ปฐมกาล 24:33-63
ปฐมกาล 24:33-63 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
เมื่ออาหารถูกจัดไว้ตรงหน้า เพื่อให้เขารับประทาน แต่เขาว่า “ข้าพเจ้าจะไม่รับประทาน จนกว่าข้าพเจ้าจะได้พูดถึงธุระของข้าพเจ้า” ลาบันก็ว่า “พูดเถอะ” เขาจึงพูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนใช้ของอับราฮัม พระยาห์เวห์ทรงอวยพรนายข้าพเจ้าอย่างมาก ท่านก็เจริญขึ้น พระองค์ประทานฝูงแพะแกะ และฝูงโค เงินและทอง คนใช้ชายหญิง อูฐและลา ซาราห์ภรรยานายของข้าพเจ้าคลอดบุตรชายคนหนึ่งให้แก่นายเมื่อนางแก่แล้ว และนายก็ยกทุกสิ่งที่นายมีให้บุตร นายให้ข้าพเจ้าปฏิญาณว่า ‘อย่าหาภรรยาให้แก่บุตรชายของเราจากบุตรหญิงของคนคานาอัน ซึ่งเราอาศัยอยู่ในดินแดนของพวกเขา แต่เจ้าจงไปยังบ้านบิดาของเราและไปยังหมู่ญาติของเรา และหาภรรยาให้แก่บุตรชายของเรา’ ข้าพเจ้าพูดกับนายว่า ‘หญิงนั้นอาจจะไม่ตามข้าพเจ้ามา’ แต่ท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้ซึ่งเราดำเนินอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์จะทรงส่งทูตของพระองค์ไปกับเจ้า และให้ทางของเจ้าบังเกิดผล ให้เจ้าหาภรรยาให้บุตรชายของเรา จากหมู่ญาติของเราและจากบ้านบิดาของเรา แล้วเจ้าจะพ้นจากคำสาบานของเรา เมื่อเจ้ามาถึงหมู่ญาติของเราแล้ว ถ้าเขาไม่ยอมให้หญิงนั้นกับเจ้า เจ้าก็พ้นจากคำสาบานของเรา’ “วันนี้ข้าพเจ้ามาถึงบ่อน้ำและทูลว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ขอพระองค์โปรดให้ทางที่ข้าพระองค์ไปนั้นสำเร็จ เวลานี้ ข้าพระองค์กำลังยืนอยู่ที่น้ำพุ ขอให้หญิงสาวที่ออกมาตักน้ำ ผู้ซึ่งข้าพระองค์จะพูดด้วยว่า “ขอน้ำให้ฉันดื่มจากเหยือกของเธอสักหน่อย” และผู้ซึ่งจะตอบข้าพระองค์ว่า “เชิญดื่มเถิด และดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย” คนนั้นเป็นหญิงที่พระยาห์เวห์ทรงเลือกเป็นภรรยาบุตรชายของนายข้าพระองค์’ “ก่อนที่ข้าพเจ้าจะพูดในใจจบ ก็พอดีเรเบคาห์แบกเหยือกบนบ่าเธอเดินออกมา เธอลงไปตักน้ำที่น้ำพุ ข้าพเจ้าพูดกับเธอว่า ‘ขอน้ำฉันดื่มหน่อย’ เธอก็รีบลดเหยือกจากบ่าของเธอและว่า ‘เชิญดื่มเถิด แล้วดิฉันจะให้น้ำแก่อูฐของท่านด้วย’ ข้าพเจ้าจึงดื่ม เธอก็ตักน้ำให้อูฐกินด้วย แล้วข้าพเจ้าถามเธอว่า ‘เธอเป็นบุตรสาวของใคร’ เธอตอบว่า ‘เป็นบุตรสาวของเบธูเอลบุตรชายของนาโฮร์และนางมิลคาห์’ ข้าพเจ้าจึงใส่ห่วงที่จมูกของเธอและสวมกำไลที่ข้อมือเธอ แล้วข้าพเจ้าก็ก้มลงนมัสการพระยาห์เวห์ และสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัมนายข้าพเจ้า ผู้ทรงนำข้าพเจ้ามาตามทางที่ถูก