ยอห์น 9:18-41

ยอห์น 9:18-41 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พวกยิวไม่เชื่อว่าชายคนนั้นตาบอดและกลับมองเห็น จนกระทั่งพวกเขาเรียกบิดามารดาของคนนั้นมา แล้วถามว่า “ชายคนนี้เป็นลูกของเจ้าที่เจ้าบอกว่าตาบอดมาตั้งแต่เกิดหรือ? แล้วทำไมเดี๋ยวนี้เขาจึงมองเห็น?” บิดามารดาของชายคนนั้นตอบว่า “เรารู้ว่าคนนี้เป็นลูกของเรา และรู้ว่าเขาเกิดมาตาบอด แต่ไม่รู้ว่าทำไมเดี๋ยวนี้เขาถึงมองเห็นหรือใครทำให้ตาของเขาหายบอด ถามเขาเอาเองเถิด เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาเล่าเรื่องเองได้” การที่บิดามารดาของเขาพูดอย่างนั้นก็เพราะกลัวพวกยิว เพราะพวกยิวตกลงกันแล้วว่า ถ้าใครยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์ คนนั้นจะถูกขับออกจากธรรมศาลา เพราะเหตุนี้บิดามารดาของเขาจึงพูดว่า “เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถามเขาเอาเองเถิด” พวกเขาจึงเรียกคนที่เคยตาบอดให้มาหาเป็นครั้งที่สองและบอกเขาว่า “จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า เรารู้ว่าชายคนนั้นเป็นคนบาป” เขาตอบว่า “ชายคนนั้นเป็นคนบาปหรือไม่ข้าพเจ้าไม่ทราบ สิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าทราบคือข้าพเจ้าเคยตาบอด แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ามองเห็นได้แล้ว” พวกเขาจึงถามเขาว่า “คนนั้นทำอะไรกับเจ้า? เขาทำอย่างไรตาของเจ้าถึงหายบอด?” คนนั้นตอบพวกเขาว่า “ข้าพเจ้าบอกท่านแล้วแต่ท่านไม่ฟัง ทำไมท่านถึงอยากฟังอีก? อยากเป็นศิษย์ของคนนั้นด้วยหรือ?” คนเหล่านั้นจึงเยาะเย้ยเขาว่า “เอ็งเป็นศิษย์ของเขา แต่เราเป็นศิษย์ของโมเสส เรารู้ว่าพระเจ้าตรัสกับโมเสส แต่สำหรับคนนั้นเราไม่รู้ว่ามาจากไหน” ชายคนนั้นตอบว่า “เออ ประหลาดจริงๆ นะที่พวกท่านไม่รู้ว่าคนนั้นมาจากไหน แต่เขาก็ทำให้ตาของข้าพเจ้าหายบอดได้ เรารู้ว่าพระเจ้าไม่ทรงฟังคนบาป แต่ทรงฟังคนที่ยำเกรงพระองค์และทำตามพระทัยของพระองค์ ตั้งแต่สมัยไหนๆ ก็ไม่เคยมีใครได้ยินว่ามีคนสามารถทำให้ตาของคนที่บอดแต่กำเนิดมองเห็นได้ ถ้าคนนั้นไม่ได้มาจากพระเจ้า เขาจะไม่สามารถทำได้” พวกเขาตอบว่า “เอ็งมันบาปมาตั้งแต่เกิดแล้วยังจะมาสอนเราหรือ?” แล้วพวกเขาก็ไล่เขาออกไป พระเยซูทรงได้ยินว่าพวกยิวไล่คนนั้นออกไปแล้ว เมื่อพระองค์ทรงพบเขาจึงตรัสว่า “ท่านวางใจในบุตรมนุษย์หรือ?” ชายคนนั้นทูลตอบว่า “ท่านเจ้าข้า ใครคือบุตรมนุษย์ที่ข้าพเจ้าจะวางใจได้?” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ท่านเห็นผู้นั้นแล้ว คือผู้ที่กำลังพูดอยู่กับท่าน” เขาจึงทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์วางใจ” แล้วเขาก็กราบไหว้พระองค์ พระเยซูตรัสว่า “เราเข้ามาในโลกเพื่อการพิพากษา เพื่อให้คนทั้งหลายที่มองไม่เห็นกลับมองเห็น และคนที่มองเห็นกลับตาบอด” เมื่อพวกฟาริสีที่อยู่ใกล้พระองค์ได้ยินอย่างนั้นจึงกล่าวแก่พระองค์ว่า “เราตาบอดด้วยหรือ?” พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “ถ้าพวกท่านตาบอด ท่านก็จะไม่มีบาป แต่พวกท่านพูดเดี๋ยวนี้เองว่า ‘เรามองเห็น’ เพราะฉะนั้นบาปของท่านยังมีอยู่

