ปฐมกาล 45:13-28
ปฐมกาล 45:13-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ให้พวกพี่ไปเล่าให้พ่อฟังถึงเกียรติที่ผมได้รับในอียิปต์ และเล่าให้พ่อฟังถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ได้เห็น แล้วรีบๆไปพาพ่อลงมาที่นี่” แล้วโยเซฟก็กอดเบนยามินน้องชายของเขาและร้องไห้ เบนยามินก็ร้องไห้ขณะที่เขากอดโยเซฟเหมือนกัน โยเซฟได้จูบพี่ชายของเขาทุกคน และร้องไห้ขณะที่เขากอดพี่ชายของเขา หลังจากนั้น พี่ชายของเขาเริ่มพูดกับโยเซฟ ข่าวนี้ได้ไปถึงวังของฟาโรห์ ว่าพี่น้องของโยเซฟมา ฟาโรห์และเหล่าข้าราชสำนักของเขาต่างก็ดีใจ ฟาโรห์ได้พูดกับโยเซฟว่า “บอกกับพี่ชายของเจ้า ให้ทำอย่างนี้ คือ ให้บรรทุกอาหารบนหลังลาของพวกเจ้า แล้วเดินทางไปแผ่นดินคานาอัน แล้วพาพ่อและครอบครัวของเจ้ามาหาเรา แล้วเราจะให้แผ่นดินที่ดีที่สุดในอียิปต์กับเจ้า และพวกเขาจะได้กินอาหารที่ดีที่สุดในแผ่นดินนี้ ให้สั่งพวกเขาให้ทำอย่างนี้ คือให้เอาพวกเกวียนจากอียิปต์ ไปรับเด็กๆของเจ้า และเมียของพวกเจ้าที่นั่น และพาพ่อของเจ้ากลับมาที่นี่ ไม่ต้องเสียดายสิ่งของต่างๆที่จะต้องทิ้งไว้ที่นั่น เพราะสิ่งที่ดีที่สุดในอียิปต์จะเป็นของพวกเจ้า” ลูกชายของอิสราเอลก็ทำตามนี้ โยเซฟได้ให้เกวียนกับพวกเขาไปตามคำสั่งของฟาโรห์ และโยเซฟได้จัดหาอาหารให้พวกเขาสำหรับการเดินทาง โยเซฟได้ให้เสื้อผ้าใหม่ๆหนึ่งชุดกับพวกเขาทุกคน แต่สำหรับเบนยามินน้องสุดท้องของเขา เขาได้ให้เงินสามร้อยเหรียญกับเสื้อผ้าห้าชุด โยเซฟได้ส่งสิ่งของเหล่านี้ไปให้พ่อของเขา มีลาสิบตัวที่บรรทุกของดีๆจากอียิปต์ และลาตัวเมียสิบตัวที่บรรทุกข้าวสาร ขนมปัง และอาหารสำหรับการเดินทางของพ่อเขา โยเซฟได้ส่งพี่ชายของเขา และพวกเขาก็จากไป โยเซฟบอกกับพวกเขาว่า “อย่าได้ทะเลาะกันในระหว่างทาง” พวกเขาได้ออกเดินทางจากอียิปต์ไปหายาโคบพ่อของพวกเขาในแผ่นดินคานาอัน พวกเขาได้บอกพ่อว่า “โยเซฟยังมีชีวิตอยู่ เขากำลังปกครองแผ่นดินอียิปต์ทั้งหมด” ยาโคบถึงกับตกตะลึง เพราะเขาไม่เชื่อพวกลูกๆของเขา พวกลูกๆก็เล่าถึงสิ่งที่โยเซฟได้บอกกับพวกเขาทั้งหมดให้พ่อฟัง ยาโคบได้เห็นรถที่โยเซฟส่งมารับเขากลับไปยังอียิปต์ ยาโคบพ่อของพวกเขาจึงตื่นเต้นและมีความสุขมาก และพูดว่า “พอแล้ว พ่อเชื่อพวกเจ้าแล้วว่าโยเซฟลูกชายของพ่อยังมีชีวิตอยู่ พ่อจะไปพบเขาก่อนตาย”
ปฐมกาล 45:13-28 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
