ยอห์น 19:28-42

ยอห์น 19:28-42 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

หลังจาก​นั้น​พระเยซู​รู้​ว่า​ทุก​อย่าง​เสร็จสิ้น​สมบูรณ์​แล้ว เพื่อ​ให้​คำ​ต่างๆ​ใน​พระคัมภีร์​เกิด​ขึ้น​จริง พระองค์​พูด​ว่า “เรา​หิว​น้ำ” มี​ไห​ใส่​เหล้าองุ่น​เปรี้ยว​อยู่​ที่​นั่น พวก​เขา​จึง​เอา​ฟองน้ำ​ชุบ​เหล้าองุ่น​เปรี้ยวนี้​ใส่​ปลาย​กิ่ง​ไม้​หุสบ แล้ว​ยื่น​ไป​จ่อ​ไว้​ที่​ปาก​ของ​พระองค์ เมื่อ​พระองค์​ได้​ชิม​เหล้าองุ่น​เปรี้ยว​แล้ว จึง​ได้​ร้อง​ว่า “สำเร็จ​แล้ว” จาก​นั้น​ก็​คอพับ​และ​สิ้นใจ​ตาย วัน​นั้น​เป็น​วันศุกร์ และ​วันรุ่งขึ้น​ก็​จะ​เป็น​วันหยุดพิเศษทางศาสนา พวกยิว​ไม่​อยาก​ให้​ศพ​ค้าง​อยู่​บน​ไม้​กางเขน​ใน​วันหยุดทางศาสนา ก็​เลย​ขอ​ให้​ปีลาต​สั่ง​ทหาร​ของ​เขา​ให้​หัก​ขา​คน​ที่​ถูก​ตรึง​อยู่​บน​ไม้กางเขน เพื่อ​จะ​ได้​ตาย​เร็ว​ขึ้น และ​จะ​ได้​เอา​ศพ​ออก​ไป พวก​ทหาร​จึง​มา​หัก​ขา​โจร​สอง​คน​ที่​ถูก​ตรึง​กางเขน​พร้อม​กับ​พระเยซู แต่​เมื่อ​มา​ถึง​พระเยซู พวก​เขา​ก็​เห็น​ว่า​พระองค์​ตาย​แล้ว จึง​ไม่​ได้​หัก​ขา​พระองค์ แต่​ทหาร​คน​หนึ่ง​เอา​หอก​แทง​ที่​สีข้าง​ของ​พระเยซู เลือด​และ​น้ำ​ก็​ไหล​ทะลัก​ออก​มา (คน​ที่​เห็น​เหตุการณ์​ได้​เล่า​ว่า​เขา​เห็น​อะไร เรื่อง​ที่​เขา​เล่า​นั้น​เป็น​ความจริง เขา​เล่า​ให้​ฟัง​เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​เชื่อ) สิ่งนี้​เกิด​ขึ้น​เพื่อ​จะ​เป็น​จริง​ตาม​ที่​พระคัมภีร์​เขียน​ว่า “กระดูก​ของ​พระองค์​จะ​ไม่​หัก​แม้แต่​ชิ้น​เดียว” และ​มี​ข้อ​พระคัมภีร์​อีก​ข้อ​หนึ่ง​ว่า “พวก​เขา​จะ​มอง​ดู​คน​ที่​พวก​เขา​ได้​แทง” หลังจาก​นั้น​โยเซฟ​ชาวอาริมาเธีย​ได้​ขอ​อนุญาต​ปีลาต​นำ​ศพ​พระเยซู​ไป โยเซฟ​เป็น​ศิษย์​ลับๆ​ของ​พระเยซู เพราะ​เขา​กลัว​พวกยิว เมื่อ​ปีลาต​อนุญาต โยเซฟ​จึง​มา​เอา​ศพ​ของ​พระองค์​ไป นิโคเดมัส​ก็​มา​ด้วย เขา​เคย​มา​หา​พระเยซู​ก่อน​หน้านี้​ใน​ตอน​กลาง​คืน เขา​นำ​เครื่อง​หอม​คือ มดยอบ กับ​กฤษณา​หนัก​ประมาณ​สามสิบ​กิโลกรัม​มา​ด้วย โยเซฟ​และ​นิโคเดมัส​ได้​เอา​ศพ​พระเยซู​มา​และ​พัน​ด้วย​ผ้า​ลินิน​พร้อม​กับ​เครื่อง​หอม​ตาม​ธรรมเนียม​การฝังศพ​ของ​ยิว ใกล้ๆ​กับ​ที่​ที่​พระเยซู​ถูก​ตรึง​นั้น​มี​สวน​อยู่​แห่ง​หนึ่ง และ​ใน​สวน​นั้น​มี​อุโมงค์ฝังศพ​ใหม่เอี่ยม​ที่​ยัง​ไม่​เคย​ใช้​วาง​ศพ​ใคร​มา​ก่อน พวกเขา​วาง​ศพ​ของ​พระองค์​ไว้​ใน​อุโมงค์​นั้น​เพราะ​มัน​อยู่​ใกล้​และ​ถึง​เวลา​ที่​จะ​ต้อง​เตรียม​ตัว​สำหรับ​วันหยุดทางศาสนา​แล้ว

