ฮักกัย 2:13-23
ฮักกัย 2:13-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แล้วฮักกัยก็พูดว่า “ถ้ามีคนหนึ่งที่ไม่บริสุทธิ์เพราะไปแตะต้องศพมา แล้วมาแตะต้องถูกของพวกนี้อย่างหนึ่งอย่างใด มันจะกลายเป็นของไม่บริสุทธิ์หรือเปล่า” และพวกนักบวชก็ตอบว่า “ใช่แล้ว มันจะกลายเป็นของไม่บริสุทธิ์” แล้วฮักกัยพูดว่า “พระยาห์เวห์พูดว่ามันเป็นอย่างนั้นเหมือนกันกับคนพวกนี้คือชนชาตินี้ เพราะคนพวกนี้ไม่บริสุทธิ์ต่อหน้าเรา ดังนั้นทุกอย่างที่พวกเขาลงมือเพาะปลูก และทุกสิ่งที่พวกเขาเอามาที่วิหารนี้ ก็จะไม่บริสุทธิ์ไปด้วย” “ต่อจากนี้ไป ให้คิดถึงเรื่องนี้ดูให้ดี คือ ให้คิดถึงช่วงเวลานั้นก่อนที่เจ้าจะเริ่มสร้างวิหารของพระยาห์เวห์ขึ้นมาใหม่ ตอนนั้นเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง บางคนมาที่กองข้าว คาดหวังว่าจะได้ข้าวสักยี่สิบถัง แต่กลับได้แค่สิบถัง บางคนมาที่บ่อเก็บเหล้าองุ่น กะจะเทได้ห้าสิบไห กลับเทได้แค่ยี่สิบไห เราทำร้ายพวกเจ้า และทุกอย่างที่เจ้าลงมือเพาะปลูก ด้วยโรคใบไหม้ ด้วยเชื้อราของพืช และด้วยลูกเห็บ แต่พวกเจ้าก็ไม่ยอมหันกลับมาหาเรา” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “นับจากวันนี้ไปให้คิดถึงเรื่องนี้ดูให้ดี นับตั้งแต่วันที่ยี่สิบสี่เดือนเก้า ตั้งแต่วันที่ได้วางฐานรากสำหรับวิหารของพระยาห์เวห์เสร็จ คิดดูให้ดีว่า มีเมล็ดพืชเหลืออยู่ในยุ้งอีกหรือ ไม่เหลือแล้ว เอาไปหว่านจนหมดแล้ว ดูต้นองุ่น หรือต้นมะเดื่อ หรือต้นทับทิม หรือต้นมะกอกสิ พวกมันยังไม่ออกผลอีกหรือ ไม่เลย มันกำลังออกผลอยู่ ต่อจากนี้ไป เราจะอวยพรเจ้าให้มีผลผลิตที่ดี” พระยาห์เวห์พูดกับฮักกัยอีกเป็นครั้งที่สอง ในวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนนั้นว่า “ให้บอกกับเศรุบบาเบล เจ้าเมืองยูดาห์ว่าเรากำลังจะสั่นสะเทือนท้องฟ้าและแผ่นดินโลก เราจะพลิกคว่ำบัลลังก์ของอาณาจักรต่างๆและเราจะทำลายอำนาจของอาณาจักรทั้งหลายของคนต่างชาติ เราจะพลิกคว่ำรถม้าและคนขับพวกมัน และพวกม้าและคนขี่ก็จะล้มตายลงด้วยคมดาบของพวกพี่น้องเขา ในวันนั้น พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า เราจะแต่งตั้งเจ้า เศรุบบาเบล ผู้รับใช้เรา ลูกชายของเชอัลทิเอล ให้มีอำนาจเหมือนแหวนตราประจำตำแหน่ง เพราะเราเลือกเจ้าแล้ว” พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่าอย่างนั้น
ฮักกัย 2:13-23 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