พวกพี่จงเล่าให้พ่อฟังถึงยศศักดิ์ทั้งหมดที่ฉันมีอยู่ในอียิปต์ และที่พวกพี่ได้เห็นนั้นทุกประการ พวกพี่จงรีบพาพ่อฉันลงมาที่นี่” โยเซฟกอดคอเบนยามินน้องชายแล้วร้องไห้ เบนยามินก็กอดคอโยเซฟร้องไห้เหมือนกัน โยเซฟจึงจูบพี่ชายทั้งหมดและร้องไห้ หลังจากนั้นพี่น้องก็พูดคุยกับโยเซฟ ข่าวที่ว่า “พี่น้องของโยเซฟมา” ไปถึงราชวังฟาโรห์ ฟาโรห์กับข้าราชการก็พากันยินดี ฟาโรห์รับสั่งกับโยเซฟว่า “พูดกับพี่น้องของท่านว่า ‘ทำดังนี้ คือเอาของบรรทุกบนหลังสัตว์กลับไปดินแดนคานาอัน พาบิดาและครอบครัวของพวกเจ้ามาหาเรา เราจะประทานของดีที่สุดในแผ่นดินอียิปต์ให้พวกเจ้า พวกเจ้าจะได้รับประทานผลอันอุดมบริบูรณ์ของดินแดนนี้’ ส่วนท่านให้รับคำสั่งด้วยว่า ‘ทำดังนี้ เอารถจากดินแดนอียิปต์ไปรับเด็กเล็กๆ และภรรยาของพวกเจ้ากับนำบิดามา อย่าเสียดายทรัพย์สมบัติเลย เพราะของดีที่สุดทั่วประเทศอียิปต์เป็นของพวกเจ้าแล้ว’ ” บรรดาบุตรของอิสราเอลก็ทำตาม โยเซฟจัดรถให้พวกเขาตามรับสั่งของฟาโรห์ พร้อมกับให้เสบียงไว้รับประทานตามทาง โยเซฟให้เสื้อคนละชุด แต่ให้เงินแก่เบนยามิน 300 แผ่นกับเสื้อห้าชุด โยเซฟฝากของต่อไปนี้ให้บิดา คือลาสิบตัวบรรทุกของดีที่สุดในประเทศอียิปต์ และลาตัวเมียอีกสิบตัวบรรทุกข้าว ขนมปัง และเสบียงอาหารสำหรับให้บิดารับประทานตามทาง แล้วโยเซฟก็ส่งพี่น้องไป เมื่อพวกเขาจะจากไป โยเซฟสั่งพวกเขาว่า “อย่าทะเลาะกันตามทาง” พวกพี่น้องก็พากันออกจากอียิปต์ ไปดินแดนคานาอันไปหายาโคบบิดา บอกบิดาว่า “โยเซฟยังมีชีวิตอยู่ เป็นผู้ครอบครองดินแดนอียิปต์ทั้งหมด” แต่ยาโคบงงงันเพราะไม่เชื่อพวกเขา พวกเขาจึงเล่าถ้อยคำทั้งหมดของโยเซฟที่พูดกับพวกเขา เมื่อยาโคบเห็นรถที่โยเซฟส่งมารับท่าน จิตใจของยาโคบบิดาของพวกเขาก็ฟื้นแช่มชื่นขึ้น อิสราเอลจึงว่า “พ่ออิ่มใจแล้ว โยเซฟลูกพ่อยังมีชีวิตอยู่ พ่อจะไปเห็นลูกก่อนพ่อตาย”
ปฐมกาล 45:13-28 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
พี่จงเล่าให้บิดาของเราฟังถึงยศศักดิ์ที่ข้าพเจ้ามีอยู่ในอียิปต์และที่พี่ได้เห็นนั้นทุกประการ พี่จงรีบพาบิดาเราลงมาที่นี่เถิด” โยเซฟกอดคอเบนยามินผู้น้องแล้วร้องไห้ เบนยามินก็กอดคอโยเซฟร้องไห้เหมือนกัน ยิ่งกว่านั้นโยเซฟจึงจุบพี่ชายทั้งปวงและร้องไห้ หลังจากนั้นพี่น้องของท่านก็สนทนากับโยเซฟ ข่าวว่า “พี่น้องของโยเซฟมา” ไปถึงราชวังฟาโรห์ ฟาโรห์กับข้าราชการของพระองค์ก็พากันยินดี ฟาโรห์รับสั่งกับโยเซฟว่า “พูดกับพี่น้องของท่านว่า ‘ทำดังนี้ คือเอาของบรรทุกสัตว์กลับไปแผ่นดินคานาอัน พาบิดาและครอบครัวของเจ้ามาหาเรา เราจะประทานของดีที่สุดในแผ่นดินอียิปต์ให้พวกเจ้า พวกเจ้าจะได้รับประทานผลอันอุดมบริบูรณ์ของประเทศนี้’ เราสั่งเจ้าแล้ว จงทำดังนี้ เอารถบรรทุกจากประเทศอียิปต์ไปรับเด็กเล็กๆและภรรยาของเจ้ากับนำบิดาของเจ้ามา อย่าเสียดายทรัพย์สมบัติเลย เพราะของดีที่สุดทั่วประเทศอียิปต์เป็นของเจ้าแล้ว” บรรดาบุตรของอิสราเอลก็ทำตาม โยเซฟจัดรถบรรทุกให้เขาตามรับสั่งของฟาโรห์ กับให้เสบียงรับประทานตามทาง โยเซฟให้เสื้อผ้าคนละสำรับ แต่ให้เงินแก่เบนยามินสามร้อยเหรียญกับเสื้อห้าสำรับ โยเซฟฝากของต่อไปนี้ให้บิดา คือลาสิบตัวบรรทุกของดีที่สุดในประเทศอียิปต์ และลาตัวเมียอีกสิบตัวบรรทุกข้าว ขนมปัง และเสบียงอาหารสำหรับให้บิดารับประทานตามทาง ดังนั้นโยเซฟส่งพี่น้องไป แล้วเขาก็ออกไป แล้วท่านสั่งเขาว่า “จงระวังให้ดีอย่าได้วิวาทกันตามทาง” พวกพี่น้องก็พากันขึ้นไปจากอียิปต์เข้าไปในแผ่นดินคานาอันไปหายาโคบบิดาของตน บอกบิดาว่า “โยเซฟยังมีชีวิตอยู่ ท่านเป็นผู้ครอบครองประเทศอียิปต์ทั้งหมด” แต่จิตใจยาโคบงงงันเพราะยังไม่เชื่อเขา เขาจึงเล่าคำของโยเซฟให้บิดาฟังทุกประการ คือคำที่โยเซฟสั่งพวกเขาไว้ เมื่อยาโคบเห็นรถบรรทุกที่โยเซฟส่งมารับตน จิตใจของท่านก็ฟื้นแช่มชื่นขึ้น อิสราเอลจึงว่า “เราอิ่มใจแล้ว โยเซฟลูกเรายังมีชีวิตอยู่ เราจะไปเห็นลูกก่อนเราตาย”
ปฐมกาล 45:13-28 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
พี่จงเล่าให้บิดาของเราฟังถึงยศศักดิ์ที่ฉันมีอยู่ในอียิปต์ และที่พี่ได้เห็นนั้นทุกประการ พี่จงรีบพาบิดาเรามาที่นี่เถิด>> โยเซฟกอดคอเบนยามินผู้น้องแล้วร้องไห้ เบนยามินก็กอดคอโยเซฟร้องไห้เหมือนกัน โยเซฟจึงจุบพี่ชายทั้งปวงและร้องไห้ พี่น้องก็สนทนากับโยเซฟ ข่าวว่า <<พี่น้องของโยเซฟมา>> ไปถึงราชวังฟาโรห์ ฟาโรห์กับข้าราชการก็พากันยินดี ฟาโรห์รับสั่งกับโยเซฟว่า <<พูดกับพี่น้องของท่านว่า <ทำดังนี้ คือเอาของบรรทุกสัตว์กลับไปแคว้นคานาอัน พาบิดาและครอบครัวของเจ้ามาหาเรา เราจะประทานของดีที่สุดในแผ่นดินอียิปต์ให้พวกเจ้า พวกเจ้าจะได้รับประทานผลอันอุดมบริบูรณ์ของประเทศนี้> ส่วนท่านจงสั่งเขาด้วยว่า <ทำดังนี้ เอารถจากประเทศอียิปต์ไปรับเด็กเล็กๆ และภรรยาของพี่กับนำบิดามา อย่าเสียดายทรัพย์สมบัติเลย เพราะของดีที่สุดทั่วประเทศอียิปต์เป็นของพี่แล้ว> >> บรรดาบุตรของอิสราเอลก็ทำตาม โยเซฟจัดรถให้เขาตามรับสั่งของฟาโรห์ กับให้เสบียงรับประทานตามทาง โยเซฟให้เสื้อมีราคาคนละสำรับ แต่ให้เงินแก่เบนยามินสามร้อยเหรียญ กับเสื้อมีราคาห้าสำรับ โยเซฟฝากของต่อไปนี้ให้บิดา