ยอห์น 7:25-44

ยอห์น 7:25-44 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

บางคน​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม​ถาม​กัน​ว่า “คนนี้​ไม่​ใช่​หรือ​ที่​พวกผู้นำ​พยายาม​จะ​ฆ่า แต่​ดูสิ เขา​กำลัง​พูด​อยู่​กลาง​ที่​สาธารณะ และ​พวก​ผู้นำ​ก็​ไม่​ได้​ว่า​อะไร​เขา​เลย หรือ​เป็นไปได้ไหม​ว่า​พวก​ผู้นำ​ตัดสินใจ​กัน​แล้ว​ว่า​เขา​คือ​พระคริสต์ แต่​พวก​เรา​รู้​นี่​ว่า​คนนี้​มา​จาก​ไหน ถ้า​พระคริสต์​ตัวจริง​มา​ละ​ก็ จะ​ไม่​มี​ใคร​รู้​หรอก​ว่า​พระองค์​มา​จาก​ไหน” ขณะ​ที่​พระเยซู​สอน​อยู่​ใน​บริเวณ​วิหาร พระองค์​ตะโกน​ให้​ทุก​คน​ได้ยิน​ว่า “ใช่แล้ว พวก​คุณ​รู้จัก​เรา และ​รู้​ว่า​เรา​มา​จาก​ไหน แต่​เรา​ไม่​ได้​มา​เอง มี​ผู้​หนึ่ง​ที่​ส่ง​เรา​มา​จริงๆ พวก​คุณ​ไม่​รู้จัก​พระองค์​ผู้​นั้น แต่​เรา​รู้จัก​พระองค์​เพราะ​เรา​มา​จาก​พระองค์ และ​พระองค์​ส่ง​เรา​มา” พวก​เขา​จึง​พยายาม​ที่​จะ​จับ​พระเยซู แต่​ไม่​มี​ใคร​จับ​ตัวพระ​องค์​ได้​เพราะ​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ของ​พระองค์ แต่​ก็​มี​คน​เป็น​จำนวน​มาก​ใน​ฝูงชน​นั้น​ที่​เชื่อ​พระองค์​และ​พูด​ว่า “เมื่อ​พระคริสต์​มา พระองค์​จะ​ทำ​สิ่งอัศจรรย์​มาก​กว่า​ที่​ชาย​คนนี้​ทำ​หรือ” เมื่อ​พวก​ฟาริสี​ได้ยิน​ว่า​มี​คน​เป็น​จำนวน​มาก​แอบ​ซุบซิบกัน​เรื่อง​พระเยซู​อยู่ หัวหน้า​นักบวช​และ​พวกฟาริสี​ส่ง​เจ้าหน้าที่​ของ​วิหาร​ไป​จับ​ตัว​พระเยซู พระเยซู​พูด​ว่า “เรา​จะ​อยู่​กับ​พวก​คุณ​อีก​สัก​พัก​หนึ่ง แล้ว​ก็​จะ​กลับ​ไปหา​พระองค์​ผู้ที่​ส่ง​เรา​มา พวกคุณ​จะ​ตาม​หา​เรา แต่​จะ​หา​ไม่​เจอ เพราะ​พวก​คุณ​ไม่​สามารถ​ไป​ใน​ที่​ที่​เรา​กำลัง​จะ​ไป” พวกผู้นำ​ชาวยิว​ถาม​กัน​ว่า “เขา​จะไป​ไหน​หรือ ที่​พวก​เรา​จะ​หา​เขา​ไม่​เจอ เขา​จะ​ไป​หา​คน​ของ​พวก​เรา​ที่​เมือง​กรีก​และ​สอน​พวก​คนกรีก​ที่​นั่น​หรือ แล้ว​เขา​หมายถึง​อะไร​นะ ตอน​ที่​เขา​พูด​ว่า ‘คุณ​จะ​ตาม​หา​เรา​แต่​จะ​หา​ไม่​เจอ’ และ ‘พวก​คุณ​ไม่​สามารถ​ไป​ใน​ที่​ที่​เรา​กำลัง​จะ​ไป’” ใน​วันสุดท้าย​ของ​เทศกาลอยู่เพิง ซึ่ง​เป็น​วัน​สำคัญ​ที่สุด พระเยซู​ยืน​ขึ้น​และ​พูด​เสียง​ดัง​ว่า “ถ้า​ใคร​หิว​น้ำ ก็​ให้​มาหา​เรา​และ​ดื่ม​สิ คน​ที่​ไว้วางใจ​เรา​ก็​จะ​มี​ลำธาร​ของ​น้ำ​ที่​ให้​ชีวิต​ไหล​ออก​มา​จาก​หัวใจ​ของ​เขา เหมือน​กับ​ที่​พระคัมภีร์​บอก” พระเยซู​กำลัง​พูด​ถึง​พระวิญญาณ ซึ่ง​ภายหลัง​คน​ที่​ไว้วางใจ​พระองค์​จะ​ได้รับ แต่​ที่​ยัง​ไม่​มี​ใคร​ได้รับ​ตอนนี้ เพราะ​พระเยซู​ยัง​ไม่​ตาย​และ​ยัง​ไม่​ได้​ฟื้นขึ้น​มา​รับ​เกียรติ​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​พระองค์ เมื่อ​ประชาชน​ได้ยิน​สิ่ง​ที่​พระเยซู​พูด ก็​มี​บางคน​พูด​ว่า “ชาย​คนนี้​เป็น​ผู้พูดแทนพระเจ้า​คน​นั้น​ที่​คน​รอคอย​แน่ๆ” คน​อื่นๆ​พูด​ว่า “เขา​เป็น​พระคริสต์” แต่​บางคน​แย้ง​ว่า “พระคริสต์​จะ​มา​จาก​แคว้น​กาลิลี​ได้​ยังไง พระคัมภีร์​บอก​ว่า พระคริสต์​จะ​มา​จาก​ครอบครัว​ของ​ดาวิด และ​มา​จาก​หมู่บ้าน​เบธเลเฮม เมือง​ที่​ดาวิด​เคย​อยู่ไม่ใช่​หรือ” จึง​เกิด​การแตกแยก​กัน​ขึ้น​ใน​หมู่​ประชาชน​เพราะ​ตกลง​กัน​ไม่​ได้​ใน​เรื่อง​ของ​พระเยซู บางคน​อยาก​จะ​จับกุม​พระองค์ แต่​ก็​ไม่​มี​ใคร​กล้า​ทำ

