ผู้วินิจฉัย 13:1-25

ผู้วินิจฉัย 13:1-25 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ชาว​อิสราเอล​ได้​ทำ​ชั่ว​ใน​สายตา​ของ​พระยาห์เวห์​อีก พระองค์​ก็​เลย​มอบ​พวก​เขา​ให้​ตก​ไป​อยู่​ใน​กำ​มือ​ของ​ชาว​ฟีลิสเตีย​สี่สิบ​ปี มี​ชาย​เผ่า​ดาน​คน​หนึ่ง​ชื่อ​มาโนอาห์ มา​จาก​เมือง​โศราห์ เมีย​ของ​เขา​มี​ลูก​ไม่​ได้​เพราะ​เป็น​หมัน ทูตสวรรค์​ของ​พระยาห์เวห์​ได้​มา​ปรากฏ​ตัว​ต่อหน้า​นาง​และ​พูด​ว่า “ถึง​เจ้า​จะ​เป็น​หมัน​ไม่​มี​ลูก แต่​เจ้า​ก็​จะ​ตั้ง​ท้อง​และ​เกิด​ลูกชาย ต่อ​จาก​นี้​ไป เจ้า​ต้อง​ระวัง อย่า​ดื่ม​เหล้า​องุ่น เบียร์ รวมทั้ง​ไม่​กิน​ของ​ที่​ทำ​ให้​เป็น​มลทิน จริงๆ​แล้ว​เจ้า​ตั้ง​ท้อง​อยู่​และ​จะ​คลอด​ลูกชาย อย่า​ให้​มีด​โกน​โดน​หัว​ของ​เขา เพราะ​เด็ก​คน​นี้​จะ​เป็น​พวก​นาศีร์ อุทิศ​ให้​พระเจ้า​ตั้งแต่​ยัง​ไม่​เกิด เขา​จะ​เป็น​คน​หนึ่ง​ที่​ช่วยกู้​ชาว​อิสราเอล​ให้​พ้น​จาก​เงื้อม​มือ​ของ​ชาว​ฟีลิสเตีย” จาก​นั้น​นาง​ได้​ไป​เล่า​ให้​สามี​ฟัง​ว่า “มี​คน​ของ​พระเจ้า​มา​หา​ฉัน หน้าตา​ท่าทาง​เขา​เหมือน​ทูตสวรรค์​ของ​พระเจ้า น่ากลัว​มาก แต่​ฉัน​ไม่​ได้​ถาม​ว่า​เขา​มา​จาก​ไหน เขา​เอง​ก็​ไม่​ได้​บอก​ชื่อ​ของ​เขา​ด้วย แต่​เขา​พูด​กับ​ฉัน​ว่า ‘เจ้า​ตั้ง​ท้อง​อยู่​และ​จะ​คลอด​ลูกชาย จาก​นี้​ไป​เจ้า​ต้อง​ไม่​ดื่ม​เหล้า​องุ่น เบียร์ หรือ​กิน​ของ​ที่​เป็น​มลทิน เพราะ​ว่า​เด็ก​ชาย​คน​นี้​จะ​มา​เป็น​นาศีร์ อุทิศ​ให้​กับ​พระเจ้า​ตั้งแต่​อยู่​ใน​ท้อง​แม่​จน​วัน​ตาย’” แล้ว​มาโนอาห์​ได้​อธิษฐาน​ต่อ​พระยาห์เวห์​ว่า “ข้า​แต่​พระยาห์เวห์ ขอโทษ​ที​พระองค์ ขอ​รบกวน​พระองค์​ช่วย​ส่ง​ชาย​คน​นั้น​มา​หา​พวก​เรา​อีก​ครั้ง​เถิด แล้ว​ให้​เขา​สอน​พวก​เรา​ว่า​จะ​ต้อง​ทำ​อะไร​ให้​กับ​เด็ก​ชาย​ที่​กำลัง​จะ​เกิด​มา” พระเจ้า​ก็​ทำ​ตาม​ที่​มาโนอาห์​ขอ และ​ทูต​ของ​พระเจ้า​ก็​ได้​มาหา​ภรรยา​ของ​เขา​อีก​ครั้ง ตอน​ที่​เธอ​กำลัง​นั่ง​อยู่​ใน​ท้องทุ่ง แต่​ว่า​มาโนอาห์​สามี​ของ​นาง​ไม่​ได้​อยู่​กับ​นาง เธอ​จึง​รีบ​วิ่ง​ไป​บอก​สามี นาง​บอก​เขา​ว่า “ดู​สิ ชาย​คน​ที่​มา​หา​ฉัน​วัน​ก่อน ได้​มา​ปรากฏ​ตัว​ให้​ฉัน​เห็น” มาโนอาห์​เลย​ลุก​ตาม​ภรรยา​ไป​พบ​ทูต​ของ​พระเจ้า​และ​พูด​ว่า “ท่าน​คือ​คน​ที่​เคย​พูด​กับ​หญิง​คน​นี้​ใช่​ไหม” ทูต​ของ​พระเจ้า​ตอบ​ว่า “ใช่ เรา​เอง” มาโนอาห์​ถาม​ว่า “เมื่อ​เรื่อง​ที่​ท่าน​พูด​นั้น​เกิด​ขึ้น​จริง จะ​มี​กฎเกณฑ์​อะไร​ให้​กับ​เด็ก​คน​นี้​บ้าง และ​งาน​ของ​เขา​คือ​อะไร” ทูต​ของ​พระยาห์เวห์​ตอบ​มาโนอาห์​ว่า “เมีย​เจ้า​จะ​ต้อง​ทำ​ตาม​ทุก​อย่าง​ที่​เรา​ได้​บอก​เธอ​ไป​แล้ว​อย่าง​เคร่งครัด เธอ​จะ​ต้อง​ไม่​กิน​อะไร​ก็​ตาม​ที่​เกิด​จาก​ต้น​องุ่น ไม่​ดื่ม​เหล้า​องุ่น เบียร์ หรือ​อะไร​ก็​ตาม​ที่​เป็น​มลทิน เธอ​ต้อง​ทำ​ตาม​ทุก​อย่าง​ที่​เรา​ได้​สั่ง​เธอ​ไว้​แล้ว​อย่าง​เคร่งครัด” แล้ว​มาโนอาห์​ได้​พูด​กับ​ทูต​ของ​พระยาห์เวห์​ว่า “รอ​เดี๋ยว​นะ เรา​จะ​ไป​เตรียม​อาหาร​จาก​ลูก​แพะ​ตัว​หนึ่ง​ให้​ท่าน​กิน” แต่​ทูต​ของ​พระยาห์เวห์​ตอบ​มาโนอาห์​ว่า “ถึง​เจ้า​เรียก​ให้​เรา​รอ เรา​ก็​จะ​ไม่​กิน​อาหาร​ของ​เจ้า​หรอก แต่​ถ้า​เจ้า​จะ​จัด​เครื่อง​เผา​บูชา ก็​ถวาย​มัน​ให้​กับ​พระยาห์เวห์​เถิด” (เพราะ​มาโนอาห์​ไม่​รู้​ว่า​ชาย​คน​นี้​เป็น​ทูต​ของ​พระยาห์เวห์) แล้ว​มาโนอาห์​ได้​ถาม​ทูต​ของ​พระยาห์เวห์​ว่า “ท่าน​ชื่อ​อะไร เพราะ​เมื่อ​เรื่อง​ที่​ท่าน​พูด​นี้​เกิด​ขึ้น​จริง เรา​จะ​ได้​ให้​เกียรติ​กับ​ท่าน” ทูต​ของ​พระยาห์เวห์​ตอบ​เขา​ว่า “ท่าน​ถาม​ชื่อ​เรา​ทำไม ชื่อ​ของ​เรา​วิเศษ​เกิน​กว่า​ที่​ท่าน​จะ​เข้าใจ​ได้” มาโนอาห์​ก็​เลย​เอา​แพะ​หนุ่ม​กับ​เครื่อง​บูชา​จาก​เมล็ด​พืช เผา​บน​หิน​ให้​กับ​พระยาห์เวห์​ผู้​ทำ​เรื่อง​วิเศษ ใน​ขณะ​ที่​มาโนอาห์​กับ​ภรรยา​กำลัง​ดู​อยู่ เปลว​ไฟ​ได้​ลุก​ขึ้น​จาก​แท่น​บูชา ทูต​ของ​พระยาห์เวห์​ได้​ลอย​ตาม​เปลว​ไฟ​ที่​ลุก​จาก​แท่น​บูชา​นั้น เมื่อ​มาโนอาห์​และ​ภรรยา​เห็น​อย่าง​นั้น พวก​เขา​จึง​ได้​ก้มกราบ​ลง​กับ​พื้น จาก​นั้น​ทูต​ของ​พระยาห์เวห์​ก็​ไม่​เคย​ปรากฏ​ตัว​ให้​มาโนอาห์​และ​ภรรยา​ได้​เห็น​อีก​เลย มาโนอาห์​ถึง​ได้​รู้​ว่า​เขา​เป็น​ทูต​ของ​พระยาห์เวห์ มาโนอาห์​พูด​กับ​ภรรยา​ว่า “เรา​ต้อง​ตาย​แน่ เพราะ​เรา​ได้​เห็น​พระเจ้า” แต่​ภรรยา​ของ​เขา​ตอบ​ว่า “ถ้า​พระยาห์เวห์​ต้องการ​ฆ่า​เรา พระองค์​คงจะ​ไม่​รับ​เครื่อง​เผา​บูชา​และ​เครื่อง​บูชา​จาก​เมล็ด​พืช​จาก​เรา และ​จะ​ไม่​แสดง​ปาฏิหาริย์ รวมทั้ง​บอก​สิ่ง​ต่างๆ​กับ​เรา​เมื่อ​กี้​นี้” นาง​ได้​คลอด​ลูกชาย นาง​ให้​เขา​ชื่อ​ว่า “แซมสัน” เด็ก​ก็​เจริญ​เติบโต​ขึ้น​เรื่อยๆ​และ​พระยาห์เวห์​ก็​อวยพร​เขา พระวิญญาณ​ของ​พระยาห์เวห์​เริ่ม​ทำ​งาน​ใน​ตัว​เขา​ที่​ค่าย​ของ​คน​เผ่า​ดาน ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​ระหว่าง​เมือง​โศราห์ กับ​เมือง​เอช-ทาโอล

ผู้วินิจฉัย 13:1-25 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

คนอิสราเอลได้ทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรพระยาห์เวห์อีก ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของคนฟีลิสเตีย 40 ปี มีชายคนหนึ่งเป็นชาวเมืองโศราห์คนเผ่าดาน ชื่อมาโนอาห์ ภรรยาของเขาเป็นหมันไม่มีบุตร ทูตของพระยาห์เวห์มาปรากฏแก่หญิงนั้น กล่าวแก่นางว่า “นี่แน่ะ เจ้าเป็นหมันไม่มีบุตร แต่เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย ฉะนั้นบัดนี้จงระวัง อย่าดื่มเหล้าองุ่น หรือของมึนเมา และอย่ากินของมลทินทุกอย่าง เพราะนี่แน่ะ เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย อย่าให้มีดโกนถูกศีรษะของเขา เพราะเด็กนั้นจะเป็นนาศีร์แด่พระเจ้าตั้งแต่เกิด และเขาจะเริ่มช่วยกู้คนอิสราเอลให้พ้นจากมือของคนฟีลิสเตีย” หญิงนั้นจึงไปบอกสามีว่า “คนของพระเจ้ามาหาฉัน ลักษณะภายนอกของท่านเหมือนทูตของพระเจ้าน่ากลัวนัก ฉันไม่ได้ถามท่านว่ามาจากไหน และท่านก็ไม่บอกชื่อของท่านแก่ฉัน แต่ท่านบอกฉันว่า ‘นี่แน่ะ เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย ฉะนั้นอย่าดื่มเหล้าองุ่นหรือของมึนเมา อย่ากินของมลทินทุกอย่าง เพราะเด็กนั้นจะเป็นนาศีร์แด่พระเจ้าตั้งแต่เกิดจนตาย’ ” แล้วมาโนอาห์ก็วิงวอนพระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่องค์เจ้านาย โปรดให้คนของพระเจ้าผู้ซึ่งพระองค์ทรงใช้มานั้นมาหาข้าพระองค์ทั้งสองอีก เพื่อสอนพวกข้าพระองค์ว่า ควรทำอย่างไรแก่เด็กที่จะเกิดมานั้น” และพระเจ้าทรงฟังเสียงของมาโนอาห์ และทูตของพระเจ้ามาหาหญิงนั้นอีกเมื่อนางนั่งอยู่ในทุ่งนา แต่มาโนอาห์สามีของนางไม่ได้อยู่ด้วย หญิงนั้นก็รีบวิ่งไปบอกสามีว่า “นี่แน่ะ บุรุษผู้มาหาฉันเมื่อวันก่อนนั้นได้มาปรากฏแก่ฉันอีก” มาโนอาห์ก็ลุกขึ้นตามภรรยาไป เมื่อมาถึงบุรุษนั้นเขาจึงกล่าวว่า “ท่านเป็นบุรุษผู้ที่พูดกับผู้หญิงคนนี้หรือ?” ผู้นั้นตอบว่า “เราเอง” มาโนอาห์จึงกล่าวว่า “เมื่อถ้อยคำของท่านเป็นจริงแล้ว ชีวิตของเด็กนั้นจะเป็นอย่างไร? และเขาจะทำอะไร?” และทูตของพระยาห์เวห์บอกแก่มาโนอาห์ว่า “ทุกสิ่งที่เราได้บอกหญิงนั้น ก็ให้นางใส่ใจปฏิบัติ อย่าให้นางกินสิ่งใดๆ ที่ได้มาจากเถาองุ่น อย่าให้นางดื่มเหล้าองุ่นหรือของมึนเมา อย่ากินของมลทินทุกอย่าง ให้นางปฏิบัติตามทุกสิ่งที่เราสั่งไว้” มาโนอาห์กล่าวกับทูตของพระยาห์เวห์ว่า “ขอท่านรออยู่ก่อน พวกเราจะไปเตรียมลูกแพะตัวหนึ่งให้ท่าน” ทูตของพระยาห์เวห์บอกมาโนอาห์ว่า “ถึงเจ้าจะให้เรารอ เราก็จะไม่กินอาหารของเจ้า แต่ถ้าเจ้าจะจัดเครื่องบูชาเผาทั้งตัว เจ้าจงถวายแด่พระยาห์เวห์” (เพราะว่ามาโนอาห์ไม่ทราบว่าท่านผู้นั้นเป็นทูตของพระยาห์เวห์) มาโนอาห์ถามทูตของพระยาห์เวห์ว่า “ท่านชื่ออะไร? เพื่อว่าเมื่อถ้อยคำของท่านเป็นจริงแล้ว เราจะได้ให้เกียรติท่าน” ทูตของพระยาห์เวห์บอกเขาว่า “ถามชื่อเราทำไม? ชื่อเราก็อัศจรรย์เกินความเข้าใจของเจ้า” มาโนอาห์ก็เอาลูกแพะกับธัญบูชามาถวายบนศิลาแด่พระยาห์เวห์ ผู้ทรงทำการอัศจรรย์ขณะที่มาโนอาห์และภรรยาเฝ้ามองอยู่ และเมื่อเปลวไฟจากแท่นบูชาพลุ่งขึ้นไปสวรรค์ ทูตของพระยาห์เวห์ก็ขึ้นไปตามเปลวไฟแห่งแท่นบูชาขณะเมื่อมาโนอาห์และภรรยาคอยดูอยู่ และพวกเขาก็ซบหน้าลงถึงดิน ทูตของพระยาห์เวห์ไม่ปรากฏแก่มาโนอาห์หรือแก่ภรรยาของเขาอีกเลย แล้วมาโนอาห์จึงทราบว่าผู้นั้นเป็นทูตของพระยาห์เวห์ และมาโนอาห์พูดกับภรรยาของตนว่า “เราคงจะตายแน่ๆ เพราะเราได้เห็นพระเจ้า” แต่ภรรยาบอกเขาว่า “ถ้าพระยาห์เวห์ทรงหมายจะฆ่าเราเสีย พระองค์คงจะไม่รับเครื่องบูชาเผาทั้งตัวและธัญบูชาจากมือของเรา หรือทรงสำแดงสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแก่เราหรือประกาศเรื่องเช่นนี้แก่เราในเวลานี้” หญิงนั้นก็คลอดบุตรชายและเรียกชื่อเขาว่าแซมสัน เด็กนั้นก็เติบโตขึ้น และพระยาห์เวห์ทรงอวยพรเขา และพระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็ทรงเริ่มเร้าใจเขา ที่มาหะเนห์ดานระหว่างเมืองโศราห์กับเมืองเอชทาโอล

ผู้วินิจฉัย 13:1-25 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

คนอิสราเอลก็กระทำชั่วในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์​อีก พระเยโฮวาห์จึงทรงมอบเขาไว้ในมือของคนฟีลิสเตียสี่​สิ​บปี มี​ชายคนหนึ่งเป็นชาวโศราห์คนครอบครัวดาน ชื่อมาโนอาห์ ภรรยาของท่านเป็นหมันไม่​มี​บุ​ตรเลย ทูตสวรรค์​ของพระเยโฮวาห์มาปรากฏแก่นางนั้น กล​่าวแก่นางว่า “​ดู​เถิด บัดนี้​เจ้​าเป็นหมันไม่​มี​บุตร แต่​เจ้​าจะตั้งครรภ์คลอดบุตรเป็นชาย ฉะนั้นบัดนี้​จงระวัง อย่าดื่มเหล้าองุ่น หรือเมรัย และอย่ารับประทานของมลทิน เพราะดู​เถิด เจ้​าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรเป็นชาย อย่าให้​มี​ดโกนถูกศีรษะของเขา เพราะเด็กคนนี้จะเป็นพวกนาศีร์​แด่​พระเจ้าตั้งแต่​อยู่​ในครรภ์ เขาจะเป็นคนเริ่มช่วยคนอิสราเอลให้พ้นจากเงื้อมมือของคนฟีลิสเตีย” ฝ่ายหญิงนั้นจึงไปบอกสามี​ว่า “​มี​บุ​รุษผู้​หน​ึ่งของพระเจ้ามาหาดิ​ฉัน ใบหน้าของท่านเหมือนใบหน้าทูตสวรรค์ของพระเจ้า น่ากลั​วน​ัก ดิ​ฉันไม่​ได้​ถามท่านว่าท่านมาจากไหน และท่านก็​ไม่​บอกชื่อของท่านแก่​ดิฉัน แต่​ท่านบอกดิฉั​นว​่า ‘​ดู​เถิด เจ้​าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย ฉะนั้นอย่าดื่มเหล้าองุ่นหรือเมรัย อย่ารับประทานของมลทิน เพราะเด็กนั้นจะเป็นพวกนาศีร์​แด่​พระเจ้าตั้งแต่​อยู่​ในครรภ์จนวันตาย’” แล​้วมาโนอาห์​ก็​วิงวอนพระเยโฮวาห์ทูลว่า “​โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอบ​ุรุษของพระเจ้าผู้ซึ่งพระองค์ทรงใช้​มาน​ั้นปรากฏแก่ข้าพระองค์ทั้งสองอีกครั้งหนึ่ง สั่งสอนข้าพระองค์​ว่า ข้าพระองค์ควรกระทำอย่างไรแก่เด็กที่จะเกิดมานั้น” และพระเจ้าทรงฟังเสียงของมาโนอาห์ และทูตสวรรค์ของพระเจ้ามาหาหญิงนั้​นอ​ีกเมื่อนางนั่งอยู่ในทุ่งนา แต่​มาโนอาห์​สามี​ของนางไม่​ได้​อยู่​ด้วย นางก็​รี​บวิ่งไปบอกสามี​ว่า “​ดู​เถิด บุ​รุษผู้​ที่​ปรากฏแก่​ดิ​ฉั​นว​ันนั้นได้มาปรากฏแก่​ดิ​ฉั​นอ​ีก” มาโนอาห์​ก็​ลุ​กขึ้นตามภรรยาไป เมื่อมาถึ​งบ​ุรุษผู้นั้นเขาจึงว่า “ท่านเป็นบุรุษผู้​ที่​พู​ดก​ับผู้หญิงคนนี้​หรือ​” ผู้​นั้นตอบว่า “เราเป็นผู้​นั้นแหละ​” มาโนอาห์จึงกล่าวว่า “​บัดนี้​ขอให้​ถ้อยคำของท่านเป็นความจริง ข้าพเจ้าทั้งสองควรสั่งสอนเด็กคนนั้นอย่างไร และข้าพเจ้าทั้งสองควรกระทำต่อเขาอย่างไร” และทูตสวรรค์ของพระเยโฮวาห์บอกแก่มาโนอาห์​ว่า “บรรดาสิ่งที่เราได้บอกแก่หญิงแล้​วน​ั้นให้นางระวังให้​ดี อย่าให้รับประทานสิ่งใดที่​ได้​มาจากเถาองุ่น อย่าให้นางดื่มเหล้าองุ่นหรือเมรัย อย่ารับประทานของมลทิน สิ​่งใดที่เราบัญชานางไว้​ให้​นางปฏิบั​ติ​ตามทุกประการ” มาโนอาห์​กล​่าวแก่​ทูตสวรรค์​ของพระเยโฮวาห์​ว่า “ขอท่านรออยู่​ก่อน ข้าพเจ้าทั้งสองจะไปเตรี​ยมล​ูกแพะตัวหนึ่งให้​ท่าน​” ทูตสวรรค์​ของพระเยโฮวาห์บอกมาโนอาห์​ว่า “ถึงเจ้าจะให้เรารอ เราจะไม่รับประทานอาหารของเจ้า แต่​ถ้าเจ้าจะจัดเครื่องเผาบู​ชา เจ้​าจงถวายแด่พระเยโฮวาห์” เพราะว่ามาโนอาห์​ไม่​ทราบว่าท่านผู้นั้นเป็นทูตสวรรค์​องค์​หน​ึ่งของพระเยโฮวาห์ มาโนอาห์ถามทูตสวรรค์ของพระเยโฮวาห์​ว่า “ท่านชื่ออะไร เพื่อเมื่อเป็นจริงตามถ้อยคำของท่าน เราจะได้​ให้เกียรติ​แก่​ท่าน​” ทูตสวรรค์​ของพระเยโฮวาห์บอกมาโนอาห์​ว่า “ถามชื่อเราทำไม ชื่อของเราเป็​นที​่ซ่อนเร้นอยู่” มาโนอาห์​ก็​เอาลูกแพะกับธัญญบูชามาถวายบูชาบนศิลาแด่พระเยโฮวาห์ และทูตสวรรค์นั้นกระทำการมหัศจรรย์ มาโนอาห์และภรรยาก็​มองดู และอยู่มาเมื่อเปลวไฟจากแท่นบูชาพลุ่งขึ้นไปสวรรค์ ทูตสวรรค์​ของพระเยโฮวาห์​ก็​ขึ้นไปตามเปลวไฟแห่งแท่นบู​ชา ขณะเมื่อมาโนอาห์และภรรยาคอยดู​อยู่ และเขาทั้งสองก็ซบหน้าลงถึ​งด​ิน ทูตสวรรค์​ของพระเยโฮวาห์​ไม่​ปรากฏแก่มาโนอาห์หรือแก่ภรรยาของเขาอีกเลย แล​้วมาโนอาห์จึงทราบว่าผู้นั้นเป็นทูตสวรรค์​องค์​หน​ึ่งของพระเยโฮวาห์ และมาโนอาห์​พู​ดก​ับภรรยาของตนว่า “เราจะตายเป็นแน่ เพราะเราได้​เห​็นพระเจ้า” แต่​ภรรยาบอกเขาว่า “ถ้าพระเยโฮวาห์ทรงหมายจะฆ่าเราเสีย พระองค์​คงจะไม่รับเครื่องเผาบูชาและธัญญบูชาจากมือของเรา หรือทรงสำแดงสิ่งทั้งปวงเหล่านี้​แก่​เรา หรือประกาศเรื่องเช่นนี้​แก่​เรา​” ผู้​หญิงนั้​นก​็คลอดบุตรชายคนหนึ่งเรียกชื่อว่าแซมสัน เด็กนั้​นก​็เติบโตขึ้น และพระเยโฮวาห์ทรงอำนวยพระพรแก่​เขา และพระวิญญาณของพระเยโฮวาห์​ก็​ทรงเริ่มเร้าใจเขาที่ค่ายดานระหว่างโศราห์กับเอชทาโอล

ผู้วินิจฉัย 13:1-25 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

คนอิสราเอลก็กระทำชั่วในสายพระเนตรพระเจ้าอีก พระเจ้าทรงมอบเขาไว้ในมือของคนฟีลิสเตียสี่สิบปี มีชายคนหนึ่งเป็นชาวโศราห์คนเผ่าดาน ชื่อมาโนอาห์ ภรรยาของท่านเป็นหมันไม่มีบุตรเลย ทูตของพระเจ้ามาปรากฏแก่นางนั้น กล่าวแก่นางว่า <<ดูเถิด เจ้าเป็นหมันไม่มีบุตร แต่เจ้าจะตั้งครรภ์คลอดบุตรเป็นชาย เพราะฉะนั้นจงระวัง อย่าดื่มเหล้าองุ่น หรือเมรัย และอย่ารับประทานของมลทิน เพราะนี่แน่ะ เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรเป็นชาย อย่าให้มีดโกนถูกศีรษะของเขา เพราะเด็กคนนี้จะเป็นพวกนาศีร์แด่ พระเจ้าตั้งแต่เกิดมา เขาจะเป็นคนเริ่มช่วยกู้คนอิสราเอล ให้พ้นจากเงื้อมมือของคนฟีลิสเตีย>> ฝ่ายหญิงนั้นจึงไปบอกสามีว่า <<มีบุรุษของพระเจ้ามาหาดิฉัน หน้าตาของท่านเหมือนหน้าตาทูตของพระเจ้าน่ากลัวนัก ดิฉันไม่ได้ถามท่านว่ามาจากไหน และท่านก็ไม่บอกชื่อของท่านแก่ดิฉัน แต่ท่านบอกดิฉันว่า <ดูเถิด เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย ฉะนั้นอย่าดื่มเหล้าองุ่นหรือเมรัย อย่ารับประทานของมลทิน เพราะเด็กนั้นจะเป็นพวกนาศีร์แด่พระเจ้าตั้งแต่เกิดมา จนวันตาย> >> แล้วมาโนอาห์ก็วิงวอนพระเจ้าทูลว่า <<ข้าแต่พระเจ้า ขอบุรุษของพระเจ้าผู้ซึ่งพระองค์ทรงใช้มานั้น ปรากฏแก่ข้าพระองค์ทั้งสองอีกครั้งหนึ่ง สั่งสอนข้าพระองค์ว่า ข้าพระองค์ควรกระทำอย่างไรแก่เด็กที่จะเกิดมานั้น>> และพระเจ้าทรงฟังเสียงของมาโนอาห์ และทูตของ พระเจ้ามาหาหญิงนั้นอีก เมื่อนางนั่งอยู่ในทุ่งนาแต่มาโนอาห์สามีของนาง ไม่ได้อยู่ด้วย นางก็รีบวิ่งไปบอกสามีว่า <<ดูเถิด บุรุษผู้ที่ปรากฏแก่ดิฉัน วันนั้นได้มาปรากฏแก่ดิฉันอีก>> มาโนอาห์ก็ลุกขึ้นตามภรรยาไป เมื่อมาถึงบุรุษผู้นั้นเขาจึงว่า <<ท่านเป็นบุรุษผู้ที่พูดกับผู้หญิงคนนี้หรือ>> ผู้นั้นตอบว่า <<เราเป็นผู้นั้นแหละ>> มาโนอาห์จึงกล่าวว่า <<เมื่อเกิดเป็นจริงตามถ้อยคำของท่านแล้ว ชีวิตของเด็กคนนั้นจะเป็นอย่างไร เขาจะกระทำอะไร>> และทูตของพระเจ้าบอกแก่มาโนอาห์ว่า <<บรรดาสิ่งที่เราได้บอกแก่หญิงแล้วนั้นให้นางระวังให้ดี อย่าให้รับประทานสิ่งใดที่ได้มาจากเถาองุ่น อย่าให้นางดื่มเหล้าองุ่นหรือเมรัย อย่ารับประทานของมลทิน สิ่งใดที่เราบัญชานางไว้ให้นางปฏิบัติตามทุกประการ>> มาโนอาห์กล่าวแก่ทูตของพระเจ้าว่า <<ขอท่านรออยู่ก่อนข้าพเจ้าทั้งสองจะ ไปเตรียมลูกแพะตัวหนึ่งให้ท่าน>> ทูตของพระเจ้าบอกมาโนอาห์ว่า <<ถึงเจ้าจะให้เรารอ เราจะไม่รับประทานอาหารของเจ้า แต่ถ้าเจ้าจะจัดเครื่องเผาบูชา เจ้าจงถวายแด่พระเจ้า>> (เพราะว่ามาโนอาห์ไม่ทราบว่าท่านผู้นั้นเป็นทูตของพระเจ้า) มาโนอาห์ถามทูตของพระเจ้าว่า <<ท่านชื่ออะไร เพื่อเมื่อเป็นจริงตามถ้อยคำของท่าน เราจะได้ให้เกียรติแก่ท่าน>> ทูตของพระเจ้าบอกมาโนอาห์ว่า <<ถามชื่อเราทำไม ชื่อเราก็มหัศจรรย์อยู่>> มาโนอาห์ก็เอาลูกแพะกับ ธัญญบูชามาถวายบูชาบนศิลาแด่พระเจ้า ผู้ทรงกระทำการอัศจรรย์ มาโนอาห์และภรรยาก็มองดู และอยู่มาเมื่อเปลวไฟจากแท่นบูชาพลุ่งขึ้นไปสวรรค์ ทูตของพระเจ้าก็ขึ้นไปตามเปลวไฟแห่งแท่นบูชา ขณะเมื่อมาโนอาห์และภรรยาคอยดูอยู่ และเขาทั้งสองก็ซบหน้าลงถึงดิน ทูตของพระเจ้าไม่ปรากฏแก่มาโนอาห์หรือ แก่ภรรยาของเขาอีกเลย แล้วมาโนอาห์จึงทราบว่าผู้นั้นเป็นทูตของพระเจ้า และมาโนอาห์พูดกับภรรยาของตนว่า <<เราคงจะตายเป็นแน่ เพราะเราได้เห็นพระเจ้า>> แต่ภรรยาบอกเขาว่า <<ถ้าพระเจ้าทรงหมายจะฆ่าเราเสีย พระองค์คงจะไม่รับเครื่องเผาบูชาและธัญญบูชาจากมือของเรา หรือทรงสำแดงสิ่งเหล่านี้แก่เราหรือประกาศเรื่องเช่นนี้แก่ เรา>> ผู้หญิงนั้นก็คลอดบุตรชายคนหนึ่งเรียกชื่อว่าแซมสัน เด็กนั้นก็เติบโตขึ้น และพระเจ้าทรงอำนวยพระพรแก่เขา และพระวิญญาณของพระเจ้าก็ทรงเริ่มเร้าใจเขาที่ มาหะเนห์ดานระหว่างโศราห์กับเอชทาโอล

ผู้วินิจฉัย 13:1-25 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

อิสราเอลหวนกลับไปทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าอีก องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงมอบเขาไว้ในมือของชาวฟีลิสเตียเป็นเวลาสี่สิบปี ชายคนหนึ่งในโศราห์ชื่อมาโนอาห์จากเผ่าดาน ภรรยาของเขาเป็นหมันและจึงไม่สามารถมีลูก ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏและกล่าวกับนางว่า “เจ้าเป็นหมันแต่เจ้ากำลังจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย จงอย่าดื่มเหล้าองุ่นหรือของมึนเมา และอย่ากินสิ่งใดที่เป็นมลทิน เพราะเจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย อย่าให้บุตรชายของเจ้าตัดผมเลย เพราะเขาจะเป็นนาศีร์แยกไว้เพื่อพระเจ้าตั้งแต่แรกเกิด เขาจะเป็นผู้ริเริ่มกอบกู้อิสราเอลจากเงื้อมมือชาวฟีลิสเตีย” หญิงนั้นวิ่งไปบอกสามีว่า “คนของพระเจ้ามาปรากฏแก่ข้าพเจ้า ดูเหมือนเขาจะเป็นทูตของพระเจ้า น่าเกรงขามมาก ข้าพเจ้าไม่ได้ถามว่าเขามาจากไหน และเขาก็ไม่ได้บอกชื่อของเขา แต่เขาบอกข้าพเจ้าว่า ‘เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย ตั้งแต่นี้ไปเจ้าต้องไม่ดื่มเหล้าองุ่นหรือของมึนเมาและไม่กินสิ่งใดที่เป็นมลทิน เพราะว่าเด็กนั้นจะเป็นนาศีร์ของพระเจ้าตั้งแต่เกิดจวบจนวันตาย’ ” มาโนอาห์จึงอธิษฐานทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงโปรดอนุญาตให้คนของพระเจ้าที่ทรงส่งมานั้นกลับมาอีกครั้ง เพื่อสอนข้าพระองค์ทั้งสองในการเลี้ยงดูลูกที่จะเกิดมานั้น” พระเจ้าทรงฟังคำอธิษฐานของมาโนอาห์ ทูตของพระเจ้ามาปรากฏแก่ภรรยาของเขาอีกครั้งขณะที่นางอยู่กลางทุ่ง แต่มาโนอาห์ไม่ได้อยู่กับนาง นางจึงรีบไปบอกสามีว่า “ชายคนเดิมที่ปรากฏแก่ฉันเมื่อวันก่อนมาที่นี่อีกแล้ว!” มาโนอาห์จึงลุกตามภรรยาไป เมื่อเขาพบชายคนนั้นแล้วก็ถามว่า “ท่านเป็นคนเดียวกับที่พูดกับภรรยาของข้าพเจ้าเมื่อวันก่อนหรือ?” ผู้นั้นตอบว่า “ใช่” ดังนั้นมาโนอาห์จึงถามว่า “เมื่อคำพูดของท่านเป็นจริงแล้ว มีกฎเกณฑ์อะไรบ้างในชีวิตและในการงานของเด็กนั้น?” ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าตอบว่า “ภรรยาของเจ้าต้องปฏิบัติตามที่เราสั่งไว้ทุกอย่าง นางต้องไม่กินสิ่งที่ทำจากองุ่น ต้องไม่ดื่มเหล้าองุ่นหรือของมึนเมา หรือกินสิ่งใดที่เป็นมลทิน นางต้องทำตามที่เราสั่งไว้ทุกประการ” มาโนอาห์จึงกล่าวกับทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “โปรดพักอยู่ที่นี่ก่อน เราจะไปปรุงลูกแพะมาให้ท่าน” ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าตอบว่า “แม้เจ้าจะหน่วงเหนี่ยวเราไว้ เราก็จะไม่กินอาหารใดๆ ของเจ้า แต่หากเจ้าจัดเตรียมเครื่องเผาบูชา จงถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด” (มาโนอาห์ยังไม่ตระหนักว่าผู้นั้นคือทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้า) มาโนอาห์จึงเอ่ยถามทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “โปรดบอกชื่อของท่านให้ข้าพเจ้าทราบ เพื่อข้าพเจ้าจะให้เกียรติท่าน เมื่อเหตุการณ์เป็นจริงตามที่ท่านพูด?” ทูตองค์นั้นตอบว่า “เหตุใดจึงถามชื่อของเรา? ชื่อนั้นเกินความเข้าใจ” แล้วมาโนอาห์จึงนำลูกแพะและเครื่องธัญบูชามาถวายบนศิลาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระองค์ทรงทำสิ่งอัศจรรย์ต่อหน้ามาโนอาห์กับภรรยา ขณะที่เปลวไฟพวยพุ่งจากแท่นบูชาลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าลอยขึ้นเหนือเปลวไฟ เมื่อเห็นดังนั้นมาโนอาห์กับภรรยาจึงซบหน้าลงกับพื้นดิน ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ปรากฏแก่มาโนอาห์กับภรรยาอีก มาโนอาห์จึงตระหนักว่าผู้นี้คือทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้า มาโนอาห์กล่าวกับภรรยาว่า “เราต้องตายแน่ๆ! เพราะเราได้เห็นพระเจ้า!” แต่ภรรยาตอบว่า “หากองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดำริจะประหารเรา พระองค์ก็คงจะไม่รับเครื่องเผาบูชาและธัญบูชาจากมือของเรา และจะไม่มาแจ้งหรือแสดงสิ่งทั้งปวงนี้แก่เรา” นางได้คลอดบุตรชายและตั้งชื่อว่าแซมสัน เด็กนั้นเติบโตขึ้น และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรเขา พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเริ่มกระตุ้นเขาที่มาหะเนห์ดาน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างโศราห์กับเอชทาโอล

ผู้วินิจฉัย 13:1-25 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ชาว​อิสราเอล​กระทำ​สิ่ง​ชั่ว​ร้าย​ใน​สายตา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​อีก ดังนั้น พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จึง​มอบ​พวก​เขา​ไว้​ใน​มือ​ของ​ชาว​ฟีลิสเตีย​เป็น​เวลา 40 ปี มี​ชาย​ชาว​โศราห์​คน​หนึ่ง​จาก​เผ่า​ชาว​ดาน ชื่อ​มาโนอาห์ ภรรยา​ของ​เขา​เป็น​หมัน​ไม่​มี​บุตร ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​มา​ปรากฏ​แก่​นาง และ​กล่าว​ว่า “ดู​เถิด เจ้า​เป็น​หมัน​และ​ยัง​ไม่​ได้​ให้​กำเนิด​บุตร​เลย แต่​เจ้า​จะ​ตั้ง​ครรภ์​และ​ได้​บุตร​ชาย ฉะนั้น​จง​ระวัง​ว่า​เจ้า​ไม่​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​หรือ​สุรา และ​อย่า​รับ​ประทาน​สิ่ง​ใด​ที่​มี​มลทิน เพราะ​ว่า ดู​เถิด เจ้า​จะ​ตั้ง​ครรภ์​และ​คลอด​บุตร​ชาย อย่า​ให้​มีด​โกน​แตะ​ศีรษะ​ของ​เขา เพราะ​เด็ก​คน​นั้น​จะ​เป็น​ชาว​นาศีร์​ถวาย​ตัว​แด่​พระ​เจ้า​ตั้ง​แต่​เกิด และ​เขา​จะ​เป็น​ผู้​เริ่ม​ต้น​ช่วย​ชาว​อิสราเอล​ให้​รอด​ปลอดภัย​จาก​มือ​ของ​ชาว​ฟีลิสเตีย” เมื่อ​นาง​ไป​บอก​สามี​ว่า “คน​ของ​พระ​เจ้า​มา​เยี่ยม​ฉัน ลักษณะ​ของ​ท่าน​ที่​ปรากฏ​เหมือน​กับ​ลักษณะ​ของ​ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​เจ้า และ​น่า​เกรงขาม​มาก ฉัน​ไม่​ได้​ถาม​ท่าน​ว่า​ท่าน​มา​จาก​ไหน และ​ท่าน​ก็​ไม่​ได้​บอก​ว่า​ท่าน​ชื่อ​อะไร แต่​ท่าน​กล่าว​กับ​ฉัน​ว่า ‘ดู​เถิด เจ้า​จะ​ตั้ง​ครรภ์​และ​คลอด​บุตร​เป็น​ชาย ดังนั้น​อย่า​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​หรือ​สุรา และ​อย่า​รับ​ประทาน​สิ่ง​ใด​ที่​มี​มลทิน เพราะ​เด็ก​คน​นั้น​จะ​เป็น​ชาว​นาศีร์​ถวาย​ตัว​แด่​พระ​เจ้า ตั้ง​แต่​เกิด​จน​กระทั่ง​วัน​ตาย’” แล้ว​มาโนอาห์​ก็​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า “โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า โปรด​ให้​คน​ของ​พระ​เจ้า คน​ที่​พระ​องค์​ใช้​มา มา​ปรากฏ​แก่​เรา​ทั้ง​สอง​อีก และ​สอน​ว่า​เรา​ควร​จะ​ทำ​อย่างไร​กับ​เด็ก​ที่​จะ​มา​เกิด” พระ​เจ้า​ฟัง​เสียง​ของ​มาโนอาห์ และ​ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​เจ้า​ก็​มา​เยี่ยม​นาง​อีก​ขณะ​ที่​นาง​นั่ง​อยู่​ใน​ทุ่ง​นา แต่​มาโนอาห์​ผู้​เป็น​สามี​ไม่​ได้​อยู่​ด้วย ดังนั้น​นาง​จึง​รีบ​วิ่ง​ไป​บอก​สามี​ว่า “ดู​เถิด คน​ที่​มา​เยี่ยม​ฉัน​เมื่อ​วัน​ก่อน​ได้​มา​ปรากฏ​แก่​ฉัน​อีก” มา​โนอาห์​จึง​ลุก​ขึ้น​ตาม​ภรรยา​ไป และ​เมื่อ​พบ​ท่าน​ผู้​นั้น​แล้ว​ก็​พูด​ว่า “ท่าน​เป็น​คน​ที่​พูด​กับ​หญิง​คน​นี้​หรือ” ท่าน​กล่าว​ว่า “เรา​เป็น​ผู้​นั้น” และ​มาโนอาห์​พูด​ว่า “เมื่อ​สิ่ง​ที่​ท่าน​พูด​เกิด​ขึ้น​จริง ชีวิต​ของ​เด็ก​คน​นี้​จะ​เป็น​เช่น​ไร และ​เขา​ได้​รับ​มอบ​หมาย​ให้​ทำ​สิ่ง​ใด” ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​มาโนอาห์​ว่า “ทุก​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​กล่าว​กับ​หญิง​คน​นี้​แล้ว นาง​จง​ระมัด​ระวัง​ให้​ดี นาง​อย่า​รับ​ประทาน​สิ่ง​ใด​ที่​มา​จาก​เถา​องุ่น อย่า​ให้​นาง​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​หรือ​สุรา หรือ​รับ​ประทาน​สิ่ง​ใด​ที่​มี​มลทิน ทุก​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​สั่ง​นาง​แล้ว ก็​จง​ให้​นาง​ปฏิบัติ​ตาม​เถิด” มาโนอาห์​พูด​กับ​ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า “ขอ​ให้​เรา​ทั้ง​สอง​รั้ง​ตัว​ท่าน​ไว้ จะ​ได้​ไป​เตรียม​แพะ​หนุ่ม​ตัว​หนึ่ง​ให้​ท่าน” ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​มาโนอาห์ “ถ้า​ท่าน​รั้ง​ตัว​เรา​ไว้ เรา​ก็​จะ​ไม่​รับ​ประทาน​อาหาร​ของ​ท่าน​หรอก แต่​ถ้า​จะ​เตรียม​สัตว์​ที่​เผา​เป็น​ของ​ถวาย ก็​จง​ถวาย​แด่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เถิด” (ด้วย​ว่า​มาโนอาห์​ไม่​ทราบ​ว่า​ท่าน​เป็น​ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า) แล้ว​มาโนอาห์​พูด​กับ​ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า “ท่าน​ชื่อ​อะไร เรา​จะ​ได้​ให้​เกียรติ​แก่​ท่าน เวลา​สิ่ง​ที่​ท่าน​พูด​เกิด​ขึ้น​จริง” ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​ว่า “ทำไม​ท่าน​จึง​ถาม​ชื่อ​ของ​เรา มัน​เกิน​กว่า​ที่​ท่าน​จะ​เข้า​ใจ” ดังนั้น​มาโนอาห์​จึง​เอา​แพะ​หนุ่ม​กับ​เครื่อง​ธัญญ​บูชา​มา​และ​ถวาย​บน​ศิลา​แด่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​พระ​องค์​กระทำ​สิ่ง​มหัศจรรย์ ขณะ​ที่​มาโนอาห์​กับ​ภรรยา​เฝ้า​มอง​อยู่ เมื่อ​เปลว​ไฟ​จาก​แท่น​บูชา​พลุ่ง​ขึ้น​สู่​ท้อง​ฟ้า ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​กลับ​ขึ้น​ไป​พร้อม​กับ​เปลว​ไฟ​ของ​แท่น​บูชา มาโนอาห์​และ​ภรรยา​กำลัง​มอง​ดู​อยู่ แล้ว​ทั้ง​สอง​ก็​ได้​ฟุบ​หน้า​ลง​ที่​พื้น เมื่อ​ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ไม่​ได้​ปรากฏ​แก่​มาโนอาห์​และ​ภรรยา​อีก​เลย แล้ว​มาโนอาห์​จึง​ทราบ​ว่า​ท่าน​เป็น​ทูต​สวรรค์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า มาโนอาห์​พูด​กับ​ภรรยา​ว่า “เรา​ต้อง​ตาย​แน่ เพราะ​เรา​ได้​เห็น​พระ​เจ้า” แต่​ภรรยา​ของ​เขา​พูด​ว่า “ถ้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ตั้ง​ใจ​จะ​เอา​ชีวิต​เรา พระ​องค์​คง​ไม่​รับ​สัตว์​ที่​เผา​เป็น​ของ​ถวาย​กับ​เครื่อง​ธัญญ​บูชา​จาก​มือ​ของ​เรา​หรอก หรือ​แสดง​ให้​เรา​เห็น​สิ่ง​เหล่า​นั้น หรือ​ให้​เรา​รับ​ทราบ​อะไร​หรอก” แล้ว​หญิง​นั้น​ให้​กำเนิด​บุตร​ชาย และ​ตั้ง​ชื่อ​เขา​ว่า แซมสัน เด็ก​นั้น​เติบโต​ขึ้น และ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​อวยพร​เขา และ​พระ​วิญญาณ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เริ่ม​ดลใจ​เขา​ที่​มาหะเนห์ดาน​ซึ่ง​อยู่​ระหว่าง​โศราห์​กับ​เอชทาโอล