อิสยาห์ 32:1-20
อิสยาห์ 32:1-20 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ดูเถอะ จะมีกษัตริย์องค์หนึ่งปกครองด้วยความซื่อสัตย์ และพวกผู้นำจะปกครองด้วยความยุติธรรม แล้วพวกเขาแต่ละคนก็จะเป็นเหมือนที่กำบังลม และเป็นเหมือนที่ปลอดภัยท่ามกลางพายุ พวกเขาจะเป็นเหมือนลำธารน้ำในที่แห้งแล้ง และเป็นเหมือนร่มเงาของหินใหญ่ในแผ่นดินที่ไม่มีอะไรงอกขึ้นมาได้ แล้วตาของคนที่มองเห็นจะได้ไม่ปิดไป หูของคนที่ได้ยินจะได้ตั้งใจฟัง และจิตใจของคนใจร้อนก็จะได้คิดอย่างรอบคอบ และลิ้นของคนที่พูดติดอ่างก็จะพูดได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว จะไม่มีใครเรียกพวกคนโง่ว่าผู้สูงศักดิ์ และจะไม่มีใครเรียกคนชั่วว่าเป็นคนน่านับถือ เพราะคนโง่ก็พูดแต่เรื่องโง่ๆ และจิตใจของพวกเขาก็วางแผนแต่เรื่องชั่วๆ ทำในสิ่งที่ขัดกับทางของพระเจ้า และพูดเท็จเรื่องของพระยาห์เวห์ พวกเขาปล่อยให้คนที่หิวโหย หิวต่อไป และไม่ให้น้ำกับคนที่กระหายน้ำดื่ม อุปกรณ์ของอันธพาลก็อัปลักษณ์ เขาวางแผนแต่เรื่องชั่วๆที่จะทำลายคนยากจนด้วยคำโกหก แม้ว่าคนขัดสนเหล่านั้นกำลังขอความเป็นธรรมก็ตาม แต่คนที่สูงศักดิ์วางแผนทำในสิ่งที่สูงส่ง แล้วสิ่งสูงส่งเหล่านั้นทำให้พวกเขายืนอย่างมั่นคง พวกคุณนายที่ใช้ชีวิตแสนสบายไปวันๆ ลุกขึ้นมาซะ ฟังเสียงของผมให้ดี พวกสาวๆที่คิดว่าตัวเองมั่นคงแล้ว ให้ฟังสิ่งที่ผมพูดให้ดี ตอนนี้พวกเจ้าอาจจะคิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้ว แต่อีกประมาณปีกว่าๆเจ้าก็จะต้องกลัวจนตัวสั่น เพราะไร่องุ่นจะไม่ออกผลและจะไม่มีผลไม้ให้เก็บเกี่ยว พวกคุณนายที่ใช้ชีวิตแสนสบายให้กลัวจนตัวสั่น พวกสาวๆที่คิดว่าตัวเองมั่นคงแล้วให้ตัวสั่นงันงก ถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกซะและให้สวมผ้ากระสอบแทน ให้ทุบอกของเจ้าด้วยความเศร้า เพราะท้องทุ่งที่เจ้าชื่นชมและเถาองุ่นที่แสนดกได้หายไปหมดแล้ว ให้เศร้า เพราะผืนดินของคนของเรามีแต่หนามและหญ้าคาขึ้นรกไปหมด เออ ให้เศร้า ที่บ้านต่างๆที่มีความสุขสนุกสนาน และเมืองที่เฉลิมฉลองกัน หายไปหมดแล้ว เพราะพระราชวังจะถูกทอดทิ้ง เมืองที่คึกครื้นเสียงดังก็จะถูกทิ้งร้างไป เนินเขาและหอคอยก็จะกลายเป็นที่ร้างตลอดไป