ยอห์น 6:45-71

ยอห์น 6:45-71 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ผู้พูดแทนพระเจ้า​เขียน​ไว้​ว่า ‘พระเจ้า​จะ​สั่งสอน​พวก​เขา​ทุก​คน’ ทุก​คน​ที่​ได้​ฟัง​และ​เรียนรู้​จาก​พระบิดา​ก็​จะ​มาหา​เรา (ไม่​มี​ใคร​เคย​เห็น​พระบิดา นอกจาก​ผู้​ที่​มา​จาก​พระบิดา​ผู้​เคย​เห็น​พระองค์) เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า คน​ที่​ไว้วางใจ​เรา​ก็​มี​ชีวิต​กับ​พระเจ้า​ตลอด​ไป เรา​เป็น​ขนมปัง​ที่​ให้​ชีวิต บรรพบุรุษ​ของ​พวก​คุณ​ได้​กิน​มานา​ใน​ที่​เปล่า​เปลี่ยว​แห้งแล้ง สุดท้าย​พวก​เขา​ก็​ตาย​กัน​ไป​หมด แต่​คน​ไหน​กิน​ขนมปัง​ที่​ลง​มา​จาก​สวรรค์ คน​นั้น​จะ​ไม่​ตาย​อีก​เลย เรา​เป็น​ขนมปัง​จาก​สวรรค์​ที่​ให้​ชีวิต คน​ที่​กิน​ขนมปังนี้​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​ไป ขนมปังนี้​คือ​เนื้อหนัง​ของ​เรา ที่​เรา​จะ​ให้​เพื่อ​คน​ใน​โลกนี้​จะ​ได้​มี​ชีวิต” พวกยิว​ก็​เริ่ม​เถียง​กัน​เอง​ว่า “ผู้ชาย​คนนี้​จะ​เอา​เนื้อหนัง​ของ​เขา​ให้​พวก​เรา​กิน​ได้​ยังไง” พระเยซู​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ถ้า​พวก​คุณ​ไม่​กิน​เนื้อหนัง และ​ไม่​ดื่ม​เลือด​ของ​บุตร​มนุษย์ คุณ​ก็​ไม่​มี​ชีวิต​ที่​แท้จริง คน​ที่​กิน​เนื้อ​และ​ดื่ม​เลือด​ของ​เรา​จะ​มี​ชีวิต​กับ​พระเจ้า​ตลอด​ไป เรา​จะ​ให้​เขา​ฟื้นขึ้น​มา​มี​ชีวิต​ใน​วัน​สุดท้าย เพราะ​เนื้อ​ของ​เรา​เป็น​อาหารแท้ และ​เลือด​ของ​เรา​ก็​เป็น​เครื่องดื่ม​แท้ คน​ที่​กิน​เนื้อ​และ​ดื่ม​เลือด​ของ​เรา​ก็​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กับ​เรา และ​เรา​ก็​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กับ​เขา พระบิดา​ผู้มีชีวิต​อยู่​ส่ง​เรา​มา และ​เรา​มี​ชีวิต​อยู่​ได้​ก็​เพราะ​พระบิดา ดังนั้น​คน​ที่​กิน​เลือดเนื้อ​ของ​เรา​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ได้​เพราะ​เรา​เหมือน​กัน นี่​คือ​ขนมปัง​ที่​ลง​มา​จาก​สวรรค์ ซึ่ง​ไม่​เหมือน​กับ​มานา​ที่​บรรพบุรุษ​ของ​พวก​คุณ​ได้​กิน แล้ว​สุดท้าย​ก็​ยัง​ต้อง​ตายกัน แต่​คน​ที่​ได้​กิน​ขนมปังนี้​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​ไป” พระเยซู​พูด​เรื่อง​เหล่านี้ ขณะ​ที่​พระองค์​กำลัง​สอน​อยู่​ใน​ที่ประชุม​ชาวยิว​ใน​เมือง​คาเปอรนาอุม เมื่อ​ศิษย์​หลาย​คน​ได้ยิน​เรื่อง​เหล่านี้ ก็​บ่น​กัน​ว่า “ใคร​จะ​ไป​ยอมรับ​คำสอน​ยากๆ​อย่างนี้​ได้” พระเยซู​รู้​ว่า​พวกศิษย์​กำลัง​บ่นกัน​ถึง​เรื่องนี้ พระองค์​จึง​ถาม​ว่า “คำสอน​เหล่านี้​ทำ​ให้​พวก​คุณ​ตะลึงงัน​ไป​เลย​หรือ แล้ว​พวกคุณ​จะ​ว่า​ยังไง ถ้า​ได้​เห็น​บุตร​มนุษย์​ขึ้น​ไป​สวรรค์​ที่​พระองค์​เคย​อยู่​มา​ก่อน ไม่​ใช่​พละกำลัง​ของ​มนุษย์​ที่​เป็น​ผู้​ให้​ชีวิต แต่​เป็น​พระวิญญาณ​ของ​พระเจ้า คำพูด​ที่​เรา​ได้​บอก​พวก​คุณ​นี้แหละ จะ​นำ​พระวิญญาณ​ของ​พระเจ้า​มา​ให้​กับ​คุณ เป็น​พระวิญญาณ​ที่​ให้​ชีวิต แต่​พวก​คุณ​บางคน​ก็​ไม่​เชื่อ” (ตั้ง​แต่​เริ่มแรก​พระเยซู​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​พวก​ไหน​จะ​ไม่​เชื่อ และ​คน​ไหน​ที่​จะ​หักหลัง​พระองค์) แล้ว​พระองค์​พูด​ว่า “ก็​เพราะ​อย่างนี้​เรา​ถึง​บอก​คุณ​ว่า ‘ไม่​มี​ใคร​มา​ถึง​เรา​ได้ นอกจาก​พระบิดา​จะ​ทำให้​เขา​สามารถ​มา​ได้’” หลังจาก​ที่​พระเยซู​พูด​อย่าง​นั้น ศิษย์​จำนวน​มาก​ก็​ทิ้ง​พระเยซู​ไป แล้ว​พระเยซู​ถาม​ศิษย์​เอก​ทั้ง​สิบสอง​คน​ว่า “พวก​คุณ​คง​จะ​ไม่ทิ้ง​เรา​ไป​ด้วย​มั้ง” ซีโมน เปโตร​ตอบ​พระองค์​ว่า “จะ​ให้​พวก​เรา​ทิ้ง​อาจารย์​ไปหา​ใคร​อีก​ล่ะ​ครับ อาจารย์​มี​คำพูด​ที่​ให้​ชีวิต​ที่​อยู่​กับ​พระเจ้า​ตลอด​ไป พวก​เรา​เชื่อ​และ​รู้​แล้ว​ว่า​อาจารย์​เป็น​องค์​พระ​ผู้​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระเจ้า” พระเยซู​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “เรา​เป็น​คน​เลือก​พวก​คุณ​ทั้ง​สิบสอง​คน​มา​เอง​ถูก​ไหม แต่​คน​หนึ่ง​ใน​พวกคุณ​เป็น​มารร้าย” (พระองค์​หมายถึง​ยูดาส ลูก​ของ​ซีโมน อิสคาริโอท เพราะ​เขา​จะ​หักหลัง​พระองค์ แม้ว่า​เขา​เป็น​ศิษย์เอก​คน​หนึ่ง​ใน​สิบสอง​คน​นั้น​ก็​ตาม)

