ปฐมกาล 3:8-24
ปฐมกาล 3:8-24 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
เวลาเย็นวันนั้น เขาทั้งสองได้ยินเสียงพระยาห์เวห์พระเจ้าเสด็จดำเนินอยู่ในสวน ชายนั้นกับภรรยาของเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในหมู่ต้นไม้กลางสวน ให้พ้นจากพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้า พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงเรียกชายนั้นและตรัสถามเขาว่า “เจ้าอยู่ที่ไหน?” ชายนั้นทูลว่า “ข้าพระองค์ได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ในสวนก็กลัว เพราะข้าพระองค์เปลือยกายอยู่ จึงได้ซ่อนตัวเสีย” พระองค์จึงตรัสว่า “ใครบอกเจ้าว่าเจ้าเปลือยกาย? เจ้ากินผลจากต้นไม้ที่เราสั่งไม่ให้กินนั้นแล้วหรือ?” ชายนั้นทูลว่า “หญิงที่พระองค์ประทานให้อยู่กับข้าพระองค์ เธอส่งผลจากต้นไม้นั้นให้ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงรับประทาน” พระยาห์เวห์พระเจ้าตรัสถามหญิงนั้นว่า “นี่เจ้าทำอะไรลงไป?” หญิงนั้นทูลว่า “งูล่อลวงข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงรับประทาน” พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงตรัสกับงูว่า “เพราะเหตุที่เจ้าทำเช่นนี้ เจ้าจะต้องถูกสาปแช่งมากกว่าสัตว์ใช้งานและสัตว์ป่าทั้งปวง จะต้องเลื้อยไปด้วยท้อง จะต้องกินผงคลีดินตลอดชีวิตของเจ้า เราจะให้เจ้ากับหญิงนี้เป็นศัตรูกัน ทั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้า และพงศ์พันธุ์ของนางด้วย เขาจะทำให้หัวของเจ้าแหลก และเจ้าจะทำให้ส้นเท้าของเขาฟกช้ำ” พระองค์ตรัสแก่หญิงนั้นว่า “เราจะเพิ่มความทุกข์ลำบากมากขึ้นแก่เจ้า และเมื่อเจ้ามีครรภ์ เจ้าจะคลอดบุตรด้วยความเจ็บปวด ถึงกระนั้น เจ้าจะยังปรารถนาในสามีของเจ้า และเขาจะปกครองตัวเจ้า” พระองค์จึงตรัสแก่ชายนั้นว่า “เพราะเหตุเจ้าเชื่อฟังคำพูดของภรรยา และกินผลจากต้นไม้ที่เราสั่งไม่ให้กินผลจากต้นนั้น แผ่นดินจึงต้องถูกสาปเพราะเจ้า เจ้าจะต้องหากินบนแผ่นดินด้วยความทุกข์ลำบากตลอดชีวิต ต้นไม้และพืชที่มีหนามจะงอกขึ้นบนดินแก่เจ้า และเจ้าจะกินพืชตามท้องทุ่ง เจ้าจะต้องหากินด้วยเหงื่ออาบหน้า จนเจ้ากลับไปเป็นดิน เพราะเจ้าถูกนำมาจากดิน และเพราะเจ้าเป็นผงคลีดิน และเจ้าจะกลับเป็นผงคลีดินดังเดิม” อาดัมเรียกภรรยาของเขาว่า “เอวา” เพราะนางเป็นมารดาของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงทำเสื้อด้วยหนังสัตว์ให้อาดัมและภรรยาของเขาสวมปกปิดกาย แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าตรัสว่า “ดูสิ มนุษย์กลายเป็นเหมือนผู้หนึ่งในพวกเราแล้ว โดยที่รู้ความดีและความชั่ว บัดนี้ อย่าปล่อยให้เขายื่นมือไปหยิบผลจากต้นไม้แห่งชีวิตมากินด้วย แล้วมีอายุยืนชั่วนิรันดร์” เพราะฉะนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าจึงทรงไล่เขาออกไปจากสวนเอเดน ให้เพาะปลูกบนดินซึ่งใช้สร้างเขาขึ้นมา พระองค์ทรงขับไล่ชายนั้นออกไป และทรงตั้งเหล่าเครูบทางด้านทิศตะวันออกของสวนเอเดน และตั้งดาบเพลิงอันหนึ่งที่หมุนได้ไว้เฝ้าทางที่จะไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิตนั้น
ปฐมกาล 3:8-24 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
เย็นวันนั้นเขาทั้งสองได้ยินเสียงพระเจ้าพระยาห์เวห์ทรงดำเนินอยู่ในสวน จึงหลบซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ให้พ้นจากพระองค์ พระเจ้าพระยาห์เวห์ตรัสเรียกหาชายนั้นว่า “เจ้าอยู่ที่ไหน?” เขาทูลว่า “ข้าพระองค์ได้ยินเสียงของพระองค์อยู่ในสวนก็กลัว เพราะข้าพระองค์เปลือยกายอยู่ จึงหลบซ่อนตัวเสีย” พระองค์ตรัสถามว่า “ใครบอกว่าเจ้าเปลือยกายอยู่? เจ้ากินผลจากต้นที่เราห้ามเจ้าไว้แล้วหรือ?” ชายนั้นทูลว่า “หญิงที่พระองค์ให้อยู่กับข้าพระองค์นั่นแหละ ยื่นผลจากต้นไม้นั้นให้แก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงกิน” แล้วพระเจ้าพระยาห์เวห์ตรัสถามหญิงนั้นว่า “เจ้าทำอะไรลงไป?” หญิงนั้นทูลว่า “งูนั้นล่อลวงข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงกิน” พระเจ้าพระยาห์เวห์จึงตรัสแก่งูนั้นว่า “เพราะเจ้าได้ทำเช่นนี้ “เจ้าจึงถูกสาปแช่งหนักกว่าสัตว์ใช้งานทั้งสิ้น และสัตว์ป่าทั้งปวง! เจ้าจะเลื้อยไปด้วยท้อง และเจ้าจะกินธุลีดิน ตราบชั่วชีวิตของเจ้า เราจะให้เจ้ากับหญิงนั้น เป็นศัตรูกัน ทั้งเผ่าพันธุ์ของเจ้ากับของนางด้วย เขาจะฟาดศีรษะของเจ้า และเจ้าจะฉกส้นเท้าของเขา” พระองค์ตรัสกับหญิงนั้นว่า “เราจะให้เจ้าเจ็บปวดแสนสาหัสเมื่อเจ้าคลอดบุตร เจ้าจะคลอดบุตรด้วยความเจ็บปวด แต่เจ้าก็ยังปรารถนาสามี และเขาจะปกครองเจ้า” พระองค์ตรัสกับอาดัมว่า “เพราะเจ้าฟังภรรยาของเจ้าและกินผลไม้ซึ่งเราสั่งเจ้าว่า ‘เจ้าต้องไม่กินผลจากต้นไม้นั้น’ “แผ่นดินจึงถูกสาปแช่งเพราะเจ้า เจ้าจะหาเลี้ยงชีพจากแผ่นดินด้วยความลำบากตรากตรำ ตลอดชีวิตของเจ้า ต้นหนามน้อยใหญ่จะงอกขึ้นมาบนแผ่นดิน และเจ้าจะกินพืชพันธุ์จากท้องทุ่ง เจ้าจะทำมาหากิน อาบเหงื่อต่างน้ำ ตราบจนเจ้ากลับคืนสู่ดิน เพราะเรานำเจ้ามาจากดิน เพราะเจ้าเป็นธุลีดิน และเจ้าจะกลับคืนสู่ธุลีดิน” อาดัมตั้งชื่อภรรยาของตนว่าเอวา