อิสยาห์ 36:1-22

อิสยาห์ 36:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ใน​ช่วง​ปีที่​สิบสี่ ที่​กษัตริย์​เฮเซคียาห์ ปกครอง​ยูดาห์ กษัตริย์​เซนนาเคอริบ ของ​อัสซีเรีย​ได้​ยกทัพ​ขึ้น​มา​โจมตี​เมืองต่างๆ​ที่​มี​ป้อม​ปราการ​ของยูดาห์ และ​ยึด​เมืองเหล่านั้น​ไว้ได้ กษัตริย์​อัสซีเรีย​ได้​ส่ง​แม่ทัพ​ของเขา​พร้อมกับ​กองทัพใหญ่​จาก​เมืองลาคีช ไปหา​กษัตริย์​เฮเซคียาห์​ที่​เมืองเยรูซาเล็ม แม่ทัพนั้น​ได้​มาหยุด​อยู่ข้างๆ​รางน้ำ​ของ​สระด้านบน ตรงถนน​ที่​มุ่งไป​ยัง​ทุ่ง​ของคนซักผ้า มี​สามคน​ออกไปหา​แม่ทัพ​คนนั้น​ที่นั่น คือ​เอลียาคิม​ผู้ดูแลวัง ที่​เป็น​ลูกชาย​ของ​ฮิลคียาห์ เชบนา​เลขานุการ​ของกษัตริย์ และ​โยอาห์​ผู้จดบันทึก​ที่​เป็น​ลูกชาย​ของอาสาฟ แม่ทัพ​ได้พูด​กับพวกเขา​ว่า “ไป​บอก​เฮเซคียาห์​ว่า กษัตริย์​ผู้ยิ่งใหญ่ คือ​กษัตริย์​อัสซีเรีย พูดอย่างนี้​ว่า ‘ทำไม​เจ้า​ถึงได้​มี​ความเชื่อมั่น​ขนาดนี้ ข้อตกลง​กับ​พันธมิตร​ที่​เจ้า​หวังพึ่งนั้น​มัน​ก็แค่​เพียงคำพูด เจ้า​คิดว่า​มัน​จะใช้​แทน​กลยุทธ์​และ​กำลังทหาร​ในสงคราม​ได้หรือ เดี๋ยวนี้​เจ้า​ไปพึ่ง​ใครหรือ ถึง​กล้า​มา​กบฏ​กับเรา ดูดีๆ​ว่า​เจ้า​กำลัง​พึ่งอียิปต์ ซึ่ง​เป็น​เหมือน​ไม้เท้า​ต้นอ้อ​ที่เดาะแล้ว ถ้าใคร​ไป​ค้ำยันมัน มัน​ก็​จะแตก​และ​เสียบมือ​ของคนนั้น ฟาโรห์​กษัตริย์​ของอียิปต์ ก็​จะ​เป็น​อย่างนั้น​กับคน​ที่​มา​พึ่งพิงเขา แต่​ถ้า​เจ้า​จะ​บอกเรา​ว่า “เรา​เชื่อพึ่ง​ใน​พระยาห์เวห์​พระเจ้าของเรา” อ้าว เฮเซคียาห์​ได้รื้อ​พวก​สถานที่นมัสการ​และ​แท่นบูชา​ของพระนั้น​ทิ้งไปแล้ว​ไม่ใช่หรือ และ​สั่ง​คนยูดาห์​และ​คน​ใน​เยรูซาเล็ม​ว่า “พวกเจ้า​ต้อง​นมัสการ​ที่​แท่นบูชานี้​ที่​อยู่​ใน​เมืองเยรูซาเล็ม​เท่านั้น” ตอนนี้ มา​ทำ​ข้อตกลง​กับ​กษัตริย์​ของ​อัสซีเรีย เจ้านาย​ของข้า​ดีกว่า ข้า​จะให้​ม้า​กับเจ้า​สองพันตัว ถ้า​เจ้า​มี​ปัญญา​หาคน​มาขี่​พวกมันได้ ใน​เมื่อ​เจ้า​และ​อียิปต์​อ่อนแอ​ซะขนาดนี้ เจ้า​ยัง​จะ​ปฏิเสธ​อำนาจ​ของ​ข้าราชการ​ตัวเล็กๆ​ของเจ้านายข้า แล้ว​ไป​หวังพึ่ง​รถรบ​และ​ทหารม้า​ของอียิปต์​อีกหรือ และ​ตอนนี้ เจ้า​คิดว่า​ที่​ข้า​ขึ้นมา​โจมตี​แผ่นดินนี้​เพื่อ​ทำลายมัน โดย​ไม่ได้รับ​อนุญาต​จากพระยาห์เวห์​อย่างนั้นหรือ เป็น​พระยาห์เวห์เอง​ที่​พูดกับข้า​ว่า “ขึ้นไป​โจมตี​แผ่นดินนี้​และ​ทำลาย​มันซะ”’” แล้ว​เอลียาคิม เชบนา และ​โยอาห์ ตอบกับ​แม่ทัพ​ไปว่า “ช่วย​พูด​กับ​พวกเรา​ผู้รับใช้​ของท่าน​เป็น​ภาษาอารเมค​ด้วยเถิด เพราะ​พวกเรา​เข้าใจ​ภาษานั้น อย่า​พูด​กับ​พวกเรา​เป็น​ภาษาฮีบรูเลย เพราะ​ไม่อยาก​ให้​พวกนั้น​ที่อยู่​บน​กำแพง​ได้ยิน” แต่​แม่ทัพนั้น​ตอบว่า “เจ้า​คิดว่า เจ้านายข้า​ส่งข้ามา​เพื่อ​พูด​เรื่องพวกนี้​กับ​เจ้านายเจ้า และกับเจ้า​เท่านั้น​หรือยังไง เขา​ส่ง​ให้​ข้า​มาพูด​กับ​ไอ้คนพวกนั้น​ที่​นั่งอยู่​บนกำแพงด้วย ไอ้พวกนั้น​ก็​จะต้อง​กินขี้​และเยี่ยว​ของตัวเอง​เหมือนกับ​พวกเจ้า​นั่นแหละ” แล้ว​แม่ทัพ​ก็​ยืนขึ้น​และ​ร้องตะโกน​เสียงดัง​เป็น​ภาษาฮีบรู​ว่า “นี่​เป็น​คำพูด​ของ​กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ คือ​กษัตริย์​อัสซีเรีย พระองค์​พูดว่า​อย่างนี้ ‘อย่าให้​เฮเซคียาห์​หลอกลวงเจ้า เพราะ​เขา​ไม่สามารถ​ช่วยกู้​พวกเจ้า​ได้หรอก และ​อย่า​ให้​เฮเซคียาห์​ทำให้​พวกเจ้า​คิด​จะ​พึ่ง​พระยาห์เวห์ เมื่อเขา​พูดว่า “พระยาห์เวห์​จะ​ช่วยกู้​พวกเรา​อย่างแน่นอน พระยาห์เวห์​จะ​ไม่ยอม​ให้​เมืองนี้​ตกไปอยู่​ใน​กำมือ​ของ​กษัตริย์​อัสซีเรีย​เป็นอันขาด” อย่าไปฟัง​เฮเซคียาห์ เพราะ​กษัตริย์​อัสซีเรีย​พูดไว้​ว่า​อย่างนี้ “มา​ทำ​สัญญา​สงบศึก​กับข้า​และ​ออกมา​จำนน​ต่อข้า แล้ว​พวกเจ้า​แต่ละคน​ก็​จะได้​กิน​จาก​ต้นองุ่น​และ​ต้นมะเดื่อ​ของตัวเอง และ​ดื่ม​จาก​บ่อเก็บน้ำ​ของตน จนกว่า​เรา​จะมา​และ​พา​พวกเจ้า​ไปยัง​แผ่นดิน​ที่​เหมือนกับ​แผ่นดิน​ของเจ้านี้ เป็น​แผ่นดิน​ที่​มีข้าว​และ​เหล้าองุ่นใหม่ มี​ขนมปัง​และสวนองุ่น” ระวัง​ให้ดี อย่าให้​เฮเซคียาห์​ทำให้​เจ้า​หลงผิดไป เมื่อ​เขา​พูดว่า “พระยาห์เวห์​จะ​ช่วยกู้​พวกเรา” เรา​ขอถามเจ้า​ว่า “มีพระ​ของ​ชาติไหนบ้าง​ที่เคย​ช่วย​แผ่นดิน​ของ​พวกเขา​ให้รอดพ้น​จาก​เงื้อมมือ​ของ​กษัตริย์​อัสซีเรีย” พวกพระ​ของ​เมืองฮามัท​กับ​เมืองอารปัด​ไปไหนแล้ว พระ​ของ​เมืองเสฟารวาอิม​ไปไหนแล้ว พวกพระ​ของ​สะมาเรีย​สามารถ​ช่วยกู้​สะมาเรีย​จาก​เงื้อมมือ​ของข้า​ได้หรือ ใน​พวกพระ​ทั้งหมด​ของ​ประเทศ​เหล่านี้ มี​พระ​องค์ไหนบ้าง​ได้​ช่วย​ประเทศ​ของ​พวกเขา​ให้พ้น​จาก​เงื้อมมือ​ของข้า แล้ว​เจ้า​ยัง​คิดว่า​พระยาห์เวห์​จะ​สามารถ​ช่วย​เยรูซาเล็ม​ให้พ้น​จาก​เงื้อมมือ​ข้า​ได้หรือ’” แต่​พวกเขา​ก็​เงียบ ไม่ได้​ตอบ​เขา​สักคำ เพราะ​กษัตริย์​เฮเซคียาห์​ได้สั่ง​ไว้ว่า “อย่า​ไป​ตอบ​มัน” แล้ว​เอลียาคิม​ผู้ดูแลวัง ที่​เป็น​ลูกชาย​ของ​ฮิลคียาห์ เชบนา เลขานุการ​ของ​กษัตริย์ และ​โยอาห์​ผู้จดบันทึก​ที่​เป็น​ลูกชาย​ของ​อาสาฟ ได้ไปหา​เฮเซคียาห์​ใส่​เสื้อผ้า​ที่​ขาดรุ่งริ่ง​ที่​พวกเขา​ฉีก​ด้วย​ความโศกเศร้า และ​พวกเขา​ก็​รายงาน​กษัตริย์​ถึง​สิ่งที่​แม่ทัพ​นั้น​พูด