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 6

ยอห์น 6:45-71 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

มีคำเขียนไว้ในหนังสือผู้เผยพระวจนะว่า ‘พระเจ้าจะทรงสั่งสอนพวกเขาทุกคน’ ทุกคนที่ได้ยินได้ฟัง และได้เรียนรู้จากพระบิดาก็มาถึงเรา ไม่มีใครได้เห็นพระบิดานอกจากท่านที่มาจากพระเจ้า ท่านนั้นแหละได้เห็นพระบิดาแล้ว เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า คนที่วางใจก็มีชีวิตนิรันดร์ เราเป็นอาหารแห่งชีวิต บรรพบุรุษของพวกท่านได้กินมานาในถิ่นทุรกันดารแล้วก็ยังเสียชีวิต แต่นี่เป็นอาหารที่ลงมาจากสวรรค์เพื่อให้คนที่ได้กินแล้วไม่ตาย เราเป็นอาหารดำรงชีวิตซึ่งลงมาจากสวรรค์ ถ้าใครกินอาหารนี้ คนนั้นจะมีชีวิตนิรันดร์ และอาหารที่เราจะให้เพื่อชีวิตของโลกนั้นก็คือเลือดเนื้อของเรา” แล้วพวกยิวก็ทุ่มเถียงกันว่า “คนนี้จะเอาเนื้อของเขาให้เรากินได้อย่างไร?” พระเยซูจึงตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ถ้าท่านไม่ได้กินเนื้อและไม่ได้ดื่มโลหิตของบุตรมนุษย์ ก็จะไม่มีชีวิตในตัวท่าน คนที่กินเนื้อและดื่มโลหิตของเราจะมีชีวิตนิรันดร์ และเราจะให้คนนั้นเป็นขึ้นมาในวันสุดท้าย เพราะว่าเนื้อของเราเป็นอาหารแท้ และโลหิตของเราก็เป็นเครื่องดื่มแท้ คนที่กินเนื้อและดื่มโลหิตของเรา คนนั้นก็อยู่ในเราและเราอยู่ในเขา พระบิดาผู้ทรงพระชนม์อยู่ทรงใช้เรามา และเรามีชีวิตเพราะพระบิดาอย่างไร คนที่กินเราก็จะมีชีวิตเพราะเราอย่างนั้น นี่แหละเป็นอาหารที่ลงมาจากสวรรค์ ไม่เหมือนอาหารที่พวกบรรพบุรุษกินและเสียชีวิต คนที่กินอาหารนี้จะมีชีวิตนิรันดร์” คำเหล่านี้พระองค์ตรัสในธรรมศาลา ขณะที่พระองค์ทรงสั่งสอนอยู่ที่เมืองคาเปอรนาอุม เมื่อพวกสาวกของพระองค์หลายคนได้ยินอย่างนั้นก็พูดว่า “คำสอนเรื่องนี้ยากนัก ใครจะรับได้?” และเมื่อพระเยซูทรงทราบว่าพวกสาวกของพระองค์ซุบซิบกันถึงเรื่องนั้น จึงตรัสกับเขาว่า “เรื่องนี้ทำให้พวกท่านสะดุดหรือ? ถ้าท่านเห็นบุตรมนุษย์เสด็จขึ้นไปยังที่ที่พระองค์อยู่แต่ก่อนนั้น จะว่าอย่างไร? พระวิญญาณเป็นผู้ให้ชีวิต เนื้อหนังนั้นไม่มีประโยชน์อะไร ถ้อยคำที่เรากล่าวกับพวกท่านมาจากพระวิญญาณและเป็นชีวิต แต่ในพวกท่านมีบางคนไม่เชื่อ” เพราะพระเยซูทรงทราบตั้งแต่แรกแล้วว่าใครไม่เชื่อและใครเป็นคนที่จะทรยศพระองค์ แล้วพระองค์ตรัสว่า “เพราะเหตุนี้เราจึงบอกพวกท่านว่า ‘ไม่มีใครมาถึงเราได้นอกจากพระบิดาจะโปรดคนนั้น’ ” ตั้งแต่นั้นมาสาวกของพระองค์หลายคนถดถอยไม่ติดตามพระองค์ต่อไปอีก พระเยซูตรัสกับสิบสองคนนั้นว่า “พวกท่านก็จะจากเราไปด้วยหรือ?” ซีโมนเปโตรทูลตอบพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พวกข้าพระองค์จะจากไปหาใครได้? พระองค์ทรงมีถ้อยคำแห่งชีวิตนิรันดร์ และพวกข้าพระองค์ก็เชื่อและทราบแล้วว่าพระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า” พระเยซูตรัสตอบพวกเขาว่า “เราเลือกพวกท่านสิบสองคนไม่ใช่หรือ? แต่คนหนึ่งในพวกท่านเป็นมารร้าย” พระองค์ทรงหมายถึงยูดาสบุตรของซีโมนอิสคาริโอท คนหนึ่งในสาวกสิบสองคน เพราะว่าเขาเป็นคนที่จะทรยศพระองค์

