โยบ 27:1-18
โยบ 27:1-18 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
โยบเริ่มพูดต่ออีกว่า “ถึงแม้ว่าพระองค์เอาความยุติธรรมไปจากข้า ถึงแม้ว่าพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ทำให้ชีวิตข้าขมขื่น ข้าขอสาบานว่า พระองค์มีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ข้าจะไม่ปล่อยให้ริมฝีปากของข้าพูดโกหก ลิ้นของข้าจะไม่พูดคำหลอกลวง ตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ตราบเท่าที่ลมหายใจจากพระเจ้ายังอยู่ในรูจมูกข้า ไม่มีวันที่ข้าจะพูดว่าพวกท่านถูก ข้าจะไม่มีวันพูดโกหกว่าข้าผิดหรอกตราบเท่าวันตาย ข้าจะยืนหยัดในความบริสุทธิ์ของข้าและจะไม่ยอมปล่อยมัน จิตใจของข้าไม่ได้ฟ้องข้าสำหรับสิ่งทั้งหลายที่ข้าทำในชีวิต ขอให้ศัตรูของข้าถูกลงโทษเหมือนคนชั่วร้าย ขอให้ผู้ที่ต่อต้านข้าถูกลงโทษเหมือนคนทำชั่ว ผู้ที่ไม่นับถือพระเจ้าจะมีความหวังอะไรเมื่อพระเจ้าตัดเขาออกไป เมื่อพระเจ้าเอาชีวิตของเขาไป เมื่อความยากลำบากมาสู่เขา พระเจ้าจะฟังเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขาหรือ เขาจะชื่นชมยินดีในพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์หรือ เขาจะร้องเรียกหาพระองค์ตลอดเวลาหรือ ข้าจะสอนพวกท่านถึงเรื่องพลังอำนาจของพระเจ้า ข้าจะไม่ปิดบังความจริงเกี่ยวกับพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ อันที่จริง พวกท่านก็ได้เห็นเองแล้ว ทำไมพวกท่านยังพูดเรื่องไร้สาระอยู่อีก นี่คือส่วนแบ่งที่คนชั่วได้รับจากพระเจ้า นี่คือมรดกที่คนกดขี่ข่มเหงได้รับจากพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ ถึงเขามีลูกเพิ่มทวีขึ้นมากมาย ดาบก็จะมาฆ่าพวกเขา ส่วนลูกหลานของพวกเขาก็จะไม่มีอาหารพอกิน คนของเขาที่ยังเหลือรอดชีวิตก็จะถูกฝังเพราะโรคระบาด และเมียหม้ายของพวกเขาก็จะไม่ไว้ทุกข์ ถึงคนชั่วกองเงินมากมายเหมือนฝุ่น และกองเสื้อผ้าราวกับดินเหนียว เขาอาจจะเป็นคนกองมันขึ้นมาก็จริง แต่จะเป็นคนที่ซื่อตรงที่ได้ใส่มัน และคนบริสุทธิ์จะแบ่งปันเงินนั้น พวกบ้านที่คนชั่วสร้างจะเปราะบางเหมือนรังนก เปราะบางเหมือนเพิงของยามเฝ้าสวนองุ่น
โยบ 27:1-18 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