อิสยาห์ 36:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ในปีที่สิบสี่แห่งรัชกาลกษัตริย์เฮเซคียาห์ กษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสซีเรียมาโจมตีและยึดเมืองป้อมปราการทั้งปวงของยูดาห์ แล้วกษัตริย์อัสซีเรียส่งแม่ทัพพร้อมด้วยทัพใหญ่จากลาคีชมาหากษัตริย์เฮเซคียาห์ที่กรุงเยรูซาเล็ม เมื่อแม่ทัพผู้นั้นมาหยุดอยู่ที่ทางระบายน้ำของสระบน ซึ่งเป็นเส้นทางสู่ลานซักล้าง เจ้ากรมวังเอลียาคิมบุตรฮิลคียาห์ ราชเลขาเชบนา และอาลักษณ์หลวงโยอาห์บุตรอาสาฟ ก็ออกไปพบเขา แม่ทัพอัสซีเรียกล่าวกับพวกเขาว่า “จงไปบอกเฮเซคียาห์ว่า “ ‘กษัตราธิราชแห่งอัสซีเรียตรัสว่า เจ้าพึ่งพาสิ่งใดหรือจึงฮึกเหิมถึงเพียงนี้? เจ้าพูดว่าเจ้ามียุทธศาสตร์และแสนยานุภาพ แต่นั่นก็เป็นเพียงลมปาก เจ้าพึ่งใครจึงบังอาจกบฏต่อเรา? ดูสิ เจ้าพึ่งอียิปต์ซึ่งเป็นเหมือนไม้เท้าต้นอ้อที่หัก ใครพิงเข้าก็ถูกเสี้ยนตำเจ็บมือ! ใครพึ่งฟาโรห์แห่งอียิปต์ก็เป็นแบบนี้แหละ และถ้าเจ้ากล่าวกับเราว่า “พวกเราพึ่งพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา” ก็พระเจ้าองค์นี้ไม่ใช่หรือที่เฮเซคียาห์ทำลายแท่นบูชากับสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย และกล่าวกับชาวยูดาห์และเยรูซาเล็มว่า “เจ้าจะต้องนมัสการที่แท่นบูชานี้?” “ ‘มาสิ มาต่อรองกับกษัตริย์อัสซีเรียนายของเรา เราจะให้ม้าสองพันตัวแก่เจ้าหากเจ้าหาคนขี่ม้ามาได้! ต่อให้เจ้าพึ่งรถม้าศึกและม้าจากอียิปต์ก็ไม่อาจต่อกรกับนายทหารที่เล็กที่สุดคนหนึ่งของนายเราได้ ยิ่งกว่านั้นเจ้าคิดว่าเรามาโจมตีและทำลายดินแดนนี้โดยปราศจากองค์พระผู้เป็นเจ้าหรือ? องค์พระผู้เป็นเจ้าเองนั่นแหละที่บอกให้เรายกทัพมาโจมตีและทำลายดินแดนนี้’ ” แล้วเอลียาคิม เชบนา และโยอาห์กล่าวแก่แม่ทัพนั้นว่า “โปรดพูดกับผู้รับใช้ของท่านเป็นภาษาอาราเมคเถิด เพราะเราฟังเข้าใจ อย่าใช้ภาษาฮีบรูเลย เดี๋ยวผู้คนบนกำแพงจะได้ยิน” แต่แม่ทัพนั้นตอบว่า “นายเราใช้เรามาพูดกับเจ้าและนายของเจ้าเท่านั้นหรือ? ไม่ใช่กับพวกที่นั่งอยู่บนกำแพงด้วยหรือ? พวกนั้นก็เหมือนเจ้า จะต้องกินอุจจาระและดื่มปัสสาวะของตัวเอง” แล้วแม่ทัพอัสซีเรียก็ยืนขึ้นร้องบอกเป็นภาษาฮีบรูว่า “จงฟังความจากกษัตราธิราชแห่งอัสซีเรีย! กษัตริย์ตรัสดังนี้ว่า อย่าปล่อยให้เฮเซคียาห์หลอกลวงพวกเจ้า เขาช่วยกู้พวกเจ้าไม่ได้หรอก! อย่าปล่อยให้เฮเซคียาห์เกลี้ยกล่อมเจ้าให้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าเชื่อเมื่อเขาบอกว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยกู้เราแน่นอน เมืองนี้จะไม่ตกอยู่ในกำมือกษัตริย์อัสซีเรีย’ “อย่าไปฟังเฮเซคียาห์ กษัตริย์อัสซีเรียตรัสดังนี้ว่า จงสวามิภักดิ์ต่อเราและออกมาหาเรา แล้วพวกเจ้าทุกคนจะได้กินองุ่นและมะเดื่อจากสวนของตน และดื่มน้ำจากบ่อของตน จนกว่าเราจะมาพาเจ้าไปดินแดนหนึ่งซึ่งเหมือนดินแดนของเจ้าเอง เป็นดินแดนที่มีเมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ ขนมปัง และสวนองุ่นอันอุดมสมบูรณ์ “อย่ายอมให้เฮเซคียาห์หลอกพวกเจ้าให้หลงผิด เมื่อเขากล่าวว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยกอบกู้พวกเรา’ มีพระของชาติไหนบ้างที่กอบกู้ดินแดนของตนให้พ้นจากมือกษัตริย์อัสซีเรียได้? ไหนล่ะบรรดาเทพเจ้าแห่งฮามัทและอารปัด? ไหนล่ะบรรดาเทพเจ้าแห่งเสฟารวาอิม? พระเหล่านั้นช่วยสะมาเรียให้พ้นจากมือของเราได้หรือ? มีเทพเจ้าองค์ไหนในชนชาติเหล่านี้บ้างที่สามารถช่วยดินแดนของตนให้รอดจากเราได้? ก็แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสามารถช่วยกอบกู้เยรูซาเล็มจากมือของเราได้หรือ?” แต่เหล่าประชากรนิ่งเงียบ ไม่โต้ตอบสักคำเดียว เพราะกษัตริย์ได้ตรัสสั่งว่า “อย่าตอบเขา” แล้วเจ้ากรมวังเอลียาคิมบุตรฮิลคียาห์ ราชเลขาเชบนา และอาลักษณ์หลวงโยอาห์บุตรอาสาฟ จึงกลับไปเข้าเฝ้าเฮเซคียาห์ด้วยเสื้อผ้าฉีกขาด และกราบทูลตามที่แม่ทัพอัสซีเรียได้กล่าวไว้

