อิสยาห์ 10:1-34
อิสยาห์ 10:1-34 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
วิบัติแก่บรรดาผู้ออกบทบัญญัติอันไม่เป็นธรรม วิบัติแก่ผู้ที่ออกกฎหมายกดขี่ข่มเหง เพื่อริดรอนสิทธิของผู้ยากไร้ และไม่ให้ความยุติธรรมแก่ประชากรผู้ถูกข่มเหงของเรา ทำให้หญิงม่ายตกเป็นเหยื่อของพวกเขา และลูกกำพร้าพ่อถูกปล้น พวกเจ้าจะทำอย่างไรในวันลงทัณฑ์ เมื่อภัยพิบัติมาจากแดนไกล? เจ้าจะหนีไปพึ่งใคร? เจ้าจะเอาทรัพย์สมบัติไปเก็บไว้ที่ไหน? จะไม่มีอะไรเหลือ นอกจากต้องไปคุดคู้อยู่ในหมู่เชลย หรือไม่ก็ล้มลงในหมู่คนที่ถูกฆ่าตาย ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่ “วิบัติแก่ชาวอัสซีเรีย ผู้เป็นไม้เรียวแห่งความโกรธของเรา ผู้ถือกระบองแห่งความกริ้วของเรา! เราส่งอัสซีเรียไปปราบชนชาติอธรรม ไปเล่นงานชนชาติที่ยั่วโทสะเรา ให้ไปปล้นและริบทรัพย์สิน และเหยียบย่ำเขาดั่งย่ำโคลนในถนน แต่เขาไม่ได้ตั้งใจเช่นนั้น ไม่ได้คิดตามนั้น เป้าหมายของเขาคือล้างผลาญ ทำลายชนชาติต่างๆ ให้ดับสูญ เขากล่าวว่า ‘แม่ทัพของเราล้วนแต่เป็นกษัตริย์ไม่ใช่หรือ? คาลโนไม่ได้เหมือนคารเคมิชหรอกหรือ? ฮามัทก็เหมือนอารปัดไม่ใช่หรือ? และสะมาเรียก็เหมือนดามัสกัสไม่ใช่หรือ? เช่นเดียวกับที่เรายึดบรรดาอาณาจักรที่เต็มไปด้วยรูปเคารพ อาณาจักรซึ่งมีรูปเคารพมากกว่าของเยรูซาเล็มและสะมาเรีย เราจะไม่จัดการกับเยรูซาเล็มและรูปเคารพต่างๆ เหมือนที่เราทำกับสะมาเรียและรูปเคารพของพวกเขาหรือ?’” เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงจัดการกับภูเขาศิโยนและเยรูซาเล็มเรียบร้อยแล้ว พระองค์จะตรัสว่า “เราจะลงโทษกษัตริย์อัสซีเรียเพราะใจที่เย่อหยิ่งอหังการและท่าทีที่ยโสโอหังของเขา เพราะเขาโอ้อวดว่า “ ‘เราทำการนี้ด้วยกำลังแห่งน้ำมือของเรา และด้วยสติปัญญาของเรา เพราะเรามีความเข้าใจ เรารื้อพรมแดนของประชาชาติต่างๆ ปล้นทรัพย์สมบัติของเขา เราปราบบรรดากษัตริย์ของพวกเขาเฉกเช่นผู้พิชิต มือของเราฉกชิงทรัพย์สมบัติของประชาชาติต่างๆ เหมือนคนเอื้อมไปเก็บรังนก เรารวบรวมประเทศทั้งปวง เหมือนคนเก็บไข่ที่ถูกทิ้งไว้ ไม่มีหน้าไหนกล้าขยับปีก หรือปริปากร้อง’ ” ขวานจะยกตนขึ้นข่มผู้ใช้มันหรือ? เลื่อยจะอวดเบ่งทับถมผู้เลื่อยหรือ? เฉกเช่นไม้ตะพดจะแกว่งใส่ผู้ใช้มันหรือ? หรือไม้กระบองกวัดแกว่งเข้าใส่ผู้ที่ถือมันหรือ? ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จะทรงส่งโรคระบาดมาล้างผลาญเหนือนักรบแข็งแกร่งของเขา จะมีไฟไหม้ลุกโชติช่วง ภายใต้ความจองหองพองขนของพวกเขา พระผู้เป็นแสงสว่างแห่งอิสราเอลจะกลายเป็นไฟ องค์บริสุทธิ์ของพวกเขาจะเป็นเปลวเพลิง ซึ่งเผาผลาญต้นหนามน้อยใหญ่ของเขา วอดสิ้นภายในวันเดียว ป่าอันมโหฬารและท้องทุ่งอันอุดมสมบูรณ์ของเขา จะถูกทำลายไปสิ้น เหมือนคนป่วยที่ชีวิตถูกกัดกร่อนไป ต้นไม้ในป่าของเขาจะเหลืออยู่น้อยนิด ขนาดเด็กก็ยังเขียนตัวเลขจำนวนนั้นได้ ในวันนั้นชนหยิบมือที่เหลือของอิสราเอล คือวงศ์วานของยาโคบซึ่งรอดชีวิต จะไม่พึ่งผู้นั้นซึ่งปราบพวกตนลง แต่จะพึ่งพิงพระยาห์เวห์องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลอย่างแท้จริง ชนหยิบมือที่เหลืออยู่จะกลับมา ชนหยิบมือที่เหลือของยาโคบจะกลับมาหาพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ โอ อิสราเอลเอ๋ย ถึงแม้ประชากรของเจ้าจะมากมายเหมือนทรายชายทะเล ก็จะมีคนเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นที่จะกลับมา หายนะครั้งนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว อย่างเหลือล้นและชอบธรรม องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์นี่แหละ จะใช้หายนะซึ่งกำหนดไว้แล้วลงทัณฑ์ดินแดนทั้งหมด ฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ประชากรของเราในศิโยนเอ๋ย อย่ากลัวชาวอัสซีเรีย ซึ่งเอาไม้เรียวเฆี่ยนเจ้า เอาไม้กระบองฟาดเจ้าเหมือนที่อียิปต์ได้ทำ โทสะของเราที่พลุ่งขึ้นต่อเจ้าจะยุติลงในไม่ช้านี้ และความโกรธของเราจะหันไปทำลายล้างพวกเขา” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะใช้แส้ฟาดพวกเขา เหมือนเมื่อทรงปราบชาวมีเดียนที่ศิลาแห่งโอเรบ จะทรงยกไม้เท้าขึ้นฟาดแม่น้ำทั้งหลาย เหมือนที่ทรงกระทำในอียิปต์ ในวันนั้นภาระที่พวกเขาวางไว้จะถูกยกออกจากบ่าของพวกเจ้า แอกของพวกเขาจะพ้นจากคอของพวกเจ้า แอกนั้นจะถูกหัก เพราะพวกเจ้าเติบโตขึ้นจนอ้วนพี พวกเขาเข้ามาทางเมืองอัยยาท ผ่านมิโกรนและสะสมเสบียงและอาวุธที่มิคมาช พวกเขาผ่านด่านมาและพูดกันว่า “เราจะตั้งค่ายพักแรมที่เกบา” รามาห์สะทกสะท้าน กิเบอาห์ของซาอูลเตลิดหนี ร้องออกมาเถิด ธิดาแห่งกัลลิมเอ๋ย! ไลชาห์เอ๋ย จงฟังเถิด! อานาโธทที่น่าสงสารเอ๋ย! มัดเมนาห์เตลิดหนี ชาวเกบิมหลบเข้าที่ซ่อน ในวันนี้พวกเขาจะหยุดอยู่ที่โนบ จะชูหมัดหราบนภูเขาของธิดาแห่งศิโยน ที่ภูเขาแห่งเยรูซาเล็ม ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จะทรงโค่นกิ่งทั้งหลายด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ ต้นไม้สูงตระหง่านจะถูกโค่น ต้นที่สูงผงาดถูกโค่นราบ พระองค์จะทรงใช้ขวานฟันป่าทึบ เลบานอนจะล้มลงต่อหน้าองค์ทรงฤทธิ์
