อิสยาห์ 21:1-17
อิสยาห์ 21:1-17 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลนมีดังนี้ว่า ผู้รุกรานมาจากถิ่นกันดาร จากดินแดนน่าสะพรึงกลัว เหมือนพายุพัดกระหน่ำดินแดนภาคใต้ ข้าพเจ้าได้เห็นนิมิตอันน่ากลัว คือ ผู้ทรยศก่อการกบฏ โจรเข้าฉกชิง เอลามบุกโจมตี มีเดียเข้าล้อมเมือง เราจะยุติเสียงครวญครางทั้งปวงที่มันทำให้เกิดขึ้น ถึงตอนนี้ กายของข้าพเจ้าบิดเร่าด้วยความเจ็บปวด ความรวดร้าวจู่โจมข้าพเจ้าเหมือนความเจ็บปวดของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก ข้าพเจ้าโซซัดโซเซเพราะสิ่งที่ได้ยิน งงงันเพราะสิ่งที่ได้เห็น หัวใจของข้าพเจ้าเต้นระทึก ตกใจกลัวจนตัวสั่น ยามสนธยาที่ข้าพเจ้าใฝ่หากลับกลายเป็นความสยดสยอง พวกเขาตั้งโต๊ะ ยกพรมมาปู เขากินและดื่ม! นักรบทั้งหลาย ลุกขึ้นเถิด เอาน้ำมันทาโล่! องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงวางยามไว้คอยดูแล และให้เขารายงานสิ่งที่เห็น เมื่อเขาเห็นรถรบ ฝูงม้า คนขี่ลา หรือคนขี่อูฐเคลื่อนเข้ามา ให้เขาตื่นตัว และเพ่งดู” แล้วยามร้องบอกว่า “นายครับ ผมยืนเฝ้ายามที่หอคอยนี้ วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า ดูเถิด มีคนหนึ่งนั่งรถรบมา และมีม้ามาเป็นฝูง เขาตอบกลับมาว่า ‘บาบิโลนล่มแล้ว! เทวรูปทั้งหมดของบาบิโลน แตกกระจัดกระจายอยู่ที่พื้น!’ ” พี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าเอ๋ย ผู้ถูกบดขยี้ในลานนวดข้าว ข้าพเจ้าก็บอกท่านถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยิน จากพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จากพระเจ้าแห่งอิสราเอล พระดำรัสเกี่ยวกับดูมาห์มีดังนี้ว่า มีคนร้องเรียกข้าพเจ้าจากเสอีร์ว่า “คนยาม กี่โมงกี่ยามแล้ว? คนยาม กี่โมงกี่ยามแล้ว?” ยามตอบว่า “จะเช้าแล้ว แต่ก็จะมืดด้วย ถ้าจะถามก็ถามมาเถิด แล้วค่อยกลับมาถามใหม่” พระดำรัสเกี่ยวกับอาระเบียมีดังนี้ว่า เจ้าพวกกองคาราวานชาวเดดาน ผู้ตั้งค่ายในดงทึบแห่งอาระเบีย จงนำน้ำมาให้ผู้กระหาย ประชากรเทมาเอ๋ย และนำอาหารมาให้ผู้ลี้ภัยเถิด พวกเขาหนีจากดาบ ดาบที่ชักออกจากฝัก หนีจากคันธนูซึ่งโก่งอยู่ และจากสงครามอันดุเดือด องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ภายในหนึ่งปีตามปีของสัญญาว่าจ้างแรงงานนั้น ความโอ่อ่าตระการของเคดาร์จะสิ้นสุดลง นักธนูและนักรบของเคดาร์จะเหลืออยู่ไม่กี่คน” พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลได้ตรัสไว้
อิสยาห์ 21:1-17 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับบาบิโลน มีสิ่งหนึ่งมาจากทะเลทราย เหมือนกับพายุใหญ่พัดมาจากเนเกบ มันมาจากดินแดนอันน่าสะพรึงกลัว ผมได้เห็นนิมิตที่เลวร้าย ในนิมิตนั้น ผมเห็นพวกคนทรยศกำลังหักหลังเจ้า ผมเห็นพวกผู้ทำลายกำลังยึดทรัพย์สมบัติเจ้า พระยาห์เวห์ว่า “เอลาม ขึ้นไปโจมตีเลย มีเดีย โอบล้อมโจมตีบาบิโลนเลย เราจะหยุดเสียงร้องครวญครางของชนชาติทั้งหลายที่บาบิโลนก่อขึ้น” เมื่อผมเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ผมเจ็บปวดไปทั่วท้อง อย่างกับผู้หญิงเจ็บตอนคลอดลูก สิ่งที่ผมได้ยินมาทำให้ผมวุ่นวายใจ สิ่งที่ผมเห็นมาทำให้ผมหวาดกลัว จิตใจของผมหมุนติ้วไปหมด ผมตัวสั่นงันงกไปด้วยความกลัว ค่ำคืนอันแสนหวานของผมกลับทำให้ผมกลัวจนตัวสั่น พวกเขาตั้งโต๊ะ ปูพรม กินและดื่มกัน แล้วมีคนร้องว่า ลุกขึ้น พวกแม่ทัพนายกองทั้งหลาย เตรียมโล่สำหรับรบ พระยาห์เวห์บอกกับผมว่า “ไปตั้งทหารยามคนหนึ่ง เมื่อเขาเห็นอะไร ก็ให้มารายงาน เมื่อเขาเห็นพวกรถรบลากด้วยม้าเป็นคู่ๆ คนขี่ลา คนขี่อูฐ ให้เขาตื่นตัวเต็มที่ ให้ระวังอย่างเต็มที่” แล้วทหารยามก็ร้องว่า “ข้าแต่องค์เจ้าชีวิตข้าพเจ้ายืนเฝ้ายามอยู่บนหอคอยทุกวัน และข้าพเจ้ายืนอยู่ประจำที่ทุกคืน ดูสิ มีรถรบคันหนึ่งที่ลากด้วยม้าคู่หนึ่ง แล้วคนบนรถรบนั้นร้องตะโกนว่า ‘บาลิโลนล่มสลายแล้ว มันล่มสลายแล้ว และพวกรูปปั้นเทพเจ้าของมันทั้งหมดก็ถูกทำลายแตกเป็นชิ้นๆอยู่บนดิน’” คนของเราเอ๋ย พวกเจ้าที่ถูกนวด พวกเจ้าที่ถูกฝัดร่อน ผมได้ยินอะไรมาจากพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพระเจ้าแห่งอิสราเอล ผมก็ประกาศไปอย่างนั้น นี่เป็นข่าวสารเกี่ยวกับดูมาห์ มีคนหนึ่งเรียกผมจากเมืองเสอีร์ “ยาม คืนนี้มีข่าวอะไรจากดูมาห์ไหม ยาม คืนนี้มีข่าวอะไรไหม” ทหารยามตอบว่า “ผ่านไปวันหนึ่งกับคืนหนึ่งแล้วไม่มีข่าวอะไรเลย ถ้าอยากจะถาม ค่อยกลับมาถามใหม่นะ” นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับอาระเบีย ขบวนพ่อค้าจากเดดานเอ๋ย เจ้าจะค้างคืนอยู่ตามพุ่มไม้ในทะเลทรายอาระเบีย ชาวแผ่นดินเทมาเอ๋ย ให้เอาน้ำออกมาให้คนที่หิวกระหายด้วย ให้เอาขนมปังออกมาเลี้ยงคนที่ลี้ภัยด้วย เพราะพวกเขาได้หนีจากคมดาบมา หนีจากดาบที่ชักจากฝักพร้อมฟันแล้ว หนีจากคันธนูที่ง้างพร้อมยิงแล้ว หนีจากการสู้รบอย่างหนัก องค์เจ้าชีวิต พูดกับผมอย่างนี้ว่า “ในหนึ่งปี ตรงเผงอย่างกับที่ลูกจ้างนับเวลาที่เขาตกลงจะทำงาน ศักดิ์ศรีทั้งหมดของเคดาร์ จะจบสิ้นไป จำนวนนักรบแม่นธนูในกองทัพเคดาร์จะเหลือน้อยมาก” เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลได้ลั่นคำพูดไปแล้ว
อิสยาห์ 21:1-17 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับบาบิโลน มีสิ่งหนึ่งมาจากทะเลทราย เหมือนกับพายุใหญ่พัดมาจากเนเกบ มันมาจากดินแดนอันน่าสะพรึงกลัว ผมได้เห็นนิมิตที่เลวร้าย ในนิมิตนั้น ผมเห็นพวกคนทรยศกำลังหักหลังเจ้า ผมเห็นพวกผู้ทำลายกำลังยึดทรัพย์สมบัติเจ้า พระยาห์เวห์ว่า “เอลาม ขึ้นไปโจมตีเลย มีเดีย โอบล้อมโจมตีบาบิโลนเลย เราจะหยุดเสียงร้องครวญครางของชนชาติทั้งหลายที่บาบิโลนก่อขึ้น” เมื่อผมเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ผมเจ็บปวดไปทั่วท้อง อย่างกับผู้หญิงเจ็บตอนคลอดลูก สิ่งที่ผมได้ยินมาทำให้ผมวุ่นวายใจ สิ่งที่ผมเห็นมาทำให้ผมหวาดกลัว จิตใจของผมหมุนติ้วไปหมด ผมตัวสั่นงันงกไปด้วยความกลัว ค่ำคืนอันแสนหวานของผมกลับทำให้ผมกลัวจนตัวสั่น พวกเขาตั้งโต๊ะ ปูพรม กินและดื่มกัน แล้วมีคนร้องว่า ลุกขึ้น พวกแม่ทัพนายกองทั้งหลาย เตรียมโล่สำหรับรบ พระยาห์เวห์บอกกับผมว่า “ไปตั้งทหารยามคนหนึ่ง เมื่อเขาเห็นอะไร ก็ให้มารายงาน เมื่อเขาเห็นพวกรถรบลากด้วยม้าเป็นคู่ๆ คนขี่ลา คนขี่อูฐ ให้เขาตื่นตัวเต็มที่ ให้ระวังอย่างเต็มที่” แล้วทหารยามก็ร้องว่า “ข้าแต่องค์เจ้าชีวิตข้าพเจ้ายืนเฝ้ายามอยู่บนหอคอยทุกวัน และข้าพเจ้ายืนอยู่ประจำที่ทุกคืน ดูสิ มีรถรบคันหนึ่งที่ลากด้วยม้าคู่หนึ่ง แล้วคนบนรถรบนั้นร้องตะโกนว่า ‘บาลิโลนล่มสลายแล้ว มันล่มสลายแล้ว และพวกรูปปั้นเทพเจ้าของมันทั้งหมดก็ถูกทำลายแตกเป็นชิ้นๆอยู่บนดิน’” คนของเราเอ๋ย พวกเจ้าที่ถูกนวด พวกเจ้าที่ถูกฝัดร่อน ผมได้ยินอะไรมาจากพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพระเจ้าแห่งอิสราเอล ผมก็ประกาศไปอย่างนั้น นี่เป็นข่าวสารเกี่ยวกับดูมาห์ มีคนหนึ่งเรียกผมจากเมืองเสอีร์ “ยาม คืนนี้มีข่าวอะไรจากดูมาห์ไหม ยาม คืนนี้มีข่าวอะไรไหม” ทหารยามตอบว่า “ผ่านไปวันหนึ่งกับคืนหนึ่งแล้วไม่มีข่าวอะไรเลย ถ้าอยากจะถาม ค่อยกลับมาถามใหม่นะ” นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับอาระเบีย ขบวนพ่อค้าจากเดดานเอ๋ย เจ้าจะค้างคืนอยู่ตามพุ่มไม้ในทะเลทรายอาระเบีย ชาวแผ่นดินเทมาเอ๋ย ให้เอาน้ำออกมาให้คนที่หิวกระหายด้วย ให้เอาขนมปังออกมาเลี้ยงคนที่ลี้ภัยด้วย เพราะพวกเขาได้หนีจากคมดาบมา หนีจากดาบที่ชักจากฝักพร้อมฟันแล้ว หนีจากคันธนูที่ง้างพร้อมยิงแล้ว หนีจากการสู้รบอย่างหนัก องค์เจ้าชีวิต พูดกับผมอย่างนี้ว่า “ในหนึ่งปี ตรงเผงอย่างกับที่ลูกจ้างนับเวลาที่เขาตกลงจะทำงาน ศักดิ์ศรีทั้งหมดของเคดาร์ จะจบสิ้นไป จำนวนนักรบแม่นธนูในกองทัพเคดาร์จะเหลือน้อยมาก” เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลได้ลั่นคำพูดไปแล้ว
