ปฐมกาล 34:1-30

ปฐมกาล 34:1-30 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ฝ่ายดีนาห์บุตรีของยาโคบกับเลอาห์นั้นออกไปหาผู้หญิงในถิ่นนั้น เมื่อเชเคมบุตรชายฮาโมร์คนฮีไวต์ผู้เป็นเจ้านายดินแดนนั้นเห็นดีนาห์ ก็เอาไปหลับนอนข่มขืนเธอ จิตใจของเชเคมก็ผูกพันอยู่กับดีนาห์บุตรียาโคบ เขารักเธอ พูดจาเอาใจเธอ เชเคมจึงพูดกับฮาโมร์บิดาว่า “ขอหญิงสาวนี้ให้เป็นภรรยาของลูก” ยาโคบได้ข่าวว่าผู้นั้นทำลายความบริสุทธิ์ของดีนาห์บุตรีของท่าน แต่พวกบุตรของท่านอยู่กับฝูงปศุสัตว์ที่ในทุ่ง ยาโคบจึงนิ่งคอยให้พวกเขากลับมาบ้าน ฮาโมร์บิดาของเชเคมก็ไปหายาโคบเพื่อพูดคุยกับท่าน เมื่อพวกบุตรของยาโคบได้ยินข่าวก็กลับมาจากทุ่ง ต่างก็ทุกข์ใจและโกรธมากที่เขาเหยียดหยามพวกอิสราเอล โดยข่มขืนบุตรีของยาโคบ ซึ่งเป็นสิ่งไม่สมควรทำ ฮาโมร์พูดกับพวกเขาว่า “จิตใจเชเคมลูกชายของเรานี้ผูกพันรักใคร่ลูกสาวของท่านมาก ขอให้นางเป็นภรรยาของเขาเถิด และเชิญพวกท่านทำการสมรสกับพวกเรา ยกบุตรีของท่านให้พวกเรา และรับบุตรีของเราให้พวกท่าน พวกท่านจะได้อยู่กับพวกเรา และดินแดนนี้ก็อยู่ตรงหน้าท่าน เชิญอาศัยและค้าขาย และครอบครองสมบัติในดินแดนนี้” เชเคมบอกบิดาและพวกพี่ชายของหญิงนั้นว่า “ขอท่านกรุณาข้าพเจ้าเถิด ท่านจะเรียกเท่าไรข้าพเจ้าก็จะให้ ท่านจะเอาเงินสินสอดและของขวัญมากสักเท่าไร ข้าพเจ้าจะให้ตามที่พวกท่านบอก แต่ขอยกหญิงนั้นเป็นภรรยาข้าพเจ้า” เพราะเหตุที่เชเคมทำลายความบริสุทธิ์ของดีนาห์น้องสาว บุตรชายของยาโคบจึงหลอกเชเคม และฮาโมร์บิดาของเชเคม โดยตอบว่า “เราไม่สามารถทำอย่างนี้ คือที่จะยกน้องสาวของเราให้แก่คนที่ยังไม่ได้เข้าสุหนัต จะเป็นที่อับอายขายหน้าแก่เรา เราจะยอมก็ต่อเมื่อท่านถือตามเรา คือยอมเหมือนพวกเรา โดยให้ผู้ชายทุกคนเข้าสุหนัต เราจึงจะยอมยกบุตรีของเราให้แก่พวกท่าน และจะรับบุตรีของพวกท่านเป็นภรรยาของพวกเรา และเราจะอยู่กับท่านเป็นชนชาติเดียวกัน แต่หากว่าท่านทั้งหลายไม่ฟังคำเรา ไม่เข้าสุหนัต เราจะเอาบุตรีของเราไปเสีย” ถ้อยคำของพวกเขาเป็นที่พอใจฮาโมร์และเชเคมบุตรชายของฮาโมร์ หนุ่มคนนั้นไม่รีรอที่จะทำตามเพราะเขาชอบบุตรีของยาโคบ เขาเป็นคนมีเกียรติมากกว่าใครๆ ในครอบครัวของบิดา ฮาโมร์กับเชเคมบุตรชายจึงออกไปที่ประตูเมืองบอกชาวเมืองว่า “คนเหล่านี้เป็นมิตรกับพวกเรา ให้เขาอาศัยและค้าขายในดินแดนนี้ เพราะดินแดนนี้กว้างขวางพอให้เขาอยู่ได้ ให้เรารับบุตรีของเขาเป็นภรรยาพวกเรา และยกบุตรีของเราให้เขา พวกเขาจะยอมอยู่เป็นชนชาติเดียวกับเราได้ตามข้อตกลงนี้เท่านั้น คือพวกเราที่เป็นชายทุกคนจะเข้าสุหนัตเหมือนเขา ฝูงปศุสัตว์และทรัพย์สมบัติของพวกเขา กับสัตว์ใช้งานอื่นๆ ทั้งสิ้นของพวกเขาก็จะเป็นของเราด้วยไม่ใช่หรือ? ขอแต่ให้เรายอมทำตามพวกเขา พวกเขาก็จะอยู่กับเรา” ทุกคนที่ออกไปที่ประตูเมืองก็เห็นชอบกับฮาโมร์และเชเคม ชายทุกคนก็เข้าสุหนัตคือทุกคนที่ออกไปที่ประตูเมือง เมื่ออยู่มาถึงวันที่สาม คนเหล่านั้นกำลังเจ็บอยู่ บุตรชายสองคนของยาโคบชื่อ สิเมโอนและเลวี เป็นพี่ชายของดีนาห์ ก็ถือดาบเข้าไปในเมืองที่ไม่มีการป้องกัน ฆ่าผู้ชายในเมืองทุกคน พวกเขาฆ่าฮาโมร์และเชเคมบุตรชายเสียด้วยดาบ และพาดีนาห์ออกจากบ้านเชเคมไป บรรดาบุตรคนอื่นของยาโคบเข้าไปที่คนตาย และปล้นเมืองนั้น