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 19

ยอห์น 19:28-42 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

หลังจากนั้น พระเยซูทรงทราบว่าทุกสิ่งสำเร็จแล้ว เพื่อให้เป็นจริงตามพระธรรม พระองค์จึงตรัสว่า <<เรากระหายน้ำ>> มีภาชนะใส่น้ำส้มองุ่นวางอยู่ที่นั่น เขาจึงเอาฟองน้ำชุบน้ำส้มองุ่นใส่ปลายไม้หุสบชูขึ้นให้ถึงพระโอษฐ์ของพระองค์ เมื่อพระเยซูทรงรับน้ำส้มองุ่นแล้ว พระองค์ตรัสว่า <<สำเร็จแล้ว>> และทรงก้มพระเศียรลงสิ้นพระชนม์ วันนั้นเป็นวันเตรียม พวกยิวจึงขอให้ปีลาตทุบขาของผู้ที่ถูกตรึงให้หัก และให้เอาศพไปเสีย เพื่อไม่ให้ศพค้างอยู่ที่กางเขนในวันสะบาโต (เพราะวันสะบาโตนั้นเป็นวันใหญ่) ดังนั้น พวกทหารจึงมาทุบขาของคนที่หนึ่ง และขาของอีกคนหนึ่งที่ถูกตรึงอยู่กับพระองค์ แต่เมื่อเขามาถึงพระเยซู และเห็นว่า พระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว เขาจึงมิได้ทุบขาของพระองค์ แต่ทหารคนหนึ่งเอาทวนแทงที่สีข้างของพระองค์ และโลหิตกับน้ำก็ไหลออกมาทันที คนนั้นที่เห็นก็เป็นพยาน และคำพยานของเขาก็เป็นความจริง และเขาก็รู้ว่าเขาพูดความจริง เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อ เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เพื่อให้เป็นจริงตามข้อพระธรรม ซึ่งว่า <<พระอัฐิของพระองค์จะไม่หักสักชิ้นเดียว>> และมีข้อพระธรรมอีกข้อหนึ่งว่า <<พวกเขาจะมองดูพระองค์ผู้ที่เขาได้แทง>> หลังจากนี้โยเซฟชาวอาริมาเธียซึ่งเป็นสาวกลับๆของพระเยซู เพราะเขากลัวพวกยิว ก็ได้ขอพระศพพระเยซูจากปีลาต และปีลาตก็ยอมให้ โยเซฟจึงมาอัญเชิญพระศพพระองค์ไป ฝ่ายนิโคเดมัส ซึ่งตอนแรกไปหาพระองค์ในเวลากลางคืนนั้นก็มาด้วย เขานำเครื่องหอมผสม คือมดยอบกับกฤษณาหนักประมาณสามสิบกว่ากิโลกรัมมาด้วย เขาอัญเชิญพระศพพระเยซูลงมา เอาผ้าป่านกับเครื่องหอมพันพระศพนั้นตามธรรมเนียมฝังศพของพวกยิว ในตำบลที่พระองค์ถูกตรึงที่กางเขนนั้นมีสวนแห่งหนึ่ง ในสวนนั้นมีอุโมงค์ฝังศพใหม่ที่ยังไม่ได้ฝังศพผู้ใดเลย เพราะวันนั้นเป็นวันเตรียมของพวกยิว และเพราะอุโมงค์นั้นอยู่ใกล้ เขาจึงบรรจุพระศพพระเยซูไว้ที่นั่น

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 19

ยอห์น 19:28-42 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

หลังจากนั้นพระเยซูทรงทราบว่าทุกสิ่งสำเร็จแล้ว และเพื่อให้เป็นจริงตามข้อพระคัมภีร์ พระองค์จึงตรัสว่า “เรากระหายน้ำ” ที่นั่นมีภาชนะใส่เหล้าองุ่นเปรี้ยววางอยู่ พวกเขาจึงเอาฟองน้ำชุบเหล้าองุ่นเปรี้ยวใส่ปลายไม้หุสบ ชูขึ้นให้ถึงพระโอษฐ์ของพระองค์ เมื่อพระเยซูทรงรับเหล้าองุ่นเปรี้ยวแล้ว พระองค์ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” และก้มพระเศียรลงสิ้นพระชนม์ วันนั้นเป็นวันเตรียม พวกยิวจึงขอปีลาตให้ทุบขาของคนที่ถูกตรึงให้หักและยกศพออกไป เพื่อไม่ให้ศพค้างอยู่ที่กางเขนในวันสะบาโต (เพราะวันสะบาโตนั้นเป็นวันใหญ่) ดังนั้น พวกทหารจึงมาทุบขาของคนแรกและขาของอีกคนที่ถูกตรึงอยู่กับพระองค์ แต่เมื่อมาถึงพระเยซูและเห็นว่า พระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว พวกเขาจึงไม่ได้ทุบขาของพระองค์ แต่ทหารคนหนึ่งเอาทวนแทงที่สีข้างของพระองค์ และโลหิตกับน้ำก็ไหลออกมาทันที คนนั้นที่เห็นก็เป็นพยาน และคำพยานของเขาก็เป็นความจริง และเขาก็รู้ว่าเขาพูดความจริงเพื่อพวกท่านจะได้เชื่อ เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อให้เป็นจริงตามข้อพระคัมภีร์ที่ว่า “พระอัฐิ ของพระองค์จะไม่หักสักชิ้นเดียว” และมีข้อพระคัมภีร์อีกข้อหนึ่งว่า “พวกเขาจะมองดูพระองค์ผู้ที่เขาแทง” หลังจากนั้น โยเซฟจากอาริมาเธียซึ่งเป็นสาวกลับๆ ของพระเยซูเนื่องจากกลัวพวกยิว ก็มาขอพระศพพระเยซูจากปีลาต และปีลาตก็อนุญาต โยเซฟจึงมาอัญเชิญพระศพของพระองค์ไป นิโคเดมัสคนที่ตอนแรกเคยไปหาพระองค์ในเวลากลางคืนนั้นก็มา เขานำเครื่องหอมผสมคือมดยอบกับกฤษณาหนักประมาณสามสิบกิโลกรัมมาด้วย เขาทั้งสองอัญเชิญพระศพพระเยซูมา แล้วเอาผ้าป่านกับเครื่องหอมพันพระศพนั้นตามธรรมเนียมฝังศพของพวกยิว ในบริเวณที่พระองค์ถูกตรึงนั้นมีสวนแห่งหนึ่ง ในสวนนั้นมีอุโมงค์ฝังศพใหม่ที่ยังไม่ได้ฝังศพใครเลย เนื่องจากวันนั้นเป็นวันเตรียมของพวกยิวและเพราะอุโมงค์นั้นอยู่ใกล้ เขาจึงบรรจุพระศพพระเยซูไว้ที่นั่น

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 19

ยอห์น 19:28-42 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

หลังจากนั้นพระเยซูทรงทราบว่า ทุ​กสิ่งสำเร็จแล้ว เพื่อพระคัมภีร์จะสำเร็จจึงตรั​สว​่า “เรากระหายน้ำ” มี​ภาชนะใส่น้ำองุ่นเปรี้ยววางอยู่​ที่นั่น เขาจึงเอาฟองน้ำ ชุ​บน​้ำองุ่นเปรี้ยวใส่ปลายไม้หุสบชูขึ้นให้ถึงพระโอษฐ์ของพระองค์ เมื่อพระเยซูทรงรั​บน​้ำองุ่นเปรี้ยวแล้ว พระองค์​ตรั​สว​่า “สำเร็จแล้ว” และทรงก้มพระเศียรลงปล่อยพระวิญญาณจิตออกไป เพราะวันนั้นเป็​นว​ันเตรี​ยม พวกยิวจึงขอให้​ปี​ลาตทุบขาของผู้​ที่​ถู​กตรึงให้​หัก และให้เอาศพไปเสีย เพื่อไม่​ให้​ศพค้างอยู่​ที่​กางเขนในวันสะบาโต (เพราะวันสะบาโตนั้นเป็​นว​ันใหญ่) ดังนั้นพวกทหารจึงมาทุบขาของคนที่​หนึ่ง และขาของอีกคนหนึ่งที่​ถู​กตรึงอยู่กับพระองค์ แต่​เมื่อเขามาถึงพระเยซูและเห็​นว​่าพระองค์​สิ้นพระชนม์​แล้ว เขาจึ​งม​ิ​ได้​ทุ​บขาของพระองค์ แต่​ทหารคนหนึ่งเอาทวนแทงที่​สี​ข้างของพระองค์ และโลหิ​ตก​ั​บน​้ำก็ไหลออกมาทั​นที คนนั้​นที​่​เห​็​นก​็เป็นพยาน และคำพยานของเขาก็เป็นความจริง และเขาก็​รู้​ว่าเขาพูดความจริง เพื่อท่านทั้งหลายจะได้​เชื่อ เพราะสิ่งเหล่านี้​เก​ิดขึ้นเพื่อข้อพระคัมภีร์จะสำเร็จซึ่งว่า ‘พระอัฐิของพระองค์จะไม่หักสักซี่​เดียว​’ และมีข้อพระคัมภีร์​อี​กข้อหนึ่งว่า ‘เขาทั้งหลายจะมองดู​พระองค์​ผู้​ซึ่งเขาเองได้​แทง​’ หลังจากนี้​โยเซฟชาวบ้านอาริมาเธีย ซึ่งเป็นสาวกลับๆของพระเยซูเพราะกลัวพวกยิว ก็ได้​ขอพระศพพระเยซูจากปีลาต และปีลาตก็​ยอมให้ โยเซฟจึงมาอัญเชิญพระศพพระเยซู​ไป ฝ่ายนิโคเดมัส ซึ่งตอนแรกไปหาพระเยซูในเวลากลางคืนนั้​นก​็​มาด​้วย เขานำเครื่องหอมผสม คือมดยอบกับกฤษณาหนักประมาณสามสิบกว่ากิโลกรัมมาด้วย พวกเขาอัญเชิญพระศพพระเยซู และเอาผ้าป่านกับเครื่องหอมพันพระศพนั้นตามธรรมเนียมฝังศพของพวกยิว ในสถานที่​พระองค์​ถู​กตรึงที่กางเขนนั้​นม​ีสวนแห่งหนึ่ง ในสวนนั้​นม​ี​อุโมงค์​ฝังศพใหม่​ที่​ยังไม่​ได้​ฝังศพผู้ใดเลย เพราะวันนั้นเป็​นว​ันเตรียมของพวกยิว และเพราะอุโมงค์นั้นอยู่​ใกล้ เขาจึงบรรจุพระศพพระเยซู​ไว้​ที่นั่น

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 19

ยอห์น 19:28-42 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

หลังจากนั้นเมื่อพระองค์ทรงทราบว่าทุกสิ่งสำเร็จครบถ้วนแล้วและเพื่อจะเป็นจริงตามพระคัมภีร์ พระเยซูจึงตรัสว่า “เรากระหายน้ำ” ที่นั่นมีภาชนะใส่น้ำองุ่นเปรี้ยวตั้งอยู่ พวกเขาจึงเอาฟองน้ำชุบน้ำองุ่นเปรี้ยวเสียบปลายไม้หุสบชูขึ้นถึงพระโอษฐ์ของพระเยซู เมื่อทรงรับน้ำนั้นแล้วพระเยซูก็ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” จากนั้นพระองค์ก้มพระเศียรลงและสิ้นพระชนม์ วันนั้นเป็นวันเตรียมและรุ่งขึ้นจะเป็นวันสะบาโตพิเศษ เนื่องจากพวกยิวไม่ต้องการให้ศพค้างบนไม้กางเขนในช่วงวันสะบาโต จึงขอปีลาตให้ทุบขาผู้ที่ถูกตรึงให้หักและเอาศพลงมา ดังนั้นพวกทหารจึงมาทุบขาของชายคนแรกที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนด้วยกันกับพระเยซูให้หัก แล้วทุบขาของอีกคนหนึ่งให้หักด้วย แต่เมื่อมาถึงพระเยซูพวกเขาพบว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้วจึงไม่ได้ทุบขาของพระองค์ แต่ทหารคนหนึ่งเอาทวนแทงที่สีข้างของพระเยซูโลหิตกับน้ำก็ไหลออกมาทันที ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้เป็นพยานและคำพยานของเขาเป็นความจริง เขารู้ว่าเขาพูดความจริงและเขาเป็นพยานเพื่อว่าท่านทั้งหลายจะเชื่อด้วย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อจะเป็นจริงตามพระคัมภีร์ที่ว่า “กระดูกของเขาจะไม่ถูกหักสักชิ้นเดียว” และพระคัมภีร์อีกตอนหนึ่งที่กล่าวว่า “เขาทั้งหลายจะมองดูผู้ที่พวกเขาได้แทง” หลังจากนั้นโยเซฟชาวอาริมาเธียได้ไปขอพระศพพระเยซูจากปีลาต โยเซฟเป็นสาวกของพระเยซูแต่ไม่กล้าแสดงตัวเพราะกลัวพวกยิว เมื่อปีลาตอนุญาตแล้วเขาก็มาเชิญพระศพไป นิโคเดมัสผู้ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมาเข้าเฝ้าพระเยซูในเวลากลางคืนก็มาร่วมด้วยพร้อมทั้งนำเครื่องหอม คือมดยอบผสมกับกฤษณาหนักประมาณ 34 กิโลกรัมมา ทั้งสองเชิญพระศพของพระเยซูลงมา แล้วเอาแถบผ้าลินินพันพระศพพร้อมกับเครื่องหอมตามธรรมเนียมการฝังศพของชาวยิว สถานที่ซึ่งพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนนั้นมีสวนแห่งหนึ่งและในสวนนั้นมีอุโมงค์ฝังศพใหม่ที่ยังไม่เคยฝังใครมาก่อน เนื่องจากวันนั้นเป็นวันเตรียมของพวกยิวและอุโมงค์ก็อยู่ใกล้ๆ เขาจึงวางพระศพพระเยซูไว้ที่นั่น

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 19

ยอห์น 19:28-42 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​ทราบ​ว่า​ทุก​สิ่ง​เสร็จ​บริบูรณ์​แล้ว เพื่อ​เป็น​ไป​ตาม​ที่​บันทึก​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์ พระ​องค์​กล่าว​ว่า “เรา​กระหาย​น้ำ” มี​โถ​ใส่​เหล้า​องุ่น​เปรี้ยว​ตั้ง​อยู่​ที่​นั่น เขา​เหล่า​นั้น​จึง​เอา​ฟองน้ำ​ชุบ​เหล้า​องุ่น​เปรี้ยว​ติด​ไว้​ที่​ปลาย​ไม้​หุสบ ยื่น​ให้​ถึง​ปาก​ของ​พระ​องค์ เมื่อ​พระ​เยซู​รับ​เหล้า​องุ่น​เปรี้ยว​แล้ว พระ​องค์​กล่าว​ว่า “เสร็จ​สิ้น​แล้ว” จาก​นั้น​พระ​องค์​ก็​ก้ม​ศีรษะ​ลง​สิ้น​ชีวิต วัน​นั้น​เป็น​วัน​จัดเตรียม ชาว​ยิว​จึง​ขอ​ให้​ปีลาต​หัก​ขา​ของ​ผู้​ที่​ถูก​ตรึง​และ​เอา​ตัว​ไป เพื่อ​ไม่​ให้​ร่าง​ค้าง​อยู่​บน​ไม้​กางเขน​ใน​วัน​สะบาโต (ใน​เมื่อ​เฉพาะ​วัน​สะบาโต​วัน​นั้น​สำคัญ​เป็น​พิเศษ) ดังนั้น​เหล่า​ทหาร​จึง​มา​หัก​ขา​ของ​ชาย​คน​แรก​ที่​ถูก​ตรึง​อยู่​กับ​พระ​องค์ แล้ว​ก็​หัก​ขา​ของ​ชาย​อีก​คน แต่​เมื่อ​พวก​เขา​มา​ถึง​พระ​เยซู​ก็​พบ​ว่า​พระ​องค์​สิ้น​ชีวิต​แล้ว จึง​ไม่​หัก​ขา​ของ​พระ​องค์ แต่​ทหาร​คน​หนึ่ง​ใช้​หอก​แทง​สีข้าง​ของ​พระ​องค์ โลหิต​กับ​น้ำ​ก็​ไหล​ออก​มา​ทันที ชาย​คน​ที่​เห็น​ก็​ได้​ยืนยัน และ​คำ​ยืนยัน​ของ​เขา​เป็น​ความ​จริง เขา​รู้​ว่า​เขา​บอก​ความ​จริง​เพื่อ​ว่า​พวก​ท่าน​จะ​ได้​เชื่อ​เช่น​กัน สิ่ง​นี้​เกิด​ขึ้น​ก็​เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​ไป​ตาม​พระ​คัมภีร์​ที่​ว่า “กระดูก​ของ​พระ​องค์​จะ​ไม่​หัก​สัก​ชิ้น​เดียว” และ​มี​อีก​ตอน​ที่​พระ​คัมภีร์​ระบุ​ว่า “พวก​เขา​จะ​มอง​ดู​องค์​ผู้​ที่​พวก​เขา​ได้​แทง” หลัง​จาก​นั้น​โยเซฟ​ชาว​เมือง​อาริมาเธีย​ก็​ได้​มา​ขอ​ร่าง​ของ​พระ​เยซู​ไป​จาก​ปีลาต โยเซฟ​แอบ​เป็น​สาวก​อย่าง​ลับๆ ของ​พระ​เยซู​เพราะ​กลัว​พวก​ชาว​ยิว และ​ปีลาต​ได้​อนุญาต เขา​จึง​มา​นำ​ร่าง​ของ​พระ​องค์​ไป เขา​มา​พร้อม​กับ​นิโคเดมัส​ซึ่ง​ตอน​แรก​ก็​ได้​มา​หา​พระ​องค์​ใน​เวลา​กลางคืน โดย​นำ​เครื่อง​หอม​อัน​ประกอบ​ด้วย​มดยอบ​กับ​กฤษณา​หนัก​ประมาณ​สามสิบ​กว่า​กิโลกรัม​มา​ด้วย ชาย​ทั้ง​สอง​จึง​นำ​ร่าง​ของ​พระ​เยซู​มา​ปฏิบัติ​ตาม​ประเพณี​นิยม​การ​ฝัง​ศพ​ของ​ชาว​ยิว โดย​พัน​หุ้ม​ด้วย​ริ้ว​ผ้า​ป่าน​ห่อ​ด้วย​เครื่อง​หอม สถานที่​ซึ่ง​พระ​องค์​ถูก​ตรึง​บน​ไม้​กางเขน​นั้น​มี​สวน​แห่ง​หนึ่ง และ​ใน​สวน​มี​ถ้ำ​เก็บ​ศพ​ใหม่​ซึ่ง​ไม่​เคย​มี​ร่าง​อื่น​ฝัง​มา​ก่อน เพราะ​ว่า​วัน​นั้น​เป็น​วัน​จัดเตรียม​ของ​ชาว​ยิว​และ​เพราะ​ถ้ำ​เก็บ​ศพ​อยู่​ใกล้ๆ เขา​จึง​วาง​ร่าง​ของ​พระ​เยซู​ไว้​ที่​นั่น

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 19