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 6

ยอห์น 6:45-71 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

มี​คำเขียนไว้ในคัมภีร์​ศาสดาพยากรณ์​ว่า ‘​ทุ​กคนจะเรียนรู้จากพระเจ้า’ เหตุ​ฉะนั้นทุกคนที่​ได้​ยินได้​ฟัง และได้​เรียนรู้​จากพระบิ​ดาก​็มาถึงเรา ไม่มี​ผู้​ใดได้​เห​็นพระบิดา นอกจากท่านที่มาจากพระเจ้า ท่านนั้นแหละได้​เห​็นพระบิดาแล้ว เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้​ที่​เชื่อในเราก็​มี​ชี​วิ​ตน​ิรันดร์ เราเป็นอาหารแห่งชีวิ​ตน​ั้น บรรพบุรุษของท่านทั้งหลายได้กินมานาในถิ่นทุ​รก​ันดารและสิ้นชีวิต แต่​นี่​เป็นอาหารที่ลงมาจากสวรรค์ เพื่อให้​ผู้​ที่​ได้​กินแล้วไม่​ตาย เราเป็นอาหารที่ธำรงชีวิตซึ่งลงมาจากสวรรค์ ถ้าผู้ใดกินอาหารนี้ ผู้​นั้นจะมี​ชี​วิ​ตน​ิรันดร์ และอาหารที่เราจะให้เพื่อเป็นชีวิตของโลกนั้​นก​็คือเนื้อของเรา” แล​้วพวกยิ​วก​็​ทุ​่มเถียงกั​นว​่า “​ผู้​นี้​จะเอาเนื้อของเขาให้เรากินได้​อย่างไร​” พระเยซู​จึงตรัสกับเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กินเนื้อและดื่มโลหิตของบุตรมนุษย์ ท่านก็​ไม่มี​ชี​วิตในตั​วท​่าน ผู้​ที่​กินเนื้อและดื่มโลหิตของเราก็​มี​ชี​วิ​ตน​ิรันดร์ และเราจะให้​ผู้​นั้นฟื้นขึ้นมาในวันสุดท้าย เพราะว่าเนื้อของเราเป็นอาหารแท้และโลหิตของเราก็เป็นของดื่มแท้ ผู้​ที่​กินเนื้อและดื่มโลหิตของเรา ผู้​นั้​นก​็​อยู่​ในเราและเราอยู่ในเขา พระบิดาผู้ทรงดำรงพระชนม์​ได้​ทรงใช้เรามาและเรามี​ชี​วิตเพราะพระบิ​ดาน​ั้นฉันใด ผู้​ที่​กินเรา ผู้​นั้​นก​็จะมี​ชี​วิตเพราะเราฉันนั้น นี่​แหละเป็นอาหารซึ่งลงมาจากสวรรค์ ไม่​เหมือนกับมานาที่พวกบรรพบุรุษของท่านได้กินและสิ้นชีวิต ผู้​ที่​กินอาหารนี้จะมี​ชี​วิ​ตน​ิรันดร์” คำเหล่านี้​พระองค์​ได้​ตรัสในธรรมศาลา ขณะที่​พระองค์​ทรงสั่งสอนอยู่​ที่​เมืองคาเปอรนาอุม ดังนั้นเมื่อเหล่าสาวกของพระองค์หลายคนได้ฟังเช่นนั้​นก​็​พูดว่า “ถ้อยคำเหล่านี้ยากนัก ใครจะฟังได้” เมื่อพระเยซูทรงทราบเองว่าเหล่าสาวกของพระองค์บ่นถึงเรื่องนั้น พระองค์​จึงตรัสกับเขาว่า “เรื่องนี้​ทำให้​ท่านทั้งหลายลำบากใจหรือ ถ้าท่านจะได้​เห​็นบุตรมนุษย์เสด็จขึ้นไปยังที่​ที่​ท่านอยู่​แต่ก่อนนั้น ท่านจะว่าอย่างไร จิ​ตวิญญาณเป็​นที​่​ให้​มีชีวิต ส่วนเนื้อหนังไม่​มีประโยชน์​อันใด ถ้อยคำซึ่งเราได้​กล​่าวกั​บท​่านทั้งหลายนั้น เป็นจิตวิญญาณและเป็นชีวิต แต่​ในพวกท่านมีบางคนที่​ไม่เชื่อ​” เพราะพระเยซูทรงทราบแต่แรกว่าผู้ใดไม่​เชื่อ และเป็นผู้ใดที่จะทรยศพระองค์ และพระองค์ตรั​สว​่า “​เหตุ​ฉะนั้นเราจึงได้บอกท่านทั้งหลายว่า ‘​ไม่มี​ผู้​ใดจะมาถึงเราได้ นอกจากพระบิดาของเราจะทรงโปรดประทานให้​ผู้​นั้น​’” ตั้งแต่​นั้นมาสาวกของพระองค์หลายคนก็ท้อถอยไม่​ติ​ดตามพระองค์​อีกต่อไป พระเยซู​ตรัสกับสิบสองคนนั้​นว​่า “ท่านทั้งหลายก็จะจากเราไปด้วยหรือ” ซี​โมนเปโตรทูลตอบพระองค์​ว่า “​พระองค์​เจ้าข้า พวกข้าพระองค์จะจากไปหาผู้ใดเล่า พระองค์​มี​ถ้อยคำซึ่งให้​มี​ชี​วิ​ตน​ิรันดร์ และข้าพระองค์ทั้งหลายก็เชื่อและแน่ใจแล้​วว​่า พระองค์​ทรงเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงดำรงพระชนม์” พระเยซู​ตรัสตอบเขาว่า “เราเลือกพวกท่านสิบสองคนมิ​ใช่​หรือ และคนหนึ่งในพวกท่านเป็นมารร้าย” พระองค์​ทรงหมายถึงยูดาสอิสคาริโอทบุตรชายซี​โมน เพราะว่าเขาเป็นผู้​ที่​จะทรยศพระองค์ คือคนหนึ่งในอัครสาวกสิบสองคน

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 6

ยอห์น 6:45-71 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

มีคำเขียนไว้ในคัมภีร์ผู้เผยพระวจนะว่า <พระเจ้าจะทรงสั่งสอนเขาทุกคน> ทุกคนที่ได้ยินได้ฟัง และได้เรียนรู้จากพระบิดาก็มาถึงเรา ไม่มีผู้ใดได้เห็นพระบิดา นอกจากท่านที่มาจากพระเจ้าท่านนั้นแหละได้เห็นพระบิดาแล้ว เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้ที่วางใจในเราก็มีชีวิตนิรันดร์ เราเป็นอาหารแห่งชีวิต บรรพบุรุษของท่านทั้งหลาย ได้กินมานาในถิ่นทุรกันดารและสิ้นชีวิต แต่นี่เป็นอาหารที่ลงมาจากสวรรค์ เพื่อให้ผู้ที่ได้กินแล้วไม่ตาย เราเป็นอาหารที่ธำรงชีวิต ซึ่งลงมาจากสวรรค์ ถ้าผู้ใดกินอาหารนี้ ผู้นั้นจะมีชีวิตนิรันดร์ และอาหารที่เราจะให้เพื่อเห็นแก่ชีวิตของโลกนั้น ก็คือเลือดเนื้อของเรา>> แล้วพวกยิวก็ทุ่มเถียงกันว่า <<ผู้นี้จะเอาเนื้อของเขาให้เรากินได้อย่างไร>> พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า <<เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กินเนื้อและไม่ดื่มโลหิตของบุตรมนุษย์ ท่านก็ไม่มีชีวิตในตัวท่าน ผู้ที่กินเนื้อและดื่มโลหิตของเรา ก็มีชีวิตนิรันดร์ และเราจะให้ผู้นั้นฟื้นขึ้นมาในวันสุดท้าย เพราะว่าเนื้อของเราเป็นอาหารแท้ และโลหิตของเราก็เป็นของดื่มแท้ ผู้ที่กินเนื้อและดื่มโลหิตของเรา ผู้นั้นก็อยู่กับเราและเราอยู่กับเขา พระบิดาผู้ทรงดำรงพระชนม์ได้ทรงใช้เรามา และเรามีชีวิตเพราะพระบิดานั้นฉันใด ผู้ที่กินเราผู้นั้นก็จะมีชีวิตเพราะเราฉันนั้น นี่แหละเป็นอาหารซึ่งลงมาจากสวรรค์ ไม่เหมือนกับอาหารที่พวกบรรพบุรุษได้กินและสิ้นชีวิต ผู้ที่กินอาหารนี้จะมีชีวิตนิรันดร์>> คำเหล่านี้พระองค์ได้ตรัสในธรรมศาลา ขณะที่พระองค์ทรงสั่งสอนอยู่ที่เมืองคาเปอรนาอุม เมื่อเหล่าสาวกของพระองค์หลายคนได้ฟังเช่นนั้นก็พูดว่า <<ถ้อยคำเหล่านี้ยากนัก ใครจะฟังได้>> แต่พระเยซูทรงตระหนักว่า เหล่าสาวกของพระองค์ซุบซิบกันถึงเรื่องนั้น จึงตรัสกับเขาว่า <<เรื่องนี้ทำให้ท่านทั้งหลายลำบากใจหรือ ถ้าท่านจะได้เห็นบุตรมนุษย์เสด็จขึ้นไปยังที่ ที่ท่านอยู่แต่ก่อนนั้น ท่านจะว่าอย่างไร จิตวิญญาณเป็นที่ให้มีชีวิต ส่วนเนื้อหนังไม่มีประโยชน์อันใด ถ้อยคำซึ่งเราได้กล่าวกับท่านทั้งหลายนั้น เป็นจิตวิญญาณและเป็นชีวิต แต่ในพวกท่านมีบางคนที่ไม่เชื่อ>> เพราะพระเยซูทรงทราบแต่แรกว่าผู้ใดไม่เชื่อพระองค์ และเป็นผู้ใดที่จะอายัดพระองค์ไว้ และพระองค์ตรัสว่า <<เหตุฉะนั้นเราจึงได้บอกท่านทั้งหลายว่า <ไม่มีผู้ใดจะมาถึงเราได้ นอกจากพระบิดาจะทรงโปรดผู้นั้น> >> ตั้งแต่นั้นมาสาวกของพระองค์หลายคนก็ท้อถอย ไม่ติดตามพระองค์ต่อไปอีก พระเยซูตรัสกับสิบสองคนนั้นว่า <<ท่านทั้งหลายก็จะจากเราไปด้วยหรือ>> ซีโมนเปโตรทูลตอบพระองค์ว่า <<พระองค์เจ้าข้า พวกข้าพระองค์จะจากไปหาผู้ใดเล่า พระองค์มีถ้อยคำซึ่งให้มีชีวิตนิรันดร์ และข้าพระองค์ทั้งหลายก็เชื่อ และมาทราบแล้วว่า พระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า>> พระเยซูตรัสตอบเขาว่า <<เราเลือกพวกท่านสิบสองคนมิใช่หรือ และคนหนึ่งในพวกท่านเป็นมารร้าย>> พระองค์ทรงหมายถึงยูดาสบุตรของซีโมน อิสคาริโอท เพราะว่าเขาเป็นผู้ที่จะอายัดพระองค์ไว้ คือคนหนึ่งในสาวกสิบสองคน

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 6

ยอห์น 6:45-71 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

มีเขียนไว้ในหนังสือผู้เผยพระวจนะว่า ‘เขาทั้งหลายจะรับการสอนจากพระเจ้า’ ทุกคนที่ฟังพระบิดาและเรียนรู้จากพระองค์ก็มาหาเรา ไม่มีใครได้เห็นพระบิดา เว้นแต่ผู้ซึ่งมาจากพระเจ้าเท่านั้นที่ได้เห็นพระบิดา เราบอกความจริงแก่ท่านว่าผู้ที่เชื่อก็มีชีวิตนิรันดร์ เราเป็นอาหารแห่งชีวิต บรรพบุรุษของท่านได้กินมานาในถิ่นกันดาร ถึงกระนั้นพวกเขาก็ตาย แต่นี่คืออาหารที่ลงมาจากสวรรค์ซึ่งคนใดได้กินแล้วจะไม่ตาย เราเป็นอาหารซึ่งให้ชีวิตที่ลงมาจากสวรรค์ ถ้าผู้ใดได้กินอาหารนี้ ผู้นั้นจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป อาหารนี้คือเนื้อของเราซึ่งเราจะให้เพื่อโลกนี้จะได้มีชีวิต” แล้วชาวยิวจึงเริ่มทุ่มเถียงกันอย่างรุนแรงว่า “ผู้นี้จะเอาเนื้อของเขาให้เรากินได้อย่างไร?” พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าหากท่านไม่กินเนื้อของบุตรมนุษย์และดื่มโลหิตของพระองค์ ท่านก็ไม่มีชีวิตอยู่ภายในตัวท่าน ผู้ใดกินเนื้อและดื่มโลหิตของเรา ผู้นั้นก็มีชีวิตนิรันดร์และเราจะให้เขาเป็นขึ้นมาในวันสุดท้าย เพราะเนื้อของเราเป็นอาหารแท้และโลหิตของเราเป็นเครื่องดื่มแท้ ผู้ใดกินเนื้อและดื่มโลหิตของเรา ผู้นั้นก็อยู่ในเราและเราอยู่ในเขา พระบิดาผู้ทรงพระชนม์อยู่ทรงส่งเรามา และเรามีชีวิตอยู่เพราะพระบิดาฉันใด ผู้ที่กินเราก็จะมีชีวิตอยู่เพราะเราฉันนั้น นี่คืออาหารที่ลงมาจากสวรรค์ บรรพบุรุษของท่านกินมานาและตายไป แต่ผู้ที่กินอาหารนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป” พระองค์ตรัสสิ่งเหล่านี้ขณะทรงสั่งสอนอยู่ในธรรมศาลาในเมืองคาเปอรนาอุม สาวกของพระองค์หลายคนได้ฟังเช่นนั้นก็พูด ว่า “คำสอนนี้ยากจริง ใครจะรับได้?” พระเยซูทรงทราบว่าเหล่าสาวกของพระองค์กำลังบ่นกันเรื่องนี้ ก็ตรัสกับพวกเขาว่า “เรื่องนี้ทำให้พวกท่านขุ่นเคืองใจหรือ? จะว่าอย่างไรถ้าท่านเห็นบุตรมนุษย์ขึ้นสู่สถานที่ซึ่งพระองค์เคยอยู่มาก่อน! พระวิญญาณประทานชีวิต เนื้อหนังไม่สำคัญอะไรเลย ถ้อยคำที่เรากล่าวกับท่านเป็นวิญญาณและเป็นชีวิต ถึงกระนั้นก็มีบางคนในพวกท่านที่ไม่เชื่อ” เนื่องจากพระเยซูทรงทราบตั้งแต่แรกว่าคนใดในพวกเขาที่ไม่เชื่อและใครจะทรยศพระองค์ พระองค์ตรัสต่อไปว่า “เพราะเหตุนี้เราจึงได้บอกท่านว่า ไม่มีใครมาหาเราได้ นอกจากพระบิดาจะทรงโปรดให้เขามา” ตั้งแต่นั้นมาสาวกของพระองค์หลายคนก็หันกลับและเลิกติดตามพระองค์ พระเยซูตรัสถามสาวกทั้งสิบสองคนว่า “แล้วพวกท่านจะจากไปด้วยหรือ?” ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระองค์เจ้าข้า เราจะไปหาใคร? พระองค์ทรงมีถ้อยคำแห่งชีวิตนิรันดร์ ข้าพระองค์ทั้งหลายเชื่อและรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า” แล้วพระเยซูจึงตรัสตอบว่า “เราได้เลือกพวกท่านทั้งสิบสองคนไม่ใช่หรือ? ถึงกระนั้นคนหนึ่งในพวกท่านคือมารร้าย!” (พระองค์ทรงหมายถึงยูดาสผู้เป็นบุตรของซีโมนอิสคาริโอท ถึงแม้ยูดาสเป็นหนึ่งในสาวกสิบสองคน แต่ภายหลังเขาก็ทรยศพระองค์)

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 6

ยอห์น 6:45-71 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

มี​บันทึก​ใน​หมวด​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ว่า ‘พระ​เจ้า​จะ​สั่งสอน​เขา​ทุก​คน’ ทุก​คน​ที่​ได้ยิน​และ​เรียน​รู้​จาก​พระ​บิดา​ก็​มา​หา​เรา มิ​ใช่​ว่า​มี​ใคร​เคย​เห็น​พระ​บิดา เว้นแต่​ผู้​ที่​มา​จาก​พระ​เจ้า​เท่า​นั้น​ที่​ได้​เห็น​พระ​บิดา​แล้ว เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​ท่าน​ว่า ผู้​ที่​เชื่อ​จึง​มี​ชีวิต​อัน​เป็น​นิรันดร์ เรา​คือ​อาหาร​แห่ง​ชีวิต บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน​ได้​กิน​มานา​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​และ​ได้​ตาย​ไป นี่​คือ​อาหาร​ที่​ลง​มา​จาก​สวรรค์ คน​ที่​กิน​ก็​จะ​ไม่​ตาย เรา​คือ​อาหาร​ที่​มี​ชีวิต​ซึ่ง​ลง​มา​จาก​สวรรค์ ผู้​ใด​กิน​อาหาร​นี้​ก็​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​กาล และ​อาหาร​ที่​เรา​จะ​ให้​เพื่อ​ชีวิต​ของ​โลก​ด้วย​ก็​คือ เลือดเนื้อ​ของ​เรา” ใน​ยาม​นี้​ชาว​ยิว​เริ่ม​โต้เถียง​กัน​ว่า “ชาย​ผู้​นี้​สามารถ​ให้​เลือดเนื้อ​เรา​กิน​ได้​อย่างไร” พระ​เยซู​จึง​กล่าว​กับ​เขา​เหล่า​นั้น​ว่า “เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​ท่าน​ว่า ถ้า​ท่าน​ไม่​กิน​เนื้อ​และ​ดื่ม​โลหิต​ของ​บุตรมนุษย์ ท่าน​ก็​ไม่​มี​ชีวิต​ใน​ตัว​ท่าน​เอง ผู้​ที่​กิน​เนื้อ​และ​ดื่ม​โลหิต​ของ​เรา​จะ​มี​ชีวิต​อัน​เป็น​นิรันดร์ และ​เรา​จะ​ให้​ฟื้น​คืน​ชีวิต​ใน​วัน​สุดท้าย เพราะ​ว่า​เนื้อ​ของ​เรา​คือ​อาหาร​แท้​เช่น​เดียว​กับ​โลหิต​ของ​เรา​ที่​เป็น​ของ​ดื่ม​แท้ ผู้​ที่​กิน​เนื้อ​และ​ดื่ม​โลหิต​ของ​เรา​ก็​ดำรง​อยู่​ใน​เรา และ​เรา​ก็​ดำรง​อยู่​ใน​ผู้​นั้น พระ​บิดา​ผู้​ดำรง​ชีวิต​ได้​ส่ง​เรา​มา และ​เรา​ดำรง​ชีวิต​ก็​เพราะ​พระ​บิดา ดังนั้น​ผู้​ที่​กิน​เรา​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ได้​ก็​เพราะ​เรา นี่​คือ​อาหาร​ที่​ลง​มา​จาก​สวรรค์ ไม่​เหมือน​อาหาร​ที่​บรรพบุรุษ​กิน​และ​ตาย​ไป ผู้​ที่​กิน​อาหาร​นี้​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​กาล” พระ​องค์​กล่าว​ถึง​สิ่ง​เหล่า​นี้ ขณะ​ที่​สั่งสอน​ใน​ศาลา​ที่​ประชุม​ที่​เมือง​คาเปอร์นาอุม เมื่อ​สาวก​จำนวน​มาก​ของ​พระ​องค์​ได้ยิน​จึง​พูด​ว่า “ถ้อยคำ​เหล่า​นี้​ยาก​ที่​จะ​เข้าใจ ใคร​จะ​ยอมรับ​ได้” แต่​พระ​เยซู​ทราบ​ดี​ว่า พวก​สาวก​แอบ​บ่น​พึมพำ​กัน​ใน​เรื่อง​นี้​อยู่ จึง​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “สิ่ง​นี้​เป็น​เหตุ​ให้​เจ้า​ต้อง​ลำบากใจ​หรือ ถ้า​เจ้า​เห็น​บุตรมนุษย์​ขึ้น​ไป​ยัง​ที่​ซึ่ง​ท่าน​อยู่​แต่​ก่อน แล้ว​เจ้า​จะ​ว่า​อย่างไร พระ​วิญญาณ​เป็น​ผู้​ให้​ชีวิต ฝ่าย​เนื้อหนัง​ไม่​ได้​รับ​ประโยชน์​อันใด คำกล่าว​ที่​เรา​ได้​บอก​ให้​เจ้า​ฟัง​เป็น​วิญญาณ​และ​ชีวิต แต่​พวก​เจ้า​บาง​คน​ก็​ไม่​เชื่อ” พระ​เยซู​ทราบ​แต่​แรก​แล้ว​ว่า​มี​ใคร​บ้าง​ที่​ไม่​เชื่อ และ​ทราบ​ดี​ว่า​ผู้​ใด​จะ​ทรยศ​พระ​องค์ พระ​องค์​กล่าว​ว่า “ด้วย​เหตุ​นี้​เรา​จึง​บอก​เจ้า​ว่า ไม่​มี​ผู้​ใด​ที่​มา​หา​เรา​ได้ นอกจาก​พระ​บิดา​จะ​โปรด​ให้​ผู้​นั้น​มา” ด้วย​เหตุ​นี้​เอง​บรรดา​สาวก​จำนวน​มาก​ของ​พระ​องค์​จึง​ได้​ปลีกตัว​ออก​ไป และ​ไม่​ได้​ติดตาม​พระ​องค์​ต่อ​ไป​อีก พระ​เยซู​จึง​กล่าว​กับ​สาวก​ทั้ง​สิบ​สอง​ว่า “เจ้า​อยาก​จะ​จาก​เรา​ไป​ด้วย​หรือ” ซีโมน​เปโตร​ตอบ​ว่า “พระ​องค์​ท่าน เรา​จะ​ไป​หา​ใคร​ได้ พระ​องค์​มี​คำกล่าว​แห่ง​ชีวิต​อัน​เป็น​นิรันดร์ พวก​เรา​เชื่อ​และ​ทราบ​ว่า พระ​องค์​เป็น​องค์​ผู้​บริสุทธิ์​ของ​พระ​เจ้า” พระ​เยซู​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “เรา​เอง​เป็น​ผู้​ที่​เลือก​พวก​เจ้า​ทั้ง​สิบ​สอง​มิ​ใช่​หรือ แต่​ถึง​อย่าง​นั้น​คน​หนึ่ง​ใน​พวก​เจ้า​ก็​เป็น​พญามาร” พระ​องค์​หมายถึง​ยูดาส​บุตร​ของ​ซีโมน​อิสคาริโอท เพราะ​ว่า​เขา​เป็น​ผู้​ที่​จะ​ทรยศ​พระ​องค์ และ​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​สาวก​ทั้ง​สิบ​สอง

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 6