ยอห์น 19:1-27

ยอห์น 19:1-27 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ปีลาตจึงให้เอาพระเยซูไปโบยตี และพวกทหารก็เอาหนามสานเป็นมงกุฎสวมพระเศียรของพระองค์ และให้พระองค์สวมเสื้อสีม่วง แล้วพวกเขาก็มาหาพระองค์ทูลว่า “ข้าแต่กษัตริย์ของพวกยิว ขอทรงพระเจริญ” แล้วพวกเขาก็ตบพระพักตร์พระองค์ ปีลาตก็ออกไปอีกและกล่าวกับพวกเขาว่า “นี่แน่ะ เราพาคนนี้ออกมามอบให้พวกท่าน เพื่อให้พวกท่านรู้ว่าเราไม่พบความผิดอะไรในตัวเขาเลย” พระเยซูจึงเสด็จออกมา ทรงสวมมงกุฎทำด้วยหนามและทรงสวมเสื้อสีม่วง ปีลาตกล่าวกับพวกเขาว่า “คนนี้ไงล่ะ” เมื่อพวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกเจ้าหน้าที่เห็นพระองค์ พวกเขาก็ร้องอื้ออึงว่า “ตรึงเขาเสีย ตรึงเขาเสีย” ปีลาตกล่าวกับเขาว่า “พวกท่านจงพาเขาไปตรึงเอาเอง เพราะเราไม่เห็นว่าเขามีความผิดเลย” พวกยิวตอบท่านว่า “เรามีกฎหมาย และตามกฎหมายนั้นเขาสมควรตาย เพราะเขาตั้งตัวเป็นพระบุตรของพระเจ้า” เมื่อปีลาตได้ยินอย่างนั้นท่านก็ตกใจกลัวมากขึ้น ท่านเข้าไปในกองบัญชาการปรีโทเรียมอีกและทูลถามพระเยซูว่า “เจ้ามาจากไหน?” แต่พระเยซูไม่ตรัสตอบอะไร ปีลาตจึงทูลถามพระองค์ว่า “เจ้าจะไม่พูดกับเราหรือ? เจ้าไม่รู้หรือว่าเรามีสิทธิอำนาจที่จะปล่อยเจ้า และมีอำนาจที่จะตรึงเจ้าที่กางเขนได้?” พระเยซูตรัสตอบว่า “ท่านจะไม่มีสิทธิอำนาจเหนือเรานอกจากจะประทานแก่ท่านจากเบื้องบน เพราะเหตุนี้คนที่มอบเราไว้กับท่านจึงมีความผิดมากกว่าท่าน” ตั้งแต่นั้นปีลาตก็หาโอกาสที่จะปล่อยพระองค์ แต่พวกยิวร้องอื้ออึงว่า “ถ้าท่านปล่อยชายคนนี้ ท่านก็ไม่ใช่มิตรของซีซาร์ ทุกคนที่ตั้งตัวเป็นกษัตริย์ก็ต่อต้านซีซาร์” เมื่อปีลาตได้ยินอย่างนั้นท่านจึงพาพระเยซูออกมา แล้วนั่งบัลลังก์พิพากษาตรงที่ที่เรียกว่า ลานปูศิลา ภาษาฮีบรูเรียกว่า กับบาธา วันนั้นเป็นวันเตรียมปัสกา เวลาประมาณเที่ยง ท่านพูดกับพวกยิวว่า “นี่คือกษัตริย์ของพวกท่าน” พวกเขาร้องอื้ออึงว่า “เอามันไป เอามันไป เอาไปตรึงที่กางเขน” ปีลาตพูดกับพวกเขาว่า “จะให้เราตรึงกษัตริย์ของพวกท่านหรือ?” พวกหัวหน้าปุโรหิตตอบว่า “เราไม่มีกษัตริย์อื่นนอกจากซีซาร์” แล้วปีลาตก็มอบพระองค์ให้เขาไปตรึงที่กางเขน พวกทหารจึงพาพระเยซูไป และพระองค์ทรงแบกกางเขนของพระองค์ไปยังที่ที่เรียกว่า กะโหลกศีรษะ ภาษาฮีบรูเรียกว่า กลโกธา ที่นั่นพวกเขาตรึงพระองค์ไว้ที่กางเขนพร้อมกับชายอีกสองคนคนละข้าง โดยมีพระเยซูทรงอยู่กลาง ปีลาตให้เขียนป้ายติดไว้บนกางเขนอ่านว่า “เยซูชาวนาซาเร็ธกษัตริย์ของพวกยิว” พวกยิวจำนวนมากได้อ่านป้ายนี้ เพราะที่ที่เขาตรึงพระเยซูนั้นอยู่ใกล้กับกรุง และป้ายนั้นเขียนเป็นภาษาฮีบรู ภาษาลาติน และภาษากรีก พวกหัวหน้าปุโรหิตของพวกยิวจึงเรียนปีลาตว่า “อย่าเขียนว่า ‘กษัตริย์ของพวกยิว’ แต่เขียนว่า ‘คนนี้บอกว่า “เราเป็นกษัตริย์ของพวกยิว” ’ ” ปีลาตตอบว่า “อะไรที่เราเขียนแล้วก็แล้วไป” เมื่อพวกทหารตรึงพระเยซูไว้ที่กางเขนแล้ว พวกเขาก็เอาเสื้อของพระองค์มาแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ให้ทหารคนละส่วน เว้นแต่เสื้อใน เสื้อในนั้นไม่มีตะเข็บ ทอเป็นผืนเดียวตลอด เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงปรึกษากันว่า “เราอย่าฉีกแบ่งกันเลย