โยชูวา 5:6-15

โยชูวา 5:6-15 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เพราะว่าคนอิสราเอลเดินทางสี่สิบปีอยู่ ในถิ่นทุรกันดารจนประชาชาติทั้งสิ้น คือทหารที่ออกมาจากอียิปต์สิ้นชีวิตเสียหมด เพราะเขามิได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงปฏิญาณกับเขาว่า พระองค์จะไม่ทรงยอมให้เขาเห็นแผ่นดิน ซึ่งพระเจ้าได้ปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะประทานแก่เรา ทั้งหลาย เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ แต่บุตรของเขาซึ่งพระองค์ทรงให้แทนเขานั้น โยชูวาก็ได้ให้เข้าสุหนัตเพราะว่าเขายังไม่เข้าสุหนัต เพราะว่าเขาไม่เคยได้รับเมื่อมาตามทาง เมื่อได้ให้ประชาชาติเข้าสุหนัตเสร็จหมดแล้ว เขาก็พักอยู่ในค่ายจนกว่าจะหายเป็นปกติ พระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า <<วันนี้เราได้กลิ้งความอดสูเพราะอียิปต์ไปให้พ้นเจ้าแล้ว>> จึงเรียกชื่อตำบลนั้นว่ากิลกาลจนทุกวันนี้ ฝ่ายคนอิสราเอลได้ตั้งค่ายที่กิลกาล เขาถือเทศกาลปัสกาใน วันที่สิบสี่เวลาเย็น ณ ที่ราบเมืองเยรีโค วันรุ่งขึ้นหลังวันเทศกาลปัสกา วันนั้นเองเขาก็รับประทานผลอันเกิดจากแผ่นดิน คือขนมไร้เชื้อและข้าวคั่ว ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นมานา ก็ขาดไปคือ เมื่อเขาได้รับประทานผลจากแผ่นดินคนอิสราเอล ไม่มีมานาอีกเลย ในปีนั้นเขารับประทานผลจากแผ่นดินคานาอัน เมื่อโยชูวาอยู่ข้างเมืองเยรีโคท่านก็เงยหน้าขึ้นมองดู เห็นชายคนหนึ่งชักดาบออกมาถือยืนอยู่ตรงหน้าท่าน โยชูวาเข้าไปหาชายนั้น กล่าวแก่เขาว่า <<ท่านอยู่ฝ่ายเราหรืออยู่ฝ่ายศัตรู>> ผู้นั้นจึงตอบว่า <<มิใช่ ที่เรามานี้ก็มาเป็นจอมพลโยธาของพระเจ้า>> ฝ่ายโยชูวาก็กราบลงถึงดินนมัสการแล้วถามว่า <<เจ้านายของข้าพเจ้าท่านจะให้ผู้รับใช้ของท่านกระทำอะไร>> และจอมพลโยธาของพระเจ้าจึงสั่งโยชูวาว่า <<จงถอดรองเท้าออกจากเท้าของเจ้าเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์>> โยชูวาก็กระทำตาม

โยชูวา 5:6-15 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ชาว​อิสราเอล​ได้​เดินทาง​ไป​ใน​ทะเลทราย​เป็น​เวลา​สี่สิบ​ปี จน​ชนชาติ​ทั้งหมด คือ​พวก​ทหาร​ที่​ได้​ออก​มา​จาก​อียิปต์​เสีย​ชีวิต​กัน​ไปหมด เพราะ​พวกเขา​ไม่ยอม​เชื่อฟัง​พระยาห์เวห์ พระองค์​ได้​สาบาน​กับ​พวกเขา​ว่า พระองค์​จะ​ไม่ยอม​ให้​พวกเขา​ได้​เห็น​แผ่นดิน​ที่​พระองค์​เคย​สาบาน​กับ​บรรพบุรุษ ของ​พวกเขา​ว่า​จะ​ยก​ให้​กับ​พวกเรา ซึ่ง​เป็น​แผ่นดิน​ที่​อุดม​สมบูรณ์​มาก ดังนั้น