และโยบได้ยกกลอนภาษิตของตนมากล่าวอีกว่า “พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด คือพระองค์ผู้ทรงนำความยุติธรรมของข้าไปเสีย และองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด คือพระองค์ผู้ทรงทำให้ใจข้าขมขื่น ลมหายใจยังอยู่ในตัวข้าตราบใด และลมปราณจากพระเจ้ายังอยู่ในจมูกข้าตราบใด ริมฝีปากข้าจะไม่พูดความเท็จ และลิ้นข้าจะไม่เปล่งคำหลอกลวง เมินเสียเถิดที่ข้าจะพูดว่าพวกท่านชอบธรรม ข้าจะไม่ยอมทิ้งความซื่อสัตย์ของข้าจนวันตาย ข้ายึดความชอบธรรมของข้าไว้มั่นไม่ยอมปล่อยไป จิตใจของข้าไม่ตำหนิข้า ไม่ว่าวันใดในชีวิตของข้า “ขอให้ศัตรูของข้าเป็นเหมือนคนอธรรม และขอให้ผู้ที่ลุกขึ้นต่อสู้ข้าเป็นเหมือนคนชั่ว เพราะคนที่ไม่นับถือพระเจ้าจะมีความหวังอะไร เมื่อพระเจ้าทรงตัดเขาออกไปเสีย เมื่อพระเจ้าทรงเอาชีวิตของเขาไป? พระเจ้าจะทรงฟังเสียงร้องของเขา เมื่อความยากลำบากมาถึงเขาหรือ? เขาจะปีติยินดีในองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์หรือ? เขาจะกราบทูลพระเจ้าทุกเวลาหรือ? ข้าจะสอนท่านทั้งหลายเรื่องฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ข้าจะไม่ปิดบังพระดำริขององค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ดูเถิด ท่านทุกคนได้เห็นเองแล้ว ทำไมท่านจึงพูดเหลวไหลเช่นนั้นเล่า? “นี่เป็นส่วนของคนอธรรมจากพระเจ้า และเป็นมรดกซึ่งผู้บีบบังคับได้รับจากองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ถ้าลูกหลานของเขาเพิ่มขึ้น ก็เพื่อถูกดาบ และพงศ์พันธุ์ของเขาจะหาไม่พอกิน คนของเขาที่รอด โรคระบาดก็จะฝังเสีย และเมียม่ายของเขาจะไม่คร่ำครวญ ถึงเขาจะสะสมเงินไว้มากดั่งผงคลีดิน และกองเสื้อผ้าไว้ดั่งดินเหนียว เขาจะกองไว้ก็ได้ แต่คนชอบธรรมจะสวม และคนไร้ผิดจะแบ่งเงินกัน บ้านที่เขาสร้างจะเหมือนรังไหมของดักแด้ เหมือนเพิงที่คนยามสร้าง
โยบ 27:1-18 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
โยบกล่าวต่อไปว่า “ตราบใดที่พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะให้ความยุติธรรมแก่ข้า องค์ทรงฤทธิ์ผู้ทำให้ข้าลิ้มรสความขมขื่นในวิญญาณ ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ตราบใดที่ข้ายังมีลมปราณจากพระเจ้า ตราบนั้นริมฝีปากของข้าจะไม่กล่าวคำชั่ว และลิ้นของข้าจะไม่กล่าวคำหลอกลวง ข้าจะไม่มีวันยอมรับว่าพวกท่านเป็นฝ่ายถูก จนตายข้าก็ขอยืนยันว่าข้าซื่อสัตย์สุจริต ข้าจะยึดมั่นในความชอบธรรมของข้าและไม่มีวันปล่อยวาง มโนธรรมของข้าจะไม่ตำหนิข้าตราบชั่วชีวิต “ขอให้ศัตรูของข้าเป็นเหมือนคนชั่ว ขอให้ปฏิปักษ์ของข้าเป็นเหมือนคนอยุติธรรม! เพราะคนอธรรมจะมีความหวังอะไรเมื่อเขาถูกตัดขาด เมื่อพระเจ้าทรงคร่าชีวิตเขาไป? เมื่อความทุกข์ลำบากมาถึงเขา