อิสยาห์ 10:1-34 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เฮ้ย ไอ้พวกที่ออกกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ไอ้พวกที่เขียนกฎต่างๆที่กดขี่คนอื่น เพื่อไม่ให้คนยากจนได้รับความยุติธรรม เพื่อปล้นเอาสิทธิของคนจนที่เป็นคนของเรา เพื่อจะได้ไปปล้นพวกแม่ม่าย และเพื่อพวกเด็กกำพร้าจะได้เป็นเหยื่อของพวกแก พวกแกจะทำยังไงในวันลงโทษ ในวันที่ความหายนะมาจากที่ห่างไกล พวกแกจะวิ่งหนีไปให้ใครช่วย และจะเก็บทรัพย์สมบัติของพวกแกไว้ที่ไหน พวกแกจะทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากหมอบลงในหมู่นักโทษ หรือล้มลงในหมู่คนที่ถูกฆ่าฟัน ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา พระยาห์เวห์พูดว่า “เฮ้ย ไอ้พวกอัสซีเรีย ซึ่งเป็นไม้ที่เราใช้ตีเมื่อเราโกรธ ที่ถือไม้กระบองแห่งความโกรธแค้นของเราอยู่ในมือ เราได้ส่งอัสซีเรียไปต่อสู้กับชนชาติที่ไม่เคารพพระเจ้า และเราสั่งให้พวกเขาต่อสู้กับคนเหล่านั้นที่ทำให้เราโกรธ เพื่อจะริบเอาทรัพย์สมบัติของพวกนั้น และจะเหยียบย่ำพวกนั้นเหมือนโคลนตมบนถนนต่างๆ แต่อัสซีเรียไม่รู้หรอกว่าเรากำลังใช้พวกเขาอยู่ ในใจของพวกเขาไม่ได้คิดอย่างนั้น ในใจพวกเขาคิดแต่จะทำลายล้าง และกำจัดชนชาติจำนวนมากให้สิ้นซากไป เพราะอัสซีเรียพูดว่า ‘ผู้นำกองทัพของเราแต่ละคนก็มีอำนาจอย่างกับกษัตริย์ ไม่ใช่หรือ เมืองคาลโนกลายเป็นเหมือนเมืองคารเคมิชไปแล้วไม่ใช่หรือ เมืองฮามัทกลายเป็นเหมือนเมืองอารปัดไปแล้วไม่ใช่หรือ เมืองสะมาเรียกลายเป็นเหมือนเมืองดามัสกัสไปแล้วไม่ใช่หรือ มือของเราได้ยึดอาณาจักรทั้งหลายที่มีรูปเคารพครอบครองอยู่ และรูปเคารพเหล่านั้นยังมีฤทธิ์อำนาจมากกว่าพวกรูปเคารพของเยรูซาเล็มและสะมาเรียเสียอีก เราจะไม่จัดการกับเยรูซาเล็มและพวกรูปเคารพต่างๆของมัน เหมือนกับที่เราได้จัดการกับสะมาเรียและรูปเคารพต่างๆของมันหรือ’” เมื่อองค์เจ้าชีวิตได้จัดการกับภูเขาศิโยนและเยรูซาเล็มเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็จะลงโทษกษัตริย์ของอัสซีเรีย ที่คุยโวโอ้อวดและมีสายตาที่หยิ่งผยอง เพราะกษัตริย์ของอัสซีเรียพูดว่า “ข้าทำสิ่งนี้ได้ด้วยพละกำลังและสติปัญญาของข้าเอง เพราะข้ามีความเข้าใจ ข้าได้รื้อเขตแดนของชนชาติต่างๆออกไปและได้ปล้นเอาทรัพย์สมบัติของพวกเขามา ข้าเป็นเหมือนวัวตัวผู้ที่ได้ชนคนพวกนั้นที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ให้ล้มลง ข้าใช้มือของข้าเองหยิบฉวยเอาทรัพย์สมบัติของชนชาติอื่นๆมา เหมือนคนที่หยิบไข่จากรังนก และข้าก็รวบรวมประเทศทั้งหลายทั่วโลกมา เหมือนรวบรวมไข่ที่ถูกทิ้งแล้ว ไม่มีแม่นกมากระพือปีกหรืออ้าปากร้อง” แต่พระเจ้าตอบเขาไปว่า อ้าว ขวานจะอ้างว่าตัวมันเองยิ่งใหญ่กว่าคนที่ใช้มันฟันได้หรือ หรือเลื่อยจะอ้างว่ามันสำคัญกว่าคนที่ใช้มันเลื่อยได้หรือ หรือไม้พลองจะสามารถยกเจ้าของมันขึ้นมาได้หรือ หรือไม้ตะบองสามารถยกผู้นั้นที่ไม่ใช่ไม้ขึ้นมาได้หรือ ดังนั้น พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นผู้เป็นองค์เจ้าชีวิตจะส่งเชื้อโรคมาทำให้พวกทหารที่บึกบึนของอัสซีเรียซูบผอมไป พระองค์ก็จะก่อไฟเผาผลาญสิ่งทั้งหมดที่ทำให้อัสซีเรียยิ่งใหญ่ แสงสว่างของอิสราเอลจะกลายเป็นไฟ พระองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลจะเป็นเปลวเพลิง พระองค์จะเผาผลาญและทำลายต้นหนามและหญ้าคาทั้งหลายหมดในวันเดียว พระยาห์เวห์จะทำลายความสวยงามของผืนป่าและสวนของอัสซีเรียจนสิ้นซากไป และมันจะเป็นเหมือนกับคนป่วยที่ซูบผอมไป จะมีต้นไม้เหลืออยู่น้อยมาก แม้แต่เด็กก็นับมันได้ ในวันนั้น คนที่ยังคงเหลืออยู่ในอิสราเอล คือผู้ที่รอดชีวิตจากครอบครัวของยาโคบจะไม่พึ่งกษัตริย์อัสซีเรียที่เคยทุบตีพวกเขา แต่พวกเขาจะพึ่งพระยาห์เวห์อย่างแท้จริง องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล จะมีไม่กี่คนกลับมา คือไม่กี่คนจากครอบครัวของยาโคบที่หันกลับมาหาพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ คนอิสราเอลเอ๋ย ถึงแม้ว่าคนของเจ้าจะมีมากมายเหมือนกับทรายที่ชายหาด แต่จะมีเพียงไม่กี่คนในพวกนั้นที่กลับมา พระเจ้าได้ออกคำสั่งให้ทำลายชนชาตินี้ไปแล้ว การลงโทษอันยุติธรรมจะมาท่วมท้นเจ้า เพราะพระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้ออกคำสั่งให้ความพินาศเกิดขึ้นกับแผ่นดินนี้ทั้งหมด และพระองค์จะทำตามนั้น ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้พูดไว้ “คนของเราที่อาศัยอยู่ในศิโยนเอ๋ย ไม่ต้องไปกลัวอัสซีเรีย พวกมันอาจจะตีเจ้าด้วยไม้พลองและยกไม้ตะบองขึ้นตีเจ้าเหมือนกับที่คนอียิปต์เคยทำ แต่ในไม่ช้า ความโกรธของเราที่มีต่อเจ้าจะหมดลงและเราจะทำลายพวกมันด้วยความโกรธแค้นของเรา และพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นก็จะเอาแส้ไปหวดพวกมัน เหมือนกับตอนที่พระองค์ทุบตีชาวมีเดียนที่หินของโอเรบ ไม้เท้าของพระยาห์เวห์จะยื่นออกไปต่อต้านพวกมัน พระองค์จะยกมันขึ้นมาเหมือนกับที่พระองค์เคยทำในอียิปต์ ในวันนั้นภาระของอัสซีเรียจะถูกยกออกไปจากบ่าเจ้า และแอกของมันที่อยู่บนคอเจ้าก็จะถูกทำลายไป” กองทัพของผู้รุกรานได้บุกขึ้นมาถึงซากปรักหักพังที่อัยยาทแล้ว พวกเขาผ่านลานนวดข้าวที่มิโกรนมาแล้ว พวกเขาสะสมเสบียงไว้ที่มิคมาช พวกเขาได้ข้ามแม่น้ำตรงทางข้ามมาบาราห์แล้ว พวกเขาพูดว่า “พวกเราจะตั้งค่ายค้างคืนที่เกบา” เมืองรามาห์ก็กลัวจนตัวสั่น ผู้คนที่กิเบอาห์ของซาอูลก็วิ่งหนีไปหมดแล้ว นางสาวกัลลิม เอ๋ย ให้ร้องตะโกนออกมา ไลชาห์เอ๋ย ตั้งใจฟังให้ดี อานาโธทเอ๋ย ตอบเรามาสิ ชาวเมืองมัดเมนาห์กำลังวิ่งหนีกัน ชาวเมืองเกบิมวิ่งหาที่หลบภัย ในวันนี้เอง กองทัพผู้บุกรุกจะหยุดอยู่ที่โนบ พวกเขาจะชูกำปั้นขึ้นเตรียมรบกับภูเขาแห่งนางสาวศิโยน เตรียมเข้าประจัญบานกับเนินเขาของเยรูซาเล็ม ดูสิ พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น กำลังจะตัดกิ่งไม้ใหญ่ด้วยกำลังอันน่าสะพรึงกลัวของพระองค์ พวกต้นที่อยู่สูงลิบลิ่วนั้น ก็จะถูกโค่นลง และพวกผู้สูงส่งจะถูกทลายลง พระยาห์เวห์จะเอาขวานฟันป่าทึบลง และต้นไม้อันยิ่งใหญ่อลังการของเลบานอนก็จะถูกโค่นลง
อิสยาห์ 10:1-34 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่ออกกฎหมายอธรรม และแก่พวกที่เขียนกฎมาบีบบังคับ เพื่อผลักไสคนขัดสนไปจากความยุติธรรม และปล้นสิทธิของคนจนแห่งชนชาติของเรา เพื่อให้หญิงม่ายกลายเป็นของริบของพวกเขา และทำให้ลูกกำพร้าพ่อกลายเป็นเหยื่อ พวกท่านจะทำอย่างไรในวันลงโทษ? และในวันทำลายล้างซึ่งมาจากที่ไกล? ท่านทั้งหลายจะหนีไปพึ่งใคร? และพวกท่านจะเก็บทรัพย์สมบัติของท่านไว้ที่ไหน? ไม่มีอะไรเหลือนอกจากจะก้มตัวลงอยู่กับพวกนักโทษ หรือล้มลงในหมู่คนที่ถูกฆ่า ถึงกระนั้นก็ดี พระพิโรธของพระองค์ก็ยังไม่ได้หันกลับ และพระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่ วิบัติแก่อัสซีเรีย ผู้เป็นตะบองแห่งความกริ้วของเรา และไม้พลองในมือของพวกเขาเป็นความเกรี้ยวกราดของเรา เราใช้เขาไปสู้ประเทศชาติหนึ่งที่ทิ้งพระเจ้า เราบัญชาเขาให้ไปสู้ชนชาติที่เรากริ้ว ให้ไปเอาของริบและฉวยของปล้น และให้เหยียบย่ำลงเหมือนเหยียบเลนบนถนน แต่เขาไม่ได้ตั้งใจเช่นนั้น และจิตใจของเขาก็ไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะในใจของเขาคิดแต่จะทำลาย และทำลายประชาชาติไปไม่ใช่น้อย เพราะเขาพูดว่า “พวกผู้บัญชาการของข้าล้วนเป็นกษัตริย์ไม่ใช่หรือ? เมืองคาลโนก็เหมือนเมืองคารเคมิชไม่ใช่หรือ? เมืองฮามัทก็เหมือนเมืองอารปัดไม่ใช่หรือ? เมืองสะมาเรียก็เหมือนเมืองดามัสกัสไม่ใช่หรือ? เหมือนอย่างที่มือของข้ายื่นไปถึงบรรดาราชอาณาจักรของรูปเคารพ ซึ่งมีรูปเคารพแกะสลักใหญ่กว่าของเยรูซาเล็มและสะมาเรีย แล้วข้าจะไม่ทำกับเยรูซาเล็มและรูปเคารพของเขา อย่างที่ข้าได้ทำกับสะมาเรียและรูปเคารพของเขาหรือ? ” เมื่อองค์เจ้านายทำพระราชกิจทั้งหมดของพระองค์ที่ภูเขาศิโยนและที่เยรูซาเล็มเสร็จแล้ว พระองค์จะทรงลงโทษการโอ้อวดจากใจจองหองของพระราชาของอัสซีเรีย และการยกตัวด้วยสายตายโสของเขา เพราะเขาว่า “ข้าทำการนี้ด้วยกำลังมือของข้า และด้วยสติปัญญาของข้า เพราะข้ามีความเข้าใจ ข้าได้รื้อเขตแดนของชนชาติทั้งหลาย และได้ปล้นทรัพย์สมบัติของเขา ข้าเป็นเหมือนผู้ทรงพลังที่ได้ฉุดบรรดากษัตริย์ลงมา มือของข้าได้ฉวยทรัพย์สมบัติของชนชาติทั้งหลาย เหมือนฉวยรังนก และคนเก็บไข่นกที่ถูกทิ้งอย่างไร ข้าก็รวบรวมแผ่นดินโลกทั้งหมดอย่างนั้น ไม่มีใครขยับปีกมาปกป้อง หรืออ้าปากหรือร้องเสียงจ้อกแจ้ก” ขวานจะคุยข่มคนที่ใช้มันจามหรือ? หรือเลื่อยจะทะนงตัวเหนือผู้ที่ใช้มันเลื่อยหรือ? ราวกับว่าไม้ตะบองจะยกผู้ที่ถือมันได้? หรือไม้พลองจะยกผู้ที่ไม่ใช่ท่อนไม้ได้? ฉะนั้น องค์เจ้านาย พระยาห์เวห์จอมทัพ จะทรงให้โรคผอมแห้งมาในหมู่คนกำยำล่ำสันของเขา และจะมีการเผาไหม้ลุกโชนขึ้นใต้ศักดิ์ศรีของเขา เหมือนอย่างกับไฟไหม้ ความสว่างแห่งอิสราเอลจะเป็นไฟ และองค์บริสุทธิ์ของเขาจะเป็นเปลวเพลิง แล้วไฟจะเผาและทำลาย หนามใหญ่และหนามย่อยของเขาในวันเดียว