แต่ให้เราจับฉลากกัน จะได้รู้ว่าใครจะได้เป็นเจ้าของ” ทั้งนี้เพื่อให้เป็นจริงตามข้อพระคัมภีร์ที่ว่า “เสื้อผ้าของข้าพระองค์ เขาแบ่งกัน และเสื้อของข้าพระองค์เขาจับฉลากกัน” พวกทหารทำกันอย่างนี้ คนที่ยืนอยู่ข้างกางเขนของพระเยซูนั้นมีมารดากับน้าสาวของพระองค์ มารีย์ภรรยาของเคลโอปัสและมารีย์ชาวมักดาลา เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นมารดาของพระองค์ และสาวกคนที่พระองค์ทรงรักยืนอยู่ใกล้พระองค์ จึงตรัสกับมารดาของพระองค์ว่า “หญิงเอ๋ย นี่คือบุตรของท่าน” แล้วพระองค์ตรัสกับสาวกคนนั้นว่า “นี่คือมารดาของท่าน” แล้วสาวกคนนั้นก็รับมารดาของพระองค์มาอยู่ในบ้านของตนตั้งแต่เวลานั้น

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 19

ยอห์น 19:1-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ปีลาต​จึง​สั่ง​ให้​เอา​พระเยซู​ไป​เฆี่ยน พวกทหาร​ได้​เอา​กิ่ง​หนาม​มา​สาน​เป็น​มงกุฎ​สวม​หัว​ของ​พระองค์ เอา​เสื้อคลุม​สีม่วง​มา​ใส่​ให้ และ​พวก​เขา​ก็​เวียน​กัน​เข้า​มา​หา​พระองค์​หลาย​รอบ เขา​เยาะเย้ย​ว่า “กษัตริย์​ของ​ชาว​ยิว​จงเจริญ” แล้ว​เขา​ตบ​หน้า​พระองค์ ปีลาต​ได้​ออก​มา​พูด​กับ​พวกยิว​ว่า “ดู​นี่ เรา​กำลัง​จะ​เอา​เขา​ออก​มา​ให้​พวก​คุณ เพื่อ​พวก​คุณ​จะ​ได้​รู้​ว่า เรา​ไม่​เห็น​ว่า​เขา​ทำ​ผิด​ตรง​ไหน” แล้ว​พระเยซู​ก็​ออก​มา พระองค์​สวม​มงกุฎ​หนาม​และ​ใส่​เสื้อคลุม​สี​ม่วง ปีลาต​บอก​กับ​พวกยิว​ว่า “เขา​อยู่​นี่​ไง” เมื่อ​พวกหัวหน้านักบวช​และ​พวกผู้คุมวิหาร​เห็น​พระเยซู​ก็​ร้อง​ตะโกน​ว่า “ตรึง​มัน ตรึง​มัน” แต่​ปีลาต​ตอบ​ว่า “พวก​คุณ​ไป​ตรึง​กัน​เอา​เอง​ก็​แล้ว​กัน เพราะ​เรา​ไม่​เห็น​ว่า​เขา​ทำ​ผิด​ตรง​ไหน​เลย” พวกยิว​ตอบ​ว่า “ตาม​กฎปฏิบัติ​ของ​ยิว บอก​ว่า​มัน​ทำ​ผิด​สมควร​ตาย​เพราะ​อ้าง​ว่า​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า” เมื่อ​ปีลาต​ได้ยิน​อย่าง​นั้น​ก็​กลัว​จน​ตัว​สั่น แล้ว​เขา​ก็​กลับ​เข้า​ไป​ใน​วัง​อีก​ครั้ง ปีลาต​ได้​ถาม​พระเยซู​ว่า “แก​มา​จาก​ไหน” แต่​พระองค์​ไม่​ตอบ ปีลาต​จึง​พูด​กับ​พระองค์​ว่า “แก​ไม่​ยอม​พูด​กับ​เรา​หรือ แก​ไม่​รู้​หรือ​ว่า​เรา​มี​อำนาจ​ที่​จะ​ปล่อย​หรือ​ตรึง​แก​ก็​ได้” พระเยซู​จึง​ตอบ​เขา​ว่า “ถ้า​พระเจ้า​ไม่​ได้​ให้​อำนาจ​นั้น​กับ​คุณ คุณ​ก็​ไม่​มี​อำนาจ​เหนือ​เรา​หรอก ดังนั้น​คน​ที่​มอบ​ตัว​เรา​ให้​กับ​คุณ ก็​มี​ความผิด​บาป​ร้ายแรง​กว่า​คุณ” เมื่อ​ปีลาต​ได้ยิน​อย่าง​นั้น เขา​ก็​พยายาม​ที่​จะ​ปล่อย​พระเยซู​อีก แต่​พวก​ยิว​ร้อง​ตะโกน​ว่า “ถ้า​ท่าน​ปล่อย​มัน ท่าน​ก็​ไม่​ใช่​เพื่อน​ของ​ซีซาร์ เพราะ​คน​ที่​อ้าง​ตัวเอง​เป็น​กษัตริย์​นั้น​เป็น​ศัตรู​กับ​ซีซาร์” เมื่อ​ปีลาต​ได้​ฟัง​อย่าง​นั้น​จึง​พา​พระเยซู​ออก​มา และ​เขา​ก็​นั่ง​ลง​บน​บัลลังก์​พิพากษา​ตรง​ที่​เรียกว่า “ลาน​หิน” (ซึ่ง​ใน​ภาษา​อารเมค เรียกว่า “กับบาธา”) วัน​นั้น​เป็น​วัน​ศุกร์ เป็น​วัน​จัด​เตรียม​สำหรับ​เทศกาล​วัน​ปลด​ปล่อย ประมาณ​เที่ยง​วัน ปีลาต​ได้​บอก​กับ​พวกยิว​ว่า “นี่​ไง กษัตริย์​ของ​พวกคุณ” พวกยิว​ร้อง​ตะโกน​ว่า “เอา​ตัว​ไป เอา​ตัว​ไป​ตรึง​ที่​กางเขน” ปีลาต​จึง​ถาม​พวก​เขา​ว่า “จะ​ให้​เรา​ตรึง​กษัตริย์​ของ​พวกคุณ​หรือ” พวกหัวหน้านักบวช​ตอบ​ว่า “เรา​ไม่​มี​กษัตริย์​อื่น นอก​จาก​ซีซาร์” แล้ว​ปีลาต​ได้​ส่ง​ตัว​พระเยซู​ไป​ให้​กับ​ทหาร​เพื่อ​เอา​ไป​ตรึง​ที่​ไม้​กางเขน แล้ว​พวกทหาร​ก็​มา​เอา​ตัว​พระเยซู​ไป พระองค์​ต้อง​แบก​ไม้กางเขน​ที่​จะ​ใช้​ตรึง​พระองค์​เอง​ไป​ถึง​ที่​แห่ง​หนึ่ง​เรียก​ว่า “หัวกะโหลก” (ใน​ภาษา​อารเมค​เรียก​ว่า กลโกธา) แล้ว​พวก​เขา​ก็​จับ​พระเยซู​ตรึง​บน​ไม้​กางเขน​ที่​นั่น พวก​เขา​ได้​ตรึง​นักโทษ​ชาย​อีก​สอง​คน​ด้วย พระเยซู​อยู่​ระหว่าง​นักโทษ​สอง​คน​นั้น ปีลาต​ได้​เขียน​ป้าย​ติด​ไว้​บน​กางเขน​ว่า “เยซู ชาว​นาซาเร็ธ กษัตริย์​ของ​ชาวยิว” คน​ยิว​เป็น​จำนวน​มาก​ได้​อ่าน​ป้ายนี้ เพราะ​ที่​ที่​พระเยซู​ถูก​ตรึง​นี้​อยู่​ใกล้​กับ​ตัวเมือง และ​ป้าย​นั้น​เขียน​เป็น​ภาษา​อารเมค ลาติน​และ​กรีก พวกหัวหน้านักบวช​พูด​กับ​ปีลาต​ว่า “อย่า​เขียน​ว่า ‘กษัตริย์​ของ​ชาวยิว’ แต่​ให้​เขียน​ว่า ‘ชาย​คนนี้​อ้าง​ว่า เป็น​กษัตริย์​ของ​ชาว​ยิว’” แต่​ปีลาต​ตอบ​ว่า “เขียน​แล้ว ก็​แล้วไป” เมื่อ​พวก​ทหาร​ตรึง​พระเยซู​แล้ว ก็​ได้​เอา​เสื้อผ้า​ของ​พระองค์​มา​แบ่ง​กัน​ใน​หมู่​ทหาร​สี่​คน โดย​ได้​ไป​คน​ละ​ชิ้น ส่วน​เสื้อชั้นใน​ของ​พระเยซู​เป็น​ผ้าทอ​ชิ้น​เดียว​กัน​ตลอด​ทั้ง​ตัว​ไม่​มี​ตะเข็บ พวก​เขา​พูด​กัน​ว่า “อย่า​ฉีก​เลย จับสลาก​กัน​ดี​กว่า ดู​สิ​ว่า​ใคร​จะ​ได้” เหตุการณ์นี้​ได้​เกิด​ขึ้น​ตาม​ที่​พระคัมภีร์​เขียน​ว่า “เขา​เอา​เสื้อผ้า​ของ​เรา​ไป​แบ่ง​กัน แล้ว​เอา​ชุด​ของ​เรา​มา​จับสลาก​กัน” และ​พวกทหาร​ก็​ทำ​อย่าง​นั้น แม่​ของ​พระเยซู น้าสาว​ของ​พระองค์ มารีย์​เมีย​ของ​โคลปัส และ​มารีย์​ชาว​มักดาลา​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ไม้กางเขน เมื่อ​พระเยซู​เห็น​แม่​ของ​พระองค์​และ​ศิษย์​ที่​พระองค์​รัก พระเยซู​จึง​พูด​กับ​แม่​ว่า “แม่​ครับ รับ​เขา​เป็น​ลูก​ด้วย” แล้ว​พระองค์​ก็​พูด​กับ​ศิษย์​คน​นั้น​ว่า “รับ​นาง​เป็น​แม่​ด้วย” ศิษย์​คน​นั้น​จึง​พา​แม่​ของ​พระองค์​ไป​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​เขา​ตั้งแต่​นั้น​มา

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 19

ยอห์น 19:1-27 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ขณะนั้นปีลาตจึงให้เอาพระเยซูไปโบยตี และพวกทหารก็เอาหนามสานเป็นมงกุฎสวมพระเศียรของพระองค์ และให้​พระองค์​สวมเสื้อสี​ม่วง แล​้​วท​ูลว่า “ท่านกษั​ตริ​ย์ของพวกยิว ขอทรงพระเจริญ” และเขาก็ตบพระองค์ด้วยฝ่ามือ ปี​ลาตจึงออกไปอีกและกล่าวแก่คนทั้งหลายว่า “​ดู​เถิด เราพาคนนี้ออกมาให้ท่านทั้งหลายเพื่อให้ท่านรู้​ว่า เราไม่​เห​็​นว​่าเขามีความผิดสิ่งใดเลย” พระเยซู​จึงเสด็จออกมาทรงมงกุฎทำด้วยหนามและทรงเสื้อสี​ม่วง และปีลาตกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า “​ดู​คนนี้​ซิ​” ฉะนั้นเมื่อพวกปุโรหิตใหญ่และพวกเจ้าหน้าที่​ได้​เห​็นพระองค์ เขาทั้งหลายร้องอึงว่า “ตรึงเขาเสีย ตรึงเขาเสีย” ปี​ลาตกล่าวแก่เขาว่า “พวกท่านเอาเขาไปตรึงเองเถิด เพราะเราไม่​เห​็​นว​่าเขามีความผิดเลย” พวกยิวตอบท่านว่า “พวกเรามี​กฎหมาย และตามกฎหมายนั้นเขาควรจะตาย เพราะเขาได้ตั้งตัวเป็นพระบุตรของพระเจ้า” ฉะนั้​นคร​ั้นปีลาตได้ยินดังนั้น ท่านก็ตกใจกลัวมากขึ้น