เป็นที่สนุกสนานกันของลาป่า ฝูงแพะแกะก็จะมาหากินที่นั่น มันจะเป็นอย่างนี้ไปจนกว่าพระองค์จะเทชีวิตใหม่ ลงมาบนพวกเราจากสวรรค์ และทะเลทรายก็จะกลายเป็นสวนผลไม้ และสวนผลไม้ก็จะมีมากมายเหมือนผืนป่า แล้วความยุติธรรมจะอาศัยอยู่ในทะเลทรายนั้น และความถูกต้องจะพักอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่อุดมนั้น ผลของความถูกต้องจะเป็นสันติสุข และผลของความถูกต้องจะเป็นความสงบสุขและความปลอดภัยตลอดไป ชนชาติของเราจะอาศัยอยู่ในชุมชนที่สงบสุข ในที่อยู่อันมั่นคง ในที่พักอันเงียบสงบ ลูกเห็บจะทำลายป่าของศัตรู เมืองของพวกเขาก็จะตกต่ำลง แต่พวกเจ้าจะมีเกียรติขึ้นและจะได้หว่านเมล็ดพืชไว้ข้างๆลำธารทุกสาย และปล่อยวัวปล่อยลาให้เดินหากินไปมาอย่างอิสระ
อิสยาห์ 32:1-20 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ดูเถิด พระราชาองค์หนึ่งจะปกครองด้วยความชอบธรรม และบรรดาเจ้านายจะครอบครองด้วยความยุติธรรม และผู้หนึ่งจะเป็นเหมือนที่กำบังจากลมแรง เหมือนที่คุ้มกันจากพายุฝน เหมือนธารน้ำทั้งหลายในที่กันดาร เหมือนร่มเงาของศิลามหึมาในแผ่นดินที่แห้งแล้ง แล้วดวงตาของพวกที่เห็นจะไม่ปิด และหูของคนที่ฟังจะได้ยิน จิตใจของคนหุนหันจะเข้าใจ และลิ้นของคนติดอ่างจะพูดฉะฉานและชัดเจน เขาจะไม่เรียกคนโง่ว่าคนสูงศักดิ์อีก หรือเรียกคนพาลว่าเป็นคนน่านับถือ เพราะคนโง่พูดความโฉดเขลา และใจของเขาก็ปองความชั่ว เพื่อทำการอธรรม และเพื่อพูดเรื่องไม่ถูกต้องเกี่ยวกับพระยาห์เวห์ เพื่อทำคนหิวให้อดอยาก และไม่ให้คนกระหายได้ดื่ม อุบายของคนพาลก็ชั่วร้าย เขาวางแผนแต่การเลวร้าย เพื่อทำลายคนจนด้วยถ้อยคำเท็จ แม้ว่าคำร่ำร้องของคนขัดสนนั้นเที่ยงธรรม แต่ผู้สูงศักดิ์ก็ทำแต่สิ่งที่สูงส่ง เขาดำรงอยู่ด้วยสิ่งที่สูงส่ง พวกผู้หญิงที่อยู่อย่างพออกพอใจนั้น จงตั้งใจฟังเสียงข้าพเจ้า บรรดาบุตรีที่อยู่อย่างมั่นใจนั้น จงเงี่ยหูฟังคำข้าพเจ้า อีกเพียงสักปีกว่าๆ หญิงที่อยู่อย่างมั่นใจจะสะดุ้งตัวสั่น เพราะไร่องุ่นจะหมดสิ้น ฤดูเก็บผลไม้จะไม่มาถึง หญิงที่อยู่อย่างพออกพอใจเอ๋ย จงตัวสั่น เจ้าผู้อยู่อย่างมั่นใจเอ๋ย จงสะดุ้งตัวสั่น จงแก้ผ้า และปล่อยตัวล่อนจ้อน แล้วเอาผ้ากระสอบคาดเอวไว้ จงทุบอกด้วยเรื่องไร่นาแสนสุข ด้วยเรื่องเถาองุ่นผลดก ด้วยเรื่องที่ดินชนชาติของเรา ซึ่งงอกแต่หนามใหญ่และหนามย่อย ด้วยเรื่องบรรดาบ้านเรือนที่ชื่นบาน ภายในนครรื่นเริง เพราะว่าพระราชวังจะถูกทอดทิ้ง เมืองที่มีคนหนาแน่นจะถูกทิ้งร้าง เนินเขาและหอคอย จะกลายเป็นถ้ำตลอดไป กลายเป็นที่ที่ชื่นบานของลาป่า และเป็นลานหญ้าของฝูงแพะแกะ จนกว่าจะทรงเทพระวิญญาณจากเบื้องบนลงมาบนเรา แล้วถิ่นทุรกันดารจะกลายเป็นสวนผลไม้ และสวนผลไม้นั้นจะถือเสมือนว่าเป็นป่า แล้วความยุติธรรมจะอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และความชอบธรรมพักอยู่ในสวนผลไม้ ผลงานของความชอบธรรมจะเป็นสันติสุข และผลลัพธ์ของความชอบธรรมคือความเงียบสงบและความวางใจเป็นนิตย์ ชนชาติของข้าพเจ้าจะอาศัยในที่อยู่แห่งสันติสุข ในบ้านเรือนปลอดภัยและในที่พักสงบ แม้ป่าพังทลายเมื่อลูกเห็บตก และเมืองจะยุบลงอย่างสิ้นเชิง ความสุขจะมีกับพวกท่านที่หว่านอยู่ข้างห้วงน้ำทั้งปวง ผู้ปล่อยให้ตีนวัวและตีนลาอยู่อย่างอิสระ
อิสยาห์ 32:1-20 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ดูเถิด กษัตริย์องค์หนึ่งจะครอบครองด้วยความชอบธรรม และเจ้านายจะครอบครองด้วยความยุติธรรม และผู้หนึ่งจะเหมือนที่กำบังจากลม เป็นที่คุ้มให้พ้นจากพายุฝน เหมือนธารน้ำในที่แห้ง เหมือนร่มเงาศิลามหึมาในแผ่นดินที่อ่อนเปลี้ย แล้วตาของคนที่เห็นจะมิได้หลับ และหูของคนที่ฟังจะได้ยิน จิตใจของคนที่หุนหันจะเข้าใจความรู้ และลิ้นของคนติดอ่างจะพูดฉะฉานอย่างทันควัน เขาจะไม่เรียกคนเลวทรามว่าคนใจกว้างอีก หรือคนถ่อยว่าเป็นคนอารี เพราะคนเลวทรามจะพูดอย่างเลวทราม และใจของเขาก็ปองความชั่วช้า เพื่อประกอบความหน้าซื่อใจคด เพื่อออกปากพูดความผิดเกี่ยวกับพระเยโฮวาห์ เพื่อทำจิตใจของคนหิวให้อดอยากและจะไม่ให้คนกระหายได้ดื่ม อุบายของคนถ่อยก็ชั่วร้าย เขาคิดขึ้นแต่กิจการชั่วเพื่อทำลายคนยากจนด้วยถ้อยคำเท็จ แม้ว่าเมื่อคำร้องของคนขัดสนนั้นถูกต้อง แต่คนใจกว้างก็แนะนำแต่สิ่งที่ประเสริฐ เขาจะดำรงอยู่ด้วยสิ่งที่ประเสริฐ หญิงทั้งหลายที่อยู่อย่างสบายเอ๋ย จงลุกขึ้นเถิด และฟังเสียงของข้าพเจ้า ท่านบุตรสาวที่ไม่ระมัดระวังเอ๋ย จงเงี่ยหูฟังคำพูดของข้าพเจ้า อีกสักปีกว่าๆ หญิงที่ไม่ระมัดระวังเอ๋ย ท่านจะสะดุ้งตัวสั่น เพราะไร่องุ่นก็จะไร้ผล ฤดูเก็บผลไม้ก็จะไม่มาถึง หญิงที่อยู่สบายเอ๋ย จงตัวสั่นเถิด ท่านผู้ไม่ระมัดระวังเอ๋ย จงสะดุ้งตัวสั่นเถิด จงแก้ผ้า ปล่อยตัวล่อนจ้อน และเอาผ้ากระสอบคาดเอวไว้ เขาจะทุบอก ด้วยเรื่องไร่นาที่แสนสุข ด้วยเรื่องเถาองุ่นผลดก ด้วยเรื่องแผ่นดินของชนชาติของเราซึ่งงอกแต่หนามใหญ่และหนามย่อย ด้วยเรื่องบ้านเรือนที่ชื่นบานในนครที่สนุกสนาน เพราะว่าพระราชวังจะถูกทอดทิ้ง เมืองที่มีคนหนาแน่นจะถูกทิ้งร้าง ป้อมปราการและหอคอยจะกลายเป็นถ้ำเป็นนิตย์ เป็นที่ชื่นบานของลาป่า เป็นลานหญ้าของฝูงแพะแกะ จนกว่าพระวิญญาณจะเทลงมาบนเราจากเบื้องบน และถิ่นทุรกันดารกลายเป็นสวนผลไม้ และสวนผลไม้นั้นจะถือว่าเป็นป่า แล้วความยุติธรรมจะอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และความชอบธรรมพักอยู่ในสวนผลไม้ และผลของความชอบธรรมจะเป็นสันติภาพ และผลของความชอบธรรมคือความสงบและความวางใจเป็นนิตย์ ชนชาติของเราจะอาศัยอยู่ในที่อยู่อย่างสันติ ในที่อาศัยอันปลอดภัย ในที่พักอันสงบ เมื่อป่าพังทลาย ลูกเห็บจะตกและเมืองจะยุบลงทีเดียว ท่านที่หว่านอยู่ข้างห้วงน้ำทั้งปวงก็เป็นสุข ผู้ที่ปล่อยให้ตีนวัวและตีนลาเที่ยวอยู่อย่างอิสระ
อิสยาห์ 32:1-20 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ดูเถิด พระราชาองค์หนึ่งจะครอบครองด้วยความชอบธรรม และเจ้านายจะครอบครองด้วยความยุติธรรม และผู้หนึ่งจะเหมือนที่กำบังจากลม เป็นที่คุ้มให้พ้นจากพายุฝน เหมือนธารน้ำในที่แห้ง เหมือนร่มเงาศิลามหึมาในแผ่นดินที่อ่อนเปลี้ย แล้วตาของคนที่เห็นจะมิได้หลับ และหูของคนที่ฟังจะได้ยิน จิตใจของคนที่หุนหันจะรอบคอบ และลิ้นของคนติดอ่างจะพูดฉะฉานอย่างทันควัน เขาจะไม่เรียกคนโง่ว่าคนศรัทธาอีก หรือคนถ่อยว่าเป็นคนอารี เพราะคนโง่พูดความโฉด และใจของเขาก็ปองความบาปผิด เพื่อประกอบการอธรรม เพื่อออกปากพูดความผิดเกี่ยวกับพระเจ้า เพื่อทำคนหิวให้อดอยาก และไม่ให้คนกระหายได้ดื่ม อุบายของคนถ่อยก็ชั่วร้าย เขาคิดขึ้นแต่กิจการชั่ว เพื่อทำลายคนยากจนด้วยถ้อยคำเท็จ แม้ว่าเมื่อคำร้องของคนขัดสนนั้นถูกต้อง แต่เขาที่เป็นผู้ดีก็ประดิษฐ์แต่สิ่งที่ดี เขาดำรงอยู่เพื่อสิ่งที่ดี