ฮีบรู 11:17-31
ฮีบรู 11:17-31 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เป็นเพราะอับราฮัมไว้วางใจนี่เอง เมื่อพระเจ้ามาลองใจเขา เขาก็ได้ถวายอิสอัคลูกชายเพียงคนเดียวเป็นเครื่องบูชา เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พระเจ้าได้สัญญากับอับราฮัมว่า “ลูกหลานของเจ้าจะสืบเชื้อสายมาจากอิสอัค” อับราฮัมรับคำสัญญาแล้ว แต่ก็ยังพร้อมที่จะถวายลูกชายเพียงคนเดียว เพราะอับราฮัมถือว่าพระเจ้าสามารถทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้ อาจจะพูดได้ว่า เขาก็ได้รับอิสอัคกลับคืนมาจากความตาย เป็นเพราะอิสอัคไว้วางใจนี่เอง เขาถึงได้ให้พรกับทั้งยาโคบและเอซาว แก่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นเพราะยาโคบไว้วางใจนี่เอง เมื่อเขากำลังจะตาย เขาถึงได้ให้พรกับลูกทั้งสองคนของโยเซฟ และได้นมัสการพระเจ้าขณะที่พิงอยู่ที่ปลายไม้เท้าของเขา เป็นเพราะโยเซฟไว้วางใจนี่เอง ในบั้นปลายชีวิตเขาได้พูดถึงเรื่องที่ประชาชนอิสราเอลจะอพยพออกจากอียิปต์ และสั่งเสียให้เอากระดูกของเขาไปด้วย เป็นเพราะพ่อแม่ของโมเสสไว้วางใจนี่เอง เมื่อโมเสสเกิดมา พวกเขาถึงได้ซ่อนตัวเด็กไว้ถึงสามเดือน เพราะพ่อแม่เห็นว่าเขาเป็นเด็กที่มีหน้าตาโดดเด่น และพวกเขากล้าขัดคำสั่งของกษัตริย์ เป็นเพราะโมเสสไว้วางใจนี่เอง เมื่อเขาโตขึ้น เขาถึงได้ยอมสละฐานะลูกของลูกสาวฟาโรห์ เขาเลือกที่จะถูกกดขี่ข่มเหงร่วมกับประชาชนของพระเจ้า แทนที่จะมีความสนุกสนานชั่วคราวกับความบาป เขาถือว่าความอับอายขายหน้าเพื่อพระคริสต์ มีค่ามากกว่าทรัพย์สมบัติของประเทศอียิปต์ เพราะเขามองไปข้างหน้าถึงรางวัลที่จะได้รับ เป็นเพราะโมเสสไว้วางใจนี่เอง เขาถึงได้ออกจากประเทศอียิปต์โดยไม่เกรงกลัวความโกรธของฟาโรห์ เขามีใจมานะอดทนราวกับว่าเขาได้เห็นพระเจ้าผู้ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ เป็นเพราะโมเสสไว้วางใจนี่เอง เขาถึงได้จัดตั้งเทศกาลวันปลดปล่อย และสั่งให้ประพรมเลือดที่ประตู เพื่อไม่ให้ทูตแห่งความตายมาแตะต้องลูกชายหัวปีของประชาชนอิสราเอล เป็นเพราะคนอิสราเอลไว้วางใจนี่เอง พวกเขาถึงได้เดินข้ามทะเลแดงเหมือนกับเดินอยู่บนพื้นดินแห้ง แต่เมื่อพวกอียิปต์พยายามที่จะทำอย่างนั้นบ้าง พวกเขาก็จมน้ำตายหมด เป็นเพราะคนอิสราเอลไว้วางใจนี่เอง หลังจากที่พวกเขาเดินรอบกำแพงเมืองเยริโคเป็นเวลาเจ็ดวัน กำแพงนั้นก็พังลงมา เป็นเพราะราหับหญิงโสเภณีไว้วางใจนี่เอง เธอถึงไม่ถูกฆ่าตายไปพร้อมๆกับคนที่ไม่เชื่อฟังพวกนั้น เพราะเธอได้ต้อนรับและช่วยคนสอดแนมอย่างเป็นมิตร
ฮีบรู 11:17-31 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
โดยความเชื่อ เมื่ออับราฮัมถูกลองใจ จึงได้ถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา และท่านผู้ได้รับพระสัญญา ก็พร้อมแล้วที่จะถวายบุตรชายคนเดียวของท่าน คือบุตรคนที่มีพระดำรัสว่า “เขาจะเรียกเชื้อสายของท่านทางสายอิสอัค” ท่านเชื่อว่าพระเจ้าทรงสามารถทำให้คนตายเป็นขึ้นมาได้ ฉะนั้นโดยอุปมาแล้ว ท่านได้รับบุตรคืนมา โดยความเชื่อ อิสอัคจึงอวยพรยาโคบและเอซาว สำหรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า โดยความเชื่อ เมื่อยาโคบใกล้จะตาย จึงอวยพรบุตรแต่ละคนของโยเซฟ และ ได้นมัสการพระเจ้า ขณะยันกายบนหัวไม้เท้าของท่าน โดยความเชื่อ เมื่อโยเซฟกำลังจะตาย จึงกล่าวถึงการอพยพของคนอิสราเอล และสั่งเสียเรื่องกระดูกของท่าน โดยความเชื่อ เมื่อโมเสสเกิดมา บิดามารดาจึงซ่อนท่านไว้ถึงสามเดือน เพราะเห็นว่าท่านเป็นเด็กน่ารัก และบิดามารดาของท่านไม่ได้กลัวคำสั่งของกษัตริย์เลย โดยความเชื่อ เมื่อโมเสสโตแล้ว ท่านไม่ยอมให้ใครเรียกท่านว่า เป็นบุตรของธิดากษัตริย์ฟาโรห์ ท่านเลือกการร่วมทุกข์กับประชากรของพระเจ้าแทนการเริงสำราญชั่วคราวในบาป ท่านถือว่าความอับอายขายหน้าเพื่อพระคริสต์ล้ำค่ากว่าสมบัติทั้งหลายของอียิปต์ เพราะท่านเพ่งดูที่บำเหน็จที่จะได้รับนั้น โดยความเชื่อ ท่านจึงออกจากอียิปต์ โดยไม่ได้เกรงกลัวความกริ้วของกษัตริย์ ท่านสู้ทนประหนึ่งได้เห็นพระองค์ผู้ไม่ทรงปรากฏแก่ตา โดยความเชื่อ ท่านถือปัสกาและพิธีประพรมเลือด เพื่อไม่ให้ทูตมรณะมาแตะต้องบุตรหัวปีของคนอิสราเอล โดยความเชื่อ พวกอิสราเอลจึงเดินข้ามทะเลแดงเหมือนกับว่าเดินบนดินแห้ง แต่เมื่อพวกอียิปต์ลองเดินข้ามดูบ้างก็จมน้ำตายหมด โดยความเชื่อ กำแพงเมืองเยรีโคพังลง หลังจากคนอิสราเอลเดินรอบกำแพงครบเจ็ดวัน โดยความเชื่อ ราหับหญิงโสเภณีจึงไม่ได้พินาศไปพร้อมกับพวกที่ไม่เชื่อฟัง เพราะนางได้ต้อนรับคนสอดแนมเป็นอย่างดี
ฮีบรู 11:17-31 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
โดยความเชื่อ เมื่ออับราฮัมถูกลองใจก็ได้ถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา นี่แหละท่านผู้ได้รับพระสัญญาเหล่านั้นก็ได้ถวายบุตรชายคนเดียวของตนที่ได้ให้กำเนิดมา คือบุตรที่มีพระดำรัสไว้ว่า ‘เขาจะเรียกเชื้อสายของเจ้าทางสายอิสอัค’ ท่านเชื่อว่าพระเจ้าทรงฤทธิ์สามารถให้อิสอัคเป็นขึ้นมาจากความตายได้ และท่านได้รับบุตรนั้นกลับคืนมาอีก ประหนึ่งว่าบุตรนั้นเป็นขึ้นมาจากตาย โดยความเชื่อ อิสอัคได้อวยพรแก่ยาโคบและเอซาว