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 7

ยอห์น 7:25-44 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

แล้วชาวกรุงเยรูซาเล็มบางคนจึงพูดว่า “คนนี้ไม่ใช่หรือที่พวกเขาหาโอกาสจะฆ่า? เขาก็อยู่นี่แล้วไง กำลังพูดอยู่อย่างเปิดเผย และพวกเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร พวกผู้ใหญ่รู้แน่แล้วหรือว่าคนนี้เป็นพระคริสต์? แต่เรารู้แล้วว่าคนนี้มาจากไหน เพราะเมื่อพระคริสต์เสด็จมา จะไม่มีใครรู้เลยว่าพระองค์มาจากไหน” แล้วพระเยซูก็ทรงประกาศขณะทรงสั่งสอนอยู่ที่บริเวณพระวิหารว่า “พวกท่านรู้จักเราและรู้ว่าเรามาจากไหน เราไม่ได้มาตามลำพังเราเอง แต่พระองค์ผู้ทรงใช้เรามานั้นสัตย์จริงและพวกท่านไม่รู้จักพระองค์ เรารู้จักพระองค์ เพราะเรามาจากพระองค์และพระองค์ทรงใช้เรามา” พวกเขาจึงหาโอกาสจับพระองค์ แต่ไม่มีใครยื่นมือแตะต้องพระองค์เพราะยังไม่ถึงกำหนดเวลาของพระองค์ แต่มีหลายคนในหมู่ประชาชนนั้นวางใจในพระองค์และพูดว่า “เวลาที่พระคริสต์เสด็จมา พระองค์จะทรงทำหมายสำคัญมากยิ่งกว่าสิ่งที่ท่านผู้นี้ได้ทำหรือ?” เมื่อพวกฟาริสีได้ยินประชาชนซุบซิบกันเรื่องพระองค์อย่างนั้น พวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกฟาริสีจึงใช้เจ้าหน้าที่ไปจับพระองค์ พระเยซูตรัสว่า “เราจะอยู่กับพวกท่านต่อไปอีกไม่นาน แล้วจะกลับไปหาผู้ที่ทรงใช้เรามา พวกท่านจะแสวงหาเราแต่จะไม่พบเรา และที่ที่เราอยู่นั้นท่านจะเข้าไปไม่ได้” พวกยิวจึงพูดกันว่า “คนนี้จะไปไหนที่เราจะหาเขาไม่พบ? เขาตั้งใจจะไปหาคนที่กระจัดกระจายอยู่ในหมู่พวกกรีกและสั่งสอนพวกกรีกหรือ? เขาหมายความว่าอย่างไรที่พูดว่า ‘พวกท่านจะแสวงหาเราแต่จะไม่พบเรา’ และ ‘ที่ที่เราอยู่นั้นพวกท่านจะเข้าไปไม่ได้’?” ในวันสุดท้ายของงานเทศกาลซึ่งเป็นวันยิ่งใหญ่นั้น พระเยซูทรงยืนขึ้นและทรงประกาศว่า “ถ้าใครกระหาย ให้คนนั้นมาหาเรา และให้คนที่วางใจในเราดื่ม ตามที่มีคำเขียนไว้แล้วว่า ‘แม่น้ำที่มีน้ำดำรงชีวิตจะไหลออกมาจากภายในคนนั้น’” สิ่งที่พระเยซูตรัสนั้นหมายถึงพระวิญญาณซึ่งคนที่วางใจพระองค์จะได้รับ เพราะว่าพระวิญญาณยังไม่สถิตด้วย เพราะพระเยซูยังไม่ได้รับพระเกียรติ เมื่อประชาชนได้ยินดังนั้น บางคนก็พูดว่า “ท่านผู้นี้เป็นผู้เผยพระวจนะแน่นอน” คนอื่นๆ ก็พูดว่า “ท่านผู้นี้เป็นพระคริสต์” แต่บางคนว่า “พระคริสต์จะมาจากกาลิลีได้หรือ? พระคัมภีร์กล่าวไว้ไม่ใช่หรือว่าพระคริสต์จะมาจากเชื้อพระวงศ์ของดาวิด และมาจากหมู่บ้านเบธเลเฮม ที่ดาวิดเคยอยู่นั้น” ดังนั้นฝูงชนจึงขัดแย้งกันในเรื่องพระองค์ บางคนอยากจะจับพระองค์ แต่ไม่มีใครยื่นมือแตะต้องพระองค์เลย