อิสยาห์ 36:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ใน​ช่วง​ปีที่​สิบสี่ ที่​กษัตริย์​เฮเซคียาห์ ปกครอง​ยูดาห์ กษัตริย์​เซนนาเคอริบ ของ​อัสซีเรีย​ได้​ยกทัพ​ขึ้น​มา​โจมตี​เมืองต่างๆ​ที่​มี​ป้อม​ปราการ​ของยูดาห์ และ​ยึด​เมืองเหล่านั้น​ไว้ได้ กษัตริย์​อัสซีเรีย​ได้​ส่ง​แม่ทัพ​ของเขา​พร้อมกับ​กองทัพใหญ่​จาก​เมืองลาคีช ไปหา​กษัตริย์​เฮเซคียาห์​ที่​เมืองเยรูซาเล็ม แม่ทัพนั้น​ได้​มาหยุด​อยู่ข้างๆ​รางน้ำ​ของ​สระด้านบน ตรงถนน​ที่​มุ่งไป​ยัง​ทุ่ง​ของคนซักผ้า มี​สามคน​ออกไปหา​แม่ทัพ​คนนั้น​ที่นั่น คือ​เอลียาคิม​ผู้ดูแลวัง ที่​เป็น​ลูกชาย​ของ​ฮิลคียาห์ เชบนา​เลขานุการ​ของกษัตริย์ และ​โยอาห์​ผู้จดบันทึก​ที่​เป็น​ลูกชาย​ของอาสาฟ แม่ทัพ​ได้พูด​กับพวกเขา​ว่า “ไป​บอก​เฮเซคียาห์​ว่า กษัตริย์​ผู้ยิ่งใหญ่ คือ​กษัตริย์​อัสซีเรีย พูดอย่างนี้​ว่า ‘ทำไม​เจ้า​ถึงได้​มี​ความเชื่อมั่น​ขนาดนี้ ข้อตกลง​กับ​พันธมิตร​ที่​เจ้า​หวังพึ่งนั้น​มัน​ก็แค่​เพียงคำพูด เจ้า​คิดว่า​มัน​จะใช้​แทน​กลยุทธ์​และ​กำลังทหาร​ในสงคราม​ได้หรือ เดี๋ยวนี้​เจ้า​ไปพึ่ง​ใครหรือ ถึง​กล้า​มา​กบฏ​กับเรา ดูดีๆ​ว่า​เจ้า​กำลัง​พึ่งอียิปต์ ซึ่ง​เป็น​เหมือน​ไม้เท้า​ต้นอ้อ​ที่เดาะแล้ว ถ้าใคร​ไป​ค้ำยันมัน มัน​ก็​จะแตก​และ​เสียบมือ​ของคนนั้น ฟาโรห์​กษัตริย์​ของอียิปต์ ก็​จะ​เป็น​อย่างนั้น​กับคน​ที่​มา​พึ่งพิงเขา แต่​ถ้า​เจ้า​จะ​บอกเรา​ว่า “เรา​เชื่อพึ่ง​ใน​พระยาห์เวห์​พระเจ้าของเรา” อ้าว เฮเซคียาห์​ได้รื้อ​พวก​สถานที่นมัสการ​และ​แท่นบูชา​ของพระนั้น​ทิ้งไปแล้ว​ไม่ใช่หรือ และ​สั่ง​คนยูดาห์​และ​คน​ใน​เยรูซาเล็ม​ว่า “พวกเจ้า​ต้อง​นมัสการ​ที่​แท่นบูชานี้​ที่​อยู่​ใน​เมืองเยรูซาเล็ม​เท่านั้น” ตอนนี้ มา​ทำ​ข้อตกลง​กับ​กษัตริย์​ของ​อัสซีเรีย เจ้านาย​ของข้า​ดีกว่า ข้า​จะให้​ม้า​กับเจ้า​สองพันตัว ถ้า​เจ้า​มี​ปัญญา​หาคน​มาขี่​พวกมันได้ ใน​เมื่อ​เจ้า​และ​อียิปต์​อ่อนแอ​ซะขนาดนี้ เจ้า​ยัง​จะ​ปฏิเสธ​อำนาจ​ของ​ข้าราชการ​ตัวเล็กๆ​ของเจ้านายข้า แล้ว​ไป​หวังพึ่ง​รถรบ​และ​ทหารม้า​ของอียิปต์​อีกหรือ และ​ตอนนี้ เจ้า​คิดว่า​ที่​ข้า​ขึ้นมา​โจมตี​แผ่นดินนี้​เพื่อ​ทำลายมัน โดย​ไม่ได้รับ​อนุญาต​จากพระยาห์เวห์​อย่างนั้นหรือ เป็น​พระยาห์เวห์เอง​ที่​พูดกับข้า​ว่า “ขึ้นไป​โจมตี​แผ่นดินนี้​และ​ทำลาย​มันซะ”’” แล้ว​เอลียาคิม เชบนา และ​โยอาห์ ตอบกับ​แม่ทัพ​ไปว่า “ช่วย​พูด​กับ​พวกเรา​ผู้รับใช้​ของท่าน​เป็น​ภาษาอารเมค​ด้วยเถิด เพราะ​พวกเรา​เข้าใจ​ภาษานั้น อย่า​พูด​กับ​พวกเรา​เป็น​ภาษาฮีบรูเลย เพราะ​ไม่อยาก​ให้​พวกนั้น​ที่อยู่​บน​กำแพง​ได้ยิน” แต่​แม่ทัพนั้น​ตอบว่า “เจ้า​คิดว่า เจ้านายข้า​ส่งข้ามา​เพื่อ​พูด​เรื่องพวกนี้​กับ​เจ้านายเจ้า และกับเจ้า​เท่านั้น​หรือยังไง เขา​ส่ง​ให้​ข้า​มาพูด​กับ​ไอ้คนพวกนั้น​ที่​นั่งอยู่​บนกำแพงด้วย ไอ้พวกนั้น​ก็​จะต้อง​กินขี้​และเยี่ยว​ของตัวเอง​เหมือนกับ​พวกเจ้า​นั่นแหละ” แล้ว​แม่ทัพ​ก็​ยืนขึ้น​และ​ร้องตะโกน​เสียงดัง​เป็น​ภาษาฮีบรู​ว่า “นี่​เป็น​คำพูด​ของ​กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ คือ​กษัตริย์​อัสซีเรีย พระองค์​พูดว่า​อย่างนี้ ‘อย่าให้​เฮเซคียาห์​หลอกลวงเจ้า เพราะ​เขา​ไม่สามารถ​ช่วยกู้​พวกเจ้า​ได้หรอก และ​อย่า​ให้​เฮเซคียาห์​ทำให้​พวกเจ้า​คิด​จะ​พึ่ง​พระยาห์เวห์ เมื่อเขา​พูดว่า “พระยาห์เวห์​จะ​ช่วยกู้​พวกเรา​อย่างแน่นอน พระยาห์เวห์​จะ​ไม่ยอม​ให้​เมืองนี้​ตกไปอยู่​ใน​กำมือ​ของ​กษัตริย์​อัสซีเรีย​เป็นอันขาด” อย่าไปฟัง​เฮเซคียาห์ เพราะ​กษัตริย์​อัสซีเรีย​พูดไว้​ว่า​อย่างนี้ “มา​ทำ​สัญญา​สงบศึก​กับข้า​และ​ออกมา​จำนน​ต่อข้า แล้ว​พวกเจ้า​แต่ละคน​ก็​จะได้​กิน​จาก​ต้นองุ่น​และ​ต้นมะเดื่อ​ของตัวเอง และ​ดื่ม​จาก​บ่อเก็บน้ำ​ของตน จนกว่า​เรา​จะมา​และ​พา​พวกเจ้า​ไปยัง​แผ่นดิน​ที่​เหมือนกับ​แผ่นดิน​ของเจ้านี้ เป็น​แผ่นดิน​ที่​มีข้าว​และ​เหล้าองุ่นใหม่ มี​ขนมปัง​และสวนองุ่น” ระวัง​ให้ดี อย่าให้​เฮเซคียาห์​ทำให้​เจ้า​หลงผิดไป เมื่อ​เขา​พูดว่า “พระยาห์เวห์​จะ​ช่วยกู้​พวกเรา” เรา​ขอถามเจ้า​ว่า “มีพระ​ของ​ชาติไหนบ้าง​ที่เคย​ช่วย​แผ่นดิน​ของ​พวกเขา​ให้รอดพ้น​จาก​เงื้อมมือ​ของ​กษัตริย์​อัสซีเรีย” พวกพระ​ของ​เมืองฮามัท​กับ​เมืองอารปัด​ไปไหนแล้ว พระ​ของ​เมืองเสฟารวาอิม​ไปไหนแล้ว พวกพระ​ของ​สะมาเรีย​สามารถ​ช่วยกู้​สะมาเรีย​จาก​เงื้อมมือ​ของข้า​ได้หรือ ใน​พวกพระ​ทั้งหมด​ของ​ประเทศ​เหล่านี้ มี​พระ​องค์ไหนบ้าง​ได้​ช่วย​ประเทศ​ของ​พวกเขา​ให้พ้น​จาก​เงื้อมมือ​ของข้า แล้ว​เจ้า​ยัง​คิดว่า​พระยาห์เวห์​จะ​สามารถ​ช่วย​เยรูซาเล็ม​ให้พ้น​จาก​เงื้อมมือ​ข้า​ได้หรือ’” แต่​พวกเขา​ก็​เงียบ ไม่ได้​ตอบ​เขา​สักคำ เพราะ​กษัตริย์​เฮเซคียาห์​ได้สั่ง​ไว้ว่า “อย่า​ไป​ตอบ​มัน” แล้ว​เอลียาคิม​ผู้ดูแลวัง ที่​เป็น​ลูกชาย​ของ​ฮิลคียาห์ เชบนา เลขานุการ​ของ​กษัตริย์ และ​โยอาห์​ผู้จดบันทึก​ที่​เป็น​ลูกชาย​ของ​อาสาฟ ได้ไปหา​เฮเซคียาห์​ใส่​เสื้อผ้า​ที่​ขาดรุ่งริ่ง​ที่​พวกเขา​ฉีก​ด้วย​ความโศกเศร้า และ​พวกเขา​ก็​รายงาน​กษัตริย์​ถึง​สิ่งที่​แม่ทัพ​นั้น​พูด

อิสยาห์ 36:1-22 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ต่อมาในปีที่ 14 ของรัชกาลกษัตริย์เฮเซคียาห์ เซนนาเคอริบพระราชาของอัสซีเรียยกขึ้นมาต่อสู้เมืองมีป้อมทั้งหมดของยูดาห์ และยึดไว้ได้ แล้วพระราชาของอัสซีเรียทรงใช้รับชาเคห์จากเมืองลาคีชมาเข้าเฝ้ากษัตริย์เฮเซคียาห์ที่กรุงเยรูซาเล็มพร้อมกับกองทัพใหญ่ และท่านมายืนอยู่ตรงรางระบายน้ำของสระบนที่ถนนลานซักฟอก เอลียาคิมบุตรฮิลคียาห์ผู้บัญชาการราชสำนักก็ออกมาหาท่าน พร้อมกับเชบนาราชเลขาและโยอาห์บุตรชายอาสาฟเจ้ากรมสารบรรณ แล้วรับชาเคห์พูดกับพวกเขาว่า “จงบอกเฮเซคียาห์ว่า พระมหาราชาคือพระราชาของอัสซีเรียตรัสดังนี้ว่า ‘เจ้ามั่นใจเช่นนี้เพราะวางใจในสิ่งใด? เจ้าคิดว่า ลำพังถ้อยคำจากปากก็เป็นยุทธศาสตร์และแสนยานุภาพในสงครามได้หรือ? บัดนี้ เจ้ามั่นใจในตัวใคร เจ้าจึงได้กบฏต่อเรา? ดูสิ เวลานี้เจ้าพึ่งอียิปต์ซึ่งเป็นไม้เท้าอ้อช้ำ คนที่ใช้ไม้เท้านี้ยันตัวก็จะถูกตำมือ ฟาโรห์พระราชาอียิปต์ก็จะเป็นเช่นนี้ต่อทุกคนที่พึ่งในตัวเขา แต่ถ้าเจ้าจะบอกเราว่า “พวกเรามั่นใจในพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา” ก็ปูชนียสถานสูงและแท่นบูชาของพระองค์ไม่ใช่หรือที่เฮเซคียาห์รื้อทิ้ง? และเขากล่าวกับยูดาห์และเยรูซาเล็มว่า “ท่านทั้งหลายจงนมัสการหน้าแท่นบูชานี้” ’ บัดนี้ จงมาตกลงกับพระราชาอัสซีเรียเจ้านายของข้า และข้าจะให้ม้า 2,000 ตัวแก่เจ้าถ้าหากฝ่ายเจ้าหาคนที่จะขี่ม้าเหล่านั้นได้ แล้วเจ้าจะขับไล่นายกองที่เล็กที่สุดสักคนหนึ่งในพวกข้าราชการของเจ้านายข้าได้อย่างไร? และยังมั่นใจในอียิปต์สำหรับรถรบและพลม้าได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้น ข้ามาต่อสู้เพื่อทำลายแผ่นดินนี้โดยปราศจากพระยาห์เวห์หรือ? พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าว่า ‘จงขึ้นไปต่อสู้กับแผ่นดินนี้และทำลายเสีย’ ” แล้วเอลียาคิม เชบนา และโยอาห์เรียนรับชาเคห์ว่า “ขอกรุณาพูดกับผู้รับใช้ของท่านเป็นภาษาอาราเมคเถิด เพราะเราเข้าใจภาษานั้น โปรดอย่าพูดกับเราเป็นภาษายูดาห์ให้ประชาชนที่อยู่บนกำแพงได้ยินเลย” แต่รับชาเคห์ว่า “เจ้านายของข้าใช้ข้ามาพูดถ้อยคำเหล่านี้กับเจ้านายของเจ้าและกับเจ้าเท่านั้น โดยไม่ให้พูดกับพวกนั่งอยู่บนกำแพงคือพวกที่ต้องกินขี้และกินเยี่ยวของเขาพร้อมกับพวกเจ้าเช่นนั้นหรือ? ” แล้วรับชาเคห์ยืนขึ้นและร้องตะโกนเสียงดังเป็นภาษายูดาห์ว่า “จงฟังคำของพระมหาราชา คือพระราชาของอัสซีเรีย พระราชาตรัสดังนี้ว่า ‘อย่าให้เฮเซคียาห์หลอกลวงพวกเจ้า เพราะเขาไม่สามารถช่วยกู้พวกเจ้า และอย่าให้เฮเซคียาห์ทำให้เจ้าพึ่งในพระยาห์เวห์ โดยกล่าวว่า “พระยาห์เวห์จะทรงช่วยกู้เราแน่นอน พระยาห์เวห์จะไม่ทรงมอบเมืองนี้ไว้ในมือของพระราชาของอัสซีเรีย” ’ อย่าฟังเฮเซคียาห์เพราะพระราชาของอัสซีเรียตรัสดังนี้ว่า ‘จงยอมสงบศึกกับเราและออกมาหาเรา แล้วแต่ละคนจะได้กินจากเถาองุ่นของตน ทั้งได้กินจากต้นมะเดื่อของตน และแต่ละคนจะได้ดื่มน้ำจากที่เก็บน้ำของตน จนกว่าเราจะมา และจะนำเจ้าทั้งหลายไปยังแผ่นดินที่เหมือนแผ่นดินของเจ้าเอง คือแผ่นดินที่มีข้าวและเหล้าองุ่น แผ่นดินที่มีขนมปังและสวนองุ่น อย่าให้เฮเซคียาห์นำพาพวกเจ้าให้หลงผิดไปโดยกล่าวว่า “พระยาห์เวห์จะทรงช่วยกู้พวกเรา” มีพระองค์ไหนของแต่ละประชาชาติที่ช่วยกู้แผ่นดินของตนให้พ้นจากพระหัตถ์ของพระราชาของอัสซีเรียได้หรือ? พระของเมืองฮามัทและเมืองอารปัดอยู่ที่ไหน? พระของเมืองเสฟารวาอิมอยู่ที่ไหน? พวกเขาช่วยกู้สะมาเรียจากมือของเราได้หรือ? พระองค์ไหนในพวกพระทั้งหมดของดินแดนเหล่านี้ที่ช่วยกู้ดินแดนของตนจากมือของเราได้? แล้วพระยาห์เวห์จะช่วยกู้เยรูซาเล็มจากมือของเราได้หรือ?’ ” แต่เขาทั้งหลายนิ่งเงียบ ไม่ตอบเขาสักคำเดียว เพราะพระบัญชาของกษัตริย์มีว่า “อย่าตอบโต้เขา” แล้วเอลียาคิมบุตรฮิลคียาห์ ผู้บัญชาการราชสำนัก เชบนาราชเลขา และโยอาห์บุตรอาสาฟ เจ้ากรมสารบรรณเข้าเฝ้าเฮเซคียาห์ด้วยเสื้อผ้าฉีกขาด และกราบทูลถ้อยคำของรับชาเคห์

อิสยาห์ 36:1-22 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ต่อมาในปี​ที่​สิ​บสี่​แห่​งรัชกาลกษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์ เซนนาเคอริบกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ัสซีเรียได้ยกขึ้นมาต่อสู้บรรดานครที่​มี​ป้อมของยูดาห์และยึดได้ และกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ัสซีเรียได้รับสั่งให้รับชาเคห์ ไปจากเมืองลาคีชถึงกรุงเยรูซาเล็ม เข​้าเฝ้ากษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์ พร​้อมกับกองทัพใหญ่ และท่านมายืนอยู่ทางรางระบายน้ำสระบนที่ถนนลานซักฟอก เอลียาคิมบุตรชายฮิลคียาห์​ก็​ออกมาหาท่าน เอลียาคิมเป็นผู้บัญชาการราชสำนัก พร​้อมกับเชบนาห์ราชเลขา และโยอาห์​บุ​ตรชายอาสาฟเจ้ากรมสารบรรณ และรับชาเคห์​พู​ดก​ับเขาว่า “จงทูลเฮเซคียาห์​ว่า ‘​พระมหากษัตริย์ คือกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ัสซีเรีย ตรั​สด​ังนี้​ว่า ท่านวางใจในอะไร ท่านคิดว่า (​แต่​เป็นเพียงแต่ถ้อยคำไร้​สาระ​) “เรามี​ยุทธศาสตร์​และแสนยานุ​ภาพ​” หรือ เดี๋ยวนี้​ท่านวางใจในใคร ท่านจึงได้กบฏต่อเรา ดู​เถิด ท่านวางใจในไม้​เท​้าอ้อที่​เดาะ คื​ออ​ียิปต์ ซึ่งจะตำมือของคนใดๆที่​ใช้​ไม้​เท​้านั้นยัน ฟาโรห์​กษัตริย์​แห่​งอ​ียิปต์เป็นเช่นนั้นต่อทุกคนที่วางใจในเขา แต่​ถ้าท่านจะบอกเราว่า “เราวางใจในพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา” ก็​ปู​ชน​ียสถานสูงและแท่นบูชาของพระองค์นั้​นม​ิ​ใช่​หรือที่เฮเซคียาห์รื้อทิ้งเสียแล้ว พลางกล่าวแก่​ยู​ดาห์และเยรูซาเล็มว่า “ท่านทั้งหลายจงนมัสการที่​หน​้าแท่นบู​ชาน​ี้” ฉะนั้นบัดนี้ มาเถิด มาทำสัญญากั​นก​ับกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ัสซีเรียนายของข้า เราจะให้ม้าสองพันตัวแก่​เจ้า ถ้าฝ่ายเจ้าหาคนที่​ขี่​ม้าเหล่านั้นได้ แล​้วอย่างนั้นเจ้าจะขับไล่นายกองแต่เพียงคนเดียวในหมู่ข้าราชการผู้น้อยที่สุดของนายของเราอย่างไรได้ แต่​เจ้​ายังวางใจพึ่​งอ​ียิปต์เพื่อรถรบและเพื่อพลม้า ยิ่งกว่านั้​นอ​ีกที่เรามาต่อสู้​แผ่​นดินนี้เพื่อทำลายเสีย ก็​ขึ้นมาโดยปราศจากพระเยโฮวาห์​หรือ พระเยโฮวาห์ตรัสแก่​ข้าว​่า “จงขึ้นไปต่อสู้​แผ่​นดินนี้และทำลายเสีย”’” แล​้วเอลียาคิม เชบนาห์ และโยอาห์ เรียนรับชาเคห์​ว่า “​ขอที​เถอะ ขอพู​ดก​ับผู้​รับใช้​ของท่านเป็นภาษาอารัมเถิด เพราะเราเข้าใจภาษานั้น ขออย่าพู​ดก​ับเราเป็นภาษาฮีบรู​ให้​ประชาชนผู้​อยู่​บนกำแพงนั้นได้ยินเลย” แต่​รับชาเคห์​ว่า “นายของข้าใช้​ให้​เรามาพูดถ้อยคำเหล่านี้​แก่​นายของเจ้าและแก่​เจ้า และไม่​ให้​พู​ดก​ับคนที่นั่งอยู่บนกำแพง ผู้​ที่​จะต้องกินขี้และกินเยี่ยวของเขาพร้อมกับเจ้าอย่างนั้นหรือ” แล​้วรับชาเคห์​ได้​ยื​นร​้องตะโกนเสียงดังเป็นภาษาฮีบรู​ว่า “จงฟังพระวจนะของพระมหากษั​ตริ​ย์ คือกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ัสซีเรีย กษัตริย์​ตรั​สด​ังนี้​ว่า ‘อย่าให้เฮเซคียาห์ลวงเจ้า เพราะเขาไม่สามารถที่จะช่วยเจ้าให้​พ้น อย่าให้เฮเซคียาห์กระทำให้​เจ้​าวางใจในพระเยโฮวาห์โดยกล่าวว่า “พระเยโฮวาห์จะทรงช่วยเราให้พ้นแน่ จะไม่ทรงมอบเมืองนี้​ไว้​ในมือของกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ัสซีเรีย”’ อย่าฟังเฮเซคียาห์ เพราะกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ัสซีเรียตรั​สด​ังนี้​ว่า ‘จงทำสัญญาไมตรีกับเราด้วยของกำนัล และออกมาหาเรา แล​้​วท​ุกคนจะได้กินจากเถาองุ่นของตน และทุกคนจะกินจากต้นมะเดื่อของตน และทุกคนจะดื่​มน​้ำจากที่ขังน้ำของตน จนเราจะมานำเจ้าไปยังแผ่นดิ​นที​่เหมือนแผ่นดินของเจ้าเอง เป็นแผ่นดิ​นที​่​มี​ข้าวและน้ำองุ่น แผ่​นดิ​นที​่​มี​ขนมปังและสวนองุ่น จงระวังเกลือกว่าเฮเซคียาห์จะนำเจ้าผิดไปโดยกล่าวว่า “พระเยโฮวาห์จะทรงช่วยเราทั้งหลายให้​พ้น​” มี​พระแห่งบรรดาประชาชาติ​องค์​ใดเคยช่วยแผ่นดินของตนให้พ้นจากพระหัตถ์​แห่​งกษั​ตริ​ย์ของอัสซีเรียได้​หรือ พระของเมืองฮามัทและเมืองอารปั​ดอย​ู่​ที่ไหน พระของเมืองเสฟารวาอิมอยู่​ที่ไหน เขาได้ช่วยสะมาเรียให้พ้นจากมือของเราหรือ พระองค์​ใดในบรรดาพระทั้งหลายของประเทศเหล่านี้​ได้​ช่วยประเทศของตนให้พ้นจากมือของเรา แล​้วพระเยโฮวาห์จะทรงช่วยเยรูซาเล็มให้พ้นจากมือของเราหรือ’” แต่​เขาทั้งหลายนิ่งไม่ตอบเขาสักคำเดียว เพราะพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์​มี​ว่า “อย่าตอบเขาเลย” แล​้วเอลียาคิมบุตรชายฮิลคียาห์ ผู้​บัญชาการราชสำนัก และเชบนาห์ราชเลขา และโยอาห์​บุ​ตรชายอาสาฟ เจ้​ากรมสารบรรณ ได้​เข​้าเฝ้าเฮเซคียาห์ด้วยเสื้อผ้าฉีกขาด และกราบทูลถ้อยคำของรับชาเคห์

อิสยาห์ 36:1-22 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ในปีที่สิบสี่แห่งรัชกาลกษัตริย์เฮเซคียาห์ เซนนาเคอริบพระราชาแห่งอัสซีเรียได้ยกขึ้นมาต่อสู้บรรดานครที่มีป้อมของยูดาห์ และยึดได้ และพระราชาแห่งอัสซีเรียได้รับสั่งให้รับชาเคห์ ไปจากเมืองลาคีชถึงกรุงเยรูซาเล็ม เข้าเฝ้ากษัตริย์เฮเซคียาห์ พร้อมกับกองทัพใหญ่ และท่านมายืนอยู่ทางรางระบายน้ำสระบนที่ถนนลานซักฟอก เอลียาคิมบุตรฮิลคียาห์ก็ออกมาหาท่าน เอลียาคิมเป็นผู้บัญชาการราชสำนัก พร้อมกับเชบนาราชเลขาและโยอาห์บุตรชายอาสาฟ เจ้ากรมสารบรรณ และรับชาเคห์พูดกับเขาว่า <<จงทูลเฮเซคียาห์ว่า <พระมหาราชา คือพระราชาแห่งอัสซีเรียตรัสดังนี้ว่า ท่านวางใจในอะไร ท่านคิดว่า เพียงแต่ถ้อยคำก็เป็นยุทธศาสตร์และแสนยานุภาพหรือ เดี๋ยวนี้ท่านพึ่งใคร ท่านจึงได้กบฏต่อเรา ดูเถิด เดี๋ยวนี้ท่านพึ่งไม้เท้าอ้อที่เดาะ คืออียิปต์ ซึ่งจะตำมือของคนใดๆ ที่ใช้ไม้เท้านั้นยันฟาโรห์พระราชาแห่งอียิปต์เป็นเช่นนั้นต่อผู้ที่หวังพึ่งเขา แต่ถ้าท่านจะบอกเราว่า <<เราวางใจในพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา>> ก็ปูชนียสถานที่สูงและแท่นบูชาของพระนั้นมิใช่หรือที่เฮเซคียาห์รื้อทิ้งเสียแล้ว พลางกล่าวแก่ยูดาห์และเยรูซาเล็มว่า <<ท่านทั้งหลายจงนมัสการที่หน้าแท่นบูชานี้>> มาเถิด มาทำสัญญากันกับพระราชาแห่งอัสซีเรียนายของข้า เราจะให้ม้าสองพันตัวแก่เจ้า ถ้าฝ่ายเจ้าหาคนที่ขี่ม้าเหล่านั้นได้ แล้วอย่างนั้นเจ้าจะขับไล่นายกองแต่เพียงคนเดียวในหมู่ข้าราชการผู้น้อยที่สุดของนายของเราอย่างไรได้ แต่เจ้ายังวางใจพึ่งอียิปต์เพื่อรถรบและเพื่อพลม้า ยิ่งกว่านั้นอีกที่เรามาต่อสู้แผ่นดินนี้เพื่อทำลายเสีย ก็ขึ้นมาโดยปราศจากพระเจ้าหรือ พระเจ้าตรัสแก่ข้าว่า จงขึ้นไปต่อสู้แผ่นดินนี้และทำลายเสีย> >> แล้วเอลียาคิม เชบนา และโยอาห์ เรียนรับชาเคห์ว่า <<ขอทีเถอะ ขอพูดกับผู้รับใช้ของท่านเป็นภาษาอารัมเถิด เพราะเราเข้าใจภาษานั้น ขออย่าพูดกับเราเป็นภาษายฮูดาห์ให้ประชาชนผู้อยู่บนกำแพงได้ยินเลย>> แต่รับชาเคห์ว่า <<นายของเราใช้ให้เรามาพูดถ้อยคำเหล่านี้แก่นายของเจ้าและแก่เจ้า และไม่ให้พูดกับคนที่นั่งอยู่บนกำแพง ผู้ที่จะต้องกินขี้และกินเยี่ยวของเขาพร้อมกับเจ้าอย่างนั้นหรือ>> แล้วรับชาเคห์ได้ยืนร้องตะโกนเสียงดังเป็นภาษายฮูดาห์ว่า <<จงฟังพระวจนะของพระมหาราชา คือพระราชาแห่งอัสซีเรีย พระราชาตรัสดังนี้ว่า <อย่าให้เฮเซคียาห์ลวงเจ้า เพราะเขาไม่สามารถที่จะช่วยกู้เจ้า อย่าให้เฮเซคียาห์กระทำให้เจ้าพึ่งในพระเจ้า โดยกล่าวว่า <พระเจ้าจะทรงช่วยกู้เราแน่จะไม่ทรงมอบเมืองนี้ไว้ในมือของพระราชาแห่งอัสซีเรีย>> อย่าฟังเฮเซคียาห์เพราะพระราชาแห่งอัสซีเรียตรัสดังนี้ว่า ดีกันเถอะน่ะ และออกมาหาเรา แล้วทุกคนจะได้กินจากเถาองุ่นของตนและกินจากต้นมะเดื่อของตน และทุกคนจะดื่มน้ำจากที่ขังน้ำของตน จนเราจะนำเจ้าไปยังแผ่นดินที่เหมือนแผ่นดินของเจ้าเอง เป็นแผ่นดินที่มีข้าวและเหล้าองุ่น แผ่นดินที่มีขนมปังและสวนองุ่น จงระวัง เกลือกว่าเฮเซคียาห์จะนำเจ้าผิดไป โดยกล่าวว่า <<พระเจ้าจะทรงช่วยกู้เรา>> มีพระแห่งบรรดาประชาชาติองค์ใดเคยกู้แผ่นดินของตนให้พ้นจากพระหัตถ์แห่งพระราชาของอัสซีเรียได้หรือ พระของเมืองฮามัท และเมืองอารปัดอยู่ที่ไหน พระของเมืองเสฟารวาอิมอยู่ที่ไหน เขาได้ช่วยกู้สะมาเรียจากมือของเราหรือ พระองค์ใดในบรรดาพระทั้งหลายของประเทศเหล่านี้ได้ช่วยกู้ประเทศของตนจากมือของเรา แล้วพระเจ้าจะทรงช่วยกู้เยรูซาเล็ม จากมือของเราหรือ>> แต่เขาทั้งหลายนิ่ง ไม่ตอบเขาสักคำเดียว เพราะพระบัญชาของพระราชามีว่า <<อย่าตอบเขาเลย>> แล้วเอลียาคิมบุตรฮิลคียาห์ ผู้บัญชาการราชสำนัก และเชบนาราชเลขา และโยอาห์บุตรอาสาฟ เจ้ากรมสารบรรณ ได้เข้าเฝ้าเฮเซคียาห์ด้วยเสื้อผ้าฉีกขาด และกราบทูลถ้อยคำของรับชาเคห์

อิสยาห์ 36:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ในปีที่สิบสี่แห่งรัชกาลกษัตริย์เฮเซคียาห์ กษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสซีเรียมาโจมตีและยึดเมืองป้อมปราการทั้งปวงของยูดาห์ แล้วกษัตริย์อัสซีเรียส่งแม่ทัพพร้อมด้วยทัพใหญ่จากลาคีชมาหากษัตริย์เฮเซคียาห์ที่กรุงเยรูซาเล็ม เมื่อแม่ทัพผู้นั้นมาหยุดอยู่ที่ทางระบายน้ำของสระบน ซึ่งเป็นเส้นทางสู่ลานซักล้าง เจ้ากรมวังเอลียาคิมบุตรฮิลคียาห์ ราชเลขาเชบนา และอาลักษณ์หลวงโยอาห์บุตรอาสาฟ ก็ออกไปพบเขา แม่ทัพอัสซีเรียกล่าวกับพวกเขาว่า “จงไปบอกเฮเซคียาห์ว่า “ ‘กษัตราธิราชแห่งอัสซีเรียตรัสว่า เจ้าพึ่งพาสิ่งใดหรือจึงฮึกเหิมถึงเพียงนี้? เจ้าพูดว่าเจ้ามียุทธศาสตร์และแสนยานุภาพ แต่นั่นก็เป็นเพียงลมปาก เจ้าพึ่งใครจึงบังอาจกบฏต่อเรา? ดูสิ เจ้าพึ่งอียิปต์ซึ่งเป็นเหมือนไม้เท้าต้นอ้อที่หัก ใครพิงเข้าก็ถูกเสี้ยนตำเจ็บมือ! ใครพึ่งฟาโรห์แห่งอียิปต์ก็เป็นแบบนี้แหละ และถ้าเจ้ากล่าวกับเราว่า “พวกเราพึ่งพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา” ก็พระเจ้าองค์นี้ไม่ใช่หรือที่เฮเซคียาห์ทำลายแท่นบูชากับสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย และกล่าวกับชาวยูดาห์และเยรูซาเล็มว่า “เจ้าจะต้องนมัสการที่แท่นบูชานี้?” “ ‘มาสิ มาต่อรองกับกษัตริย์อัสซีเรียนายของเรา เราจะให้ม้าสองพันตัวแก่เจ้าหากเจ้าหาคนขี่ม้ามาได้! ต่อให้เจ้าพึ่งรถม้าศึกและม้าจากอียิปต์ก็ไม่อาจต่อกรกับนายทหารที่เล็กที่สุดคนหนึ่งของนายเราได้ ยิ่งกว่านั้นเจ้าคิดว่าเรามาโจมตีและทำลายดินแดนนี้โดยปราศจากองค์พระผู้เป็นเจ้าหรือ? องค์พระผู้เป็นเจ้าเองนั่นแหละที่บอกให้เรายกทัพมาโจมตีและทำลายดินแดนนี้’ ” แล้วเอลียาคิม เชบนา และโยอาห์กล่าวแก่แม่ทัพนั้นว่า “โปรดพูดกับผู้รับใช้ของท่านเป็นภาษาอาราเมคเถิด เพราะเราฟังเข้าใจ อย่าใช้ภาษาฮีบรูเลย เดี๋ยวผู้คนบนกำแพงจะได้ยิน” แต่แม่ทัพนั้นตอบว่า “นายเราใช้เรามาพูดกับเจ้าและนายของเจ้าเท่านั้นหรือ? ไม่ใช่กับพวกที่นั่งอยู่บนกำแพงด้วยหรือ? พวกนั้นก็เหมือนเจ้า จะต้องกินอุจจาระและดื่มปัสสาวะของตัวเอง” แล้วแม่ทัพอัสซีเรียก็ยืนขึ้นร้องบอกเป็นภาษาฮีบรูว่า “จงฟังความจากกษัตราธิราชแห่งอัสซีเรีย! กษัตริย์ตรัสดังนี้ว่า อย่าปล่อยให้เฮเซคียาห์หลอกลวงพวกเจ้า เขาช่วยกู้พวกเจ้าไม่ได้หรอก! อย่าปล่อยให้เฮเซคียาห์เกลี้ยกล่อมเจ้าให้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าเชื่อเมื่อเขาบอกว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยกู้เราแน่นอน เมืองนี้จะไม่ตกอยู่ในกำมือกษัตริย์อัสซีเรีย’ “อย่าไปฟังเฮเซคียาห์ กษัตริย์อัสซีเรียตรัสดังนี้ว่า จงสวามิภักดิ์ต่อเราและออกมาหาเรา แล้วพวกเจ้าทุกคนจะได้กินองุ่นและมะเดื่อจากสวนของตน และดื่มน้ำจากบ่อของตน จนกว่าเราจะมาพาเจ้าไปดินแดนหนึ่งซึ่งเหมือนดินแดนของเจ้าเอง เป็นดินแดนที่มีเมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ ขนมปัง และสวนองุ่นอันอุดมสมบูรณ์ “อย่ายอมให้เฮเซคียาห์หลอกพวกเจ้าให้หลงผิด เมื่อเขากล่าวว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยกอบกู้พวกเรา’ มีพระของชาติไหนบ้างที่กอบกู้ดินแดนของตนให้พ้นจากมือกษัตริย์อัสซีเรียได้? ไหนล่ะบรรดาเทพเจ้าแห่งฮามัทและอารปัด? ไหนล่ะบรรดาเทพเจ้าแห่งเสฟารวาอิม? พระเหล่านั้นช่วยสะมาเรียให้พ้นจากมือของเราได้หรือ? มีเทพเจ้าองค์ไหนในชนชาติเหล่านี้บ้างที่สามารถช่วยดินแดนของตนให้รอดจากเราได้? ก็แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสามารถช่วยกอบกู้เยรูซาเล็มจากมือของเราได้หรือ?” แต่เหล่าประชากรนิ่งเงียบ ไม่โต้ตอบสักคำเดียว เพราะกษัตริย์ได้ตรัสสั่งว่า “อย่าตอบเขา” แล้วเจ้ากรมวังเอลียาคิมบุตรฮิลคียาห์ ราชเลขาเชบนา และอาลักษณ์หลวงโยอาห์บุตรอาสาฟ จึงกลับไปเข้าเฝ้าเฮเซคียาห์ด้วยเสื้อผ้าฉีกขาด และกราบทูลตามที่แม่ทัพอัสซีเรียได้กล่าวไว้

อิสยาห์ 36:1-22 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ใน​ปี​ที่​สิบ​สี่​ของ​กษัตริย์​เฮเซคียาห์ เซนนาเคอริบ​กษัตริย์​แห่ง​อัสซีเรีย​มา​โจมตี​เมือง​ทั้ง​หลาย​ของ​ยูดาห์​ที่​คุ้มกัน​ไว้​อย่าง​แข็ง​แกร่ง และ​ยึด​ไป​ได้ กษัตริย์​แห่ง​อัสซีเรีย​ใช้​ผู้​บังคับ​กองพัน​พร้อม​กับ​กองทัพ​ใหญ่​จาก​เมือง​ลาคีช ให้​ไป​ยัง​กษัตริย์​เฮเซคียาห์​ที่​เยรูซาเล็ม และ​เขา​ยืน​อยู่​ที่​ถนน​หลวง​ข้าง​ร่อง​น้ำ​ที่​สระ​บน ซึ่ง​อยู่​ใกล้​แหล่ง​ซัก​ผ้า และ​ผู้​ที่​ออก​มา​พบ​คือ เอลียาคิม​บุตร​ฮิลคียาห์​ผู้​บริหาร​วัง​กษัตริย์ เชบนา​เลขา​ของ​กษัตริย์ และ​โยอาห์​บุตร​อาสาฟ​ผู้​บันทึก​สาสน์ ผู้​บังคับ​กองพัน​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “จง​ไป​บอก​เฮเซคียาห์​ว่า ‘กษัตริย์​แห่ง​อัสซีเรีย​กษัตริย์​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​กล่าว​ว่า ท่าน​วางใจ​ใน​สิ่ง​ใด จึง​มี​ความ​มั่นใจ​เช่น​นี้ ท่าน​คิด​หรือ​ว่า คำ​พูด​เท่า​นั้น​จะ​เป็น​วิธีการ​และ​กำลัง​ที่​ใช้​ใน​ศึก​สงคราม​ได้ ท่าน​ไว้​วางใจ​ใคร ท่าน​จึง​ไม่​ยอม​อยู่​ใต้​บังคับ​บัญชา​ของ​เรา ดู​เถิด ท่าน​กำลัง​พึ่งพา​อียิปต์ ซึ่ง​เป็น​ประหนึ่ง​ไม้เท้า​หัก​ที่​ทำ​จาก​ไม้​อ้อ และ​จะ​ทิ่ม​แทง​มือ​ของ​คน​ที่​ยัน​มัน​ไว้ ฟาโรห์​กษัตริย์​แห่ง​อียิปต์​ก็​เป็น​อย่าง​นั้น​ต่อ​ทุก​คน​ที่​พึ่งพา​เขา แต่​ถ้า​ท่าน​บอก​เรา​ว่า “เรา​ไว้​วางใจ​ใน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เรา” เฮเซคียาห์​เป็น​ผู้​ที่​กำจัด​สถาน​บูชา​บน​ภูเขา​สูง​และ​แท่น​บูชา​มิ​ใช่​หรือ และ​ยัง​บอก​ประชา​ชน​ชาว​ยูดาห์​และ​เยรูซาเล็ม​ว่า “เจ้า​จง​นมัสการ​ที่​หน้า​แท่น​บูชา​นี้” มา​เถิด มา​ต่อรอง​กับ​กษัตริย์​แห่ง​อัสซีเรีย​นาย​ข้าพเจ้า​ว่า ข้าพเจ้า​จะ​ให้​ม้า 2,000 ตัว​แก่​ท่าน ถ้า​ท่าน​สามารถ​หา​คน​ขี่​ได้ ท่าน​จะ​ปฏิเสธ​ทหาร​รับใช้​คน​หนึ่ง​ใน​หมู่​ผู้​รับใช้​ผู้​น้อย​สุด​ของ​เจ้า​นาย​ข้าพเจ้า​ได้​อย่าง​ไร ใน​ขณะ​ที่​ท่าน​พึ่งพา​อียิปต์​ใน​เรื่อง​รถศึก​และ​ทหาร​ม้า ยิ่ง​กว่า​นั้น ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​มิ​ใช่​หรอก​หรือ ข้าพเจ้า​จึง​ได้​ขึ้น​มา​โจมตี​สถาน​ที่​นี้​ให้​พินาศ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​ข้าพเจ้า​ว่า จง​ขึ้น​ไป​โจมตี​แผ่นดิน​นี้​ให้​พินาศ’” เอลียาคิม เชบนา และ​โยอาห์ พูด​กับ​ผู้​บังคับ​กองพัน​ว่า “กรุณา​พูด​กับ​บรรดา​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​เป็น​ภาษา​อาราเมค​เถิด เพราะ​พวก​เรา​เข้าใจ อย่า​พูด​กับ​พวก​เรา​เป็น​ภาษา​ของ​ชาว​ยูดาห์ เพราะ​ว่า​ประชา​ชน​ที่​อยู่​บน​กำแพง​เมือง​กำลัง​ฟัง​เรา​พูด​กัน” แต่​ผู้​บังคับ​กองพัน​ตอบ​ว่า “เจ้านาย​ของ​ข้าพเจ้า​ให้​ข้าพเจ้า​มา​พูด​กับ​เจ้านาย​ของ​ท่าน​และ​กับ​ท่าน​เท่า​นั้น​หรือ ไม่​ให้​พูด​กับ​พวก​ที่​นั่ง​อยู่​บน​กำแพง​เมือง​หรือ พวก​เขา​ต้อง​รับ​โทษ​ให้​กิน​อุจจาระ​และ​ปัสสาวะ​ของ​พวก​เขา​เอง​ร่วม​กับ​ท่าน​ด้วย” แล้ว​ผู้​บังคับ​กองพัน​ก็​ยืน​ขึ้น และ​ร้อง​เสียง​ดัง​เป็น​ภาษา​ของ​ชาว​ยูดาห์​ว่า “จง​ฟัง​คำ​ของ​กษัตริย์​แห่ง​อัสซีเรีย กษัตริย์​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่ กษัตริย์​กล่าว​ดังนี้​ว่า ‘อย่า​ให้​เฮเซคียาห์​หลอก​ลวง​พวก​เจ้า เพราะ​เขา​จะ​ไม่​สามารถ​ช่วย​พวก​เจ้า​ให้​หลุด​พ้น​ได้ อย่า​ให้​เฮเซคียาห์​ทำให้​พวก​เจ้า​วางใจ​ใน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ด้วย​คำ​พูด​ที่​ว่า พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จะ​ช่วย​พวก​เรา​ให้​รอด เมือง​นี้​จะ​ไม่​ถูก​มอบ​ไว้​ใน​มือ​ของ​กษัตริย์​แห่ง​อัสซีเรีย’ อย่า​ฟัง​เฮเซคียาห์ เพราะ​กษัตริย์​แห่ง​อัสซีเรีย​กล่าว​ดังนี้​ว่า ‘จง​ยอม​สงบ​ศึก​กับ​เรา และ​ออก​มา​หา​เรา แล้ว​พวก​เจ้า​แต่​ละ​คน​จะ​กิน​จาก​เถา​องุ่น​ของ​ตน​เอง และ​จาก​ต้น​มะเดื่อ​ของ​ตน​เอง และ​พวก​เจ้า​แต่​ละ​คน​จะ​ดื่ม​น้ำ​จาก​บ่อ​ของ​ตน​เอง จนกว่า​เรา​จะ​มา​นำ​พวก​เจ้า​ไป​ยัง​แผ่นดิน​ที่​เหมือน​ของ​พวก​เจ้า​เอง แผ่นดิน​แห่ง​เมล็ด​ข้าว​และ​เหล้า​องุ่น แผ่นดิน​แห่ง​ขนมปัง​และ​ไร่​องุ่น จง​ระวัง​ตัว​ว่า​เฮเซคียาห์​จะ​ไม่​หลอก​ลวง​พวก​เจ้า​ด้วย​การ​พูด​ที่​ว่า พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จะ​ช่วย​พวก​เรา​ให้​รอด มี​เทพเจ้า​ของ​ประชา​ชาติ​ใด​บ้าง ที่​เคย​ช่วย​แผ่นดิน​ของ​เขา​ให้​รอด​จาก​เงื้อมมือ​ของ​กษัตริย์​แห่ง​อัสซีเรีย​ได้ ปวง​เทพเจ้า​ของ​เมือง​ฮามัท​และ​อาร์ปัด​อยู่​ไหน​ล่ะ ปวง​เทพเจ้า​ของ​เสฟาร์วาอิม​อยู่​ไหน​ล่ะ เทพเจ้า​เหล่า​นั้น​ได้​ช่วย​สะมาเรีย​ให้​รอด​จาก​เงื้อมมือ​ของ​เรา​แล้ว​หรือ มี​เทพเจ้า​ใด​ของ​แผ่นดิน​เหล่า​นี้​บ้าง ที่​ได้​ช่วย​แผ่นดิน​ของ​พวก​เขา​ให้​พ้น​จาก​เงื้อมมือ​ของ​เรา​ได้ อย่าง​นี้​แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จะ​ช่วย​เยรูซาเล็ม​ให้​รอด​จาก​เงื้อมมือ​ของ​เรา​ได้​หรือ’” แต่​พวก​เขา​ก็​เงียบ​และ​ไม่​ตอบ​เขา​สัก​คำ​เดียว เพราะ​กษัตริย์​สั่ง​ไว้​ว่า “อย่า​ตอบ​เขา” เอลียาคิม​บุตร​ฮิลคียาห์​ผู้​บริหาร​วัง เชบนา​เลขา​ของ​กษัตริย์ และ​โยอาห์​บุตร​อาสาฟ​ผู้​บันทึก​สาสน์​จึง​ฉีก​เสื้อ​ผ้า​ของ​ตน ไป​หา​เฮเซคียาห์​และ​บอก​ท่าน​ว่า​ผู้​บังคับ​กองพัน​พูด​อะไร​บ้าง