อิสยาห์ 21:1-17 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ครุวาทเกี่ยวกับถิ่นทุรกันดารของทะเล เหมือนพายุหมุนที่พัดพุ่งไปในเนเกบ มันมาจากถิ่นทุรกันดาร มาจากแผ่นดินที่น่ากลัว เขาบอกนิมิตที่หนักหน่วงแก่ข้าพเจ้า ว่าคนทรยศก็ได้ทรยศ คนทำลายก็เข้าทำลาย เอลามเอ๋ย จงบุกขึ้นไป มีเดียเอ๋ย จงเข้าล้อม เสียงถอนใจทั้งหมดของเธอ เราได้ทำให้สิ้นสุดแล้ว เพราะฉะนั้น บั้นเอวของข้าพเจ้าจึงเต็มด้วยความทุกข์ ความเจ็บปวดเกาะกุมข้าพเจ้าไว้ เหมือนความเจ็บปวดของหญิงที่กำลังคลอดลูก ข้าพเจ้าหนักใจจนไม่อาจจะฟัง ข้าพเจ้าท้อใจจนไม่อาจมองดู ใจของข้าพเจ้าฟุ้งซ่านไป ความหวาดกลัวท่วมท้นข้าพเจ้า แสงโพล้เพล้ซึ่งข้าพเจ้าหวัง กลับทำให้ข้าพเจ้าสั่นกลัว เขาเตรียมการเลี้ยงไว้ เขาปูพื้น เขากิน เขาดื่ม เจ้านายทั้งหลายเอ๋ย จงลุกขึ้น ชโลมโล่ไว้ด้วยน้ำมัน เพราะองค์เจ้านายตรัสกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “จงไป และตั้งยามไว้ ให้เขาไปป่าวประกาศสิ่งที่เขาเห็น เมื่อเขาเห็นคนขี่ม้า คือพลม้าเป็นคู่ๆ หรือคนขี่ลา คนขี่อูฐ ให้เขาฟังด้วยความตั้งใจ ด้วยความตั้งใจจริงๆ” แล้วผู้มองเห็นร้องว่า “เจ้านาย ข้าพเจ้ายืนอยู่บนหอคอย อย่างต่อเนื่องตลอดเวลากลางวัน และประจำอยู่ที่ตำแหน่งของข้าพเจ้า ทุกๆ ค่ำคืน และ นี่แน่ะ มีคนขี่ม้ามา คือพลม้าเป็นคู่ๆ และเขาตอบว่า ‘บาบิโลนล่มแล้ว ล่มแล้ว พวกรูปเคารพทั้งหมดแห่งพระของเขา แตกหักเป็นชิ้นๆ ลงบนพื้นดิน’ ” ท่านผู้ถูกนวดและผู้ถูกฝัดร่อนของข้าเอ๋ย สิ่งที่ข้าได้ยินจากพระยาห์เวห์จอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ข้าก็บอกกับพวกท่าน ครุวาทเกี่ยวกับดูมาห์ มีคนหนึ่งร้องถามข้าพเจ้าจากเสอีร์ ว่า “คนยามเอ๋ย ดึกเท่าไรแล้ว? คนยามเอ๋ย ดึกเท่าไรแล้ว? ” คนยามตอบว่า “เช้ามาถึง กลางคืนก็มาด้วย ถ้าจะถาม ก็ถามเถิด จงกลับมาอีก” ครุวาทเกี่ยวกับอาระเบีย โอ กองคาราวานของคนเดดานเอ๋ย เจ้าจะพักอยู่ในป่าแห่งอาระเบีย ชาวแผ่นดินเทมาเอ๋ย จงเอาน้ำมาให้คนกระหาย เอาขนมปังมาต้อนรับผู้ลี้ภัย เพราะเขาได้หลบหนีจากดาบ จากดาบที่ชักออก จากธนูที่โก่งอยู่ และจากสงครามที่ร้ายแรง เพราะองค์เจ้านายตรัสกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “ศักดิ์ศรีทั้งหมดของคนเคดาร์จะสิ้นสุดภายในปีเดียวตามปีจ้างลูกจ้าง และจำนวนนักธนูที่เหลืออยู่ของนักรบของคนเคดาร์จะมีน้อย” เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล ได้ตรัสแล้ว