พระองค์จะทรงทำลายศักดิ์ศรีของป่าและสวนผลไม้ของเขา รวมทั้งจิตใจและร่างกาย และจะเป็นเหมือนเมื่อคนป่วยซูบตายไป ต้นไม้ในป่าของเขาจะเหลือน้อยเต็มที จนเด็กนับจำนวนได้ ในวันนั้น คนอิสราเอลที่เหลืออยู่และคนรอดตายแห่งเชื้อสายของยาโคบ จะไม่พึ่งพิงผู้ตีเขาอีก แต่จะพึ่งพิงพระยาห์เวห์ องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลด้วยจริงใจ คนที่เหลืออยู่จะกลับมายังพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ คือคนที่เหลืออยู่ของยาโคบ อิสราเอลเอ๋ย เพราะแม้ว่าชนชาติของเจ้าจะเป็นดั่งทรายในทะเล คนที่เหลืออยู่เท่านั้นจะกลับมา การทำลายนั้นถูกกำหนดไว้แล้วด้วยความชอบธรรมอย่างล้นหลาม เพราะว่าพระยาห์เวห์องค์เจ้านายผู้ทรงเป็นจอมทัพจะทรงให้การทำลายอย่างหมดสิ้นเกิดขึ้นท่ามกลางแผ่นดินโลกทั้งหมด ตามที่กำหนดไว้ ฉะนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้านายผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนี้ว่า “ชนชาติของเราผู้อยู่ในศิโยนเอ๋ย อย่ากลัวคนอัสซีเรียผู้ตีพวกเจ้าด้วยตะบองและยกไม้พลองของเขาขึ้นสู้เจ้าเหมือนอย่างเมื่ออยู่ในอียิปต์ เพราะอีกไม่นานความกริ้วของเราจะสิ้นสุด และความโกรธของเราจะมุ่งสู่การทำลายพวกเขา” และพระยาห์เวห์จอมทัพจะทรงเหวี่ยงแส้มาสู้เขา เหมือนดังที่พระองค์ทรงโจมตีคนมีเดียน ณ ศิลาโอเรบ และไม้พลองของพระองค์ที่เคยอยู่เหนือทะเล พระองค์จะทรงยกขึ้นอย่างที่ทำในอียิปต์ และในวันนั้นภาระของเขาจะหลุดจากบ่าของท่านและแอกของเขาจากคอของท่าน และแอกก็ถูกทำลายเพราะความอ้วน เขามาถึงอัยยาทแล้ว เขาผ่านมิโกรนไปแล้ว เขาเก็บสัมภาระของเขาไว้ที่มิคมาช เขาทั้งหลายผ่านช่องหว่างเขามาแล้ว เกบาเป็นที่พักค้างคืนของเรา รามาห์สะทกสะท้าน กิเบอาห์ของซาอูลหนีไปแล้ว ธิดาของกัลลิมเอ๋ย จงส่งเสียงร้องซี ไลชาห์เอ๋ย ฟังซี อานาโธท ช่างน่าอนาถ มัดเมนาห์กำลังวิ่งหนี ชาวเมืองเกบิมรีบหลบภัย แต่ในวันนี้เองเขาจะหยุดอยู่ที่เมืองโนบ เขาจะสั่นกำปั้นของเขา เข้าใส่ภูเขาของธิดาศิโยน เข้าใส่เนินเขาแห่งเยรูซาเล็ม ดูสิ องค์เจ้านาย คือพระยาห์เวห์จอมทัพ จะทรงตัดกิ่งไม้ด้วยกำลังอันน่าคร้ามกลัว ต้นที่สูงยิ่งจะถูกโค่นลงมา และต้นที่สูงจะต้องถูกทลายลง พระองค์จะทรงใช้ขวานโค่นป่าทึบ และเลบานอนซึ่งมีต้นไม้สูงตระหง่านจะล้มลง
อิสยาห์ 10:1-34 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่ออกกฎหมายอธรรม และแก่ผู้เขียนที่เขียนแต่การบีบคั้นเรื่อยไป เพื่อหันคนขัดสนไปจากความยุติธรรม และปล้นสิทธิของคนจนแห่งชนชาติของเราเสีย เพื่อว่าหญิงม่ายจะเป็นเหยื่อของเขา และเพื่อเขาจะปล้นคนกำพร้าพ่อเสีย พวกเจ้าจะกระทำอย่างไรในวันแห่งการลงอาญา และในการกวาดล้างซึ่งจะมาจากที่ไกล เจ้าจะหนีไปพึ่งใคร และเจ้าจะฝากสง่าราศีของเจ้าไว้ที่ไหน ปราศจากเราพวกเขาจะกราบลงอยู่กับนักโทษ เขาจะล้มลงในหมู่พวกคนที่ถูกฆ่า ถึงกระนั้นก็ดีพระพิโรธของพระองค์ก็ยังมิได้หันกลับ และพระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่ โอ ชาวอัสซีเรียเอ๋ย ผู้เป็นตะบองแห่งความกริ้วของเรา และไม้พลองในมือของเขาคือความเกรี้ยวกราดของเรา เราจะใช้เขาไปสู้ประชาชาติอันหน้าซื่อใจคด เราจะบัญชาเขาให้ไปสู้ชนชาติที่เรากริ้ว ไปเอาของริบและฉวยเหยื่อและให้เหยียบย่ำลงเหมือนเหยียบเลนในถนน แต่เขามิได้ตั้งใจอย่างนั้น และจิตใจของเขาก็มิได้คิดอย่างนั้น แต่ในใจของเขาคิดจะทำลาย และตัดประชาชาติเสียมิใช่น้อย เพราะเขาพูดว่า “ผู้บังคับบัญชาของข้าเป็นกษัตริย์หมดมิใช่หรือ เมืองคาลโนก็เหมือนเมืองคารเคมิชมิใช่หรือ เมืองฮามัทก็เหมือนเมืองอารปัดมิใช่หรือ เมืองสะมาเรียก็เหมือนเมืองดามัสกัสมิใช่หรือ เหมือนอย่างมือของเราไปถึงบรรดาราชอาณาจักรของรูปเคารพ ซึ่งรูปเคารพแกะสลักของเขานั้นใหญ่กว่าของเยรูซาเล็มและสะมาเรีย เราก็จะไม่ทำแก่เยรูซาเล็มกับรูปเคารพของเขาดอกหรือ ดังที่เราได้ทำแก่สะมาเรียและรูปเคารพของเขา” ต่อมาเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำเร็จพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์ที่ภูเขาศิโยนและที่เยรูซาเล็มแล้ว เราจะทรงลงทัณฑ์แก่ผลแห่งจิตใจจองหองของกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย และสง่าราศีแห่งตายโสของเขา เพราะเขาว่า “ข้าได้กระทำการนี้ด้วยกำลังมือของข้า และด้วยสติปัญญาของข้า เพราะข้ามีความเข้าใจ ข้าได้รื้อเขตแดนของชนชาติทั้งหลาย และได้ปล้นทรัพย์สมบัติของเขา ข้าได้โยนบรรดาชาวเมืองลงมาอย่างคนกล้าหาญ มือของข้าได้ฉวยทรัพย์สมบัติของชนชาติทั้งหลายเหมือนฉวยรังนก และอย่างคนเก็บไข่ซึ่งละทิ้งไว้ ข้าก็รวบรวมแผ่นดินโลกทั้งสิ้นดังนั้นแหละ และไม่มีผู้ใดขยับปีกมาปก