ปฐมกาล 39:7-23

ปฐมกาล 39:7-23 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

อยู่มาภายหลัง ภรรยาของนายจ้องมองโยเซฟ และชวนว่า “มานอนกับฉันเถิด” แต่ท่านปฏิเสธ และตอบกับภรรยาของนายว่า “คิดดูเถิด เมื่อมีข้าพเจ้า นายก็ไม่ได้ห่วงสิ่งใดซึ่งอยู่ในบ้านเรือน นายได้มอบของทุกอย่างที่มีอยู่ไว้ในมือข้าพเจ้า ในบ้านนี้นายก็ไม่ใหญ่กว่าข้าพเจ้า นายไม่ได้หวงสิ่งใดจากข้าพเจ้า เว้นแต่ตัวท่านเพราะเป็นภรรยาของนาย ข้าพเจ้าจะทำความชั่วร้ายใหญ่หลวงนี้ และทำบาปต่อพระเจ้าอย่างไรได้?” แม้นางชวนโยเซฟวันแล้ววันเล่า ท่านก็ไม่ยอมฟังนางคือที่จะไปนอนกับนางหรืออยู่ด้วยกันกับนาง วันหนึ่งท่านเข้าไปในบ้านเพื่อทำงานของท่าน ไม่มีชายประจำบ้านคนใดอยู่ในนั้น นางก็คว้าผ้าพันตัวของท่านไว้ แล้วพูดว่า “มานอนกับฉันเถิด” แต่ท่านทิ้งผ้าพันตัวไว้ในมือนาง หนีออกไปข้างนอก เมื่อนางเห็นว่าท่านทิ้งผ้าพันตัวไว้ในมือของนาง หนีไปข้างนอกแล้ว นางก็ร้องเรียกพวกผู้ชายประจำบ้านของนางมาบอกว่า “ดูซิ นายเอาคนฮีบรูมาเพื่อเหยียดหยามพวกเรา มันเข้ามาหาจะนอนกับฉัน แต่ฉันร้องเสียงดัง เมื่อมันได้ยินฉันส่งเสียงร้องขึ้น มันก็ทิ้งผ้าพันตัวไว้กับฉัน หนีออกไปข้างนอก” แล้วนางก็เก็บผ้าพันตัวไว้ใกล้ตัวจนนายของท่านกลับมาบ้าน แล้วนางก็บอกกับเขาดังนี้ “ทาสฮีบรูที่ท่านนำมาไว้นั้นเข้ามาหาจะเหยียดหยามฉัน เมื่อฉันส่งเสียงร้องขึ้น มันก็ทิ้งผ้าพันตัวไว้กับฉัน หนีออกไปข้างนอก” เมื่อนายของท่านได้ฟังคำบอกเล่าของภรรยาว่า “ทาสของท่านทำกับฉันดังนั้น” ก็โกรธนัก จึงเอาโยเซฟไปไว้ในคุกที่ขังนักโทษหลวง ท่านก็ถูกขังอยู่ที่นั่น แต่ว่าพระยาห์เวห์ทรงอยู่กับโยเซฟ ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อท่าน และทรงให้พัศดีโปรดปรานท่าน พัศดีก็มอบนักโทษทั้งหมดในเรือนจำไว้ในความดูแลของโยเซฟ การงานที่ทำในที่นั้นทุกอย่างโยเซฟเป็นผู้ทำ พัศดีไม่ต้องดูการงานทุกอย่างที่โยเซฟดูแล เพราะพระยาห์เวห์ทรงอยู่กับท่าน และพระยาห์เวห์ก็ทรงทำให้สิ่งที่ท่านทำนั้นสำเร็จ

ปฐมกาล 39:7-23 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

โยเซฟนั้นเป็นคนสวยหน้าตาคมคาย อยู่มาภายหลังภรรยาของนายมองดูโยเซฟด้วยความปฏิพัทธ์ และชวนว่า <<มานอนกับฉันเถิด>> แต่โยเซฟไม่ยอม จึงตอบแก่ภรรยาของนายว่า <<คิดดูเถิด เมื่อมีข้าพเจ้า นายก็มิได้ห่วงสิ่งใดซึ่งอยู่ในบ้านเรือน ได้มอบของทุกอย่างที่มีอยู่ไว้ในมือข้าพเจ้า ในบ้านนี้นายก็ไม่ใหญ่กว่าข้าพเจ้า นายมิได้หวงสิ่งใดจากข้าพเจ้า ยกเสียแต่ตัวท่านเพราะเป็นภรรยาของนาย ข้าพเจ้าจะทำความผิดใหญ่หลวงนี้อันเป็น บาปต่อพระเจ้าอย่างไรได้>> แม้นางชวนโยเซฟวันแล้ววันเล่า โยเซฟก็ไม่ยอมนอนกับนางหรืออยู่ด้วยกัน วันหนึ่งโยเซฟเข้าไปในบ้านเพื่อทำธุระการงานของเขา ไม่มีชายประจำบ้านคนใดอยู่ในนั้น นางก็คว้าเสื้อผ้าโยเซฟเหนี่ยวรั้งไว้ แล้วพูดว่า <<มานอนอยู่กับฉันเถิด>> แต่โยเซฟทิ้งเสื้อผ้าไว้ในมือนางหนีไปข้างนอก เมื่อนางเห็นว่าโยเซฟทิ้งเสื้อผ้าไว้ในมือของนาง หนีไปข้างนอกแล้ว นางก็ร้องเรียกชายประจำบ้านของตนมาบอกว่า <<ดูซิ นายเอาคนชาติฮีบรูมาไว้ทำความหยาบคายแก่เรา มันเข้ามาหาจะนอนกับฉัน แต่ฉันร้องเสียงดัง เมื่อมันได้ยินฉันร้องขึ้น มันก็ทิ้งเสื้อผ้าไว้กับฉันหนีไปข้างนอก>> แล้วนางก็เก็บเสื้อผ้าไว้ใกล้ตัวจนนายกลับมาบ้าน แล้วนางก็บอกกับนายดังนี้ว่า <<อ้ายบ่าวชาติฮีบรูที่ท่านนำมาไว้นั้น เข้ามาหาจะทำหยาบคายแก่ฉัน เมื่อฉันร้องขึ้น มันก็ทิ้งเสื้อผ้าไว้กับฉันหนีไปข้างนอก>> ครั้นนายได้ฟังคำภรรยาบอกว่า <<บ่าวของท่านทำกับฉันดังนั้น>> ก็โกรธนัก จึงเอาโยเซฟไปจำไว้ในคุกที่ที่ขังนักโทษหลวง โยเซฟก็ต้องจำอยู่ที่นั่น แต่ว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับโยเซฟ และทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่เขา ทรงโปรดให้พัศดีเมตตาปรานีเขา พัศดีก็มอบนักโทษทั้งปวงที่ในเรือนจำไว้ในความดูแล ของโยเซฟ การงานที่ทำในที่นั้นทุกอย่างโยเซฟเป็นผู้รับผิดชอบ พัศดีไม่ได้เอาใจใส่การงานใดๆที่โยเซฟดูแล เพราะเหตุพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับท่าน และการงานใดๆที่ท่านกระทำพระเจ้าก็ทรงโปรดให้เจริญ

ปฐมกาล 39:7-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ต่อมา​ภายหลัง เมีย​ของ​เจ้านาย​เริ่ม​ให้​ความ​สนใจ​ใน​ตัว​โยเซฟ นาง​พูด​ว่า “มา​ร่วม​หลับนอน​กับ​ฉัน​เถิด” แต่​โยเซฟ​ปฏิเสธ เขา​พูด​กับ​เมีย​ของ​เจ้านาย​ว่า “ดูเถิด กับ​ผม​แล้ว เจ้านาย​ไม่เคย​ต้อง​เป็น​ห่วง​กังวล​เกี่ยวกับ​เรื่อง​อะไร​เลย เขา​ได้​ตั้ง​ให้​ผม​ดูแล​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง ใน​บ้าน​หลัง​นี้​ไม่มี​ใคร​ใหญ่​กว่า​ผม​อีกแล้ว และ​เขา​ไม่เคย​ห้าม​อะไร​ผม​เลย