อิสยาห์ 21:1-17 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ภาระเกี่ยวกับถิ่นทุรกันดารของทะเล เหมือนลมหมุนในภาคใต้พัดเกลี้ยงไป มันมาจากถิ่นทุรกันดาร จากแผ่นดินอันน่าคร้ามกลัว เขาบอกนิมิตที่เหี้ยมหาญแก่ข้าพเจ้า ว่าผู้ปล้นเข้าปล้น ผู้ทำลายเข้าทำลาย โอ เอลามเอ๋ย จงขึ้นไป โอ มีเดียเอ๋ย จงเข้าล้อมซึ่งมันให้เกิดการถอนหายใจทั้งสิ้น เราได้กระทำให้สิ้นไปแล้ว เพราะฉะนั้นบั้นเอวของข้าพเจ้าจึงเต็มด้วยความแสนระทม ความเจ็บปวดฉวยข้าพเจ้าไว้อย่างความเจ็บปวดที่หญิงกำลังคลอดบุตร ข้าพเจ้าจนใจเพราะสิ่งที่ได้ยิน ข้าพเจ้าท้อถอยเพราะสิ่งที่ได้เห็น จิตใจของข้าพเจ้าฟุ้งซ่านไป ความหวาดเสียวกระทำให้ข้าพเจ้าครั่นคร้าม แสงโพล้เพล้ซึ่งข้าพเจ้าหวังกลับทำให้ข้าพเจ้าสั่นสะเทือน จงเตรียมสำรับไว้ จงเฝ้าอยู่บนหอคอย จงกิน จงดื่ม เจ้านายทั้งหลายเอ๋ย จงลุกขึ้นชโลมโล่ไว้ด้วยน้ำมัน เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “จงไป ตั้งยามให้เขาไปร้องประกาศสิ่งที่เขาเห็น” เขาได้เห็นรถรบพร้อมกับพลม้าเป็นคู่ๆ รถเทียมลาเป็นคู่ๆและรถเทียมอูฐเป็นคู่ๆ เขาได้ฟังอย่างพินิจพิเคราะห์ อย่างพินิจพิเคราะห์ทีเดียว แล้วผู้เห็นได้ร้องว่า “พวกเขามาดุจสิงโต ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ยืนอยู่บนหอคอยตลอดไปในกลางวัน ข้าพระองค์ประจำอยู่ที่ตำแหน่งของข้าพระองค์ตลอดหลายคืน และ ดูเถิด รถรบพร้อมพลรบกับพลม้าเป็นคู่ๆกำลังมา” และเขาตอบว่า “บาบิโลนล่มแล้ว ล่มแล้ว บรรดารูปเคารพสลักทั้งสิ้นแห่งพระของเขา พระองค์ทรงทำลายลงถึงพื้นดิน” โอ ท่านผู้ถูกนวดและผู้ถูกฝัดของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าได้ยินอะไรจากพระเยโฮวาห์จอมโยธา พระเจ้าแห่งอิสราเอล ข้าพเจ้าก็ร้องประกาศแก่ท่านอย่างนั้น ภาระเกี่ยวกับดูมาห์ มีคนหนึ่งเรียกข้าพเจ้าจากเสอีร์ว่า “คนยามเอ๋ย ดึกเท่าไรแล้ว คนยามเอ๋ย ดึกเท่าไรแล้ว” คนยามตอบว่า “เช้ามาถึง กลางคืนมาด้วย ถ้าจะถาม ก็ถามเถิด จงกลับมาอีก” ภาระเกี่ยวกับอาระเบีย โอ กระบวนพ่อค้าของคนเดดานเอ๋ย เจ้าจะพักอยู่ในดงทึบในอาระเบีย ชาวแผ่นดินเทมาได้เอาน้ำมาให้คนกระหาย เขาเอาขนมปังมาต้อนรับคนลี้ภัย เพราะเขาได้หนีจากดาบ จากดาบที่ชักออก จากธนูที่โก่งอยู่ และจากสงครามซึ่งทำให้ทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “สง่าราศีทั้งสิ้นของเคดาร์จะถึงที่สุดภายในปีเดียวตามปีจ้างลูกจ้าง และนักธนูที่เหลืออยู่ของทแกล้วทหารแห่งชาวเคดาร์จะเหลือน้อย เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลได้ตรัสแล้ว”