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 9

ยอห์น 9:18-41 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พวก​ผู้นำ​ชาว​ยิว​ไม่​เชื่อ​ว่า​เขา​เคย​ตาบอด แล้ว​ตอนนี้​มองเห็น​ได้ พวก​เขา​จึง​เรียก​พ่อ​แม่​ของ​ชาย​คนนี้​มา​ถาม ว่า “เขา​เป็น​ลูก​ที่​พวกเจ้า​บอก​ว่า​เกิด​มา​ตาบอด​ใช่​ไหม แล้ว​ทำไม​เขา​ถึง​มองเห็น​แล้ว” พ่อ​แม่​ของ​เขา​ตอบ​ว่า “เรา​รู้​ว่า​เขา​เป็น​ลูก​ของ​เรา​และ​เกิด​มา​ตาบอด แต่​เรา​ไม่​รู้​หรอก​ว่า​ทำไม​เขา​ถึง​มองเห็น​ได้​และ​ใคร​รักษา​เขา ไป​ถาม​เขา​เอา​เอง​สิ เพราะ​เขา​ก็​โต​แล้ว​และ​เล่า​เรื่อง​ให้​คุณ​ฟัง​ได้​แล้ว” (ที่​พ่อ​แม่​ของ​เขา​พูด​อย่างนี้ เพราะ​กลัว​พวก​ผู้นำ​ชาวยิว พวก​ผู้นำ​ชาวยิว​ได้​ตกลง​กัน​ก่อน​แล้ว​ว่า ใคร​พูด​ว่า​พระเยซู​เป็น​พระคริสต์ ก็​จะ​ถูก​ไล่​ออก​จาก​ที่​ประชุม​ชาวยิว นั่น​เป็น​เหตุ​ที่​พ่อ​แม่​ของ​เขา​พูด​ว่า “เขา​โต​แล้ว ไป​ถาม​เขา​เอา​เอง​เถิด”) พวก​ผู้นำ​ชาวยิว​จึง​เรียก​ชาย​ที่​เคย​ตาบอด​มา​อีก​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง แล้ว​บอก​ว่า “แก​ต้อง​ให้​เกียรติ​กับ​พระเจ้า​โดย​พูด​ความจริง เรา​รู้​ว่า​ชาย​คน​นั้น​เป็น​คน​บาป” เขา​ก็​ตอบ​ว่า “ผม​ไม่​รู้​หรอก​ว่า​เขา​เป็น​คน​บาป​หรือ​เปล่า รู้​แต่​ว่า​ผม​เคย​ตาบอด​และ​ตอนนี้​มอง​เห็น​แล้ว” พวก​เขา​จึง​ถาม​ชาย​ที่​เคย​ตาบอด​ว่า “เขา​ทำ​อะไร​กับ​แก​บ้าง เขา​รักษา​ตา​แก​ยังไง” เขา​ตอบ​ว่า “ผม​ได้​เล่า​ไป​แล้ว​แต่​พวก​คุณ​ไม่​ยอม​ฟัง แล้ว​จะ​ให้​เล่า​อีก​ทำไม​ล่ะ พวก​คุณ​อยาก​จะ​เป็น​ศิษย์​เขา​ด้วย​หรือ” พวกยิว​จึง​เยาะเย้ย​เขา​ว่า “แก​นี่แหละ​เป็น​ศิษย์​ชาย​คน​นั้น แต่​พวก​เรา​เป็น​ศิษย์​ของ​โมเสส