ยอห์น 16:25-33
ยอห์น 16:25-33 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
“เราพูดเรื่องนี้กับพวกท่านโดยใช้เรื่องเปรียบเทียบ วันนั้นจะมาถึงเมื่อเราจะไม่พูดกับท่านโดยใช้เรื่องเปรียบเทียบอีก แต่จะบอกท่านถึงเรื่องพระบิดาอย่างแจ่มแจ้ง ในวันนั้นพวกท่านจะทูลขอในนามของเรา และเราจะไม่บอกท่านว่าเราจะอ้อนวอนพระบิดาเพื่อท่าน เพราะว่าพระบิดาเองก็ทรงรักพวกท่าน เพราะท่านรักเราและเชื่อว่าเรามาจากพระเจ้า เรามาจากพระบิดาและเข้ามาในโลกแล้ว เราจะจากโลกนี้ไปหาพระบิดาอีก” พวกสาวกของพระองค์ทูลว่า “ตอนนี้พระองค์ตรัสอย่างแจ่มแจ้ง ไม่ได้ตรัสโดยใช้เรื่องเปรียบเทียบ ตอนนี้พวกข้าพระองค์รู้แล้วว่าพระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง และไม่จำเป็นที่ใครจะทูลถามพระองค์อีก เพราะเหตุนี้พวกข้าพระองค์จึงเชื่อว่าพระองค์ทรงมาจากพระเจ้า” พระเยซูตรัสตอบพวกเขาว่า “ตอนนี้พวกท่านเชื่อแล้วหรือ? นี่แน่ะ วันนั้นจะมา และเวลานั้นก็มาถึงแล้ว ที่พวกท่านจะต้องกระจัดกระจายไปยังที่อยู่ของท่านแต่ละคนและจะทิ้งเราไว้คนเดียว แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะพระบิดาสถิตอยู่กับเรา เราบอกเรื่องนี้กับพวกท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงมีใจกล้าเถิด เพราะว่าเราชนะโลกแล้ว”
ยอห์น 16:25-33 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
“แม้เราเคยพูดเป็นโวหารเปรียบเทียบมาตลอดแต่อีกไม่นานเราจะไม่ใช้ภาษาแบบนี้อีกต่อไป แต่เราจะบอกพวกท่านตรงๆ เกี่ยวกับพระบิดาของเรา ในวันนั้นพวกท่านจะทูลขอพระบิดาในนามของเรา เราไม่ได้พูดว่าเราจะทูลขอพระบิดาแทนพวกท่าน เปล่าเลย พระบิดาเองทรงรักพวกท่าน เพราะพวกท่านรักเราและเชื่อว่าเรามาจากพระเจ้า เรามาจากพระบิดาและเข้ามาในโลก บัดนี้เรากำลังจะไปจากโลกและกลับไปหาพระบิดา” แล้วเหล่าสาวกของพระเยซูจึงทูลว่า “บัดนี้พระองค์ตรัสตรงๆ โดยไม่มีโวหารเปรียบเทียบ เดี๋ยวนี้พวกข้าพระองค์รู้ว่าพระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง และพระองค์ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใดมาทูลถามพระองค์ สิ่งนี้ทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเชื่อว่าพระองค์ทรงมาจากพระเจ้า” พระเยซูตรัสว่า “ในที่สุดพวกท่านก็เชื่อ! แต่วาระนั้นกำลังจะมาและได้มาถึงแล้ว เมื่อพวกท่านแต่ละคนจะกระจัดกระจายไปยังบ้านของตน พวกท่านจะทิ้งเราไว้คนเดียว กระนั้นเราก็ไม่ได้อยู่แต่ลำพังเพราะพระบิดาของเราสถิตกับเรา “เราบอกสิ่งเหล่านี้แก่พวกท่านเพื่อพวกท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้พวกท่านจะมีความทุกข์ยากแต่จงชื่นใจเถิด! เราได้ชนะโลกแล้ว”
