเท้าของเจ้าเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์” โยชูวาก็ทำตาม
โยชูวา 5:6-15 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
เพราะว่าคนอิสราเอลเดินทางสี่สิบปีอยู่ในถิ่นทุรกันดารจนประชาชนทั้งสิ้น คือทหารที่ออกมาจากอียิปต์สิ้นชีวิตเสียหมด เพราะเขามิได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์ ผู้ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณกับเขาว่า พระองค์จะไม่ทรงยอมให้เขาเห็นแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์ได้ปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะประทานแก่เราทั้งหลาย เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ แต่บุตรของเขาซึ่งพระองค์ทรงให้แทนเขานั้น โยชูวาก็ได้ให้เข้าสุหนัต เพราะว่าเขายังไม่เข้าสุหนัต เพราะว่าเขาไม่เคยได้เข้าสุหนัตเมื่อมาตามทาง ต่อมาเมื่อได้ให้ประชาชนเข้าสุหนัตเสร็จหมดแล้ว เขาก็พักอยู่ในที่อาศัยในค่ายจนกว่าจะหายเป็นปกติ พระเยโฮวาห์ตรัสกับโยชูวาว่า “วันนี้เราได้กลิ้งความอดสูเพราะอียิปต์ไปให้พ้นเจ้าแล้ว” จึงเรียกชื่อตำบลนั้นว่ากิลกาลจนทุกวันนี้ ฝ่ายคนอิสราเอลได้ตั้งค่ายที่กิลกาล เขาถือเทศกาลปัสกาในวันที่สิบสี่ของเดือนนั้นเวลาเย็น ณ ที่ราบเมืองเยรีโค วันรุ่งขึ้นหลังวันเทศกาลปัสกา วันนั้นเองเขาก็รับประทานผลอันเกิดจากแผ่นดิน คือขนมไร้เชื้อและข้าวคั่ว ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นมานาก็ขาดไป คือเมื่อเขาได้รับประทานผลจากแผ่นดิน คนอิสราเอลไม่มีมานาอีกเลย ในปีนั้นเขารับประทานผลจากแผ่นดินคานาอัน ต่อมาเมื่อโยชูวาอยู่ข้างเมืองเยรีโค ท่านก็เงยหน้าขึ้นมองดู และดูเถิด มีชายคนหนึ่งชักดาบออกมาถือยืนอยู่ตรงหน้าท่าน โยชูวาเข้าไปหาชายนั้น กล่าวแก่เขาว่า “ท่านอยู่ฝ่ายเราหรืออยู่ฝ่ายศัตรู” ผู้นั้นจึงตอบว่า “มิใช่ ที่เรามานี้ก็มาเป็นจอมพลโยธาของพระเยโฮวาห์” ฝ่ายโยชูวาก็กราบลงถึงดินนมัสการแล้วถามว่า “เจ้านายของข้าพเจ้าท่านจะให้ผู้รับใช้ของท่านกระทำอะไร” และจอมพลโยธาของพระเยโฮวาห์จึงสั่งโยชูวาว่า “จงถอดรองเท้าออกจากเท้าของเจ้าเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่บริสุทธิ์” โยชูวาก็กระทำตาม
โยชูวา 5:6-15 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เพราะว่าคนอิสราเอลเดินทางสี่สิบปีอยู่ ในถิ่นทุรกันดารจนประชาชาติทั้งสิ้น คือทหารที่ออกมาจากอียิปต์สิ้นชีวิตเสียหมด เพราะเขามิได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงปฏิญาณกับเขาว่า พระองค์จะไม่ทรงยอมให้เขาเห็นแผ่นดิน ซึ่งพระเจ้าได้ปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะประทานแก่เรา ทั้งหลาย เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ แต่บุตรของเขาซึ่งพระองค์ทรงให้แทนเขานั้น โยชูวาก็ได้ให้เข้าสุหนัตเพราะว่าเขายังไม่เข้าสุหนัต เพราะว่าเขาไม่เคยได้รับเมื่อมาตามทาง เมื่อได้ให้ประชาชาติเข้าสุหนัตเสร็จหมดแล้ว เขาก็พักอยู่ในค่ายจนกว่าจะหายเป็นปกติ พระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า <<วันนี้เราได้กลิ้งความอดสูเพราะอียิปต์ไปให้พ้นเจ้าแล้ว>> จึงเรียกชื่อตำบลนั้นว่ากิลกาลจนทุกวันนี้ ฝ่ายคนอิสราเอลได้ตั้งค่ายที่กิลกาล เขาถือเทศกาลปัสกาใน วันที่สิบสี่เวลาเย็น ณ ที่ราบเมืองเยรีโค วันรุ่งขึ้นหลังวันเทศกาลปัสกา วันนั้นเองเขาก็รับประทานผลอันเกิดจากแผ่นดิน คือขนมไร้เชื้อและข้าวคั่ว ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นมานา ก็ขาดไปคือ เมื่อเขาได้รับประทานผลจากแผ่นดินคนอิสราเอล ไม่มีมานาอีกเลย ในปีนั้นเขารับประทานผลจากแผ่นดินคานาอัน เมื่อโยชูวาอยู่ข้างเมืองเยรีโคท่านก็เงยหน้าขึ้นมองดู เห็นชายคนหนึ่งชักดาบออกมาถือยืนอยู่ตรงหน้าท่าน โยชูวาเข้าไปหาชายนั้น กล่าวแก่เขาว่า <<ท่านอยู่ฝ่ายเราหรืออยู่ฝ่ายศัตรู>> ผู้นั้นจึงตอบว่า <<มิใช่ ที่เรามานี้ก็มาเป็นจอมพลโยธาของพระเจ้า>> ฝ่ายโยชูวาก็กราบลงถึงดินนมัสการแล้วถามว่า <<เจ้านายของข้าพเจ้าท่านจะให้ผู้รับใช้ของท่านกระทำอะไร>> และจอมพลโยธาของพระเจ้าจึงสั่งโยชูวาว่า <<จงถอดรองเท้าออกจากเท้าของเจ้าเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์>> โยชูวาก็กระทำตาม
โยชูวา 5:6-15 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ชนอิสราเอลร่อนเร่อยู่ในถิ่นกันดารตลอดสี่สิบปี จนชายทุกคนที่อยู่ในวัยที่ออกรบได้เมื่อออกมาจากอียิปต์ได้สิ้นชีวิตหมดแล้ว เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิญาณกับพวกเขาไว้ว่า พวกเขาจะไม่ได้เห็นดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งที่พระองค์ทรงสัญญาไว้อย่างหนักแน่นกับบรรพบุรุษของพวกเขาว่าจะยกให้พวกเรา บัดนี้โยชูวาจึงทำพิธีสุหนัตให้บุตรชายของพวกเขาที่โตพอที่จะแทนบิดาของตน เนื่องจากคนเหล่านี้ยังไม่ได้เข้าสุหนัตระหว่างทาง หลังจากประชากรทั้งชาติเข้าสุหนัตแล้ว ก็พักอยู่ในค่ายจนหายเป็นปกติ แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า “วันนี้เราได้กลิ้งความอัปยศแห่งอียิปต์ออกไปพ้นจากเจ้าแล้ว” สถานที่นั้นจึงได้ชื่อว่ากิลกาลตราบจนทุกวันนี้ ขณะตั้งค่ายพักอยู่ที่กิลกาลในที่ราบเยรีโค ชนอิสราเอลได้ฉลองปัสกาในเย็นวันที่สิบสี่ของเดือนนั้น วันรุ่งขึ้นหลังจากพิธีปัสกา พวกเขารับประทานพืชผลจากดินแดนนั้น คือขนมปังไม่ใส่เชื้อและข้าวคั่ว หลังจากนั้นไม่มีมานาตกลงมาให้ชนอิสราเอลอีกเลย ในปีนั้นพวกเขาเลี้ยงชีพด้วยพืชผลจากแผ่นดินคานาอัน ขณะที่โยชูวาอยู่ใกล้เมืองเยรีโค