พระเจ้าทรงฟังเสียงร่ำร้องของเขาหรือ? เขาจะปีติยินดีในองค์ทรงฤทธิ์หรือ? เขาจะร้องทูลพระเจ้าตลอดเวลาหรือ? “ข้าจะสอนท่านถึงเรื่องฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า จะไม่ปิดบังวิถีทางขององค์ทรงฤทธิ์ ท่านเองก็รู้เห็นทั้งหมดนี้แล้ว ทำไมจึงยังพูดเหลวไหลอย่างนี้อีก? “นี่คือชะตากรรมที่พระเจ้าทรงกำหนดให้แก่คนชั่วร้าย และเป็นมรดกที่คนอำมหิตได้รับจากองค์ทรงฤทธิ์ ถึงแม้ลูกหลานของเขาจะมากมาย แต่ก็จะตกเป็นเหยื่อของคมดาบ และวงศ์วานของเขาจะไม่มีวันได้กินอิ่ม ผู้ที่รอดชีวิตอยู่ก็จะถูกนำไปสู่หลุมศพด้วยโรคระบาด ภรรยาม่ายของพวกเขาก็ไม่คร่ำครวญถึงพวกเขา ถึงแม้เขาสะสมเงินไว้มากมายดั่งฝุ่นธุลี และมีเสื้อผ้าเป็นกองๆ เหมือนกองดินเหนียว ผู้ชอบธรรมจะนำสิ่งที่เขาสะสมไว้มาสวมใส่ และคนไร้ผิดจะเอาเงินของเขามาแบ่งปันกัน บ้านที่เขาสร้างขึ้นเหมือนรังของดักแด้ เหมือนกระท่อมที่คนยามสร้างขึ้น
โยบ 27:1-18 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
โยบเริ่มพูดต่ออีกว่า “ถึงแม้ว่าพระองค์เอาความยุติธรรมไปจากข้า ถึงแม้ว่าพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ทำให้ชีวิตข้าขมขื่น ข้าขอสาบานว่า พระองค์มีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ข้าจะไม่ปล่อยให้ริมฝีปากของข้าพูดโกหก ลิ้นของข้าจะไม่พูดคำหลอกลวง ตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ตราบเท่าที่ลมหายใจจากพระเจ้ายังอยู่ในรูจมูกข้า ไม่มีวันที่ข้าจะพูดว่าพวกท่านถูก ข้าจะไม่มีวันพูดโกหกว่าข้าผิดหรอกตราบเท่าวันตาย ข้าจะยืนหยัดในความบริสุทธิ์ของข้าและจะไม่ยอมปล่อยมัน จิตใจของข้าไม่ได้ฟ้องข้าสำหรับสิ่งทั้งหลายที่ข้าทำในชีวิต ขอให้ศัตรูของข้าถูกลงโทษเหมือนคนชั่วร้าย ขอให้ผู้ที่ต่อต้านข้าถูกลงโทษเหมือนคนทำชั่ว ผู้ที่ไม่นับถือพระเจ้าจะมีความหวังอะไรเมื่อพระเจ้าตัดเขาออกไป เมื่อพระเจ้าเอาชีวิตของเขาไป เมื่อความยากลำบากมาสู่เขา พระเจ้าจะฟังเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขาหรือ เขาจะชื่นชมยินดีในพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์หรือ เขาจะร้องเรียกหาพระองค์ตลอดเวลาหรือ ข้าจะสอนพวกท่านถึงเรื่องพลังอำนาจของพระเจ้า ข้าจะไม่ปิดบังความจริงเกี่ยวกับพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ อันที่จริง พวกท่านก็ได้เห็นเองแล้ว ทำไมพวกท่านยังพูดเรื่องไร้สาระอยู่อีก นี่คือส่วนแบ่งที่คนชั่วได้รับจากพระเจ้า นี่คือมรดกที่คนกดขี่ข่มเหงได้รับจากพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ ถึงเขามีลูกเพิ่มทวีขึ้นมากมาย