ท่านเข้าไปในศาลปรี​โทเร​ียมอีกและทูลพระเยซู​ว่า “ท่านมาจากไหน” แต่​พระเยซู​มิได้​ตรัสตอบประการใด ปี​ลาตจึงทูลพระองค์​ว่า “ท่านจะไม่​พู​ดก​ับเราหรือ ท่านไม่​รู้​หรือว่าเรามีอำนาจที่จะตรึงท่านที่​กางเขน และมีอำนาจที่จะปล่อยท่านได้” พระเยซู​ตรัสตอบว่า “ท่านจะมีอำนาจเหนือเราไม่​ได้ นอกจากจะประทานจากเบื้องบนให้​แก่​ท่าน เหตุ​ฉะนั้นผู้​ที่​มอบเราไว้กั​บท​่านจึ​งม​ีความผิดบาปมากกว่าท่าน” ตั้งแต่​นั้นไปปีลาตก็หาโอกาสที่จะปล่อยพระองค์ แต่​พวกยิวร้องอึงว่า “ถ้าท่านปล่อยชายคนนี้ ท่านก็​ไม่ใช่​มิ​ตรของซี​ซาร์ ผู้​ใดที่ตั้งตัวเป็นกษั​ตริ​ย์​ก็​พู​ดต่อสู้​ซี​ซาร์​” เมื่อปีลาตได้ยินดังนั้น ท่านจึงพาพระเยซู​ออกมา แล​้​วน​ั่​งบ​ัลลั​งก​์​พิพากษา ณ ที่​เรียกว่า ลานปู​ศิลา ภาษาฮีบรูเรียกว่า กับบาธา วันนั้นเป็​นว​ันเตรียมปัสกา เวลาประมาณเที่ยง ท่านพู​ดก​ับพวกยิ​วว​่า “​ดู​เถิด นี่​คือกษั​ตริ​ย์ของท่านทั้งหลาย” แต่​เขาทั้งหลายร้องอึงว่า “เอาเขาไปเสีย เอาเขาไปเสีย ตรึงเขาเสียที่​กางเขน​” ปี​ลาตพู​ดก​ับเขาว่า “ท่านจะให้เราตรึงกษั​ตริ​ย์ของท่านทั้งหลายที่กางเขนหรือ” พวกปุโรหิตใหญ่ตอบว่า “​เว้นแต่​ซี​ซาร์​แล้ว เราไม่​มี​กษัตริย์​” แล​้วปีลาตจึงมอบพระองค์​ให้​เขาพาไปตรึงที่​กางเขน และเขาพาพระเยซู​ไป และพระองค์ทรงแบกกางเขนของพระองค์ไปยังสถานที่​แห่งหน​ึ่งซึ่งเรียกว่า สถานที่​กะโหลกศีรษะ ภาษาฮีบรูเรียกว่า กลโกธา ณ ที่​นั้น เขาตรึงพระองค์​ไว้​ที่​กางเขนกับคนอีกสองคน คนละข้างและพระเยซูทรงอยู่​กลาง ปี​ลาตให้​เข​ียนคำประจานติดไว้บนกางเขน และคำประจานนั้​นว​่า “​เยซู​ชาวนาซาเร็ธ กษัตริย์​ของพวกยิว” พวกยิวเป็​นอ​ันมากจึงได้อ่านคำประจานนี้ เพราะที่ซึ่งเขาตรึงพระเยซูนั้นอยู่​ใกล้​กับกรุง และคำนั้นเขียนไว้เป็นภาษาฮีบรู ภาษากรีก และภาษาลาติน ฉะนั้นพวกปุโรหิตใหญ่ของพวกยิวจึงเรียนปีลาตว่า “ขออย่าเขียนว่า ‘​กษัตริย์​ของพวกยิว’ แต่​ขอเขียนว่า ‘คนนี้บอกว่า เราเป็นกษั​ตริ​ย์ของพวกยิว’” ปี​ลาตตอบว่า “​สิ​่งใดที่เราเขียนแล้​วก​็​แล้วไป​” ครั้นพวกทหารตรึงพระเยซู​ไว้​ที่​กางเขนแล้ว เขาทั้งหลายก็เอาฉลองพระองค์​แบ​่งออกเป็นสี่ส่วนให้ทหารทุกคนคนละส่​วน และเอาฉลองพระองค์ชั้นในด้วย ฉลองพระองค์​ชั้นในนั้นไม่​มี​ตะเข็บ ทอตั้งแต่บนตลอดล่าง เหตุ​ฉะนั้นเขาจึงพู​ดก​ั​นว​่า “เราอย่าฉีกแบ่​งก​ันเลย แต่​ให้​เราจับสลากกันจะได้​รู้​ว่าใครจะได้” ทั้งนี้​เพื่อพระคัมภีร์จะสำเร็จที่​ว่า ‘เสื้อผ้าของข้าพระองค์ เขาแบ่งปั​นก​ัน ส่วนเสื้อของข้าพระองค์​นั้น เขาก็จับสลากกัน’ พวกทหารจึงได้กระทำดังนี้ ผู้​ที่​ยืนอยู่ข้างกางเขนของพระเยซู​นั้น มี​มารดาของพระองค์กั​บน​้าสาวของพระองค์ มาร​ีย์ภรรยาของเคลโอปัส และมารีย์ชาวมักดาลา ฉะนั้นเมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นมารดาของพระองค์ และสาวกคนที่​พระองค์​ทรงรักยืนอยู่​ใกล้ พระองค์​ตรัสกับมารดาของพระองค์​ว่า “หญิงเอ๋ย จงดู​บุ​ตรของท่านเถิด” แล​้วพระองค์ตรัสกับสาวกคนนั้​นว​่า “​จงดู​มารดาของท่านเถิด” และตั้งแต่เวลานั้นมา สาวกคนนั้​นก​็รับนางมาอยู่ในบ้านของตน

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 19

ยอห์น 19:1-27 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ปีลาตจึงเอาพระเยซูไปให้โบยตี และพวกทหารก็เอาหนามสานเป็นมงกุฎสวมพระเศียรของพระองค์ และให้พระองค์สวมเสื้อสีม่วง แล้วเขาก็มาหาพระองค์ทูลว่า <<ท่านกษัตริย์ของพวกยิว ขอทรงพระเจริญ>> และเขาก็ตบพระพักตร์พระองค์ ปีลาตก็ออกไปอีกและกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า <<ดูเถิด เราพาคนนี้ออกมามอบให้ท่านทั้งหลาย เพื่อให้ท่านรู้ว่าเราไม่เห็นว่าเขามีความผิดสิ่งใดเลย>> พระเยซูจึงเสด็จออกมาทรงมงกุฎทำด้วยหนามและทรงเสื้อสีม่วง ปีลาตจึงกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า <<คนนี้อย่างไรล่ะ>> เมื่อพวกมหาปุโรหิตและพวกเจ้าหน้าที่ได้เห็นพระองค์ เขาทั้งหลายร้องอึงว่า <<ตรึงเขาเสีย ตรึงเขาเสีย>> ปีลาตกล่าวแก่เขาว่า <<พวกท่านเอาเขาไปตรึงเองเถิด เพราะเราไม่เห็นว่าเขามีความผิดเลย>> พวกยิวตอบท่านว่า <<พวกเรามีกฎหมาย และตามกฎหมายนั้นเขาควรจะตาย เพราะเขาได้ตั้งตัวเป็นพระบุตรของพระเจ้า>> ครั้นปีลาตได้ยินดังนั้นท่านก็ตกใจกลัวมากขึ้น ท่านเข้าไปในศาลปรีโทเรียมอีก และทูลพระเยซูว่า <<ท่านมาจากไหน>> แต่พระเยซูมิได้ตรัสตอบประการใด ปีลาตจึงทูลพระองค์ว่า <<ท่านจะไม่พูดกับเราหรือ ท่านไม่รู้หรือว่าเรามีอำนาจที่จะปล่อยท่าน และมีอำนาจที่จะตรึงท่านที่กางเขนได้>> พระเยซูตรัสตอบท่านว่า <<ท่านจะมีอำนาจเหนือเราไม่ได้ นอกจากจะประทานจากเบื้องบนให้แก่ท่าน เหตุฉะนั้นผู้ที่อายัดเราไว้กับท่าน จึงมีความผิดมากกว่าท่าน>> ตั้งแต่นั้นไป ปีลาตก็หาโอกาสที่จะปล่อยพระองค์ แต่พวกยิวร้องอึงว่า <<ถ้าท่านปล่อยชายคนนี้ ท่านก็ไม่ใช่มิตรของซีซาร์ ทุกคนที่ตั้งตัวเป็นกษัตริย์ก็เป็นปฏิปักษ์ต่อซีซาร์>> เมื่อปีลาตได้ยินดังนั้น ท่านจึงพาพระเยซูออกมา แล้วนั่งบัลลังก์พิพากษา ณ ที่เรียกว่า ลานปูศิลา ภาษาฮีบรูเรียกว่ากับบาธา วันนั้นเป็นวันเตรียมปัสกา เวลาประมาณเที่ยง ท่านพูดกับพวกยิวว่า <<นี่คือกษัตริย์ของท่านทั้งหลาย>> เขาทั้งหลายร้องอึงว่า <<เอาเขาไปเสีย เอาเขาไปเสีย ตรึงเขาเสียที่กางเขน>> ปีลาตพูดกับเขาว่า <<ท่านจะให้เราตรึงกษัตริย์ของท่านทั้งหลายที่กางเขนหรือ>> พวกมหาปุโรหิตตอบว่า <<เว้นแต่ซีซาร์แล้วเราไม่มีกษัตริย์>> แล้วปีลาตก็มอบพระองค์ให้เขาพาไปตรึงที่กางเขน เขาจึงพาพระเยซูไป และพระองค์ทรงแบกกางเขนของพระองค์ไปยังที่ซึ่งเรียกว่า กะโหลกศีรษะ ภาษาฮีบรูเรียกว่า กลโกธา ณ ที่นั้นเขาตรึงพระองค์ไว้ที่กางเขนกับคนอีกสองคน คนละข้างและพระเยซูทรงอยู่กลาง ปีลาตให้เขียนป้ายติดไว้บนกางเขนอ่านว่า <<เยซูชาวนาซาเร็ธกษัตริย์ของพวกยิว>> พวกยิวเป็นอันมากได้อ่านป้ายนี้ เพราะที่ซึ่งเขาตรึงพระเยซูนั้นอยู่ใกล้กับกรุง และป้ายนั้นเขียนไว้เป็นภาษาฮีบรู ภาษาลาตินและภาษากรีก ฉะนั้นพวกมหาปุโรหิตของพวกยิวจึงเรียนปีลาตว่า <<ขออย่าเขียนว่า <กษัตริย์ของพวกยิว> แต่ขอเขียนว่า <คนนี้บอกว่า เราเป็นกษัตริย์ของพวกยิว> >> ปีลาตตอบว่า <<สิ่งใดที่เราเขียนแล้ว ก็แล้วไป>> ครั้นพวกทหารตรึงพระเยซูไว้ที่กางเขนแล้ว เขาทั้งหลายก็เอาฉลองพระองค์มาแบ่งออกเป็นสี่ส่วนให้ทหารคนละส่วน เว้นแต่ฉลองพระองค์ชั้นใน ฉลองพระองค์ชั้นในนั้นไม่มีตะเข็บ ทอตั้งแต่บนตลอดล่าง เหตุฉะนั้นเขาจึงปรึกษากันว่า <<เราอย่าฉีกแบ่งกันเลย