เขาเงยหน้าขึ้นเห็นชายคนหนึ่งชักดาบออกจากฝักยืนอยู่ตรงหน้า โยชูวาจึงก้าวเข้าไปหาและถามว่า “ท่านเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู?” ผู้นั้นตอบว่า “ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง เรามาในฐานะจอมทัพขององค์พระผู้เป็นเจ้า” โยชูวาจึงหมอบซบหน้าลงกับพื้นด้วยความเคารพยำเกรงและถามว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีพระบัญชาประการใดกับผู้รับใช้ของพระองค์หรือ?” จอมทัพขององค์พระผู้เป็นเจ้าตอบว่า “จงถอดรองเท้าออก เพราะที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์” โยชูวาก็ปฏิบัติตาม
โยชูวา 5:6-15 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ด้วยว่า ชาวอิสราเอลเดินทางมาอยู่ในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลา 40 ปี จนกระทั่งชนทั้งชาติ ซึ่งเป็นชายนักรบที่ออกมาจากอียิปต์เสียชีวิตไป เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าปฏิญาณไว้กับพวกเขาว่า พระองค์จะไม่ปล่อยให้พวกเขาเห็นดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งที่พระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขาว่า จะมอบให้แก่พวกเรา ฉะนั้นโยชูวาทำพิธีเข้าสุหนัตให้แก่ลูกหลานชาวอิสราเอล คือบรรดาผู้ที่พระองค์กำหนดให้ขึ้นมาแทน และยังไม่ได้เข้าสุหนัต เพราะไม่มีพิธีเข้าสุหนัตในระหว่างการเดินทาง เมื่อชนทั้งชาติเข้าสุหนัตครบแล้ว ทุกคนก็อยู่ประจำที่ของตนในค่ายจนกระทั่งหายดี พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโยชูวาว่า “วันนี้เราได้ทำให้พวกเจ้าพ้นจากความอัปยศที่ประสบมาในอียิปต์” สถานที่นั้นจึงได้ชื่อว่า กิลกาล มาจนถึงทุกวันนี้ ขณะที่ชาวอิสราเอลพักอยู่ในค่ายที่กิลกาล เขาฉลองวันปัสกาในเวลาเย็นของวันที่สิบสี่เดือนเดียวกันนั้น ณ ที่ราบของเยรีโค และวันรุ่งขึ้นหลังจากวันปัสกา ในวันนั้นเอง พวกเขารับประทานพืชผลที่ได้จากแผ่นดินนั้น ทั้งขนมปังไร้เชื้อ และข้าวคั่ว หลังจากพวกเขารับประทานพืชผลที่ได้จากแผ่นดินนั้นแล้ว มานาก็หยุด คือไม่มีมานาสำหรับชาวอิสราเอลอีกต่อไป แต่ในปีนั้นพวกเขารับประทานพืชผลที่ได้จากแผ่นดินคานาอัน เมื่อโยชูวาอยู่ใกล้เยรีโค ท่านเงยหน้าและมองดู ดูเถิด ชายผู้หนึ่งมือถือดาบยืนอยู่ตรงหน้าท่าน โยชูวาก้าวเข้าไปใกล้และพูดกับท่านด้วยว่า “ท่านเป็นฝ่ายเราหรือฝ่ายศัตรูของเรา” ผู้นั้นตอบว่า “ไม่ใช่ แต่เราเป็นผู้บัญชากองทัพของพระผู้เป็นเจ้า บัดนี้เรามาแล้ว” และโยชูวาก้มหน้าลงซบดิน กราบนมัสการและพูดว่า “นายท่านมีรับสั่งอะไรกับผู้รับใช้หรือ” ผู้บัญชากองทัพของพระผู้เป็นเจ้าพูดกับโยชูวาว่า “จงถอดรองเท้าออกจากเท้าเสียเถิด เพราะว่าที่ที่เจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่บริสุทธิ์” โยชูวาก็กระทำตาม