เพื่อหาบุตรสาวของญาตินายให้บุตรชายท่าน บัดนี้ถ้าท่านยอมแสดงความเมตตาและจริงใจต่อนายของข้าพเจ้าแล้ว ขอกรุณาบอกข้าพเจ้า ถ้าท่านปฏิเสธก็ขอบอกข้าพเจ้าด้วย เพื่อข้าพเจ้าจะหันไปทางขวาหรือทางซ้าย” ลาบันและเบธูเอลจึงตอบว่า “สิ่งนี้มาจากพระยาห์เวห์ เราจะพูดดีหรือร้ายกับท่านก็ไม่ได้ ดูเถิด เรเบคาห์ก็อยู่ต่อหน้าท่าน พาเธอไปเถิด และให้เธอเป็นภรรยาบุตรชายนายของท่าน ดังที่พระยาห์เวห์ตรัสแล้ว” เมื่อคนใช้ของอับราฮัมได้ยินถ้อยคำของพวกเขา ก็โน้มตัวลงถึงดินนมัสการพระยาห์เวห์ แล้วนำเครื่องอาภรณ์ ซึ่งทำด้วยเงินด้วยทองออกมา พร้อมกับเสื้อผ้ามอบให้แก่เรเบคาห์ เขายังมอบของมีค่าให้แก่พี่ชายและมารดาของเธอด้วย แล้วเขากับคนที่มากับเขาก็รับประทานและดื่ม และค้างคืนที่นั่น เมื่อพวกเขาลุกขึ้นในเวลาเช้า คนใช้นั้นก็กล่าวว่า “ขอให้ข้าพเจ้ากลับไปหานายข้าพเจ้าเถิด” พี่ชายและมารดาของเธอว่า “ขอให้หญิงสาวอยู่กับเราสักหน่อยก่อน อย่างน้อยสักสิบวัน แล้วเธอจะไปก็ได้” แต่คนใช้นั้นพูดกับเขาทั้งสองว่า “อย่าหน่วงข้าพเจ้าไว้เลย เพราะพระยาห์เวห์ทรงให้ทางของข้าพเจ้าสำเร็จแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าออกเดินทางไปหานายข้าพเจ้า” เขาทั้งสองก็ว่า “เราจะเรียกหญิงสาวมาถามดู” เขาทั้งสองจึงเรียกเรเบคาห์มาหาและพูดกับเธอว่า “เจ้าจะไปกับชายคนนี้หรือไม่?” เธอตอบว่า “ฉันจะไป” พวกเขาจึงส่งเรเบคาห์น้องสาวกับพี่เลี้ยงของเธอไปกับคนใช้ของอับราฮัมและคนของเขา พวกเขาอวยพรเรเบคาห์ และกล่าวแก่เธอว่า “น้องเอ๋ย ขอให้เจ้าเป็นมารดาคนนับแสนๆ และขอให้เชื้อสายของเจ้าได้ประตูเมืองของคนที่เกลียดชังเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์” แล้วเรเบคาห์และเหล่าสาวใช้ของเธอก็ลุกขึ้นและขึ้นอูฐตามชายนั้นไป คนใช้ก็พาเรเบคาห์ไป ฝ่ายอิสอัคมาจากเบเออลาไฮรอย เพราะเขาอาศัยอยู่ในดินแดนเนเกบ เวลาเย็นอิสอัคออกไปที่ทุ่งนาเพื่อจะไตร่ตรองเรื่องต่างๆ พอเงยหน้าขึ้นมองไปเห็นมีฝูงอูฐเดินมา
ปฐมกาล 24:33-63 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
แล้วลาบันจัดอาหารมาเลี้ยงเขา แต่เขาว่า <<ข้าพเจ้าจะไม่รับประทาน จนกว่าข้าพเจ้าจะพูดถึงธุระ ที่ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายมานั้นให้ท่านฟังเสียก่อน>> ลาบันก็ว่า <<เชิญพูดเถิด>> เขาจึงพูดว่า <<ข้าพเจ้าเป็นคนใช้ของอับราฮัม พระเจ้าทรงอำนวยพระพรแก่ นายข้าพเจ้าอย่างมากมายท่านก็เจริญ พระองค์ทรงประทานฝูงแพะแกะ และฝูงโค เงินและทอง คนใช้ชายหญิง อูฐและลา ซาราห์ภรรยานายข้าพเจ้าได้บุตรชาย คนหนึ่งให้แก่นายเมื่อนางแก่แล้ว และนายก็ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้บุตร นายให้ข้าพเจ้าปฏิญาณว่า <เจ้าอย่าหาภรรยาให้แก่บุตรชายของ เราจากบุตรหญิงของคนคานาอัน ซึ่งเราอาศัยอยู่ในดินแดนของเขานี้ แต่เจ้าจงไปยังบ้านบิดาของเราและไปยังหมู่ญาติของเรา และหาภรรยาคนหนึ่งให้แก่บุตรชายของเรา> ข้าพเจ้าพูดกับนายว่า <หญิงนั้นอาจจะไม่ยอมมากับข้าพเจ้า> แต่ท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า <พระเจ้าผู้ซึ่งเราดำเนินอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์จะทรงส่งทูตของพระองค์ไปกับเจ้า และให้ทางของเจ้าบังเกิดผล เจ้าจงหาภรรยาคนหนึ่งให้บุตรชายของเรา จากหมู่ญาติของเราและจากบ้านบิดาของเรา แล้วเจ้าจะพ้นจากคำสาบานของเรา เมื่อเจ้ามาถึงหมู่ญาติของเราแล้ว ถ้าเขาไม่ยอมให้หญิงนั้น เจ้าก็พ้นจากคำสาบานของเรา> <<วันนี้ข้าพเจ้ามาถึงบ่อน้ำและทูลว่า <ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของ ข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงโปรดให้ทางที่ข้าพระองค์ไปนั้นเกิดผล เวลานี้ ข้าพระองค์กำลังยืนอยู่ที่น้ำพุ ขอให้หญิงสาวที่ออกมาตักน้ำ ผู้ซึ่งข้าพระองค์จะพูดด้วยว่า <<ขอน้ำให้ฉันดื่มจากเหยือกของเธอสักหน่อย>> และผู้ซึ่งจะตอบข้าพระองค์ว่า <<เชิญดื่มเถิด และดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย>> เป็นหญิงที่พระเจ้าทรงกำหนดตัวไว้ให้เป็นภรรยา บุตรชายของนายข้าพระองค์> <<ก่อนที่ข้าพเจ้าจะพูดในใจจบ ก็พอดีเรเบคาห์แบกเหยือกของเธอเดินออกมา เธอลงไปตักน้ำที่น้ำพุ ข้าพเจ้าพูดกับเธอว่า <ขอน้ำฉันดื่มหน่อย> เธอก็รีบลดเหยือกของเธอจากบ่าของเธอและว่า <เชิญดื่มเถิด แล้วดิฉันจะให้น้ำแก่อูฐของท่านด้วย> ข้าพเจ้าจึงดื่ม เธอก็ตักน้ำให้อูฐกินด้วย แล้วข้าพเจ้าถามเธอว่า <เธอเป็นบุตรหญิงของใคร> เธอตอบว่า <เป็นบุตรหญิงของเบธูเอลบุตรชายของนาโฮร์และนางมิลคาห์> ข้าพเจ้าจึงใส่แหวนที่จมูกของเธอและสวมกำไลที่ข้อมือเธอ แล้วข้าพเจ้าก็กราบลงนมัสการพระเจ้า และถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้า ของอับราฮัมนายข้าพเจ้า ผู้ทรงนำข้าพเจ้ามาตามทางที่ถูก เพื่อหาบุตรหญิงของญาตินายให้บุตรชาย บัดนี้ถ้าท่านยอมแสดงความภักดีและจริงใจต่อนายข้าพเจ้าแล้ว ขอกรุณาบอกข้าพเจ้า ถ้ามิฉะนั้นก็ขอบอกข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะหันไปทางขวาหรือทางซ้าย>> ลาบันและเบธูเอลจึงตอบว่า <<สิ่งนี้มาจากพระเจ้า เราจะพูดดีหรือร้ายกับท่านก็ไม่ได้ ดูเถิด เรเบคาห์ก็อยู่ต่อหน้าท่าน พาเธอไปเถิด และให้เธอเป็นภรรยาบุตรชายนายของท่าน