คือเกี่ยวกับเหตุการณ์ซึ่งจะบังเกิดภายหน้านั้น โดยความเชื่อ ยาโคบเมื่อจะตายได้อวยพรแก่บุตรชายทั้งสองของโยเซฟ และได้นมัสการขณะที่ค้ำอยู่บนหัวไม้เท้าของท่าน โดยความเชื่อ โยเซฟเมื่อกำลังจะตายได้กล่าวถึงการที่ชนชาติอิสราเอลจะออกไป และได้มีคำสั่งไว้เรื่องกระดูกของท่าน โดยความเชื่อ เมื่อโมเสสบังเกิดมาแล้ว บิดามารดาได้ซ่อนท่านไว้ถึงสามเดือน เพราะเห็นว่าเป็นเด็กรูปงาม และไม่ได้กลัวคำสั่งของกษัตริย์นั้น โดยความเชื่อ ครั้นโมเสสวัฒนาโตขึ้นแล้ว ไม่ยอมให้เรียกว่าเป็นบุตรชายของธิดากษัตริย์ฟาโรห์ ท่านเลือกการร่วมทุกข์กับชนชาติของพระเจ้า แทนการเริงสำราญในความบาปสักเวลาหนึ่ง ท่านถือว่าความอัปยศของพระคริสต์ประเสริฐกว่าคลังทรัพย์ในประเทศอียิปต์ เพราะท่านหวังบำเหน็จที่จะได้รับนั้น โดยความเชื่อ ท่านได้ออกจากประเทศอียิปต์ โดยมิได้เกรงกลัวความกริ้วของกษัตริย์ เพราะท่านยอมทนอยู่เหมือนประหนึ่งได้เห็นพระองค์ผู้ไม่ทรงปรากฏแก่ตา โดยความเชื่อ ท่านได้ถือเทศกาลปัสกาและพิธีประพรมเลือด เพื่อมิให้องค์เพชฌฆาตผู้ประหารบุตรหัวปีมาถูกต้องพวกอิสราเอลได้ โดยความเชื่อ พวกอิสราเอลได้ข้ามทะเลแดงเหมือนกับว่าเดินบนดินแห้ง แต่เมื่อพวกอียิปต์ได้ลองเดินข้ามดูบ้าง ก็จมน้ำตายหมด โดยความเชื่อ เมื่อพวกอิสราเอลล้อมกำแพงเมืองเยรีโคไว้ถึงเจ็ดวันแล้ว กำแพงเมืองก็พังลง โดยความเชื่อ ราหับหญิงแพศยาจึงมิได้พินาศไปพร้อมกับคนเหล่านั้นที่มิได้เชื่อ เมื่อนางได้ต้อนรับคนสอดแนมนั้นไว้อย่างสันติ
ฮีบรู 11:17-31 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เพราะอับราฮัมมีความเชื่อ ฉะนั้นเมื่อท่านถูกลองใจ ท่านจึงได้ถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา และท่านซึ่งเป็นผู้ได้รับพระสัญญา ก็ได้พร้อมแล้วที่จะถวายบุตรคนเดียวของท่าน คือบุตรที่มีพระดำรัสไว้ว่า เขาจะสืบเชื้อสายของเจ้าทางอิสอัค ท่านเชื่อว่าพระเจ้าทรงฤทธิ์สามารถชุบคนตายให้ฟื้นได้ ฉะนั้นกล่าวโดยอุปมาได้ว่าท่านได้รับบุตรกลับคืนมา เพราะอิสอัคมีความเชื่อ จึงได้ขอพรให้แก่ยาโคบและเอซาว สำหรับเหตุการณ์ซึ่งจะเกิดขึ้นในภายหน้า เพราะยาโคบมีความเชื่อ ฉะนั้นเมื่อจะตายจึงได้อวยพรแก่บุตรทั้งสองของโยเซฟ และ ได้นมัสการพระเจ้า เหนือหัวไม้เท้าของท่าน เพราะโยเซฟมีความเชื่อเมื่อกำลังจะตาย จึงได้กล่าวถึงการอพยพของชาวอิสราเอล และสั่งเรื่องกระดูกของท่าน เพราะความเชื่อ ฉะนั้นเมื่อโมเสสเกิดมา บิดามารดาจึงได้ซ่อนท่านไว้ถึงสามเดือน เพราะเห็นว่าท่านเป็นเด็กรูปงาม และบิดามารดาของท่านไม่ได้กลัวคำสั่งของกษัตริย์เลย เพราะความเชื่อ เมื่อโมเสสโตแล้วท่านไม่ยอมให้ใครเรียกท่านว่า เป็นบุตรของธิดากษัตริย์ฟาโรห์ ท่านเลือกการร่วมทุกข์กับชนชาติของพระเจ้าแทนการเริงสำราญในความชั่ว ท่านถือว่าการอดทนต่อความอัปยศเพื่อพระคริสต์ ประเสริฐกว่าสมบัติของประเทศอียิปต์ เพราะท่านหวังบำเหน็จที่จะได้รับนั้น เพราะความเชื่อ ท่านได้ออกจากประเทศอียิปต์ โดยมิได้เกรงกลัวความกริ้วของกษัตริย์ เพราะท่านมั่นใจประหนึ่งได้เห็นพระองค์ผู้ไม่ทรงปรากฏแก่ตา เพราะความเชื่อ ท่านได้ถือเทศกาลปัสกาและพิธีประพรมเลือด เพื่อไม่ให้องค์เพชฌฆาตผู้ประหารบุตรหัวปีมาถูกต้องพวกอิสราเอลได้ เพราะความเชื่อ พวกอิสราเอลจึงเดินข้ามทะเลแดงเหมือนกับว่าเดินบนดินแห้ง แต่เมื่อพวกอียิปต์ได้ลองเดินข้ามดูบ้างก็จมน้ำตายหมด เพราะความเชื่อ เมื่อพวกอิสราเอลล้อมกำแพงเมืองเยรีโคไว้ถึงเจ็ดวันแล้วกำแพงเมืองก็พังลง เพราะความเชื่อ ราหับหญิงแพศยาจึงมิได้พินาศไปพร้อมกับคนเหล่านั้นที่มิได้เชื่อ เพราะนางได้ต้อนรับคนสอดแนมเป็นอย่างดี
ฮีบรู 11:17-31 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
โดยความเชื่อเมื่อพระเจ้าทรงทดสอบอับราฮัม เขาก็ถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา เขาผู้ได้รับพระสัญญาพร้อมที่จะถวายบุตรชายเพียงคนเดียวของตน แม้พระเจ้าได้ตรัสกับเขาว่า “วงศ์วาน ของเจ้าจะนับทางสายอิสอัค” อับราฮัมเชื่อว่าพระเจ้าทรงสามารถให้คนตายกลับเป็นขึ้นมาได้ กล่าวเปรียบเทียบได้ว่าเขาได้อิสอัคคืนมาจากความตาย โดยความเชื่ออิสอัคอวยพรให้ยาโคบกับเอซาวสำหรับอนาคตของพวกเขา โดยความเชื่อเมื่อยาโคบกำลังจะตายจึงอวยพรบุตรแต่ละคนของโยเซฟ และนมัสการขณะยันกายบนหัวไม้เท้าของเขา โดยความเชื่อเมื่อใกล้ตายโยเซฟจึงกล่าวถึงการอพยพออกจากอียิปต์ของชนอิสราเอล และสั่งความเรื่องกระดูกของเขา โดยความเชื่อบิดามารดาของโมเสสซ่อนเขาไว้ถึงสามเดือนหลังจากคลอด เนื่องจากเห็นว่าเขาแตกต่างจากเด็กอื่นทั่วไป และทั้งสองไม่กลัวคำสั่งของกษัตริย์เลย โดยความเชื่อเมื่อโมเสสเติบโตขึ้นก็ปฏิเสธฐานะบุตรของธิดาฟาโรห์ เขาเลือกที่จะถูกข่มเหงร่วมกับเหล่าประชากรของพระเจ้าแทนการเริงสำราญเพียงชั่วคราวในบาป เขาถือว่าการยอมเสื่อมเสียเพื่อพระคริสต์ยังล้ำค่ายิ่งกว่าทรัพย์สมบัติทั้งหลายของอียิปต์ เพราะเขามองไปข้างหน้าถึงบำเหน็จของเขา โดยความเชื่อเขาออกจากอียิปต์โดยไม่กลัวพระพิโรธของกษัตริย์ เขาอดทนบากบั่นเพราะเขาได้เห็นพระเจ้าผู้ซึ่งไม่อาจมองเห็นได้ โดยความเชื่อเขาถือปัสกาและการประพรมเลือด เพื่อเพชฌฆาตผู้ประหารบุตรหัวปีจะไม่มาแตะต้องลูกหัวปีของอิสราเอล โดยความเชื่อเหล่าประชากรข้ามทะเลแดงราวกับเดินบนพื้นแห้ง แต่เมื่อชาวอียิปต์พยายามจะข้ามบ้าง พวกเขาก็จมน้ำตาย โดยความเชื่อกำแพงเมืองเยรีโคจึงพังลงหลังจากเหล่าประชากรเดินรอบกำแพงเป็นเวลาเจ็ดวัน โดยความเชื่อราหับหญิงโสเภณีจึงไม่ถูกฆ่าไปพร้อมกับบรรดาผู้ไม่เชื่อฟัง เพราะนางได้ต้อนรับlสายสืบ
ฮีบรู 11:17-31 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
เป็นเพราะความเชื่อ อับราฮัมจึงได้มอบอิสอัคเป็นเครื่องสักการะเมื่อพระเจ้าทดสอบท่าน และท่านซึ่งได้รับพระสัญญาก็เกือบจะมอบบุตรคนเดียวของท่านเป็นเครื่องสักการะแล้ว แม้พระเจ้าได้กล่าวกับท่านดังนี้แล้วว่า “เจ้าจะมีบรรดาผู้สืบเชื้อสายโดยผ่านทางอิสอัค” อับราฮัมเชื่อว่าพระเจ้าสามารถให้คนฟื้นคืนชีวิตจากความตาย ฉะนั้นกล่าวโดยอุปมาได้ว่า ท่านได้รับบุตรกลับคืนจากความตาย เป็นเพราะความเชื่อ อิสอัคจึงได้ให้พรแก่ยาโคบและเอซาวสำหรับอนาคตของท่านทั้งสอง เป็นเพราะความเชื่อ ขณะที่ยาโคบกำลังจะตาย ท่านก็ได้ให้พรแก่บุตรทั้งสองของโยเซฟ แล้วได้พิงอยู่กับปลายไม้เท้าของตนขณะที่นมัสการพระเจ้า เป็นเพราะความเชื่อ โยเซฟจึงได้พูดถึงการอพยพของชาวอิสราเอลออกจากประเทศอียิปต์ และสั่งเรื่องกระดูกของท่านเมื่อท่านกำลังจะตาย เป็นเพราะความเชื่อ บิดามารดาของโมเสสจึงได้ซ่อนตัวท่านไว้เป็นเวลา 3 เดือนนับตั้งแต่เกิด เพราะทั้งสองเห็นว่าท่านไม่ใช่เด็กธรรมดาและไม่กลัวคำบัญชาของกษัตริย์เลย เป็นเพราะความเชื่อ โมเสสจึงได้ไม่ยอมให้ผู้คนเรียกท่าน ว่าเป็นบุตรของธิดากษัตริย์ฟาโรห์เมื่อท่านเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ท่านเลือกการทนทุกข์ร่วมกับคนของพระเจ้า มากกว่าการเพลิดเพลินกับความสำราญในบาปเพียงชั่วระยะหนึ่ง ท่านพิจารณาเห็นว่า การที่ถูกเหยียดหยามเพื่อพระคริสต์ มีค่ายิ่งกว่าสมบัติทั้งปวงของประเทศอียิปต์ เพราะท่านคาดหวังในรางวัลที่จะได้รับ เป็นเพราะความเชื่อ ท่านจึงได้จากประเทศอียิปต์ไป โดยไม่กลัวความโกรธของกษัตริย์ ท่านบากบั่นต่อไปราวกับว่าท่านเห็นองค์ผู้ที่ไม่ปรากฏแก่สายตา เป็นเพราะความเชื่อ ท่านจึงได้ทำพิธีปัสกา และสั่งให้ประพรมเลือดด้วย เพื่อผู้ที่ทำลายบุตรหัวปีจะได้ไม่แตะต้องบุตรหัวปีของชาวอิสราเอล เป็นเพราะความเชื่อ ชาวอิสราเอลจึงได้เดินข้ามทะเลแดงเหมือนเดินบนดินแห้ง และเมื่อชาวอียิปต์ลองทำบ้างก็จมน้ำตาย เป็นเพราะความเชื่อ กำแพงเมืองเยรีโคจึงพังทลายลงหลังจากชาวอิสราเอลเดินรอบๆ เป็นเวลา 7 วัน เป็นเพราะความเชื่อ ราหับหญิงแพศยาจึงไม่ตายไปกับพวกที่ไม่เชื่อฟัง เพราะนางได้ต้อนรับพวกสอดแนมด้วยความเป็นมิตร