ยกเว้น​ท่าน เพราะ​ท่าน​เป็น​เมีย​เขา จะ​ให้​ผม​ทำ​สิ่งชั่วร้าย​อย่าง​นี้ และ​ทำบาป​ต่อ​พระเจ้า​ได้​อย่างไร” นาง​ก็​พูด​ชักชวน​โยเซฟ​วัน​แล้ว​วันเล่า แต่​โยเซฟ​ไม่ยอม​ที่​จะ​ร่วม​หลับนอน​กับ​นาง อยู่​มา​วันหนึ่ง โยเซฟ​เข้า​มา​ทำงาน​ของเขา​ใน​บ้าน ตอนนั้น​ไม่มี​ใคร​อยู่​ใน​บ้าน​เลย​สัก​คน​เดียว ทันใดนั้น​เมีย​ของ​โปทิฟาร์​ก็​คว้า​เสื้อคลุม​ของเขา​ไว้​และ​พูด​ว่า “มา​ร่วม​หลับนอน​กับ​ฉัน​เถิด” โยเซฟ​จึง​สลัด​เสื้อ​ตัวนั้น​ทิ้ง​ติด​มือ​ของ​นาง และ​วิ่งหนี​ออก​ไป​ข้างนอก เมื่อ​นาง​เห็น​ว่า​โยเซฟ​ทิ้ง​เสื้อ​ไว้​ใน​มือ​นาง​และ​วิ่งหนี​ออก​ไป​ข้างนอก นาง​จึง​ร้องเรียก​คนใช้​ของ​นาง​และ​พูด​กับ​พวกเขา​ว่า “ดูสิ ผัว​ฉัน​เอา​ตัว​เจ้าคน​ฮีบรู​นั้น​มา​เพื่อ​ทำให้​พวกเรา​อับอาย​ชัดๆ เขา​เข้า​มาหา​ฉัน​และ​พยายาม​จะ​ปลุกปล้ำ​ฉัน แต่​ฉัน​ร้อง​ตะโกน​เสียงดัง เมื่อ​เขา​ได้ยิน​ฉัน​ร้อง​ตะโกน​เสียงดัง เขา​จึง​ทิ้ง​เสื้อเขา​ไว้​ข้างฉัน​และ​วิ่งหนี​ไป​ข้างนอก” แล้ว​นาง​ก็​เก็บ​เสื้อ​ของเขา​ไว้​กับ​ตัว จน​ผัวนาง​กลับ​มา​บ้าน นาง​ก็​เล่า​เรื่อง​เดิม​ให้​เขา​ฟัง​อีก “เจ้า​คนใช้​ชาว​ฮีบรู​คนนั้น คน​ที่​ท่าน​นำ​ตัว​มา เขา​เข้า​มา​จะ​ลวนลาม​ฉัน แต่​เมื่อ​ฉัน​ตะโกน​ร้อง​ให้​ช่วย​เสียงดัง เขา​จึง​ทิ้ง​เสื้อ​เขา​ไว้​กับ​ฉัน​และ​วิ่งหนี​ไป​ข้างนอก” เมื่อ​เจ้านาย​ของเขา​ได้ยิน​เรื่อง​ที่​เมีย​ของเขา​เล่า​ให้​ฟัง​ที่ว่า นี่คือ​สิ่ง​ที่​คนใช้​ของ​ท่าน​ทำกับ​ฉัน เขา​โกรธ​มาก เจ้านาย​ของ​โยเซฟ​ก็​จับ​โยเซฟ​ไป​ขัง​ไว้​ใน​คุก​ที่​ใช้​ขัง​พวก​นักโทษ​ของ​กษัตริย์ โยเซฟ​จึง​ถูก​ขัง​อยู่​ที่นั่น แต่​พระยาห์เวห์​สถิต​กับ​โยเซฟ พระองค์​แสดง​ความ​เอ็นดู​เขา​โดย​ทำ​ให้​หัวหน้า​ผู้ดูแล​คุก​นั้น​ชอบ​โยเซฟ เขา​ก็​ตั้ง​โยเซฟ​ให้​เป็น​ผู้ดูแล​นักโทษ​ทั้งหมด​ใน​คุก​แห่งนั้น และ​โยเซฟ​ได้​เป็น​คน​สั่งงาน​ทุกอย่าง​ภายใน​คุก​แห่งนั้น งาน​อะไร​ก็​แล้วแต่​ที่​โยเซฟ​ดูแล​อยู่ หัวหน้า​คุก​ก็​ปล่อย​ได้เลย ไม่ต้อง​สนใจ เพราะ​พระยาห์เวห์​สถิต​กับ​โยเซฟ และ​พระองค์​ทำ​ให้​ทุกอย่าง​ที่​โยเซฟ​ทำ​ประสบ​ผลสำเร็จ

ปฐมกาล 39:7-23 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