ดาบก็จะมาฆ่าพวกเขา ส่วนลูกหลานของพวกเขาก็จะไม่มีอาหารพอกิน คนของเขาที่ยังเหลือรอดชีวิตก็จะถูกฝังเพราะโรคระบาด และเมียหม้ายของพวกเขาก็จะไม่ไว้ทุกข์ ถึงคนชั่วกองเงินมากมายเหมือนฝุ่น และกองเสื้อผ้าราวกับดินเหนียว เขาอาจจะเป็นคนกองมันขึ้นมาก็จริง แต่จะเป็นคนที่ซื่อตรงที่ได้ใส่มัน และคนบริสุทธิ์จะแบ่งปันเงินนั้น พวกบ้านที่คนชั่วสร้างจะเปราะบางเหมือนรังนก เปราะบางเหมือนเพิงของยามเฝ้าสวนองุ่น
โยบ 27:1-18 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
และโยบได้ยกกลอนภาษิตของตนมากล่าวอีกว่า “พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด คือพระองค์ผู้ทรงนำความยุติธรรมของข้าไปเสีย และองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด คือพระองค์ผู้ทรงทำให้ใจข้าขมขื่น ลมหายใจยังอยู่ในตัวข้าตราบใด และลมปราณจากพระเจ้ายังอยู่ในจมูกข้าตราบใด ริมฝีปากข้าจะไม่พูดความเท็จ และลิ้นข้าจะไม่เปล่งคำหลอกลวง เมินเสียเถิดที่ข้าจะพูดว่าพวกท่านชอบธรรม ข้าจะไม่ยอมทิ้งความซื่อสัตย์ของข้าจนวันตาย ข้ายึดความชอบธรรมของข้าไว้มั่นไม่ยอมปล่อยไป จิตใจของข้าไม่ตำหนิข้า ไม่ว่าวันใดในชีวิตของข้า “ขอให้ศัตรูของข้าเป็นเหมือนคนอธรรม และขอให้ผู้ที่ลุกขึ้นต่อสู้ข้าเป็นเหมือนคนชั่ว เพราะคนที่ไม่นับถือพระเจ้าจะมีความหวังอะไร เมื่อพระเจ้าทรงตัดเขาออกไปเสีย เมื่อพระเจ้าทรงเอาชีวิตของเขาไป? พระเจ้าจะทรงฟังเสียงร้องของเขา เมื่อความยากลำบากมาถึงเขาหรือ? เขาจะปีติยินดีในองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์หรือ? เขาจะกราบทูลพระเจ้าทุกเวลาหรือ? ข้าจะสอนท่านทั้งหลายเรื่องฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ข้าจะไม่ปิดบังพระดำริขององค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ดูเถิด ท่านทุกคนได้เห็นเองแล้ว ทำไมท่านจึงพูดเหลวไหลเช่นนั้นเล่า? “นี่เป็นส่วนของคนอธรรมจากพระเจ้า และเป็นมรดกซึ่งผู้บีบบังคับได้รับจากองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ถ้าลูกหลานของเขาเพิ่มขึ้น ก็เพื่อถูกดาบ และพงศ์พันธุ์ของเขาจะหาไม่พอกิน คนของเขาที่รอด โรคระบาดก็จะฝังเสีย และเมียม่ายของเขาจะไม่คร่ำครวญ ถึงเขาจะสะสมเงินไว้มากดั่งผงคลีดิน และกองเสื้อผ้าไว้ดั่งดินเหนียว เขาจะกองไว้ก็ได้ แต่คนชอบธรรมจะสวม และคนไร้ผิดจะแบ่งเงินกัน บ้านที่เขาสร้างจะเหมือนรังไหมของดักแด้ เหมือนเพิงที่คนยามสร้าง
โยบ 27:1-18 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