หญิงทั้งหลายที่อยู่อย่างสบายนั้น จงลุกขึ้นเถิด และฟังเสียงของข้าพเจ้า ท่านบุตรีที่อิ่มใจเอ๋ย จงเงี่ยหูฟังคำพูดของข้าพเจ้า อีกสักปีกว่าๆ หญิงที่อิ่มใจเอ๋ยท่านจะสะดุ้งตัวสั่น เพราะไร่องุ่นก็จะไร้ผล ฤดูเก็บผลไม้ก็จะไม่มาถึง หญิงที่อยู่สบายเอ๋ย ตัวสั่นเถิด ท่านผู้อิ่มใจเอ๋ย สะดุ้งตัวสั่นเถิด จงแก้ผ้า ปล่อยตัวล่อนจ้อน และเอาผ้ากระสอบคาดเอวไว้ จงทุบอกด้วยเรื่องไร่นาที่แสนสุข ด้วยเรื่องเถาองุ่นผลดก ด้วยเรื่องที่ดินของชนชาติของเรา ซึ่งงอกแต่หนามใหญ่และหนามย่อย ด้วยเรื่องบ้านเรือนที่ชื่นบาน ในนครที่สนุกสนาน เพราะว่าพระราชวังจะถูกทอดทิ้ง เมืองที่มีคนหนาแน่นจะถูกทิ้งร้าง เนินและหอคอย จะกลายเป็นที่ร้างเป็นนิตย์ เป็นที่ชื่นบานของลาป่า เป็นลานหญ้าของฝูงแพะแกะ จนกว่าพระวิญญาณจะเทลงมาบนเราจากเบื้องบน และถิ่นทุรกันดารกลายเป็นสวนผลไม้ และสวนผลไม้นั้นจะถือว่าเป็นป่า แล้วความยุติธรรมจะอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และความชอบธรรมพักอยู่ในสวนผลไม้ และผลของความชอบธรรมจะเป็นศานติภาพ และผลของความชอบธรรม คือความสงบและความวางใจเป็นนิตย์ ชนชาติของเราจะอาศัยอยู่ในที่อยู่อย่างศานติ ในที่อาศัยอันปลอดภัย ในที่พักอันสงบ เมื่อป่าพังทลาย ลูกเห็บตก และเมืองจะยุบลงทีเดียว ท่านที่หว่านอยู่ข้างห้วงน้ำทั้งปวงก็เป็นสุข ผู้ที่ปล่อยให้ตีนวัวและตีนลาเที่ยวอยู่อย่างอิสระ
อิสยาห์ 32:1-20 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ดูเถิด กษัตริย์องค์หนึ่งจะครองราชย์ด้วยความชอบธรรม และบรรดาเจ้านายจะปกครองด้วยความยุติธรรม แต่ละคนจะเป็นเหมือนที่กำบังลม เป็นที่ลี้ภัยจากพายุ เหมือนธารน้ำหลายสายในถิ่นกันดาร และร่มเงาของศิลาใหญ่ในดินแดนอันแห้งระโหย แล้วนัยน์ตาของผู้ที่มองเห็นจะไม่ถูกปิดอีกต่อไป และหูของผู้ที่ได้ยินจะฟัง จิตใจของผู้ที่หุนหันจะรู้และเข้าใจ และลิ้นตะกุกตะกักจะพูดคล่องฉะฉาน คนโง่จะไม่ได้รับการยกย่องว่าสูงศักดิ์อีกต่อไป ทั้งพวกวายร้ายจะไม่ได้รับการเคารพนับถืออย่างสูงอีก เพราะคนโง่พูดแต่เรื่องโฉดเขลา จิตใจของเขาหมกมุ่นในความชั่วร้าย เขาประพฤติชั่ว และเผยแผ่เรื่ององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างผิดๆ เขาไม่ให้สิ่งใดกับคนหิวโหย และไม่ยอมให้น้ำกับคนกระหาย วิธีการของพวกวายร้ายนั้นร้ายกาจ เขาวางแผนชั่ว เพื่อทำลายคนยากไร้ด้วยคำโกหก แม้คำอ้อนวอนของคนขัดสนนั้นถูกต้องเที่ยงธรรม ส่วนคนมีคุณธรรมคิดแต่สิ่งดีงาม เขายืนหยัดอยู่ด้วยการกระทำที่ถูกต้องสูงส่ง พวกเจ้า เหล่าผู้หญิงที่นอนเป็นทองไม่รู้ร้อน จงลุกขึ้นและฟังเรา เหล่าบุตรีผู้รู้สึกมั่นคง จงฟังสิ่งที่เราจะพูด! ในเวลาปีเศษๆ ผู้ที่รู้สึกมั่นคงจะตัวสั่น การเก็บเกี่ยวองุ่นจะล้มเหลว และไม่มีการเก็บผลไม้ จงสั่นสะท้านเถิด หญิงผู้เรื่อยเฉื่อย จงตัวสั่นงันงก พวกเจ้าเหล่าธิดาผู้รู้สึกมั่นคง! จงเปลื้องเสื้อผ้าออก และสวมเสื้อผ้ากระสอบเถิด จงตีอกชกตัวเพราะเรื่องท้องทุ่งอันอุดมสมบูรณ์ และเพราะเถาองุ่นผลดก และเพราะดินแดนแห่งประชากรของเรา ซึ่งรกไปด้วยหนามน้อยใหญ่ จงไว้ทุกข์ให้บ้านเรือนทั้งปวงที่รื่นเริงเฮฮา และให้นครสำมะเลเทเมาแห่งนี้ ป้อมปราการจะถูกทิ้งร้าง นครที่อึกทึกจะถูกทอดทิ้ง ที่มั่นและหอยามจะกลายเป็นดินแดนร้างตลอดไปเป็นนิตย์ เป็นที่สำราญของลา เป็นทุ่งหญ้าสำหรับฝูงแกะ จนกระทั่งพระวิญญาณจะถูกเทจากเบื้องบนลงมาเหนือเรา ถิ่นกันดารกลับกลายเป็นท้องทุ่งอันอุดมสมบูรณ์ และท้องทุ่งอันอุดมสมบูรณ์ดูเหมือนป่า ความยุติธรรมจะพำนักในถิ่นกันดาร และความชอบธรรมจะอาศัยในท้องทุ่งอันอุดมสมบูรณ์ ผลของความชอบธรรมจะเป็นสันติสุข สิ่งที่เกิดจากความชอบธรรมจะเป็นความสงบและความมั่นใจตลอดกาล ชนชาติของเราจะอาศัยอยู่ในที่พำนักอันสงบสุข ในบ้านที่ปลอดภัย ในที่พักอันปราศจากการรบกวน ถึงแม้ว่าลูกเห็บทำให้ป่าเตียน และนครนั้นราบเป็นหน้ากลอง แต่พวกท่านจะเป็นสุขยิ่งนัก เมื่อท่านได้หว่านเมล็ดพืชของท่านริมธารทุกแห่ง และปล่อยฝูงสัตว์และฝูงลาของท่านอยู่อย่างเสรี
อิสยาห์ 32:1-20 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ดูเถิด กษัตริย์ท่านหนึ่งจะปกครองด้วยความชอบธรรม และบรรดาผู้นำจะปกครองด้วยความยุติธรรม แต่ละท่านจะเป็นเหมือนที่หลบซ่อนจากกระแสลม เหมือนที่กำบังจากพายุ เหมือนธารน้ำในที่แห้งแล้ง เหมือนร่มเงาจากหินก้อนมหึมาบนแผ่นดินที่แห้งผาก แล้วตาของบรรดาผู้มองเห็นจะไม่ปิด และหูของบรรดาผู้ได้ยินก็จะฟัง จิตใจของผู้รีบเร่งจะเข้าใจและทราบ และลิ้นของบรรดาผู้ที่พูดตะกุกตะกักก็พร้อมที่จะพูดได้อย่างคล่องแคล่ว จะไม่มีใครเรียกคนโง่เขลาว่า ผู้สูงศักดิ์ และจะไม่มีใครเรียกคนไร้ค่าว่า ผู้มีเกียรติ อีกต่อไป เพราะคนโง่เขลาพูดถึงความเขลา และใจของเขาคิดถึงความชั่ว เพื่อกระทำสิ่งที่ไร้คุณธรรม เขาพูดถึงพระผู้เป็นเจ้าในทางไม่ดี เขาไม่ยอมให้ผู้อดอยากได้รับประทานอาหาร และปฏิเสธที่จะให้น้ำเขาดื่ม วิธีการของคนไร้ค่านั้นชั่วร้าย เขาวางแผนการที่เลวร้าย และทำให้ผู้ขัดสนเสียหายด้วยคำเท็จ และใส่ร้ายผู้ยากไร้ในที่ว่าความ แต่ผู้สูงศักดิ์มีแผนการที่สูงส่ง เขายึดมั่นในสิ่งอันสูงส่งนั้น บรรดาผู้หญิงที่ไม่ทุกข์ร้อนใจเอ๋ย จงลุกขึ้นและฟังเสียงของข้าพเจ้า บรรดาบุตรหญิงที่มั่นใจ จงเงี่ยหูฟังคำพูดของข้าพเจ้า บรรดาผู้หญิงที่มั่นใจเอ๋ย ในอีกปีกว่าๆ ท่านก็จะสั่นเทา เพราะพืชผลจากไร่องุ่นจะล่ม จะไม่มีผลองุ่นให้ท่านเก็บ บรรดาผู้หญิงที่ไม่ทุกข์ร้อนใจเอ๋ย จงสั่นสะท้าน พวกท่านที่มั่นใจจงสั่นเทา จงถอดเสื้อผ้าออก และไม่ต้องสวมใส่อะไร แล้วก็ใช้ผ้ากระสอบคาดที่เอว จงตีอกชกหัวของท่านให้กับไร่นา ให้กับเถาองุ่นอุดมผล ให้กับพื้นดินของชนชาติของข้าพเจ้า ซึ่งมีต้นหนามและพุ่มไม้หนามงอกโต ใช่แล้ว ให้กับบ้านทั้งหลายที่แสนจะรื่นเริง ในเมืองแสนสุข ให้กับป้อมปราการที่ถูกทอดทิ้ง เมืองที่มีผู้คนหนาแน่นถูกทิ้งเป็นที่ร้าง เนินเขาและหอคอยจะกลายเป็นถ้ำ ตลอดไป จะนำความสำราญมาให้แก่พวกลาป่า เป็นทุ่งหญ้าของฝูงแพะแกะ จนกว่าพระวิญญาณจะหลั่งลงสู่พวกเราจากเบื้องบน และถิ่นทุรกันดารจะกลายเป็นไร่นาอันอุดม และไร่นาอันอุดมก็จะถือเสมือนว่าเป็นป่าดงดิบ และความยุติธรรมจะอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ความชอบธรรมอยู่ในไร่นาอันอุดม ผลสะท้อนของความชอบธรรมก็คือสันติสุข และผลที่ได้จากความชอบธรรมคือความสงบเงียบและความปลอดภัยตลอดกาล ชนชาติของข้าพเจ้าจะอาศัยอยู่ในหลักแหล่งอันสันติสุข ในที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย และในสถานที่พักอันสงบเงียบ ลูกเห็บจะตกเมื่อป่าดงดิบพังทลายลง และเมืองจะถูกทำให้ตกต่ำลง พวกท่านที่หว่านอยู่ข้างแหล่งน้ำ และปล่อยให้เท้าโคและเท้าลาก้าวย่างไปอย่างมีอิสระ ก็จะเป็นสุข