เรา​รู้​ว่า​พระเจ้า​ได้​พูด​กับ​โมเสส แต่​เรา​ไม่​รู้​ว่า​ชาย​คน​นั้น​มา​จาก​ไหน” ชาย​ที่​เคย​ตาบอด​ตอบ​กลับ​ไป​ว่า “แปลก​จริงๆ​นะ​ที่​พวก​คุณ​ไม่​รู้​ว่า​เขา​มา​จาก​ไหน แต่​เขา​ก็​ทำ​ให้​ผม​มองเห็น​ได้ พวก​เรา​รู้​ว่า​พระเจ้า​ไม่​ฟัง​คน​บาป พระองค์​จะ​ฟัง​คน​ที่​ยำเกรง​และ​ทำ​ตาม​พระองค์​เท่า​นั้น ยัง​ไม่​เคย​มี​ใคร​ได้ยิน​มา​ก่อน​เลย​ว่า มี​ใคร​ที่​จะ​ทำ​ให้​คน​ที่​เกิด​มา​ตาบอด​มองเห็น​ได้ ถ้า​ชาย​คนนี้​ไม่​ได้​มา​จาก​พระเจ้า เขา​ก็​จะ​ทำ​อะไร​แบบนี้​ไม่​ได้​เลย” พวกยิว​จึง​พูด​กับ​ชาย​ที่​เคย​ตาบอด​ว่า “แก​เกิด​มา​บาป​หนา แล้ว​ยัง​คิด​ที่​จะ​มา​สั่งสอน​พวก​เรา​หรือ” แล้ว​พวก​เขา​ก็​ขับไล่​ชาย​คน​นั้น​ออก​ไป​จาก​ที่ประชุม เมื่อ​พระเยซู​ได้ยิน​ว่า​พวก​เขา​ได้​ขับไล่​ชาย​ที่​เคย​ตาบอด​นั้น​ออก​มา พระองค์​ก็​ไปหา​เขา​และ​ถาม​เขา​ว่า “คุณ​ไว้วางใจ​บุตร​มนุษย์​ไหม” เขา​ถาม​ว่า “ใคร​คือ​บุตร​มนุษย์​หรือ​ครับ​ท่าน ผม​จะ​ได้​ไว้วางใจ​เขา​คน​นั้น” พระเยซู​จึง​บอก​ว่า “คุณ​ก็​เห็น​เขา​แล้ว เขา​ก็​คือ​คน​ที่​กำลัง​พูด​อยู่​กับ​คุณ​ตอนนี้” แล้ว​ชาย​ที่​เคย​ตาบอด​ก็​พูด​ออก​มา​ว่า “องค์​เจ้า​ชีวิต ผม​ไว้วางใจ​ท่าน​ครับ” แล้ว​เขา​ก็​ก้มลง​กราบ​พระเยซู พระเยซู​พูด​ว่า “เรา​มา​เพื่อ​พิพากษา​โลกนี้ เรา​มา​เพื่อ​คน​ตาบอด จะ​ได้​มอง​เห็น และ​เพื่อ​คน​ที่​คิด​ว่า​ตัวเอง​มอง​เห็น​จะ​กลาย​เป็น​คน​ตาบอด” พวก​ฟาริสี​บางคน​ที่​ยืน​อยู่​แถวๆ​นั้น​ได้ยิน​ที่​พระเยซู​พูด ถาม​พระองค์​ว่า “แน่นอน แก​คง​ไม่​ได้​หา​ว่า​พวก​เรา​ตาบอด​ด้วย ใช่​ไหม” พระเยซู​จึง​พูด​ว่า “ถ้า​พวก​คุณ​ตาบอด​ก็​จะ​ไม่​มี​ความผิดบาป แต่​เพราะ​ตอนนี้​พวก​คุณ​อ้าง​ว่า ‘เรา​มองเห็น’ พวก​คุณ​ก็​เลย​ยัง​คง​อยู่​ใน​ความบาป”

