ฮักกัย 2:1-23

ฮักกัย 2:1-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ใน​วันที่​ยี่สิบเอ็ด​เดือน​เจ็ด พระยาห์เวห์​พูด​ผ่าน​มา​ทาง​ฮักกัย​ผู้พูด​แทน​พระองค์​ว่า “ให้​ไป​บอก​กับ​เศรุบบาเบล​เจ้าเมือง​ยูดาห์​ลูกชาย​ของ​เชอัลทิเอล และ​โยชูวา​นักบวชสูงสุด​ลูกชาย​ของ​เยโฮซาดัก และ​คน​ที่​เหลือ​ทั้งหมด​ว่า ‘ใครบ้าง​ที่​เหลืออยู่​ใน​ที่นี้​ที่​เคย​เห็น​วิหาร​นี้ ใน​ตอนนั้น​ที่​มัน​ยัง​สวยงาม​อยู่ แล้ว​ตอนนี้​เจ้า​เห็น​ว่า​มัน​เป็น​ยังไง มัน​เปรียบกัน​ไม่ได้​เลย​ใช่ไหม’” พระยาห์เวห์​พูดว่า “แต่​ตอนนี้ เศรุบบาเบล อย่า​เพิ่ง​หมด​กำลังใจ และ​โยชูวา​นักบวชสูงสุด ลูกชาย​ของ​เยโฮซาดัก อย่า​เพิ่ง​หมด​กำลังใจ รวมทั้ง​พวกเจ้า​ทุกคน​ที่​อาศัย​อยู่​บน​แผ่นดิน​นี้ อย่า​เพิ่ง​หมด​กำลังใจ” พระองค์​พูดว่า “ให้​ลงมือ​ทำงาน​ต่อไป เพราะ​เรา​อยู่​กับ​พวกเจ้า” พระยาห์เวห์​ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น​พูด​ไว้​ว่า​อย่างนั้น “นั่น​คือ​คำ​สัญญา​ที่​เรา​ได้​ให้​ไว้​กับ​พวกเจ้า ตอน​ที่​พวกเจ้า​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์ และ​ตอนนี้ พระวิญญาณ​ของเรา​ก็​ยัง​อยู่​ท่ามกลาง​พวกเจ้า ดังนั้น​พวกเจ้า​ไม่ต้อง​กลัว” เพราะ​พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น​พูด​ไว้​ว่า​อย่างนี้ คือ “ใน​ไม่ช้า​นี้ เรา​จะ​ทำให้​ท้องฟ้า​และ​แผ่นดิน​โลก​สั่น​สะเทือน​อีก​ครั้งหนึ่ง รวมทั้ง​ทะเล​และ​แผ่นดิน เรา​จะ​ทำให้​ชนชาติ​ทั้งหมด​สั่น​สะเทือน แล้ว​พวกเขา​จะ​เอา​ทรัพย์​สมบัติ​อัน​มีค่า​มา​ไว้​ที่นี่ และ​เรา​จะ​ทำให้​วิหาร​นี้​เต็ม​ไปด้วย​สง่าราศี” พระยาห์เวห์​ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น​พูด​ไว้​ว่า​อย่างนั้น “เงิน​และ​ทอง​นั้น​เป็น​ของเรา” พระยาห์เวห์​ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น​พูด​ว่า​อย่างนั้น “วิหาร​หลังใหม่​นี้​จะ​มี​สง่าราศี​มากกว่า​วิหาร​หลังเก่า​เสียอีก” พระยาห์เวห์​ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น​พูด​ว่า​อย่างนี้ “เรา​จะ​ให้​เกิด​สันติสุข​และ​ความเจริญ​รุ่งเรือง​ใน​สถานที่​นี้” พระยาห์เวห์​ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น​พูด​อย่างนี้ ใน​วันที่​ยี่สิบสี่​เดือน​เก้า ใน​ปี​ที่สอง​ที่​กษัตริย์​ดาริอัส​ครองราชย์ พระยาห์เวห์​พูด​กับ​ฮักกัย ผู้พูด​แทน​พระองค์ พระยาห์เวห์​ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น​พูดว่า “ให้​ถาม​พวกนักบวช​ดูสิ​ว่า พวกเขา​ตีความ​กฎ​ของ​พระเจ้า​ยังไง​เกี่ยวกับ​เรื่องนี้ ถ้า​มี​ใคร​ที่​เอา​เนื้อ​ที่​ศักดิ์สิทธิ์ ห่อ​ไว้​ใน​เสื้อคลุม​ของเขา และ​เสื้อคลุม​นั้น​ไป​แตะ​ถูก​พวกขนมปัง หรือ​ผักตุ๋น หรือ​เหล้าองุ่น หรือ​น้ำมัน​มะกอก หรือ​อาหาร​ชนิดไหน​ก็​แล้วแต่ ถ้า​เป็น​อย่างนี้ ของ​พวกนั้น​จะ​กลาย​เป็น​ของ​ศักดิ์สิทธิ์​ไปด้วย​หรือเปล่า” และ​พวกนักบวช​ก็​ตอบว่า “ไม่​ศักดิ์สิทธิ์” แล้ว​ฮักกัย​ก็​พูดว่า “ถ้า​มี​คนหนึ่ง​ที่​ไม่บริสุทธิ์​เพราะ​ไป​แตะต้อง​ศพ​มา แล้ว​มา​แตะต้อง​ถูก​ของ​พวกนี้​อย่างหนึ่ง​อย่างใด มัน​จะ​กลาย​เป็น​ของ​ไม่บริสุทธิ์​หรือเปล่า” และ​พวกนักบวช​ก็​ตอบว่า “ใช่แล้ว มัน​จะ​กลาย​เป็น​ของ​ไม่บริสุทธิ์” แล้ว​ฮักกัย​พูดว่า “พระยาห์เวห์​พูดว่า​มัน​เป็น​อย่างนั้น​เหมือนกัน​กับ​คน​พวกนี้​คือ​ชนชาติ​นี้ เพราะ​คน​พวกนี้​ไม่บริสุทธิ์​ต่อหน้า​เรา ดังนั้น​ทุกอย่าง​ที่​พวกเขา​ลงมือ​เพาะ​ปลูก และ​ทุกสิ่ง​ที่​พวกเขา​เอา​มา​ที่​วิหาร​นี้ ก็​จะ​ไม่บริสุทธิ์​ไปด้วย” “ต่อ​จากนี้​ไป ให้​คิดถึง​เรื่องนี้​ดู​ให้ดี คือ ให้​คิดถึง​ช่วง​เวลานั้น​ก่อน​ที่​เจ้า​จะ​เริ่ม​สร้าง​วิหาร​ของ​พระยาห์เวห์​ขึ้น​มา​ใหม่ ตอนนั้น​เจ้า​เป็น​อย่างไร​บ้าง บางคน​มา​ที่​กองข้าว คาดหวัง​ว่า​จะได้​ข้าว​สัก​ยี่สิบ​ถัง แต่​กลับ​ได้​แค่​สิบ​ถัง บางคน​มา​ที่​บ่อ​เก็บ​เหล้าองุ่น กะ​จะ​เท​ได้​ห้าสิบ​ไห กลับ​เท​ได้​แค่​ยี่สิบ​ไห เรา​ทำร้าย​พวกเจ้า และ​ทุกอย่าง​ที่​เจ้า​ลงมือ​เพาะ​ปลูก ด้วย​โรค​ใบไหม้ ด้วย​เชื้อรา​ของ​พืช และ​ด้วย​ลูกเห็บ แต่​พวกเจ้า​ก็​ไม่ยอม​หัน​กลับ​มาหา​เรา” พระยาห์เวห์​พูดว่า​อย่างนั้น “นับ​จาก​วันนี้​ไป​ให้​คิดถึง​เรื่องนี้​ดู​ให้ดี นับ​ตั้งแต่​วันที่​ยี่สิบสี่​เดือน​เก้า ตั้งแต่​วัน​ที่​ได้​วาง​ฐานราก​สำหรับ​วิหาร​ของ​พระยาห์เวห์​เสร็จ คิดดู​ให้ดี​ว่า มี​เมล็ดพืช​เหลือ​อยู่​ใน​ยุ้ง​อีก​หรือ ไม่เหลือ​แล้ว เอา​ไป​หว่าน​จน​หมด​แล้ว ดู​ต้นองุ่น หรือ​ต้นมะเดื่อ หรือ​ต้นทับทิม หรือ​ต้นมะกอก​สิ พวกมัน​ยัง​ไม่​ออกผล​อีกหรือ ไม่เลย มัน​กำลัง​ออกผล​อยู่ ต่อ​จากนี้​ไป เรา​จะ​อวยพร​เจ้า​ให้​มี​ผลผลิต​ที่ดี” พระยาห์เวห์​พูด​กับ​ฮักกัย​อีก​เป็น​ครั้ง​ที่สอง ใน​วันที่​ยี่สิบสี่​ของ​เดือนนั้น​ว่า “ให้​บอก​กับ​เศรุบบาเบล เจ้าเมือง​ยูดาห์​ว่า​เรา​กำลัง​จะ​สั่น​สะเทือน​ท้องฟ้า​และ​แผ่นดิน​โลก เรา​จะ​พลิกคว่ำ​บัลลังก์​ของ​อาณาจักร​ต่างๆ​และ​เรา​จะ​ทำลาย​อำนาจ​ของ​อาณาจักร​ทั้งหลาย​ของ​คน​ต่าง​ชาติ เรา​จะ​พลิกคว่ำ​รถม้า​และ​คนขับ​พวกมัน และ​พวกม้า​และ​คนขี่​ก็​จะ​ล้มตาย​ลง​ด้วย​คมดาบ​ของ​พวก​พี่น้อง​เขา ใน​วันนั้น พระยาห์เวห์​ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น​พูดว่า เรา​จะ​แต่งตั้ง​เจ้า เศรุบบาเบล ผู้รับใช้​เรา ลูกชาย​ของ​เชอัลทิเอล ให้​มี​อำนาจ​เหมือน​แหวน​ตรา​ประจำ​ตำแหน่ง เพราะ​เรา​เลือก​เจ้า​แล้ว” พระยาห์เวห์​ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น​พูดว่า​อย่างนั้น

ฮักกัย 2:1-23 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ณ วันที่ยี่สิบเอ็ด เดือนที่เจ็ด พระวจนะของพระเจ้ามาโดยทางฮักกัย ผู้เผยพระวจนะว่า <<จงกล่าวแก่เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอล ผู้ว่าราชการเมืองยูดาห์ และแก่โยชูวาบุตรเยโฮซาดักมหาปุโรหิต และแก่ประชาชนที่เหลืออยู่เถิด ว่า <ใครบ้างที่เหลืออยู่ท่ามกลางพวกท่านนี้ที่เห็นพระนิเวศนี้ ครั้งเมื่อมีสง่าราศีเดิมนั้น บัดนี้ท่านเหล่านั้นเห็นเป็นอย่างไร มองดูแล้วเปรียบกันไม่ได้เลยใช่ไหม พระเจ้าตรัสว่า โอ เศรุบบาเบลเอ๋ย แม้กระนั้นก็ดี จงกล้าหาญเถิด โอ โยชูวาบุตรเยโฮซาดักมหาปุโรหิตเอ๋ย จงกล้าหาญเถิด ราษฎรทั้งสิ้นเอ๋ย จงกล้าหาญเถิด พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า จงทำงานเถิดเพราะเราอยู่กับเจ้า ตามคำสัญญาซึ่งเรากระทำไว้ กับเจ้าเมื่อเจ้าทั้งหลายออกจากอียิปต์ วิญญาณของเราอยู่ท่ามกลางเจ้า อย่ากลัวเลย พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า อีกสักหน่อยเราจะเขย่าท้องฟ้าและโลก ทะเลและแผ่นดินแห้งอีกครั้งหนึ่ง เราจะเขย่าประชาชาติทั้งสิ้น เพื่อทรัพย์สมบัติของประชาชาติทั้งสิ้นจะได้เข้ามา เราจะบรรจุนิเวศนี้ให้เต็มด้วยสง่าราศี พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ เงินเป็นของเรา และทองคำเป็นของเรา พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า สง่าราศีของพระนิเวศครั้งหลังนี้จะยิ่งกว่าครั้งเดิมนั้น พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า และเราจะให้เกิดความสมบูรณ์พูนสุขในสถานที่นี้> >> เมื่อวันที่ยี่สิบสี่ เดือนที่เก้า ในปีที่สองของรัชกาลดาริอัส พระวจนะของพระเจ้ามาถึงฮักกัยผู้เผยพระวจนะว่า <<พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า