และโยบได้กล่าวกลอนภาษิตของตนอีกว่า “พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด คือพระองค์ผู้ทรงนำความยุติธรรมอันควรตกแก่ข้าไปเสีย และองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด คือผู้ทรงทำใจข้าให้ขมขื่น เพราะลมหายใจยังอยู่ในตัวข้าตราบใด และลมปราณจากพระเจ้ายังอยู่ในรูจมูกของข้าตราบใด ริมฝีปากของข้าจะไม่พูดความเท็จและลิ้นของข้าจะไม่เปล่งคำหลอกลวง ขอพระเจ้าอย่ายอมให้ข้าเห็นว่าท่านเป็นฝ่ายที่ถูกเลย ข้าจะไม่ทิ้งความสัตย์จริงของข้าจนข้าตาย ข้ายึดความชอบธรรมของข้าไว้มั่นไม่ยอมปล่อยไป จิตใจของข้าไม่ตำหนิข้า ไม่ว่าวันใดในชีวิตของข้า ขอให้ศัตรูของข้าเป็นเหมือนคนชั่ว และขอให้ผู้ที่ลุกขึ้นต่อสู้ข้าเป็นเหมือนคนอธรรม เพราะอะไรจะเป็นความหวังของคนหน้าซื่อใจคด แม้ว่าเขาได้กำไรแล้ว เมื่อพระเจ้าทรงเอาชีวิตของเขาไป พระเจ้าจะทรงฟังเสียงร้องของเขาหรือ เมื่อความยากลำบากมาสู่เขา เขาจะปีติยินดีในองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์หรือ เขาจะกราบทูลพระเจ้าทุกเวลาหรือ ข้าจะสอนท่านทั้งหลายโดยพระหัตถ์ของพระเจ้า ข้าจะไม่ปิดบังพระดำริขององค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ดูเถิด ท่านทุกคนได้เห็นเองแล้ว ทำไมท่านจึงเหลวไหลสิ้นเชิงทีเดียวเล่า ต่อพระเจ้า นี่เป็นส่วนของคนชั่ว และมรดกซึ่งผู้บีบบังคับจะได้รับจากองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ถ้าลูกหลานของเขาเพิ่มขึ้น ก็เพื่อถูกดาบ และลูกหลานของเขาก็หาไม่พอกิน คนของเขาที่เหลืออยู่ ความตายก็จะฝังเขาเสีย และภรรยาม่ายทั้งหลายของเขาจะไม่คร่ำครวญ ถึงเขาจะกอบโกยเอาเงินไว้มากอย่างผงคลีดิน และกองเสื้อผ้าไว้ดังดินเหนียว เขาจะกองไว้ก็ได้ แต่คนชอบธรรมจะสวม และคนไร้ผิดจะแบ่งเงินกัน เขาสร้างบ้านเหมือนอย่างตัวมอด เหมือนอย่างเพิงที่คนยามสร้าง
โยบ 27:1-18 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
และโยบได้กล่าวกลอนภาษิตของตนอีกว่า <<พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด คือพระองค์ผู้ทรงนำความยุติธรรมอันควรตกแก่ข้าไปเสีย และองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด คือผู้ทรงทำใจข้าให้ขมขื่น เพราะลมหายใจยังอยู่ในตัวข้าตราบใด และลมปราณจากพระเจ้ายังอยู่ในรูจมูกของข้าตราบใด ริมฝีปากของข้าจะไม่พูดความเท็จ และลิ้นของข้าจะไม่เปล่งคำหลอกลวง จงเมินเสียเถิดที่ข้าจะพูดว่าท่านถูก ข้าจะไม่ทิ้งความสัตย์จริงของข้าจนข้าตาย ข้ายึดความชอบธรรมของข้าไว้มั่นไม่ยอมปล่อยไป จิตใจของข้าไม่ตำหนิข้า