อิสยาห์ 9:1-21
อิสยาห์ 9:1-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แต่จะไม่มีความเหน็ดเหนื่อยอีกต่อไป สำหรับคนเหล่านั้นที่ตั้งมั่นคงอยู่ในคำสอนนั้น ในอดีตนั้น พระองค์ทำให้ดินแดนของเศบูลุนและนัฟทาลีถูกดูหมิ่น แต่ในอนาคต พระองค์จะทำให้ดินแดนเหล่านั้นยิ่งใหญ่ คือดินแดนที่อยู่ใกล้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดินแดนทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน และแคว้นกาลิลี อันเป็นที่อาศัยของคนต่างชาติ คนที่เคยเดินอยู่ในความมืดได้เห็นความสว่างอันยิ่งใหญ่แล้ว คนเหล่านั้นที่เคยอยู่ในแผ่นดินที่มืดมน แสงสว่างก็ได้ส่องลงมายังพวกเขาแล้ว พระองค์เจ้าข้า พระองค์ได้ทำให้ชนชาติทวีคูณ พระองค์ได้เพิ่มความสุขให้กับพวกเขา พวกเขาชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์ อย่างกับความสุขที่คนมีกันในยามเก็บเกี่ยว อย่างกับความสุขที่คนมีกันตอนแบ่งของที่ยึดมาได้จากสงคราม เพราะพระองค์ได้หักแอกที่เป็นภาระของพวกเขาทิ้ง และเอาคานที่พวกเขาแบกอยู่บนบ่าออกไป และเอาไม้ตะบองที่ศัตรูใช้ลงโทษพวกเขาไป อย่างกับตอนที่พระองค์รบชนะชาวมีเดียน เพราะรองเท้าทหารทุกคู่ที่มุ่งหน้าสู่สนามรบอย่างกึกก้อง และเสื้อทหารทุกตัวที่เกลือกกลิ้งเลือดมา จะต้องถูกเผาทิ้ง เป็นเชื้อเพลิงสำหรับไฟ เพราะมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา พระองค์ให้ลูกชายคนหนึ่งกับเรา และสิทธิอำนาจก็จะตกอยู่ที่บ่าของเด็กคนนี้ และเขามีชื่อว่า “ที่ปรึกษาอันมหัศจรรย์ นักรบที่ทรงพลังเหมือนพระเจ้า พระบิดาตลอดกาล เจ้าชายแห่งสันติสุข” สิทธิอำนาจของพระองค์ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะมีสันติสุขสำหรับบัลลังก์ของดาวิดและอาณาจักรของพระองค์อย่างไม่มีวันสิ้นสุด พระองค์จะก่อตั้งอาณาจักรของพระองค์ขึ้นและพยุงมันไว้ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรมตั้งแต่เดี๋ยวนี้ไปจนตลอดกาล ความรักอันหวงแหนของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะทำให้สิ่งนี้สำเร็จ พระยาห์เวห์ส่งข้อความที่ต่อว่ายาโคบ และมันตกอยู่บนอิสราเอล ทุกคนรู้เรื่องนี้ ทั้งเอฟราอิมและคนที่อาศัยอยู่ในสะมาเรีย แต่คนพวกนั้นมีจิตใจที่เย่อหยิ่งจองหอง พวกเขาพูดว่า “ถึงพวกอิฐนี้จะพังลงแล้ว แต่เราก็จะสร้างอาคารเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ด้วยหินสกัด ถึงพวกคานไม้มะเดื่อจะถูกตัดเป็นชิ้นๆแล้ว แต่เราก็จะเอาไม้สนซีดาร์เข้าไปแทนที่พวกมัน” พระยาห์เวห์ได้หนุนพวกข้าศึกขึ้นมาต่อสู้อิสราเอล พระองค์ได้ยุแหย่พวกศัตรูของเขา มีคนอารามจากทางตะวันออกและคนฟีลิสเตียจากทางตะวันตก และพวกเขาก็ได้อ้าปากกว้างกลืนกินอิสราเอลเข้าไป ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา ผู้คนก็ยังไม่ยอมหันกลับมาหาพระองค์ผู้ที่ตีสอนพวกเขา พวกเขาก็ยังไม่ยอมแสวงหาพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงตัดหัวตัดหางของอิสราเอล ตัดทั้งกิ่งปาล์มและต้นกกในวันเดียวกัน หัวในที่นี้ หมายถึงพวกผู้นำอาวุโสและพวกที่มีเกียรติ ส่วนหางในที่นี้หมายถึงพวกผู้พูดแทนพระเจ้าที่พูดโกหก เพราะคนเหล่านั้นที่นำประชาชนพวกนี้ได้นำพวกเขาให้หลงทางไป คนที่ถูกนำไปนั้นก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เพราะอย่างนี้พระยาห์เวห์จึงไม่สงสารทหารหนุ่มของพวกเขา และไม่เมตตาพวกเด็กกำพร้าและพวกแม่ม่ายของพวกเขา เพราะประชาชนพวกนี้ทั้งหมดเป็นคนที่ไม่เคารพพระเจ้าและเป็นคนชั่วช้า และปากแต่ละคนก็พูดแต่เรื่องโง่ๆ ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา เพราะความเลวทรามของพวกเขาเผาอยู่อย่างไฟ ตอนแรกมันก็เผาหญ้าและหนาม ต่อมาก็ลุกลามเผาพงไม้ใหญ่ในป่า และพวกมันทุกคนถูกเผากลายเป็นควันม้วนขึ้นไปในอากาศ เพราะความโกรธของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นทำให้แผ่นดินนั้นถูกเผาผลาญ และประชาชนก็กลายเป็นเชื้อเพลิงสำหรับไฟนั้นไม่มีใครพยายามช่วยชีวิตใครเลย ประชาชนหันไปทางขวาและกินอย่างตะกละตะกลามแต่ก็ยังหิวอยู่ พวกเขาก็เลยหันไปทางซ้ายและเขมือบเข้าไปแต่ก็ยังไม่พอ แต่ละคนก็เลยหันไปกินเนื้อลูกหลานของตัวเอง มนัสเสห์กัดกินเอฟราอิม เอฟราอิมก็กัดกินมนัสเสห์ และทั้งสองก็ไปต่อสู้กับยูดาห์ ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา
อิสยาห์ 9:1-21 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
แต่เมืองนั้นที่อยู่ในสภาพโศกเศร้าจะไม่ทุกข์ระทมอีก ในกาลก่อนพระองค์ทรงให้แคว้นเศบูลุนและแคว้นนัฟทาลีเป็นที่ดูหมิ่น แต่ในภายหลัง พระองค์จะทรงทำหนทางฝั่งทะเล และดินแดนฟากตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน คือกาลิลีของบรรดาประชาชาตินั้นให้รุ่งโรจน์ ชนชาติที่ดำเนินในความมืด เห็นความสว่างยิ่งใหญ่ บรรดาคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินแห่งเงามัจจุราช แสงสว่างส่องมาบนเขาทั้งหลาย พระองค์ทรงทวีจำนวนคนในชาตินั้นขึ้น พระองค์ทรงเพิ่มพูนความชื่นบานของพวกเขา เขาทั้งหลายเปรมปรีดิ์เฉพาะพระพักตร์พระองค์ ดั่งความชื่นบานในฤดูเกี่ยวเก็บ ดั่งคนยินดีเมื่อเขาแบ่งของริบให้แก่กัน เพราะว่าแอกอันเป็นภาระหนักของเขาก็ดี ไม้พลองที่ตีบ่าเขาก็ดี ไม้ตะบองของผู้บีบบังคับเขาก็ดี พระองค์ทรงหักเสียเหมือนอย่างในวันของคนมีเดียน เพราะรองเท้าทหารทุกคู่ที่กระทืบจนสั่นสะเทือน และเสื้อคลุมทุกตัวที่เกลือกอยู่ในโลหิต จะถูกเผาเป็นเชื้อเพลิงใส่ไฟ ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่บนบ่าของท่าน และเขาจะขนานนามของท่านว่า “ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ และองค์สันติราช” การเพิ่มพูนขึ้นของการปกครองและสันติภาพของท่าน จะไม่มีที่สิ้นสุด บนพระที่นั่งของดาวิด และเหนือราชอาณาจักรของพระองค์ เพื่อจะสถาปนาและเชิดชูมันไว้ ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนนิรันดร์กาล ความกระตือรือร้นของพระยาห์เวห์จอมทัพจะทำการนี้ องค์เจ้านายทรงใช้พระวจนะไปต่อสู้ยาโคบ และจะตกอยู่เหนืออิสราเอล และประชาชนทั้งหมดจะรู้เรื่อง คือเอฟราอิมและชาวสะมาเรีย ผู้กล่าวด้วยความเย่อหยิ่งและด้วยจิตใจจองหองว่า “ก้อนอิฐทั้งหลายพังลงแล้ว แต่เราจะสร้างด้วยศิลาสลัก ต้นมะเดื่อถูกโค่นลง แต่เราจะทดแทนด้วยต้นสนสีดาร์” พระยาห์เวห์จึงทรงหนุนปฏิปักษ์ของเรซีนมาสู้เขาทั้งหลาย และทรงกระตุ้นพวกศัตรูของเขา คือคนซีเรียทางตะวันออกและคนฟีลิสเตียทางตะวันตก และพวกเขาจะอ้าปากออกกลืนกินอิสราเอลเสีย ถึงกระนั้นก็ดี พระพิโรธของพระองค์ก็ยังไม่ได้หันกลับ และพระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่ แต่ประชาชนก็ไม่ได้หันมาหาพระองค์ผู้ทรงตีพวกเขา และไม่ได้แสวงหาพระยาห์เวห์จอมทัพ พระยาห์เวห์จึงทรงตัดหัวและตัดหางของอิสราเอลออก ทั้งใบตาลและต้นอ้อเล็กในวันเดียว ผู้ใหญ่และคนมีตำแหน่งสูงคือหัว ส่วนผู้เผยพระวจนะและผู้สอนเท็จคือหาง เพราะพวกคนที่นำชนชาตินี้ได้นำเขาทั้งหลายให้หลง และคนที่ถูกพวกเขานำก็ถูกกลืนกินไป ฉะนั้น องค์เจ้านายไม่ทรงเปรมปรีดิ์ในพวกคนหนุ่มของเขา และไม่ทรงเมตตาลูกกำพร้าหรือหญิงม่ายของเขา เพราะว่าทุกคนล้วนไม่มีพระเจ้าและเป็นคนทำความชั่ว และปากทุกปากก็กล่าวคำโฉดเขลา ถึงกระนั้นก็ดี พระพิโรธของพระองค์ก็ยังไม่ได้หันกลับ และพระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่ เพราะความอธรรมก็ไหม้เหมือนไฟไหม้ มันเผาทั้งหนามย่อยและหนามใหญ่ มันจุดไฟเข้าไปที่พุ่มไม้ของป่าทึบ แล้วป่าก็สลายตัวเป็นกลุ่มควันลอยขึ้น เพราะพระพิโรธของพระยาห์เวห์จอมทัพ แผ่นดินนั้นก็ถูกเผา และประชาชนก็เหมือนเชื้อเพลิง ไม่มีใครไว้ชีวิตพี่น้องของตน เขาฉวยได้ด้านขวา แต่ยังหิวอยู่ เขากินด้านซ้ายแต่ก็ยังไม่อิ่ม ต่างก็กินเนื้อจากผู้ที่เป็นเหมือนแขนของตนเอง มนัสเสห์กินเอฟราอิม เอฟราอิมกินมนัสเสห์ และทั้งคู่ก็ต่อสู้กับยูดาห์ ถึงกระนั้นก็ดี พระพิโรธของพระองค์ก็ยังไม่ได้หันกลับ และพระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่
อิสยาห์ 9:1-21 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
แต่กระนั้นแผ่นดินนั้นซึ่งอยู่ในความแสนระทมจะไม่กลัดกลุ้ม ในกาลก่อนพระองค์ทรงนำแคว้นเศบูลุนและแคว้นนัฟทาลีมาสู่ความดูหมิ่น แต่ในกาลภายหลังพระองค์จะทรงกระทำให้หนทางข้างทะเล แคว้นฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น คือ กาลิลีแห่งบรรดาประชาชาติ ให้เจ็บปวดทรมานอย่างมาก ชนชาติที่ดำเนินในความมืดได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่แล้ว บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินแห่งเงามัจจุราช สว่างได้ส่องมาบนเขา พระองค์ได้ทรงทวีชนในประชาชาตินั้นขึ้น พระองค์มิได้ทรงเพิ่มความชื่นบานของเขา เขาทั้งหลายเปรมปรีดิ์ต่อพระพักตร์พระองค์ ดั่งด้วยความชื่นบานเมื่อฤดูเกี่ยวเก็บ ดั่งคนเปรมปรีดิ์เมื่อเขาแบ่งของริบมานั้นแก่กัน เพราะว่าแอกอันเป็นภาระของเขาก็ดี ไม้พลองที่ตีบ่าเขาก็ดี ไม้ตะบองของผู้บีบบังคับเขาก็ดี พระองค์จะทรงหักเสียอย่างในวันของคนมีเดียน เพราะการรบทั้งสิ้นของนักรบมีเสียงวุ่นวาย และเสื้อคลุมที่เกลือกอยู่ในโลหิต แต่การรบครั้งนี้จะถูกเผาเป็นเชื้อเพลิงใส่ไฟ ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่ที่บ่าของท่าน และท่านจะเรียกนามของท่านว่า “ผู้ที่มหัศจรรย์ ที่ปรึกษา พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช” เพื่อการปกครองของท่านจะเพิ่มพูนยิ่งขึ้น และสันติภาพจะไม่มีที่สิ้นสุดเหนือพระที่นั่งของดาวิด และเหนือราชอาณาจักรของพระองค์ ที่จะสถาปนาไว้ และเชิดชูไว้ด้วยความยุติธรรมและด้วยความเที่ยงธรรม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนนิรันดร์กาล ความกระตือรือร้นของพระเยโฮวาห์จอมโยธาจะกระทำการนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้พระวจนะไปต่อสู้ยาโคบ และจะตกอยู่เหนืออิสราเอล และประชาชนทั้งสิ้นจะรู้เรื่อง คือเอฟราอิมและชาวสะมาเรีย ผู้กล่าวด้วยความเย่อหยิ่งและด้วยจิตใจจองหอง ว่า “ก้อนอิฐพังลงแล้ว แต่เราจะสร้างด้วยศิลาสลัก ต้นมะเดื่อถูกโค่นลง แต่เราจะใส่ต้นสีดาร์เข้าแทนไว้ในที่นั้น” พระเยโฮวาห์จึงทรงหนุนปฏิปักษ์ของเรซีนมาสู้เขา และทรงกระตุ้นศัตรูของเขาให้ร่วมกัน คือคนซีเรียทางข้างหน้าและคนฟีลิสเตียทางข้างหลัง และเขาจะอ้าปากออกกลืนอิสราเอลเสีย ถึงกระนั้นก็ดีพระพิโรธของพระองค์ก็ยังมิได้หันกลับ และพระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่ เพราะประชาชนมิได้หันมาหาพระองค์ผู้ทรงตีเขา มิได้แสวงหาพระเยโฮวาห์จอมโยธา พระเยโฮวาห์จึงจะทรงตัดหัวตัดหางออกเสียจากอิสราเอล ทั้งกิ่งก้านและต้นกกในวันเดียว ผู้ใหญ่และคนมีเกียรติคือหัว และผู้พยากรณ์ผู้สอนเท็จเป็นหาง เพราะบรรดาผู้ที่นำชนชาตินี้ได้นำเขาให้หลง และบรรดาผู้ที่เขานำก็ถูกทำลาย ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะหาทรงเปรมปรีดิ์ในคนหนุ่มของเขาไม่ และจะมิได้ทรงมีพระกรุณาต่อคนกำพร้าพ่อหรือหญิงม่ายของเขา เพราะว่าทุกคนเป็นคนหน้าซื่อใจคดและเป็นคนทำความชั่วและปากทุกปากก็กล่าวคำโฉดเขลา ถึงกระนั้นก็ดีพระพิโรธของพระองค์ก็ยังมิได้หันกลับ และพระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่ เพราะความชั่วก็ไหม้เหมือนไฟไหม้ มันจะผลาญทั้งหนามย่อยและหนามใหญ่ มันจะจุดไฟเข้าที่ป่าทึบ และป่าทึบก็จะม้วนขึ้นข้างบนเหมือนควันเป็นลูกๆ แผ่นดินนั้นก็มืดไปโดยเหตุพระพิโรธของพระเยโฮวาห์จอมโยธา ประชาชนก็จะเหมือนเชื้อเพลิง ไม่มีคนใดจะไว้ชีวิตพี่น้องของตน เขาจะฉวยได้ทางขวา แต่ยังหิวอยู่ เขาจะกินทางซ้าย แต่ก็ยังไม่อิ่ม ต่างก็จะกินเนื้อแขนของตนเอง มนัสเสห์กินเอฟราอิม เอฟราอิมกินมนัสเสห์ และทั้งคู่ก็สู้กับยูดาห์ ถึงกระนั้นก็ดีพระพิโรธของพระองค์ก็ยังมิได้หันกลับ และพระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่
อิสยาห์ 9:1-21 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เมืองนั้นซึ่งอยู่ในความแสนระทมจะไม่กลัดกลุ้ม ในกาลก่อนพระองค์ทรงนำแคว้นเศบูลุนและแคว้นนัฟทาลีมาสู่ความดูหมิ่น แต่ในกาลภายหลังพระองค์จะทรงกระทำให้หนทางข้างทะเล แคว้นฟากตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน คือ กาลิลีแห่งบรรดาประชาชาติให้รุ่งโรจน์ ชนชาติที่ดำเนินในความมืด จะได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่ บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินแห่งเงามัจจุราช สว่างจะได้ส่องมาบนเขา พระองค์จะได้ทรงทวีชนในประชาชาตินั้นขึ้น พระองค์จะทรงเพิ่มความชื่นบานของเขา เขาทั้งหลายจะเปรมปรีดิ์ต่อพระพักตร์พระองค์ ดั่งด้วยความชื่นบานเมื่อฤดูเกี่ยวเก็บ ดั่งคนเปรมปรีดิ์เมื่อเขาแบ่งของริบมานั้นแก่กัน เพราะว่าแอกอันเป็นภาระของเขาก็ดี ไม้พลองที่ตีบ่าเขาก็ดี ไม้ตะบองของผู้บีบบังคับเขาก็ดี พระองค์จะทรงหักเสียอย่างในวันของคนมีเดียน เพราะรองเท้าทุกคู่ที่กระทืบไปอย่างสั่นสะเทือน และเสื้อคลุมทุกตัวที่เกลือกอยู่ในโลหิต จะถูกเผาเป็นเชื้อเพลิงใส่ไฟ ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่ที่บ่าของท่าน และท่านจะเรียกนามของท่านว่า <<ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช>> เพื่อการปกครองของท่านจะเพิ่มพูนยิ่งขึ้น และสันติภาพจะไม่มีที่สิ้นสุด เหนือพระที่นั่งของดาวิด และเหนือราชอาณาจักรของพระองค์ ที่จะสถาปนาไว้ และเชิดชูไว้ ด้วยความยุติธรรมและด้วยความชอบธรรม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนนิรันดร์กาล ความกระตือรือร้นของพระเจ้าจอมโยธาจะกระทำการนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้พระวจนะไปต่อสู้ยาโคบ และจะตกอยู่เหนืออิสราเอล และประชาชนทั้งสิ้นจะรู้เรื่อง คือเอฟราอิมและชาวสะมาเรีย ผู้กล่าวด้วยความเย่อหยิ่งและด้วยจิตใจจองหอง ว่า <<ก้อนอิฐพังลงแล้ว แต่เราจะสร้างด้วยศิลาสลัก ต้นมะเดื่อถูกโค่นลง แต่เราจะใส่ต้นสีดาร์เข้าแทนไว้ในที่นั้น>> พระเจ้าจึงทรงหนุนปฏิปักษ์ของเรซีนมาสู้เขา และทรงกระตุ้นศัตรูของเขา คือคนซีเรียทางตะวันออกและคนฟีลิสเตียทางตะวันตก และเขาจะอ้าปากออกกลืนอิสราเอลเสีย ถึงกระนั้นก็ดี พระพิโรธของพระองค์ก็ยังมิได้หันกลับ และพระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่ ประชาชนมิได้หันมาหาพระองค์ผู้ทรงตีเขา มิได้แสวงหาพระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าจึงทรงตัดหัวตัดหางออกเสียจากอิสราเอล ทั้งใบตาลและต้นอ้อเล็กในวันเดียว ผู้ใหญ่และคนมีเกียรติคือหัว และผู้เผยพระวจนะผู้สอนเท็จเป็นหาง เพราะบรรดาผู้ที่นำชนชาตินี้ได้นำเขาให้หลง และบรรดาผู้ที่เขานำก็ถูกกลืนไป ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าหาทรงเปรมปรีดิ์ในคนหนุ่มของเขาไม่ และมิได้ทรงมีพระกรุณาต่อคนกำพร้าพ่อหรือหญิงม่ายของเขา เพราะว่าทุกคนก็ไร้พระเจ้าและเป็นคนทำความชั่ว และปากทุกปากก็กล่าวคำโฉดเขลา ถึงกระนั้นก็ดี พระพิโรธของพระองค์ก็ยังมิได้หันกลับ และพระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่ เพราะความอธรรมก็ไหม้เหมือนไฟไหม้ มันผลาญทั้งหนามย่อยและหนามใหญ่ มันจุดไฟเข้าที่ป่าทึบ และป่าทึบก็ม้วนขึ้นข้างบนเหมือนควันเป็นลูกๆ แผ่นดินนั้นถูกเผา โดยเหตุพระพิโรธของพระเจ้าจอมโยธา ประชาชนก็เหมือนเชื้อเพลิง ไม่มีคนใดไว้ชีวิตพี่น้องของตน เขาฉวยได้ทางขวา แต่ยังหิวอยู่ เขากินทางซ้ายแต่ก็ยังไม่อิ่ม ต่างก็กินเนื้อพี่น้องของตนเอง มนัสเสห์กินเอฟราอิม เอฟราอิมกินมนัสเสห์ และทั้งคู่ก็สู้กับยูดาห์ ถึงกระนั้นก็ดี พระพิโรธของพระองค์ก็ยังมิได้หันกลับ และพระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่
อิสยาห์ 9:1-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
อย่างไรก็ตามผู้ทุกข์ลำเค็ญจะไม่เศร้าหมองอีกต่อไป ในอดีตพระเจ้าทรงทำให้ดินแดนเศบูลุนและนัฟทาลีต่ำลง แต่ในอนาคตพระองค์จะทรงเชิดชูกาลิลีที่ชาวต่างชาติอาศัยอยู่ ซึ่งรวมทั้งเมืองริมทะเลเลียบแม่น้ำจอร์แดน ประชากรผู้เดินอยู่ในความมืด ได้เห็นแสงสว่างอันยิ่งใหญ่ บรรดาผู้อาศัยในดินแดนแห่งเงาของความตาย แสงสว่างเริ่มสาดต้องพวกเขาแล้ว พระเจ้าทรงขยายชนชาตินั้น และเพิ่มพูนความปีติยินดีของพวกเขา พวกเขาชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์ เหมือนคนเริงรื่นชื่นบานยามเก็บเกี่ยว หรือยามแบ่งสมบัติที่ริบได้จากเชลย เหมือนอย่างวันแห่งชัยชนะเหนือมีเดียน พระองค์จะทรงทำลาย แอกที่เป็นภาระของประชากรของพระองค์ คานที่พวกเขาต้องแบกหาม และไม้ตะบองของผู้ที่กดขี่ข่มเหงเขา รองเท้าทุกคู่ของนักรบซึ่งใช้ในสงคราม และเสื้อผ้าทั้งหมดของพวกเขาที่โชกเลือด จะถูกเผาไฟ และใช้เป็นเชื้อเพลิง ด้วยว่ามีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งที่ประทานแก่เรา และการปกครองจะอยู่บนบ่าของเขา และเขาจะได้รับการขนานนามว่า “ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช” การปกครองอย่างสันติของบุคคลนั้น จะรุ่งเรืองขึ้นไม่สิ้นสุด พระองค์จะทรงครอบครองเหนือบัลลังก์ และอาณาจักรของดาวิด ทรงสถาปนาและผดุงอาณาจักรนั้นไว้ ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม ตั้งแต่เวลานั้นตราบนิรันดร์ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงกระตือรือร้น ที่จะกระทำการนี้ให้สำเร็จ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีพระดำรัสเป็นคำพิพากษาเกี่ยวกับอิสราเอล พงศ์พันธุ์ของยาโคบว่า ประชากรทั้งปวงจะรู้ถึงคำพิพากษา คือเอฟราอิมและชาวสะมาเรียทั้งหลาย ซึ่งกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง และด้วยใจอหังการว่า “อิฐทลายลงแล้วก็จริง แต่เราจะสร้างขึ้นใหม่ด้วยหินสกัด ต้นมะเดื่อทั้งหลายถูกโค่นลงไปแล้ว แต่เราจะแทนที่ด้วยไม้สนซีดาร์” แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเสริมกำลังศัตรูของ เรซีนขึ้นมาสู้กับพวกเขา และทรงกระตุ้นศัตรูของพวกเขา ชาวอารัมจากตะวันออก และชาวฟีลิสเตียจากตะวันตก อ้าปากกว้างกลืนอิสราเอลเสีย ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่ แต่เหล่าประชากรก็ยังไม่ยอมหันกลับมาหาพระองค์ผู้ทรงลงโทษพวกเขา ทั้งไม่ยอมแสวงหาพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงตัดทั้งหัวและหางจากอิสราเอล ทั้งกิ่งอินทผลัมและต้นอ้อภายในวันเดียว หัวคือผู้อาวุโสและคนใหญ่คนโต หางคือผู้เผยพระวจนะซึ่งสอนเท็จ บรรดาผู้นำก็นำไปผิดทาง และบรรดาผู้ตามก็ถูกนำให้หลงเตลิด ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงชื่นชอบคนหนุ่ม ทั้งจะไม่ทรงเอ็นดูสงสารลูกกำพร้าพ่อกับหญิงม่าย เพราะทุกคนล้วนชั่วช้าอธรรม ทุกปากพูดชั่ว ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่ แน่ทีเดียวความชั่วลุกโพลงดั่งกองไฟ มันผลาญต้นหนามน้อยใหญ่ทั้งปวง ทำให้ทั้งป่าลุกไหม้ ส่งควันโขมง พื้นแผ่นดินจะถูกเผาผลาญ โดยพระพิโรธของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ประชากรจะเป็นเชื้อเพลิง ไม่มีใครละเว้นพี่น้องของตน พวกเขาจะเขมือบทางขวา แต่ก็ยังหิวโหย กินไปทางซ้าย แต่ก็ยังไม่อิ่ม ต่างก็จะเลี้ยงชีวิตด้วยเนื้อลูกหลานของตนเอง มนัสเสห์และเอฟราอิมจะกัดกินกันเอง และทั้งสองจะหันมาเล่นงานยูดาห์
อิสยาห์ 9:1-21 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
แต่จะไม่มีความมืดมนสำหรับผู้ที่อยู่ในความเจ็บปวดรวดร้าว ในอดีตพระองค์ทำให้เขตแดนของเผ่าเศบูลุนและเขตแดนของเผ่านัฟทาลีเป็นที่ดูหมิ่น แต่ต่อมาภายหลัง พระองค์ให้กาลิลีของบรรดาประชาชาติได้รับเกียรติ โดยเส้นทางทะเล ดินแดนโพ้นแม่น้ำจอร์แดน ชนชาติที่ดำเนินชีวิตในความมืด ได้เห็นความสว่างอันยิ่งใหญ่ ผู้ที่อยู่อาศัยในดินแดนของความมืดมน ได้รับความสว่างที่ส่องมาถึงแล้ว พระองค์ทวีจำนวนคนให้แก่ประชาชาตินั้น พระองค์เพิ่มความยินดีให้ และพวกเขาก็ยินดี ณ เบื้องหน้าพระองค์ เป็นความยินดีอย่างที่มีในฤดูเก็บเกี่ยว ยินดีอย่างที่พวกเขาดีใจเมื่อแบ่งปันสิ่งที่ริบมา ทั้งแอกที่เป็นภาระของเขา ไม้เท้าที่เขาแบกบนบ่า และไม้ตะบองของผู้บีบบังคับเขา พระองค์ได้ทำให้สิ่งเหล่านั้นยับเยินไป เหมือนวันที่พวกมีเดียนพ่ายแพ้ รองเท้าของนักรบทุกคู่ที่ย่ำในสงคราม และเครื่องแต่งกายทุกชิ้นที่แปดเปื้อนเลือด จะถูกเผาดั่งเชื้อเพลิง ด้วยว่า ทารกมาบังเกิดเพื่อพวกเรา คือบุตรชายที่ประทานให้แก่พวกเรา และท่านจะเป็นผู้แบกภาระปกครอง และท่านจะได้รับพระนามว่า ที่ปรึกษาผู้ล้ำเลิศ พระเจ้าผู้มีอานุภาพ พระบิดาแห่งนิรันดร์กาล ราชาแห่งสันติสุข การปกครองและสันติสุขของท่านเพิ่มพูน อย่างไม่มีวันสิ้นสุด ท่านจะครองบัลลังก์ของดาวิด และอาณาจักรของท่าน เพื่อสถาปนาและเชิดชูอาณาจักร ด้วยความเป็นธรรมและความชอบธรรม นับจากบัดนี้ไปจนชั่วนิรันดร์กาล ความรักอันแรงกล้าของพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากระทำการนี้ พระผู้เป็นเจ้าได้ส่งข้อความกล่าวโทษยาโคบ ซึ่งจะตกอยู่กับอิสราเอล และชนชาติทั้งปวงจะทราบเรื่องนี้ ทั้งเอฟราอิมและบรรดาผู้อยู่อาศัยของสะมาเรีย พูดด้วยความภูมิใจและหยิ่งยโสว่า “อิฐพังทลายลงแล้ว แต่พวกเราจะสร้างด้วยหินที่แต่งแล้ว ต้นมะเดื่อถูกโค่นลง แต่พวกเราก็จะปลูกต้นซีดาร์แทน” แต่พระผู้เป็นเจ้าเตรียมพวกศัตรูของเรซีนให้พร้อมเพื่อมาสู้รบกับพวกเขา และกระตุ้นศัตรูเหล่านั้น ทั้งพวกชาวอารัมที่ด้านตะวันออก และชาวฟีลิสเตียที่ด้านตะวันตก ก็ได้อ้าปากเพื่อเขมือบอิสราเอล ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังไม่หายกริ้วกับเรื่องเหล่านี้ และมือของพระองค์จึงยังเหยียดออกไป ประชาชนไม่ได้หันเข้าหาพระองค์ผู้ลงโทษพวกเขา และไม่ได้แสวงหาพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้าจึงตัดหัวและหางของอิสราเอล ทั้งกิ่งอินทผลัมและไม้อ้อภายในวันเดียว หัวหน้าชั้นผู้ใหญ่และชายผู้สูงศักดิ์ก็คือหัว และผู้เผยคำกล่าวที่สอนความเท็จก็คือหาง บรรดาผู้ที่นำทางชนชาตินี้ได้นำพวกเขาให้หลงผิด และบรรดาผู้ที่ถูกพวกเขานำไปก็ถูกกลืนกิน ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าไม่ยินดียินร้ายกับพวกคนหนุ่มของพวกเขา และไม่สงสารพวกเด็กๆ และแม่ม่ายของพวกเขา เพราะทุกคนไร้คุณธรรมและทำความชั่ว ทุกปากพูดแต่สิ่งโง่เขลา พระองค์ก็ยังไม่หายกริ้วกับเรื่องเหล่านี้ และมือของพระองค์จึงยังเหยียดออกไป ด้วยว่า ความชั่วลุกไหม้เหมือนไฟ มันเผาพุ่มไม้หนามและต้นหนาม มันปะทุให้พุ่มไม้ทึบในป่าลุกโพลง และลอยตัวขึ้นเป็นกลุ่มควันดั่งเสาหลัก แผ่นดินถูกเผาด้วยความ โกรธเกรี้ยวของพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา และประชาชนเป็นเหมือนเชื้อเพลิง ไม่มีใครไว้ชีวิตใคร พวกเขาเฉือนเนื้อทางด้านขวา แต่ก็ยังหิวอยู่ พวกเขากัดกินทางด้านซ้าย แต่ก็ไม่อิ่มหนำ แต่ละคนกัดกินเชื้อสายของตนเอง มนัสเสห์เขมือบเอฟราอิม และเอฟราอิมเขมือบมนัสเสห์ พวกเขาร่วมกันต่อสู้ยูดาห์ พระองค์ก็ยังไม่หายกริ้วกับเรื่องเหล่านี้ และมือของพระองค์จึงยังเหยียดออกไป