พระองค์​จึง​ได้​ยก​พวก​ลูกชาย​ของ​พวกเขา​ขึ้น​มา​แทนที่ และ​คน​พวกนี้​นี่แหละ​ที่​โยชูวา​ทำ​พิธี​ขลิบ​ให้ เพราะ​พวกเขา​ยัง​ไม่เคย​เข้า​พิธี​ขลิบ​มา​ก่อน​ใน​ระหว่าง​การ​เดินทาง เมื่อ​พวกเขา​ทั้งหมด​ได้รับ​การ​ขลิบ​เรียบร้อย​แล้ว ก็​กลับ​ไป​ที่พัก​ของ​ตน​ใน​ค่าย​จนกว่า​จะ​หาย​ดี พระยาห์เวห์​ได้​พูด​กลับ​โยชูวา​ว่า “วันนี้​เรา​ได้​กลิ้ง​ความ​อดสู​ที่​เกิด​ใน​อียิปต์​พ้น​ไป​จาก​พวกเจ้า​แล้ว” ดังนั้น สถานที่​นี้​จึง​มี​ชื่อ​ว่า กิลกาล มา​จน​ถึง​ทุกวันนี้ ขณะที่​ชาว​อิสราเอล​ตั้ง​ค่าย​อยู่​ที่​กิลกาล พวกเขา​ได้​ฉลอง​เทศกาล​วัน​ปลด​ปล่อย ใน​เย็น​วันที่​สิบสี่​ของ​เดือน ตรง​ที่ราบ​ของ​เมือง​เยริโค วัน​รุ่งขึ้น​หลัง​จาก​เทศกาล​วัน​ปลด​ปล่อย พวกเขา​ได้​กิน​ผลผลิต​ที่​เกิด​จาก​แผ่นดิน คือ ขนมปัง​ไร้เชื้อ​และ​ข้าวคั่ว ใน​วันนั้น​ที่​พวกเขา​ได้​กิน​ผลผลิต​จาก​แผ่นดิน มานา​ก็​หยุด​ตก ต่อ​จากนั้น​มา​ชาว​อิสราเอล​ก็​ไม่ได้​กิน​มานา​อีกเลย ใน​ปีนั้น​พวกเขา​ได้​กิน​พืชผล​ที่​เก็บเกี่ยว​จาก​แผ่นดิน​คานาอัน มี​อยู่​ครั้ง​หนึ่ง เมื่อ​โยชูวา​อยู่​แถว​ชาน​เมือง​เยริโค เขา​ได้​เงย​หน้า​ขึ้น​เห็น​ชาย​คนหนึ่ง​ที่​มี​ดาบ​ที่​ชัก​ออก​มา​แล้ว​อยู่​ใน​มือ ยืน​อยู่​ต่อหน้า​ท่าน โยชูวา​เข้า​ไป​หา​ชาย​คนนั้น​และ​ถาม​ว่า “ท่าน​อยู่​ฝ่าย​เรา​หรือ​ฝ่าย​ศัตรู” ชาย​คนนั้น​ตอบ​ว่า “ไม่ใช่​ทั้งนั้น แต่​เรา​มา​ที่นี่​ใน​ฐานะ​แม่ทัพ​ของ​กองทัพ​แห่ง​พระยาห์เวห์” ดังนั้น โยชูวา​จึง​ก้มหน้า​กับ​พื้น​กราบไหว้​ชาย​คนนั้น และ​พูด​ว่า “เจ้านาย​ของ​ข้าพเจ้า ท่าน​จะ​สั่ง​ให้​ผู้รับใช้​ของ​ท่าน​ทำ​อะไร​ครับ” แม่ทัพ​ของ​กองทัพ​แห่ง​พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โยชูวา​ว่า “ถอด​รองเท้า​ของเจ้า​ออก เพราะ​ที่​ที่​เจ้า​ยืน​อยู่​นี้​เป็น​ที่​ศักดิ์สิทธิ์” โยชูวา​ก็​ทำ​ตามนั้น

โยชูวา 5:6-15 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เพราะว่าคนอิสราเอลเดินทาง 40 ปีในถิ่นทุรกันดารจนชนชาติทั้งสิ้น คือพวกทหารที่ออกมาจากอียิปต์สิ้นชีวิตทั้งหมด เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์ ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงปฏิญาณกับเขาว่า พระองค์จะไม่ทรงยอมให้เขาเห็นแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ได้ทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของเขาว่าจะประทานแก่เราทั้งหลาย เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ แต่บรรดาบุตรของพวกเขาซึ่งพระองค์ทรงให้มาแทนเขานั้น โยชูวาก็ให้เข้าสุหนัตเพราะเขายังไม่ได้เข้าสุหนัต เนื่องจากเขาไม่เคยให้เข้าสุหนัตเมื่อมาตามทาง เมื่อได้ให้ชนชาติทั้งหมดเข้าสุหนัตแล้ว พวกเขาก็พักอยู่ในค่ายจนกว่าจะหายเป็นปกติ พระยาห์เวห์ตรัสกับโยชูวาว่า “วันนี้เราได้กลิ้งความอดสูเพราะอียิปต์ไปให้พ้นเจ้าแล้ว” จึงเรียกชื่อตำบลนั้นว่ากิลกาลจนทุกวันนี้ ประชาชนอิสราเอลได้ตั้งค่ายที่กิลกาล และถือเทศกาลปัสกาในวันที่สิบสี่เวลาเย็น ณ ที่ราบเมืองเยรีโค วันรุ่งขึ้นหลังวันเทศกาลปัสกา วันนั้นเองพวกเขาก็รับประทานผลจากแผ่นดิน คือขนมปังไร้เชื้อและข้าวคั่ว ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นมานาก็ขาดไป คือเมื่อเขาได้รับประทานผลจากแผ่นดิน ประชาชนอิสราเอลไม่มีมานาอีกเลย ในปีนั้นเขารับประทานผลจากแผ่นดินคานาอัน เมื่อโยชูวาอยู่ข้างเมืองเยรีโคท่านได้เงยหน้าขึ้นมองดู นี่แน่ะ ชายคนหนึ่งชักดาบออกมาถือยืนอยู่ตรงหน้าท่าน โยชูวาเข้าไปหาชายนั้น กล่าวแก่เขาว่า “ท่านอยู่ฝ่ายเราหรืออยู่ฝ่ายศัตรู?” ผู้นั้นจึงตอบว่า “ไม่ใช่ เรามาในฐานะจอมทัพของพระยาห์เวห์” ฝ่ายโยชูวาก็กราบลงถึงดินนมัสการแล้วถามว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ท่านจะให้ผู้รับใช้ของท่านทำอะไร?” จอมทัพของพระยาห์เวห์จึงสั่งโยชูวาว่า “จงถอดรองเท้าออกจากเท้าของเจ้าเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์” โยชูวาก็ทำตาม

โยชูวา 5:6-15 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เพราะว่าคนอิสราเอลเดินทางสี่​สิ​บปี​อยู่​ในถิ่นทุ​รก​ันดารจนประชาชนทั้งสิ้น คือทหารที่ออกมาจากอียิปต์​สิ​้นชีวิตเสียหมด เพราะเขามิ​ได้​เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์ ผู้​ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณกับเขาว่า พระองค์​จะไม่ทรงยอมให้เขาเห็นแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​ปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะประทานแก่เราทั้งหลาย เป็นแผ่นดิ​นที​่​มีน​้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบู​รณ​์ แต่​บุ​ตรของเขาซึ่งพระองค์ทรงให้แทนเขานั้น โยชู​วาก​็​ได้​ให้​เข้าสุหนัต เพราะว่าเขายังไม่​เข้าสุหนัต เพราะว่าเขาไม่เคยได้​เข​้าสุ​หน​ัตเมื่อมาตามทาง ต่อมาเมื่อได้​ให้​ประชาชนเข้าสุ​หน​ัตเสร็จหมดแล้ว เขาก็พักอยู่ในที่อาศัยในค่ายจนกว่าจะหายเป็นปกติ พระเยโฮวาห์ตรัสกับโยชู​วาว​่า “​วันนี้​เราได้​กล​ิ้งความอดสูเพราะอียิปต์ไปให้พ้นเจ้าแล้ว” จึงเรียกชื่อตำบลนั้​นว​่ากิลกาลจนทุกวันนี้ ฝ่ายคนอิสราเอลได้ตั้งค่ายที่กิลกาล