เพราะนางเป็นมารดาของผู้มีชีวิตทั้งปวง พระเจ้าพระยาห์เวห์ทรงทำเครื่องนุ่งห่มจากหนังสัตว์ให้อาดัมกับภรรยาสวม แล้วพระเจ้าพระยาห์เวห์ตรัสว่า “บัดนี้ มนุษย์ได้กลายเป็นเหมือนหนึ่งในพวกเราแล้ว คือรู้ผิดชอบชั่วดี ดังนั้นต้องไม่ปล่อยให้เขาเก็บผลไม้แห่งชีวิตมากินแล้วมีชีวิตอยู่ตลอดไป” พระเจ้าพระยาห์เวห์จึงทรงขับไล่เขาออกจากสวนเอเดนให้ไปหาเลี้ยงชีพบนผืนดินซึ่งเขาถือกำเนิดมานั้น หลังจากทรงขับไล่เขาออกไปจากสวนแล้ว พระองค์ทรงตั้งเหล่าเครูบไว้ที่ด้านตะวันออกของสวนเอเดน และตั้งดาบเพลิงเล่มหนึ่งที่พุ่งไปมาเพื่อคอยพิทักษ์ทางซึ่งนำไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิตนั้น
ปฐมกาล 3:8-24 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ในเวลาเย็นของวันนั้น พวกเขาได้ยินเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าเดินมาในสวน ทั้งชายนั้นและเมียของเขา ต่างพากันไปหลบซ่อนจากหน้าของพระยาห์เวห์พระเจ้า พวกเขาแอบอยู่ตามต้นไม้ในสวน พระยาห์เวห์พระเจ้า ได้ส่งเสียงเรียกชายคนนั้น และพูดกับเขาว่า “เจ้าอยู่ที่ไหน” ชายคนนั้นตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ยินเสียงของพระองค์ในสวนนี้ ข้าพเจ้าเกรงกลัว เพราะข้าพเจ้าเปลือยกายอยู่ ข้าพเจ้าจึงมาแอบซ่อนตัวอยู่” พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงตอบว่า “ใครบอกเจ้าว่าเจ้าเปลือยกายอยู่ นี่เจ้ากินจากต้นที่เราสั่งห้ามไม่ให้เจ้ากินแล้วใช่ไหม” ชายคนนั้นตอบว่า “หญิงที่พระองค์ได้มอบให้กับข้าพเจ้า เป็นคนเอาผลไม้จากต้นนั้นมาให้ข้าพเจ้าแล้วข้าพเจ้าก็กินมัน” พระยาห์เวห์พระเจ้าพูดกับหญิงคนนั้นว่า “เจ้าได้ทำอะไรลงไป” หญิงนั้นตอบว่า “งูตัวหนึ่งมาล่อลวงข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าก็กินผลไม้นั้น” พระยาห์เวห์พระเจ้าพูดกับงูว่า “เพราะเจ้าได้ทำอย่างนี้ เจ้าจะถูกสาปแช่งมากยิ่งกว่าสัตว์ทุกชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า เจ้าจะต้องเลื้อยไปด้วยท้อง เจ้าจะต้องกินฝุ่นไปตลอดชีวิต เราจะทำให้เจ้ากับหญิงนั้นเป็นศัตรูกัน ลูกหลานของเจ้ากับลูกหลานของหญิงนั้นจะเป็นศัตรูกัน ลูกหลานของหญิงนั้นจะทำให้หัวของเจ้าฟกช้ำ แล้วเจ้าจะทำให้ส้นเท้าของเขาฟกช้ำ” แล้วพระองค์พูดกับหญิงนั้นว่า “เราจะทำให้เจ้าต้องทำงานอย่างหนัก เจ้าจะต้องตั้งท้องบ่อยๆ นอกจากจะต้องทำงานหนักแล้ว เจ้าจะต้องคลอดลูกอีกด้วย เจ้าจะอยากควบคุมสามี แต่สามีจะครอบงำเจ้า” แล้วพระองค์พูดกับชายนั้นว่า “เพราะเจ้าไปฟังเสียงของเมียเจ้า และเจ้ากินจากต้นไม้ที่เราสั่งห้ามไม่ให้เจ้ากิน เพราะเจ้าทำอย่างนั้น เราจะสาปแช่งผืนดิน เจ้าจะได้กินจากผืนดินนั้นก็ต่อเมื่อเจ้าทำงานอย่างหนักทุกวันตลอดชั่วชีวิตของเจ้า แผ่นดินจะเกิดหนามและวัชพืชให้กับเจ้า และเจ้าจะต้องกินพืชที่อยู่ในท้องทุ่ง เจ้าจะต้องทำงานหนักอาบเหงื่อต่างน้ำเพื่อจะมีอาหารกิน จนกว่าเจ้าจะตายกลับไปสู่ดินเพราะเจ้ามาจากดิน เพราะเจ้าถูกสร้างมาจากผงดิน ดังนั้นเจ้าจะต้องคืนกลับไปเป็นผงดินเหมือนเดิม” ชายคนนั้นตั้งชื่อเมียของเขาว่า “เอวา” เพราะนางจะเป็นแม่คนแรกของทุกคนที่จะเกิดมา พระยาห์เวห์พระเจ้าทำเครื่องนุ่งห่มจากหนังสัตว์ ให้อาดัมกับเมียของเขาใส่เพื่อปกปิดร่างกาย แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าพูดว่า “ดูสิ พวกมนุษย์ได้กลายมาเป็นเหมือนเราแล้ว คือรู้จักผิดชอบชั่วดี และตอนนี้เขาอาจจะยื่นมือออกไปหยิบผลไม้จากต้นไม้แห่งชีวิตมากิน และมีชีวิตอยู่ตลอดไป” พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงขับไล่เขาออกจากสวนเอเดน ให้ไปทำงานบนดินที่พระเจ้าใช้สร้างเขาขึ้นมานั้น พระองค์ได้ขับไล่ชายคนนั้นไป แล้วตรงทิศตะวันออกของสวนเอเดน พระองค์ได้ตั้งพวกทูตสวรรค์เครูบ ที่มีดาบเป็นประกายไฟลุกโพลง มาเฝ้าทางเข้าที่จะนำไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิตนั้น
ปฐมกาล 3:8-24 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ในเวลาเย็นวันนั้นเขาทั้งสองได้ยินพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าเสด็จดำเนินอยู่ในสวน อาดัมและภรรยาของเขาซ่อนตัวจากพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าท่ามกลางต้นไม้ต่างๆในสวนนั้น พระเยโฮวาห์พระเจ้าทรงเรียกอาดัมและตรัสแก่เขาว่า “เจ้าอยู่ที่ไหน” เขาทูลว่า “ข้าพระองค์ได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ในสวน และข้าพระองค์ก็กลัว เพราะว่าข้าพระองค์เปลือยกายอยู่ ข้าพระองค์จึงได้ซ่อนตัวเสีย” พระองค์ตรัสว่า “ใครได้บอกเจ้าว่าเจ้าเปลือยกายอยู่ เจ้าได้กินผลจากต้นไม้นั้น ซึ่งเราสั่งเจ้าไว้ว่าเจ้าอย่ากินแล้วหรือ” ชายนั้นทูลว่า “หญิงซึ่งพระองค์ทรงประทานให้อยู่กับข้าพระองค์นั้น นางได้ส่งผลจากต้นไม้ ข้าพระองค์จึงรับประทาน” พระเยโฮวาห์พระเจ้าตรัสแก่หญิงนั้นว่า “เจ้าทำอะไรลงไป” หญิงนั้นทูลว่า “งูล่อลวงข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงรับประทาน” พระเยโฮวาห์พระเจ้าตรัสแก่งูนั้นว่า “เพราะเหตุที่เจ้าได้กระทำเช่นนี้ เจ้าถูกสาปแช่งมากกว่าบรรดาสัตว์ใช้งาน และบรรดาสัตว์ในท้องทุ่ง เจ้าจะเลื้อยไปด้วยท้องของเจ้า