ไม่ว่าวันใดในชีวิตของข้า <<ขอให้ศัตรูของข้าเป็นเหมือนคนอธรรม และขอให้ผู้ที่ลุกขึ้นต่อสู้ข้าเป็นเหมือนคนไม่ชอบธรรม เพราะอะไรจะเป็นความหวังของคนที่ไม่นับถือพระเจ้า ในเมื่อพระเจ้าทรงตัดเขาออกไปเสีย เมื่อพระเจ้าทรงเอาชีวิตของเขาไป พระเจ้าจะทรงฟังเสียงร้องของเขาหรือ เมื่อความยากลำบากมาสู่เขา เขาจะปีติยินดีในองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์หรือ เขาจะกราบทูลพระเจ้าทุกเวลาหรือ ข้าจะสอนท่านทั้งหลายถึงเรื่องพระหัตถ์ของพระเจ้า ข้าจะไม่ปิดบังพระดำริขององค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ดูเถิด ท่านทุกคนได้เห็นเองแล้ว ทำไมท่านจึงเหลวไหลสิ้นเชิงทีเดียวเล่า <<ต่อพระเจ้า นี่เป็นส่วนของคนอธรรม และมรดกซึ่งผู้บีบบังคับได้รับจากองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ถ้าลูกหลานของเขาเพิ่มขึ้น ก็เพื่อถูกดาบ และพงศ์พันธุ์ของเขาก็หาไม่พอกิน คนของเขาที่รอด โรคระบาดก็จะฝังเขาเสีย และเมียม่ายของเขาจะไม่คร่ำครวญ ถึงเขาจะกอบโกยเอาเงินไว้มากอย่างผงคลีดิน และกองเสื้อผ้าไว้ดังดินเหนียว เขาจะกองไว้ก็ได้ แต่คนชอบธรรมจะสวม และคนไร้ผิดจะแบ่งเงินกัน บ้านที่เขาสร้างจะเหมือนรังไหมของดักแด้ เหมือนอย่างเพิงที่คนยามสร้าง
โยบ 27:1-18 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
โยบกล่าวต่อไปว่า “ตราบใดที่พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะให้ความยุติธรรมแก่ข้า องค์ทรงฤทธิ์ผู้ทำให้ข้าลิ้มรสความขมขื่นในวิญญาณ ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ตราบใดที่ข้ายังมีลมปราณจากพระเจ้า ตราบนั้นริมฝีปากของข้าจะไม่กล่าวคำชั่ว และลิ้นของข้าจะไม่กล่าวคำหลอกลวง ข้าจะไม่มีวันยอมรับว่าพวกท่านเป็นฝ่ายถูก จนตายข้าก็ขอยืนยันว่าข้าซื่อสัตย์สุจริต ข้าจะยึดมั่นในความชอบธรรมของข้าและไม่มีวันปล่อยวาง มโนธรรมของข้าจะไม่ตำหนิข้าตราบชั่วชีวิต “ขอให้ศัตรูของข้าเป็นเหมือนคนชั่ว ขอให้ปฏิปักษ์ของข้าเป็นเหมือนคนอยุติธรรม! เพราะคนอธรรมจะมีความหวังอะไรเมื่อเขาถูกตัดขาด เมื่อพระเจ้าทรงคร่าชีวิตเขาไป? เมื่อความทุกข์ลำบากมาถึงเขา พระเจ้าทรงฟังเสียงร่ำร้องของเขาหรือ? เขาจะปีติยินดีในองค์ทรงฤทธิ์หรือ? เขาจะร้องทูลพระเจ้าตลอดเวลาหรือ? “ข้าจะสอนท่านถึงเรื่องฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า จะไม่ปิดบังวิถีทางขององค์ทรงฤทธิ์ ท่านเองก็รู้เห็นทั้งหมดนี้แล้ว ทำไมจึงยังพูดเหลวไหลอย่างนี้อีก? “นี่คือชะตากรรมที่พระเจ้าทรงกำหนดให้แก่คนชั่วร้าย และเป็นมรดกที่คนอำมหิตได้รับจากองค์ทรงฤทธิ์ ถึงแม้ลูกหลานของเขาจะมากมาย แต่ก็จะตกเป็นเหยื่อของคมดาบ และวงศ์วานของเขาจะไม่มีวันได้กินอิ่ม ผู้ที่รอดชีวิตอยู่ก็จะถูกนำไปสู่หลุมศพด้วยโรคระบาด ภรรยาม่ายของพวกเขาก็ไม่คร่ำครวญถึงพวกเขา ถึงแม้เขาสะสมเงินไว้มากมายดั่งฝุ่นธุลี และมีเสื้อผ้าเป็นกองๆ เหมือนกองดินเหนียว ผู้ชอบธรรมจะนำสิ่งที่เขาสะสมไว้มาสวมใส่ และคนไร้ผิดจะเอาเงินของเขามาแบ่งปันกัน บ้านที่เขาสร้างขึ้นเหมือนรังของดักแด้ เหมือนกระท่อมที่คนยามสร้างขึ้น
โยบ 27:1-18 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
และโยบพูดต่อไปอีกว่า “ตราบที่พระเจ้ามีชีวิตอยู่ฉันใด พระองค์เป็นผู้ยึดสิทธิของฉันไป องค์ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพ ผู้ทำให้จิตวิญญาณของฉันขมขื่น ตราบที่ฉันมีลมหายใจ และตราบที่พระเจ้าโปรดให้ลมหายใจอยู่ในจมูกของฉัน ริมฝีปากของฉันจะไม่พูดเท็จ และลิ้นของฉันจะไม่กล่าวคำหลอกลวง ฉันจะไม่มีวันพูดว่า พวกท่านเป็นฝ่ายถูก ฉันจะไม่ทิ้งความซื่อตรงของฉันจนวันตาย ฉันจะยังคงความชอบธรรมของฉันโดยไม่แปรเปลี่ยน มโนธรรมของฉันไม่มีวันที่จะตำหนิตัวเอง ขอให้ศัตรูของฉันรับโทษเช่นเดียวกับคนชั่ว และขอให้คนที่ต่อต้านฉันรับโทษเช่นเดียวกับคนไม่มีความชอบธรรม คนไม่เชื่อในพระเจ้ามีความหวังอะไร เมื่อพระเจ้าทำให้เขาจบชีวิตลง เมื่อพระเจ้าพรากชีวิตไปจากเขา พระเจ้าจะได้ยินเสียงร้องของเขา เมื่อเขามีความทุกข์หรือ เขาจะมีความสุขใจในองค์ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพหรือ เขาจะร้องเรียกถึงพระเจ้าตลอดเวลาหรือ ฉันจะสอนท่านเรื่องอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ฉันจะชี้ให้ท่านเห็นว่าองค์ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพประสงค์อะไร ดูเถิด ท่านทุกคนได้เห็นด้วยตัวท่านเองแล้ว แล้วทำไมพวกท่านจึงพูดอย่างไร้สาระเช่นนี้ นี่แหละเป็นส่วนที่คนชั่วได้รับจากพระเจ้า เป็นมรดกที่ผู้บีบบังคับรับจากองค์ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพ แม้ลูกหลานของเขาทวีขึ้น แต่ก็จะถูกฆ่าด้วยคมดาบ และบรรดาผู้สืบเชื้อสายจะมีไม่พอกิน พวกที่รอดมาได้ก็จะตายด้วยโรคระบาด และเมียเป็นม่ายของพวกเขาก็ไม่ร้องไห้ แม้ว่าเขาจะสะสมเงินได้มากเท่าฝุ่น และเก็บเสื้อผ้าไว้เป็นกองดั่งดินเหนียว เขาจะกองมันไว้ แต่คนที่สวมใส่ก็คือผู้มีความชอบธรรม และคนไร้ความผิดจะเป็นผู้ที่แบ่งกองเงิน เขาสร้างบ้านที่ไม่ต่างไปจากเปลือกหุ้มตัวดักแด้ เหมือนกระท่อมที่คนเฝ้ายามสร้างขึ้นเอง