เขาถือเทศกาลปัสกาในวั​นที​่​สิ​บสี่ของเดือนนั้นเวลาเย็น ณ ที่​ราบเมืองเยรี​โค วั​นร​ุ่งขึ้นหลังวันเทศกาลปัสกา วันนั้นเองเขาก็รับประทานผลอันเกิดจากแผ่นดิน คือขนมไร้เชื้อและข้าวคั่ว ตั้งแต่​วั​นร​ุ่งขึ้นมานาก็ขาดไป คือเมื่อเขาได้รับประทานผลจากแผ่นดิน คนอิสราเอลไม่​มี​มานาอีกเลย ในปีนั้นเขารับประทานผลจากแผ่นดินคานาอัน ต่อมาเมื่อโยชูวาอยู่ข้างเมืองเยรี​โค ท่านก็เงยหน้าขึ้นมองดู และดู​เถิด มี​ชายคนหนึ่งชักดาบออกมาถือยืนอยู่ตรงหน้าท่าน โยชูวาเข้าไปหาชายนั้น กล​่าวแก่เขาว่า “ท่านอยู่ฝ่ายเราหรืออยู่ฝ่ายศั​ตรู​” ผู้​นั้นจึงตอบว่า “​มิใช่ ที่​เรามานี้​ก็​มาเป็นจอมพลโยธาของพระเยโฮวาห์” ฝ่ายโยชู​วาก​็กราบลงถึ​งด​ินนมัสการแล้วถามว่า “​เจ้​านายของข้าพเจ้าท่านจะให้​ผู้รับใช้​ของท่านกระทำอะไร” และจอมพลโยธาของพระเยโฮวาห์จึงสั่งโยชู​วาว​่า “จงถอดรองเท้าออกจากเท้าของเจ้าเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่​นี้​เป็​นที​่​บริสุทธิ์​” โยชู​วาก​็กระทำตาม

โยชูวา 5:6-15 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เพราะว่าคนอิสราเอลเดินทางสี่สิบปีอยู่ ในถิ่นทุรกันดารจนประชาชาติทั้งสิ้น คือทหารที่ออกมาจากอียิปต์สิ้นชีวิตเสียหมด เพราะเขามิได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงปฏิญาณกับเขาว่า พระองค์จะไม่ทรงยอมให้เขาเห็นแผ่นดิน ซึ่งพระเจ้าได้ปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะประทานแก่เรา ทั้งหลาย เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ แต่บุตรของเขาซึ่งพระองค์ทรงให้แทนเขานั้น โยชูวาก็ได้ให้เข้าสุหนัตเพราะว่าเขายังไม่เข้าสุหนัต เพราะว่าเขาไม่เคยได้รับเมื่อมาตามทาง เมื่อได้ให้ประชาชาติเข้าสุหนัตเสร็จหมดแล้ว เขาก็พักอยู่ในค่ายจนกว่าจะหายเป็นปกติ พระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า <<วันนี้เราได้กลิ้งความอดสูเพราะอียิปต์ไปให้พ้นเจ้าแล้ว>> จึงเรียกชื่อตำบลนั้นว่ากิลกาลจนทุกวันนี้ ฝ่ายคนอิสราเอลได้ตั้งค่ายที่กิลกาล เขาถือเทศกาลปัสกาใน วันที่สิบสี่เวลาเย็น ณ ที่ราบเมืองเยรีโค วันรุ่งขึ้นหลังวันเทศกาลปัสกา วันนั้นเองเขาก็รับประทานผลอันเกิดจากแผ่นดิน คือขนมไร้เชื้อและข้าวคั่ว ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นมานา ก็ขาดไปคือ เมื่อเขาได้รับประทานผลจากแผ่นดินคนอิสราเอล ไม่มีมานาอีกเลย ในปีนั้นเขารับประทานผลจากแผ่นดินคานาอัน เมื่อโยชูวาอยู่ข้างเมืองเยรีโคท่านก็เงยหน้าขึ้นมองดู เห็นชายคนหนึ่งชักดาบออกมาถือยืนอยู่ตรงหน้าท่าน