เพราะคนเมืองนั้นทำลายความบริสุทธิ์ของน้องสาว พวกเขาเอาฝูงแพะแกะ ฝูงโค ฝูงลา และข้าวของในเมืองและในนาไป เอาทรัพย์สมบัติทั้งหมดไป และจับบุตรภรรยาของคนเหล่านั้นทั้งหมดไปเป็นเชลย และริบของในบ้านไปเสียทั้งสิ้น ฝ่ายยาโคบจึงพูดกับสิเมโอนและเลวีว่า “เจ้าทำให้พ่อเดือดร้อน โดยทำให้พ่อเป็นที่เกลียดชังของคนดินแดนนี้ คือคนคานาอันกับคนเปริสซี พ่อมีผู้คนน้อยนัก ถ้าพวกนั้นรุมโจมตีพ่อ ก็จะทำให้พ่อและครอบครัวถูกทำลาย”

ปฐมกาล 34:1-30 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ดีนาห์ ลูกสาว​ของ​เลอาห์​และ​ยาโคบ ได้​ออก​ไป​เยี่ยมเยียน​ผู้หญิง​ใน​แคว้นนั้น เชเคม​ลูกชาย​ของ​ฮาโมร์​คน​ฮีไวต์​ซึ่ง​เป็น​เจ้าชาย​ของ​แคว้นนั้น เห็น​ดีนาห์ ก็​จับ​นาง​ไป​ข่มขืน แต่​เชเคม​รู้สึก​ผูกพัน​อย่าง​ลึกซึ้ง​กับ​ดีนาห์ ลูก​ของ​ยาโคบ และ​เขา​หลงรัก​นาง เขา​พยายาม​พูด​อ่อนหวาน​กับ​นาง เพื่อ​จะ​ชนะ​ใจ​นาง เชเคม​พูด​กับ​ฮาโมร์​พ่อ​ของเขา​ว่า “ขอ​หญิง​คนนี้​ให้​มา​เป็น​เมีย​ลูก​ด้วย​เถิด” เมื่อ​ยาโคบ​รู้​เรื่อง​ที่​เชเคม​ทำร้าย​ข่มขืน​ดีนาห์​ลูกสาว​ของเขา ตอนนั้น​พวกลูกๆ​ของเขา​ยัง​ดูแล​ฝูงวัว​อยู่​ใน​ทุ่ง ยาโคบ​จึง​รอ​จน​พวกเขา​กลับ​มา ฮาโมร์​พ่อ​ของ​เชเคม​มา​พบ​ยาโคบ​เพื่อ​ขอ​เจรจา เป็น​เวลา​เดียว​กับ​ที่​พวกลูกชาย​ของ​ยาโคบ​กลับ​มา​จาก​ทุ่ง เมื่อ​พวกเขา​รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น พวกเขา​ก็​โมโห​เดือดดาล​มาก เพราะ​เชเคม​ได้​ทำ​สิ่ง​ชั่วช้า​ใน​อิสราเอล โดย​นอน​กับ​ลูกสาว​ของ​ยาโคบ ซึ่ง​ไม่ควร​จะ​เกิดขึ้น ฮาโมร์​พูด​กับ​พวกเขา​ว่า “เชเคม​ลูกชาย​ของ​เรา​หลงรัก​ลูกสาว​ของท่าน โปรด​ยก​ลูกสาว​ท่าน​ให้​เป็น​เมีย​เขา​ด้วย​เถิด การแต่งงานนี้​จะ​เป็น​เครื่อง​ผูกมิตร​กัน พวกท่าน​ยก​ลูกสาว​ให้​กับ​พวกเรา และ​รับ​ลูกสาว​ของ​พวกเรา​ไป​ให้​กับ​พวกท่าน พวกท่าน​มา​ตั้ง​หลักแหล่ง​ร่วมกับ​เรา​ที่​นี่​ก็ได้ ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน​นี้​ยินดี​ต้อนรับ​ท่าน เข้า​มา​ตั้ง​ถิ่นฐาน​และ​ทำมา​หากิน และ​ครอบ​ครอง​ที่ดิน​ที่​นี่” เชเคม​พูด​กับ​พ่อ​ของ​ดีนาห์​และ​พี่น้อง​ของนาง​ว่า “ขอ​ให้​ยอมรับ​ผม​ด้วย และ​ผม​จะ​ให้​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ที่​ท่าน​ขอ เรียก​สินสอด​และ​ของขวัญ​แต่งงาน​แพงๆ​ก็ได้ ผม​จะ​จ่าย​ให้​ตาม​ที่​ท่าน​บอก ขอ​เพียง​ยก​นาง​ให้​เป็น​เมีย​ผม” พวกลูกชาย​ของ​ยาโคบ​ออก​อุบาย​เพื่อ​แก้แค้น​เชเคม​กับ​ฮาโมร์​พ่อ​ของ​เชเคม เพราะ​เชเคม​ไป​ข่มขืน​ดีนาห์​น้องสาว​ของ​พวกเขา พวกเขา​บอก​ว่า “พวกเรา​ไม่​สามารถ​ยก​น้องสาว​ของ​เรา​ให้​กับ​ชาย​ที่​ยัง​ไม่​ผ่าน​การขลิบ เพราะ​มัน​เป็น​เรื่อง​เสื่อม​เสีย​สำหรับ​พวกเรา ตาม​เงื่อนไข​นี้​เท่านั้น เรา​ถึง​จะ​ยอม​ตกลง​กับ​ท่าน คือ​ถ้า​ท่าน​จะ​เป็น​เหมือน​พวกเรา ต้อง​ขลิบ​ผู้ชาย​ทุกคน แล้ว​เรา​จะ​ยอม​ยก​ลูกสาว​ของ​พวกเรา​ให้​ท่าน และ​จะ​ยอมรับ​ลูกสาว​ของ​ท่าน​มา​อยู่​กับ​พวกเรา และ​เรา​จะ​ตั้ง​ถิ่นฐาน​ที่นี่​กับ​ท่าน เป็น​พวกเดียว​กับ​ท่าน แต่​ถ้า​พวกท่าน​ไม่ยอม​ฟัง​เรา​และ​ไม่ยอม​ขลิบ เรา​จะ​เอา​ตัวดีนาห์​และ​ไป​จาก​ที่นี่” สิ่ง​ที่​พวกเขา​บอกนั้น สร้าง​ความ​พอใจ​ให้​ฮาโมร์​และ​ลูกชาย​เป็น​อย่าง​มาก เชเคม​จึง​ไม่ได้​ลังเล​ที่​จะ​ทำตาม​ที่​พวกเขา​บอก เพราะ​เขา​หลงรัก​ลูกสาว​ยาโคบ​มาก ขณะนั้น เชเคม​เป็น​ผู้ที่​คน​ให้​ความ​เคารพ​นับถือ​มากที่สุด​ใน​บ้าน​ของ​พ่อ​เขา ฮาโมร์​และ​เชเคม​ลูกชาย​ไป​ที่​ประตู​เมือง พวกเขา​พูด​กับ​ผู้ชาย​ใน​เมือง​ของเขา​ว่า “คน​เหล่านี้​เป็น​มิตร​กับ​เรา ให้​พวกเขา​ตั้ง​ถิ่นฐาน​อยู่​ใน​ดินแดนนี้ และ​ทำมา​หากิน​กัน ดูสิ แผ่นดินนี้​กว้างใหญ่​พอ​สำหรับ​พวกเขา เรา​จะ​ได้​ลูกสาว​ของ​พวกเขา​มา​เป็น​เมีย​พวกเรา และ​เรา​จะ​ยก​ลูกสาว​พวกเรา​ให้​กับ​พวกเขา แต่​มี​เงื่อนไข​หนึ่ง ที่​พวกเรา​จะ​ต้อง​ทำ คน​พวกนี้​ถึง​จะ​ตกลง​อยู่​กับ​เรา​และ​เป็น​พวกเดียว​กับ​เรา คือ​ผู้ชาย​ทุกคน​ใน​เมืองนี้​จะ​ต้อง​ขลิบ​เหมือนกับ​ที่​พวกเขา​ขลิบ แล้ว​ฝูงวัว ทรัพย์​สมบัติ​ทั้งหมด และ​สัตว์เลี้ยง​ทั้งหมด​ของ​พวกเขา ก็​จะ​ตก​เป็น​ของ​พวกเรา​อย่าง​แน่นอน เพียงแต่​ให้​พวกเรา​ตกลง​ทำตาม​เงื่อนไข​พวกเขา​เท่านั้น แล้ว​พวกเขา​ถึง​จะ​ยอม​อยู่​ที่นี่​กับ​เรา” ทุกคน​ที่​อยู่​ที่​ประตู​เมือง​นั้น​ยอมฟัง​ฮาโมร์​และ​เชเคม​ลูกชาย​ของเขา ดังนั้น​ผู้ชาย​ทุกคน​ใน​เมืองนั้น​จึง​ขลิบ​หนัง​หุ้ม​ปลาย​อวัยวะเพศ​กัน ใน​วันที่​สาม ขณะที่​พวก​ผู้ชาย​ใน​เมือง​ยัง​เจ็บ​แผล​อยู่ ลูกชาย​สอง​คน​ของ​ยาโคบ คือ​สิเมโอน​และ​เลวี พี่ชาย​ของ​ดีนาห์ ต่าง​ถือ​ดาบ​เข้า​ไป​บุก​ใน​เมือง​และ​ลงมือ​ฆ่าฟัน​ผู้ชาย​ทุกคน พวกเขา​ฆ่า​ฮาโมร์​กับ​เชเคม​ด้วย และ​พา​ตัว​ดีนาห์​ออก​มา​จาก​บ้าน​ของ​เชเคม​และ​จากไป แล้ว​พวกลูกชาย​คนอื่นๆ​ของ​ยาโคบ​ก็​เข้าไป​ใน​เมือง​และ​ขโมย​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ในนั้น เพราะ​เชเคม​ได้​ข่มขืน​น้องสาว​ของเขา พวกเขา​เอา​ฝูงแพะแกะ ฝูงวัว ฝูงลา​ของ​คนพวกนั้น ทุกอย่าง​ที่​อยู่​ใน​เมือง​และ​ใน​ท้องทุ่ง ทั้ง​ทรัพย์​สมบัติ ผู้หญิง​และ​เด็กๆ รวมทั้ง​ทุกอย่าง​ที่​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​พวกเขา เอา​ไป​จน​หมดสิ้น แล้ว​ยาโคบ​ก็​พูด​กับ​สิเมโอน​และ​เลวี​ว่า “พวกเจ้า​สร้าง​ปัญหา​ให้​กับ​พ่อ​เสียแล้ว พวกเจ้า​จะ​ทำให้​พ่อ​ถูก​คน​ที่นี่​เหม็นขี้หน้า ทั้ง​พวก​คานาอัน​และ​เปริสซี พ่อ​มี​คน​อยู่​น้อย​มาก และ​คน​ที่นี่​อาจ​รวมตัว​กัน​ต่อต้าน​และ​โจมตี​พ่อ​ได้ เมื่อ​ถึง​เวลานั้น​พ่อ​และ​ครอบครัว​ของ​พ่อ​ก็​จะ​ถูก​ทำลาย”

ปฐมกาล 34:1-30 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ฝ่ายดีนาห์​บุ​ตรสาวของนางเลอาห์ซึ่งนางบังเกิดให้กับยาโคบนั้นออกไปเยี่ยมผู้หญิงในแผ่นดินนั้น เมื่อเชเคมบุตรชายฮาโมร์คนฮีไวต์​ผู้​เป็นเจ้าเมืองเห็นนางสาวดีนาห์ เขาก็เอานางไปหลับนอนและทำอนาจารต่อนาง จิ​ตใจของเชเคมก็ผูกพันอยู่กับนางสาวดีนาห์​บุ​ตรสาวยาโคบ และเขารักนางพูดจาเล้าโลมเอาใจนาง เชเคมจึงพู​ดก​ับฮาโมร์​บิ​ดาของตนว่า “จงขอหญิงสาวนี้​ให้​เป็นภรรยาข้าพเจ้าเถิด” ยาโคบได้ยินข่าวว่าผู้นั้นทำการอนาจารกับนางสาวดีนาห์​บุ​ตรสาวของตน เวลานั้นพวกบุตรชายของท่านอยู่กับฝูงสัตวที่ในนา ยาโคบจึงนิ่งคอยจนพวกบุตรชายกลับมาบ้าน ฮาโมร์​บิ​ดาของเชเคมก็ไปหายาโคบเพื่อปรึกษากั​บท​่าน เมื่อพวกบุตรชายของยาโคบได้ยินข่าวนั้​นก​็​กล​ับมาจากนา ต่างก็โศกเศร้าและโกรธยิ่งนักเพราะเชเคมได้กระทำความโง่เขลาในพวกอิสราเอล โดยข่มขืนบุตรสาวของยาโคบ ซึ่งเป็นการไม่​สมควร ฮาโมร์​ก็​ปรึกษากับพวกเขาว่า “​จิ​ตใจเชเคมบุตรชายของเรานี้ผูกพั​นร​ักใคร่​บุ​ตรสาวของท่านมาก ขอหญิงนั้นเป็นภรรยาบุตรชายของเราเถิด และเชิญพวกท่านจงทำการสมรสกับพวกเรา ยกบุตรสาวของท่านให้​พวกเรา และรับบุตรสาวของเราให้พวกท่าน ท่านทั้งหลายจะได้​อยู่​กับพวกเรา แผ่​นดินนี้จะอยู่ตรงหน้าท่าน จงอาศัยเป็​นที​่ค้าขายและจงได้​สมบัติ​มากในแผ่นดินนี้” เชเคมบอกบิดาและพวกพี่ชายของหญิงนั้​นว​่า “จงเห็นแก่ข้าพเจ้าเถิด และท่านจะเรียกเท่าไร ข้าพเจ้าก็จะให้ ท่านจะเอาเงินสินสอดและของขวัญสักเท่าไรก็​ตามใจ ท่านจะเรียกเท่าไร ข้าพเจ้าจะให้ แต่​ขอยกหญิงนั้นเป็นภรรยาข้าพเจ้า” ฝ่ายบุตรชายของยาโคบก็ตอบแก่เชเคมและฮาโมร์​บิ​ดาของเชเคมเป็นกลอุ​บาย เพราะเหตุเขาทำอนาจารแก่นางสาวดีนาห์น้องสาวนั้น จึงกล่าวว่า โดยบอกเขาว่า “เราทำสิ่งนี้​ไม่ได้ คือยกน้องสาวของเราให้​แก่​คนที​่ยังไม่​ได้​เข​้าสุ​หน​ั​ตน​ั้น เพราะจะเป็​นที​่อับอายขายหน้าแก่​เรา แต่​เราจะยอมดังนี้ ถ้าท่านจะยอมเป็นเหมือนพวกเรา โดยให้​ผู้​ชายทุกคนของท่านเข้าสุ​หน​ัต เราจึงจะยอมยกบุตรสาวของเราให้​แก่​พวกท่าน และเราจะรับบุตรสาวของพวกท่านเป็นภรรยาของพวกเรา และเราจะอยู่กั​บท​่านและจะเป็นชนชาติ​เดียวกัน แต่​ถ้าท่านทั้งหลายไม่ฟังคำเรา ไม่​เข้าสุหนัต เราจะเอาบุตรสาวของเราไปเสีย” ถ้อยคำของเขาเป็​นที​่พอใจฮาโมร์ และเชเคมบุตรชายของฮาโมร์ หน​ุ่มคนนั้นไม่​รี​รอที่จะทำตาม เพราะเขามี​ความรักใคร่​ในบุตรสาวของยาโคบ เขาเป็นคนน่าเคารพนับถือมากกว่าใครๆในครอบครัวของบิดา ฮาโมร์กับเชเคมบุตรชายจึงออกไปที่​ประตูเมือง และปรึกษากับชาวเมืองนั้​นว​่า “คนเหล่านี้เป็​นม​ิตรกับพวกเรา เพราะฉะนั้นจงให้เขาอาศัยค้าขายในแผ่นดินนี้ เพราะดู​เถิด แผ่​นดินนี้กว้างขวางพอให้เขาอยู่​ได้ ให้​เรารับบุตรสาวของเขาเป็นภรรยาพวกเราและยกบุตรสาวของเราให้​เขา เพียงแต่​เราที่เป็นชายทุกคนจะยอมเข้าสุ​หน​ัตเหมือนเขา ถ้ายอมกระทำดังนั้นพวกนั้นจะอาศัยอยู่เป็นชนชาติเดียวกับเรา ฝูงสัตว์เลี้ยงและทรัพย์​สมบัติ​ของเขา กับฝูงสัตว์ทั้งสิ้นของเขาก็จะเป็นของเราด้วยมิ​ใช่​หรือ ขอแต่​ให้​เรายอมกระทำดังนั้นเขาจะยอมอยู่กับเรา” บรรดาชาวเมืองที่ออกไปจากประตูเมืองก็​เห​็นชอบด้วยฮาโมร์และเชเคมบุตรชาย และผู้ชายทั้งปวงที่ออกไปจากประตูเมืองก็​เข้าสุหนัต ครั้นอยู่มาถึงวั​นที​่​สาม เมื่อคนเหล่านั้นกำลังเจ็​บอย​ู่ บุ​ตรชายสองคนของยาโคบชื่อสิเมโอนและเลวี เป็นพี่ชายนางสาวดีนาห์ ก็​ถือดาบเข้าไปในเมืองด้วยใจกล้าหาญฆ่าผู้ชายในเมืองนั้นเสียสิ้น เขาฆ่าฮาโมร์และเชเคมบุตรชายเสียด้วยคมดาบ และพานางสาวดีนาห์ออกจากบ้านเชเคมไปเสีย พวกบุตรชายของยาโคบเข้าไปตามบ้านคนตาย และปล้นเมืองนั้น เพราะคนเหล่านั้นได้ทำอนาจารต่อน้องสาวของเขา เขาริบเอาฝูงแกะ ฝูงวัว ฝูงลา และข้าวของทั้งปวงในเมืองและในนาไป เอาทรัพย์​สมบัติ​ทั้งหมดของเขาไป และจับบุตรภรรยาของคนเหล่านั้นไปเป็นเชลย และริบของในบ้านไปเสียทั้งสิ้น ฝ่ายยาโคบจึงพู​ดก​ับสิเมโอนและเลวี​ว่า “​เจ้​าทำให้เราลำบากใจ โดยทำให้เราเป็​นที​่​เกล​ียดชังแก่คนแผ่นดินนี้ คือคนคานาอั​นก​ับคนเปริสซี เรามี​ผู้​คนน้อยนัก เขาทั้งหลายจะรุมกันมาฆ่าเราเสีย จะทำให้เราและครอบครัวพินาศสิ้น”

ปฐมกาล 34:1-30 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ฝ่ายดีนาห์บุตรีของยาโคบกับนางเลอาห์นั้น ออกไปเยี่ยมผู้หญิงในถิ่นนั้น เมื่อเชเคมบุตรชายฮาโมร์ คนฮีไวต์ผู้เป็นเจ้าเมืองเห็นนางสาวดีนาห์ ก็เอาไปหลับนอนทำอนาจาร จิตใจของเชเคมก็ผูกพันอยู่กับดีนาห์บุตรียาโคบ รักเธอพูดจาเล้าโลมเอาใจเธอ เชเคมจึงพูดกับฮาโมร์บิดาว่า <<ขอหญิงสาวนี้ให้เป็นภรรยาข้าพเจ้าเถิด>> ยาโคบได้ข่าวว่าผู้นั้นทำลายความบริสุทธิ์ ของดีนาห์ลูกสาวของตน แต่พวกบุตรของท่านอยู่กับฝูงสัตว์ที่ในนา ยาโคบจึงนิ่งคอยให้พวกลูกกลับมาบ้าน ฮาโมร์บิดาของเชเคมก็ไปหายาโคบพูดจาปรึกษากัน เมื่อพวกลูกของยาโคบได้ยินข่าวนั้นก็กลับมาจากนา ต่างก็เป็นเดือดเป็นแค้นที่เชเคมสบประมาทพวกอิสราเอล โดยข่มขืนบุตรีของยาโคบ ซึ่งเป็นความผิดอย่างหนัก ฮาโมร์ก็พูดจาปรึกษากับพวกเขาว่า <<จิตใจเชเคมบุตรชายของเรานี้ผูกพันรักใคร่ลูกสาวของท่านมาก ขอหญิงนั้นเป็นภรรยาบุตรชายของเราเถิด และเชิญพวกท่านจงทำการสมรสกับพวกเรา ยกบุตรีของท่านให้พวกเรา และรับบุตรีของเราให้พวกท่าน พวกท่านจะได้อยู่กับพวกเรา เราจะเปิดประตูเมืองนี้ให้ท่าน เชิญอาศัยเป็นที่ค้าขาย และเชิญหาสมบัติในเมืองนี้>> เชเคมบอกบิดาและพวกพี่ชายของหญิงนั้นว่า <<เห็นแก่ข้าพเจ้าเถิด ท่านจะเรียกเท่าไรข้าพเจ้าก็จะให้ ท่านจะเอาเงินสินสอดและของขวัญสักเท่าไรก็ตามใจ ท่านจะเรียกเท่าไร ข้าพเจ้าจะให้ แต่ขอยกหญิงนั้นเป็นภรรยาข้าพเจ้า>> เพราะเหตุที่เชเคมทำลายความบริสุทธิ์ของดีนาห์น้องสาว บุตรชายของยาโคบจึงหลอกเชเคม และฮาโมร์บิดาของเชเคม โดยตอบว่า <<เราจะยกน้องสาวของเราให้ แก่คนที่ยังไม่ได้เข้าสุหนัตนั้นไม่ได้ จะเป็นที่อับอายขายหน้าแก่เรา เราจะยอมก็ต่อเมื่อท่านถือตามเรา คือยอมเหมือนพวกเรา โดยให้ผู้ชายทุกคนเข้าสุหนัต เราจึงจะยอมยกบุตรีของเราให้แก่พวกท่าน แล้วจะรับบุตรีของพวกท่านเป็นภรรยาของพวกเรา แล้วเราจะอยู่กับท่านเป็นชนชาติเดียวกัน แต่หากว่าท่านทั้งหลายไม่ฟังคำเรา ไม่เข้าสุหนัต เราจะเอาบุตรีของเราไปเสีย>> ถ้อยคำของเขาเป็นที่พอใจฮาโมร์ และเชเคมบุตรชายของฮาโมร์ หนุ่มคนนั้นไม่รีรอที่จะทำตามเพราะเขาชอบบุตรีของยาโคบ เขาเป็นคนมีเกียรติ มากกว่าใครๆในครอบครัวของบิดา ฮาโมร์กับเชเคมบุตรชายจึงออกไปที่ ประตูเมืองบอกชาวเมืองว่า <<คนเหล่านี้เป็นมิตรกับพวกเรา ให้เขา อาศัยค้าขายในดินแดนนี้ เพราะดินแดนนี้กว้างขวางพอให้เขาอยู่ได้ เราจงรับบุตรีของเขาเป็นภรรยาพวกเรา และยกบุตรีของเราให้เขา พวกเขาจะยอมอยู่เป็นชนชาติเดียวกับเราได้ตาม เงื่อนไขนี้เท่านั้น คือพวกเราที่เป็นชายทุกคนจะยอมเข้าสุหนัตเหมือนเขา ฝูงสัตว์เลี้ยงและทรัพย์สมบัติของเขา กับฝูงสัตว์ใช้ทั้งสิ้นของเขาก็จะเป็นของเราด้วยมิใช่หรือ ขอแต่ให้เรายอมกระทำดังนั้น เขาจะยอมอยู่กับเรา>> ชาวเมืองก็เห็นชอบกับฮาโมร์และเชเคม ชาวเมืองที่เป็นชายก็เข้าสุหนัต ครั้นอยู่มาถึงวันที่สาม คนเหล่านั้นกำลังเจ็บอยู่ บุตรชายสองคนของยาโคบชื่อ สิเมโอนและเลวี เป็นพี่ชายของดีนาห์ ก็ถือดาบแอบเข้าไปในเมือง ฆ่าผู้ชายในเมืองนั้นเสียสิ้น เขาฆ่าฮาโมร์และเชเคมบุตรชายเสียด้วยดาบ และพาดีนาห์ออกจากบ้านเชเคมไปเสีย พวกลูกชายของยาโคบเข้าไปตามบ้านคนตาย และปล้นเมืองนั้น เพราะคนเมืองนั้นทำลายความบริสุทธิ์ของน้องสาว เขาริบเอาฝูงแพะ แกะ ฝูงโค ฝูงลา และข้าวของทั้งปวงในเมืองและในนาไป เอาทรัพย์สมบัติไป และจับบุตรภรรยาของคนเหล่านั้นไปเป็นเชลย และริบของในบ้านไปเสียทั้งสิ้น ฝ่ายยาโคบจึงพูดกับสิเมโอนและเลวีว่า <<เจ้าทำให้เราเดือดร้อน โดยทำให้เราเป็นที่เกลียดชังแก่คนถิ่นนี้ คือคนคานาอันกับคนเปริสซี เรามีผู้คนน้อยนัก ถ้าพวกนั้นรุมโจมตีพวกเรา ก็จะทำให้เราและครอบครัวพินาศสิ้น>>

ปฐมกาล 34:1-30 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ฝ่ายดีนาห์บุตรสาวของยาโคบกับเลอาห์ออกไปเยี่ยมเยียนผู้หญิงชาวท้องถิ่นนั้น เมื่อเชเคมบุตรชายของฮาโมร์ชาวฮีไวต์ซึ่งเป็นผู้ปกครองเขตนั้นเห็นเธอก็ฉุดเธอไปข่มขืน ใจของเขาก็ผูกพันกับดีนาห์บุตรสาวของยาโคบ เขารักนางและพูดจาอ่อนหวานกับนาง และเชเคมกล่าวกับฮาโมร์บิดาของเขาว่า “ไปเอาผู้หญิงคนนี้มาเป็นเมียลูก” เมื่อยาโคบได้ยินว่าดีนาห์บุตรสาวถูกย่ำยี บุตรชายทั้งหลายของเขากำลังอยู่ในท้องทุ่งกับฝูงสัตว์เลี้ยง ยาโคบจึงเงียบอยู่คอยจนกว่าพวกเขากลับถึงบ้าน แล้วฮาโมร์บิดาของเชเคมก็มาคุยกับยาโคบ เมื่อบุตรชายของยาโคบกลับมาจากท้องทุ่ง ทันทีที่ทราบว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น พวกเขาเศร้าเสียใจและเป็นเดือดเป็นแค้นยิ่งนัก เพราะเชเคมได้สร้างความเสื่อมเสียขึ้นในอิสราเอล โดยการหลับนอนกับลูกสาวของยาโคบอันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่ฮาโมร์บอกกับพวกเขาว่า “เชเคมลูกชายของเราปักใจอยู่กับลูกสาวของท่าน โปรดยกนางให้เป็นภรรยาของเขาเถิด และขอเชิญพวกท่านมาร่วมสมรสกับพวกเรา ยกบรรดาลูกสาวของพวกท่านให้พวกเรา และรับบรรดาลูกสาวของพวกเราไปเป็นภรรยาของพวกท่าน ท่านสามารถจะตั้งถิ่นฐานอยู่ท่ามกลางพวกเรา แผ่นดินนี้เปิดกว้างสำหรับท่าน เชิญท่านอาศัยอยู่ ทำมาค้าขาย และซื้อหาที่ดิน” แล้วเชเคมจึงเอ่ยกับบิดาและพี่ชายน้องชายของดีนาห์ว่า “ขอท่านเมตตาข้าพเจ้าเถิด แล้วข้าพเจ้าจะให้ทุกอย่างตามที่ท่านเรียกร้อง เชิญเรียกสินสอดและของกำนัลมากเท่าใดก็ได้ตามใจชอบ ข้าพเจ้าจะจ่ายให้ตามที่ท่านเรียกร้อง ขอแต่เพียงยกหญิงสาวคนนี้ให้เป็นภรรยาของข้าพเจ้า” เพราะเหตุที่ดีนาห์น้องสาวของพวกเขาถูกย่ำยี บุตรชายของยาโคบจึงหลอกลวงเชเคมและฮาโมร์บิดาของเขา พวกเขาบอกคนเหล่านั้นว่า “เราทำเช่นนั้นไม่ได้ เราไม่อาจยกน้องสาวให้แก่ชายที่ยังไม่ได้เข้าสุหนัต เพราะถือเป็นเรื่องเสื่อมเสียแก่เรา เราจะยินยอมก็ต่อเมื่อพวกท่านทำตามเงื่อนไขข้อนี้ของเราเท่านั้น คือพวกท่านต้องให้ผู้ชายทุกคนในพวกท่านเข้าสุหนัตเพื่อพวกท่านจะเป็นเหมือนพวกเรา แล้วเราจึงจะยกบรรดาบุตรสาวของเราให้พวกท่าน และเราจะรับบรรดาบุตรสาวของพวกท่านมาเป็นภรรยา เราจะตั้งถิ่นฐานอยู่ท่ามกลางพวกท่าน และกลายเป็นชนกลุ่มเดียวกับท่าน แต่ถ้าท่านไม่ตกลงที่จะเข้าสุหนัต เราจะเอาตัวน้องสาวไป” ฮาโมร์กับเชเคมพอใจกับข้อเสนอของพวกเขา เชเคมซึ่งเป็นชายหนุ่มผู้ได้รับการยกย่องมากที่สุดในครอบครัวของบิดาไม่รีรอที่จะทำตาม เพราะเขาชื่นชอบบุตรสาวของยาโคบ ฉะนั้นฮาโมร์กับเชเคมบุตรชายจึงไปที่ประตูเมืองและพูดกับชาวเมืองของเขาว่า “คนเหล่านี้เป็นมิตรกับเรา ให้เขามาอาศัยและทำมาค้าขายในดินแดนของเราเถิด แผ่นดินนี้กว้างขวางพอที่จะรับเขาไว้ พวกเราก็สามารถแต่งงานกับบุตรสาวของพวกเขา และพวกเขาสามารถแต่งงานกับบุตรสาวของเราได้ แต่มีเงื่อนไขข้อเดียวที่พวกเขาจะยอมมาอยู่เป็นชนกลุ่มเดียวกับพวกเราก็คือให้พวกผู้ชายของเราทุกคนเข้าสุหนัตเหมือนพวกเขา แล้วฝูงสัตว์ ทรัพย์สิน และสัตว์อื่นๆ ทั้งสิ้นของพวกเขาจะไม่ตกเป็นของพวกเราหรือ? ให้เราตกลงตามเงื่อนไขของพวกเขาเถิด พวกเขาจะได้มาตั้งถิ่นฐานอยู่ท่ามกลางพวกเรา” ชายทุกคนที่ออกไปจากประตูเมืองเห็นพ้องกับฮาโมร์และเชเคมบุตรชายของเขา ชายทุกคนในเมืองก็เข้าสุหนัต สามวันต่อมา ขณะที่พวกเขาทุกคนยังเจ็บอยู่ บุตรชายสองคนของยาโคบ คือสิเมโอนกับเลวี ซึ่งเป็นพี่ชายของดีนาห์ก็ถือดาบบุกเข้าไปโจมตีเมืองที่ไม่ทันระวังตัว พวกเขาฆ่าผู้ชายทุกคน เขาฆ่าฮาโมร์และเชเคมด้วยดาบ แล้วพาดีนาห์ออกมาจากบ้านของเชเคม บุตรชายทั้งหลายของยาโคบข้ามศพเหล่านั้นเข้ามาและปล้นเมืองที่น้องสาวของตนเคยถูกย่ำยี พวกเขายึดฝูงวัว ฝูงแพะแกะ ฝูงลา ตลอดจนข้าวของทุกอย่างทั้งในเมืองและในทุ่งนา พวกเขากวาดเอาทรัพย์สมบัติ ข้าวของในบ้านทุกอย่าง และกวาดต้อนผู้หญิงกับเด็กมา แล้วยาโคบพูดกับสิเมโอนและเลวีว่า “เจ้าทำให้พ่อเดือดร้อนและเสื่อมเสียชื่อเสียงในหมู่ชาวคานาอันและชาวเปริสซีซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนนี้ เรามีกันแค่หยิบมือเดียว ถ้าพวกเขารวมกำลังมาโจมตีเรา เรากับครัวเรือนของเราก็จะถูกทำลาย”

ปฐมกาล 34:1-30 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ฝ่าย​ดีนาห์​บุตร​หญิง​ที่​เลอาห์​ให้​กำเนิด​แก่​ยาโคบ ออก​ไป​เยี่ยมเยียน​พวก​ผู้​หญิง​ใน​ถิ่น​นั้น เมื่อ​เชเคม​บุตร​ของ​ฮาโมร์​ชาว​ฮีว​ผู้​นำ​ถิ่น​เห็น​ดีนาห์ ก็​ใช้​กำลัง​จับ​ตัว​เธอ​ไป​และ​ข่มขืน​เธอ เพราะ​เขา​มี​จิตใจ​ผูกพัน​อยู่​กับ​ดีนาห์​บุตร​หญิง​ของ​ยาโคบ เขา​รัก​หญิง​สาว​จึง​ได้​พูดจา​อ่อน​หวาน​กับ​เธอ เชเคม​จึง​พูด​กับ​ฮาโมร์​บิดา​ของ​เขา​ว่า “ช่วย​สู่​ขอ​หญิง​สาว​คน​นี้​มา​เป็น​ภรรยา​ลูก​เถิด” ยาโคบ​ได้ยิน​ว่า​เชเคม​ได้​ทำ​ให้​ดีนาห์​บุตร​หญิง​ของ​ท่าน​เสีย​สาว​แล้ว แต่​พวก​บุตร​ชาย​ของ​ตน​อยู่​กับ​ปศุ​สัตว์​ใน​ทุ่ง ยาโคบ​จึง​นิ่ง​เงียบ​ไว้​จนกว่า​พวก​เขา​กลับ​มา ขณะ​นั้น​ฮาโมร์​บิดา​ของ​เชเคม​ออก​ไป​พูด​กับ​ยาโคบ ลูกๆ ของ​ยาโคบ​กลับ​มา​จาก​ทุ่ง เมื่อ​พวก​เขา​ได้ยิน​เรื่องราว​ก็​ตกใจ และ​โกรธ​แค้น​ที่​เชเคม​กระทำ​ความ​อัปยศ​ใน​อิสราเอล​โดย​นอน​กับ​บุตร​หญิง​ของ​ยาโคบ เพราะ​เหตุ​การณ์​เช่น​นี้​ไม่​ควร​เกิด​ขึ้น แต่​ฮาโมร์​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “จิตใจ​ของ​เชเคม​ลูก​ชาย​ฉัน​นึก​ถึง​เพียง​ลูก​สาว​ของ​ท่าน ฉัน​ขอร้อง​ท่าน​ให้​เธอ​แต่งงาน​กับ​เขา​เถิด มา​เป็น​ทอง​แผ่น​เดียวกัน​เถิด ยก​บรรดา​ลูก​สาว​ของ​ท่าน​ให้​เรา และ​รับ​ลูก​สาว​ของ​เรา​ไว้​สำหรับ​พวก​ท่าน​เอง ท่าน​จะ​ได้​อาศัย​อยู่​กับ​พวก​เรา ท่าน​จะ​อยู่​ที่​ไหน​ก็​ได้ อยู่​เสีย​ที่​นี่ เดินทาง​ได้​โดย​อิสระ และ​เป็น​เจ้า​ของ​ที่​ดิน​ได้” เชเคม​ก็​พูด​กับ​บิดา​และ​พวก​พี่​ชาย​ของ​เธอ​ด้วย​ว่า “โปรด​กรุณา​ข้าพเจ้า​เถิด และ​ข้าพเจ้า​จะ​ให้​ทุก​สิ่ง​ตาม​ที่​ท่าน​ต้องการ เรียกร้อง​ค่า​สินสอด​และ​ของ​ขวัญ​จาก​ข้าพเจ้า​มาก​เท่าไหร่​ก็​ได้ ข้าพเจ้า​จะ​ให้​ตาม​ที่​เรียกร้อง ขอ​เพียง​แต่​ยก​เธอ​ให้​เป็น​ภรรยา​ของ​ข้าพเจ้า” พวก​ลูกๆ ของ​ยาโคบ​ตอบ​โกหก​เชเคม​และ​ฮาโมร์​บิดา​ของ​เขา เพราะ​เขา​ทำ​ให้​ดีนาห์​น้อง​สาว​ของ​เขา​เสีย​สาว พวก​เขา​พูด​ว่า “พวก​เรา​ทำ​ไม่​ได้ การ​ยก​น้อง​สาว​ให้​คน​ที่​ไม่​ได้​เข้า​สุหนัต​เป็น​ความ​อัปยศ​สำหรับ​พวก​เรา มี​เงื่อนไข​ก่อน​ยินยอม​ทำ​ตาม​คือ ท่าน​จะ​ต้อง​เป็น​เหมือน​พวก​เรา​โดย​ให้​ชาย​ทุก​คน​ของ​ท่าน​เข้า​สุหนัต แล้ว​เรา​จึง​จะ​ยก​ลูก​สาว​ของ​เรา​ให้​พวก​ท่าน และ​เรา​จะ​รับ​ลูก​สาว​ของ​ท่าน​ไว้​สำหรับ​พวก​เรา​เอง แล้ว​เรา​จะ​อาศัย​ร่วม​กับ​พวก​ท่าน และ​มา​เป็น​ชน​ชาติ​เดียวกัน แต่​ถ้า​ท่าน​ไม่​ยอม​ฟัง​เรา และ​ไม่​เข้า​สุหนัต พวก​เรา​ก็​จะ​พา​ลูก​สาว​ของ​เรา​ไป​เสีย” ข้อ​เสนอ​ของ​พวก​เขา​เป็น​ที่​พอใจ​ของ​ฮาโมร์​และ​เชเคม​บุตร​ของ​ฮาโมร์ ชาย​หนุ่ม​คน​นั้น​รีบ​ทำ​ตาม​คำ​แนะนำ เพราะ​เขา​ต้องตา​ต้องใจ​บุตร​หญิง​ของ​ยาโคบ​มาก และ​เขา​เป็น​คน​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ครอบครัว​ด้วย ดังนั้น​ฮาโมร์​และ​เชเคม​บุตร​ของ​เขา​จึง​ไป​ที่​ประตู​เมือง พูด​กับ​พวก​ผู้​ชาย​ของ​เมือง​นั้น​ว่า “ชาย​พวก​นี้​เป็น​มิตร​กับ​เรา ปล่อย​ให้​เขา​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่นดิน​และ​ค้า​ขาย​ที่​นี่​เถิด ดู​สิ แผ่นดิน​ออก​จะ​กว้าง​ใหญ่​พอ​สำหรับ​พวก​เขา เรา​มา​แต่งงาน​กับ​พวก​ลูก​สาว​ของ​เขา และ​ยก​ลูก​สาว​ของ​เรา​ให้​เขา​ไป ชาย​เหล่า​นี้​ยอม​ตกลง​อาศัย​อยู่​กับ​เรา เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​ชน​ชาติ​เดียวกัน​ตาม​เงื่อนไข​นี้​คือ ชาย​ของ​เรา​ทุก​คน​จะ​ต้อง​เข้า​สุหนัต​ตาม​อย่าง​พวก​เขา ปศุสัตว์​ของ​เขา ทรัพย์​สมบัติ และ​สัตว์​เลี้ยง​ทุก​ชนิด​ของ​พวก​เขา​จะ​ไม่​ตก​เป็น​ของ​พวก​เรา​หรือ เรา​เพียง​ตกลง​กับ​เขา แล้ว​เขา​ก็​จะ​อาศัย​อยู่​กับ​เรา” ทุก​คน​ที่​มา​ยัง​ประตู​เมือง​ก็​ฟัง​ฮาโมร์​และ​เชเคม​บุตร​ของ​เขา และ​ชาย​ทุก​คน​ก็​เข้า​สุหนัต ทุก​คน​ที่​มา​ยัง​ประตู​เมือง​ทำ​ตาม​นั้น สาม​วัน​ต่อ​มา เมื่อ​พวก​เขา​ยัง​เจ็บ​อยู่ สิเมโอน​กับ​เลวี​บุตร​ของ​ยาโคบ คือ​พี่​ชาย​ทั้ง​สอง​ของ​ดีนาห์​คว้า​ดาบ​ของ​ตน และ​เข้า​ไป​ใน​เมือง​โดย​ไม่​มี​ใคร​ทราบ เข้า​ไป​ฆ่า​ชาย​ทุก​คน​ตาย เขา​ทั้ง​สอง​ฆ่า​ฮาโมร์​กับ​เชเคม​บุตร​ของ​เขา​ด้วย​คม​ดาบ พา​ดีนาห์​ออก​จาก​บ้าน​เชเคม​แล้ว​หนี​ไป และ​บรรดา​บุตร​ของ​ยาโคบ​ไป​ยัง​ที่​เกิด​เหตุ และ​ริบ​ข้าว​ของ​ใน​เมือง เพราะ​น้อง​สาว​ของ​พวก​เขา​เสีย​สาว พวก​เขา​ยึด​เอา​ฝูง​แพะ​แกะ ฝูง​โค ลา และ​ทุก​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​เมือง​และ​ใน​ทุ่ง​ไป เขา​ริบ​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​และ​ทุก​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​บ้าน และ​ยึด​ตัว​เด็ก​เล็ก​กับ​ภรรยา​ของ​พวก​เขา​ไป ครั้น​แล้ว​ยาโคบ​ก็​พูด​กับ​สิเมโอน​และ​เลวี​ว่า “เจ้า​หาเรื่อง​ให้​ฉัน ทำ​ให้​ฉัน​เป็น​ที่​น่า​รังเกียจ​ไป​ทั่ว​ถิ่น​ของ​ชาว​คานาอัน​และ​ชาว​เปริส คน​ของ​ฉัน​มี​ไม่​มาก ถ้า​เขา​รวบ​รวม​พวก​เข้า​ด้วย​กัน เพื่อ​ต่อต้าน​และ​โจมตี​ฉัน ฉัน​ก็​จะ​ต้อง​พินาศ ทั้ง​ตัว​ฉัน​และ​ครอบครัว”