คือลาสิบตัวบรรทุกของดีที่สุดในประเทศอียิปต์ และลาตัวเมียอีกสิบตัวบรรทุกข้าวกล้อง ขนมปัง และเสบียงอาหารสำหรับให้บิดารับประทานตามทาง แล้วโยเซฟก็ส่งพี่น้องไป เมื่อเขาจะจากไป โยเซฟสั่งเขาว่า <<อย่าเดือดดาลกันตามทาง>> พวกพี่น้องก็พากันออกจากอียิปต์ ไปเมืองคานาอันไปหายาโคบบิดา บอกบิดาว่า <<โยเซฟยังมีชีวิตอยู่ เป็นผู้ครอบครองประเทศอียิปต์ทั้งหมด>> แต่ยาโคบงงงันเพราะยังไม่เชื่อเขา เขาจึงเล่าคำของโยเซฟให้บิดาฟังทุกประการ เมื่อยาโคบเห็นรถที่โยเซฟส่งมารับตน จิตใจของท่านก็ฟื้นแช่มชื่นขึ้น อิสราเอลจึงว่า <<เราอิ่มใจแล้ว โยเซฟลูกเรายังมีชีวิตอยู่ เราจะไปเห็นลูกก่อนเราตาย>>
ปฐมกาล 45:13-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
จงเล่าให้พ่อของเราฟังว่า เรามียศถาบรรดาศักดิ์ที่ยิ่งใหญ่ในอียิปต์ และจงเล่าทุกอย่างตามที่เห็น แล้วพาพ่อมาที่นี่โดยเร็ว” แล้วโยเซฟก็สวมกอดเบนยามินน้องชายของเขาแล้วร้องไห้ เบนยามินก็กอดพี่แล้วร้องไห้ โยเซฟจูบพี่น้องทุกคนและร้องไห้ หลังจากนั้นพี่น้องของเขาก็พูดคุยกับโยเซฟ เมื่อข่าวแพร่ไปถึงพระราชวังของฟาโรห์ว่าพี่น้องของโยเซฟมา ฟาโรห์กับเหล่าข้าราชบริพารทั้งหมดก็พากันยินดี ฟาโรห์รับสั่งกับโยเซฟว่า “จงไปบอกพี่น้องของเจ้าว่า ‘จงทำตามนี้คือ นำสัตว์บรรทุกสิ่งของกลับไปยังคานาอัน รับตัวบิดาของเจ้ากับทุกคนในครอบครัวกลับมาหาเรา เราจะยกดินแดนที่ดีที่สุดในอียิปต์ให้พวกเจ้า และพวกเจ้าจะได้ชื่นชมกับผลิตผลอันอุดมสมบูรณ์ในแผ่นดินนี้’ “เจ้าจงบอกพวกเขาด้วยว่า ‘จงทำตามนี้คือ จงนำขบวนเกวียนจากอียิปต์ไปรับลูกหลานของพวกเจ้า บรรดาภรรยา และบิดาของเจ้ามาที่นี่ อย่าห่วงพะวงถึงทรัพย์สมบัติของพวกเจ้าที่นั่นเลย เพราะพวกเจ้าจะได้รับสิ่งของชั้นเยี่ยมต่างๆ นานาที่มีอยู่ในอียิปต์’ ” ดังนั้นบรรดาบุตรชายของอิสราเอลจึงทำตามนั้น โยเซฟจึงให้ขบวนเกวียนไปกับพวกเขาตามรับสั่งของฟาโรห์ และเขายังให้เสบียงไปกินตามทางด้วย เขาให้เสื้อผ้าใหม่กับพี่น้องทุกคน ส่วนเบนยามินได้รับเงิน 300 เชเขลและเสื้อผ้าห้าชุด และโยเซฟได้ส่งสิ่งของต่างๆ เหล่านี้ให้แก่บิดาของเขา คือลาสิบตัวบรรทุกสิ่งของชั้นเยี่ยมที่มีอยู่ในอียิปต์ และลาตัวเมียอีกสิบตัวบรรทุกข้าว ขนมปัง และเสบียงอื่นๆ ให้บิดาไว้กินตามทาง โยเซฟจึงส่งพวกพี่น้องออกเดินทางไป และก่อนจากกันโยเซฟพูดกับพวกเขาว่า “อย่าทะเลาะกันระหว่างทาง!” ดังนั้นพวกเขาจึงเดินทางออกจากอียิปต์กลับไปหายาโคบผู้เป็นบิดาที่คานาอัน พวกเขาบอกยาโคบว่า “โยเซฟยังมีชีวิตอยู่! จริงๆ แล้วเขาได้เป็นถึงผู้ปกครองอียิปต์ทั้งประเทศ” ยาโคบตะลึงงันและไม่เชื่อพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาได้เล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่โยเซฟได้พูดกับพวกเขาให้บิดาฟัง และเมื่อยาโคบเห็นขบวนเกวียนที่โยเซฟส่งมารับเขากลับไป จิตใจของยาโคบบิดาของพวกเขาก็ชุ่มชื่นขึ้น แล้วอิสราเอลก็พูดว่า “พอแล้ว! เราเชื่อแล้วว่าโยเซฟลูกของเรายังมีชีวิตอยู่ เราจะไปพบเขาก่อนเราตาย”
ปฐมกาล 45:13-28 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
พี่ไปเล่าให้พ่อเราฟังถึงความมั่งคั่งของเราที่อียิปต์ และทุกสิ่งที่ได้เห็นแล้ว รีบไปเถิด และพาพ่อของเราลงมาที่นี่” แล้วเขาก็ซบหน้าลงที่บ่าเบนยามินน้องชายของเขา และร้องไห้ เบนยามินก็กอดคอเขา และร้องไห้ เขาจูบแก้มพี่ชายทุกคน และร้องไห้ หลังจากนั้นพวกพี่ๆ ของเขาพูดคุยกับเขา เมื่อวังของฟาโรห์ทราบข่าวว่า “พี่น้องของโยเซฟมา” ฟาโรห์และผู้รับใช้ของท่านก็ยินดี และฟาโรห์พูดกับโยเซฟว่า “จงบอกพี่ๆ ของเจ้าว่า ‘จงทำตามนี้ ขนของขึ้นลากลับไปยังดินแดนคานาอัน พาบิดาและครอบครัวทั้งหมดของเจ้ามาหาเรา และเราจะให้ที่ดินผืนงามที่สุดในอียิปต์ และเจ้าจะได้ดื่มกินอย่างดีที่สุดในแผ่นดินนี้’ สั่งพวกเขาด้วยว่า ‘จงทำตามนี้คือ เอาเกวียนจากดินแดนอียิปต์ไปรับเด็กเล็กและพวกภรรยาของเจ้า และพาบิดาของเจ้ามา ไม่ต้องห่วงสมบัติของเจ้าเลย เพราะสิ่งดีๆ ทั้งหลายทั่วดินแดนอียิปต์เป็นของเจ้า’” บรรดาบุตรของอิสราเอลก็ทำตาม และโยเซฟให้เกวียนพวกเขาไป ตามคำสั่งของฟาโรห์ และให้อาหารไปกินระหว่างเดินทาง เขาให้เสื้อใหม่แก่ทุกคน คนละ 1 ชุด แต่เขาให้เงินหนัก 300 เชเขลและเสื้อใหม่ 5 ชุดแก่เบนยามิน ของที่เขาฝากไปให้บิดามี ลา 10 ตัวบรรทุกสิ่งดีๆ ของอียิปต์ ลาตัวเมียบรรทุกธัญพืช ขนมปังและอาหารสำหรับการเดินทางของบิดาของเขา เขาส่งพวกพี่น้องกลับไป และขณะที่กำลังออกเดินทางไป โยเซฟบอกพวกเขาว่า “อย่าทะเลาะกันระหว่างทาง” ดังนั้น พวกเขาเดินทางขึ้นไปจากอียิปต์ กลับมาหายาโคบบิดาของเขาที่ดินแดนคานาอัน พวกเขาบอกยาโคบว่า “โยเซฟยังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นผู้ปกครองทั่วทั้งอียิปต์” ยาโคบใจหายเพราะไม่เชื่อ แต่เมื่อเขาทั้งหลายเล่าทุกอย่างให้ยาโคบฟังตามที่โยเซฟกำชับ และเมื่อเห็นเกวียนที่โยเซฟได้ส่งมารับตัวไป จึงหายตกใจ และอิสราเอลพูดว่า “โยเซฟลูกชายของพ่อยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นก็พอแล้ว พ่อจะไปหาเขาก่อนพ่อตาย”