โยชูวาเข้าไปหาชายนั้น กล่าวแก่เขาว่า <<ท่านอยู่ฝ่ายเราหรืออยู่ฝ่ายศัตรู>> ผู้นั้นจึงตอบว่า <<มิใช่ ที่เรามานี้ก็มาเป็นจอมพลโยธาของพระเจ้า>> ฝ่ายโยชูวาก็กราบลงถึงดินนมัสการแล้วถามว่า <<เจ้านายของข้าพเจ้าท่านจะให้ผู้รับใช้ของท่านกระทำอะไร>> และจอมพลโยธาของพระเจ้าจึงสั่งโยชูวาว่า <<จงถอดรองเท้าออกจากเท้าของเจ้าเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์>> โยชูวาก็กระทำตาม

โยชูวา 5:6-15 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ชนอิสราเอลร่อนเร่อยู่ในถิ่นกันดารตลอดสี่สิบปี จนชายทุกคนที่อยู่ในวัยที่ออกรบได้เมื่อออกมาจากอียิปต์ได้สิ้นชีวิตหมดแล้ว เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิญาณกับพวกเขาไว้ว่า พวกเขาจะไม่ได้เห็นดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งที่พระองค์ทรงสัญญาไว้อย่างหนักแน่นกับบรรพบุรุษของพวกเขาว่าจะยกให้พวกเรา บัดนี้โยชูวาจึงทำพิธีสุหนัตให้บุตรชายของพวกเขาที่โตพอที่จะแทนบิดาของตน เนื่องจากคนเหล่านี้ยังไม่ได้เข้าสุหนัตระหว่างทาง หลังจากประชากรทั้งชาติเข้าสุหนัตแล้ว ก็พักอยู่ในค่ายจนหายเป็นปกติ แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า “วันนี้เราได้กลิ้งความอัปยศแห่งอียิปต์ออกไปพ้นจากเจ้าแล้ว” สถานที่นั้นจึงได้ชื่อว่ากิลกาลตราบจนทุกวันนี้ ขณะตั้งค่ายพักอยู่ที่กิลกาลในที่ราบเยรีโค ชนอิสราเอลได้ฉลองปัสกาในเย็นวันที่สิบสี่ของเดือนนั้น วันรุ่งขึ้นหลังจากพิธีปัสกา พวกเขารับประทานพืชผลจากดินแดนนั้น คือขนมปังไม่ใส่เชื้อและข้าวคั่ว หลังจากนั้นไม่มีมานาตกลงมาให้ชนอิสราเอลอีกเลย ในปีนั้นพวกเขาเลี้ยงชีพด้วยพืชผลจากแผ่นดินคานาอัน ขณะที่โยชูวาอยู่ใกล้เมืองเยรีโค เขาเงยหน้าขึ้นเห็นชายคนหนึ่งชักดาบออกจากฝักยืนอยู่ตรงหน้า โยชูวาจึงก้าวเข้าไปหาและถามว่า “ท่านเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู?” ผู้นั้นตอบว่า “ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง เรามาในฐานะจอมทัพขององค์พระผู้เป็นเจ้า” โยชูวาจึงหมอบซบหน้าลงกับพื้นด้วยความเคารพยำเกรงและถามว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีพระบัญชาประการใดกับผู้รับใช้ของพระองค์หรือ?” จอมทัพขององค์พระผู้เป็นเจ้าตอบว่า “จงถอดรองเท้าออก เพราะที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์” โยชูวาก็ปฏิบัติตาม

โยชูวา 5:6-15 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ด้วย​ว่า ชาว​อิสราเอล​เดิน​ทาง​มา​อยู่​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​เป็น​เวลา 40 ปี จน​กระทั่ง​ชน​ทั้ง​ชาติ ซึ่ง​เป็น​ชาย​นัก​รบ​ที่​ออก​มา​จาก​อียิปต์​เสีย​ชีวิต​ไป เพราะ​พวก​เขา​ไม่​ได้​เชื่อ​ฟัง​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ปฏิญาณ​ไว้​กับ​พวก​เขา​ว่า พระ​องค์​จะ​ไม่​ปล่อย​ให้​พวก​เขา​เห็น​ดินแดน​อัน​อุดม​ด้วย​น้ำ​นม​และ​น้ำ​ผึ้ง​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​ปฏิญาณ​ไว้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พวก​เขา​ว่า จะ​มอบ​ให้​แก่​พวก​เรา ฉะนั้น​โยชูวา​ทำ​พิธี​เข้า​สุหนัต​ให้​แก่​ลูก​หลาน​ชาว​อิสราเอล คือ​บรรดา​ผู้​ที่​พระ​องค์​กำหนด​ให้​ขึ้น​มา​แทน และ​ยัง​ไม่​ได้​เข้า​สุหนัต เพราะ​ไม่​มี​พิธี​เข้า​สุหนัต​ใน​ระหว่าง​การ​เดิน​ทาง เมื่อ​ชน​ทั้ง​ชาติ​เข้า​สุหนัต​ครบ​แล้ว ทุก​คน​ก็​อยู่​ประจำ​ที่​ของ​ตน​ใน​ค่าย​จน​กระทั่ง​หาย​ดี พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​โยชูวา​ว่า “วัน​นี้​เรา​ได้​ทำ​ให้​พวก​เจ้า​พ้น​จาก​ความ​อัปยศ​ที่​ประสบ​มา​ใน​อียิปต์” สถาน​ที่​นั้น​จึง​ได้​ชื่อ​ว่า กิลกาล มา​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ ขณะ​ที่​ชาว​อิสราเอล​พัก​อยู่​ใน​ค่าย​ที่​กิลกาล เขา​ฉลอง​วัน​ปัสกา​ใน​เวลา​เย็น​ของ​วัน​ที่​สิบ​สี่​เดือน​เดียว​กัน​นั้น ณ ที่​ราบ​ของ​เยรีโค และ​วัน​รุ่ง​ขึ้น​หลัง​จาก​วัน​ปัสกา ใน​วัน​นั้น​เอง พวก​เขา​รับ​ประทาน​พืช​ผล​ที่​ได้​จาก​แผ่นดิน​นั้น ทั้ง​ขนมปัง​ไร้​เชื้อ และ​ข้าว​คั่ว หลัง​จาก​พวก​เขา​รับ​ประทาน​พืช​ผล​ที่​ได้​จาก​แผ่นดิน​นั้น​แล้ว มานา​ก็​หยุด คือ​ไม่​มี​มานา​สำหรับ​ชาว​อิสราเอล​อีก​ต่อ​ไป แต่​ใน​ปี​นั้น​พวก​เขา​รับ​ประทาน​พืช​ผล​ที่​ได้​จาก​แผ่นดิน​คานาอัน เมื่อ​โยชูวา​อยู่​ใกล้​เยรีโค ท่าน​เงย​หน้า​และ​มอง​ดู ดู​เถิด ชาย​ผู้​หนึ่ง​มือ​ถือ​ดาบ​ยืน​อยู่​ตรง​หน้า​ท่าน โยชูวา​ก้าว​เข้า​ไป​ใกล้​และ​พูด​กับ​ท่าน​ด้วย​ว่า “ท่าน​เป็น​ฝ่าย​เรา​หรือ​ฝ่าย​ศัตรู​ของ​เรา” ผู้​นั้น​ตอบ​ว่า “ไม่​ใช่ แต่​เรา​เป็น​ผู้​บัญชา​กองทัพ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า บัดนี้​เรา​มา​แล้ว” และ​โยชูวา​ก้ม​หน้า​ลง​ซบ​ดิน กราบ​นมัสการ​และ​พูด​ว่า “นาย​ท่าน​มี​รับ​สั่ง​อะไร​กับ​ผู้​รับใช้​หรือ” ผู้​บัญชา​กองทัพ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​พูด​กับ​โยชูวา​ว่า “จง​ถอด​รองเท้า​ออก​จาก​เท้า​เสีย​เถิด เพราะ​ว่า​ที่​ที่​เจ้า​ยืน​อยู่​นี้​เป็น​ที่​บริสุทธิ์” โยชูวา​ก็​กระทำ​ตาม