อยู่​มาภายหลังเหตุ​การณ์​เหล่านี้​ภรรยาของนายมองดูโยเซฟด้วยความเสน่หาและชวนว่า “มานอนกับเราเถิด” แต่​โยเซฟไม่​ยอม จึงตอบแก่ภรรยาของนายว่า “​คิดดู​เถิด นายก​็​มิได้​ห่วงสิ่งใดซึ่งอยู่ในบ้านเรือน ได้​มอบของทุกอย่างที่​มี​อยู่​ไว้​ในมือข้าพเจ้า ในบ้านนี้​ไม่มี​ใครใหญ่กว่าข้าพเจ้า นายมิ​ได้​หวงสิ่งใดจากข้าพเจ้า ยกเสียแต่ตั​วท​่านเพราะเป็นภรรยาของนาย ข้าพเจ้าจะทำความผิดใหญ่หลวงนี้อันเป็นบาปต่อพระเจ้าอย่างไรได้” ต่อมาแม้นางชวนโยเซฟวันแล้​วว​ันเล่า โยเซฟก็​ไม่​ยอมฟังนาง ไม่​ว่าจะนอนกับนางหรืออยู่​ด้วยกัน อยู่​มาคราวนั้นโยเซฟเข้าไปในบ้านเพื่อทำธุระการงานของเขา ไม่มี​ชายประจำบ้านคนใดอยู่​นั้น นางก็คว้าเสื้อผ้าโยเซฟเหนี่ยวรั้งไว้ แล​้วพูดว่า “มานอนอยู่กับเราเถิด” แต่​โยเซฟทิ้งเสื้อผ้าไว้ในมือนางหนีไปข้างนอก ต่อมาเมื่อนางเห็​นว​่าโยเซฟทิ้งเสื้อผ้าไว้ในมือของนาง หนี​ไปข้างนอกแล้ว นางก็ร้องเรียกชายประจำบ้านของตนมาบอกว่า “​ดู​ซิ นายเอาคนชาติ​ฮี​บรูมาไว้ทำความหยาบคายแก่​เรา มันเข้ามาหาจะนอนกับข้า แต่​ข้าร้องเสียงดัง อยู่​มาเมื่​อม​ันได้ยินข้าร้องขึ้น มั​นก​็ทิ้งเสื้อผ้าไว้กับข้าหนีไปข้างนอก” แล​้วนางก็​เก​็บเสื้อผ้าไว้​ใกล้​ตัวจนนายกลับมาบ้าน แล​้วนางก็บอกกับนายดังนี้​ว่า “อ้ายบ่าวชาติ​ฮี​บรู​ที่​ท่านนำมาไว้นั้นเข้ามาหาจะทำหยาบคายแก่​ข้าพเจ้า ต่อมาเมื่อข้าพเจ้าร้องขึ้​นม​ั​นก​็ทิ้งเสื้อผ้าไว้กับข้าพเจ้าหนีไปข้างนอก” ต่อมาครั้นนายได้ฟังคำภรรยาบอกว่า “บ่าวของท่านทำกับข้าพเจ้าดังนั้น” ก็​โกรธนัก จึงเอาโยเซฟไปจำไว้ในคุกที่​ที่​ขังนักโทษหลวง โยเซฟก็ต้องจำอยู่​ที่นั่น แต่​ว่าพระเยโฮวาห์ทรงสถิตอยู่กับโยเซฟ และทรงสำแดงพระเมตตาแก่​เขา ทรงให้เขาเป็​นที​่โปรดปรานในสายตาของผู้​คุ​มเรือนจำ ผู้​คุ​มเรือนจำก็มอบนักโทษทั้งปวงที่ในเรือนจำไว้ในความดูแลของโยเซฟ การงานที่ทำในที่นั้นทุกอย่างโยเซฟเป็นผู้​กระทำ ผู้​คุ​มเรือนจำไม่​ได้​เอาใจใส่​การงานใดๆที่โยเซฟดู​แล เพราะเหตุพระเยโฮวาห์ทรงสถิตอยู่กั​บท​่าน และการงานใดๆที่ท่านกระทำพระเยโฮวาห์​ก็​ทรงโปรดให้​เจริญ

ปฐมกาล 39:7-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