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 7

ยอห์น 7:25-44 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เพราะฉะนั้นชาวกรุงเยรูซาเล็มบางคนจึงพูดว่า “คนนี้​มิใช่​หรือที่เขาหาโอกาสจะฆ่าเสีย แต่​ดู​เถิด ท่านกำลังพู​ดอย​่างกล้าหาญและเขาทั้งหลายก็​ไม่ได้​ว่าอะไรท่านเลย พวกขุนนางรู้​แน่​แล​้วหรือว่า คนนี้เป็นพระคริสต์​แท้ แต่​เรารู้ว่าคนนี้มาจากไหน แต่​เมื่อพระคริสต์เสด็จมานั้น จะไม่​มี​ผู้​ใดรู้เลยว่า พระองค์​มาจากไหน” ดังนั้นพระเยซูจึงทรงประกาศขณะที่ทรงสั่งสอนอยู่ในพระวิหารว่า “ท่านทั้งหลายรู้จักเรา และรู้ว่าเรามาจากไหน แต่​เรามิ​ได้​มาตามลำพังเราเอง แต่​พระองค์​ผู้​ทรงใช้เรามานั้นทรงสัตย์​จริง แต่​ท่านทั้งหลายไม่​รู้​จักพระองค์ แต่​เรารู้จักพระองค์เพราะเรามาจากพระองค์และพระองค์​ได้​ทรงใช้เรามา” เขาทั้งหลายจึงหาโอกาสที่จะจับพระองค์ แต่​ไม่มี​ผู้​ใดยื่​นม​ือแตะต้องพระองค์ เพราะยังไม่ถึงกำหนดเวลาของพระองค์ และมีหลายคนในหมู่ประชาชนนั้นได้เชื่อในพระองค์และพูดว่า “เมื่อพระคริสต์เสด็จมานั้น พระองค์​จะทรงกระทำอัศจรรย์มากยิ่งกว่าที่​ผู้​นี้​ได้​กระทำหรือ” เมื่อพวกฟาริ​สี​ได้​ยินประชาชนซุบซิ​บก​ันเรื่องพระองค์​อย่างนั้น พวกฟาริ​สี​กับพวกปุโรหิตใหญ่จึงได้​ใช้​เจ้าหน้าที่​ไปจับพระองค์ พระเยซู​จึงตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “เราจะอยู่กั​บท​่านทั้งหลายอีกหน่อยหนึ่ง แล​้วจะกลับไปหาพระองค์​ผู้​ทรงใช้เรามา ท่านทั้งหลายจะแสวงหาเราแต่จะไม่พบเรา และที่ซึ่งเราอยู่นั้นท่านจะไปไม่​ได้​” พวกยิวจึงพู​ดก​ั​นว​่า “คนนี้จะไปไหน ที่​เราจะหาเขาไม่​พบ เขาจะไปหาคนที่กระจัดกระจายไปอยู่ในหมู่พวกต่างชาติและสั่งสอนพวกต่างชาติ​หรือ เขาหมายความว่าอย่างไรที่​พูดว่า ‘ท่านทั้งหลายจะแสวงหาเราแต่จะไม่พบเรา’ และ ‘​ที่​ซึ่งเราอยู่นั้นท่านจะไปไม่​ได้​’ ” ในวันสุดท้ายของเทศกาลซึ่งเป็​นว​ันใหญ่​นั้น พระเยซู​ทรงยืนและประกาศว่า “ถ้าผู้ใดกระหาย ผู้​นั้นจงมาหาเราและดื่ม ผู้​ที่​เชื่อในเรา ตามที่​พระคัมภีร์​ได้​กล​่าวไว้​แล​้​วว​่า ‘​แม่น​้ำที่​มีน​้ำประกอบด้วยชีวิตจะไหลออกมาจากภายในผู้​นั้น​’” (​สิ​่งที่​พระองค์​ตรั​สน​ั้นหมายถึงพระวิญญาณซึ่งผู้​ที่​เชื่อในพระองค์จะได้​รับ เหตุ​ว่าย​ังไม่​ได้​ประทานพระวิญญาณบริ​สุทธิ​์​ให้ เพราะพระเยซูยั​งม​ิ​ได้​รับสง่าราศี) เมื่อประชาชนได้ฟั​งด​ังนั้น หลายคนจึงพูดว่า “​แท้จริง ท่านผู้​นี้​เป็นศาสดาพยากรณ์​นั้น​” คนอื่นๆก็​พูดว่า “ท่านผู้​นี้​เป็นพระคริสต์” แต่​บางคนพูดว่า “พระคริสต์จะมาจากกาลิลี​หรือ พระคัมภีร์​กล​่าวไว้​มิใช่​หรือว่า พระคริสต์จะมาจากเชื้อสายของดาวิด และมาจากเมืองเบธเลเฮมซึ่งดาวิดเคยอยู่​นั้น​” เหตุ​ฉะนั้นประชาชนจึ​งม​ีความเห็นแตกแยกกันในเรื่องพระองค์ บางคนใคร่จะจับพระองค์ แต่​ไม่มี​ผู้​ใดยื่​นม​ือแตะต้องพระองค์​เลย