หรืออ้าปากหรือร้องเสียงจ๊อกแจ๊ก” ขวานจะคุยข่มคนที่ใช้มันสกัดนั้นหรือ หรือเลื่อยจะทะนงตัวเหนือผู้ที่ใช้มันเลื่อยนั้นหรือ เหมือนกับว่าตะบองจะยกผู้ซึ่งถือมันขึ้นตี หรืออย่างไม้พลองจะยกตัวขึ้นเหมือนกับว่ามันไม่ทำด้วยไม้ ฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาจะทรงให้โรคผอมแห้งมาในหมู่พวกคนอ้วนพีของเขา ภายใต้เกียรติของเขาจะมีการไหม้ใหญ่โตเหมือนอย่างไฟไหม้ ความสว่างแห่งอิสราเอลจะเป็นไฟ และองค์บริสุทธิ์ของท่านจะกลายเป็นเปลวเพลิง และจะเผาและกินหนามใหญ่และหนามย่อยของเขาเสียในวันเดียว พระองค์จะทรงผลาญสง่าราศีแห่งป่าของเขาและแห่งสวนผลไม้ของเขา ทั้งจิตวิญญาณและร่างกาย และจะเป็นเหมือนเวลาผู้ถือธงอ่อนเปลี้ยลงไป ต้นไม้แห่งป่าของเขาจะเหลือน้อยเต็มที จนเด็กๆจะเขียนลงได้ ต่อมาในวันนั้น คนอิสราเอลที่เหลืออยู่ และคนที่รอดหนีไปแห่งวงศ์วานของยาโคบ จะไม่พิงผู้ที่ตีเขาอีก แต่จะพักพิงที่พระเยโฮวาห์ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล โดยความจริง ส่วนคนที่เหลืออยู่จะกลับมายังพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ คือคนที่เหลืออยู่ของยาโคบ อิสราเอลเอ๋ย เพราะแม้ว่าชนชาติของเจ้าจะเป็นดั่งเม็ดทรายในทะเล คนที่เหลืออยู่เท่านั้นจะกลับมา การเผาผลาญซึ่งกำหนดไว้แล้วจะล้นหลามไปด้วยความชอบธรรม เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธาจะทรงกระทำให้การเผาผลาญนั้นสิ้นสุดลงตามที่กำหนดไว้แล้วในท่ามกลางแผ่นดินทั้งสิ้น ฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า “โอ ชนชาติของเราเอ๋ย ผู้อยู่ในศิโยน อย่ากลัวคนอัสซีเรีย เขาจะตีเจ้าด้วยตะบองและจะยกไม้พลองของเขาขึ้นสู้เจ้าอย่างที่ในอียิปต์ เพราะอีกสักหน่อยเท่านั้น แล้วความกริ้วนั้นจะสิ้นสุด และความโกรธของเราจะมุ่งตรงที่การทำลายเขา และพระเยโฮวาห์จอมโยธาจะทรงเหวี่ยงแส้มาสู้เขา ดังที่พระองค์ทรงโจมตีคนมีเดียน ณ ศิลาโอเรบ และไม้พลองของพระองค์ที่เคยอยู่เหนือทะเล พระองค์จะทรงยกขึ้นอย่างที่ในอียิปต์ และต่อมาในวันนั้นภาระของเขาจะพรากไปจากบ่าของเจ้า และแอกของเขาจะถูกทำลายเสียจากคอของเจ้า และแอกนั้นจะถูกทำลายเพราะเหตุการเจิม” เขาได้มาถึงอัยยาทแล้ว เขาได้ข้ามมิโกรน เขาเก็บสัมภาระของเขาไว้ที่มิคมาช เขาเหล่านั้นผ่านช่องหว่างเขามาแล้ว เกบาเป็นที่เขาค้างคืน รามาห์สะทกสะท้าน กิเบอาห์ของซาอูลหนีไปแล้ว โอ ธิดาของกัลลิมเอ๋ย ส่งเสียงร้องซี ให้เขายินได้ในไลชาห์เถิด โอ อานาโธทเอ๋ย น่าสงสารจริง มัดเมนาห์กำลังหนีอยู่ คนเกบิมหนีให้พ้นภัย ในวันนั้นเอง เขาจะยับยั้งอยู่ที่เมืองโนบ เขาจะส่ายมือของเขาต่อต้านภูเขาแห่งธิดาของศิโยน เนินเขาของเยรูซาเล็ม ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเยโฮวาห์จอมโยธา จะทรงตัดกิ่งไม้ด้วยกำลังอันน่าคร้ามกลัว ต้นที่สูงยิ่งจะถูกโค่นลงมา และต้นที่สูงจะต้องต่ำลง พระองค์จะทรงใช้ขวานเหล็กฟันป่าทึบ และเลบานอนจะล้มลงโดยคนมีอำนาจใหญ่โต
อิสยาห์ 10:1-34 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่ออกกฎหมายอธรรม และแก่ผู้เขียนที่เขียนแต่การบีบคั้นเรื่อยไป เพื่อหันคนขัดสนไปจากความยุติธรรม และปล้นสิทธิของคนจนแห่งชนชาติของเราเสีย เพื่อว่าหญิงม่ายจะเป็นของริบของเขา และเพื่อเขาจะกระทำให้คนกำพร้าพ่อเป็นเหยื่อของเขา พวกเจ้าจะกระทำอย่างไรในวันลงทัณฑ์ ในวันวาตภัยซึ่งมาจากที่ไกล เจ้าจะหนีไปพึ่งใคร และเจ้าจะฝากทรัพย์สมบัติของเจ้าไว้ที่ไหน ไม่มีอะไรเหลือนอกจากจะไปหลังขดหลังงออยู่กับนักโทษ หรือล้มลงในหมู่พวกคนที่ถูกฆ่า ถึงกระนั้นก็ดี พระพิโรธของพระองค์ก็ยังมิได้หันกลับ และพระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่ วิบัติแก่อัสซีเรีย ผู้เป็นตะบองแห่งความกริ้วของเรา และเป็นไม้พลองแห่งความเกรี้ยวกราดของเรา เราจะใช้เขาไปสู้ประชาชาติที่ปฏิเสธพระเจ้า เราจะบัญชาเขาให้ไปสู้ชนชาติที่เรากริ้ว ไปเอาของริบและฉวยของปล้น และให้เหยียบย่ำลงเหมือนเหยียบเลนในถนน แต่เขามิได้ตั้งใจอย่างนั้น และจิตใจของเขาก็มิได้คิดอย่างนั้น แต่ในใจของเขาคิดจะทำลาย และตัดประชาชาติเสียมิใช่เล็กน้อย เพราะเขาพูดว่า <<ผู้บังคับบัญชาของข้าเป็นพระราชาหมดมิใช่หรือ เมืองคาลโนก็เหมือนเมืองคารเคมิชมิใช่หรือ เมืองฮามัทก็เหมือนเมืองอารปัดมิใช่หรือ เมืองสะมาเรียก็เหมือนเมืองดามัสกัสมิใช่หรือ เหมือนอย่างมือของเราไปถึงบรรดาราชอาณาจักรของรูปเคารพ ซึ่งรูปเคารพแกะสลักของเขานั้นใหญ่กว่าของเยรูซาเล็มและสะมาเรีย เราก็จะไม่ทำแก่เยรูซาเล็มกับรูปเคารพของเขาดอกหรือ ดังที่เราได้ทำแก่สะมาเรียและรูปเคารพของเขา>> เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำเร็จพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์ที่ภูเขาศิโยนและที่เยรูซาเล็มแล้ว