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 9

ยอห์น 9:18-41 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

แต่​พวกยิวไม่เชื่อเรื่องเกี่ยวกับชายคนนั้​นว​่า เขาตาบอดและกลับมองเห็น จนกระทั่งเขาได้เรียกบิดามารดาของคนที่ตากลับมองเห็นได้นั้นมา แล​้วพวกเขาถามเขาทั้งสองว่า “ชายคนนี้เป็นบุตรชายของเจ้าหรือที่​เจ้​าบอกว่าตาบอดมาแต่​กำเนิด ทำไมเดี๋ยวนี้เขาจึงมองเห็น” บิ​ดามารดาของชายคนนั้นตอบเขาว่า “เราทราบว่าคนนี้เป็นบุตรชายของเรา และทราบว่าเขาเกิดมาตาบอด แต่​ไม่รู้​ว่าทำไมเดี๋ยวนี้เขาจึงมองเห็น หรือใครทำให้ตาของเขาหายบอด เราก็​ไม่ทราบ จงถามเขาเถิด เขาโตแล้ว เขาจะเล่าเรื่องของเขาเองได้” ที่​บิ​ดามารดาของเขาพู​ดอย​่างนั้​นก​็เพราะกลัวพวกยิว เพราะพวกยิวตกลงกันแล้​วว​่า ถ้าผู้ใดยอมรับว่าผู้นั้นเป็นพระคริสต์ จะต้องไล่​ผู้​นั้นเสียจากธรรมศาลา เหตุ​ฉะนั้นบิดามารดาของเขาจึงพูดว่า “จงถามเขาเถิด เขาโตแล้ว” คนเหล่านั้นจึงเรียกคนที่​แต่​ก่อนตาบอดนั้นมาอีกและบอกเขาว่า “จงสรรเสริญพระเจ้าเถิด เรารู้​อยู่​ว่าชายคนนั้นเป็นคนบาป” เขาตอบว่า “ท่านนั้นเป็นคนบาปหรือไม่ข้าพเจ้าไม่​ทราบ สิ​่งเดียวที่ข้าพเจ้าทราบก็คือว่า ข้าพเจ้าเคยตาบอด แต่​เดี๋ยวนี้​ข้าพเจ้ามองเห็นได้” คนเหล่านั้นจึงถามเขาอี​กว่า “เขาทำอะไรกับเจ้าบ้าง เขาทำอย่างไรตาของเจ้าจึงหายบอด” ชายคนนั้นตอบเขาว่า “ข้าพเจ้าบอกท่านแล้ว และท่านไม่​ฟัง ทำไมท่านจึงอยากฟั​งอ​ีก ท่านอยากเป็นสาวกของท่านผู้นั้นด้วยหรือ” เขาทั้งหลายจึงเย้ยชายคนนั้​นว​่า “แกเป็นศิษย์ของเขา แต่​เราเป็นศิษย์ของโมเสส เรารู้ว่าพระเจ้าได้ตรัสกับโมเสส แต่​คนนั้นเราไม่​รู้​ว่าเขามาจากไหน” ชายคนนั้นตอบเขาว่า “​เออ ช่างประหลาดจริงๆที่พวกท่านไม่​รู้​ว่าท่านผู้นั้นมาจากไหน แต่​ท่านผู้นั้นยังได้​ทำให้​ตาของข้าพเจ้าหายบอด พวกเรารู้ว่าพระเจ้ามิ​ได้​ฟังคนบาป แต่​ถ้าผู้ใดนมัสการพระเจ้า และกระทำตามพระทัยพระองค์ พระองค์​ก็​ทรงฟังผู้​นั้น ตั้งแต่​เริ่มมีโลกมาแล้ว ไม่​เคยมีใครได้ยิ​นว​่า มี​ผู้​ใดทำให้ตาของคนที่บอดแต่กำเนิดมองเห็นได้ ถ้าท่านผู้นั้นไม่​ได้​มาจากพระเจ้าแล้ว ก็​จะทำอะไรไม่​ได้​” เขาทั้งหลายตอบคนนั้​นว​่า “แกเกิดมาในการบาปทั้งนั้น และแกจะมาสอนเราหรือ” แล​้วเขาจึงไล่คนนั้นเสีย พระเยซู​ทรงได้ยิ​นว​่าเขาได้​ไล่​คนนั้นเสียแล้ว และเมื่อพระองค์ทรงพบชายคนนั้นจึงตรัสกับเขาว่า “​เจ้​าเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าหรือ” ชายคนนั้นทูลตอบว่า “ท่านเจ้าข้า ผู้​ใดเป็นพระบุตรนั้น ซึ่งข้าพเจ้าจะเชื่อในพระองค์​ได้​” พระเยซู​ตรัสกับเขาว่า “​เจ้​าได้​เห​็นท่านแล้ว ทั้งเป็นผู้นั้นเองที่กำลังพู​ดอย​ู่กับเจ้า” เขาจึงทูลว่า “​พระองค์​เจ้าข้า ข้าพระองค์​เชื่อ​” แล​้วเขาก็​นม​ัสการพระองค์ พระเยซู​ตรั​สว​่า “เราเข้ามาในโลกเพื่อการพิพากษา เพื่อให้​คนทั้งหลายที่มองไม่​เห​็นกลับมองเห็น และคนที่มองเห็นกลับตาบอด” เมื่อพวกฟาริ​สี​บางคนที่​อยู่​กับพระองค์​ได้​ยินอย่างนั้น จึงกล่าวแก่​พระองค์​ว่า “เราตาบอดด้วยหรือ” พระเยซู​ตรัสกับเขาว่า “ถ้าพวกท่านตาบอด พวกท่านก็จะไม่​มี​ความผิดบาป แต่​บัดนี้​ท่านพูดว่า ‘เรามองเห็น’ เหตุ​ฉะนั้นความผิดบาปของท่านจึงยั​งม​ี​อยู่​”