ยอห์น 16:25-33 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
“เราได้เล่าเรื่องเหล่านี้โดยใช้เรื่องเปรียบเทียบ อีกไม่นานเราจะไม่ใช้เรื่องเปรียบเทียบแล้ว แต่เราจะบอกพวกคุณตรงๆเลยเกี่ยวกับพระบิดา ในวันนั้นพวกคุณจะไม่ต้องขออะไรโดยผ่านทางเราอีกแล้ว คุณขอจากพระเจ้าได้โดยตรง เพราะคุณเป็นคนของเรา เพราะพระบิดาเองก็รักพวกคุณ พระองค์รักพวกคุณทุกคนเพราะว่าคุณรักเรา และเชื่อว่าเรามาจากพระเจ้า เรามาจากพระบิดา และเข้ามาในโลกนี้ ตอนนี้เรากำลังจะไปจากโลกนี้เพื่อกลับไปหาพระบิดา” แล้วพวกศิษย์ก็พูดว่า “ดูสิ อาจารย์พูดกับเราตรงๆโดยไม่ได้ใช้เรื่องเปรียบเทียบแล้ว ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าอาจารย์รู้ทุกอย่าง อาจารย์รู้ว่าจะตอบอะไรก่อนที่เราจะถามเสียอีก ถึงไม่ถาม อาจารย์ก็รู้อยู่แล้วว่าเราคิดอะไร แค่นี้เราก็เชื่อแล้วว่าอาจารย์มาจากพระเจ้า” พระเยซูตอบพวกเขาว่า “ในที่สุดพวกคุณก็เชื่อแล้วหรือ คอยดูสิ เวลากำลังจะมาถึง ที่จริงเวลามาถึงแล้วด้วยซ้ำ เป็นเวลาที่พวกคุณทุกคนจะหนีกระเจิดกระเจิงไปทางใครทางมัน และจะทิ้งเราไว้คนเดียว แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียวหรอก เพราะพระบิดาอยู่กับเราด้วย เราพูดเรื่องพวกนี้เพื่อว่าคุณจะได้มีสันติสุขเพราะคุณมีส่วนร่วมในตัวเรา ในโลกนี้คุณจะมีปัญหาเดือดร้อนสารพัด แต่ให้เข้มแข็งไว้ เพราะเราชนะโลกแล้ว”
ยอห์น 16:25-33 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
เราพูดเรื่องนี้กับท่านเป็นคำอุปมา แต่วันหนึ่งเราจะไม่พูดกับท่านเป็นคำอุปมาอีก แต่จะบอกท่านถึงเรื่องพระบิดาอย่างแจ่มแจ้ง ในวันนั้นพวกท่านจะทูลขอในนามของเรา และเราจะไม่บอกท่านว่า เราจะอ้อนวอนพระบิดาเพื่อท่าน เพราะว่าพระบิดาเองก็ทรงรักท่านทั้งหลาย เพราะท่านรักเราและเชื่อว่าเรามาจากพระเจ้า เรามาจากพระบิดาและได้เข้ามาในโลกแล้ว เราจะจากโลกนี้ไปถึงพระบิดาอีก” เหล่าสาวกของพระองค์ทูลพระองค์ว่า “ดูเถิด บัดนี้พระองค์ตรัสอย่างแจ่มแจ้งแล้ว มิได้ตรัสเป็นคำอุปมา เดี๋ยวนี้พวกข้าพระองค์รู้แน่ว่า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง และไม่จำเป็นที่ผู้ใดจะทูลถามพระองค์อีก ด้วยเหตุนี้ข้าพระองค์เชื่อว่าพระองค์ทรงมาจากพระเจ้า” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายเชื่อแล้วหรือ ดูเถิด เวลาจะมา เวลานั้นก็ถึงแล้ว ที่ท่านจะต้องกระจัดกระจายไปยังที่ของท่านทุกคน และจะทิ้งเราไว้แต่ผู้เดียว แต่เราหาได้อยู่ผู้เดียวไม่ เพราะพระบิดาทรงสถิตอยู่กับเรา เราได้บอกเรื่องนี้แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงชื่นใจเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว”
ยอห์น 16:25-33 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
<<เราพูดเรื่องนี้กับท่านเป็นคำอรรถ วันหนึ่งเราจะไม่พูดกับท่านเป็นคำอรรถอีก แต่จะบอกท่านถึงเรื่องพระบิดาอย่างแจ่มแจ้ง ในวันนั้นพวกท่านจะทูลขอในนามของเรา และเราจะไม่บอกท่านว่า เราจะอ้อนวอนพระบิดาเพื่อท่าน เพราะว่าพระบิดาเองก็ทรงรักท่านทั้งหลาย เพราะท่านรักเราและเชื่อว่าเรามาจากพระบิดา เรามาจากพระบิดาและได้เข้ามาในโลกแล้ว เราจะจากโลกนี้ไปถึงพระบิดาอีก>> เหล่าสาวกของพระองค์ทูลว่า <<นี่แน่ะ บัดนี้พระองค์ตรัสอย่างแจ่มแจ้งแล้ว มิได้ตรัสเป็นคำอรรถ เดี๋ยวนี้พวกข้าพระองค์รู้แน่ว่า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง และไม่จำเป็นที่ผู้ใดจะทูลถามพระองค์อีก ด้วยเหตุนี้ข้าพระองค์เชื่อว่าพระองค์ทรงมาจากพระเจ้า>> พระเยซูตรัสตอบเขาว่า <<เดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายเชื่อแล้วหรือ ดูเถิด เวลาจะมา และเวลานั้นก็ถึงแล้ว ที่ท่านจะต้องกระจัดกระจายไปยังที่อยู่ของท่านทุกคน และจะทิ้งเราไว้แต่ผู้เดียว แต่เราหาได้อยู่ผู้เดียวไม่ เพราะพระบิดาทรงสถิตอยู่กับเรา เราได้บอกเรื่องนี้แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงชื่นใจเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว>>
ยอห์น 16:25-33 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
เราได้พูดถึงสิ่งเหล่านี้กับเจ้าเป็นความเปรียบ จะถึงเวลาที่เราไม่ต้องพูดกับพวกเจ้าเป็นความเปรียบอีกต่อไปแล้ว และบอกเรื่องของพระบิดาอย่างแจ่มแจ้งได้ ในวันนั้นพวกเจ้าจะขอในนามของเรา และไม่ได้หมายความว่าเราจะขอจากพระบิดาให้เจ้า ด้วยว่าพระบิดาเองรักพวกเจ้า เพราะเจ้ารักเราและเชื่อว่าเรามาจากพระบิดา เรามาจากพระบิดาและเข้ามาในโลก และบัดนี้เรากำลังจะจากโลกนี้ไปหาพระบิดา” บรรดาสาวกของพระองค์พูดว่า “ดูเถิด บัดนี้พระองค์กล่าวอย่างแจ่มแจ้ง ไม่ได้กล่าวเป็นความเปรียบ บัดนี้พวกเราเห็นแล้วว่าพระองค์ทราบถึงทุกสิ่ง และไม่จำเป็นต้องมีผู้ใดซักถามพระองค์ ด้วยเหตุนี้พวกเราเชื่อว่าพระองค์มาจากพระเจ้า” พระเยซูตอบพวกเขาว่า “บัดนี้พวกเจ้าเชื่อแล้วหรือ ดูเถิด จวนจะถึงเวลา และในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วที่พวกเจ้าจะต้องกระจัดกระจายไปยังบ้านของตน และทิ้งเราไว้เพียงลำพัง แต่อย่างไรก็ตามเราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เพราะว่าพระบิดาอยู่กับเรา เราพูดถึงสิ่งเหล่านี้กับเจ้าเพื่อเจ้าจะได้มีสันติสุขในเรา พวกเจ้าจะประสบกับความทุกข์ยากในโลกนี้ แต่จงทำใจให้กล้าหาญเถิด เรามีชัยชนะต่อโลกแล้ว”