จากนั้นไม่นานภรรยาของเจ้านายจ้องมองโยเซฟตาเป็นมัน นางจึงชวนเขาว่า “มานอนกับฉันสิ!” แต่โยเซฟปฏิเสธและกล่าวกับนางว่า “ภายใต้การดูแลของข้า นายไม่ต้องรับรู้เรื่องใดในบ้านเลย ทุกสิ่งที่นายมีอยู่ นายก็มอบให้ข้าจัดการ ในบ้านนี้ไม่มีใครใหญ่เกินข้า เจ้านายของข้าไม่หวงสิ่งใดกับข้านอกจากท่าน เพราะท่านเป็นภรรยาของนาย ข้าจะทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้และทำบาปต่อพระเจ้าได้อย่างไร?” แม้นางชวนโยเซฟวันแล้ววันเล่า เขาก็ปฏิเสธที่จะหลับนอนกับนางหรือแม้แต่จะอยู่ใกล้นาง วันหนึ่งขณะที่โยเซฟเข้าไปในบ้านเพื่อทำงานตามหน้าที่ของเขา ขณะนั้นไม่มีคนรับใช้อื่นๆ อยู่ในบ้านเลย ภรรยาของโปทิฟาร์เข้ามากระชากเสื้อของโยเซฟไว้แล้วบอกว่า “มานอนกับฉันเถิด!” แต่เขาทิ้งเสื้อไว้ในมือของนางแล้ววิ่งหนีออกไปนอกบ้าน เมื่อนางเห็นว่าเสื้อของโยเซฟอยู่ในมือ และตัวเขาวิ่งออกไปนอกบ้านแล้ว นางจึงเรียกคนรับใช้คนอื่นๆ ในบ้านมาและกล่าวว่า “ดูสิ สามีฉันนำเจ้าฮีบรูคนนี้มาหยามพวกเรา มันเข้ามาที่นี่และจะหลับนอนกับข้า แต่ข้ากรีดร้องขึ้น เมื่อมันได้ยินข้าร้องขอความช่วยเหลือ มันจึงทิ้งเสื้อไว้ข้างตัวข้าแล้ววิ่งหนีออกจากบ้านไป” นางเก็บเสื้อตัวนั้นไว้จนกระทั่งสามีกลับมาบ้าน แล้วนางจึงเล่าเรื่องนี้ให้สามีฟังว่า “เจ้าฮีบรูคนนั้นที่ท่านนำมาให้พวกเราจะเข้ามาหยามข้า แต่ทันทีที่ข้ากรีดร้องขอความช่วยเหลือ มันจึงทิ้งเสื้อไว้ข้างตัวข้าแล้ววิ่งหนีออกจากบ้านไป” เมื่อเจ้านายของโยเซฟได้ยินเรื่องนี้จากภรรยาของเขาซึ่งกล่าวว่า “นี่เป็นสิ่งที่ทาสของท่านทำกับข้า” เขาจึงโกรธจัด และเจ้านายนำโยเซฟมาขังไว้ในคุกหลวง แต่ขณะที่โยเซฟถูกขังอยู่ในคุกนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟ ทรงกรุณาเขา และทำให้โยเซฟเป็นที่โปรดปรานในสายตาของพัศดี ดังนั้นพัศดีจึงตั้งให้โยเซฟเป็นผู้ดูแลนักโทษทุกคน และให้เขารับผิดชอบงานทุกอย่างในคุก พัศดีผู้นั้นไม่ต้องใส่ใจต่อสิ่งใดๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของโยเซฟ เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟและประทานความสำเร็จในทุกสิ่งที่เขาทำ

ปฐมกาล 39:7-23 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ไม่​นาน​ต่อ​มา​ภรรยา​ของ​เจ้านาย​มอง​โยเซฟ​ด้วย​ความ​พิศวาส และ​พูด​ว่า “มา​นอน​กับ​ฉัน​เถิด” แต่​เขา​ปฏิเสธ​และ​พูด​กับ​ภรรยา​เจ้านาย​ว่า “โปรด​ฟัง เจ้านาย​ของ​ข้าพเจ้า​ไม่​ต้อง​กังวล​กับ​เรื่อง​ใดๆ ใน​บ้าน​เรือน​ก็​เพราะ​ข้าพเจ้า​อยู่​ที่​นี่ ท่าน​ให้​ข้าพเจ้า​ดูแล​ทุก​สิ่ง​ที่​ท่าน​มี ไม่​มี​ใคร​ใน​บ้าน​นี้​ที่​มี​ความ​รับ​ผิดชอบ​เกิน​กว่า​ข้าพเจ้า