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 9

ยอห์น 9:18-41 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

พวกยิวไม่เชื่อว่าชายคนนั้นตาบอดและกลับมองเห็น จนกระทั่งเขาได้เรียกบิดามารดาของคนที่ตากลับมองเห็นได้นั้นมา แล้วถามว่า <<ชายคนนี้เป็นบุตรของเจ้าหรือ ที่เจ้าบอกว่าตาบอดมาแต่กำเนิด ทำไมเดี๋ยวนี้เขาจึงมองเห็น>> บิดามารดาของชายคนนั้นตอบว่า <<ข้าพเจ้าทราบว่าคนนี้เป็นบุตรของข้าพเจ้า และทราบว่าเขาเกิดมาตาบอด แต่ไม่รู้ว่าทำไมเดี๋ยวนี้เขาจึงมองเห็น ใครทำให้ตาของเขาหายบอด ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบ จงถามเขาเถิด เขาโตแล้ว เขาคงเล่าเรื่องของเขาเองได้>> ที่บิดามารดาของเขาพูดอย่างนั้น ก็เพราะกลัวพวกยิวเพราะพวกยิวตกลงกันแล้วว่า ถ้าผู้ใดยอมรับว่าผู้นั้นเป็นพระคริสต์ จะต้องอเปหิผู้นั้นเสียจากธรรมศาลา เหตุฉะนั้นบิดามารดาของเขาจึงพูดว่า <<เขาโตแล้ว ถามตัวเขาเองเถิด>> คนเหล่านั้นจึงเรียกคนที่แต่ก่อนตาบอดนั้นมาหาเป็นครั้งที่สอง และบอกเขาว่า <<จงสรรเสริญพระเจ้าเถิด เรารู้อยู่ว่าชายคนนั้นเป็นคนบาป>> เขาตอบว่า <<ท่านนั้นเป็นคนบาปหรือไม่ข้าพเจ้าไม่ทราบ สิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าทราบ ก็คือว่าข้าพเจ้าเคยตาบอด แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ามองเห็นได้แล้ว>> คนเหล่านั้นจึงถามเขาว่า <<เขาทำอะไรกับเจ้าบ้าง เขาทำอย่างไรตาของเจ้าจึงหายบอด>> ชายคนนั้นตอบเขาว่า <<ข้าพเจ้าบอกท่านแล้วและท่านไม่ฟัง ทำไมท่านจึงอยากฟังอีก อยากเป็นสาวกของท่านผู้นั้นด้วยหรือ>> และเขาทั้งหลายจึงเย้ยชายคนนั้นว่า <<เอ็งเป็นศิษย์ของเขา แต่เราเป็นศิษย์ของโมเสส เรารู้ว่าพระเจ้าได้ตรัสกับโมเสส แต่คนนั้นเราไม่รู้ว่าเขามาจากไหน>> ชายคนนั้นตอบว่า <<เออ ช่างประหลาดจริงๆ ที่พวกท่านไม่รู้ว่าท่านผู้นั้นมาจากไหน แต่ท่านผู้นั้นก็ยังได้ทำให้ตาของข้าพเจ้าหายบอด พวกเรารู้ว่าพระเจ้ามิได้ฟังคนบาป แต่ถ้าผู้ใดยำเกรงพระเจ้า และกระทำตามพระทัยพระองค์ พระองค์ก็ทรงฟังผู้นั้น ตั้งแต่เริ่มมีโลกมาแล้ว ไม่เคยมีใครได้ยินว่า มีผู้ใดทำให้ตาของคนที่บอดแต่กำเนิดมองเห็นได้ ถ้าท่านผู้นั้นไม่ได้มาจากพระเจ้าแล้วก็คงไม่สามารถทำได้>> เขาทั้งหลายตอบคนนั้นว่า <<เอ็งเกิดมาในการบาปทั้งนั้น และเอ็งจะมาสอนเราหรือ>> แล้วเขาจึงอเปหิคนนั้นเสีย พระเยซูทรงได้ยินว่าเขาได้อเปหิคนนั้นเสียแล้ว เมื่อพระองค์ทรงพบชายคนนั้นจึงตรัสกับเขาว่า <<เจ้าวางใจในบุตรมนุษย์หรือ>> ชายคนนั้นทูลตอบว่า <<ท่านเจ้าข้า ผู้ใดเป็นบุตรมนุษย์ ซึ่งข้าพเจ้าจะวางใจในพระองค์ได้>> พระเยซูตรัสกับเขาว่า <<เจ้าได้เห็นท่านแล้ว ท่านผู้นั้นเองที่กำลังพูดอยู่กับเจ้า>> เขาจึงทูลว่า <<พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์วางใจ>> แล้วเขาก็กราบไหว้พระองค์ พระเยซูตรัสว่า <<เราเข้ามาในโลกเพื่อแก่การพิพากษา เพื่อให้คนทั้งหลายที่มองไม่เห็นกลับมองเห็น และคนที่มองเห็นกลับตาบอด>> เมื่อพวกฟาริสีที่อยู่ใกล้พระองค์ได้ยินอย่างนั้น จึงกล่าวแก่พระองค์ว่า <<เราตาบอดด้วยหรือ>> พระเยซูตรัสกับเขาว่า <<ถ้าพวกท่านตาบอดพวกท่านก็จะไม่มีความผิดบาป แต่บัดนี้ท่านพูดว่า <เรามองเห็น> เหตุฉะนั้นความผิดบาปของท่านจึงยังมีอยู่

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 9

ยอห์น 9:18-41 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

พวกยิวยังไม่เชื่อว่าเขาเคยตาบอดและกลับมองเห็นได้จนกระทั่งได้เรียกบิดามารดาของเขามา พวกเขาถามว่า “นี่คือลูกชายของเจ้าใช่ไหม? นี่คือคนที่เจ้าบอกว่าตาบอดแต่กำเนิดใช่ไหม? เดี๋ยวนี้เขามองเห็นได้อย่างไร?” บิดามารดาของเขาตอบว่า “เรารู้ว่าเขาเป็นลูกของเราและเรารู้ว่าเขาตาบอดมาตั้งแต่เกิด แต่เราไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เขามองเห็นได้อย่างไร หรือใครรักษาตาของเขาให้หายบอด จงถามเขาเถิด เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาพูดเองได้” บิดามารดาของเขาพูดเช่นนั้นเพราะกลัวพวกยิวเพราะพวกเขาได้ตกลงกันไว้ว่าใครยอมรับพระเยซูเป็นพระคริสต์จะถูกอเปหิจากธรรมศาลา ฉะนั้นบิดามารดาของเขาจึงบอกว่า “เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว จงถามเขาเถิด” พวกนั้นจึงเรียกตัวคนที่เคยตาบอดมาพบเป็นครั้งที่สองและพูดว่า “จงถวายพระเกียรติสิริแด่พระเจ้าด้วยการพูดความจริง เรารู้ว่าคนนั้นเป็นคนบาป” เขาตอบว่า “เขาเป็นคนบาปหรือไม่ข้าพเจ้าไม่ทราบ สิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าทราบก็คือข้าพเจ้าเคยตาบอดแต่เดี๋ยวนี้มองเห็นแล้ว!” แล้วพวกเขาจึงถามว่า “เขาทำอะไรกับเจ้า? เขาทำอย่างไรตาของเจ้าจึงหายบอด?” เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าก็บอกไปแล้วและพวกท่านไม่ฟัง ทำไมท่านอยากฟังอีก? ท่านอยากเป็นสาวกของเขาด้วยหรือ?” แล้วพวกนั้นจึงพากันประณามเขาเป็นการใหญ่และกล่าวว่า “เจ้าเป็นสาวกของคนนั้น! ส่วนเราเป็นสาวกของโมเสส! เรารู้ว่าพระเจ้าตรัสกับโมเสส แต่ส่วนคนนั้นเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามาจากไหน” ชายคนนั้นตอบว่า “แปลกจริงๆ! ท่านไม่รู้ว่าเขามาจากไหนแต่เขาก็รักษาตาของข้าพเจ้าให้หายบอด พวกเรารู้ว่าพระเจ้าไม่ได้ทรงฟังคนบาป พระองค์ทรงฟังคนที่อยู่ในทางพระเจ้าผู้ทำตามพระประสงค์ของพระองค์ ไม่เคยมีใครได้ยินถึงการรักษาคนตาบอดแต่กำเนิดให้มองเห็นได้ หากชายผู้นั้นไม่ได้มาจากพระเจ้า เขาย่อมไม่สามารถทำอะไรได้เลย” พวกนั้นตอบโต้เขาว่า “เจ้าจมปลักอยู่ในบาปมาตั้งแต่เกิด เจ้ากล้าดีอย่างไรมาสั่งสอนเรา!” แล้วอเปหิเขาจากธรรมศาลา พระเยซูทรงได้ยินว่าพวกนั้นได้อเปหิเขา เมื่อทรงพบเขาพระองค์จึงตรัสว่า “ท่านเชื่อในบุตรมนุษย์หรือไม่?” ชายคนนั้นถามว่า “ท่านเจ้าข้า ใครคือบุตรมนุษย์? โปรดบอกเถิด ข้าพเจ้าจะได้เชื่อในพระองค์” พระเยซูตรัสว่า “บัดนี้ท่านก็ได้เห็นพระองค์แล้ว อันที่จริงพระองค์คือผู้ที่กำลังพูดกับท่าน” คนนั้นจึงทูลว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์เชื่อ” และเขาก็กราบนมัสการพระองค์ พระเยซูตรัสว่า “เราเข้ามาในโลกนี้เพื่อการพิพากษา เพื่อให้คนตาบอดมองเห็นได้และให้คนที่มองเห็นได้กลับตาบอด” ฟาริสีบางคนที่อยู่กับพระองค์ได้ยินเช่นนั้นก็ทูลถามว่า “อะไรกัน? เราตาบอดด้วยหรือ?” พระเยซูตรัสว่า “ถ้าท่านตาบอดท่านก็คงจะไม่มีความผิดบาป แต่นี่ท่านอ้างว่าตัวเองมองเห็น บาปผิดของท่านจึงยังคงอยู่