และเจ้าจะกินผงคลีดินตลอดวันเวลาในชีวิตของเจ้า เราจะให้เจ้ากับหญิงนี้เป็นปฏิปักษ์กัน ทั้งเชื้อสายของเจ้ากับเชื้อสายของนาง เชื้อสายของนางจะกระทำให้หัวของเจ้าฟกช้ำ และเจ้าจะกระทำให้ส้นเท้าของท่านฟกช้ำ” พระองค์ตรัสแก่หญิงนั้นว่า “เราจะเพิ่มความทุกข์ยากให้มากขึ้นแก่เจ้าและการตั้งครรภ์ของเจ้า เจ้าจะคลอดบุตรด้วยความเจ็บปวด เจ้ายังต้องการสามีของเจ้า และเขาจะปกครองเจ้า” พระองค์ตรัสแก่อาดัมว่า “เพราะเหตุเจ้าได้ฟังเสียงของภรรยาเจ้า และได้กินผลจากต้นไม้ ซึ่งเราได้สั่งเจ้าว่า เจ้าอย่ากินผลจากต้นนั้น แผ่นดินจึงต้องถูกสาปแช่งเพราะตัวเจ้า เจ้าจะต้องหากินบนแผ่นดินนั้นด้วยความทุกข์ยากตลอดวันเวลาในชีวิตของเจ้า แผ่นดินจะงอกต้นไม้ที่มีหนามและผักที่มีหนามแก่เจ้า และเจ้าจะกินผักในท้องทุ่ง เจ้าจะต้องหากินด้วยเหงื่อไหลโซมหน้าจนกว่าเจ้ากลับไปเป็นดิน เพราะเจ้ามาจากดิน เจ้าเป็นผงคลีดิน และเจ้าจะกลับไปเป็นผงคลีดิน” อาดัมเรียกชื่อภรรยาของเขาว่าเอวา เพราะว่านางเป็นมารดาของบรรดาชนที่มีชีวิต พระเยโฮวาห์พระเจ้าทรงทำเสื้อคลุมด้วยหนังสัตว์แก่อาดัมและภรรยาและสวมใส่ให้เขาทั้งสอง พระเยโฮวาห์พระเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด มนุษย์กลายมาเป็นเหมือนผู้หนึ่งในพวกเราที่รู้จักความดีและความชั่ว บัดนี้เกรงว่าเขาจะยื่นมือไปหยิบผลจากต้นไม้แห่งชีวิตมากินด้วยกัน และมีชีวิตนิรันดร์ตลอดไป” เหตุฉะนั้นพระเยโฮวาห์พระเจ้าจึงทรงให้เขาออกไปจากสวนเอเดน เพื่อทำไร่ไถนาจากที่ดินที่เขากำเนิดมานั้น ดังนั้นพระองค์ทรงไล่มนุษย์ออกไป ทรงตั้งพวกเครูบไว้ทางทิศตะวันออกของสวนเอเดน และตั้งดาบเพลิงซึ่งหมุนได้รอบทิศทาง เพื่อป้องกันทางเข้าไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิต
ปฐมกาล 3:8-24 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เวลาเย็นวันนั้น เขาทั้งสองได้ยินเสียงพระเจ้าเสด็จดำเนินอยู่ในสวน ชายนั้นกับภรรยาก็หลบไปซ่อนตัวอยู่ในหมู่ต้นไม้ในสวนนั้น ให้พ้นจากพระพักตร์พระเจ้า พระเจ้าทรงเรียกชายนั้นและตรัสถามเขาว่า <<เจ้าอยู่ที่ไหน>> ชายนั้นทูลว่า <<ข้าพระองค์ได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ในสวนก็เกรงกลัว เพราะข้าพระองค์เปลือยกายอยู่ จึงได้ซ่อนตัวเสีย>> พระองค์จึงตรัสว่า <<ใครเล่าบอกเจ้าว่าเจ้าเปลือยกาย เจ้ากินผลไม้ที่เราห้ามมิให้กินนั้นแล้วหรือ>> ชายนั้นทูลว่า <<หญิงที่พระองค์ประทานให้อยู่กินกับข้าพระองค์นั้น ส่งผลไม้นั้นให้ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงรับประทาน>> พระเจ้าตรัสถามหญิงว่า <<เจ้าทำอะไรไป>> หญิงนั้นทูลว่า <<งูล่อลวงข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงได้รับประทาน>> พระเจ้าจึงตรัสแก่งูว่า <<เพราะเหตุที่เจ้าทำเช่นนี้ เจ้าจะต้องถูกสาปแช่งมากกว่าสัตว์ใช้งานและสัตว์ป่าทั้งปวง จะต้องเลื้อยไปด้วยท้อง จะต้องกินผงคลีดินจนตลอดชีวิต เราจะให้เจ้ากับหญิงนี้เป็นศัตรูกัน ทั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้าและพงศ์พันธุ์ของเขาด้วย พงศ์พันธุ์ของหญิงจะทำให้หัวของเจ้าแหลก และเจ้าจะทำให้ส้นเท้าของเขาฟกช้ำ พระองค์ตรัสแก่หญิงนั้นว่า <<เราจะเพิ่มความทุกข์ลำบากขึ้นมากมาย ในเมื่อเจ้ามีครรภ์และคลอดบุตร ถึงกระนั้นเจ้ายังปรารถนาสามี และเขาจะปกครองตัวเจ้า>> พระองค์จึงตรัสแก่อาดัมว่า <<เพราะเหตุเจ้าเชื่อฟังคำพูดของภรรยา และกินผลไม้ที่เราห้าม แผ่นดินจึงต้องถูกสาปเพราะตัวเจ้า เจ้าจะต้องหากินบนแผ่นดินด้วยความ ทุกข์ลำบากจนตลอดชีวิต แผ่นดินจะให้ต้นไม้และพืชที่มีหนามแก่เจ้า และเจ้าจะกินพืชต่างๆของทุ่งนา เจ้าจะต้องหากินด้วยเหงื่ออาบหน้า จนเจ้ากลับเป็นดินไป เพราะเราสร้างเจ้ามาจากดิน เจ้าเป็นผงคลีดิน และจะต้องกลับเป็นผงคลีดินดังเดิม>> ชายนั้นเรียกภรรยาของตนว่า เอวาเพราะนางเป็นมารดาของปวงชนที่มีชีวิต พระเจ้าทรงทำเสื้อด้วยหนังสัตว์ให้อาดัม กับเอวาสวมปกปิดกาย แล้วพระเจ้าตรัสว่า <<ดูเถิด มนุษย์มาเป็นเหมือนผู้หนึ่งในพวกเราแล้ว โดยที่รู้สำนึกในความดีและความชั่ว บัดนี้ อย่าปล่อยให้เขายื่นมือไปหยิบผลต้นไม้ แห่งชีวิตมากิน แล้วมีอายุยืนชั่วนิรันดร์>> เพราะเหตุนั้นพระเจ้าจึงทรงขับไล่เขาออกไปจากสวนเอเดน ให้ไปทำไร่ทำสวนในที่ดินที่ตัวถือกำเนิดมานั้น พระองค์ทรงไล่ชายนั้นออกไป และทรงตั้งพวกเครูบ ทางด้านทิศตะวันออกแห่งสวนเอเดน และตั้งกระบี่เพลิงอันหนึ่งที่หมุน ได้รอบทิศไว้เฝ้าทางที่จะเข้าไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิตนั้น
ปฐมกาล 3:8-24 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
แล้วสองคนได้ยินเสียงย่างเท้าของพระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าในสวน ขณะที่สายลมกำลังพัดผ่านในเย็นวันนั้น ชายผู้นั้นกับภรรยาพากันซ่อนตัวในหมู่ต้นไม้ในสวน ไม่ให้พระองค์เห็นตัว แต่พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าเรียกเขาโดยกล่าวว่า “เจ้าอยู่ไหน” เขาพูดว่า “ข้าพเจ้าได้ยินเสียงพระองค์ในสวน และข้าพเจ้ากลัว เพราะว่ากายของข้าพเจ้าเปลือย ข้าพเจ้าจึงซ่อนตัวอยู่” พระองค์กล่าวว่า “ใครบอกเจ้าว่ากายของเจ้าเปลือย เจ้ากินผลไม้จากต้นไม้ที่เราสั่งห้ามใช่ไหม” ชายนั้นพูดว่า “หญิงที่พระองค์มอบให้เพื่ออยู่กับข้าพเจ้า เอาผลจากต้นไม้มาให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็รับประทาน” แล้วพระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าจึงกล่าวกับหญิงนั้นว่า “เจ้าทำอะไรลงไป” หญิงผู้นั้นพูดว่า “งูตัวนั้นลวงหลอกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงรับประทาน” พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าจึงพูดกับงูว่า “ในจำนวนพวกสัตว์เลี้ยง และสัตว์ป่าทั้งปวงในทุ่ง เจ้านั่นเองที่จะถูกสาปแช่ง เพราะการกระทำของเจ้าครั้งนี้ เจ้าจะต้องใช้ท้องเลื้อยคลานไป และต้องกินดินไปตลอดชีวิตของเจ้า เราจะทำให้เจ้าและหญิงผู้นั้นเป็นคู่อริกัน แม้เชื้อสายของเจ้าและเชื้อสายของนางก็เช่นกัน เขาจะทำให้หัวของเจ้าฟกช้ำ และเจ้าจะฉกส้นเท้าของเขา” พระองค์กล่าวกับหญิงนั้นว่า “เราจะทวีความลำบากของเจ้าให้มากขึ้นยามมีครรภ์ รวมถึงความเจ็บปวดยามคลอดลูก แม้กระนั้นเจ้ายังจะปรารถนาในสามีของเจ้า และเขาจะเป็นใหญ่เหนือเจ้า” แล้วพระองค์ก็กล่าวกับอาดัมว่า “เพราะเจ้าฟังเสียงภรรยาของเจ้า และกินผลจากต้นที่เราสั่งห้ามไว้ว่า ‘เจ้าอย่ากินจากต้นนั้น’ เป็นเพราะเจ้า พื้นดินจึงถูกสาปแช่ง เจ้าต้องตรากตรำหากินจากพื้นดิน จนตลอดชีวิตของเจ้า พื้นดินจะทำให้เจ้าต้องเผชิญกับพุ่มไม้หนาม และพืชพันธุ์ไม้มีหนาม และต้องกินพืชในทุ่ง กว่าจะได้กิน เจ้าจะต้อง ทำงานหนักอาบเหงื่อต่างน้ำ จนกว่าจะกลับคืนเป็นดิน เพราะเจ้ามาจากดิน เจ้าเป็นผงธุลี และเจ้าจะต้องกลับไปเป็นผงธุลี” อาดัมตั้งชื่อภรรยาของเขาว่า เอวา เพราะว่านางเป็นมารดาของมนุษยชาติทั้งปวง และพระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าได้ทำเสื้อขึ้นจากหนังสัตว์สำหรับอาดัมและภรรยาของเขา และพระองค์สวมเสื้อให้กับเขาทั้งสอง และพระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้ากล่าวว่า “ดูเถิด มนุษย์นั้นกลายมาเป็นเหมือนพวกเราแล้ว คือมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เกรงว่าพวกเขาจะยื่นมือไปเด็ดจากต้นไม้แห่งชีวิตกินเสีย แล้วจะมีชีวิตตลอดไปชั่วนิรันดร์” ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าจึงให้เขาออกไปจากสวนเอเดน ไปทำไร่พรวนดินซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าใช้ปั้นตัวเขาขึ้นมาแต่แรก ครั้นพระองค์ขับไล่ชายคนนั้นออกไปแล้ว พระองค์ก็ให้ตัวเครูบและดาบเพลิงที่เคลื่อนไหวได้รอบทิศทางมาประจำอยู่ในทิศตะวันออกของสวนเอเดน เพื่อเฝ้าทางเข้าสู่ต้นไม้แห่งชีวิต