ดังที่พระเจ้าตรัสแล้ว>> เมื่อคนใช้ของอับราฮัมได้ยินถ้อยคำของท่าน ก็กราบลงถึงดินต่อพระพักตร์พระเจ้า แล้วก็นำเอาเครื่องอาภรณ์ ซึ่งทำด้วยเงินด้วยทองออกมา พร้อมกับเสื้อผ้ามอบให้แก่เรเบคาห์ เขายังมอบของอันมีค่าให้แก่พี่ชายและมารดาของเธอด้วย แล้วเขากับคนที่มากับเขาก็รับประทานและดื่ม และค้างคืนที่นั่น เมื่อพวกเขาลุกขึ้นในเวลาเช้า คนใช้นั้นก็กล่าวว่า <<ขอให้ข้าพเจ้ากลับไปหานายข้าพเจ้าเถิด>> พี่ชายและมารดาของเธอว่า <<ขอให้หญิงสาวอยู่กับเราสักหน่อยก่อน อย่างน้อยสักสิบวัน แล้วเธอจะไปก็ได้>> แต่เขาพูดกับเขาทั้งสองว่า <<อย่าหน่วงข้าพเจ้าไว้เลย เพราะพระเจ้าทรงให้ทางของข้าพเจ้าเกิดผลแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าออกเดินทางเพื่อข้าพเจ้าจะได้กลับไปหานายข้าพเจ้า>> เขาทั้งสองก็ว่า <<เราจะเรียกหญิงสาวมาถามดู>> เขาทั้งสองก็เรียกเรเบคาห์มาหาและพูดกับเธอว่า <<เจ้าจะไปกับชายคนนี้หรือไม่>> เธอตอบว่า <<ฉันจะไป>> เขาจึงส่งเรเบคาห์น้องสาวกับพี่เลี้ยงของเธอ ไปพร้อมกับคนใช้ของอับราฮัมและคนของท่าน พวกเขาอวยพรเรเบคาห์ และกล่าวแก่เธอว่า <<น้องเอ๋ย ขอให้เจ้าเป็นมารดาคนนับแสนนับล้าน และขอให้เชื้อสายของเจ้าได้ประตูเมืองของคนที่ เกลียดชังเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์>> แล้วเรเบคาห์และเหล่าสาวใช้ของเธอก็ขึ้นอูฐไปกับชายนั้น คนใช้ก็พาเรเบคาห์ไป ฝ่ายอิสอัคมาจากเบเออลาไฮรอย ไปอาศัยอยู่ที่เนเกบ เวลาเย็นอิสอัคออกไปที่ทุ่งนาเพื่อจะสงบอารมณ์ เงยหน้าขึ้นมองไปเห็นมีอูฐเดินมา
ปฐมกาล 24:33-63 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แล้วยกอาหารมาตั้งตรงหน้าชายนั้น แต่เขากล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะยังไม่รับประทานจนกว่าจะได้บอกให้ท่านรู้ถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าจำเป็นจะต้องพูด” ลาบันกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้น จงบอกเราเถิด” เขาจึงพูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนรับใช้ของอับราฮัม องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรนายของข้าพเจ้าอย่างล้นเหลือ จนท่านกลายเป็นคนมั่งคั่ง พระองค์ประทานฝูงแกะ ฝูงวัว อูฐ ลา เงินและทอง ตลอดจนคนรับใช้ชายหญิง ต่อมานางซาราห์ภรรยาของนายคลอดลูกชายคนหนึ่งให้นายเมื่อนางอายุมากแล้ว และนายยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ลูกคนนี้ แล้วนายก็ให้ข้าพเจ้าสาบานและกล่าวว่า ‘เจ้าจะต้องไม่หาลูกสาวของชาวคานาอันซึ่งเป็นเจ้าของดินแดนที่เราอาศัยอยู่นี้มาเป็นภรรยาของลูกชายเรา แต่จงไปยังครอบครัวบิดาของเรา ไปยังญาติพี่น้องของเรา และหาภรรยาให้ลูกชายของเรา’ “แล้วข้าพเจ้าก็ถามนายว่า ‘ถ้าหญิงนั้นไม่ยอมตามข้าพเจ้ามาเล่า?’ “นายตอบว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ที่เราดำเนินชีวิตอยู่ในทางของพระองค์นั้นจะทรงส่งทูตของพระองค์ไปกับเจ้า และจะทรงทำให้การเดินทางของเจ้าประสบความสำเร็จ เพื่อเจ้าจะสามารถหาภรรยาให้ลูกชายของเราจากญาติพี่น้องของเรา และจากครอบครัวบิดาของเรา เมื่อเจ้าไปหาญาติพี่น้องของเราแล้ว เจ้าก็พ้นจากคำสาบานที่ให้กับเรา ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ยอมยกนางให้เจ้า เจ้าก็จะพ้นจากคำสาบาน’ “วันนี้เมื่อข้าพเจ้ามาถึงบ่อน้ำก็อธิษฐานว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ถ้าเป็นพระประสงค์ของพระองค์ โปรดให้การเดินทางของข้าพระองค์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ดูเถิด ข้าพระองค์กำลังยืนอยู่ข้างบ่อน้ำ ถ้าหญิงสาวคนหนึ่งออกมาตักน้ำ และข้าพระองค์พูดกับนางว่า “กรุณาให้ฉันดื่มน้ำจากถังของเธอสักหน่อยเถิด” และถ้านางตอบว่า “เชิญดื่มเถิด และฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย” ก็ขอให้นางเป็นผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกสรรไว้ให้ลูกชายของนายข้าพเจ้า’ “ก่อนที่ข้าพเจ้าจะจบคำอธิษฐานในใจ เรเบคาห์เดินออกมาพร้อมกับแบกถังน้ำบนบ่า นางเดินไปที่บ่อน้ำและตักน้ำ แล้วข้าพเจ้าก็พูดกับนางว่า ‘ขอน้ำให้ฉันดื่มหน่อยเถิด’ “นางก็รีบยกถังลงมาจากบ่าและบอกว่า ‘เชิญดื่มเถิด และฉันจะตักน้ำให้ฝูงอูฐของท่านด้วย’ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงดื่ม และนางก็ตักน้ำให้ฝูงอูฐด้วย “ข้าพเจ้าถามนางว่า ‘เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร?’ “นางก็ตอบว่า ‘เป็นลูกสาวของเบธูเอล ผู้เป็นบุตรของนาโฮร์กับมิลคาห์’ “ข้าพเจ้าจึงสวมห่วงที่จมูกของนางและสวมกำไลที่แขนของนาง แล้วข้าพเจ้าก็ก้มลงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพเจ้าสรรเสริญพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้ามาถูกทางเพื่อจะได้นำหลานสาวของน้องชายนายข้าพเจ้าไปให้แก่ลูกชายของเขา บัดนี้ ถ้าท่านจะกรุณานายของข้าพเจ้า ขอบอกข้าพเจ้า และถ้าท่านจะปฏิเสธ ก็โปรดบอกข้าพเจ้าเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป” ลาบันกับเบธูเอลจึงตอบว่า “เรื่องนี้เป็นมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ขอให้เป็นไปตามนั้น เรเบคาห์อยู่นี่ พานางไปเถิด ให้นางไปเป็นภรรยาลูกชายเจ้านายของท่าน ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำ” เมื่อคนรับใช้ของอับราฮัมได้ยินเช่นนั้นก็ก้มกราบลงถึงพื้นนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วคนรับใช้หยิบแก้วแหวนเงินทองและเสื้อผ้าอาภรณ์ให้นางเรเบคาห์ และให้ของขวัญล้ำค่าต่างๆ แก่พี่ชายและมารดาของนาง แล้วคนรับใช้นั้นกับคนของเขาก็กินดื่มและพักค้างคืนที่นั่น เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมา คนรับใช้นั้นจึงกล่าวว่า “โปรดส่งข้าพเจ้ากลับไปหานายของข้าพเจ้าเถิด” แต่พี่ชายและมารดาของเรเบคาห์ตอบว่า “ขอให้นางอยู่กับเราอีกสักสิบวันแล้วท่านค่อยไป” แต่คนรับใช้นั้นกล่าวกับพวกเขาว่า “อย่ารั้งข้าพเจ้าไว้เลย ในเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานความสำเร็จแก่การเดินทางของข้าพเจ้าแล้ว ขอได้ส่งข้าพเจ้ากลับไปหานายของข้าพเจ้าเถิด” แล้วพวกเขาจึงกล่าวว่า “ให้เราเรียกนางมาถามดู” ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกเรเบคาห์มาถามว่า “เจ้าจะไปกับชายผู้นี้หรือไม่?” นางตอบว่า “ฉันจะไป” พวกเขาจึงส่งเรเบคาห์น้องสาวของเขาไปพร้อมกับพี่เลี้ยงของนางและคนรับใช้ของอับราฮัมกับคนของเขา พวกเขาอวยพรเรเบคาห์และกล่าวกับนางว่า “น้องเอ๋ย ขอให้ลูกหลานของเจ้าทวีขึ้น เป็นแสนเป็นล้าน ขอให้วงศ์วานของเจ้าครอบครอง ประตูเมืองของศัตรู” จากนั้นเรเบคาห์กับบรรดาสาวใช้ของนางก็เตรียมตัวไว้พร้อมและขึ้นอูฐออกเดินทางกลับไปพร้อมกับคนรับใช้นั้น ดังนั้นคนรับใช้ก็พาเรเบคาห์จากไป ฝ่ายอิสอัคกลับมาจากเบเออร์ลาไฮรอย เพราะเขาอยู่ในเนเกบ เย็นวันหนึ่งเขาออกไปที่ท้องทุ่ง เดินคิดใคร่ครวญอยู่ และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นขบวนอูฐกำลังเคลื่อนเข้ามา
ปฐมกาล 24:33-63 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แล้วพวกเขาได้เอาอาหารมาวางไว้ตรงหน้าให้เขากิน แต่คนใช้ของอับราฮัมพูดว่า “ผมจะไม่กินจนกว่าจะได้พูดในสิ่งที่ผมต้องพูด” ลาบันพูดว่า “พูดมาสิ” ชายคนนั้นจึงพูดว่า “ผมเป็นผู้รับใช้ของอับราฮัม พระยาห์เวห์ได้อวยพรเจ้านายของผมมาก จนท่านกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์ให้พวกฝูงแกะ ฝูงวัว เงิน ทอง ทาสชายหญิง ฝูงอูฐ และฝูงลา กับท่าน แล้วซาราห์เมียของนายผมได้คลอดลูกชายให้กับเจ้านายผม ตอนที่นางแก่มากแล้ว และอับราฮัมได้ยกทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีให้กับลูกชายของเขา เจ้านายผมให้ผมสาบานกับท่าน และท่านบอกว่า ‘อย่าได้หาเมียให้กับลูกชายของเราจากลูกสาวของชาวคานาอัน ที่เรากำลังอาศัยอยู่ในแผ่นดินของพวกเขานี้ แต่เจ้าต้องไปที่บ้านของพ่อเรา และไปหาญาติๆของเรา และหาเมียให้ลูกของเราจากที่นั่น’ แล้วผมพูดกับนายว่า ‘บางทีผู้หญิงอาจจะไม่ยอมตามผมมาก็ได้’ แล้วเจ้านายบอกผมว่า ‘พระยาห์เวห์ ที่เราเชื่อฟังอยู่เสมอ จะส่งทูตสวรรค์ของพระองค์ไปกับเจ้า พระองค์จะทำให้การเดินทางของเจ้าประสบความสำเร็จ และเจ้าจะหาเมียให้กับลูกชายเราจากญาติพี่น้องของเรา และจากครอบครัวของพ่อเรา แค่เจ้าไปหาญาติพี่น้องของเรา เจ้าก็จะเป็นอิสระจากคำสาบานนี้แล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยอมยกลูกสาวให้มากับเจ้าก็ตาม เจ้าก็เป็นอิสระจากคำสาบานของเรา’ ในวันนี้ เมื่อผมมาถึงบ่อน้ำ ผมพูดว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมเจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าพระองค์จะทำให้การเดินทางของข้าพเจ้าประสบความสำเร็จล่ะก็ ข้าพเจ้ากำลังยืนอยู่ที่ข้างๆบ่อน้ำ ข้าพเจ้าจะพูดกับหญิงสาวที่ออกมาตักน้ำว่า “ขอดื่มน้ำจากเหยือกของเจ้าหน่อย” และคนที่ตอบกับข้าพเจ้าว่า “เชิญสิคะ และฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านดื่มด้วย” ก็ขอให้นางเป็นผู้หญิงคนนั้นที่พระยาห์เวห์ได้เลือกไว้สำหรับลูกชายของเจ้านายของข้าพเจ้าด้วยเถิด’ ในขณะที่ผมอธิษฐานอยู่ในใจยังไม่ทันเสร็จ เรเบคาห์ก็ออกมา มีเหยือกน้ำอยู่บนบ่า นางได้เดินลงไปที่บ่อน้ำและตักน้ำ แล้วผมได้พูดกับนางว่า ‘ขอน้ำให้ผมดื่มหน่อย’ นางก็รีบเอาเหยือกน้ำลงจากบ่าและพูดว่า ‘เชิญดื่มเถิด และฉันจะเอาน้ำให้กับพวกอูฐของท่านด้วย’ แล้วผมก็ดื่ม และนางก็เอาน้ำให้พวกอูฐดื่มด้วย แล้วผมได้ถามนางว่า ‘เจ้าเป็นลูกสาวของใคร’ นางตอบว่า ‘ฉันเป็นลูกสาวของเบธูเอล เบธูเอลเป็นลูกชายของนาโฮร์ และมิลคาห์’ ผมจึงเอาห่วงใส่ที่จมูกของนางและเอากำไลใส่ที่แขนทั้งสองของนาง แล้วผมได้ก้มกราบนมัสการพระยาห์เวห์และสรรเสริญพระองค์ พระเจ้าของอับราฮัมเจ้านายของผม พระองค์นำผมมาถูกทาง เพื่อจะได้ลูกสาวของญาติพี่น้องของเจ้านายของผม ไปให้กับลูกชายของท่าน ตอนนี้ช่วยบอกผมด้วยเถอะว่า ท่านจะเอายังไง จะตกลงกับเจ้านายผมอย่างตรงไปตรงมาและสัตย์ซื่อ หรือว่าไม่ตกลง ช่วยบอกผมด้วย ผมจะได้รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป” ลาบันและเบธูเอลตอบว่า “มันไม่ใช่เราหรอกที่จะบอกว่าตกลงหรือไม่ตกลง เพราะสิ่งนี้มาจากพระยาห์เวห์ นี่ไง เรเบคาห์อยู่ต่อหน้าท่านแล้ว เอานางไปเถิด ให้นางไปเป็นเมียของลูกชายของนายท่าน ตามที่พระยาห์เวห์ได้พูดไว้” เมื่อผู้รับใช้ของอับราฮัมได้ยินพวกเขาพูดอย่างนั้น