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 9

ยอห์น 9:18-41 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ชาว​ยิว​ไม่​เชื่อ​เรื่อง​ที่​ว่า เขา​เคย​ตา​บอด​และ​กลับ​มองเห็น​ได้ จน​กระทั่ง​เรียก​บิดา​มารดา​ของ​คน​ที่​ตา​หาย​บอด​คน​นั้น​มา และ​ซักไซ้​คน​ทั้ง​สอง​ว่า “นี่​เป็น​บุตร​ของ​เจ้า​ที่​ว่า​ตา​บอด​แต่​กำเนิด​หรือ แล้ว​บัดนี้​เขา​เห็น​ได้​อย่างไร” บิดา​มารดา​ของ​เขา​ตอบ​ว่า “เรา​ทราบ​ว่า​เขา​เป็น​บุตร​ของ​เรา​และ​ตา​บอด​แต่​กำเนิด แต่​บัดนี้​เขา​มองเห็น​ได้​อย่างไร​นั้น​เรา​ไม่​ทราบ หรือ​ใคร​ทำ​ให้​ตา​หาย​บอด​เรา​ก็​ไม่​ทราบ ถาม​เขา​เถิด เขา​โต​พอ​ที่​จะ​พูด​เอง​ได้” บิดา​มารดา​ของ​เขา​พูด​เช่น​นั้น​เพราะ​กลัว​ชาว​ยิว ด้วย​เหตุ​ว่า​ชาว​ยิว​ได้​ตกลง​กัน​ไว้​ว่า ถ้า​ผู้​ใด​ยอมรับ​ว่า​พระ​องค์​เป็น​พระ​คริสต์ ผู้​นั้น​ก็​จะ​ถูก​ขับไล่​ออก​จาก​ศาลา​ที่​ประชุม ด้วย​เหตุ​นี้​เอง​บิดา​มารดา​ของ​เขา​จึง​พูด​ว่า “เขา​โต​แล้ว ถาม​เขา​เถิด” ดังนั้น​เขา​เหล่า​นั้น​จึง​เรียก​คน​ที่​เคย​ตา​บอด​มา​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง และ​พูด​กับ​เขา​ว่า “จง​สรรเสริญ​พระ​เจ้า​เถิด พวก​เรา​ทราบ​ว่า​ชาย​ผู้​นี้​เป็น​คน​บาป” เขา​กลับ​ตอบ​ว่า “ท่าน​เป็น​คน​บาป​หรือ​ไม่​นั้น ข้าพเจ้า​ไม่​ทราบ แต่​สิ่ง​หนึ่ง​ที่​ข้าพเจ้า​ทราบ​คือ ข้าพเจ้า​เคย​ตา​บอด และ​บัดนี้​ข้าพเจ้า​มองเห็น” คน​เหล่า​นั้น​พูด​กับ​เขา​ว่า “เขา​ทำ​อะไร​กับ​เจ้า เขา​ทำ​ให้​เจ้า​มองเห็น​ได้​อย่างไร” ชาย​ที่​เคย​ตา​บอด​ตอบ​ว่า “ข้าพเจ้า​บอก​ท่าน​แล้ว ท่าน​ก็​ไม่​ฟัง ทำไม​ท่าน​จึง​อยาก​ได้ยิน​อีก​เล่า ท่าน​อยาก​เป็น​สาวก​ด้วย​หรือ” ผู้​คน​จึง​ถากถาง​เขา​ว่า “ที่​แท้​เจ้า​ก็​เป็น​สาวก​ของ​เขา แต่​พวก​เรา​เป็น​สาวก​ของ​โมเสส พวก​เรา​ทราบ​ว่า​พระ​เจ้า​ได้​พูด​กับ​โมเสส