พระองค์จะทรงลงทัณฑ์แก่ความโอ้อวดอันจองหองของพระราชาแห่งอัสซีเรีย และความเย่อหยิ่งอย่างยโสของเขา เพราะเขาว่า <<ข้าได้กระทำการนี้ด้วยกำลังมือของข้า และด้วยสติปัญญาของข้าเพราะข้ามีความเข้าใจ ข้าได้รื้อเขตแดนของชนชาติทั้งหลาย และได้ปล้นทรัพย์สมบัติของเขา ข้าได้ขวิดคนเหล่านั้นที่นั่งบนพระที่นั่งลงมาเหมือนวัวผู้ มือของข้าได้ฉวยทรัพย์สมบัติของชนชาติทั้งหลาย เหมือนฉวยรังนก และอย่างคนเก็บไข่ซึ่งละทิ้งไว้ ข้าก็รวบรวมแผ่นดินโลกทั้งสิ้นดังนั้นแหละ และไม่มีผู้ใดขยับปีกมาปก หรืออ้าปากหรือร้องเสียงจ้อกแจ้ก>> เหล็กสะกัดจะคุยข่มคนที่ใช้มันสกัดนั้นหรือ หรือเลื่อยจะทะนงตัวเหนือผู้ที่ใช้มันเลื่อยนั้นหรือ เหมือนกับว่าตะบองจะยกผู้ซึ่งถือมันขึ้นตี หรืออย่างไม้พลองจะยกผู้ที่มิใช่ไม้ ฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธา จะทรงให้โรคผอมแห้งมาในหมู่พวกคนอ้วนพีของเขา ภายใต้เกียรติของเขาจะมีการไหม้ใหญ่โต เหมือนอย่างไฟไหม้ ความสว่างแห่งอิสราเอลจะเป็นไฟ และองค์บริสุทธิ์ของท่านจะกลายเป็นเปลวเพลิง และจะเผาและกินเสียในวันเดียว ซึ่งหนามใหญ่และหนามย่อยของเขา พระองค์จะทรงทำลาย ศักดิ์ศรีแห่งป่าของเขาและแห่งสวนผลไม้ของเขา ทั้งวิญญาณจิตและร่างกาย และจะเป็นเหมือนเวลาคนเจ็บซูบซีดลงไป ต้นไม้แห่งป่าของเขาจะเหลือน้อยเต็มที จนเด็กๆจะเขียนลงได้ ในวันนั้น คนอิสราเอลที่เหลืออยู่ และคนรอดตายแห่งเชื้อสายของยาโคบ จะไม่พิงผู้ที่ตีเขาอีก แต่จะพักพิงที่พระเจ้า องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล โดยความสัตย์จริง ส่วนคนที่เหลืออยู่จะกลับมายังพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ คือคนที่เหลืออยู่ของยาโคบ อิสราเอลเอ๋ย เพราะแม้ว่าชนชาติของเจ้าจะเป็นดั่งทรายในทะเล คนที่เหลืออยู่เท่านั้นจะกลับมา การทำลายนั้นกำหนดไว้แล้ว ล้นหลามไปด้วยความชอบธรรม เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธาจะทรงกระทำให้สิ้นสุดลงตามที่กำหนดไว้แล้วในท่ามกลางแผ่นดินโลกทั้งสิ้น ฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า <<ชนชาติของเราเอ๋ย ผู้อยู่ในศิโยน อย่ากลัวคนอัสซีเรีย เมื่อเขาตีด้วยตะบองและยกไม้พลองของเขาขึ้นสู้เจ้าอย่างที่ในอียิปต์ เพราะอีกสักหน่อยเท่านั้นความกริ้วของเจ้าจะสิ้นสุด และความโกรธของเราจะมุ่งตรงที่การทำลายเขา และพระเจ้าจอมโยธาจะทรงเหวี่ยงแส้มาสู้เขา ดังที่พระองค์ทรงโจมตีคนมีเดียน ณ ศิลาโอเรบ และไม้พลองของพระองค์ที่เคยอยู่เหนือทะเล พระองค์จะทรงยกขึ้นอย่างที่ในอียิปต์ และในวันนั้นภาระของเขาจะพรากไปจากบ่าของเจ้า และแอกของเขาจะถูกทำลายเสียจากคอของเจ้า>> เขาขึ้นไปจากสะมาเรียแล้ว เขาได้มาถึงอัยยาทแล้ว เขาได้ข้ามมิโกรน เขาเก็บสัมภาระของเขาไว้ที่มิคมาช เขาเหล่านั้นผ่านช่องหว่างเขามาแล้ว เกบาเป็นที่เขาค้างคืน รามาห์สะทกสะท้าน กิเบอาห์ของซาอูลหนีไปแล้ว ธิดาของกัลลิมเอ๋ย ส่งเสียงร้องซี ไลชาห์เอ๋ย ฟังซี อานาโธทเอ๋ย น่าสงสารจริง มัดเมนาห์กำลังหนีอยู่ คนเกบิมหนีให้พ้นภัย ในวันนี้เองเขาจะหยุดอยู่ที่เมืองโนบ เขาจะสั่นกำปั้นของเขา เข้าใส่ภูเขาแห่งธิดาของศิโยน เนินเขาของเยรูซาเล็ม ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธา จะทรงตัดกิ่งไม้ด้วยกำลังอันน่าคร้ามกลัว ต้นที่สูงยิ่งจะถูกโค่นลงมา และต้นที่สูงจะต้องถูกทลายลง พระองค์จะทรงใช้ขวานฟันป่าทึบ และเลบานอนซึ่งมีต้นไม้สูงตระหง่านจะล้มลง
อิสยาห์ 10:1-34 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
วิบัติแก่บรรดาผู้ออกบทบัญญัติอันไม่เป็นธรรม วิบัติแก่ผู้ที่ออกกฎหมายกดขี่ข่มเหง เพื่อริดรอนสิทธิของผู้ยากไร้ และไม่ให้ความยุติธรรมแก่ประชากรผู้ถูกข่มเหงของเรา ทำให้หญิงม่ายตกเป็นเหยื่อของพวกเขา และลูกกำพร้าพ่อถูกปล้น พวกเจ้าจะทำอย่างไรในวันลงทัณฑ์ เมื่อภัยพิบัติมาจากแดนไกล? เจ้าจะหนีไปพึ่งใคร? เจ้าจะเอาทรัพย์สมบัติไปเก็บไว้ที่ไหน? จะไม่มีอะไรเหลือ นอกจากต้องไปคุดคู้อยู่ในหมู่เชลย หรือไม่ก็ล้มลงในหมู่คนที่ถูกฆ่าตาย ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่ “วิบัติแก่ชาวอัสซีเรีย ผู้เป็นไม้เรียวแห่งความโกรธของเรา ผู้ถือกระบองแห่งความกริ้วของเรา! เราส่งอัสซีเรียไปปราบชนชาติอธรรม ไปเล่นงานชนชาติที่ยั่วโทสะเรา ให้ไปปล้นและริบทรัพย์สิน และเหยียบย่ำเขาดั่งย่ำโคลนในถนน แต่เขาไม่ได้ตั้งใจเช่นนั้น ไม่ได้คิดตามนั้น เป้าหมายของเขาคือล้างผลาญ ทำลายชนชาติต่างๆ ให้ดับสูญ เขากล่าวว่า ‘แม่ทัพของเราล้วนแต่เป็นกษัตริย์ไม่ใช่หรือ? คาลโนไม่ได้เหมือนคารเคมิชหรอกหรือ? ฮามัทก็เหมือนอารปัดไม่ใช่หรือ? และสะมาเรียก็เหมือนดามัสกัสไม่ใช่หรือ? เช่นเดียวกับที่เรายึดบรรดาอาณาจักรที่เต็มไปด้วยรูปเคารพ อาณาจักรซึ่งมีรูปเคารพมากกว่าของเยรูซาเล็มและสะมาเรีย เราจะไม่จัดการกับเยรูซาเล็มและรูปเคารพต่างๆ เหมือนที่เราทำกับสะมาเรียและรูปเคารพของพวกเขาหรือ?’” เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงจัดการกับภูเขาศิโยนและเยรูซาเล็มเรียบร้อยแล้ว พระองค์จะตรัสว่า “เราจะลงโทษกษัตริย์อัสซีเรียเพราะใจที่เย่อหยิ่งอหังการและท่าทีที่ยโสโอหังของเขา เพราะเขาโอ้อวดว่า “ ‘เราทำการนี้ด้วยกำลังแห่งน้ำมือของเรา และด้วยสติปัญญาของเรา เพราะเรามีความเข้าใจ เรารื้อพรมแดนของประชาชาติต่างๆ ปล้นทรัพย์สมบัติของเขา เราปราบบรรดากษัตริย์ของพวกเขาเฉกเช่นผู้พิชิต มือของเราฉกชิงทรัพย์สมบัติของประชาชาติต่างๆ เหมือนคนเอื้อมไปเก็บรังนก เรารวบรวมประเทศทั้งปวง เหมือนคนเก็บไข่ที่ถูกทิ้งไว้ ไม่มีหน้าไหนกล้าขยับปีก หรือปริปากร้อง’ ” ขวานจะยกตนขึ้นข่มผู้ใช้มันหรือ? เลื่อยจะอวดเบ่งทับถมผู้เลื่อยหรือ? เฉกเช่นไม้ตะพดจะแกว่งใส่ผู้ใช้มันหรือ? หรือไม้กระบองกวัดแกว่งเข้าใส่ผู้ที่ถือมันหรือ? ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จะทรงส่งโรคระบาดมาล้างผลาญเหนือนักรบแข็งแกร่งของเขา จะมีไฟไหม้ลุกโชติช่วง ภายใต้ความจองหองพองขนของพวกเขา พระผู้เป็นแสงสว่างแห่งอิสราเอลจะกลายเป็นไฟ องค์บริสุทธิ์ของพวกเขาจะเป็นเปลวเพลิง ซึ่งเผาผลาญต้นหนามน้อยใหญ่ของเขา วอดสิ้นภายในวันเดียว ป่าอันมโหฬารและท้องทุ่งอันอุดมสมบูรณ์ของเขา จะถูกทำลายไปสิ้น เหมือนคนป่วยที่ชีวิตถูกกัดกร่อนไป ต้นไม้ในป่าของเขาจะเหลืออยู่น้อยนิด ขนาดเด็กก็ยังเขียนตัวเลขจำนวนนั้นได้ ในวันนั้นชนหยิบมือที่เหลือของอิสราเอล คือวงศ์วานของยาโคบซึ่งรอดชีวิต จะไม่พึ่งผู้นั้นซึ่งปราบพวกตนลง แต่จะพึ่งพิงพระยาห์เวห์องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลอย่างแท้จริง ชนหยิบมือที่เหลืออยู่จะกลับมา ชนหยิบมือที่เหลือของยาโคบจะกลับมาหาพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ โอ อิสราเอลเอ๋ย ถึงแม้ประชากรของเจ้าจะมากมายเหมือนทรายชายทะเล ก็จะมีคนเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นที่จะกลับมา หายนะครั้งนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว อย่างเหลือล้นและชอบธรรม องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์นี่แหละ จะใช้หายนะซึ่งกำหนดไว้แล้วลงทัณฑ์ดินแดนทั้งหมด ฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ประชากรของเราในศิโยนเอ๋ย อย่ากลัวชาวอัสซีเรีย ซึ่งเอาไม้เรียวเฆี่ยนเจ้า เอาไม้กระบองฟาดเจ้าเหมือนที่อียิปต์ได้ทำ โทสะของเราที่พลุ่งขึ้นต่อเจ้าจะยุติลงในไม่ช้านี้ และความโกรธของเราจะหันไปทำลายล้างพวกเขา” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะใช้แส้ฟาดพวกเขา เหมือนเมื่อทรงปราบชาวมีเดียนที่ศิลาแห่งโอเรบ จะทรงยกไม้เท้าขึ้นฟาดแม่น้ำทั้งหลาย เหมือนที่ทรงกระทำในอียิปต์ ในวันนั้นภาระที่พวกเขาวางไว้จะถูกยกออกจากบ่าของพวกเจ้า แอกของพวกเขาจะพ้นจากคอของพวกเจ้า แอกนั้นจะถูกหัก เพราะพวกเจ้าเติบโตขึ้นจนอ้วนพี พวกเขาเข้ามาทางเมืองอัยยาท ผ่านมิโกรนและสะสมเสบียงและอาวุธที่มิคมาช พวกเขาผ่านด่านมาและพูดกันว่า “เราจะตั้งค่ายพักแรมที่เกบา” รามาห์สะทกสะท้าน กิเบอาห์ของซาอูลเตลิดหนี ร้องออกมาเถิด ธิดาแห่งกัลลิมเอ๋ย! ไลชาห์เอ๋ย จงฟังเถิด! อานาโธทที่น่าสงสารเอ๋ย! มัดเมนาห์เตลิดหนี ชาวเกบิมหลบเข้าที่ซ่อน ในวันนี้พวกเขาจะหยุดอยู่ที่โนบ จะชูหมัดหราบนภูเขาของธิดาแห่งศิโยน ที่ภูเขาแห่งเยรูซาเล็ม ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จะทรงโค่นกิ่งทั้งหลายด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ ต้นไม้สูงตระหง่านจะถูกโค่น ต้นที่สูงผงาดถูกโค่นราบ พระองค์จะทรงใช้ขวานฟันป่าทึบ เลบานอนจะล้มลงต่อหน้าองค์ทรงฤทธิ์
อิสยาห์ 10:1-34 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
วิบัติจงเกิดแก่บรรดาผู้ออกกฎหมายที่ไร้ความเป็นธรรม และแก่บรรดาผู้เขียนกฎเพื่อบีบบังคับ เพื่อไม่ให้ผู้ยากไร้ได้รับความยุติธรรม และเพื่อปล้นสิทธิของคนจนซึ่งเป็นชนชาติของเรา เอาหญิงม่ายมาเป็นเหยื่อ และปล้นเด็กกำพร้าพ่อ พวกท่านจะทำอย่างไรในวันแห่งการลงโทษ เมื่อคนจากแดนไกลทำให้ท่านต้องอยู่ในความหายนะ ท่านจะหนีไปพึ่งใคร และท่านจะเก็บทรัพย์สมบัติไว้ที่ไหน จะไม่มีอะไรเหลือนอกจากจะคู้ตัวอยู่กับพวกนักโทษ หรือล้มลงไปด้วยกับเหล่าคนที่ถูกฆ่า พระองค์ก็ยังไม่หายกริ้วกับเรื่องเหล่านี้ และมือของพระองค์จึงยังเหยียดออกไป “วิบัติแก่อัสซีเรีย ผู้เป็นไม้ตะบองแห่งความกริ้วของเรา ไม้เรียวในมือของพวกเขาเป็นความฉุนเฉียวของเราเอง เราส่งอัสซีเรียไปต่อสู้ประชาชาติที่ไร้พระเจ้า และเราบัญชาเขาให้ไปต่อสู้ชนชาติที่เรากริ้ว เพื่อริบและยึดของที่ปล้นมา และเหยียบย่ำพวกเขาอย่างย่ำเลนตมบนถนน แต่อัสซีเรียไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้น ใจของเขาไม่คิดเช่นนั้น แต่ใจของเขาต้องการทำลาย และห้ำหั่นประชาชาติจำนวนมาก เพราะเขาพูดว่า ‘บรรดาผู้นำของเราทั้งหมดเป็นกษัตริย์มิใช่หรือ เมืองคาลโนเหมือนเมืองคาร์เคมิชมิใช่หรือ เมืองฮามัทเหมือนเมืองอาร์ปัดมิใช่หรือ เมืองสะมาเรียเหมือนเมืองดามัสกัสมิใช่หรือ ตามที่มือของเราได้เอื้อมถึงบรรดาอาณาจักรของรูปเคารพทั้งปวง ซึ่งเป็นรูปสลักที่เชื่อกันว่ายิ่งใหญ่กว่ารูปเคารพของเยรูซาเล็มและสะมาเรีย แล้วเราจะไม่กระทำต่อเยรูซาเล็มและรูปเคารพในเมือง อย่างที่เราได้กระทำต่อสะมาเรียและรูปเคารพของเมืองนั้นหรือ’” เมื่อพระผู้เป็นเจ้ากระทำทุกสิ่งต่อภูเขาศิโยนและเยรูซาเล็มเสร็จสิ้นแล้ว พระองค์จะลงโทษคำพูดที่ออกจากใจอันยโสของกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย และสายตาที่โอ้อวดของเขา เพราะเขาพูดว่า “เรากระทำด้วยพลังจากมือของเราเอง และด้วยสติปัญญาของเรา เพราะเรามีความเข้าใจ เราลบเขตแดนของบรรดาชนชาติ และปล้นสมบัติของพวกเขา เราล่มบรรดาผู้ที่นั่งบนบัลลังก์ลงได้อย่างล้มกระทิง มือของเราเอื้อมถึงความมั่งมีของบรรดาชนชาติ ประหนึ่งมือที่เอื้อมถึงรังนก เรารวบดินแดนทั้งปวงได้ ประหนึ่งคนที่รวบเก็บไข่นกที่ถูกทอดทิ้ง ไม่มีสักตัวที่ขยับปีก หรือเปิดปากหรือร้องเจี๊ยบจ๊าบ” ขวานจะยกยอว่าตนเองเหนือกว่าผู้ที่ใช้มันหรือ เลื่อยจะยกยอตนเองว่าเลิศกว่าผู้ที่ใช้มันหรือ อย่างกับว่าไม้ตะบองจะบังคับผู้ที่ถือมัน และอย่างกับว่าไม้เท้าจะยกผู้ที่ไม่ได้เป็นไม้ ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาผู้ยิ่งใหญ่ จะให้บรรดานักรบฉกรรจ์เกิดโรคที่รักษาไม่หาย และจะจุดไต้ที่ใต้บารมีของเขา จนไฟลุกโพลง แสงสว่างของอิสราเอลจะเป็นดั่งไฟ และองค์ผู้บริสุทธิ์ของพระองค์เป็นดั่งเปลวไฟ ที่จะไหม้และเผาผลาญ ต้นหนามกับพุ่มไม้หนามในวันเดียว ความรุ่งโรจน์ที่เป็นของเขาในป่าไม้และแผ่นดินอันอุดมนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้จิตใจและร่างกายพินาศ จนอัสซีเรียจะเป็นเหมือนคนป่วยที่ซูบตายไป ต้นไม้ในป่าไม้ของเขาก็จะเหลือเพียงไม่กี่ต้น ซึ่งแม้แต่เด็กก็จะนับจำนวนต้นไม้ที่เหลือได้ ในวันนั้น คนอิสราเอลที่มีชีวิตเหลืออยู่และพงศ์พันธุ์ยาโคบที่มีชีวิตรอด จะไม่พึ่งพิงคนที่ฆ่าพวกเขาอีกต่อไป แต่จะพึ่งพิงพระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอลด้วยใจจริง คนที่มีชีวิตเหลืออยู่จะกลับมา คือคนของยาโคบที่มีชีวิตเหลืออยู่จะมายังพระเจ้าผู้มีอานุภาพ โอ อิสราเอลเอ๋ย ถึงแม้ว่าชนชาติของท่านมากมายราวกับเม็ดทรายในทะเล แต่จะมีผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้นที่จะกลับมา และความพินาศก็ถูกกำหนดไว้แล้ว ซึ่งเป็นไปด้วยความชอบธรรม เพราะพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาผู้ยิ่งใหญ่จะดำเนินการอย่างบริบูรณ์ตามที่กำหนดไว้ ในท่ามกลางแผ่นดินโลก ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ “โอ ชนชาติของเราที่อาศัยอยู่ในศิโยนเอ๋ย อย่ากลัวพวกอัสซีเรียเลย เมื่อพวกเขาห้ำหั่นด้วยไม้ตะบองและหยิบยกไม้เท้าคัดค้านเจ้า อย่างที่พวกอียิปต์กระทำ แต่อีกไม่นาน ความขัดเคืองของเราที่มีต่อเจ้าจะยุติลง และความกริ้วของเราจะกลับไปทำให้พวกเขาพินาศย่อยยับ และพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาจะบังคับพวกเขาด้วยแส้ เหมือนกับเวลาที่พระองค์ตีพวกมีเดียนให้พ่ายไปที่หินโอเรบ และไม้เท้าของพระองค์จะเหยียดออกไปเหนือทะเล และพระองค์จะยกมันขึ้นอย่างที่ได้กระทำต่ออียิปต์ และในวันนั้น ภาระของพวกเขาจะหลุดไปจากบ่าของเจ้า และแอกจะหลุดจากคอของเจ้า และแอกนั้นจะหักก็เพราะความอ้วน” เขามาถึงอัยยาทแล้ว และได้ผ่านเข้าไปในมิโกรน เก็บสัมภาระไว้ที่มิคมาช พวกเขาได้ข้ามทางที่เนินเขา และพักแรมที่เก-บา รามาห์สั่นสะท้าน กิเบอาห์ของซาอูลหนีไปแล้ว โอ ธิดาแห่งกัลลิมเอ๋ย ส่งเสียงร้องให้ดังเถิด โอ ไลชาห์เอ๋ย จงฟังให้ดีเถิด โอ อานาโธทที่น่าสังเวช มัดเมนาห์เตลิดหนีไป บรรดาผู้อยู่อาศัยของเกบิมหาที่หลบภัย ในวันนั้นเอง พวกเขาจะหยุดอยู่ที่เมืองโนบ เขาจะยกกำปั้นใส่ภูเขาของธิดาแห่งศิโยน เนินเขาแห่งเยรูซาเล็ม ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาผู้ยิ่งใหญ่ จะโค่นกิ่งด้วยอานุภาพอันน่าสะพรึงกลัว ต้นที่สูงมากจะถูกตัดลง และต้นที่สูงตระหง่านจะถูกทำให้เตี้ยลง พระองค์จะใช้ขวานจามพุ่มไม้ทึบในป่า และเลบานอนจะล้มลงต่อหน้าองค์ผู้มีอานุภาพ