และ​ท่าน​ไม่​เคย​หวง​ห้าม​สิ่ง​ใด​ที่​เป็น​ของ​ท่าน ยกเว้น​ตัว​ท่าน​เท่า​นั้น เพราะ​ท่าน​เป็น​ภรรยา​ของ​นาย ข้าพเจ้า​จะ​กระทำ​ความ​เลว​อัน​ใหญ่​หลวง​นี้ และ​กระทำ​บาป​ต่อ​พระ​เจ้า​ได้​อย่างไร” และ​แม้ว่า​นาง​จะ​พูด​กับ​โยเซฟ​วัน​แล้ว​วัน​เล่า เขา​ก็​ปฏิเสธ​ที่​จะ​ข้อง​เกี่ยว​กับ​นาง​หรือ​ใกล้​ชิด​กับ​นาง อยู่​มา​วัน​หนึ่ง​โยเซฟ​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​เรื่อง​การงาน ไม่​มี​ผู้​รับใช้​ชาย​อยู่​ใน​บ้าน​สัก​คน​เดียว นาง​ได้​คว้า​ผ้า​ชิ้น​หนึ่ง​ที่​เขา​สวม​อยู่ พลาง​พูด​ว่า “มา​นอน​กับ​ฉัน​เถิด” แต่​เขา​ทิ้ง​ผ้า​ที่​อยู่​ใน​มือ​นาง​ไว้​และ​รีบ​หนี​ออก​ไป​นอก​บ้าน เมื่อ​นาง​เห็น​ว่า​เขา​ได้​ทิ้ง​ผ้า​ที่​อยู่​ใน​มือ​นาง​ไว้ และ​รีบ​หนี​ออก​ไป​นอก​บ้าน นาง​จึง​เรียก​ผู้​รับใช้​ชาย​ทั้ง​หลาย​ให้​มา​หา​และ​พูด​ว่า “ดู​สิ สามี​ฉัน​พา​คน​ฮีบรู​มา​ดูถูก​พวก​เรา เขา​เข้า​มา​หา​ฉัน​เพื่อ​จะ​นอน​กับ​ฉัน แต่​ฉัน​ตะโกน​ดัง​ลั่น เมื่อ​เขา​ได้ยิน​ฉัน​ส่งเสียง​ร้อง​และ​ตะโกน เขา​เลย​ทิ้ง​ผ้า​ของ​เขา​ไว้​กับ​ฉัน แล้ว​รีบ​หนี​ออก​ไป​นอก​บ้าน” แล้ว​นาง​ก็​วาง​ผ้า​ชิ้น​นั้น​ไว้​ข้าง​นาง​กระทั่ง​นาย​กลับ​มา​บ้าน นาง​เล่า​เรื่อง​เหมือน​เดิม​ว่า “ผู้​รับใช้​ชาว​ฮีบรู​ที่​ท่าน​พา​มา​อยู่​กับ​พวก​เรา เขา​ได้​เข้า​มา​หา​ฉัน​ซึ่ง​แสดง​ถึง​การ​สบประมาท​ฉัน แต่​ทันที​ที่​ฉัน​ส่งเสียง​ร้อง​ตะโกน เขา​เลย​ทิ้ง​ผ้า​ของ​เขา​ไว้​กับ​ฉัน แล้ว​รีบ​หนี​ออก​ไป​นอก​บ้าน” เมื่อ​นาย​ของ​เขา​ได้ยิน​คำ​พูด​ที่​ภรรยา​เล่า​ถึง​โยเซฟ​ว่า “นี่​เป็น​วิธี​ที่​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​ปฏิบัติ​ต่อ​ฉัน” เขา​ก็​โกรธ​มาก นาย​ของ​โยเซฟ​จึง​จับ​ตัว​เขา​เข้า​คุก ที่​ที่​นักโทษ​หลวง​ถูก​จำขัง เขา​ต้อง​อยู่​ที่​นั่น แต่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​สถิต​กับ​โยเซฟ​และ​แสดง​ให้​เห็น​ความ​รัก​อัน​มั่นคง​ของ​พระ​องค์ ให้​พัศดี​โปรดปราน​เขา พัศดี​ให้​นักโทษ​ทุก​คน​ใน​เรือนจำ​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ควบคุม​ของ​โยเซฟ และ​โยเซฟ​รับ​ผิดชอบ​ทุก​อย่าง​ที่​นั่น พัศดี​ไม่​กังวล​ใน​สิ่ง​ใด​ที่​โยเซฟ​ควบคุม เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​สถิต​กับ​เขา และ​พระ​องค์​ให้​ทุก​สิ่ง​ที่​เขา​ปฏิบัติ​บังเกิด​ผล​ดี