แล้วฮักกัยจึงถามอีกว่า “ถ้าคนไหนที่เป็นมลทินเพราะไปแตะต้องศพ แล้วมาแตะต้องสิ่งเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นมลทินไปด้วยหรือไม่?” บรรดาปุโรหิตตอบว่า “เป็นมลทินด้วย” ฮักกัยจึงตอบว่า “พระยาห์เวห์ตรัสว่า ในสายตาของเรา ประชาชนพวกนี้ก็เป็นอย่างนั้น ชนชาตินี้ก็เป็นอย่างนั้น และผลงานทุกอย่างที่มือของพวกเขาทำก็เป็นอย่างนั้น และสิ่งที่พวกเขาถวายบูชาที่นั่น ก็เป็นมลทิน แต่บัดนี้ ให้พิจารณาดูตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่อนที่ศิลาก้อนหนึ่งจะวางซ้อนบนศิลาอีกก้อนหนึ่งในพระวิหารของพระยาห์เวห์ พวกเจ้าเป็นอย่างไร? เมื่อใครมายังกองข้าวคิดว่าจะตวงได้ 200 กิโลกรัม แต่ก็ได้เพียง 100 กิโลกรัม เมื่อใครมายังบ่อเก็บน้ำองุ่นคิดว่าจะตักได้ 100 ลิตร แต่ก็ได้เพียง 40 ลิตร พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราได้โจมตีพวกเจ้าและผลงานทุกอย่างที่มือของพวกเจ้าทำด้วยการทำให้ข้าวม้านและขึ้นรา และด้วยลูกเห็บ แต่เจ้าทั้งหลายไม่มาหาเรา บัดนี้ จงพิจารณาดู ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คือวันที่ 24 เดือนที่ 9 คือตั้งแต่วันที่วางรากฐานพระวิหารของพระยาห์เวห์ จงพิจารณาดูเถิด ยังมีเมล็ดข้าวตกค้างอยู่ในยุ้งฉางหรือ? เถาองุ่น ต้นมะเดื่อ และต้นทับทิม กับต้นมะกอกยังไม่เกิดผลหรือ? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะอวยพรเจ้า” พระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงฮักกัยเป็นครั้งที่สองในวันที่ 24 ของเดือนนั้นว่า “จงพูดกับเศรุบบาเบลผู้ว่าราชการแคว้นยูดาห์ว่า เรากำลังจะเขย่าท้องฟ้าและแผ่นดินโลก เรากำลังจะคว่ำบัลลังก์ของบรรดาราชอาณาจักร และทำลายพลังของบรรดาราชอาณาจักรแห่งประชาชาติทั้งหลาย และเราจะคว่ำบรรดารถรบกับผู้ขับขี่ พวกม้ากับผู้ขับขี่ของมันจะต้องล้มลง คือทุกคนจะต้องล้มลงด้วยดาบพวกพ้องของเขาเอง พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า ในวันนั้นเราจะรับเจ้า โอ เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอล ผู้รับใช้ของเราเอ๋ย พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราจะทำเจ้าให้เป็นเหมือนแหวนตรา เพราะเราได้เลือกสรรเจ้าแล้ว” พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ
ฮักกัย 2:13-23 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
แล้วฮักกัยจึงถามว่า “ถ้าคนหนึ่งคนใดที่มลทินเพราะไปถูกศพมา แล้วมาถูกสิ่งเหล่านี้เข้า สิ่งเหล่านี้จะมลทินไปด้วยหรือไม่” ปุโรหิตตอบว่า “สิ่งเหล่านี้จะมลทินไปด้วย” ฮักกัยจึงตอบว่า “พระเยโฮวาห์ตรัสว่า ต่อหน้าเรา ชนชาตินี้เป็นอย่างนั้นและประชาชาตินี้ก็เป็นอย่างนั้น ผลงานทุกอย่างที่มือของเขากระทำเป็นอย่างนั้นด้วย และสิ่งใดๆที่เขาถวายบูชาที่นั่น ก็เป็นมลทิน บัดนี้ จงพิจารณาเถิดว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะเกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง คือก่อนที่ศิลาก้อนหนึ่งจะวางซ้อนบนศิลาก้อนหนึ่งที่ในพระวิหารของพระเยโฮวาห์ ก่อนสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เมื่อผู้ใดมายังกองข้าวคิดว่าจะตวงได้ยี่สิบถัง ก็มีแต่สิบถัง เมื่อผู้หนึ่งมาถึงบ่อเก็บน้ำองุ่นเพื่อตักเอาห้าสิบถัง ก็มีแต่ยี่สิบถัง พระเยโฮวาห์ตรัสว่า เราได้โจมตีเจ้าและผลงานทั้งสิ้นจากมือของเจ้าด้วยให้ข้าวม้าน และขึ้นรา และด้วยลูกเห็บ แต่เจ้าทั้งหลายก็ยังไม่หันมาหาเรา จงพิจารณาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คือวันที่ยี่สิบสี่ เดือนที่เก้า คือตั้งแต่วันที่วางรากฐานแห่งพระวิหารของพระเยโฮวาห์ จงพิจารณาดู ยังมีข้าวตกค้างอยู่ในยุ้งบ้างหรือ เถาองุ่น ต้นมะเดื่อ และต้นทับทิมกับต้นมะกอกเทศยังไม่เกิดผลหรือ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะอำนวยพรแก่เจ้า” พระวจนะของพระเยโฮวาห์มาถึงฮักกัยเป็นครั้งที่สองเมื่อวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนนั้นว่า “จงพูดกับเศรุบบาเบลผู้ว่าราชการเมืองยูดาห์ว่า เราจะเขย่าท้องฟ้าและโลก และเราจะคว่ำพระที่นั่งของบรรดาราชอาณาจักร เราจะทำลายเรี่ยวแรงของบรรดาราชอาณาจักรแห่งประชาชาติ และจะคว่ำรถรบกับผู้ขับขี่ ม้าและผู้ขับขี่จะต้องล้มลง คือทุกคนจะต้องล้มลงด้วยดาบแห่งพี่น้องของเขา พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสว่า ในวันนั้นเราจะรับเจ้า โอ เศรุบบาเบล บุตรชายเชอัลทิเอล ผู้รับใช้ของเราเอ๋ย พระเยโฮวาห์ตรัสว่า เราจะกระทำเจ้าให้เป็นดังแหวนตรา เพราะเราได้เลือกสรรเจ้าแล้ว พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสดังนี้แหละ”
ฮักกัย 2:13-23 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
แล้วฮักกัยจึงถามว่า <<ถ้าคนหนึ่งคนใดที่มลทิน เพราะไปถูกศพมา แล้วมาถูกสิ่งเหล่านี้เข้า สิ่งเหล่านี้จะมลทินไปด้วยหรือไม่>> ปุโรหิตตอบว่า <<สิ่งเหล่านี้ก็มลทินไปด้วย>> ฮักกัยจึงตอบว่า <<พระเจ้าตรัสว่า ในสายตาของเรา ชนชาตินี้เป็นอย่างนั้นและประชาชาตินี้ก็เป็นอย่างนั้น ผลงานทุกอย่างที่มือของเขากระทำเป็นอย่างนั้นด้วย และสิ่งใดๆที่เขาถวายบูชาที่นั่น ก็เป็นมลทิน บัดนี้ จงพิจารณาดูเถิดว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้น ไปจะเกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง คือก่อนที่ศิลาก้อนหนึ่งจะวางซ้อนบนศิลาอีกก้อนหนึ่ง ที่ในพระวิหารของพระเจ้า ก่อนสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เมื่อผู้ใดมายังกองข้าวคิดว่า จะตวงได้ยี่สิบถัง ก็มีแต่สิบถัง เมื่อผู้หนึ่งมาถึงบ่อเก็บน้ำองุ่น เพื่อตักเอาห้าสิบถัง ก็มีแต่ยี่สิบถัง พระเจ้าตรัสว่า เราได้โจมตีเจ้าและผลงานของเจ้าด้วยให้ข้าวม้าน และขึ้นรา และด้วยลูกเห็บ แต่เจ้าทั้งหลายไม่มาหาเรา ดูเถิด จงพิจารณาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คือวันที่ยี่สิบสี่ เดือนที่เก้า