ปฐมกาล 27:30-46
ปฐมกาล 27:30-46 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เมื่ออิสอัคอวยพรยาโคบเสร็จแล้ว และทันทีที่ยาโคบออกไป เอซาวพี่ชายของยาโคบก็กลับมาจากการล่าสัตว์ เขาทำอาหารอร่อยๆมาด้วย และเอามาให้กับพ่อของเขา เอซาวบอกกับพ่อว่า “พ่อครับ ลุกขึ้นมากินเนื้อที่ผมล่ามาเถิดครับ พ่อจะได้อวยพรผม” แล้วอิสอัคพ่อของเขาถามเขาว่า “เจ้าเป็นใคร” เอซาวตอบว่า “ผม ลูกของพ่อ ลูกชายคนโตของพ่อ เอซาวไงครับ” อิสอัคตัวสั่นสุดขีดและพูดว่า “อ้าว แล้วคนเมื่อกี้เป็นใครกัน ที่ล่าเนื้อมาให้พ่อ แล้วพ่อก็กินจนหมด แล้วก็อวยพรให้กับเขาไปแล้ว ก่อนที่เจ้าจะเข้ามา และพรนั้นก็จะตกเป็นของเขาตลอดไป” เมื่อเอซาวได้ยินพ่อพูดอย่างนั้น เขาร้องออกมาดังมากและขมขื่น และพูดกับพ่อของเขาว่า “อวยพรผมด้วยสิครับพ่อ” อิสอัคพูดว่า “น้องชายเจ้าเข้ามาหลอกลวงพ่อและเอาพรของเจ้าไปแล้ว” เอซาวจึงพูดว่า “มิน่าล่ะ คนถึงได้เรียกเขาว่ายาโคบ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาโกงผม เขาเอาสิทธิพี่ชายคนโตของผมไป แล้วดูสิ ตอนนี้เขายังเอาพรของผมไปอีก” แล้วเอซาวก็พูดว่า “พ่อไม่เก็บคำอวยพรให้กับผมเลยหรือ” อิสอัคตอบเอซาวว่า “พ่อได้ทำให้เขาเป็นเจ้านายเหนือลูก และยกพี่น้องของเขาทุกคนให้เป็นทาสของเขา และพ่อได้ให้เมล็ดพืชและเหล้าองุ่นกับเขา แล้วยังจะมีอะไรเหลือให้กับเจ้าอีกล่ะ ลูกพ่อ” เอซาวจึงพูดกับพ่อของเขาว่า “พ่อครับ พ่อมีพรแค่อันเดียวเท่านั้นหรือ อวยพรให้กับผมด้วยสิครับพ่อ” แล้วเอซาวก็เริ่มร้องไห้เสียงดัง แล้วอิสอัคพ่อของเขาจึงบอกกับเขาว่า “ดูเอาเถอะ เจ้าจะอยู่ห่างไกลจากดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ และไม่มีน้ำค้างตกจากฟ้า เจ้าจะยืนหยัดอยู่ได้ด้วยดาบของเจ้า เจ้าจะต้องรับใช้น้องของเจ้า แต่เมื่อใดที่เจ้าดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้เป็นอิสระ เจ้าจะหลุดพ้นจากการควบคุมของเขาได้” ตั้งแต่นั้นเอซาวจึงเกลียดยาโคบ เพราะพรที่พ่อให้กับเขา เอซาวคิดในใจว่า “ใกล้ถึงเวลาไว้ทุกข์ให้กับพ่อแล้ว หลังจากนั้นเราจะฆ่ายาโคบน้องชายของเราเสีย” เรเบคาห์ล่วงรู้ถึงแผนของเอซาวลูกคนโตของนาง นางจึงเรียกยาโคบลูกคนเล็กมาหาและพูดว่า “เอซาวพี่ชายเจ้ากำลังวางแผนที่จะฆ่าเจ้าเพื่อแก้แค้น ตอนนี้ ลูกแม่ ให้ทำตามที่แม่บอก รีบหนีไปเดี๋ยวนี้ ไปอยู่กับลาบันพี่ชายของแม่ ในเมืองฮาราน ให้ไปอยู่กับเขาสักพักหนึ่งก่อน จนกว่าพี่ชายของเจ้าจะหายโกรธ จนกว่าเขาจะหายโกรธและลืมเรื่องที่เจ้าได้ทำกับเขาไว้ แล้วแม่จะส่งคนไปรับเจ้ากลับมา เพราะแม่ไม่อยากเสียลูกทั้งสองคนในวันเดียวกัน” แล้วเรเบคาห์พูดกับอิสอัคว่า “ฉันเบื่อผู้หญิงฮิตไทต์พวกนี้เต็มทนแล้ว ถ้ายาโคบไปแต่งงานกับผู้หญิงฮิตไทต์สักคนในแผ่นดินนี้ ฉันคงต้องตายแน่ๆ”
ปฐมกาล 27:30-46 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
พออิสอัคอวยพรยาโคบเสร็จ และยาโคบเพิ่งออกไปพ้นหน้าอิสอัคบิดา เอซาวพี่ชายก็กลับจากการล่าเนื้อ เขาทำอาหารอร่อยนำมาให้บิดา เขาพูดกับบิดาว่า “ขอพ่อลุกขึ้นรับประทานเนื้อที่ลูกชายหามา เพื่อจะได้อวยพรลูก” อิสอัค บิดาพูดกับเขาว่า “เจ้าคือใคร?” เขาตอบว่า “ลูกคือเอซาว ลูกชายหัวปีของพ่อ” พอได้ฟังดังนั้น อิสอัคก็ตัวสั่นมากยิ่งนัก พูดว่า “ใครเล่าที่ไปล่าเนื้อ แล้วนำมาให้พ่อ? พ่อกินหมดแล้วก่อนเจ้ามาถึง และพ่ออวยพรเขาแล้ว และเขาจะได้รับพรแน่นอน” เมื่อเอซาวได้ยินถ้อยคำของบิดาก็ร้องตะโกนเสียงดังด้วยความขมขื่นยิ่งนัก และพูดกับบิดาว่า “พ่อ ขออวยพรลูกด้วยเถิด” แต่ท่านพูดว่า “น้องเจ้าเข้ามาหลอกพ่อ เอาพรของเจ้าไปเสียแล้ว” เอซาวพูดว่า “เขามีชื่อว่ายาโคบก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรือ? เพราะเขาหลอกลูกสองหนเข้านี่แล้ว เขาเอาสิทธิบุตรหัวปีของลูกไป และคราวนี้เขาเอาพรของลูกไปอีกด้วย” แล้วเขาพูดว่า “พ่อไม่ได้สงวนพรไว้ให้ลูกบ้างหรือ?” อิสอัคตอบเอซาวว่า “พ่อตั้งให้เขาเป็นนายเหนือเจ้า และมอบบรรดาพี่น้องของเขาทั้งหมดให้เป็นคนใช้ของเขา ทั้งพืชและเหล้าองุ่น พ่อก็จัดให้เขา ลูกเอ๋ย พ่อจะทำอะไรให้เจ้าได้อีกเล่า?” เอซาวพูดกับบิดาว่า “พ่อ พ่อมีพรแต่เพียงพรเดียวเท่านั้นหรือ? พ่อ ขออวยพรลูก ให้พรลูกด้วยเถิดพ่อ” แล้วเอซาวก็ตะเบ็งเสียงร้องไห้ อิสอัคบิดาของเขาจึงตอบว่า “ที่ดินของเจ้าจะอยู่ห่างจากความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และห่างจากน้ำค้างจากฟ้าเบื้องบน แต่เจ้าจะมีชีวิตอยู่ด้วยดาบ และเจ้าจะรับใช้น้องชายของเจ้า แต่เมื่อเจ้าดิ้นรน เจ้าจะหักแอกของเขาออกจากคอของเจ้า” ฝ่ายเอซาวเกลียดชังยาโคบ เพราะเรื่องพรที่บิดาอวยพรเขา เอซาวรำพึงในใจว่า “วันไว้ทุกข์พ่อใกล้เข้ามาแล้ว วันนั้นข้าจะฆ่ายาโคบน้องชายของข้าเสีย” แต่มีคนบอกถ้อยคำของเอซาวบุตรชายคนโตแก่เรเบคาห์ นางให้คนไปเรียกยาโคบบุตรชายคนเล็กของนางมา และพูดกับเขาว่า “นี่แน่ะ เอซาวพี่ชายของเจ้าปลอบใจตนเองด้วยการจะฆ่าเจ้า เพราะฉะนั้นลูกเอ๋ยเชื่อฟังแม่ ลุกขึ้นหนีไปหาลาบันพี่ชายของแม่ที่ฮาราน และอยู่กับเขาชั่วคราวจนกว่าความเกรี้ยวกราดของพี่ชายเจ้าจะคลายลง จนกว่าความโกรธของพี่ชายเจ้าจะคลายลง และเขาลืมสิ่งที่เจ้าทำต่อเขา แล้วแม่จะส่งให้คนไปรับเจ้ากลับมาจากที่นั่น ทำไมแม่จะต้องสูญเสียลูกทั้งสองคนในวันเดียวกัน?” เรเบคาห์พูดกับอิสอัคว่า “ฉันเบื่อชีวิตของฉันเหลือเกิน เพราะหญิงฮิตไทต์ ถ้ายาโคบแต่งงานกับหญิงฮิตไทต์ หญิงดินแดนนี้ ชีวิตของฉันจะมีประโยชน์อะไรแก่ฉัน?”