จงถามบรรดาปุโรหิตในธรรมบัญญัติเถิดว่า <ถ้าผู้ใดยกชายเสื้อคลุมทำพกห่อเนื้อบริสุทธิ์ไป หากว่าชายเสื้อตัวนั้นไปถูกขนมปัง หรือแกง หรือเหล้าองุ่น หรือน้ำมัน หรืออาหารใดๆ สิ่งนั้นจะพลอยบริสุทธิ์ไปด้วยหรือไม่> >> ปุโรหิตตอบว่า <<ไม่บริสุทธิ์>> แล้วฮักกัยจึงถามว่า <<ถ้าคนหนึ่งคนใดที่มลทิน เพราะไปถูกศพมา แล้วมาถูกสิ่งเหล่านี้เข้า สิ่งเหล่านี้จะมลทินไปด้วยหรือไม่>> ปุโรหิตตอบว่า <<สิ่งเหล่านี้ก็มลทินไปด้วย>> ฮักกัยจึงตอบว่า <<พระเจ้าตรัสว่า ในสายตาของเรา ชนชาตินี้เป็นอย่างนั้นและประชาชาตินี้ก็เป็นอย่างนั้น ผลงานทุกอย่างที่มือของเขากระทำเป็นอย่างนั้นด้วย และสิ่งใดๆที่เขาถวายบูชาที่นั่น ก็เป็นมลทิน บัดนี้ จงพิจารณาดูเถิดว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้น ไปจะเกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง คือก่อนที่ศิลาก้อนหนึ่งจะวางซ้อนบนศิลาอีกก้อนหนึ่ง ที่ในพระวิหารของพระเจ้า ก่อนสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เมื่อผู้ใดมายังกองข้าวคิดว่า จะตวงได้ยี่สิบถัง ก็มีแต่สิบถัง เมื่อผู้หนึ่งมาถึงบ่อเก็บน้ำองุ่น เพื่อตักเอาห้าสิบถัง ก็มีแต่ยี่สิบถัง พระเจ้าตรัสว่า เราได้โจมตีเจ้าและผลงานของเจ้าด้วยให้ข้าวม้าน และขึ้นรา และด้วยลูกเห็บ แต่เจ้าทั้งหลายไม่มาหาเรา ดูเถิด จงพิจารณาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คือวันที่ยี่สิบสี่ เดือนที่เก้า คือตั้งแต่วันที่วางรากฐานแห่งพระวิหารของพระเจ้า จงพิจารณาดู ยังมีข้าวตกค้างอยู่ในยุ้งบ้างหรือ เถาองุ่น ต้นมะเดื่อ และต้นทับทิม กับต้นมะกอกเทศยังไม่เกิดผลหรือ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะอำนวยพรแก่เจ้า>> พระวจนะของพระเจ้ามาถึงฮักกัยเป็นครั้งที่สองเมื่อ วันที่ยี่สิบสี่ของเดือนนั้นว่า <<จงพูดกับเศรุบบาเบลผู้ว่าราชการเมืองยูดาห์ว่า เรากำลังจะเขย่าท้องฟ้าและโลกอยู่แล้ว และเรากำลังจะคว่ำพระที่นั่งของบรรดาราช อาณาจักร เรากำลังจะทำลายเรี่ยวแรงของบรรดาราชอาณาจักร แห่งประชาชาติอยู่แล้ว และคว่ำรถรบกับผู้ขับขี่ม้าและผู้ขับขี่จะต้องล้มลง คือทุกคนจะต้องล้มลงด้วยดาบแห่งเพื่อนของเขา พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า ในวันนั้นเราจะรับเจ้า โอ เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอล ผู้รับใช้ของเราเอ๋ย พระเจ้าตรัสว่า เราจะกระทำเจ้าให้เป็นดังแหวนตรา เพราะเราได้เลือกสรรเจ้าแล้ว พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ

ฮักกัย 2:1-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ในวันที่ยี่สิบเอ็ดเดือนที่เจ็ด องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะฮักกัยว่า “จงกล่าวแก่เศรุบบาเบลผู้ว่าการของยูดาห์บุตรเชอัลทิเอล มหาปุโรหิตโยชูวาบุตรเยโฮซาดัก และประชาชนที่เหลืออยู่ จงถามพวกเขาว่า ‘ใครบ้างในพวกเจ้าที่เหลืออยู่ที่เคยเห็นความโอ่อ่าตระการแต่เดิมของนิเวศนี้? บัดนี้เจ้าเห็นเป็นอย่างไร? รู้สึกว่าเทียบกันไม่ได้เลยใช่ไหม? แต่บัดนี้จงเข้มแข็งเถิด เศรุบบาเบลเอ๋ย’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ‘จงเข้มแข็งเถิด มหาปุโรหิตโยชูวาบุตรเยโฮซาดักเอ๋ย จงเข้มแข็งเถิด ประชาชนทั้งปวงในดินแดนนี้’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น ‘และจงทำงานไปเถิด เพราะเราอยู่กับเจ้า’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น ‘ตามที่เราได้ทำพันธสัญญาไว้กับเจ้าเมื่อเจ้าออกมาจากอียิปต์ และจิตวิญญาณของเรายังคงอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า อย่ากลัวเลย’ “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘อีกสักหน่อยหนึ่ง เราจะเขย่าฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ทะเล และผืนแผ่นดินอีกครั้ง เราจะเขย่ามวลประชาชาติและสิ่งที่ประชาชาติทั้งหลายพึงปรารถนาจะหลั่งไหลมา และเราจะทำให้นิเวศนี้เปี่ยมด้วยสง่าราศี’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า ‘เงินและทองเป็นของเรา สง่าราศีของนิเวศปัจจุบันจะรุ่งโรจน์กว่าสง่าราศีของนิเวศเดิม’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น ‘และเราจะให้สันติสุขแก่สถานที่นี้’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น” ในวันที่ยี่สิบสี่เดือนที่เก้าปีที่สองแห่งรัชกาลดาริอัส พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงผู้เผยพระวจนะฮักกัยว่า “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘จงถามปุโรหิตดูเถิดว่าบทบัญญัติระบุไว้อย่างไร หากผู้หนึ่งผู้ใดห่อเนื้อบริสุทธิ์ไว้กับเสื้อคลุม แล้วห่อเนื้อนั้นไปถูกขนมปังหรือแกง เหล้าองุ่น น้ำมันหรืออาหารอื่นๆ สิ่งนั้นจะพลอยบริสุทธิ์ไปด้วยหรือไม่?’ ” บรรดาปุโรหิตตอบว่า “ไม่” แล้วฮักกัยกล่าวว่า “หากผู้ใดเป็นมลทินเพราะไปแตะร่างผู้ตาย แล้วไปแตะสิ่งหนึ่งสิ่งใด สิ่งนั้นจะเป็นมลทินหรือไม่?” บรรดาปุโรหิตตอบว่า “สิ่งนั้นจะเป็นมลทิน” ฮักกัยจึงกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ‘ประชากรและประชาชาตินี้ก็เป็นเช่นนั้นในสายตาของเรา ไม่ว่าเขาจะทำสิ่งใดหรือถวายอะไร ล้วนแต่เป็นมลทินทั้งสิ้น “ ‘บัดนี้จงตรึกตรองเรื่องนี้ให้ดี นับตั้งแต่วันนี้ไป จงพิจารณาว่าสิ่งต่างๆ เป็นอย่างไรก่อนหน้าที่จะวางศิลาฐานรากของพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อผู้หนึ่งผู้ใดมายังกองข้าวโดยหวังว่าจะได้ข้าวยี่สิบถัง กลับมีเพียงสิบถัง เมื่อผู้ใดมายังบ่อเก็บเหล้าองุ่นโดยหวังว่าจะตักได้ห้าสิบถัง ก็มีเพียงยี่สิบถัง เราทำลายสิ่งทั้งปวงที่เจ้าลงแรงทำขึ้นโดยตัวทำลาย เชื้อรา และลูกเห็บ ถึงกระนั้นเจ้าก็ไม่ยอมกลับมาหาเรา’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น ‘นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ตั้งแต่วันที่ยี่สิบสี่เดือนที่เก้านี้ จงตรึกตรองถึงวันที่วางฐานรากของพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงใคร่ครวญว่า มีเมล็ดพืชใดๆ เหลืออยู่ในยุ้งฉางบ้าง? จวบจนบัดนี้เถาองุ่น มะเดื่อ ทับทิม และต้นมะกอกไม่ได้ผลิผลเลย “ ‘นับตั้งแต่วันนี้ไปเราจะอวยพรเจ้า’ ” พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงฮักกัยเป็นครั้งที่สองในวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนนั้นว่า “จงบอกเศรุบบาเบลผู้ว่าการของยูดาห์ว่า เราจะเขย่าฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก เราจะคว่ำราชบัลลังก์และขยี้อำนาจของบรรดาอาณาจักรต่างชาติ เราจะคว่ำรถม้าศึกและพลขับ ม้าศึกและคนขี่ม้าของพวกเขาจะล้มลง ต่างล้มลงด้วยดาบของพี่น้องของเขา “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า ‘ในวันนั้นเราจะรับเจ้า เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอลผู้รับใช้ของเรา’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น ‘และเราจะทำให้เจ้าเป็นดั่งแหวนตราของเราเพราะเราได้เลือกสรรเจ้า’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น”

ฮักกัย 2:1-23 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ณ วันที่ 21 เดือนที่ 7 พระวจนะของพระยาห์เวห์มาโดยทางผู้เผยพระวจนะฮักกัย ว่า “จงกล่าวแก่เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอล ผู้ว่าราชการแคว้นยูดาห์ กับมหาปุโรหิตโยชูวาบุตรเยโฮซาดัก และกับประชาชนที่เหลืออยู่ ว่า ในพวกเจ้าที่เหลืออยู่มีใครบ้างที่เคยเห็นพระนิเวศนี้ประกอบด้วยศักดิ์ศรีเมื่อครั้งก่อน? และบัดนี้พวกเจ้าเห็นเป็นอย่างไร? มองดูแล้วเหมือนไม่มีอะไรเลยใช่ไหม? พระยาห์เวห์ตรัสว่า แต่บัดนี้ เศรุบบาเบลเอ๋ย จงเข้มแข็งเถิด มหาปุโรหิตโยชูวาบุตรเยโฮซาดักเอ๋ย จงเข้มแข็งเถิด และประชาชนทั้งสิ้นของแผ่นดินเอ๋ย จงเข้มแข็งเถิด พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า จงทำงานเถิด เพราะเราอยู่กับเจ้าทั้งหลาย ตามคำสัญญาที่เราได้ทำไว้กับพวกเจ้าเมื่อเจ้าทั้งหลายออกจากอียิปต์ และวิญญาณของเราดำรงอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า อย่ากลัวเลย เพราะพระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า อีกไม่นาน เราจะเขย่าท้องฟ้าและโลก ทะเลและแผ่นดินแห้งอีกครั้งหนึ่ง เราจะเขย่าประชาชาติทั้งหมด และทรัพย์สมบัติของประชาชาติทั้งหมดจะเข้ามา แล้วเราจะบรรจุนิเวศนี้ให้เต็มด้วยศักดิ์ศรี พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสเช่นนี้ เงินเป็นของเรา และทองก็เป็นของเรา พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า ศักดิ์ศรีของพระนิเวศหลังนี้จะยิ่งใหญ่กว่าหลังก่อน และในสถานที่นี้ เราจะให้สันติสุข” พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ ณ วันที่ 24 เดือนที่ 9 ในปีที่ 2 ของรัชกาลพระราชาดาริอัส พระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงผู้เผยพระวจนะฮักกัย ว่า “พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า จงถามบรรดาปุโรหิตในเรื่องธรรมบัญญัติเถิดว่า ‘ถ้าคนไหนถือเนื้อบริสุทธิ์ไปโดยการห่อด้วยชายเสื้อคลุม และชายเสื้อนั้นไปแตะต้องขนมปัง หรือแกง หรือเหล้าองุ่น หรือน้ำมัน หรืออาหารใดๆ สิ่งเหล่านี้จะบริสุทธิ์ไปด้วยหรือไม่?’ ” พวกปุโรหิตตอบว่า “ไม่” แล้วฮักกัยจึงถามอีกว่า “ถ้าคนไหนที่เป็นมลทินเพราะไปแตะต้องศพ แล้วมาแตะต้องสิ่งเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นมลทินไปด้วยหรือไม่?” บรรดาปุโรหิตตอบว่า “เป็นมลทินด้วย” ฮักกัยจึงตอบว่า “พระยาห์เวห์ตรัสว่า ในสายตาของเรา ประชาชนพวกนี้ก็เป็นอย่างนั้น ชนชาตินี้ก็เป็นอย่างนั้น และผลงานทุกอย่างที่มือของพวกเขาทำก็เป็นอย่างนั้น และสิ่งที่พวกเขาถวายบูชาที่นั่น ก็เป็นมลทิน แต่บัดนี้ ให้พิจารณาดูตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่อนที่ศิลาก้อนหนึ่งจะวางซ้อนบนศิลาอีกก้อนหนึ่งในพระวิหารของพระยาห์เวห์ พวกเจ้าเป็นอย่างไร? เมื่อใครมายังกองข้าวคิดว่าจะตวงได้ 200 กิโลกรัม แต่ก็ได้เพียง 100 กิโลกรัม เมื่อใครมายังบ่อเก็บน้ำองุ่นคิดว่าจะตักได้ 100 ลิตร แต่ก็ได้เพียง 40 ลิตร พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราได้โจมตีพวกเจ้าและผลงานทุกอย่างที่มือของพวกเจ้าทำด้วยการทำให้ข้าวม้านและขึ้นรา และด้วยลูกเห็บ แต่เจ้าทั้งหลายไม่มาหาเรา บัดนี้ จงพิจารณาดู ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คือวันที่ 24 เดือนที่ 9 คือตั้งแต่วันที่วางรากฐานพระวิหารของพระยาห์เวห์ จงพิจารณาดูเถิด ยังมีเมล็ดข้าวตกค้างอยู่ในยุ้งฉางหรือ? เถาองุ่น ต้นมะเดื่อ และต้นทับทิม กับต้นมะกอกยังไม่เกิดผลหรือ? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะอวยพรเจ้า” พระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงฮักกัยเป็นครั้งที่สองในวันที่ 24 ของเดือนนั้นว่า “จงพูดกับเศรุบบาเบลผู้ว่าราชการแคว้นยูดาห์ว่า เรากำลังจะเขย่าท้องฟ้าและแผ่นดินโลก เรากำลังจะคว่ำบัลลังก์ของบรรดาราชอาณาจักร และทำลายพลังของบรรดาราชอาณาจักรแห่งประชาชาติทั้งหลาย และเราจะคว่ำบรรดารถรบกับผู้ขับขี่ พวกม้ากับผู้ขับขี่ของมันจะต้องล้มลง คือทุกคนจะต้องล้มลงด้วยดาบพวกพ้องของเขาเอง พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า ในวันนั้นเราจะรับเจ้า โอ เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอล ผู้รับใช้ของเราเอ๋ย พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราจะทำเจ้าให้เป็นเหมือนแหวนตรา เพราะเราได้เลือกสรรเจ้าแล้ว” พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ

ฮักกัย 2:1-23 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ณ วันที่​ยี​่​สิบเอ็ด เดือนที่​เจ็ด พระวจนะของพระเยโฮวาห์มาโดยทางฮั​กก​ัยผู้​พยากรณ์​ว่า “จงกล่าวแก่เศรุบบาเบลบุตรชายเชอัลทิเอล ผู้​ว่าราชการเมืองยูดาห์ และแก่โยชู​วาบ​ุตรชายเยโฮซาดัก มหาปุโรหิต และแก่ประชาชนที่​เหลืออยู่​เถิด ว่า ใครบ้างที่​เหลืออยู่​ท่ามกลางพวกท่านนี้ ที่​เห​็นพระนิเวศนี้ครั้งเมื่​อม​ีสง่าราศีเดิ​มน​ั้น บัดนี้​ท่านเหล่านั้นเห็นเป็นอย่างไร มองดู​แล​้วเปรียบกันไม่​ได้​เลยใช่​ไหม พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า โอ เศรุบบาเบลเอ๋ย แม้​กระนั้​นก​็​ดี จงกล้าหาญเถิด โอ โยชู​วาบ​ุตรชายเยโฮซาดัก มหาปุโรหิตเอ๋ย จงกล้าหาญเถิด ประชาชนทั้งสิ้นแห่งแผ่นดินเอ๋ย จงกล้าหาญเถิด พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​แหละ พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรั​สว​่า จงทำงานเถิด เพราะเราอยู่กับเจ้า ตามถ้อยคำซึ่งเราได้ทำเป็นพันธสัญญาไว้กับเจ้า เมื่อเจ้าทั้งหลายออกจากอียิปต์ วิญญาณของเราอยู่ท่ามกลางเจ้า อย่ากลัวเลย เพราะพระเยโฮวาห์จอมโยธาตรั​สด​ังนี้​ว่า อี​กสักหน่อย เราจะเขย่าท้องฟ้าและโลก ทะเลและแผ่นดินแห้ง อี​กครั้งหนึ่ง เราจะเขย่าประชาชาติ​ทั้งสิ้น เพื่อความปรารถนาของประชาชาติทั้งสิ้นจะได้​เข้ามา เราจะบรรจุนิเวศนี้​ให้​เต็​มด​้วยสง่าราศี พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรั​สด​ังนี้​แหละ เงินเป็นของเรา และทองคำเป็นของเรา พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรั​สด​ังนี้​แหละ พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรั​สว​่า สง่าราศีของพระนิเวศครั้งหลังนี้จะยิ่งกว่าครั้งเดิ​มน​ั้น พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรั​สว​่า และเราจะให้​เก​ิดความสมบู​รณ​์​พู​นสุขในสถานที่​นี้​” เมื่อวั​นที​่​ยี​่​สิ​บสี่ เดือนที่​เก้า ในปี​ที่​สองของรัชกาลดาริอัส พระวจนะของพระเยโฮวาห์มาโดยทางฮั​กก​ัยผู้​พยากรณ์​ว่า “พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรั​สด​ังนี้​ว่า จงถามบรรดาปุโรหิตเกี่ยวกับราชบัญญั​ติ​เถิดว่า ‘ถ้าผู้ใดยกชายเสื้อคลุมทำพกห่อเนื้อบริ​สุทธิ​์​ไป หากว่าชายเสื้อตั​วน​ั้นไปถูกขนมปังหรือแกง หรือน้ำองุ่น หรือน้ำมัน หรืออาหารใดๆ สิ​่งนั้นจะพลอยบริ​สุทธิ​์ไปด้วยหรือไม่’” พวกปุโรหิตตอบว่า “​ไม่​บริสุทธิ์​” แล​้วฮั​กก​ัยจึงถามว่า “ถ้าคนหนึ่งคนใดที่มลทินเพราะไปถูกศพมา แล​้วมาถูกสิ่งเหล่านี้​เข้า สิ​่งเหล่านี้จะมลทินไปด้วยหรือไม่” ปุ​โรหิตตอบว่า “​สิ​่งเหล่านี้จะมลทินไปด้วย” ฮั​กก​ัยจึงตอบว่า “พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า ต่อหน้าเรา ชนชาติ​นี้​เป็นอย่างนั้นและประชาชาติ​นี้​ก็​เป็นอย่างนั้น ผลงานทุกอย่างที่มือของเขากระทำเป็นอย่างนั้นด้วย และสิ่งใดๆที่เขาถวายบูชาที่​นั่น ก็​เป็นมลทิน บัดนี้ จงพิจารณาเถิดว่า ตั้งแต่​วันนี้​เป็นต้นไปจะเกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง คื​อก​่อนที่ศิ​ลาก​้อนหนึ่งจะวางซ้อนบนศิ​ลาก​้อนหนึ่งที่ในพระวิหารของพระเยโฮวาห์ ก่อนสิ่งเหล่านี้​เกิดขึ้น เมื่อผู้ใดมายังกองข้าวคิดว่าจะตวงได้​ยี​่​สิ​บถัง ก็​มี​แต่​สิ​บถัง เมื่อผู้​หน​ึ่งมาถึ​งบ​่อเก็​บน​้ำองุ่นเพื่อตักเอาห้าสิบถัง ก็​มี​แต่​ยี​่​สิ​บถัง พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า เราได้​โจมตี​เจ้​าและผลงานทั้งสิ้นจากมือของเจ้าด้วยให้ข้าวม้าน และขึ้นรา และด้วยลูกเห็บ แต่​เจ้​าทั้งหลายก็ยังไม่หันมาหาเรา จงพิจารณาตั้งแต่​วันนี้​เป็นต้นไป คือวั​นที​่​ยี​่​สิ​บสี่ เดือนที่​เก้า คือตั้งแต่​วันที่​วางรากฐานแห่งพระวิหารของพระเยโฮวาห์ จงพิจารณาดู ยั​งม​ีข้าวตกค้างอยู่ในยุ้​งบ​้างหรือ เถาองุ่น ต้นมะเดื่อ และต้นทั​บท​ิมกับต้นมะกอกเทศยังไม่​เก​ิดผลหรือ ตั้งแต่​วันนี้​เป็นต้นไป เราจะอำนวยพรแก่​เจ้า​” พระวจนะของพระเยโฮวาห์มาถึงฮั​กก​ัยเป็​นคร​ั้งที่สองเมื่อวั​นที​่​ยี​่​สิ​บสี่ของเดือนนั้​นว​่า “จงพู​ดก​ับเศรุบบาเบลผู้ว่าราชการเมืองยูดาห์​ว่า เราจะเขย่าท้องฟ้าและโลก และเราจะคว่ำพระที่นั่งของบรรดาราชอาณาจั​กร เราจะทำลายเรี่ยวแรงของบรรดาราชอาณาจักรแห่งประชาชาติ และจะคว่ำรถรบกับผู้​ขับขี่ ม้าและผู้​ขับขี่​จะต้องล้มลง คือทุกคนจะต้องล้มลงด้วยดาบแห่งพี่น้องของเขา พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรั​สว​่า ในวันนั้นเราจะรับเจ้า โอ เศรุบบาเบล บุ​ตรชายเชอัลทิเอล ผู้รับใช้​ของเราเอ๋ย พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า เราจะกระทำเจ้าให้เป็นดังแหวนตรา เพราะเราได้เลือกสรรเจ้าแล้ว พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรั​สด​ังนี้​แหละ​”

ฮักกัย 2:1-23 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ใน​วัน​ที่​ยี่​สิบ​เอ็ด​ของ​เดือน​เจ็ด คำ​กล่าว​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผ่าน​ทาง​ฮักกัย​ผู้​เผย​คำ​กล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ดัง​นี้​ว่า “จง​พูด​กับ​เศรุบบาเบล​บุตร​ของ​เชอัลทิเอล​ผู้​ว่า​ราชการ​แห่ง​ยูดาห์ กับ​โยชูวา​บุตร​ของ​เยโฮซาดัก​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต และ​กับ​ประชาชน​ที่​เหลือ จง​ถาม​พวก​เขา​ดัง​นี้​ว่า ‘ใน​บรรดา​พวก​เจ้า​ที่​เหลือ​อยู่​นี้ มี​ใคร​บ้าง​ที่​เห็น​ตำหนัก​นี้​เมื่อ​ครั้ง​ที่​ความ​สง่า​งาม​ปรากฏ​ตั้งแต่​แรก แล้ว​เจ้า​เห็น​ว่า​เป็น​อย่าง​ไร​ใน​เวลา​นี้ ใน​สายตา​ของ​เจ้า​คง​ดู​เหมือน​ว่า​ไม่​เห็น​อะไร​เลย’” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประกาศ​ดังนี้ “แต่​จง​เข้มแข็ง​เถิด เศรุบบาเบล​เอ๋ย จง​เข้มแข็ง​เถิด โยชูวา​บุตร​เยโฮซาดัก​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต จง​เข้มแข็ง​เถิด พวก​เจ้า​ทุก​คน​ที่​เป็น​ประชาชน​ของ​แผ่นดิน” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประกาศ​ดัง​นั้น “จง​ปฏิบัติ​งาน เพราะ​เรา​อยู่​กับ​พวก​เจ้า” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา​ประกาศ​ดัง​นั้น “ตาม​พันธ​สัญญา​ที่​เรา​ได้​ทำ​ไว้​กับ​พวก​เจ้า​เมื่อ​เจ้า​ออก​จาก​อียิปต์ วิญญาณ​ของ​เรา​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​เจ้า อย่า​กลัว​เลย” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา​กล่าว​ดัง​นี้ “อีก​ไม่​นาน เรา​จะ​ทำ​ให้​ฟ้า​สวรรค์​และ​แผ่นดิน​โลก ทะเล​และ​แผ่นดิน​แห้ง​สั่น​สะเทือน​อีก​ครั้ง​หนึ่ง และ​เรา​จะ​ทำ​ให้​ประชา​ชาติ​ทั้ง​ปวง​ได้​รับ​ผล​กระทบ และ​สมบัติ​ของ​ประชา​ชาติ​ทั้ง​ปวง​จะ​เข้า​มา และ​เรา​จะ​ให้​ตำหนัก​นี้​เต็ม​ด้วย​ความ​สง่า​งาม” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา​กล่าว​ดัง​นั้น “เงิน​เป็น​ของ​เรา และ​ทองคำ​ก็​เป็น​ของ​เรา” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา​ประกาศ​ดัง​นั้น “ความ​สง่า​งาม​ของ​ตำหนัก​ใน​ครั้ง​นี้​จะ​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​ความ​สง่า​งาม​ใน​ครั้ง​แรก” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา​กล่าว​ดัง​นั้น “และ​เรา​จะ​ให้​ความ​สงบ​สุข​แก่​ที่​แห่ง​นี้” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา​ประกาศ​ดัง​นั้น ใน​วัน​ที่​ยี่​สิบ​สี่​ของ​เดือน​เก้า ใน​ปี​ที่​สอง​ของ​ดาริอัส คำ​กล่าว​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผ่าน​ทาง​ฮักกัย​ผู้​เผย​คำ​กล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ดัง​นี้​ว่า “พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา​กล่าว​ดังนี้​ว่า ‘จง​ถาม​บรรดา​ปุโรหิต​เรื่อง​กฎ​บัญญัติ ถ้า​ผู้​ใด​ผู้​หนึ่ง​มี​เนื้อ​สัตว์​ที่​เป็น​เครื่อง​สักการะ​ติด​ที่​ชาย​เสื้อ และ​ชาย​เสื้อ​นั้น​แตะ​ขนมปัง​หรือ​สตู เหล้า​องุ่น น้ำมัน หรือ​อาหาร​อื่นๆ แล้ว​เนื้อ​นั้น​ยัง​จะ​บริสุทธิ์​อยู่​หรือ’” บรรดา​ปุโรหิต​ตอบ​ว่า “มัน​จะ​ไม่​บริสุทธิ์” ฮักกัย​ถาม​ว่า “ถ้า​ผู้​ใด​ผู้​หนึ่ง​มี​มลทิน​จาก​การ​แตะ​ต้อง​ศพ​คน​ตาย แล้ว​แตะ​ต้อง​สิ่ง​ใด​สิ่ง​หนึ่ง​ดัง​กล่าว สิ่ง​นั้น​จะ​เป็น​มลทิน​หรือ” บรรดา​ปุโรหิต​ตอบ​ว่า “มัน​จะ​เป็น​มลทิน” ฮักกัย​จึง​ตอบ​ว่า “พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประกาศ​ดัง​นี้​ว่า ‘ชน​ชาติ​นี้​และ​ประชา​ชาติ​นี้​ก็​เป็น​อย่าง​นั้น ณ เบื้อง​หน้า​เรา ไม่ว่า​อะไร​ที่​เขา​ถวาย​และ​กระทำ ล้วน​เป็น​มลทิน บัดนี้​จง​พิจารณา​ว่า​อะไร​จะ​เกิด​ขึ้น​ตั้งแต่​วัน​นี้​เป็น​ต้น​ไป ก่อน​ที่​ก้อน​หิน​จะ​ถูก​วาง​ซ้อน​กัน​ใน​พระ​วิหาร​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เมื่อ​มี​คน​ต้องการ​ธัญพืช 20 กระสอบ แต่​มี​เพียง 10 กระสอบ​ที่​กอง​ธัญพืช เมื่อ​มี​คน​มา​ที่​ถัง​เหล้า​องุ่น​เพื่อ​ตวง 50 ถัง แต่​มี​เพียง 20 ถัง เรา​กำจัด​ทุก​สิ่ง​ที่​เจ้า​ใช้​มือ​ลง​แรง​ทำ​ด้วย​ลม​ร้อน​แห้ง ด้วย​เชื้อรา และ​ด้วย​ลูก​เห็บ แต่​พวก​เจ้า​ก็​ยัง​ไม่​หัน​มา​หา​เรา’” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประกาศ​ดัง​นั้น “จง​พิจารณา​ตั้งแต่​วันนี้​เป็น​ต้น​ไป ตั้งแต่​วัน​ที่​ยี่​สิบ​สี่​ของ​เดือน​เก้า ตั้งแต่​วัน​ที่​วาง​ฐาน​ราก​ของ​พระ​วิหาร​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พวก​เจ้า​จง​พิจารณา​ให้​รอบคอบ​เถิด มี​เมล็ด​ข้าว​ใน​ยุ้งฉาง​บ้าง​ไหม จน​ถึง​เวลา​นี้​แล้ว เถา​องุ่น ต้น​มะเดื่อ ทับทิม และ​ต้น​มะกอก​ก็​ยัง​ไม่​ออก​ผล​เลย แต่​นับจาก​วันนี้​ไป เรา​จะ​ให้​พร​แก่​เจ้า” คำ​กล่าว​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​มา​ถึง​ฮักกัย​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง​ใน​วัน​ที่​ยี่​สิบ​สี่​ของ​เดือน​ดัง​นี้​ว่า “จง​พูด​กับ​เศรุบบาเบล​ผู้​ว่า​ราชการ​แห่ง​ยูดาห์​ดัง​นี้ ‘เรา​กำลัง​จะ​ทำ​ให้​ฟ้า​สวรรค์​และ​แผ่นดิน​โลก​สั่น​สะเทือน และ​โค่น​บัลลังก์​ของ​อาณาจักร​ทั้ง​หลาย เรา​กำลัง​จะ​ทำ​ให้​อำนาจ​ของ​อาณาจักร​ทั้ง​หลาย​ของ​บรรดา​ประชา​ชาติ​พินาศ และ​เรา​จะ​คว่ำ​รถ​ศึก​และ​สารถี ทั้ง​ม้า​และ​สารถี​จะ​ล้ม​ลง พี่น้อง​ของ​พวก​เขา​เอง​จะ​ใช้​ดาบ​ฆ่า​ฟัน​พวก​เขา’” ใน​วัน​นั้น พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา​ประกาศ​ดัง​นี้ “โอ เศรุบบาเบล​ผู้​รับใช้​ของ​เรา บุตร​เชอัลทิเอล​เอ๋ย เรา​จะ​รับ​เจ้า และ​ทำ​ให้​เจ้า​เป็น​เช่น​เดียว​กับ​แหวน​ตรา เพราะ​เรา​ได้​เลือก​เจ้า​แล้ว”