ยอห์น 6:1-21

ยอห์น 6:1-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

หลังจาก​นั้น​พระเยซู​ข้าม​ไป​อีก​ฟาก​หนึ่ง​ของ​ทะเลสาบ​กาลิลี (หรือ​ทะเลสาบ​ทิเบเรียส) มี​คน​มากมาย​ติดตาม​พระองค์​ไป เพราะ​พวก​เขา​เห็น​พระองค์​ทำ​สิ่ง​อัศจรรย์​ตอน​รักษา​คน​ป่วย พระเยซู​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา แล้ว​นั่ง​อยู่​กับ​พวกศิษย์​ของ​พระองค์ ตอนนั้น​ใกล้​จะ​ถึง​เทศกาล​วัน​ปลด​ปล่อย​ของ​ชาวยิว​แล้ว เมื่อ​พระองค์​เงย​หน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​คน​มากมาย​พากัน​มาหา​พระองค์ พระองค์​พูด​กับ​ฟีลิป​ว่า “พวก​เรา​จะ​ไป​ซื้อ​อาหาร​ที่ไหน​ถึง​จะ​พอ​เลี้ยง​คน​ทั้งหมดนี้” (พระเยซู​ถาม​เพื่อ​ลองใจ​ฟีลิป เพราะ​พระองค์​รู้​อยู่​แล้ว​ว่า​จะ​ทำ​อย่าง​ไร) ฟีลิป​ตอบ​ว่า “เงิน​ค่าแรง​เกือบ​แปด​เดือน ก็​ยัง​ไม่​พอ​ซื้อ​อาหาร​ให้​คน​พวกนี้​กิน​กัน​คนละนิด​คนละหน่อย​ได้​เลย​ครับ” ศิษย์​อีก​คน​หนึ่ง​ของ​พระเยซู ชื่อ​อันดรูว์ น้องชาย​ของ​ซีโมน​เปโตร​บอก​พระองค์​ว่า “มี​เด็ก​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​นี่ มี​ขนมปัง​บาร์เลย์​อยู่​ห้า​ก้อน กับ​ปลา​อีก​สอง​ตัว​ครับ แต่​แค่นี้​จะ​ไป​พอ​อะไร​กับ​คน​ตั้ง​มากมาย​ขนาดนี้” พระเยซู​บอก​พวกศิษย์​ว่า “บอก​ให้​พวก​เขา​นั่ง​ลง” (ที่​นั่น​มี​หญ้า​ขึ้น​เต็ม​ไป​หมด) แล้ว​ทุก​คน​ก็​นั่ง​ลง (มี​ผู้ชาย​ประมาณ​ห้าพัน​คน​ใน​ฝูงชน​นั้น) พระเยซู​เอา​ขนมปัง​ของ​เด็กน้อย​คน​นั้น​มา เมื่อ​ขอบคุณ​พระเจ้า​เสร็จ​แล้ว ก็​แบ่ง​ขนมปัง​แจก​ให้​กับ​ทุกๆ​คน​ที่​นั่ง​อยู่​ที่​พื้น​นั้น​อย่าง​ไม่​อั้น และ​พระองค์​ก็​หยิบ​ปลา​มา​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน เมื่อ​ผู้คน​กินกัน​จน​อิ่ม​แล้ว พระองค์​สั่ง​พวก​ศิษย์​ว่า “เก็บ​ขนมปัง​ที่​เหลือ​ให้​หมด จะ​ได้​ไม่​เสีย​ของ” พวก​ศิษย์​ก็​เก็บ​เศษ​ที่​เหลือ​จาก​ขนมปัง​ห้า​ก้อนนี้​ได้​สิบสอง​เข่ง​เต็มๆ เมื่อ​คน​พวกนี้​เห็น​สิ่ง​อัศจรรย์​ที่​พระองค์​ทำ เขา​เริ่ม​พูด​กัน​ว่า “คนนี้​ต้อง​เป็น​ผู้พูดแทนพระเจ้า​คน​นั้น​ที่​ว่า​กัน​ว่า​จะ​มา​ใน​โลกนี้​แน่ๆ” เมื่อ​พระเยซู​รู้​ว่า​พวก​เขา​จะ​มา​บีบ​บังคับ​ให้​พระองค์​ไป​เป็น​กษัตริย์​ของ​พวก​เขา พระองค์​ก็​หลบ​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา​เพียง​คน​เดียว พอ​ตก​เย็น​พวก​ศิษย์​ของ​พระองค์​ไป​ที่​ทะเลสาบ พวก​เขา​ลง​เรือ​และ​เริ่ม​ข้าม​ฟาก​ไป​ที่​เมือง​คาเปอรนาอุม ตอน​นั้น​มืด​แล้ว แต่​พระเยซู​ยัง​ไม่​ได้​มา​หา​พวก​เขา เกิด​พายุ​ขึ้น​ทำ​ให้​คลื่น​ใน​ทะเลสาบ​ปั่นป่วน​รุนแรง​มาก หลังจาก​ที่​พวก​ศิษย์​พายเรือ​ออก​จาก​ฝั่ง​มา​ได้​ประมาณ​ห้า​ถึง​หก​กิโลเมตร พวก​เขา​เห็น​พระเยซู​กำลัง​เดิน​อยู่​บน​น้ำ​ตรง​มา​ที่​เรือ พวก​เขา​ต่าง​ก็​ตกใจ​กลัว แต่​พระเยซู​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “นี่​เรา​เอง ไม่​ต้อง​กลัว” พวก​เขา​ก็​ดีอก​ดีใจ​และ​รับ​พระองค์​ขึ้น​มา​บน​เรือ แล้ว​เรือ​ก็​ถึง​ฝั่ง​ที่​พวก​เขา​จะ​ไป​ทันที

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 6

ยอห์น 6:1-21 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

หลังจากนั้นพระเยซูเสด็จข้ามทะเลสาบกาลิลีหรือที่เรียกว่าทะเลทิเบเรียส มหาชนก็ตามพระองค์ไป เพราะพวกเขาเห็นหมายสำคัญต่างๆ ที่พระองค์ทรงทำต่อบรรดาคนป่วย พระเยซูเสด็จขึ้นไปบนภูเขาและประทับอยู่กับพวกสาวกของพระองค์ ขณะนั้นใกล้จะถึงปัสกาซึ่งเป็นเทศกาลของพวกยิว พระเยซูเงยพระพักตร์ขึ้นและทอดพระเนตรเห็นมหาชนพากันมาหาพระองค์ พระองค์จึงตรัสกับฟีลิปว่า “พวกเราจะซื้ออาหารให้คนเหล่านี้กินได้ที่ไหน?” พระองค์ตรัสอย่างนั้นเพื่อจะทดสอบฟีลิป เพราะพระองค์ทรงทราบอยู่แล้วว่าพระองค์จะทรงทำอย่างไร ฟีลิปทูลตอบพระองค์ว่า “สองร้อยเดนาริอัน ก็ยังไม่พอซื้ออาหารให้พวกเขากินกันคนละเล็กละน้อย” สาวกคนหนึ่งของพระองค์คืออันดรูว์น้องชายของซีโมนเปโตรทูลพระองค์ว่า “ที่นี่มีเด็กชายคนหนึ่งมีขนมปังบาร์เลย์ห้าก้อนกับปลาสองตัว แต่เท่านั้นจะพออะไรกับคนมากอย่างนี้?” พระเยซูตรัสว่า “ให้ทุกคนนั่งลงเถิด” (ที่นั่นมีหญ้ามาก) คนเหล่านั้นจึงนั่งลง นับแต่ผู้ชายได้ประมาณห้าพันคน แล้วพระเยซูก็ทรงหยิบขนมปัง เมื่อขอบพระคุณแล้วก็ทรงแจกจ่ายให้บรรดาคนที่นั่งอยู่นั้น และให้ปลาด้วยตามที่เขาต้องการ เมื่อพวกเขากินอิ่มแล้วพระเยซูตรัสกับพวกสาวกของพระองค์ว่า “จงเก็บเศษอาหารที่เหลือไว้ อย่าให้มีสิ่งใดตกหล่น” พวกเขาจึงเก็บเศษขนมปังบาร์เลย์ห้าก้อนที่เหลือหลังจากทุกคนกินแล้วใส่กระบุงได้สิบสองกระบุงเต็ม เมื่อคนทั้งหลายเห็นหมายสำคัญที่พระองค์ทรงทำ พวกเขาจึงพูดกันว่า “แท้จริงท่านผู้นี้เป็นผู้เผยพระวจนะคนนั้นที่จะมาในโลก” เมื่อพระเยซูทรงทราบว่าพวกเขาจะมาจับพระองค์ไปตั้งให้เป็นกษัตริย์ พระองค์ก็เสด็จขึ้นไปบนภูเขาอีกตามลำพัง พอค่ำลงพวกสาวกของพระองค์ก็ไปที่ทะเลสาบ แล้วลงเรือข้ามฟากไปยังคาเปอรนาอุม ขณะนั้นมืดแล้วและพระเยซูก็ยังไม่เสด็จไปหาพวกเขา ทะเลก็กำเริบขึ้นเพราะลมพัดแรง เมื่อพวกเขาตีกรรเชียงไปได้ประมาณห้าหกกิโลเมตร ก็เห็นพระเยซูทรงดำเนินมาบนทะเล กำลังเข้ามาใกล้เรือ พวกเขาต่างตกใจกลัว แต่พระองค์ตรัสกับเขาว่า “นี่เราเอง อย่ากลัวเลย” พวกเขาจึงเต็มใจรับพระองค์ขึ้นเรือ ทันใดนั้นเรือก็ถึงฝั่งที่เขาจะไปนั้น

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 6

ยอห์น 6:1-21 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ภายหลังเหตุ​การณ์​เหล่านี้​พระเยซู​ก็​เสด็จไปข้ามทะเลกาลิลี คือทะเลทิเบเรียส คนเป็​นอ​ันมากได้ตามพระองค์​ไป เพราะเขาเหล่านั้นได้​เห​็นการอัศจรรย์​ที่​พระองค์​ได้​ทรงกระทำต่อบรรดาคนป่วย พระเยซู​เสด็จขึ้นไปบนภูเขาและประทั​บก​ับเหล่าสาวกของพระองค์​ที่นั่น ขณะนั้นใกล้จะถึงปัสกาซึ่งเป็นเทศกาลเลี้ยงของพวกยิวแล้ว เมื่อพระเยซูทรงเงยพระพักตร์ทอดพระเนตรและเห็นคนเป็​นอ​ันมากพากันมาหาพระองค์ พระองค์​จึงตรัสกับฟีลิปว่า “เราจะซื้ออาหารที่ไหนให้คนเหล่านี้กินได้” พระองค์​ตรั​สอย​่างนั้นเพื่อจะลองใจฟี​ลิป เพราะพระองค์ทรงทราบแล้​วว​่าพระองค์จะทรงกระทำประการใด ฟี​ลิปทูลตอบพระองค์​ว่า “สองร้อยเหรียญเดนาริอั​นก​็​ไม่​พอซื้ออาหารให้เขากิ​นก​ันคนละเล็กละน้อย” สาวกคนหนึ่งของพระองค์คื​ออ​ันดรูว์น้องชายของซีโมนเปโตรทูลพระองค์​ว่า “​ที่นี่​มี​เด็กชายคนหนึ่​งม​ีขนมข้าวบาร์​เลย​์ห้าก้อนกับปลาเล็กๆสองตัว แต่​เท่​านั้นจะพออะไรกับคนมากอย่างนี้” พระเยซู​ตรั​สว​่า “​ให้​คนทั้งปวงนั่งลงเถิด” ที่​นั่​นม​ีหญ้ามาก คนเหล่านั้นจึงนั่งลง นับแต่​ผู้​ชายได้ประมาณห้าพันคน แล​้วพระเยซู​ก็​ทรงหยิบขนมปังนั้น และเมื่อขอบพระคุณแล้ว ก็​ทรงแจกแก่พวกสาวก และพวกสาวกแจกแก่บรรดาคนที่นั่งอยู่​นั้น และให้ปลาด้วยตามที่เขาปรารถนา เมื่อเขาทั้งหลายกิ​นอ​ิ่มแล้วพระองค์ตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์​ว่า “จงเก็บเศษอาหารที่เหลือไว้ เพื่อไม่​ให้​มี​สิ​่งใดเสียไป” เขาจึงเก็บเศษขนมข้าวบาร์​เลย​์ห้าก้อนซึ่งเหลือจากที่คนทั้งหลายได้กินแล้​วน​ั้น ใส่​กระบุงได้​สิ​บสองกระบุงเต็ม เมื่อคนเหล่านั้นได้​เห​็นการอัศจรรย์ซึ่งพระเยซู​ได้​ทรงกระทำ เขาก็​พู​ดก​ั​นว​่า “​แท้​จร​ิงท่านผู้​นี้​เป็นศาสดาพยากรณ์นั้​นที​่ทรงกำหนดให้​เข​้ามาในโลก” เมื่อพระเยซูทรงทราบว่า เขาทั้งหลายจะมาจับพระองค์ไปตั้งให้เป็นกษั​ตริ​ย์ พระองค์​ก็​เสด็จไปที่​ภู​เขาอีกแต่​ลำพัง พอค่ำลงเหล่าสาวกของพระองค์​ก็ได้​ลงไปที่​ทะเล แล​้วลงเรือข้ามฟากไปยังเมืองคาเปอรนาอุม มืดแล้วแต่​พระเยซู​ก็​ยั​งม​ิ​ได้​เสด็จไปถึงเขา ทะเลก็กำเริบขึ้นเพราะลมพัดกล้า เมื่อเขาทั้งหลายตีกรรเชียงไปได้ประมาณห้าหกกิโลเมตร เขาก็​เห​็นพระเยซูเสด็จดำเนินมาบนทะเลใกล้​เรือ เขาต่างก็​ตกใจกลัว แต่​พระองค์​ตรัสแก่เขาว่า “​นี่​เป็นเราเอง อย่ากลัวเลย” ดังนั้นเขาจึงรับพระองค์ขึ้นเรื​อด​้วยความเต็มใจ แล​้​วท​ันใดนั้นเรื​อก​็ถึงฝั่งที่เขาจะไปนั้น

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 6

ยอห์น 6:1-21 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

หลังจากนั้นพระเยซูก็เสด็จไปข้ามทะเลสาบกาลิลี คือทะเลทิเบเรียส คนเป็นอันมากได้ตามพระองค์ไป เพราะเขาเหล่านั้นได้เห็นหมายสำคัญที่พระองค์ได้ทรงกระทำต่อบรรดาคนป่วย พระเยซูเสด็จขึ้นไปบนภูเขา และประทับกับเหล่าสาวกของพระองค์ ขณะนั้นใกล้จะถึงปัสกาซึ่งเป็นเทศกาลของพวกยิวแล้ว พระเยซูทรงเงยพระพักตร์ทอดพระเนตรเห็นคนเป็นอันมากพากันมาหาพระองค์ พระองค์จึงตรัสกับฟีลิปว่า <<ทำอย่างไรเราจึงจะซื้ออาหารให้คนเหล่านี้กินได้>> พระองค์ตรัสอย่างนั้นเพื่อจะลองใจฟีลิป เพราะพระองค์ทรงทราบแล้วว่า พระองค์จะทรงกระทำประการใด ฟีลิปทูลตอบพระองค์ว่า <<สองร้อยเหรียญเดนาริอัน ก็ไม่พอซื้ออาหารให้เขากินกันคนละเล็กละน้อย>> สาวกคนหนึ่งของพระองค์ คืออันดรูว์น้องชายของซีโมนเปโตรทูลพระองค์ว่า <<ที่นี่มีเด็กคนหนึ่งมีขนมบารลีห้าก้อนกับปลาสองตัว แต่เท่านั้นจะพออะไรกับคนมากอย่างนี้>> พระเยซูตรัสว่า <<ให้คนทั้งปวงนั่งลงเถิด>> ที่นั่นมีหญ้ามาก คนเหล่านั้นจึงนั่งลง นับแต่ผู้ชายได้ประมาณห้าพันคน แล้วพระเยซูก็ทรงหยิบขนมปังนั้น เมื่อโมทนาพระคุณแล้ว ก็ทรงแจกแก่บรรดาคนที่นั่งอยู่นั้น และให้ปลาด้วยตามที่เขาปรารถนา เมื่อเขาทั้งหลายกินอิ่มแล้วพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า <<จงเก็บเศษอาหารที่เหลือไว้ อย่าให้มีสิ่งใดตกหล่น>> เขาจึงเก็บเศษขนมบารลีห้าก้อนซึ่งเหลือจากที่คนทั้งหลายได้กินแล้วนั้นใส่กระบุงได้สิบสองกระบุงเต็ม เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นหมายสำคัญซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำ เขาก็พูดกันว่า <<แท้จริงท่านผู้นี้เป็นผู้เผยพระวจนะนั้นที่ทรงกำหนดให้มาในโลก>> เมื่อพระเยซู ทรงทราบว่าเขาทั้งหลายจะมาจับพระองค์ไปตั้งให้เป็นกษัตริย์ พระองค์ก็เสด็จไปที่ภูเขาอีกแต่ลำพัง พอค่ำลงเหล่าสาวกของพระองค์ก็ได้ไปที่ทะเลสาบ แล้วลงเรือข้ามฟากไปยังคาเปอรนาอุม มืดแล้ว แต่พระเยซูก็ยังมิได้เสด็จไปถึงเขา ทะเลก็กำเริบขึ้นเพราะลมพัดกล้า เมื่อเขาทั้งหลายตีกรรเชียงไปได้ประมาณห้าหกกิโลเมตร เขาก็เห็นพระเยซูเสด็จดำเนินมาบนทะเลใกล้เรือ เขาต่างก็ตกใจกลัว แต่พระองค์ตรัสแก่เขาว่า <<นี่เราเองแหละ อย่ากลัวเลย>> ดังนั้นเขาจึงรับพระองค์ขึ้นเรือด้วยความยินดี แล้วทันใดนั้นเรือก็ถึงฝั่งที่เขาจะไปนั้น

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 6

ยอห์น 6:1-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ต่อมาพระเยซูทรงข้ามทะเลกาลิลี (คือทะเลทิเบเรียส) ไปยังอีกฟากหนึ่ง ประชาชนกลุ่มใหญ่ติดตามพระองค์ไปเพราะพวกเขาเห็นหมายสำคัญที่ได้ทรงกระทำแก่คนป่วย แล้วพระเยซูทรงขึ้นไปบนเนินเขาและประทับนั่งกับเหล่าสาวกของพระองค์ ขณะนั้นใกล้ถึงเทศกาลปัสกาของชาวยิวแล้ว เมื่อพระเยซูทรงมองไปเห็นคนหมู่ใหญ่มาหาพระองค์ก็ตรัสกับฟีลิปว่า “เราจะไปซื้อหาอาหารที่ไหนมาให้คนเหล่านี้รับประทาน?” พระองค์ตรัสถามเช่นนี้เพียงเพื่อทดสอบฟีลิป เพราะพระองค์ทรงดำริไว้แล้วว่าจะทำอะไร ฟีลิปทูลตอบพระองค์ว่า “เงินค่าแรงแปดเดือนยังซื้อขนมปังได้ไม่พอให้คนเหล่านี้กินกันคนละคำ!” สาวกอีกคนหนึ่งคืออันดรูว์น้องชายของซีโมนเปโตรทูลขึ้นว่า “เด็กคนหนึ่งที่นี่มีขนมปังข้าวบาร์เลย์ห้าก้อนกับปลาเล็กๆ สองตัว แต่จะพออะไรกับคนมากมายขนาดนี้?” พระเยซูตรัสว่า “ให้ประชาชนนั่งลง” ที่นั่นมีหญ้ามาก พวกผู้ชายจึงนั่งลง พวกเขามีราวห้าพันคน แล้วพระเยซูทรงรับขนมปังมา ขอบพระคุณพระเจ้า และแจกจ่ายให้ผู้ที่นั่งอยู่ได้กินกันมากเท่าที่เขาต้องการ พระองค์ทรงหยิบปลามาทำเช่นเดียวกัน เมื่อทุกคนอิ่มแล้ว พระองค์ตรัสสั่งเหล่าสาวกว่า “จงเก็บรวบรวมเศษที่เหลือ อย่าให้เสียของ” พวกเขาจึงเก็บเศษที่เหลือจากขนมปังข้าวบาร์เลย์ห้าก้อนได้เต็มสิบสองตะกร้า หลังจากประชาชนเห็นหมายสำคัญที่พระเยซูได้ทรงกระทำ ก็เริ่มพูดกันว่า “นี่คือผู้เผยพระวจนะนั้นที่จะเข้ามาในโลกอย่างแน่นอน” พระเยซูทรงทราบว่าพวกเขาตั้งใจจะมาใช้กำลังบังคับให้พระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ จึงเสด็จเลี่ยงขึ้นไปบนภูเขาแต่ลำพังอีก พอพลบค่ำเหล่าสาวกของพระองค์มาที่ทะเลสาบ แล้วลงเรือข้ามฟากไปยังเมืองคาเปอรนาอุม ขณะนั้นมืดแล้วและพระเยซูยังไม่ได้เสด็จไปสมทบกับพวกเขา ทะเลปั่นป่วนเพราะลมพัดจัด พวกเขาตีกรรเชียงไปได้ประมาณ 5 หรือ 6 กิโลเมตร ก็เห็นพระเยซูทรงดำเนินบนน้ำเข้ามาหาเรือ พวกเขาจึงตกใจกลัว แต่พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “นี่เราเอง อย่ากลัวเลย” แล้วพวกเขาจึงเต็มใจรับพระองค์ขึ้นเรือ และทันใดนั้นเรือก็ถึงฝั่งที่กำลังมุ่งหน้าไป

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 6

ยอห์น 6:1-21 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

หลัง​จาก​นั้น​พระ​เยซู​ได้​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​อีก​ฟาก​หนึ่ง​ของ​ทะเลสาบ​กาลิลี ซึ่ง​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​ทะเลสาบ​ทิเบเรียส ผู้​คน​จำนวน​มาก​ติดตาม​พระ​องค์​ไป เพราะ​พวก​เขา​ได้​เห็น​ปรากฏการณ์​อัศจรรย์​ต่างๆ ซึ่ง​พระ​องค์​กระทำ​ต่อ​บรรดา​คนป่วย แล้ว​พระ​เยซู​ขึ้น​ไป​นั่ง​บน​ภูเขา​กับ​บรรดา​สาวก​ของ​พระ​องค์ ใน​เวลา​นั้น​ใกล้​ถึง​เทศกาล​ปัสกา​ของ​ชาว​ยิว​แล้ว เมื่อ​พระ​เยซู​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​พบ​ว่า​ผู้​คน​จำนวน​มาก​ได้​พา​กัน​มา​หา​พระ​องค์ พระ​องค์​จึง​กล่าว​กับ​ฟีลิป​ว่า “เรา​จะ​ซื้อ​อาหาร​ที่​ไหน​ให้​คน​เหล่า​นี้​รับประทาน​ได้” คำ​ถาม​นี้​พระ​องค์​ได้​ถาม​เพื่อ​เป็น​การ​ลองใจ​เขา​ดู เพราะ​จริงๆ แล้ว​พระ​องค์​ทราบ​แล้ว​ว่า​จะ​ทำ​อย่างไร ฟีลิป​ตอบ​พระ​องค์​ว่า “200 เหรียญ​เดนาริอัน​ก็​ไม่​พอ​ซื้อ​อาหาร​ให้​ทุก​คน​รับประทาน​คน​ละ​เล็ก​ละ​น้อย​ได้” อันดรูว์​น้อง​ชาย​ของ​ซีโมน​เปโตร​ซึ่ง​เป็น​สาวก​คน​หนึ่ง​ได้​พูด​กับ​พระ​องค์​ว่า “เด็ก​คน​หนึ่ง​ที่​นี่​มี​ขนมปัง​ลูกเดือย 5 ก้อน​กับ​ปลา 2 ตัว เพียง​เท่า​นั้น​จะ​พอ​สำหรับ​คน​มาก​อย่าง​นี้​หรือ” พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “ให้​ทุก​คน​นั่ง​ลง” 5,000 คน​ก็​นั่ง​บน​บริเวณ​ที่​มี​หญ้า​ซึ่ง​กว้างขวาง​เพียงพอ พระ​เยซู​หยิบ​ขนมปัง และ​เมื่อ​ขอบคุณ​พระ​เจ้า​แล้ว พระ​องค์​ก็​แจก​ขนมปัง​และ​ปลา​แก่​คน​ที่​นั่ง​ลง ได้​มาก​พอ​ตาม​ที่​ต้องการ​กัน เมื่อ​คน​รับประทาน​กัน​จน​อิ่ม​แล้ว พระ​องค์​จึง​กล่าว​กับ​บรรดา​สาวก​ว่า “จง​รวบ​รวม​อาหาร​ที่​เหลือ​ไว้ อย่า​ให้​เสีย​ของ” พวก​เขา​จึง​รวบ​รวม​ขนมปัง​ใส่​ใน​ตะกร้า​ได้ 12 ใบ​เต็มๆ เป็น​อาหาร​ที่​คน​รับประทาน​เหลือ​จาก​ขนมปัง​ลูกเดือย 5 ก้อน ฉะนั้น​เมื่อ​ผู้​คน​เห็น​ปรากฏการณ์​อัศจรรย์​ที่​พระ​องค์​ได้​กระทำ จึง​พูด​ว่า “นี่​เป็น​ผู้เผย​คำกล่าว​ที่​แท้​จริง​ของ​พระ​เจ้า​ซึ่ง​ได้​รับ​มอบ​หมาย​ให้​มา​ใน​โลก” พระ​เยซู​ทราบ​ว่า เขา​เหล่า​นั้น​ตั้งใจ​ที่​จะ​ใช้​กำลัง​จับกุม​พระ​องค์​ไป​เพื่อ​ให้​เป็น​กษัตริย์ จึง​ได้​ปลีกตัว​ออก​ไป​ยัง​ภูเขา​แต่​เพียง​ลำพัง​อีก ครั้น​ถึง​เวลา​เย็น​พวก​สาวก​ของ​พระ​องค์​ก็​เดิน​ลง​ไป​ยัง​ทะเลสาบ แล้ว​ลง​เรือ​ข้าม​ทะเลสาบ​ไป​ยัง​เมือง​คาเปอร์นาอุม จน​มืด​แล้ว​พระ​เยซู​ก็​ยัง​ไม่​ได้​กลับ​มา​หา​พวก​เขา ลม​พายุ​ได้​ทำ​ให้​เกิด​คลื่น​ลม​แรง​ใน​ทะเลสาบ เมื่อ​พวก​สาวก​ตี​กรรเชียง​ไป​ได้​ห้า​หก​กิโลเมตร ก็​เห็น​พระ​เยซู​เดิน​บน​ผิว​น้ำ​เข้า​ไป​ใกล้​เรือ พวก​เขา​พา​กัน​ตกใจ​กลัว​ยิ่งนัก แต่​พระ​องค์​กล่าว​กับ​เขา​ว่า “นี่​เรา​เอง อย่า​กลัว​เลย” พวก​เขา​จะ​รับ​พระ​องค์​ขึ้น​เรือ แต่​พริบตา​เดียว​เท่า​นั้น​เรือ​ก็​ถึง​ฝั่ง​ที่​เขา​จะ​ไป​กัน

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 6

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา