ฮีบรู 6:1-9
ฮีบรู 6:1-9 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ถ้าอย่างนั้น ให้เรามุ่งหน้าต่อไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ อย่าได้วนเวียนอยู่อีกเลยกับคำสอนเบื้องต้นเกี่ยวกับพระคริสต์ อย่าให้เราต้องวางพื้นฐานกันใหม่อีกเลย คือเรื่องการกลับตัวกลับใจจากการกระทำที่นำไปสู่ความตาย และเรื่องการไว้วางใจพระเจ้า อย่าให้เราต้องสอนกันใหม่เลยในเรื่องพิธีจุ่มน้ำ เรื่องพิธีวางมือ เรื่องการฟื้นขึ้นจากความตาย และเรื่องการถูกตัดสินลงโทษถาวรตลอดไป ถ้าพระเจ้าอนุญาต เราก็จะมุ่งหน้าต่อไป บางคนเคยอยู่ในความสว่างของพระเจ้า เคยลิ้มรสของขวัญจากสวรรค์ เคยมีส่วนร่วมกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ เคยได้ลิ้มรสคำพูดที่ดีของพระเจ้า และฤทธิ์อำนาจของยุคที่กำลังจะมา แต่ก็ได้ทิ้งพระคริสต์ไป เป็นไปไม่ได้ที่จะนำคนอย่างนี้กลับมาหาพระเจ้าได้อีก เพราะพวกเขากำลังตรึงพระบุตรของพระเจ้าบนไม้กางเขนอีกครั้งหนึ่ง ทำให้พระองค์ต้องอับอายขายหน้าต่อหน้าทุกคน ผืนดินที่ดูดซึมน้ำฝนที่ตกลงมา แล้วเกิดพืชผลที่ให้ประโยชน์แก่ผู้ปลูก ก็จะได้รับพระพรจากพระเจ้า แต่ผืนดินที่เกิดต้นหนามใหญ่น้อย ก็ไร้ค่าและดีไม่ดีจะโดนสาปแช่ง ในที่สุดก็จะเอาไปเผาไฟเสีย เพื่อนที่รัก ถึงเราจะพูดอย่างนี้ เรายังมั่นใจว่าคุณจะเกิดผลดีและจะรอด
ฮีบรู 6:1-9 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
เพราะฉะนั้นขอให้เราผ่านหลักคำสอนเบื้องต้นเกี่ยวกับพระคริสต์ ไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ โดยไม่วางรากฐานซ้ำอีก คือเรื่องการกลับใจจากการประพฤติที่นำไปสู่ความตาย และเรื่องความเชื่อในพระเจ้า และคำสอนเรื่องพิธีล้างชำระต่างๆ การวางมือ การเป็นขึ้นจากความตาย และการลงโทษชั่วนิรันดร์ ถ้าพระเจ้าทรงอนุญาต เราก็จะได้เดินหน้าต่อไป เพราะว่าคนเหล่านั้นที่ได้รับความสว่างมาครั้งหนึ่งแล้ว และได้ลิ้มรสของประทานจากสวรรค์ ได้มีส่วนร่วมในพระวิญญาณบริสุทธิ์ และได้ลิ้มรสความดีงามแห่งพระวจนะของพระเจ้า และฤทธิ์เดชแห่งยุคที่จะมาถึงนั้น แล้วยังหลงไป ก็เหลือวิสัยที่จะนำพวกเขามาสู่การกลับใจอีกได้ เพราะพวกเขาเองได้ตรึงพระบุตรของพระเจ้าอีก และได้ประจานพระองค์ให้อับอายต่อสาธารณชน เพราะว่าพื้นดินที่ได้รับน้ำฝนอยู่เสมอ และทำให้เกิดพืชผักอันเป็นประโยชน์แก่คนที่เพาะปลูก ก็ได้รับพระพรจากพระเจ้า แต่ถ้าพื้นดินนั้นผลิตต้นหนามใหญ่และหนามย่อย มันก็ไร้ค่าจนเกือบจะถูกแช่งสาป แล้วในที่สุดก็จะถูกเผาไฟ แต่ท่านที่รักทั้งหลาย แม้พวกเราจะพูดอย่างนั้นเราก็เชื่อแน่ว่า ในกรณีของพวกท่านนั้นมีสิ่งที่ดีกว่า นั่นก็คือสิ่งที่เกี่ยวกับความรอด
ฮีบรู 6:1-9 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
เหตุฉะนั้นให้เราละประถมโอวาทของพระคริสต์ไว้ และให้เราก้าวหน้าไปถึงความบริบูรณ์ อย่าเอาสิ่งเหล่านี้มาวางเป็นรากอีกเลย คือการกลับใจเสียใหม่จากการกระทำที่ตายแล้ว และความเชื่อในพระเจ้า และคำสอนว่าด้วยพิธีบัพติศมา และการวางมือ และการเป็นขึ้นมาจากตาย และการพิพากษาลงโทษเป็นนิตย์นั้น ถ้าพระเจ้าจะทรงโปรดอนุญาต เราก็จะกระทำอย่างนี้ได้ เพราะว่าคนเหล่านั้นที่ได้รับความสว่างมาครั้งหนึ่งแล้ว และได้รู้รสของประทานจากสวรรค์ ได้มีส่วนในพระวิญญาณบริสุทธิ์ และได้ชิมความดีงามแห่งพระวจนะของพระเจ้า และฤทธิ์เดชแห่งยุคที่จะมานั้น ถ้าเขาเหล่านั้นจะหลงอยู่อย่างนี้ ก็เหลือวิสัยที่จะให้เขากลับใจเสียใหม่อีกได้ เพราะตัวเขาเองได้ตรึงพระบุตรของพระเจ้าเสียอีกแล้ว และได้ทำให้พระองค์ขายหน้าต่อธารกำนัล ด้วยว่าพื้นแผ่นดินที่ได้ดูดดื่มน้ำฝนที่ตกลงมาเนืองๆและงอกขึ้นมาเป็นต้นผักให้ประโยชน์แก่คนทั้งหลายที่ได้พรวนดินด้วยนั้น ก็รับพระพรมาจากพระเจ้า แต่ดินที่งอกหนามใหญ่และหนามย่อยก็ถูกทอดทิ้ง และเกือบจะถึงที่สาปแช่งแล้ว ซึ่งในที่สุดก็จะถูกเผาไฟเสีย แต่ดูก่อนพวกที่รัก แม้เราพูดอย่างนั้น เราก็เชื่อแน่ว่าท่านทั้งหลายคงจะได้สิ่งที่ดีกว่านั้น และสิ่งซึ่งเกี่ยวกับความรอด
ฮีบรู 6:1-9 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เหตุฉะนั้นขอให้เราผ่านหลักธรรมเบื้องต้นแห่งคริสตศาสนา ไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ไม่วางรากฐานซ้ำอีก คือเรื่องการกลับใจจากการประพฤติที่นำไปสู่ความตาย เรื่องความเชื่อในพระเจ้า และคำสอนว่าด้วยพิธีล้างชำระ และพิธีวางมือ และการเป็นขึ้นมาจากตาย และการพิพากษาลงโทษเป็นนิตย์นั้น ถ้าพระเจ้าจะทรงโปรดอนุญาต เราก็จะได้ก้าวหน้าไปอย่างนี้ เพราะว่าคนเหล่านั้นที่ได้รับความสว่างมาครั้งหนึ่งแล้ว และได้รู้รสของประทานจากสวรรค์ ได้มีส่วนในพระวิญญาณบริสุทธิ์ และได้ชิมความดีงามแห่งพระวจนะของพระเจ้า และฤทธิ์เดชแห่งยุคที่จะถึงนั้น ถ้าเขาเหล่านั้นได้ชิมแล้วหลงไป ก็เหลือวิสัยที่จะนำเขามาสู่การกลับใจอีกได้ เพราะตัวเขาเองได้ตรึงพระบุตรของพระเจ้าเสียแล้ว และทำให้พระองค์ทรงรับการดูหมิ่นเยาะเย้ย ด้วยว่าพื้นแผ่นดินแห่งใดที่ได้รับน้ำฝนอยู่เสมอ และเกิดมีพืชผักขึ้นให้ประโยชน์แก่คนทั้งหลาย ก็ได้รับพระพรจากพระเจ้า แต่ถ้าพื้นดินนั้นมีต้นหนามใหญ่และหนามย่อยเกิดขึ้น ก็ไร้ค่าจนเกือบจะถูกแช่งสาป แล้วในที่สุดก็จะถูกเผาไฟ แต่ดูก่อนท่านที่รัก แม้เราจะพูดอย่างนั้นเราก็เชื่อแน่ว่า กรณีของท่านนั้นมีสิ่งที่ดีกว่าที่ได้กล่าวมา นั่นก็คือสิ่งที่เกี่ยวกับความรอด
ฮีบรู 6:1-9 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
เพราะฉะนั้นให้เราผ่านหลักคำสอนเบื้องต้นเกี่ยวกับพระคริสต์และเดินหน้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ อย่าให้เราต้องวางพื้นฐานซ้ำอีกในเรื่องการกลับใจจากการกระทำอันนำไปสู่ความตายและเรื่องความเชื่อในพระเจ้า คำสอนเรื่องบัพติศมา เรื่องการวางมือ เรื่องการเป็นขึ้นจากตาย และเรื่องการพิพากษาลงโทษนิรันดร์ และถ้าพระเจ้าทรงอนุญาตเราก็จะเดินหน้าต่อไป สำหรับผู้ที่เคยเห็นแจ่มแจ้งมาแล้ว ผู้ที่เคยลิ้มรสของประทานจากสวรรค์ ผู้ที่เคยมีส่วนร่วมในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้ที่เคยลิ้มรสความเยี่ยมยอดของพระวจนะของพระเจ้าและอานุภาพของยุคหน้า หากยังเตลิดไปก็สุดวิสัยที่จะนำเขามาสู่การกลับใจได้อีก เพราะการหลงไปของเขาได้ตรึงพระบุตรของพระเจ้าบนไม้กางเขนซ้ำอีกครั้งและทำให้พระองค์อับอายต่อหน้าธารกำนัล ผืนแผ่นดินซึ่งได้รับฝนชุ่มฉ่ำเสมอและให้พืชผลอันเป็นประโยชน์แก่ผู้เพาะปลูกนั้นก็ได้รับพระพรจากพระเจ้า แต่ผืนแผ่นดินที่เกิดหนามเล็กหนามใหญ่ก็ไร้ค่าและตกอยู่ในอันตรายจากการถูกสาปแช่ง ในที่สุดก็จะถูกเผาทิ้ง เพื่อนที่รัก แม้เราจะพูดเช่นนี้ เราก็มั่นใจว่าในกรณีของท่านยังมีสิ่งที่ดีกว่า คือสิ่งต่างๆ ที่มาพร้อมกับความรอด
ฮีบรู 6:1-9 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ฉะนั้น ขอให้เราผ่านการสอนเบื้องต้นเกี่ยวกับพระคริสต์ และก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ โดยไม่ต้องวางรากฐานซ้ำอีก คือเลิกจากการกระทำที่ไร้ประโยชน์ และมีความเชื่อในพระเจ้า การสั่งสอนเรื่องบัพติศมาต่างๆ และการวางมือบนตัว การฟื้นคืนชีวิตจากความตาย และการพิพากษาโทษอันเป็นนิรันดร์ ถ้าหากพระเจ้าอนุญาต เราก็จะทำเช่นนั้น ในกรณีของบรรดาผู้ที่พระเจ้าเคยให้สัมผัสกับความสว่าง ได้ลิ้มรสของประทานจากสวรรค์ ได้มีส่วนร่วมกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ อีกทั้งได้ลิ้มรสคำกล่าวอันดีงามของพระเจ้า และอานุภาพแห่งยุคที่จะมาถึง ครั้นแล้วพวกเขาก็ละทิ้งความเชื่อไป เป็นไปไม่ได้ที่จะให้เขากลับใจอีก เพราะเหมือนกับว่าเขาตรึงพระบุตรของพระเจ้าที่ไม้กางเขนอีกครั้ง และประจานพระองค์ต่อสาธารณชน พระเจ้าให้พรแก่พื้นดินที่ได้รับน้ำจากฝนที่ตกอยู่บ่อยครั้ง และเกิดมีพืชพันธุ์เติบโต อันเป็นประโยชน์แก่คนที่จะได้รับผลจากไร่นา แต่ถ้าพื้นดินนั้นมีหนามและหญ้ารกเกิดขึ้น ที่ตรงนั้นก็ไร้ค่า เกือบจะเรียกได้ว่าถูกสาปแช่งแล้ว ในที่สุดก็จะถูกเผา ท่านที่รักทั้งหลาย แม้ว่าเราจะพูดอย่างนั้น เราเชื่อแน่ว่าในกรณีของท่านยังมีสิ่งที่ดีกว่า คือสิ่งที่มาคู่กับความรอดพ้น