แต่ให้เราจับฉลากกันจะได้รู้ว่าใครจะได้>> ทั้งนี้เพื่อให้เป็นจริงตามข้อพระธรรมที่ว่า <<เสื้อผ้าของข้าพระองค์ เขาก็แบ่งกัน ส่วนเสื้อของข้าพระองค์ เขาจับฉลากกัน>> พวกทหารได้กระทำดังนี้ ผู้ที่ยืนอยู่ข้างกางเขนของพระเยซูนั้น มีมารดาของพระองค์กับน้าสาวของพระองค์ มารีย์ภรรยาของเคลโอปัส และมารีย์ชาวมักดาลา เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นมารดาของพระองค์ และสาวกคนที่พระองค์ทรงรักยืนอยู่ใกล้พระองค์ จึงตรัสกับมารดาของพระองค์ว่า <<หญิงเอ๋ย จงดูบุตรของท่านเถิด>> แล้วพระองค์ตรัสกับสาวกคนนั้นว่า <<จงดูมารดาของท่านเถิด>> ตั้งแต่เวลานั้นมาสาวกคนนั้นก็รับมารดาของพระองค์มาอยู่ในบ้านของตน

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 19

ยอห์น 19:1-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

จากนั้นปีลาตจึงให้เอาตัวพระเยซูไปโบยตี พวกทหารเอาหนามสานเป็นมงกุฎสวมพระเศียรของพระเยซู และให้ทรงเสื้อคลุมสีม่วง แล้วเขาเข้ามาหาพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่าและกล่าวว่า “ข้าแต่กษัตริย์ของชาวยิว ขอจงทรงพระเจริญ!” และพวกเขาตบพระพักตร์ของพระองค์ ปีลาตออกมาอีกครั้งหนึ่งและกล่าวกับพวกยิวว่า “ดูเถิด เรากำลังนำตัวเขาออกมาให้ท่าน ท่านจะได้รู้ว่าเราไม่พบว่าเขาทำอะไรผิดตามข้อกล่าวหา” เมื่อพระเยซูออกมา พระองค์ทรงสวมมงกุฎหนามและเสื้อคลุมสีม่วง ปีลาตกล่าวกับพวกเขาว่า “เขาอยู่ที่นี่แล้ว!” ทันทีที่พวกหัวหน้าปุโรหิตและเจ้าหน้าที่เห็นพระองค์ก็ร้องตะโกนว่า “ตรึงกางเขน! ตรึงกางเขน!” แต่ปีลาตตอบว่า “พวกท่านรับตัวเขาไปตรึงที่ไม้กางเขนเถิด สำหรับเรา เราไม่พบว่าเขาทำอะไรผิด” พวกยิวยืนกรานว่า “เรามีบทบัญญัติและตามบทบัญญัตินั้นเขาต้องตายเพราะเขาอ้างตัวเป็นพระบุตรของพระเจ้า” เมื่อปีลาตได้ยินเช่นนี้ก็ยิ่งตกใจกลัว จึงกลับเข้ามาในวังและทูลถามพระเยซูว่า “ท่านมาจากไหน?” แต่พระเยซูไม่ได้ตรัสตอบ ปีลาตกล่าวว่า “ท่านไม่ยอมพูดกับเราหรือ? ท่านไม่รู้หรือว่าเรามีอำนาจที่จะปล่อยตัวท่านหรือตรึงท่านให้ตายที่ไม้กางเขนก็ได้?” พระเยซูตรัสตอบว่า “ท่านไม่อาจมีอำนาจเหนือเราหากเบื้องบนไม่ประทานลงมา ฉะนั้นผู้ที่นำตัวเรามามอบให้ท่านก็มีความผิดบาปร้ายแรงกว่า” นับแต่นั้นปีลาตก็หาทางปล่อยพระเยซูแต่พวกยิวตะโกนไม่หยุดว่า “ถ้าท่านปล่อยชายคนนี้ท่านก็ไม่ใช่มิตรของซีซาร์ ใครที่อ้างตัวเป็นกษัตริย์ก็เป็นปฏิปักษ์กับซีซาร์” เมื่อปีลาตได้ยินเช่นนั้นก็นำตัวพระเยซูออกมาและนั่งบนบัลลังก์พิพากษาในบริเวณที่เรียกกันว่า ลานศิลา (ภาษาอารเมคเรียกว่า กับบาธา) วันนั้นเป็นวันเตรียมของสัปดาห์ปัสกา เป็นเวลาราวเที่ยงวัน ปีลาตกล่าวกับพวกยิวว่า “นี่คือกษัตริย์ของพวกท่าน” แต่พวกเขาร้องตะโกนว่า “เอาตัวเขาไป! เอาตัวเขาไป! ตรึงเขาที่ไม้กางเขน!” ปีลาตถามว่า “จะให้เราตรึงกษัตริย์ของท่านที่ไม้กางเขนหรือ?” พวกหัวหน้าปุโรหิตตอบว่า “นอกจากซีซาร์แล้วเราไม่มีกษัตริย์” ในที่สุดปีลาตก็มอบพระเยซูให้พวกเขาไปตรึงที่ไม้กางเขน ดังนั้นพวกทหารจึงคุมตัวพระเยซูไป พระองค์ทรงแบกกางเขนของพระองค์ไปยังสถานแห่งหัวกระโหลก (ซึ่งในภาษาอารเมคเรียกว่า กลโกธา) ที่นั่นเขาตรึงพระองค์บนไม้กางเขนกับอีกสองคนขนาบข้างและพระเยซูทรงอยู่ตรงกลาง