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 7

ยอห์น 7:25-44 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เพราะฉะนั้นชาวกรุงเยรูซาเล็มบางคนจึงพูดว่า <<คนนี้มิใช่หรือที่เขาหาโอกาสจะฆ่าเสีย นี่อย่างไรล่ะ ท่านกำลังพูดอยู่อย่างเปิดเผย และเขาทั้งหลายก็ไม่ได้ว่าอะไรท่านเลย พวกเจ้าหน้าที่รู้แน่แล้วหรือว่า คนนี้เป็นพระคริสต์ แต่เรารู้ว่าคนนี้มาจากไหน เมื่อพระคริสต์เสด็จมานั้น จะไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าพระองค์มาจากไหน>> ดังนั้นพระเยซูจึงทรงประกาศขณะที่ทรงสั่งสอนอยู่ในบริเวณพระวิหารว่า <<ท่านทั้งหลายรู้จักเรา และรู้ว่าเรามาจากไหน แต่เรามิได้มาตามลำพังเราเอง พระองค์ผู้ทรงใช้เรามานั้นทรงสัตย์จริง แต่ท่านทั้งหลายไม่รู้จักพระองค์ เรารู้จักพระองค์ เพราะเรามาจากพระองค์และพระองค์ได้ทรงใช้เรามา>> เขาทั้งหลายจึงหาโอกาสที่จะจับพระองค์ แต่ไม่มีผู้ใดยื่นมือแตะต้องพระองค์ เพราะยังไม่ถึงกำหนดเวลาของพระองค์ แต่มีหลายคนในหมู่ประชาชนนั้นได้วางใจในพระองค์ และพูดว่า <<เมื่อพระคริสต์เสด็จมานั้น พระองค์จะทรงกระทำหมายสำคัญมากยิ่งกว่าที่ผู้นี้ได้กระทำหรือ>> เมื่อพวกฟาริสีได้ยินประชาชนซุบซิบกันเรื่องพระองค์อย่างนั้น พวกมหาปุโรหิตและพวกฟาริสีจึงใช้เจ้าหน้าที่ไปจับพระองค์ พระเยซูตรัสว่า <<เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายต่อไปอีกหน่อย แล้วจะกลับไปหาพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา ท่านทั้งหลายจะแสวงหาเราแต่จะไม่พบเรา และที่ซึ่งเราอยู่นั้นท่านจะเข้าไปไม่ได้>> พวกยิวจึงพูดกันว่า <<คนนี้จะไปไหน ที่เราจะหาเขาไม่พบ เขาตั้งใจจะไปหาคนที่กระจัดกระจายไปอยู่ในหมู่พวกต่างชาติ และสั่งสอนพวกต่างชาติหรือ เขาหมายความว่าอย่างไรที่พูดว่า <ท่านทั้งหลายจะแสวงหาเราแต่จะไม่พบเรา> และ <ที่ซึ่งเราอยู่นั้นท่านจะเข้าไปไม่ได้> >> ในวันสุดท้ายของงานเทศกาลซึ่งเป็นวันใหญ่นั้น พระเยซูทรงยืนและประกาศว่า <<ถ้าผู้ใดกระหาย ผู้นั้นจงมาหาเราและดื่ม ผู้ที่วางใจในเราตามที่มีคำเขียนไว้แล้วว่า <แม่น้ำที่มีน้ำธำรงชีวิต จะไหลออกมาจากภายในผู้นั้น>>> สิ่งที่พระเยซูตรัสนั้นหมายถึงพระวิญญาณ ซึ่งผู้ที่วางใจในพระองค์จะได้รับ เหตุว่ายังไม่ได้ประทานพระวิญญาณให้ เพราะพระเยซูยังมิได้ประสบเกียรติกิจ เมื่อประชาชนได้ฟังดังนั้น บางคนก็พูดว่า <<ท่านผู้นี้เป็นผู้เผยพระวจนะนั้นแน่>> คนอื่นๆก็พูดว่า <<ท่านผู้นี้เป็นพระคริสต์>> แต่บางคนพูดว่า <<พระคริสต์จะมาจากกาลิลีหรือ พระคัมภีร์กล่าวไว้มิใช่หรือ ว่าพระคริสต์จะมาจากเชื้อพระวงศ์ของดาวิด และมาจากหมู่บ้านเบธเลเฮมชนบทซึ่งดาวิดเคยอยู่นั้น>> เหตุฉะนั้นประชาชนจึงมีความเห็นแตกแยกกันในเรื่องพระองค์ บางคนใคร่จะจับพระองค์ แต่ไม่มีผู้ใดยื่นมือแตะต้องพระองค์เลย

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 7

ยอห์น 7:25-44 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

เมื่อถึงตอนนี้ ชาวเยรูซาเล็มบางคนเริ่มถามขึ้นว่า “ชายคนนี้ไม่ใช่หรือที่พวกเขาพยายามจะฆ่า? เขาอยู่ที่นี่และกำลังพูดอยู่อย่างเปิดเผย แต่พวกนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาสักคำ พวกผู้มีอำนาจสรุปแน่นอนแล้วใช่ไหมว่าเขาคือพระคริสต์? แต่เรารู้ว่าคนนี้มาจากไหน เมื่อพระคริสต์เสด็จมาจะไม่มีใครรู้ว่าพระองค์ทรงมาจากไหน” ดังนั้นขณะพระเยซูกำลังสอนอยู่ในลานพระวิหาร พระองค์ก็ตะโกนว่า “ใช่ พวกท่านรู้จักเราและรู้ว่าเรามาจากไหน เราไม่ได้มาเอง แต่พระองค์ผู้ทรงส่งเรามานั้นทรงสัตย์จริง ท่านไม่รู้จักพระองค์ แต่เรารู้จักพระองค์ เพราะเรามาจากพระองค์ และพระองค์ทรงส่งเรามา” เมื่อได้ฟังดังนั้นพวกเขาก็พยายามจะจับพระเยซูแต่ไม่มีใครลงมือกับพระองค์ เพราะยังไม่ถึงเวลาของพระองค์ แต่ประชาชนหลายคนก็มีความเชื่อในพระองค์ พวกเขาพูดว่า “เมื่อพระคริสต์เสด็จมา พระองค์จะทรงกระทำหมายสำคัญมากมายยิ่งกว่าท่านผู้นี้หรือ?” พวกฟาริสีได้ยินประชาชนซุบซิบกันเรื่องพระองค์เช่นนั้น พวกหัวหน้าปุโรหิตกับฟาริสีจึงส่งยามพระวิหารมาจับพระองค์ พระเยซูตรัสว่า “เราอยู่กับพวกท่านเพียงชั่วระยะสั้นๆ แล้วเราจะไปหาพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา พวกท่านจะหาเราแต่ไม่พบ และที่ซึ่งเราอยู่ ท่านไม่สามารถไปได้” พวกยิวจึงพูดกันว่า “ชายผู้นี้ตั้งใจจะไปที่ไหนที่เราไม่อาจหาเขาพบ? เขาจะไปหาคนของเราที่กระจัดกระจายอยู่ในหมู่ชาวกรีก และไปสอนพวกกรีกหรือ? เขาหมายความว่าอย่างไรเมื่อพูดว่า ‘พวกท่านจะหาเราแต่ไม่พบ’ และ ‘ที่ซึ่งเราอยู่ ท่านไม่สามารถไปได้’?” ในวันสุดท้ายซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดของเทศกาล พระเยซูทรงยืนขึ้นและตรัสเสียงดังว่า “ถ้าผู้ใดกระหาย ให้เขามาหาเราและดื่มเถิด ดังที่พระคัมภีร์เขียนไว้ ผู้ใดก็ตามที่เชื่อในเรา สายธารซึ่งมีน้ำที่ให้ชีวิตจะไหลออกมาจากภายในผู้นั้น” ที่ตรัสดังนี้พระองค์ทรงหมายถึงพระวิญญาณ ซึ่งผู้ที่เชื่อในพระองค์จะได้รับในภายหลัง เวลานั้นยังไม่ได้ประทานพระวิญญาณให้ เนื่องจากพระเยซูยังไม่ได้รับพระเกียรติสิริ เมื่อได้ยินคำตรัสของพระองค์ ประชาชนบางคนพูดว่า “ชายผู้นี้เป็นผู้เผยพระวจนะนั้นอย่างแน่นอน” บางคนก็ว่า “ท่านผู้นี้เป็นพระคริสต์” แต่ยังมีคนอื่นๆ อีกถามว่า “พระคริสต์จะมาจาก กาลิลีได้อย่างไร? พระคัมภีร์บอกไว้ไม่ใช่หรือว่า พระคริสต์จะมาจากครอบครัวของดาวิดและจากเบธเลเฮมเมืองที่ดาวิดอยู่?” ด้วยเหตุนี้ประชาชนจึงแตกแยกกันเพราะพระเยซู บางคนต้องการจับพระองค์ แต่ไม่มีใครลงมือจับพระองค์

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 7

ยอห์น 7:25-44 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

บาง​คน​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม​พูด​กัน​ว่า “ชาย​ผู้​นี้​มิ​ใช่​หรือ​ที่​ผู้​คน​พยายาม​ฆ่า ดู​สิ ท่าน​กำลัง​พูด​อย่าง​เปิดเผย​และ​ไม่​มี​ใคร​ว่า​ท่าน​เลย พวก​ที่​อยู่​ใน​ระดับ​ปกครอง​สรุป​ข้อ​เท็จ​จริง​ได้​แล้ว​หรือ​ว่า ผู้​นี้​เป็น​พระ​คริสต์ อย่างไร​ก็​ตาม เรา​ทราบ​ว่า​ชาย​ผู้​นี้​มา​จาก​ไหน แต่​เมื่อ​ใด​ก็​ตาม​ที่​พระ​คริสต์​มา ไม่​มี​ใคร​เลย​ที่​ทราบ​ว่า​พระ​องค์​มา​จาก​ไหน” พระ​เยซู​กล่าว​สั่งสอน​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​ใน​พระ​วิหาร​ว่า “พวก​ท่าน​รู้จัก​เรา และ​รู้​ด้วย​ว่า​เรา​มา​จาก​ไหน และ​เรา​ไม่​ได้​มา​โดย​ลำพัง​ตน​เอง แต่​พระ​องค์​ผู้​ส่ง​เรา​มา​นั้น​เป็น​จริง และ​พวก​ท่าน​ก็​ไม่​รู้จัก​พระ​องค์ เรา​รู้จัก​พระ​องค์​เพราะ​ว่า​เรา​มา​จาก​พระ​องค์ และ​พระ​องค์​ส่ง​เรา​มา” ด้วย​เหตุ​นี้​เอง​เขา​เหล่า​นั้น​จึง​พยายาม​จะ​จับกุม​พระ​เยซู แต่​ไม่​มี​ผู้​ใด​ยื่น​มือ​แตะต้อง​พระ​องค์​ได้ เพราะ​ว่า​ยัง​ไม่​ถึง​กำหนด​เวลา​ของ​พระ​องค์ แต่​มี​หลาย​คน​ใน​ฝูง​ชน​ที่​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​และ​พูด​กัน​ว่า “เมื่อ​พระ​คริสต์​มา พระ​องค์​คง​จะ​ไม่​แสดง​ปรากฏการณ์​อัศจรรย์​มาก​กว่า​ที่​ชาย​ผู้​นี้​ได้​กระทำ​หรอก” พวก​ฟาริสี​ได้ยิน​ฝูง​ชน​พา​กัน​ซุบซิบ​เรื่อง​ของ​พระ​องค์ พวก​มหา​ปุโรหิต​และ​ฟาริสี​จึง​ได้​ส่ง​พวก​เจ้าหน้าที่​ที่​เฝ้า​พระ​วิหาร​ไป​เพื่อ​จับกุม​พระ​องค์ ฉะนั้น​พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “เรา​อยู่​กับ​พวก​ท่าน​อีก​เพียง​ประเดี๋ยว​หนึ่ง แล้ว​เรา​ก็​จะ​ไป​หา​ผู้​ที่​ส่ง​เรา​มา พวก​ท่าน​จะ​แสวงหา​เรา แต่​จะ​ไม่​พบ และ​ที่​ซึ่ง​เรา​อยู่ พวก​ท่าน​ไม่​อาจ​ไป​ถึง​ได้” ดังนั้น​ชาว​ยิว​จึง​พูด​โต้ตอบ​กัน​ว่า “ชาย​ผู้​นี้​ตั้งใจ​จะ​ไป​ที่​ไหน​ที่​พวก​เรา​จะ​หา​ไม่​พบ จะ​ตั้งใจ​ไป​หา​พวก​เรา​ที่​กระจัด​กระจาย​ไป​อยู่​กับ​ชาว​กรีก และ​สั่งสอน​ชาว​กรีก​หรือ ท่าน​หมาย​ความ​ว่า​อย่างไร​ที่​กล่าว​ว่า ‘พวก​ท่าน​จะ​แสวงหา​เรา แต่​จะ​ไม่​พบ และ​ที่​ซึ่ง​เรา​อยู่ พวก​ท่าน​ไม่​อาจ​ไป​ถึง​ได้’” ใน​วัน​สุดท้าย​อัน​เป็น​วัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​งาน​เทศกาล​นั้น พระ​เยซู​ยืน​ขึ้น​กล่าว​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​ว่า “ถ้า​ผู้​ใด​กระหาย​ก็​ให้​เขา​มา​หา​เรา​และ​ดื่ม ตาม​ที่​บันทึก​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์​ว่า ผู้​ที่​เชื่อ​เรา ‘จะ​มี​แม่น้ำ​ที่​มี​น้ำ​แห่ง​ชีวิต​ไหล​จาก​ภาย​ใน​ที่​เป็น​ส่วน​ลึก​สุด​ของ​เขา’” สิ่ง​ที่​พระ​องค์​กล่าว​นี้​หมายถึง​พระ​วิญญาณ​ซึ่ง​บรรดา​คน​ที่​เชื่อ​ใน​พระ​องค์​จะ​ได้​รับ ด้วย​ว่า​พระ​เยซู​ยัง​ไม่​ได้​รับ​พระ​บารมี จึง​ยัง​ไม่​ได้​มอบ​พระ​วิญญาณ​ให้ เมื่อ​ฝูง​ชน​ได้ยิน​แล้ว บาง​คน​ก็​พูด​ว่า “ผู้​นี้​เป็น​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ผู้​นั้น​อย่าง​แน่นอน” บ้าง​ก็​พูด​ว่า “ผู้​นี้​เป็น​พระ​คริสต์” คน​อื่นๆ พูด​ว่า “พระ​คริสต์​ไม่​ได้​มา​จาก​แคว้น​กาลิลี​แน่​ใช่​ไหม พระ​คัมภีร์​ได้​ระบุ​ไว้​แล้ว​มิ​ใช่​หรือ​ว่า พระ​คริสต์​สืบ​เชื้อสาย​มา​จาก​ดาวิด​และ​จาก​หมู่บ้าน​เบธเลเฮม​ซึ่ง​ดาวิด​เคย​อยู่” ดังนั้น​ฝูง​ชน​ก็​แบ่ง​พรรค​แบ่ง​พวก​กัน​เพราะ​เรื่อง​ของ​พระ​เยซู บาง​คน​ต้องการ​จะ​จับกุม​พระ​องค์ แต่​ก็​ไม่​มี​ผู้​ใด​กล้า​ยื่น​มือ​ออก​ไป​แตะต้อง​พระ​องค์

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 7