ปฐมกาล 27:30-46 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
และต่อมาพออิสอัคอวยพรยาโคบเสร็จแล้ว เมื่อยาโคบพึ่งออกไปจากหน้าอิสอัคบิดา เอซาวพี่ชายก็กลับจากการล่าเนื้อ และเขาเตรียมอาหารอร่อยนำมาให้บิดาด้วย และพูดกับบิดาว่า “ขอท่านลุกขึ้นรับประทานเนื้อที่ลูกชายหามา เพื่อจิตวิญญาณของท่านจะได้อวยพรลูก” อิสอัคบิดาพูดกับเขาว่า “เจ้าคือใคร” เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าคือเอซาวบุตรชายของท่าน เป็นบุตรหัวปีของท่าน” อิสอัคก็ตัวสั่นมากพูดว่า “ใครเล่า คือผู้นั้นอยู่ที่ไหน ที่ไปล่าเนื้อ แล้วนำมาให้พ่อ พ่อกินหมดแล้วก่อนเจ้ามาถึงและพ่ออวยพรเขาแล้ว เป็นที่แน่ว่าผู้นั้นจะได้รับพร” เมื่อเอซาวได้ยินคำกล่าวของบิดาก็ร้องออกมาเสียงดังด้วยความขมขื่น และพูดกับบิดาว่า “โอ บิดาเจ้าข้า ขออวยพรข้าพเจ้า ขออวยพรข้าพเจ้าด้วยเถิด” แต่ท่านพูดว่า “น้องชายเจ้าเข้ามาหลอกพ่อ และเอาพรของเจ้าไปเสียแล้ว” เอซาวพูดว่า “เขามีชื่อว่ายาโคบก็ถูกต้องแล้วมิใช่หรือ เพราะว่าเขาแกล้งให้ข้าพเจ้าเสียเปรียบสองครั้งแล้ว เขาเอาสิทธิบุตรหัวปีของข้าพเจ้าไป และดูเถิด คราวนี้เขาเอาพรของข้าพเจ้าไปอีกด้วย” แล้วเขาพูดว่า “ท่านมิได้สงวนพรไว้ให้ข้าพเจ้าบ้างหรือ” อิสอัคตอบเอซาวว่า “ดูเถิด พ่อตั้งให้เขาเป็นนายเหนือเจ้า และมอบบรรดาพี่น้องของเขาให้เป็นคนใช้ของเขา ทั้งข้าวและน้ำองุ่นพ่อก็จัดให้เขา ลูกเอ๋ย พ่อจะทำอะไรให้เจ้าได้อีกเล่า” เอซาวพูดกับบิดาว่า “บิดาเจ้าข้า ท่านมีพรแต่เพียงพรเดียวเท่านั้นหรือ โอ บิดาเจ้าข้า ขออวยพรลูก ขออวยพรลูกด้วยเถิด” แล้วเอซาวก็ตะเบ็งเสียงร้องไห้ อิสอัคบิดาของเขาจึงตอบเขาว่า “ดูเถิด เจ้าจะได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินอันอุดมบริบูรณ์ มีน้ำค้างลงมาจากฟ้า แต่เจ้าจะมีชีวิตอยู่ด้วยดาบและเจ้าจะรับใช้น้องชายของเจ้า แต่ต่อมาเมื่อเจ้ามีกำลังขึ้นเจ้าจะหักแอกของน้องเสียจากคอของตน” ฝ่ายเอซาวก็เกลียดชังยาโคบเพราะเหตุพรที่บิดาได้ให้แก่เขานั้น เอซาวรำพึงในใจว่า “วันไว้ทุกข์พ่อใกล้เข้ามาแล้ว หลังจากนั้นข้าจะฆ่ายาโคบน้องชายของข้าเสีย” แต่คำของเอซาวบุตรชายคนโตไปถึงหูของนางเรเบคาห์ นางให้คนไปเรียกยาโคบบุตรชายคนเล็กของนางมา และพูดกับเขาว่า “ดูเถิด เอซาวพี่ชายของเจ้าปลอบใจตนเองด้วยแผนการจะฆ่าเจ้า เพราะฉะนั้น ลูกเอ๋ย บัดนี้ฟังเสียงของแม่เถิด จงลุกขึ้นหนีไปหาลาบันพี่ชายของแม่ที่เมืองฮาราน และอยู่กับเขาชั่วคราวจนกว่าความเกรี้ยวกราดของพี่ชายเจ้าจะคลายลง จนกว่าความโกรธของพี่ชายเจ้าจะคลายลง และเขาลืมสิ่งที่เจ้าได้ทำแก่เขา แล้วแม่จะส่งให้คนไปพาเจ้ากลับมาจากที่นั่น แม่ต้องสูญเสียลูกทั้งสองคนในวันเดียวกันทำไมเล่า” นางเรเบคาห์พูดกับอิสอัคว่า “ข้าพเจ้าเบื่อชีวิตของข้าพเจ้าเหลือเกิน เพราะบุตรสาวของคนเฮท ถ้ายาโคบแต่งงานกับบุตรสาวคนเฮท ซึ่งเป็นหญิงแผ่นดินนี้ ชีวิตข้าพเจ้าจะเป็นประโยชน์อะไรแก่ข้าพเจ้าเล่า”
ปฐมกาล 27:30-46 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
พออิสอัคอวยพรยาโคบเสร็จ และยาโคบออกไปพ้นหน้าอิสอัคบิดา เอซาวพี่ชายก็กลับจากการล่าเนื้อ เขาเตรียมอาหารอร่อยนำมาให้บิดา เขาพูดกับบิดาว่า <<ขอพ่อลุกขึ้นรับประทานเนื้อที่ลูกชายหามา เพื่อจะได้อวยพรลูก>> อิสอัค บิดาพูดกับเขาว่า <<เจ้าคือใคร>> เขาตอบว่า <<ฉันคือลูกชาย ลูกหัวปีของพ่อ คือเอซาว>> พอได้ฟังดังนั้น อิสอัคก็ตัวสั่น พูดว่า <<ใครเล่าที่ไปล่าเนื้อ แล้วนำมาให้พ่อ พ่อกินหมดแล้วก่อนเจ้ามาถึง และพ่ออวยพรเขาแล้ว เป็นที่แน่ว่า เขาจะได้รับพร>> เมื่อเอซาวได้ยินบิดากล่าวเช่นนั้นก็ร้อง ออกมาเสียงดังด้วยความขมขื่น และพูดกับบิดาว่า <<คุณพ่อครับ ขออวยพรผม ขออวยพรผมด้วย>> แต่ท่านพูดว่า <<น้องเจ้าเข้ามาหลอกพ่อ เอาพรของเจ้าไปเสียแล้ว>> เอซาวพูดว่า <<เขามีชื่อว่ายาโคบก็ถูกต้องแล้วมิใช่หรือ เพราะเขาหลอกฉันสองหนเข้านี่แล้ว เขาเอาสิทธิบุตรหัวปีของฉันไป และคราวนี้เขาเอาพรของฉันไปอีกด้วย>> แล้วเขาพูดว่า <<พ่อมิได้สงวนพรไว้ให้ฉันบ้างหรือ>> อิสอัคตอบเอซาวว่า <<พ่อตั้งให้เขาเป็นนายเหนือเจ้า และมอบพี่น้องของเขาให้เป็นคนใช้ของเขา ทั้งพืชและเหล้าองุ่น พ่อก็จัดให้เขา ลูกเอ๋ย พ่อจะทำอะไรให้เจ้าได้อีกเล่า>> เอซาวพูดกับบิดาว่า <<พ่อครับ พ่อมีพรแต่เพียงพรเดียวเท่านั้นหรือ พ่อครับ ขออวยพรลูก ขออวยพรลูกด้วย>> แล้วเอซาวก็ตะเบ็งเสียงร้องไห้ อิสอัคบิดาของเขาจึงตอบว่า <<ที่อาศัยของเจ้าจะอยู่ห่างจากความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และห่างจากน้ำค้างจากฟ้าเบื้องบน แต่เจ้าจะมีชีวิตอยู่ด้วยดาบ และเจ้าจะรับใช้น้องชายของเจ้า แต่เมื่อเจ้าสลัดหลุดไปได้ เจ้าจะหักแอกของเขาออกจากคอของ เจ้า>> ฝ่ายเอซาวเกลียดชังยาโคบ เพราะบิดาประสาทพรแก่เขา เอซาวรำพึงในใจว่า <<วันไว้ทุกข์พ่อใกล้เข้ามาแล้ว วันนั้นข้าจะฆ่ายาโคบน้องชายของข้าเสีย>> แต่คำของเอซาวบุตรชายคนโตไปถึงหูของเรเบคาห์ นางให้คนไปเรียกยาโคบบุตรชายคนเล็กของนางมา และพูดกับเขาว่า <<ดูเถิด เอซาวพี่ชายของเจ้าปลอบใจตนเองด้วยแผนการจะฆ่าเจ้า เพราะฉะนั้นลูกเอ๋ยฟังคำแม่ หนีไปหาลาบันพี่ชายของแม่ที่เมืองฮาราน และอยู่กับเขาชั่วคราวจนกว่าความ เกรี้ยวกราดของพี่ชายเจ้าจะคลายลง จนกว่าความโกรธของพี่ชายเจ้าจะคลายลง และเขาลืมสิ่งที่ทำแก่เขา แล้วแม่จะส่งให้คนไปพาเจ้ากลับมาจากที่นั่น แม่ไม่อยากสูญเสียลูกทั้งสองคนในวันเดียวกัน>> เรเบคาห์พูดกับอิสอัคว่า <<ฉันเบื่อชีวิตของฉันเหลือเกิน เพราะหญิงฮิตไทต์ ถ้ายาโคบแต่งงานกับหญิงฮิตไทต์ หญิงดินแดนนี้ ชีวิตฉันจะเป็นประโยชน์อะไรแก่ฉันเล่า>>
ปฐมกาล 27:30-46 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
หลังจากที่อิสอัคอวยพรยาโคบจบแล้ว และยาโคบเพิ่งจะลาบิดาของเขาออกไป เอซาวพี่ชายของเขาก็กลับมาจากการล่าสัตว์ เขาก็ทำอาหารรสดีและนำมาให้บิดาของเขาด้วย แล้วเอซาวกล่าวกับบิดาว่า “เชิญพ่อลุกขึ้นนั่งรับประทานเนื้อที่ลูกล่ามา เพื่อพ่อจะได้ให้พรของพ่อแก่ลูก” อิสอัคบิดาของเขาถามว่า “เจ้าเป็นใคร?” เขาตอบว่า “ลูกชายของพ่อ เอซาวลูกหัวปีของพ่อ” อิสอัคก็โกรธจนตัวสั่นและกล่าวว่า “แล้วใครกันเล่าที่ได้ล่าเนื้อและนำมาให้พ่อ? พ่อเพิ่งกินไปก่อนที่เจ้าจะมา และพ่อได้อวยพรเขา และเขาจะได้รับพรแน่!” เมื่อเอซาวได้ยินบิดาพูดเช่นนั้นก็ร้องไห้เสียงดังด้วยความขมขื่นและพูดกับบิดาว่า “อวยพรลูก อวยพรลูกด้วยเถิดพ่อ” แต่อิสอัคกล่าวว่า “น้องชายของเจ้ามาหลอกเอาพรของเจ้าไปแล้ว” เอซาวพูดว่า “ที่เขามีชื่อว่ายาโคบก็ถูกแล้วไม่ใช่หรือ? เขาได้หลอกลูกมาสองครั้งแล้ว เขาได้เอาสิทธิ์บุตรหัวปีของลูกไป และคราวนี้ยังได้เอาพรของลูกไปอีก!” แล้วเขาถามว่า “พ่อไม่มีพรเหลือให้ลูกบ้างเลยหรือ?” อิสอัคตอบเอซาวว่า “พ่อได้ตั้งให้เขาเป็นนายเหนือเจ้า และให้ญาติพี่น้องของเขาทั้งหมดเป็นคนรับใช้เขา พ่อขอให้พระเจ้าค้ำจุนเขาด้วยข้าวและเหล้าองุ่นใหม่ แล้วพ่อจะทำอะไรเพื่อเจ้าได้อีกเล่า ลูกของพ่อเอ๋ย?” เอซาวกล่าวกับบิดาอีกว่า “พ่อมีเพียงพรเดียวเท่านั้นหรือ? พ่อของลูก โปรดอวยพรลูกด้วยเถิด พ่อของลูก!” แล้วเอซาวก็ร้องไห้เสียงดัง อิสอัคบิดาของเขาตอบว่า “ที่อาศัยของเจ้าจะห่างไกล จากฝนบนแผ่นดิน จากน้ำค้างแห่งฟ้าสวรรค์เบื้องบน เจ้าจะมีชีวิตอยู่ด้วยดาบ และเจ้าจะรับใช้น้องของเจ้า แต่เมื่อเจ้าทนไม่ได้ เจ้าจะสลัดแอกของเขา พ้นจากคอของเจ้า” เอซาวเก็บความแค้นที่มีต่อยาโคบไว้ เพราะพรที่บิดาได้ให้ยาโคบ เขาบอกกับตนเองว่า “วันไว้ทุกข์ให้พ่อก็ใกล้เข้ามาแล้ว ตอนนั้นเราจะฆ่ายาโคบน้องชายของเรา” เมื่อมีคนมาบอกเรเบคาห์ว่าเอซาวบุตรชายคนโตของนางพูดว่าอย่างไร นางจึงเรียกยาโคบบุตรชายคนเล็กมา และกล่าวกับเขาว่า “เอซาวพี่ชายของเจ้ากำลังวางแผนจะฆ่าเจ้าเป็นการล้างแค้น ลูกเอ๋ย บัดนี้จงทำตามที่แม่สั่ง จงรีบหนีไปหาลาบันพี่ชายของแม่ที่เมืองฮาราน ไปพักกับเขาสักระยะหนึ่งจนกว่าความโกรธเกรี้ยวของพี่เจ้าจะคลายลง เมื่อพี่ชายของเจ้าหายโกรธและลืมสิ่งที่เจ้าทำไว้กับเขา แม่ก็จะส่งคนไปตามลูกกลับมาจากที่นั่น แม่ไม่อยากเสียลูกทั้งสองคนไปในวันเดียว” แล้วเรเบคาห์พูดกับอิสอัคว่า “ฉันจะทนอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว เพราะผู้หญิงชาวฮิตไทต์เหล่านี้ ถ้ายาโคบหาภรรยาจากหญิงในดินแดนนี้ จากหญิงชาวฮิตไทต์อย่างนี้ ชีวิตของฉันก็ไม่มีค่าที่จะอยู่ต่อไป”
ปฐมกาล 27:30-46 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ทันทีที่อิสอัคให้พรแก่ยาโคบจบ ยาโคบเพิ่งจะออกไปพ้นหน้าอิสอัคบิดาของเขา เอซาวพี่ชายของเขาก็กลับเข้ามาจากการล่าเนื้อ เขาทำอาหารอร่อยมาด้วย และกำลังนำมาให้บิดา เขาพูดกับบิดาว่า “ท่านพ่อลุกขึ้นรับประทานเนื้อที่ลูกของท่านล่ามาได้เถิด แล้วท่านจะได้ให้พรแก่ลูก” อิสอัคบิดาของเขากล่าวว่า “เจ้าเป็นใคร” เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นลูกของพ่อ เอซาวลูกหัวปีของพ่อไง” อิสอัคก็ตัวสั่นเทา พลางพูดว่า “แล้วใครเล่าที่ล่าเนื้อ แล้วนำมาให้พ่อ พ่อก็กินหมดก่อนที่เจ้าจะเข้ามา พ่อให้พรแก่เขาแล้วด้วย ใช่แล้ว เขาจะได้รับพรแน่” เมื่อเอซาวได้ยินคำพูดของบิดา เขาก็ร้องตะโกนเสียงลั่นด้วยความขมขื่น และพูดกับบิดาว่า “โอ พ่อของลูก ให้พรแก่ลูกเถิด ให้พรแก่ลูกด้วย” แต่ท่านกล่าวว่า “น้องชายของเจ้ามาหลอกลวงพ่อ แล้วเขาเอาพรของเจ้าไปแล้ว” เอซาวพูดว่า “ยาโคบช่างเป็นชื่อที่เหมาะสมกับเขาเสียจริง เพราะเขาสวมรอยลูกมา 2 หนแล้ว เขาชิงเอาสิทธิของลูกหัวปีของลูกไปแล้ว ดูนี่สิ คราวนี้เขาชิงเอาพรของลูกไป” แล้วเขาพูดต่ออีกว่า “พ่อไม่มีพรสำรองไว้ให้ลูกบ้างเลยหรือ” อิสอัคตอบเอซาวว่า “ดูสิ พ่อทำให้เขาเป็นนายของเจ้า และพ่อให้ญาติพี่น้องของเขาเป็นผู้รับใช้เขา พ่อให้เขามีธัญพืชและเหล้าองุ่นสะสมไว้มากมาย ลูกของพ่อเอ๋ย แล้วพ่อจะช่วยอะไรเจ้าได้เล่า” เอซาวพูดกับบิดาของเขาว่า “พ่อของลูก พ่อมีเพียงพรเดียวเท่านั้นหรือ ให้พรแก่ลูกเถิด ให้พรแก่ลูกด้วย โอ พ่อของลูก” เอซาวแผดเสียงขึ้น แล้วก็ร้องไห้ แล้วอิสอัคบิดาของเขาตอบเขาว่า “ฟังนะ บ้านเรือนของเจ้า จะอยู่ไกลจากแผ่นดินอันอุดม อยู่ไกลจากน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์เบื้องบน เจ้าจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการใช้คมดาบ และเจ้าจะรับใช้น้องของเจ้า แต่เมื่อเจ้าฮึดสู้ เจ้าจะสลัดแอกของเขา หลุดจากคอของเจ้า” เอซาวเกลียดชังยาโคบ เพราะบิดาของเขาได้ให้พรแก่เขา เอซาวจึงรำพันขึ้นว่า “วันที่จะต้องร้องคร่ำครวญถึงพ่อใกล้จะถึงแล้ว แล้วฉันจะฆ่ายาโคบน้องชายของฉัน” แต่มีคนไปบอกนางเรเบคาห์ถึงสิ่งที่เอซาวบุตรคนโตของนางกำลังจ้องที่จะทำ นางจึงให้คนไปเรียกยาโคบบุตรคนเล็กของนางมา และบอกว่า “ดูสิ เอซาวพี่ชายของเจ้าปลอบใจตัวเองโดยมีแผนจะฆ่าเจ้า ฉะนั้นลูกเอ๋ย ตอนนี้เจ้าจงเชื่อฟังแม่ ไปเถิด หนีไปหาลาบันพี่ชายของแม่ที่ฮาราน และอยู่กับเขาสักพักหนึ่ง จนกว่าพี่ชายของเจ้าจะคลายความฉุนเฉียว เมื่อพี่ชายเจ้าหายโกรธจนลืมว่าเจ้าทำอะไรกับเขาไว้ แล้วแม่จะส่งคนไปรับตัวเจ้ามาจากที่นั่น แม่ไม่อยากเสียลูกทั้งสองคนในวันเดียว” แล้วเรเบคาห์พูดกับอิสอัคว่า “ฉันเอือมระอากับผู้หญิงชาวฮิตเหลือเกิน ถ้ายาโคบหาภรรยาได้จากพวกผู้หญิงชาวฮิต คือผู้หญิงจากดินแดนนี้ ฉันก็คงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว”