อิสยาห์ 44:9-28

อิสยาห์ 44:9-28 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พวกปั้นรูปเคารพล้วนเป็นความว่างเปล่า และสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบนั้นก็ไม่เป็นผลกำไร บรรดาสักขีพยานของพวกเขานั้นก็ไม่อาจจะเห็นและไม่อาจจะรู้ เพื่อพวกเขาจะได้อับอาย ใครปั้นพระหรือหล่อรูปเคารพที่ไม่เป็นประโยชน์อะไร? ดูซิ ทุกคนที่เป็นพวกเดียวกับเขาจะต้องอับอาย และช่างฝีมือนั้นก็เป็นเพียงมนุษย์ จงให้เขาทุกคนชุมนุมกัน ให้เขายืนขึ้น ให้เขาสยดสยอง และให้เขาอับอายด้วยกัน ช่างเหล็กทำงานอยู่เหนือก้อนถ่านด้วยเครื่องมือ และขึ้นรูปด้วยค้อนและทำด้วยแขนที่มีกำลังของเขา เออเขาหิวและกำลังของเขาหมดลง เขาไม่ได้ดื่มน้ำเลย และเขาอ่อนเปลี้ย ช่างไม้ขึงเชือกวัด เขาวาดโครงด้วยดินสอ เขาแต่งมันด้วยสิ่ว และวาดโครงด้วยวงเวียน เขาทำให้มันเหมือนรูปคนตามความงามของมนุษย์เพื่อให้มันอยู่ในเรือน เขาตัดต้นสนสีดาร์มาให้กับตัวเอง เขาเลือกต้นสนฉัตร หรือต้นโอ๊ก เขาปลูกมันไว้อย่างแข็งแรงท่ามกลางต้นไม้ในป่า เขาปลูกต้นเทพทาโรและฝนทำให้มันเติบโต แล้วมันก็กลายเป็นเชื้อเพลิงของคน และเขาเอามันมาส่วนหนึ่งและใช้มันอุ่นตัว เออ เขาก่อไฟและปิ้งขนมปัง และเขาเอามันมาทำรูปพระรูปหนึ่งแล้วนมัสการมันด้วย เขาทำเป็นรูปเคารพและกราบรูปนั้น ครึ่งหนึ่งของไม้นั้นเขาเผาในกองไฟ บนครึ่งนี้เขาย่างและกินเนื้อย่างจนอิ่ม และเขาก็อบอุ่นด้วย แล้วพูดว่า “เอ้อ ข้าอุ่นจัง ข้าเห็นเปลวไฟแล้ว” และไม้ที่เหลือนั้นเขาทำเป็นรูปพระรูปหนึ่ง คือเป็นรูปเคารพของเขา เขากราบลงต่อรูปนั้นและนมัสการมัน และอธิษฐานต่อรูปนั้นและกล่าวว่า “ขอทรงช่วยข้าพระองค์ เพราะพระองค์เป็นพระของข้าพระองค์” เขาทั้งหลายไม่รู้และเขาไม่เข้าใจ เพราะตาของพวกเขาถูกปิด เขาจึงไม่เห็นอะไร และใจของเขาก็ถูกปิด เขาจึงไม่เข้าใจ ไม่มีใครกลับมาคิดเลย และไม่มีความรู้หรือวิจารณญาณที่จะพูดว่า “ข้าเผาครึ่งหนึ่งของมันในกองไฟ แล้วข้าก็เอาถ่านของมันมาปิ้งขนมปัง และข้าย่างเนื้อกินแล้ว ควรที่ข้าจะทำส่วนที่เหลือให้เป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชัง และควรที่ข้าจะกราบลงต่อท่อนไม้จากต้นนั้นหรือ?” เขากินขี้เถ้า ใจที่หลอกลวงนำเขาให้หลง เขาช่วยกู้ตัวเขาเองไม่ได้และไม่สามารถพูดว่า “มีการล่อลวงอยู่ในมือขวาของข้าไม่ใช่หรือ? ” จงจำสิ่งเหล่านี้ไว้ โอ ยาโคบเอ๋ย เพราะเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา โอ อิสราเอล เราได้ปั้นเจ้า เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา อิสราเอลเอ๋ย เราจะไม่ลืมเจ้า เราได้ลบล้างการทรยศของเจ้าเสียเหมือนเมฆ และลบล้างบาปของเจ้าเหมือนหมอก จงกลับมาหาเรา เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว โอ ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงร้องเพลง เพราะพระยาห์เวห์ทรงทำการนี้ ห้วงลึกของแผ่นดินโลกเอ๋ย จงโห่ร้อง ภูเขาเอ๋ย จงร้องเป็นเพลงออกมา ป่าไม้และต้นไม้ทุกต้นในนั้นด้วย เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงไถ่ยาโคบ และจะทรงได้รับเกียรติในอิสราเอล พระยาห์เวห์ผู้ไถ่ของเจ้า ผู้ปั้นเจ้าตั้งแต่ในครรภ์ ตรัสดังนี้ว่า “เราคือยาห์เวห์ ผู้ทรงสร้างทุกสิ่ง ผู้ขึงฟ้าสวรรค์แต่ลำพัง ผู้กางแผ่นดินโลกด้วยตัวเอง ผู้ทำให้ลางของคนโกหกไม่ขลัง และทำให้คนทำนายบ้าๆ บอๆ ผู้หันคนฉลาดให้กลับหลัง และทำให้ความรู้ของเขาโง่เขลาไป ผู้รับรองถ้อยคำของผู้รับใช้ของพระองค์ และให้แผนงานของทูตของพระองค์สัมฤทธิ์ผล ผู้กล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะมีคนอาศัยอยู่’ และถึงเมืองต่างๆ ของยูดาห์ว่า ‘จะถูกสร้างขึ้นใหม่ และเราจะยกสิ่งปรักหักพังของมันขึ้น’ ผู้กล่าวกับที่ลึกว่า ‘จงแห้งเสีย และเราจะให้แม่น้ำทั้งหลายของเจ้าแห้งไป’ ผู้กล่าวถึงไซรัสว่า ‘เขาเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา และเขาจะทำให้ความมุ่งหมายทุกอย่างของเราสำเร็จ’ ด้วยการกล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะถูกสร้างขึ้นใหม่’ และกล่าวถึงพระวิหารว่า ‘จะได้รับการวางรากฐาน’ ”

อิสยาห์ 44:9-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

คนพวกนั้น​ทั้งหมด​ที่​ทำ​รูปเคารพต่างๆ​ขึ้นมา​ก็​ไม่มีค่า​อะไรเลย และ​รูปเคารพ​ที่​พวกเขา​ชื่นชอบ​นักหนา​ก็​ไม่มีประโยชน์​อะไรเลย พวกที่นมัสการ​รูปเคารพนั้น​ก็​เป็นพยาน​ให้กับ​พวกรูปเคารพนั้น คนที่​นมัสการ​รูปเคารพนั้น​ก็​มองไม่เห็น​และ​ไม่เข้าใจ ดังนั้น​พวกเขา​จะ​ได้รับ​ความอับอาย ใคร​จะ​ไป​ปั้นพระ​หรือ​หล่อรูปเคารพ​ที่​ไม่ได้​ทำประโยชน์​อะไรให้ ดูสิ พวกนั้น​ทั้งหมด​ที่​นับถือ​รูปเคารพ​จะต้อง​อับอาย พวกช่างฝีมือ​ที่​สร้างมัน​ก็​เป็นแค่​มนุษย์ ให้​พวกเขา​ชุมนุมกัน​ทุกคน​และ​ยืนขึ้น​สู้คดี พวกเขา​ก็จะต้อง​ขวัญผวา​และ​อับอาย​ขายหน้าไป ช่างเหล็ก​ก็​ตัดเหล็ก​เอา​มา​ทำ​ให้ร้อน​บนไฟ​และ​เขา​ใช้​ค้อนตี​ขึ้นรูป​และ​ทำงาน​กับ​เหล็กนั้น​ด้วย​แขน​อันแข็งแกร่ง​ของเขา แต่​เมื่อ​เขาหิว เขา​ก็จะ​หมดแรงไป ถ้า​เขา​ไม่ดื่มน้ำ​เขา​ก็จะ​อ่อนเปลี้ยไป ช่างไม้​ก็​ขึง​เชือกวัด​และ​ใช้​ปากกาเหล็ก และ​วงเวียน​ขีดเขียน​เป็น​รูปร่าง​ขึ้นมา และ​เขา​ก็​แกะสลัก​มัน​ด้วย​เครื่องมือ​แกะสลัก เขา​สร้างมัน​ขึ้นมา​เหมือน​รูปร่างคน และ​มี​ความสวยงาม​ของมนุษย์ แล้ว​เอา​มัน​ไป​ตั้งไว้​ใน​ศาลเจ้า เขา​ไป​ตัด​ต้นสนซีดาร์ หรือ​ไม่ก็​ไป​เลือก​ต้นโฮม์​หรือ​ต้นโอ๊ก เขา​ปล่อย​ให้​ต้นไม้​โตขึ้น​ตามลำพัง​ท่ามกลาง​ไม้อื่นๆ​ในป่า เขา​ปลูก​ต้นสนซีดาร์​และ​ฝน​ก็​ทำให้​มัน​สูงขึ้น และ​เมื่อ​ถึงเวลา​ที่​จะ​เอา​มัน​มา​ทำฟืน​ให้กับ​มนุษย์ เขา​ก็​เอา​ไม้นั้น​มา​ส่วนหนึ่ง มาเผา​ให้​ความอบอุ่น​กับตัวเอง เอา​มา​ก่อไฟ​และ​อบขนมปัง​และ​เขา​ก็​เอา​อีกส่วนหนึ่ง​มา​สร้าง​เป็นพระ​และ​นมัสการมัน เขา​แกะสลัก​รูปเคารพ​ขึ้นมา​และ​กราบไหว้​อยู่​ต่อหน้ามัน เขา​เอา​ไม้​ครึ่งหนึ่ง​มา​เผาไฟ​และ​ย่างเนื้อ​บนมัน เอา​มา​กิน​จน​อิ่มหนำสำราญ​และ​ผิงไฟนั้น​ให้​ร่างกาย​อบอุ่น และ​พูดว่า “ข้าอุ่นจัง ขณะที่​ดูไฟนี้” และ​ไม้​ที่เหลือ​ก็​เอามา​สร้าง​เป็นพระ ให้​เป็น​รูปเคารพ​ของเขา และ​เขา​ก็​ก้มกราบ​และ​นมัสการมัน แถม​เขา​ได้อธิษฐาน​กับมัน​ว่า “ช่วยกู้​ชีวิต​ข้าด้วย เพราะ​พระองค์​เป็น​พระเจ้า​ของข้า” พวกเขา​ไม่รู้​ไม่เข้าใจ​ใน​สิ่งที่​เขา​ทำอยู่ ตา​ของ​พวกเขา​ปิดสนิท เขา​จึง​มองอะไร​ไม่เห็น และ​จิตใจ​ของเขา​ก็​เหมือนกัน​เขา​ก็เลย​ไม่เข้าใจ ไม่มีใคร​หยุด​พิจารณา และ​พวกเขา​ก็​ไม่มี​ความรู้ หรือ​ความคิด​แยกแยะ ที่​จะ​พูดว่า “ข้า​เผาไม้​ครึ่งหนึ่ง​ในไฟ และ​อบขนมปัง​บนมัน ข้า​ย่างเนื้อ​และ​กินเนื้อนั้น แล้ว​ต่อไป​ข้า​ควรจะ​เอา​ไม้​ที่เหลือ​มา​สร้าง​สิ่งที่​น่าขยะแขยงนี้​หรือเปล่า ข้า​ควรจะ​ก้มลง​กราบ​ต่อหน้า​ท่อนไม้​ท่อนหนึ่ง​หรือเปล่า” มัน​เหมือนกับ​การเลี้ยงสัตว์​ด้วยขี้เถ้า จิตใจ​ที่​หลอกลวง​ของเขา​ได้​นำเขา​ให้​หลงทางไป เขา​ไม่สามารถ​ช่วยกู้​ตัวเองได้ หรือ​พูดว่า “สิ่งนี้​ที่​อยู่​ใน​มือขวา​ของข้า​เป็น​เรื่องหลอกลวง​ไม่ใช่หรือ” พระยาห์เวห์​พูดว่า “ยาโคบ​เอ๋ย จำ​เรื่อง​พวกนี้​ไว้ให้ดี อิสราเอล​เอ๋ย จำ​เรื่อง​พวกนี้​ให้ดี เพราะ​เจ้า​เป็น​ผู้รับใช้​ของเรา เรา​ได้​ปั้นเจ้า​ขึ้นมา เจ้า​คือ​ผู้รับใช้​ของเรา อิสราเอล​เอ๋ย เรา​จะ​ไม่มีวัน​ลืมเจ้า เรา​ได้​กวาด​การกบฏ​ของเจ้า​ทิ้งไป​เหมือน​ลมพัดเมฆไป และ​กวาด​ความบาป​ของเจ้า​ทิ้งไป​เหมือน​หมอกปลิวไป กลับ​มาหา​เราเถิด เพราะ​เรา​ได้​ไถ่เจ้าแล้ว” ฟ้าสวรรค์​เอ๋ย ร้องเพลงเถิด เพราะ​พระยาห์เวห์​ได้ทำ​สิ่งที่​ยิ่งใหญ่ ส่วน​ลึกที่สุด​ของโลกเอ๋ย โห่ร้องเถิด ภูเขา ป่าไม้ และ​ต้นไม้ทั้งหลายเอ๋ย ระเบิด​เสียงเพลง​ออกมาเลย เพราะ​พระยาห์เวห์​ได้​ไถ่ยาโคบแล้ว และ​พระองค์​ได้​เสริม​บารมี​ของพระองค์​โดย​ช่วย​อิสราเอล พระยาห์เวห์​ผู้ไถ่เจ้า ผู้​ปั้น​เจ้า​ใน​ครรภ์ พูด​ไว้​ว่า​อย่างนี้ “เรา​คือ​ยาห์เวห์ ผู้สร้าง​ทุกสิ่งทุกอย่าง เรา​ได้​ขึง​ท้องฟ้านี้​ออก​แต่เพียงผู้เดียว เรา​ได้​กาง​แผ่นดิน​ออก​ด้วย​ตัวเราเอง เรา​คือ​ผู้ที่​ทำให้​คำทำนาย​ของ​พวกนักต้มตุ๋น​ผิดเพี้ยนไป และ​ทำให้​พวกหมอดู​กลายเป็น​ตัวตลกโง่ๆไป และ​เรา​เป็น​ผู้ที่​ทำให้​คนฉลาด​หัวหมุน และ​ทำให้​ความรู้​ของเขา​นั้น​โง่เขลาไป แต่​เรา​ทำให้​คำพูด​ของ​ผู้รับใช้​เรา​เกิดขึ้นจริง และ​ทำให้​คำทำนาย​ของ​พวกทูต​ของเรา​สำเร็จผล เรา​พูดถึง​เยรูซาเล็ม​ว่า ‘จะ​มี​คน​มา​อาศัยอยู่​ที่นี่​อีกครั้งหนึ่ง’ และ​เรา​ก็​พูด​ถึง​เมืองต่างๆ​ของยูดาห์​ว่า ‘พวกมัน​จะ​ถูกสร้าง​ขึ้นใหม่’ และ​เรา​พูด​ถึง​ซากปรัก​หักพัง​ของ​เยรูซาเล็ม​ว่า ‘เรา​จะ​ยก​ซากปรัก​หักพัง​เหล่านั้น​ขึ้นมาใหม่’ เรา​พูด​กับ​มหาสมุทร​ว่า ‘เหือด​แห้ง​ไปซะ’ เรา​จะ​ทำให้​แม่น้ำ​ทั้งหลาย​ของเจ้า​เหือด​แห้งไป เรา​พูด​ถึง​ไซรัส ว่า ‘เขา​เป็น​ผู้เลี้ยงแกะ​ของเรา เขา​จะ​ทำ​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​เรา​อยากให้​เขาทำ’ ไซรัส​จะ​พูดถึง​เยรูซาเล็ม​ว่า ‘ให้​สร้างมัน​ขึ้นมาใหม่’ และ​พูดถึง​พระวิหาร​ว่า ‘ให้​วาง​ฐานราก​ของมัน​ขึ้นมาใหม่’”

อิสยาห์ 44:9-28 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

บรรดาผู้​ที่​ทำรูปเคารพสลักต่างก็​ไร้ประโยชน์​ใดๆทั้งสิ้น และสิ่งที่เขาปี​ติ​ยินดี​นั้​นก​็​ไม่​เป็นประโยชน์ เขาเป็นพยานของเขาเอง พยานเหล่านั้นทั้งไม่​เห​็นและไม่​รู้ เพื่อเขาจะต้องอับอาย ใครเล่าปั้นพระหรือหล่อรูปเคารพสลักซึ่งไม่​เป็นประโยชน์​อะไรเลย ดู​เถิด เพื่อนทั้งสิ้นของเขาจะต้องอับอาย และช่างฝีมือนั้​นก​็เป็นแต่​มนุษย์ ให้​เขาชุ​มนุ​มกันทั้งหมด ให้​เขายืนขึ้น เขาจะสยดสยอง เขาจะรับความอับอายด้วยกัน ช่างเหล็กใช้คีมทำงานอยู่เหนื​อก​้อนถ่าน และใช้ค้อนทุบมันด้วยแขนที่​แข​็งแรงของเขา เออ เขาหิวและกำลังของเขาอ่อนลง เขาไม่​ได้​ดื่​มน​้ำเลย และอ่อนเปลี้ย ช่างไม้​ขึงเชือกวัด เขาเอาดินสอขีดไว้ เขาแต่​งม​ันด้วยกบ และขีดไว้ด้วยวงเวียน เขาแต่งรู​ปน​ั้นให้เป็​นร​ูปคน ตามความงามของคน ให้​อยู่​ในเรือน เขาตัดต้นสนสีดาร์​ลง เขาเลือกต้นสนจีนและต้นโอ๊ก และปล่อยให้มันงอกขึ้นอย่างแข็งแรงท่ามกลางต้นไม้ในป่า เขาปลูกต้นแอชและฝนก็เลี้ยงมัน แล​้วมนุษย์จะเอาไปเผาเสีย เขาเอามันมาส่วนหนึ่งและให้อบอุ่นตัวเขา เออ เขาก่อไฟและปิ้งขนมปัง และเขาเอามาทำพระองค์​หน​ึ่งและนมัสการมันด้วย เออ เขาทำเป็​นร​ูปแกะสลักและกราบรู​ปน​ั้น เขาเผาในกองไฟครึ่งหนึ่ง บนครึ่งนี้เขาได้กินเนื้อ เขาย่างเนื้อและกิ​นอ​ิ่ม และเขาอบอุ่นตัวของเขาด้วย แล​้​วว​่า “อ้าฮา ข้าอุ่นจัง ข้าเห็นไฟแล้ว” และที่เหลือนั้นเขาทำเป็นพระองค์​หนึ่ง เป็​นร​ูปเคารพสลักของเขา และกราบลงนมัสการรู​ปน​ั้น และอธิษฐานต่อรู​ปน​ั้นและว่า “ขอทรงช่วยข้าพระองค์​ให้​พ้น เพราะพระองค์เป็นพระของข้าพระองค์” เขาทั้งหลายไม่​รู้ หรือเขาทั้งหลายไม่​เข้าใจ เพราะตาของเขาถูกปิด เขาจึงเห็นอะไรไม่​ได้ และจิตใจของเขาเล่าก็​ถู​กปิด เขาจึงเข้าใจไม่​ได้ ไม่มี​ใครพินิจพิ​เคราะห์​ในใจของตนเลย และไม่​มีความรู้​หรือความเข้าใจ ที่​จะกล่าวว่า “ข้าได้เผามันเสียส่วนหนึ่งในกองไฟ และข้าก็เอาถ่านมันมาปิ้งขนมปัง ข้าย่างเนื้​อก​ินแล้ว และควรหรือที่ข้าจะทำส่วนที่เหลือให้เป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชัง ควรหรือที่ข้าจะกราบลงต่อท่อนไม้ท่อนหนึ่ง” เขากินขี้​เถ้า ใจที่หลอกลวงนำเขาให้​เจิ่น เขาช่วยจิตใจตัวเขาเองให้พ้นหรือพูดว่า “​ไม่มี​ความมุสาอยู่ในมือข้างขวาของข้าหรือ” ก็​ไม่ได้ โอ ยาโคบและอิสราเอลเอ๋ย จงจำสิ่งเหล่านี้ เพราะเจ้าเป็นผู้​รับใช้​ของเรา เราได้ปั้นเจ้า เจ้​าเป็นผู้​รับใช้​ของเรา โอ อิสราเอลเอ๋ย เราจะไม่ลืมเจ้า เราได้ลบล้างการละเมิดของเจ้าเสียเหมือนเมฆทึบ และลบล้างบาปของเจ้าเหมือนเมฆ จงกลับมาหาเรา เพราะเราได้​ไถ่​เจ้​าแล้ว โอ ฟ้าสวรรค์​เอ๋ย จงร้องเพลงเพราะพระเยโฮวาห์ทรงกระทำการนี้ ห้วงลึกของแผ่นดินโลกเอ๋ย จงโห่​ร้อง ภู​เขาเอ๋ย จงร้องเป็นเพลงออกมา โอ ป่าไม้​เอ๋ย และต้นไม้​ทุ​กต้นในนั้นด้วย เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงไถ่ยาโคบ และจะทรงรับเกียรติในอิสราเอล พระเยโฮวาห์​ผู้​ไถ่​ของเจ้า ผู้​ปั้นเจ้าตั้งแต่ในครรภ์ ตรั​สด​ังนี้​ว่า “เราคือพระเยโฮวาห์ ผู้​ทรงสร้างสิ่งสารพัด ผู้​ทรงขึงฟ้าสวรรค์​แต่ลำพัง ผู้​ทรงกางแผ่นดินโลกด้วยตัวเราเอง ผู้​กระทำให้ลางของคนมุสาไม่​ขลัง และกระทำพวกโหรให้​บ้าๆบอๆ ผู้​หันคนฉลาดให้​กล​ับหลัง และกระทำให้​ความรู้​ของเขาเขลาไป ผู้​รับรองถ้อยคำของผู้​รับใช้​ของพระองค์ และให้​สัมฤทธิ์​ผลตามแผนงานแห่งทูตของพระองค์ ผู้​กล​่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะมีคนอาศัยอยู่’ และถึงหัวเมืองยูดาห์​ว่า ‘จะมีคนมาสร้างขึ้น และเราจะยกสิ่งปรั​กห​ักพังของมันขึ้น’ ผู้​กล​่าวแก่​ที่​ลึ​กว่า ‘จงแห้งเสีย เราจะให้​แม่น​้ำของเจ้าแห้ง’ ผู้​กล​่าวถึงไซรั​สว​่า ‘เขาเป็นเมษบาลของเรา และเขาจะให้ความมุ่งหมายทั้งสิ้นของเราสำเร็จ’ กล​่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะมีคนมาสร้างเจ้าขึ้น’ และถึงพระวิหารว่า ‘จะวางรากฐานของเจ้า’”

อิสยาห์ 44:9-28 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

บรรดาผู้ที่ทำรูปเคารพก็เป็นศูนย์ และสิ่งที่เขาปีติยินดีนั้นก็ไม่เป็นประโยชน์ พยานของเขานั้นทั้งไม่เห็นและไม่รู้ เพื่อเขาจะต้องอับอาย ใครเล่าแต่งพระหรือหล่อรูปเคารพซึ่งไม่เป็นประโยชน์อะไรเลย ดูเถิด เพื่อนทั้งสิ้นของเขาจะต้องอับอาย และช่างฝีมือนั้นก็เป็นแต่มนุษย์ ให้เขาชุมนุมกันทั้งหมด ให้เขายืนขึ้น เขาจะสยดสยอง เขาจะรับความอับอายด้วยกัน ช่างเหล็กก็ทำงาน อยู่เหนือก้อนถ่าน ใช้เครื่องมือของเขา และทุบมันด้วยแขนที่แข็งแรงของเขา เออเขาหิวและกำลังของเขาอ่อนลง เขาไม่ได้ดื่มน้ำเลย และอ่อนเปลี้ย ช่างไม้ขึงเชือกวัด เขาเอาดินสอขีดไว้ เขาแต่งมันด้วยกบ และขีดไว้ด้วยวงเวียน เขาแต่งรูปนั้นให้เป็นรูปคนตามความงามของคนให้อยู่ในเรือน เขาตัดต้นสนสีดาร์ลง หรือเขาเลือกต้นสนฉัตร หรือต้นก่อและปล่อยให้มันงอกขึ้น อย่างแข็งแรงท่ามกลางต้นไม้ในป่า เขาปลูกต้นเทพทาโรและฝนก็เลี้ยงมัน แล้วมันก็กลายเป็นพืชของคน เขาเอามันมาส่วนหนึ่งและให้อบอุ่นตัวเขา เออ เขาก่อไฟและปิ้งขนมปัง และเขาเอามาทำพระองค์หนึ่งและนมัสการมันด้วย เออ เขาทำเป็นรูปแกะสลักและกราบรูปนั้น เขาเผาในกองไฟครึ่งหนึ่ง บนครึ่งนี้เขาได้กินเนื้อ เขาย่างเนื้อและกินอิ่ม และเขาอบอุ่นตัวของเขาด้วย แล้วว่า <<เอ้อเฮอ ข้าอุ่นจัง ข้าเห็นไฟแล้ว>> และที่เหลือนั้นเขาทำเป็นพระองค์หนึ่ง เป็นรูปเคารพของเขา และกราบลงนมัสการรูปนั้น และอธิษฐานต่อรูปนั้นและว่า <<ขอทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์>> เขาทั้งหลายไม่รู้ หรือเขาทั้งหลายไม่เข้าใจ เพราะตาของเขาถูกปิด เขาจึงเห็นอะไรไม่ได้ และจิตใจของเขาเล่าก็ถูกปิด เขาจึงเข้าใจไม่ได้ ไม่มีใครตรึกตรองเลย และไม่มีความรู้หรือมีการพินิจพิเคราะห์ ที่จะว่า ข้าเผามันเสียครึ่งหนึ่งในกองไฟ และข้าก็เอาถ่านมันมาปิ้งขนมปัง ข้าย่างเนื้อกินแล้ว และควรที่ข้าจะทำส่วนที่เหลือให้เป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังหรือ ควรข้าจะกราบลงต่อท่อนไม้ท่อนหนึ่งไหม เขากินขี้เถ้า ใจที่หลอกหลอนนำเขาให้เจิ่น เขาช่วยกู้ตัวเขาเองหรือพูดว่า <<ไม่มีความมุสา อยู่ในมือข้างขวาของข้าหรือ>> ก็ไม่ได้ โอ ยาโคบเอ๋ย จงจำสิ่งเหล่านี้ อิสราเอลเอ๋ย เพราะเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เราได้ปั้นเจ้า เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา โอ อิสราเอลเอ๋ย เราจะไม่ลืมเจ้า เราได้ลบล้างการทรยศของเจ้าเสียเหมือนเมฆ และลบล้างบาปของเจ้าเหมือนหมอก จงกลับมาหาเรา เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว โอ ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงร้องเพลง เพราะพระเจ้าทรงกระทำการนี้ โอ ห้วงลึกของแผ่นดินโลกเอ๋ย จงโห่ร้อง โอ ภูเขาเอ๋ย จงร้องเป็นเพลงออกมา โอ ป่าไม้เอ๋ย และต้นไม้ทุกต้นในนั้นด้วย เพราะว่าพระเจ้าทรงไถ่ยาโคบ และจะทรงรับเกียรติในอิสราเอล พระเจ้าผู้ไถ่ของเจ้า ผู้ปั้นเจ้าตั้งแต่ในครรภ์ ตรัสดังนี้ว่า <<เราคือพระเจ้า ผู้ทรงสร้างสิ่งสารพัด ผู้ทรงขึงฟ้าสวรรค์แต่ลำพัง ผู้ทรงกางแผ่นดินโลก ผู้ใดอยู่กับเราเล่า ผู้กระทำให้ลางของคนมุสาไม่ขลัง และกระทำคนทำนายให้บ้าๆบอๆ ผู้หันคนฉลาดให้กลับหลัง และกระทำให้ความรู้ของเขาเขลาไป ผู้รับรองถ้อยคำของผู้รับใช้ของพระองค์ และให้สัมฤทธิ์ผลตามแผนงานแห่งทูตของพระองค์ ผู้กล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า <จะมีคนอาศัยอยู่> และถึงหัวเมืองยูดาห์ว่า <จะมีคนมาสร้างขึ้น และเราจะยกสิ่งปรักหักพังของมันขึ้น> ผู้กล่าวแก่ที่ลึกว่า <จงแห้งเสีย เราจะให้แม่น้ำของเจ้าแห้ง> ผู้กล่าวถึงไซรัสว่า <เขาเป็นเมษบาลของเรา และเขาจะให้ความมุ่งหมายทั้งสิ้นของเราสำเร็จ> กล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า <จะมีคนมาสร้างขึ้น> และถึงพระวิหารว่า <จะวางรากฐานของเจ้า> >>

อิสยาห์ 44:9-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

บรรดาผู้ที่ทำรูปเคารพก็ไร้ค่า สิ่งต่างๆ ที่เขาเทิดทูนก็เปล่าประโยชน์ บรรดาผู้ออกรับแทนพวกเขาก็ตาบอด พวกเขาโง่เง่าและต้องอับอาย ใครปั้นเทวรูป ใครหล่อรูปเคารพ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์อะไรแก่ตน? เขากับพรรคพวกจะต้องอัปยศอดสู ช่างฝีมือก็เป็นแค่มนุษย์ ให้พวกเขามาชุมนุมกัน ยืนอยู่ในที่ของตน พวกเขาจะถูกทำให้ตกลงไปในความสยดสยองและความเสื่อมเสีย ช่างเหล็กหยิบเครื่องมือ ง่วนอยู่กับรูปเคารพในเตาเผา เขาใช้ค้อนแต่งเทวรูป ทุบสุดกำลังแขน เขาหิวและหมดกำลัง เขาไม่ได้ดื่มน้ำและหมดแรง ช่างไม้ขึงเชือกวัด ทำโครงสร้างหยาบๆ ใช้กบไส เอาวงเวียนขีด แต่งให้เป็นรูปคน มีลักษณะงามครบถ้วนอย่างมนุษย์ ให้อยู่ในสถานบูชา เขาโค่นสนซีดาร์ลง บางทีก็ใช้สนไซเปรสหรือต้นโอ๊ก เขาปล่อยให้มันโตขึ้นท่ามกลางต้นไม้ในป่า บางทีก็ปลูกสน และฝนทำให้มันเติบโตขึ้น มันเป็นฟืนให้คนเผา บางส่วนเขานำมาใช้ผิงกาย เขาจุดไฟปิ้งขนมปัง แต่ที่เหลือจากนั้นก็เอามาตกแต่งเป็นเทพเจ้าและนมัสการมัน เขาสร้างให้เป็นรูปเคารพและก้มกราบมัน เขาใช้ไม้ครึ่งหนึ่งก่อไฟ เตรียมอาหารย่างเนื้อกินจนอิ่ม ทั้งใช้ผิงกายและพูดว่า “เออ! อุ่นดี ข้าเห็นไฟแล้ว” ส่วนที่เหลือเขาใช้ทำเทวรูป เป็นรูปเคารพของเขา แล้วเขาก็หมอบกราบนมัสการมัน เขาอธิษฐานต่อมันว่า “ช่วยลูกด้วย เทพเจ้าของลูก” พวกเขาไม่รู้ประสีประสา ไม่เข้าใจอะไร ตาของเขาถูกปิดจึงมองไม่เห็น ใจของเขาก็ถูกบังจึงไม่อาจเข้าใจ ไม่มีใครหยุดเพื่อคิด ไม่มีใครรู้หรือเข้าใจที่จะพิเคราะห์ว่า “เราใช้ไม้ครึ่งหนึ่งทำฟืน เราปิ้งขนมปังบนถ่านไม้ เราย่างเนื้อกิน ควรหรือที่เราจะเอาไม้ส่วนที่เหลือมาทำสิ่งที่น่าเกลียดชัง? ควรหรือที่เราจะหมอบกราบลงตรงหน้าท่อนไม้?” เขายังชีพด้วยขี้เถ้า จิตใจที่ลุ่มหลงนำเขาหลงเจิ่นไป เขาไม่อาจช่วยเหลือตัวเองหรือพูดว่า “สิ่งที่อยู่ในมือขวาของเรานี้เป็นสิ่งหลอกลวงไม่ใช่หรือ?” “ยาโคบเอ๋ย จงจดจำสิ่งเหล่านี้ อิสราเอลเอ๋ย เพราะเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เราได้สร้างเจ้ามา เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา อิสราเอลเอ๋ย เราจะไม่ลืมเจ้า เราได้กวาดล้างการละเมิดของเจ้าออกไปเหมือนเมฆ ได้ลบล้างบาปของเจ้าเหมือนหมอกยามเช้า จงกลับมาหาเรา เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว” ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงร้องเพลงด้วยความยินดีเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงทำการนี้ โลกเอ๋ย จงโห่ร้องให้กึกก้อง จงร้องเพลงเถิด ภูเขาทั้งหลาย ทั้งป่าไม้และพฤกษ์ไพรทั้งปวง เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงไถ่ยาโคบแล้ว พระองค์ทรงสำแดงพระเกียรติสิริในอิสราเอล “พระยาห์เวห์พระผู้ไถ่ของเจ้า ผู้ได้ทรงปั้นเจ้าในครรภ์มารดาตรัสดังนี้ว่า “เราคือพระยาห์เวห์ ผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งปวง เราแต่ผู้เดียวคลี่ฟ้าสวรรค์ออกมา เราเองเป็นผู้กางแผ่นดินโลกออก ผู้ทรงทำลายหมายสำคัญของผู้เผยพระวจนะเท็จ และทำให้นักทำนายกลายเป็นคนโง่เง่า ผู้ทรงคว่ำความรอบรู้ของคนฉลาด และทรงเปลี่ยนมันเป็นสิ่งไร้สาระ ผู้ประทานถ้อยคำแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ และให้การคาดคะเนต่างๆ ของทูตของพระองค์กลายเป็นจริง “ผู้ทรงกล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะมีผู้อยู่อาศัย’ ทรงกล่าวถึงเมืองต่างๆ ของยูดาห์ว่า ‘จะถูกสร้างขึ้น’ และทรงกล่าวถึงความหายนะของพวกเขาว่า ‘เราจะฟื้นฟูขึ้นใหม่’ ผู้ทรงกล่าวกับห้วงน้ำลึกว่า ‘จงแห้งไป และเราจะทำให้สายธารทั้งหลายของเจ้าแห้งเหือด’ ผู้ทรงกล่าวถึงไซรัสว่า ‘เขาเป็นคนเลี้ยงแกะของเรา และจะทำทุกสิ่งให้สำเร็จตามที่เราพอใจ เขาจะกล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า “ให้สร้างมันขึ้นใหม่” และกล่าวถึงพระวิหารว่า “ให้วางฐานรากของมัน” ’

อิสยาห์ 44:9-28 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ทุก​คน​ที่​ปั้น​รูป​เคารพ​ไม่​สามารถ​ทำ​สิ่ง​ใด​ได้ และ​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​เทิดทูน​ก็​ไร้​ประโยชน์ บรรดา​ผู้​ที่​เป็น​พยาน​เพื่อ​พวก​เขา​ไม่​สามารถ​มอง​เห็น​หรือ​รู้​อะไร พวก​เขา​จะ​เผชิญ​กับ​ความ​อับอาย ใคร​จะ​ปั้น​เทพเจ้า หรือ​หล่อ​รูป​เคารพ​โดย​ไม่​ได้​ผล​กำไร ดู​เถิด ผู้​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เขา​จะ​ต้อง​อับอาย และ​ช่าง​ฝีมือ​เป็น​เพียง​มนุษย์ ปล่อย​ให้​พวก​เขา​มา​ชุมนุม​ร่วม​กัน ให้​พวก​เขา​ยืนกราน พวก​เขา​จะ​ต้อง​ตกตะลึง จะ​ต้อง​อับอาย​ไป​ด้วย​กัน ช่าง​ตี​เหล็ก​ใช้​เครื่อง​มือ​รม​ถ่าน​ให้​ร้อน เขา​ใช้​แขน​ที่​แข็งแรง​ขึ้น​รูป​ด้วย​ค้อน เมื่อ​เขา​รู้สึก​หิว กำลัง​ของ​เขา​ก็​ถอย​ลง และ​เขา​จะ​เป็น​ลม​ถ้า​ไม่​ได้​ดื่ม​น้ำ ช่าง​ไม้​ใช้​ไม้วัด​และ​ใช้​ดินสอ​ขีด​เครื่อง​หมาย เขา​ใช้​กบ​ไส​ไม้​ให้​เป็น​รูป​ร่าง​ขึ้น​มา และ​ขีด​เครื่อง​หมาย​ด้วย​วงเวียน เขา​สลัก​ให้​เป็น​รูป​ร่าง​มนุษย์​คน​หนึ่ง ตาม​ความ​งาม​ของ​มนุษย์ เพื่อ​ให้​อยู่​ใน​บ้าน เขา​ตัด​ต้น​ซีดาร์ เขา​เลือก​ต้น​สน​ไซเปร็ส​หรือ​ต้น​โอ๊ก​ซึ่ง​เจริญ​งอก​งาม​ได้​เอง​ใน​หมู่​ต้น​ไม้​ใน​ป่า เขา​ปลูก​ต้น​ซีดาร์ และ​ฝน​ช่วย​ทำให้​มัน​โต​ขึ้น แล้ว​มนุษย์​ใช้​ต้น​ไม้​เป็น​เชื้อ​เพลิง เขา​ตัด​ส่วน​หนึ่ง​มา​ใช้​เพื่อ​ให้​ความ​อบอุ่น เขา​ติด​ไฟ​และ​อบ​ขนมปัง เขา​เอา​ไม้​มา​ทำ​เป็น​เทพเจ้า​และ​นมัสการ เขา​ทำ​เป็น​รูป​เคารพ​และ​ก้ม​กราบ ไม้​อีก​ครึ่ง​หนึ่ง​เขา​ใช้​ก่อ​ไฟ เพื่อ​ย่าง​เนื้อ​สัตว์ และ​รับประทาน​จน​อิ่มหนำ เขา​ได้​รับ​ความ​อบอุ่น​และ​พูด​ว่า “โอ ฉัน​อุ่น​สบาย ฉัน​เห็น​เปลว​ไฟ​แล้ว” เขา​ใช้​ไม้​ที่​ยัง​เหลือ​อยู่​ทำ​เป็น​รูป​เทพเจ้า คือ​รูป​เคารพ​ของ​เขา และ​ก้ม​กราบ​และ​นมัสการ เขา​อธิษฐาน​ต่อ​รูป​เคารพ​ว่า “ช่วย​ข้าพเจ้า​ให้​รอด​เถิด เพราะ​ท่าน​เป็น​เทพเจ้า​ของ​ข้าพเจ้า” พวก​เขา​ไม่​รู้​และ​ไม่​เห็น​แจ้ง เพราะ​เขา​ปิด​ตา จึง​ทำให้​มอง​ไม่​เห็น และ​ปิด​ใจ จึง​ทำให้​ไม่​เข้าใจ ไม่​มี​ใคร​นึก​ถึง หรือ​มี​ความรู้ หรือ​เห็น​แจ้ง​ที่​จะ​พูด​ว่า “ฉัน​ใช้​เผา​ไฟ​ครึ่ง​หนึ่ง ฉัน​ใช้​อบ​ขนมปัง​บน​ถ่าน​ร้อน ฉัน​ย่าง​เนื้อ​กิน​แล้ว และ​ฉัน​ควร​จะ​ใช้​ไม้​ที่​เหลือ​ทำ​สิ่ง​ที่​น่า​รังเกียจ​หรือ ฉัน​ควร​จะ​ก้ม​ให้​กับ​ท่อน​ไม้​หรือ” เขา​กิน​ขี้เถ้า ใจ​ที่​หลงผิด​ทำให้​เขา​ถูก​หลอก​ลวง และ​เขา​ช่วย​ตัว​เอง​ให้​รอด​ไม่​ได้ หรือ​แม้​จะ​พูด​ว่า “สิ่ง​ที่​ฉัน​ถือ​ใน​มือ​ขวา​นี้​เป็น​สิ่ง​หลอก​ลวง​หรือ​เปล่า” “โอ ยาโคบ​เอ๋ย จง​จดจำ​สิ่ง​เหล่า​นี้​ไว้ โอ อิสราเอล​เอ๋ย เพราะ​เจ้า​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​เรา เรา​ปั้น​เจ้า​ขึ้น​มา เจ้า​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​เรา โอ อิสราเอล​เอ๋ย เรา​จะ​ไม่​ลืม​เจ้า เรา​ได้​กำจัด​การ​ล่วง​ละเมิด​ของ​เจ้า​เหมือน​กำจัด​ก้อน​เมฆ และ​กำจัด​บาป​ของ​เจ้า​เหมือน​กำจัด​หมอก จง​กลับ​มา​หา​เรา เพราะ​เรา​ได้​ไถ่​เจ้า​แล้ว” ฟ้า​สวรรค์​เอ๋ย จง​ร้อง​เพลง เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​กระทำ​สิ่ง​นี้ โอ โลก​เบื้อง​ล่าง​เอ๋ย จง​ส่งเสียง​ร้อง โอ เทือกเขา ป่า​ไม้​และ​ต้น​ไม้​ทุก​ต้น​เอ๋ย จง​โห่​ร้อง​ด้วย​เสียง​เพลง เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​ไถ่​ยาโคบ​แล้ว และ​พระ​องค์​จะ​สำแดง​พระ​บารมี​ของ​พระ​องค์​ใน​อิสราเอล พระ​ผู้​เป็น​เจ้า องค์​ผู้​ไถ่​ของ​เจ้า ผู้​สร้าง​เจ้า​นับ​ตั้งแต่​อยู่​ใน​ครรภ์​กล่าว​ดังนี้ “เรา​คือ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ผู้​สร้าง​สรรพสิ่ง ผู้​เดียว​ที่​สร้าง​ฟ้า​สวรรค์​ให้​แผ่​กว้าง​ออก​ไป ผู้​กาง​แผ่นดิน​โลก​ด้วย​ตัว​เรา​เอง เรา​ทำให้​เห็น​ว่า การ​อัศจรรย์​ของ​พวก​คุยโว​โอ้อวด​ไม่​เป็น​ความ​จริง ทำให้​บรรดา​ผู้​ทำนาย​กลาย​เป็น​คน​โง่ เรา​ทำให้​ผู้​เรือง​ปัญญา​ให้​คำ​ปรึกษา​ผิดๆ ทำให้​เห็น​ว่า​ความรู้​ของ​พวก​เขา​ไร้​สาระ เรา​ยืนยัน​คำ​พูด​ของ​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ และ​ทำให้​คำ​ของ​บรรดา​ผู้​ประกาศ​ของ​พระ​องค์​สัมฤทธิผล เรา​เป็น​ผู้​กล่าว​ถึง​เยรูซาเล็ม​ว่า ‘จะ​มี​คน​อาศัย​อยู่’ และ​กล่าว​ถึง​เมือง​ต่างๆ ของ​ยูดาห์​ว่า ‘จะ​ถูก​สร้าง​ขึ้น และ​เรา​จะ​สถาปนา​สิ่ง​ที่​ปรัก​หัก​พัง​ขึ้น​ใหม่’ เรา​เป็น​ผู้​กล่าว​กับ​ห้วงน้ำ​ลึก​ว่า ‘จง​แห้ง​เสีย เรา​จะ​ทำให้​แม่น้ำ​ของ​เจ้า​แห้ง​เหือด’ เรา​กล่าว​ถึง​ไซรัส​ว่า ‘เขา​เป็น​ผู้​เลี้ยง​ดู​ฝูง​แกะ​ของ​เรา และ​เขา​จะ​ทำให้​จุด​มุ่ง​หมาย​ทั้ง​สิ้น​ของ​เรา​สัมฤทธิผล’ และ​กล่าว​ถึง​เยรูซาเล็ม​ว่า ‘จะ​ถูก​สร้าง​ขึ้น’ และ​กล่าว​ถึง​พระ​วิหาร​ว่า ‘ฐานราก​จะ​ถูก​วาง’”