ปีลาตให้เขียนป้ายติดไว้บนกางเขนว่า เยซูชาวนาซาเร็ธ กษัตริย์ของชาวยิว พวกยิวหลายคนได้อ่านป้ายนี้เพราะที่ซึ่งพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนนั้นอยู่ใกล้กรุงและป้ายนั้นเขียนไว้เป็นภาษาอารเมค ลาติน และกรีก พวกหัวหน้าปุโรหิตของชาวยิวจึงคัดค้านปีลาตว่า “อย่าเขียนว่า ‘กษัตริย์ของชาวยิว’ แต่เขียนว่าชายคนนี้อ้างตัวเป็นกษัตริย์ของชาวยิว” ปีลาตตอบว่า “สิ่งที่เราได้เขียนแล้ว ก็ให้เป็นไปตามนั้น” เมื่อพวกทหารตรึงพระเยซูที่ไม้กางเขนแล้วก็นำฉลองพระองค์มาแบ่งเป็นสี่ส่วน ได้ไปคนละส่วน เหลือไว้แต่ฉลองพระองค์ชั้นในซึ่งไม่มีตะเข็บทอเป็นผืนเดียวตั้งแต่บนจรดล่าง เขาพูดกันว่า “อย่าฉีกแบ่งเลย ให้เราจับฉลากกันว่าใครจะได้เสื้อตัวนี้” ทั้งนี้เพื่อจะเป็นจริงตาม พระคัมภีร์ที่ว่า “เขาทั้งหลายเอาเครื่องนุ่งห่มของข้าพระองค์มาแบ่งกัน และเอาเสื้อผ้าของข้าพระองค์มาจับฉลาก” พวกทหารทำเช่นนี้แหละ ผู้ที่ยืนอยู่ข้างไม้กางเขนของพระเยซูได้แก่มารดาของพระองค์ น้าสาวของพระองค์ มารีย์ภรรยาของโคลปัส และมารีย์ชาวมักดาลา เมื่อพระเยซูทรงเห็นมารดาของพระองค์และสาวกที่ทรงรักยืนอยู่ใกล้ๆ พระองค์จึงตรัสกับมารดาของพระองค์ว่า “หญิงที่รักเอ๋ย นี่คือบุตรชายของท่าน” และตรัสกับสาวกคนนั้นว่า “นี่คือมารดาของท่าน” ตั้งแต่นั้นมาสาวกคนนี้ก็รับมารดาของพระองค์มาอยู่ที่บ้านของตน

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 19

ยอห์น 19:1-27 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ปีลาต​จึง​เอา​ตัว​พระ​เยซู​ไป​และ​สั่ง​ให้​คน​เฆี่ยน​พระ​องค์ พวก​ทหาร​สาน​มงกุฎ​หนาม​แล้ว​สวม​ไว้​บน​ศีรษะ​ของ​พระ​องค์ และ​คลุม​กาย​ด้วย​เสื้อ​ตัว​นอก​สี​ม่วง แล้ว​พวก​เขา​ก็​มา​หา​พระ​องค์ พูด​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก​ว่า “ไชโย ขอ​ต้อนรับ​กษัตริย์​ของ​ชาว​ยิว” แล้ว​เขา​ก็​ตบ​หน้า​พระ​องค์ ปีลาต​ก็​ออก​ไป​อีก​และ​พูด​กับ​เขา​เหล่า​นั้น​ว่า “ดู​เถิด เรา​จะ​เอา​ตัว​เขา​ออก​มา​ให้​พวก​ท่าน เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​รู้​ว่า เรา​เห็น​ว่า​เขา​ไม่​มี​ความ​ผิด” พระ​เยซู​ซึ่ง​สวม​มงกุฎ​หนาม​และ​เสื้อ​ตัว​นอก​สีม่วง​ก็​ได้​ออก​มา ปีลาต​พูด​กับ​เขา​เหล่า​นั้น​ว่า “นี่​ไง ชาย​คน​นั้น” ดังนั้น​เมื่อ​เหล่า​มหา​ปุโรหิต​และ​เจ้าหน้าที่​เห็น​พระ​องค์ พวก​เขา​จึง​ร้อง​เสียงดัง​ว่า “ให้​ตรึง​เขา​เสีย ให้​ตรึง​เขา​เสีย” ปีลาต​พูด​กับ​เขา​เหล่า​นั้น​ว่า “เอา​ตัว​เขา​ไป แล้ว​ก็​ตรึง​เขา​เอง​เถิด เพราะ​เรา​เห็น​ว่า​เขา​ไม่​มี​ความ​ผิด” พวก​ชาว​ยิว​ตอบ​เขา​ว่า “ตาม​กฎ​ของ​พวก​เรา​แล้ว เขา​ควร​ตาย เพราะ​ว่า​เขา​ตั้งตน​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า” เมื่อ​ปีลาต​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ตกใจ​กลัว​ยิ่ง​ขึ้น จึง​เข้า​ไป​ใน​วัง​อีก แล้ว​พูด​กับ​พระ​เยซู​ว่า “ท่าน​มา​จาก​ไหน” พระ​เยซู​ไม่​ตอบ ปีลาต​จึง​พูด​กับ​พระ​องค์​ว่า “ท่าน​ไม่​พูด​กับ​เรา​หรือ ไม่​รู้​หรือ​ว่า​เรา​มี​สิทธิ​อำนาจ​ที่​จะ​ปล่อย​ท่าน และ​ก็​มี​สิทธิ​อำนาจ​ที่​จะ​ตรึง​ท่าน” พระ​เยซู​ตอบ​ว่า “ท่าน​ไม่​มี​สิทธิ​อำนาจ​เหนือ​เรา นอกจาก​ว่า​จะ​ได้​รับ​มา​จาก​เบื้อง​บน ด้วย​เหตุ​นี้​เอง​คน​ที่​มอบ​เรา​ไว้​กับ​ท่าน​จึง​มี​บาป​ยิ่ง​กว่า​ท่าน” ปีลาต​พยายาม​อย่าง​ยิ่ง​ที่​จะ​ปลดปล่อย​พระ​องค์​ไป แต่​ชาว​ยิว​ร้อง​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​ว่า “ถ้า​ท่าน​ปลดปล่อย​ชาย​คน​นี้ ท่าน​ก็​ไม่​ใช่​มิตร​ของ​ซีซาร์ คน​ที่​ตั้งตน​เป็น​กษัตริย์​ถือ​ว่า​เป็น​ปฏิปักษ์​ต่อ​ซีซาร์” เมื่อ​ปีลาต​ได้ยิน​ดังนั้น​จึง​พา​พระ​เยซู​ออก​มา และ​นั่ง​ลง​บน​ที่​นั่ง​ของ​ผู้​ตัดสิน​ความ ที่​เรียก​ว่า ลาน​ปู​ศิลา หรือ​ตาม​ภาษา​ฮีบรู​คือ กับบาธา วัน​นั้น​เป็น​วัน​จัดเตรียม​สำหรับ​เทศกาล​ปัสกา เวลา​ประมาณ 6 โมง​เช้า​ปีลาต​พูด​กับ​ชาว​ยิว​ว่า “นี่​ไง กษัตริย์​ของ​ท่าน” พวก​เขา​จึง​ร้อง​เสียงดัง​ว่า “เอา​ตัว​เขา​ไป​เสีย เอา​ตัว​เขา​ไป​เสีย ให้​ตรึง​เขา​เสีย” ปีลาต​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “เรา​ควร​จะ​ตรึง​กษัตริย์​ของ​ท่าน​หรือ” บรรดา​มหา​ปุโรหิต​ตอบ​ว่า “เรา​ไม่​มี​กษัตริย์​อื่น​นอกจาก​ซีซาร์” จาก​นั้น​ปีลาต​จึง​มอบ​พระ​องค์​ให้​เขา​เหล่า​นั้น​นำ​พระ​องค์​ไป​ตรึง​บน​ไม้​กางเขน พวก​เขา​จึง​พา​พระ​เยซู​ไป ให้​พระ​องค์​แบก​ไม้​กางเขน​ของ​พระ​องค์​เอง ออก​ไป​ยัง​สถานที่​ซึ่ง​เรียก​ว่า ที่​ของ​กะโหลก​ศีรษะ​หรือ​เรียก​เป็น​ภาษา​ฮีบรู​ว่า กลโกธา ที่​นั้น​เอง​ที่​พวก​เขา​ตรึง​พระ​องค์​พร้อม​กับ​ชาย​อื่น​อีก 2 คน​โดย​ให้​พระ​เยซู​อยู่​กลาง ปีลาต​เขียน​ป้าย​ติด​ไว้​ที่​ไม้​กางเขน​ด้วย​ว่า “พระ​เยซู​แห่ง​เมือง​นาซาเร็ธ กษัตริย์​ของ​ชาว​ยิว” ชาว​ยิว​จำนวน​มาก​อ่าน​ป้าย​นี้ เพราะ​ที่​ที่​เขา​ตรึง​พระ​เยซู​อยู่​ใกล้​ตัว​เมือง และ​เขียน​ไว้​เป็น​ภาษา​ฮีบรู ภาษา​ลาติน และ​ภาษา​กรีก ดังนั้น​พวก​มหา​ปุโรหิต​ของ​ชาว​ยิว​พูด​กับ​ปีลาต​ว่า “อย่า​เขียน​ว่า ‘กษัตริย์​ของ​ชาว​ยิว’ แต่​ให้​เขียน​ตาม​ที่​เขา​ได้​กล่าว​ไว้​ว่า ‘เรา​คือ​กษัตริย์​ของ​ชาว​ยิว’” ปีลาต​ตอบ​ว่า “สิ่งใด​ที่​เรา​เขียน​แล้ว ก็​แล้ว​ไป” เมื่อ​พวก​ทหาร​ได้​ตรึง​พระ​เยซู​บน​ไม้​กางเขน​แล้ว ก็​เอา​เสื้อ​ตัว​นอก​ของ​พระ​องค์​มา​แบ่ง​ออก​เป็น 4 ส่วน​ให้​ทหาร​คน​ละ​ส่วน และ​ที่​เหลือ​เป็น​เสื้อ​ตัว​ใน ทอ​เป็น​ชิ้น​เดียว​โดย​ไม่​มี​ตะเข็บ เขา​เหล่า​นั้น​จึง​พูด​โต้ตอบ​กัน​ว่า “อย่า​ฉีก​เสื้อ​ตัว​นั้น​เลย แต่​มา​จับ​ฉลาก​กัน​และ​ดู​ว่า​ใคร​จะ​ได้​ไป” ซึ่ง​เป็น​ไป​ตาม​พระ​คัมภีร์​ที่​ว่า “พวก​เขา​แบ่ง​ปัน​เสื้อ​ตัว​นอก​ของ​ข้าพเจ้า​ใน​หมู่​พวก​เขา แล้ว​เขา​จับ​ฉลาก​เอา​เสื้อ​ตัว​ใน​ของ​ข้าพเจ้า​ไป” พวก​ทหาร​ก็​ได้​ทำ​ตาม​นั้น บรรดา​ผู้​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​ไม้​กางเขน​ของ​พระ​เยซู​มี มารดา​กับ​น้าสาว​ของ​พระ​องค์ มารีย์​ภรรยา​ของ​เคลโอปัส และ​มารีย์​ชาว​มักดาลา เมื่อ​พระ​เยซู​มองเห็น​มารดา​ของ​พระ​องค์​และ​สาวก​ที่​พระ​องค์​รัก​ยืน​อยู่​ใกล้ๆ จึง​กล่าว​กับ​มารดา​ของ​พระ​องค์​ว่า “หญิง​เอ๋ย ดู​เถิด บุตร​ของ​ท่าน” แล้ว​พระ​องค์​กล่าว​กับ​สาวก​คน​นั้น​ว่า “ดู​เถิด มารดา​ของ​เจ้า” ครั้น​แล้ว​สาวก​ผู้​นั้น​ก็​รับ​มารดา​ของ​พระ​องค์​เข้า​มา​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​ตน

แบ่งปัน
อ่าน ยอห์น 19