คือตั้งแต่วันที่วางรากฐานแห่งพระวิหารของพระเจ้า จงพิจารณาดู ยังมีข้าวตกค้างอยู่ในยุ้งบ้างหรือ เถาองุ่น ต้นมะเดื่อ และต้นทับทิม กับต้นมะกอกเทศยังไม่เกิดผลหรือ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะอำนวยพรแก่เจ้า>> พระวจนะของพระเจ้ามาถึงฮักกัยเป็นครั้งที่สองเมื่อ วันที่ยี่สิบสี่ของเดือนนั้นว่า <<จงพูดกับเศรุบบาเบลผู้ว่าราชการเมืองยูดาห์ว่า เรากำลังจะเขย่าท้องฟ้าและโลกอยู่แล้ว และเรากำลังจะคว่ำพระที่นั่งของบรรดาราช อาณาจักร เรากำลังจะทำลายเรี่ยวแรงของบรรดาราชอาณาจักร แห่งประชาชาติอยู่แล้ว และคว่ำรถรบกับผู้ขับขี่ม้าและผู้ขับขี่จะต้องล้มลง คือทุกคนจะต้องล้มลงด้วยดาบแห่งเพื่อนของเขา พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า ในวันนั้นเราจะรับเจ้า โอ เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอล ผู้รับใช้ของเราเอ๋ย พระเจ้าตรัสว่า เราจะกระทำเจ้าให้เป็นดังแหวนตรา เพราะเราได้เลือกสรรเจ้าแล้ว พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ
ฮักกัย 2:13-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แล้วฮักกัยกล่าวว่า “หากผู้ใดเป็นมลทินเพราะไปแตะร่างผู้ตาย แล้วไปแตะสิ่งหนึ่งสิ่งใด สิ่งนั้นจะเป็นมลทินหรือไม่?” บรรดาปุโรหิตตอบว่า “สิ่งนั้นจะเป็นมลทิน” ฮักกัยจึงกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ‘ประชากรและประชาชาตินี้ก็เป็นเช่นนั้นในสายตาของเรา ไม่ว่าเขาจะทำสิ่งใดหรือถวายอะไร ล้วนแต่เป็นมลทินทั้งสิ้น “ ‘บัดนี้จงตรึกตรองเรื่องนี้ให้ดี นับตั้งแต่วันนี้ไป จงพิจารณาว่าสิ่งต่างๆ เป็นอย่างไรก่อนหน้าที่จะวางศิลาฐานรากของพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อผู้หนึ่งผู้ใดมายังกองข้าวโดยหวังว่าจะได้ข้าวยี่สิบถัง กลับมีเพียงสิบถัง เมื่อผู้ใดมายังบ่อเก็บเหล้าองุ่นโดยหวังว่าจะตักได้ห้าสิบถัง ก็มีเพียงยี่สิบถัง เราทำลายสิ่งทั้งปวงที่เจ้าลงแรงทำขึ้นโดยตัวทำลาย เชื้อรา และลูกเห็บ ถึงกระนั้นเจ้าก็ไม่ยอมกลับมาหาเรา’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น ‘นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ตั้งแต่วันที่ยี่สิบสี่เดือนที่เก้านี้ จงตรึกตรองถึงวันที่วางฐานรากของพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงใคร่ครวญว่า มีเมล็ดพืชใดๆ เหลืออยู่ในยุ้งฉางบ้าง? จวบจนบัดนี้เถาองุ่น มะเดื่อ ทับทิม และต้นมะกอกไม่ได้ผลิผลเลย “ ‘นับตั้งแต่วันนี้ไปเราจะอวยพรเจ้า’ ” พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงฮักกัยเป็นครั้งที่สองในวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนนั้นว่า “จงบอกเศรุบบาเบลผู้ว่าการของยูดาห์ว่า เราจะเขย่าฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก เราจะคว่ำราชบัลลังก์และขยี้อำนาจของบรรดาอาณาจักรต่างชาติ เราจะคว่ำรถม้าศึกและพลขับ ม้าศึกและคนขี่ม้าของพวกเขาจะล้มลง ต่างล้มลงด้วยดาบของพี่น้องของเขา “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า ‘ในวันนั้นเราจะรับเจ้า เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอลผู้รับใช้ของเรา’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น ‘และเราจะทำให้เจ้าเป็นดั่งแหวนตราของเราเพราะเราได้เลือกสรรเจ้า’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น”
ฮักกัย 2:13-23 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ฮักกัยถามว่า “ถ้าผู้ใดผู้หนึ่งมีมลทินจากการแตะต้องศพคนตาย แล้วแตะต้องสิ่งใดสิ่งหนึ่งดังกล่าว สิ่งนั้นจะเป็นมลทินหรือ” บรรดาปุโรหิตตอบว่า “มันจะเป็นมลทิน” ฮักกัยจึงตอบว่า “พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า ‘ชนชาตินี้และประชาชาตินี้ก็เป็นอย่างนั้น ณ เบื้องหน้าเรา ไม่ว่าอะไรที่เขาถวายและกระทำ ล้วนเป็นมลทิน บัดนี้จงพิจารณาว่าอะไรจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่อนที่ก้อนหินจะถูกวางซ้อนกันในพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อมีคนต้องการธัญพืช 20 กระสอบ แต่มีเพียง 10 กระสอบที่กองธัญพืช เมื่อมีคนมาที่ถังเหล้าองุ่นเพื่อตวง 50 ถัง แต่มีเพียง 20 ถัง เรากำจัดทุกสิ่งที่เจ้าใช้มือลงแรงทำด้วยลมร้อนแห้ง ด้วยเชื้อรา และด้วยลูกเห็บ แต่พวกเจ้าก็ยังไม่หันมาหาเรา’” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “จงพิจารณาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตั้งแต่วันที่ยี่สิบสี่ของเดือนเก้า ตั้งแต่วันที่วางฐานรากของพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้า พวกเจ้าจงพิจารณาให้รอบคอบเถิด มีเมล็ดข้าวในยุ้งฉางบ้างไหม จนถึงเวลานี้แล้ว เถาองุ่น ต้นมะเดื่อ ทับทิม และต้นมะกอกก็ยังไม่ออกผลเลย แต่นับจากวันนี้ไป เราจะให้พรแก่เจ้า” คำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้ามาถึงฮักกัยเป็นครั้งที่สองในวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนดังนี้ว่า “จงพูดกับเศรุบบาเบลผู้ว่าราชการแห่งยูดาห์ดังนี้ ‘เรากำลังจะทำให้ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกสั่นสะเทือน และโค่นบัลลังก์ของอาณาจักรทั้งหลาย เรากำลังจะทำให้อำนาจของอาณาจักรทั้งหลายของบรรดาประชาชาติพินาศ และเราจะคว่ำรถศึกและสารถี ทั้งม้าและสารถีจะล้มลง พี่น้องของพวกเขาเองจะใช้ดาบฆ่าฟันพวกเขา’” ในวันนั้น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาประกาศดังนี้ “โอ เศรุบบาเบลผู้รับใช้ของเรา บุตรเชอัลทิเอลเอ๋ย เราจะรับเจ้า และทำให้เจ้าเป็นเช่นเดียวกับแหวนตรา เพราะเราได้เลือกเจ้าแล้ว”