อิสยาห์ 21:1-17 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ครุวาทเกี่ยวกับถิ่นทุรกันดารของทะเล เหมือนลมบ้าหมูในเนเกบพัดเกลี้ยงไป มันมาจากถิ่นทุรกันดาร จากแผ่นดินอันน่าคร้ามกลัว เขาบอกนิมิตที่เหี้ยมหาญแก่ข้าพเจ้า ว่าผู้ปล้นเข้าปล้น ผู้ทำลายเข้าทำลาย เอลามเอ๋ย จงขึ้นไป มีเดียเอ๋ย จงเข้าล้อม ซึ่งมันให้เกิดการถอนหายใจทั้งสิ้น เราได้กระทำให้สิ้นไปแล้ว เพราะฉะนั้น บั้นเอวของข้าพเจ้าจึงเต็มด้วยความแสนระทม ความเจ็บปวดฉวยข้าพเจ้าไว้ อย่างความเจ็บปวดที่หญิงกำลังคลอดบุตร ข้าพเจ้าจนใจเพราะสิ่งที่ได้ยิน ข้าพเจ้าท้อถอยเพราะสิ่งที่ได้เห็น จิตใจของข้าพเจ้าฟุ้งซ่านไป ความหวาดเสียวกระทำให้ข้าพเจ้าครั่นคร้าม แสงโพล้เพล้ซึ่งข้าพเจ้าหวัง กลับทำให้ข้าพเจ้าสั่นสะเทือน เขาเตรียมสำรับไว้ เขาปูพรม เขากิน เขาดื่ม เจ้านายทั้งหลายเอ๋ย จงลุกขึ้น ชโลมโล่ไว้ด้วยน้ำมัน เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า <<จงไป ตั้งยาม ให้เขาไปร้องประกาศสิ่งที่เขาเห็น เมื่อเขาเห็นคนขี่ม้า คือพลม้าเป็นคู่ๆ คนขี่ลา คนขี่อูฐ ให้เขาฟังอย่างพินิจพิเคราะห์ อย่างพินิจพิเคราะห์ทีเดียว>> แล้วผู้เห็นได้ร้องว่า <<ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ยืนอยู่บนหอคอย ตลอดไปในกลางวัน ข้าพระองค์ประจำอยู่ที่ตำแหน่งของข้าพระองค์ ตลอดหลายคืน และ ดูเถิด มีคนขี่มา คือพลม้าเป็นคู่ๆ>> และเขาตอบว่า <<บาบิโลนล่มแล้ว ล่มแล้ว บรรดารูปเคารพทั้งสิ้นแห่งพระของเขา พระองค์ทรงทำลายลงถึงพื้นดิน>> ท่านผู้ถูกนวดและผู้ถูกฝัดของข้าเอ๋ย ข้าได้ยินอะไรจากพระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าแห่งอิสราเอล ข้าพเจ้าก็ร้องประกาศแก่ท่านอย่างนั้น ครุวาทเกี่ยวกับดูมาห์ มีคนหนึ่งเรียกข้าพเจ้าจากเสอีร์ ว่า <<คนยามเอ๋ย ดึกเท่าไรแล้ว คนยามเอ๋ย ดึกเท่าไหร่แล้ว>> คนยามตอบว่า <<เช้ามาถึง กลางคืนมาด้วย ถ้าจะถาม ก็ถามเถิด จงกลับมาอีก>> ครุวาทเกี่ยวกับอาระเบีย โอ กระบวนพ่อค้าของคนเดดานเอ๋ย เจ้าจะพักอยู่ในดงทึบในอาระเบีย ชาวแผ่นดินเทมาเอ๋ย จงเอาน้ำมาให้คนกระหาย เอาขนมปังมาต้อนรับคนลี้ภัย เพราะเขาได้หนีจากกระบี่ จากกระบี่ที่ชักออก จากธนูที่โก่งอยู่ และจากสงครามที่กระชั้นเข้ามา เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า <<ศักดิ์ศรีทั้งสิ้นของเคดาร์จะถึงที่สุดภายในปีเดียวตามปีจ้างลูกจ้าง และนักธนูที่เหลืออยู่ของทแกล้วทหารแห่งชาวเคดาร์จะเหลือน้อย เพราะพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของอิสราเอล ได้ตรัสแล้ว>>
อิสยาห์ 21:1-17 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลนมีดังนี้ว่า ผู้รุกรานมาจากถิ่นกันดาร จากดินแดนน่าสะพรึงกลัว เหมือนพายุพัดกระหน่ำดินแดนภาคใต้ ข้าพเจ้าได้เห็นนิมิตอันน่ากลัว คือ ผู้ทรยศก่อการกบฏ โจรเข้าฉกชิง เอลามบุกโจมตี มีเดียเข้าล้อมเมือง เราจะยุติเสียงครวญครางทั้งปวงที่มันทำให้เกิดขึ้น ถึงตอนนี้ กายของข้าพเจ้าบิดเร่าด้วยความเจ็บปวด ความรวดร้าวจู่โจมข้าพเจ้าเหมือนความเจ็บปวดของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก ข้าพเจ้าโซซัดโซเซเพราะสิ่งที่ได้ยิน งงงันเพราะสิ่งที่ได้เห็น หัวใจของข้าพเจ้าเต้นระทึก ตกใจกลัวจนตัวสั่น ยามสนธยาที่ข้าพเจ้าใฝ่หากลับกลายเป็นความสยดสยอง พวกเขาตั้งโต๊ะ ยกพรมมาปู เขากินและดื่ม! นักรบทั้งหลาย ลุกขึ้นเถิด เอาน้ำมันทาโล่! องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงวางยามไว้คอยดูแล และให้เขารายงานสิ่งที่เห็น เมื่อเขาเห็นรถรบ ฝูงม้า คนขี่ลา หรือคนขี่อูฐเคลื่อนเข้ามา ให้เขาตื่นตัว และเพ่งดู” แล้วยามร้องบอกว่า “นายครับ ผมยืนเฝ้ายามที่หอคอยนี้ วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า ดูเถิด มีคนหนึ่งนั่งรถรบมา และมีม้ามาเป็นฝูง เขาตอบกลับมาว่า ‘บาบิโลนล่มแล้ว! เทวรูปทั้งหมดของบาบิโลน แตกกระจัดกระจายอยู่ที่พื้น!’ ” พี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าเอ๋ย ผู้ถูกบดขยี้ในลานนวดข้าว ข้าพเจ้าก็บอกท่านถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยิน จากพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จากพระเจ้าแห่งอิสราเอล พระดำรัสเกี่ยวกับดูมาห์มีดังนี้ว่า มีคนร้องเรียกข้าพเจ้าจากเสอีร์ว่า “คนยาม กี่โมงกี่ยามแล้ว? คนยาม กี่โมงกี่ยามแล้ว?” ยามตอบว่า “จะเช้าแล้ว แต่ก็จะมืดด้วย ถ้าจะถามก็ถามมาเถิด แล้วค่อยกลับมาถามใหม่” พระดำรัสเกี่ยวกับอาระเบียมีดังนี้ว่า เจ้าพวกกองคาราวานชาวเดดาน ผู้ตั้งค่ายในดงทึบแห่งอาระเบีย จงนำน้ำมาให้ผู้กระหาย ประชากรเทมาเอ๋ย และนำอาหารมาให้ผู้ลี้ภัยเถิด พวกเขาหนีจากดาบ ดาบที่ชักออกจากฝัก หนีจากคันธนูซึ่งโก่งอยู่ และจากสงครามอันดุเดือด องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ภายในหนึ่งปีตามปีของสัญญาว่าจ้างแรงงานนั้น ความโอ่อ่าตระการของเคดาร์จะสิ้นสุดลง นักธนูและนักรบของเคดาร์จะเหลืออยู่ไม่กี่คน” พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลได้ตรัสไว้
อิสยาห์ 21:1-17 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
คำพยากรณ์เกี่ยวกับถิ่นทุรกันดารของทะเล สิ่งที่มาจากถิ่นทุรกันดาร เป็นเช่นเดียวกับพายุหมุนที่พัดในเนเกบ พัดมาจากดินแดนที่น่าสะพรึงกลัว ภาพนิมิตที่ข้าพเจ้าทราบมานั้นรุนแรงยิ่งนัก “ผู้ทรยศก็หักหลัง และผู้ทำลายก็ทำให้พินาศ โอ เอลามเอ๋ย จงขึ้นไปเถิด โอ มีเดียเอ๋ย จงใช้กำลังล้อม เมืองนั้นได้ก่อให้เกิดเสียงอ่อนระอาใจ เราก็ทำให้สิ้นสุดลง” ข้าพเจ้าเจ็บปวดและเสียววาบทั่วทั้งกาย เป็นความเจ็บปวดรวดร้าวปานประหนึ่งหญิงเจ็บครรภ์ สิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยินทำให้ข้าพเจ้าหมดแรง สิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นทำให้ข้าพเจ้าสับสน ข้าพเจ้าขาดความมั่นใจ และตัวสั่นด้วยความกลัว ยามสนธยาที่ข้าพเจ้ารอคอยกลาย เป็นความหวาดหวั่นแก่ข้าพเจ้า พวกเขาตั้งสำรับ ปูเสื่อ พวกเขาดื่มกิน โอ ผู้นำทั้งหลาย ขัดโล่ด้วยน้ำมันเถิด พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ คือ “จงตั้งทหารยาม ให้เขาแจ้งว่าเขาเห็นอะไร เมื่อเขาเห็นพวกรถศึก ทหารม้ามาเป็นคู่ๆ มีคนขี่ลาและขี่อูฐมา ให้เขาตั้งใจฟัง จงฟังให้ดี” ทหารยามเห็นแล้วก็ส่งเสียงร้องว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้ายืนอยู่ที่หอคอยตลอดวัน และข้าพเจ้าประจำอยู่ที่ป้อมยามตลอดคืน ดูเถิด บรรดาคนขี่มาแล้ว ทหารม้ามาเป็นคู่ๆ” มีเสียงตอบว่า “บาบิโลน ถล่มลงแล้ว ถล่มลงแล้ว และรูปเคารพทั้งปวงซึ่งเป็นเทพเจ้าของเมือง แตกกระจายลงบนพื้น” โอ คนที่ถูกนวดและฝัดร่อนของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าประกาศสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยิน จากพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลแก่พวกท่าน คำพยากรณ์เกี่ยวกับดูมาห์ ผู้หนึ่งกำลังร้องเรียกจากเสอีร์ถึงข้าพเจ้าว่า “คนยาม ดึกแค่ไหนแล้ว คนยามเอ๋ย ดึกแค่ไหนแล้ว” คนยามพูดว่า “จะถึงเช้าแล้ว แต่ก็จะค่ำลงอีก ถ้าท่านจะถาม ก็ถามเถิด และจงกลับมาอีก” คำพยากรณ์เกี่ยวกับอาระเบีย โอ กองคาราวานชาวเดดานเอ๋ย พวกท่านจะพักแรมที่ดงไม้ในถิ่นทุรกันดาร นำน้ำมาให้คนกระหายน้ำ บรรดาผู้อยู่อาศัยของดินแดนเท-มา นำอาหารมาให้แก่ผู้ลี้ภัย เพราะพวกเขาได้หลบหนีจากคมดาบ จากดาบที่ชักออกและพร้อมจะฟาดฟัน จากธนูที่โก่ง และจากความกดดันของการต่อสู้ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “ภายใน 1 ปี ตามที่ผู้รับจ้างจะนับเวลา บารมีทั้งสิ้นของเคดาร์จะหมดลง บรรดานายธนูผู้กล้าหาญของพงศ์พันธุ์เคดาร์ที่รอดชีวิตจะมีเพียงไม่กี่คน เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลได้กล่าวดังนั้น”