แต่​สำหรับ​ชาย​ผู้​นี้​เรา​ไม่​ทราบ​ว่า​เขา​มา​จาก​ไหน” ชาย​คน​นั้น​ตอบ​ว่า “น่า​ประหลาด​ที่​ท่าน​ไม่​ทราบ​ว่า​ท่าน​ผู้​นั้น​มา​จาก​ไหน และ​ท่าน​ผู้​นั้น​ยัง​ได้​ทำ​ให้​ข้าพเจ้า​มองเห็น เรา​ทราบ​ว่า​พระ​เจ้า​ไม่​ได้​ฟัง​คน​บาป แต่​ถ้า​ผู้​ใด​เกรงกลัว​พระ​เจ้า และ​ทำ​ตาม​ความ​ประสงค์​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​ก็​ฟัง​ผู้​นั้น ตั้งแต่​แรกเริ่ม​มา ไม่​มี​ผู้​ใด​เคย​ได้ยิน​ว่า มี​คน​ทำ​ให้​ตา​ของ​คน​ที่​บอด​แต่​กำเนิด​เห็น​ได้ ถ้า​ชาย​ผู้​นี้​ไม่​ได้​มา​จาก​พระ​เจ้า​แล้ว ก็​คง​ไม่​สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​เลย” คน​พวก​นั้น​จึง​แย้ง​ว่า “เจ้า​เกิด​อยู่​ใน​บาป​โดย​สิ้นเชิง แล้ว​ยัง​จะ​มา​สอน​เรา​อีก​หรือ” จาก​นั้น​พวก​เขา​ก็​ขับไล่​คน​ตา​บอด​นั้น​ไป พระ​เยซู​ได้ยิน​ว่า​พวก​เขา​ได้​ขับไล่​ชาย​ตา​บอด​ออก​ไป เมื่อ​พระ​องค์​พบ​เขา​จึง​ถาม​ว่า “เจ้า​เชื่อ​ใน​บุตรมนุษย์​หรือ​ไม่” เขา​ตอบ​ว่า “นาย​ท่าน ผู้​ใด​เป็น​บุตรมนุษย์ ข้าพเจ้า​จะ​ได้​เชื่อ” พระ​เยซู​กล่าว​กับ​เขา​ว่า “เจ้า​ได้​เห็น​ท่าน​แล้ว และ​ท่าน​เป็น​ผู้​ที่​กำลัง​พูด​อยู่​กับ​เจ้า” เขา​จึง​พูด​ว่า “พระ​องค์​ท่าน ข้าพเจ้า​เชื่อ” และ​เขา​ก็​กราบ​นมัสการ​พระ​องค์ พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “เรา​มา​ยัง​โลก​นี้​เพื่อ​การ​กล่าวโทษ สำหรับ​บรรดา​คน​ที่​มอง​ไม่​เห็น​กลับ​มองเห็น และ​บรรดา​คน​ที่​มองเห็น​กลับ​ตา​บอด” พวก​ฟาริสี​ที่​อยู่​กับ​พระ​องค์​ได้ยิน​ดังนั้น จึง​พูด​กับ​พระ​องค์​ว่า “พวก​เรา​ตา​บอด​ด้วย​หรือ” พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “ถ้า​พวก​ท่าน​ตา​บอด ท่าน​ก็​จะ​ไม่​มี​บาป แต่​ใน​เมื่อ​ท่าน​พูด​ว่า ‘พวก​เรา​มองเห็น’ บาป​ของ​ท่าน​ก็​ยัง​ดำรง​อยู่

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 9