เขาก็กราบลงกับพื้นดินต่อหน้าพระยาห์เวห์ แล้วเขาก็เอาเงิน ทองคำ เสื้อผ้าทั้งหมดมอบให้กับเรเบคาห์ และยังให้ของขวัญมีราคาแพงให้กับพี่ชายและแม่ของนางด้วย แล้วตัวเขาและพวกผู้ชายที่ติดตามเขามาก็กินและดื่มกัน และพักค้างคืนที่นั่น เมื่อพวกเขาลุกขึ้นในตอนเช้า เขาพูดว่า “ให้ผมกลับไปหาเจ้านายของผมด้วยเถิด” แต่พี่ชายและแม่ของเรเบคาห์พูดว่า “ขอให้นางอยู่กับพวกเราอีกสักสิบวันเถิด หลังจากนั้นค่อยให้นางไป” แต่ชายคนนั้นพูดกับพวกเขาว่า “อย่าให้ผมต้องคอยเลย พระยาห์เวห์ได้ทำให้การเดินทางของผมประสบความสำเร็จแล้ว ให้ผมกลับไปเถอะ ผมจะได้ไปหาเจ้านายผม” พี่ชายและแม่ของเรเบคาห์จึงพูดว่า “พวกเราจะเรียกนางมาถามดูว่านางจะเอาอย่างไร” แล้วพวกเขาก็เรียกเรเบคาห์และพูดกับนางว่า “เธอจะไปกับชายคนนี้หรือเปล่า” นางตอบว่า “ฉันจะไป” พวกเขาจึงส่งเรเบคาห์น้องสาวของพวกเขา และพี่เลี้ยงของนางไปกับผู้รับใช้ของอับราฮัมและคนของเขา และครอบครัวของเรเบคาห์อวยพรนางว่า “น้องสาวของพวกเรา ขอให้เธอเป็นแม่ของประชาชนล้านๆคน ขอให้ลูกหลานของเธอได้ยึดครองเมืองต่างๆของพวกศัตรูเขา” แล้วเรเบคาห์และพวกหญิงรับใช้ของนางก็ลุกขึ้น และขึ้นขี่อูฐตามชายคนนั้นไป คนรับใช้อับราฮัมได้พาเรเบคาห์จากไป ขณะนั้นอิสอัคได้เดินทางมาจากเบเออลาไฮรอย และมาอยู่อาศัยที่เนเกบ อิสอัคออกไปเดินเล่น ในท้องทุ่งตอนเย็น เขาเงยหน้าขึ้นมา เห็นอูฐกำลังเดินมา
ปฐมกาล 24:33-63 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
เมื่ออาหารถูกจัดไว้ตรงหน้า เพื่อให้เขารับประทาน แต่เขาว่า “ข้าพเจ้าจะไม่รับประทาน จนกว่าข้าพเจ้าจะได้พูดถึงธุระของข้าพเจ้า” ลาบันก็ว่า “พูดเถอะ” เขาจึงพูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนใช้ของอับราฮัม พระยาห์เวห์ทรงอวยพรนายข้าพเจ้าอย่างมาก ท่านก็เจริญขึ้น พระองค์ประทานฝูงแพะแกะ และฝูงโค เงินและทอง คนใช้ชายหญิง อูฐและลา ซาราห์ภรรยานายของข้าพเจ้าคลอดบุตรชายคนหนึ่งให้แก่นายเมื่อนางแก่แล้ว และนายก็ยกทุกสิ่งที่นายมีให้บุตร นายให้ข้าพเจ้าปฏิญาณว่า ‘อย่าหาภรรยาให้แก่บุตรชายของเราจากบุตรหญิงของคนคานาอัน ซึ่งเราอาศัยอยู่ในดินแดนของพวกเขา แต่เจ้าจงไปยังบ้านบิดาของเราและไปยังหมู่ญาติของเรา และหาภรรยาให้แก่บุตรชายของเรา’ ข้าพเจ้าพูดกับนายว่า ‘หญิงนั้นอาจจะไม่ตามข้าพเจ้ามา’ แต่ท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้ซึ่งเราดำเนินอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์จะทรงส่งทูตของพระองค์ไปกับเจ้า และให้ทางของเจ้าบังเกิดผล ให้เจ้าหาภรรยาให้บุตรชายของเรา จากหมู่ญาติของเราและจากบ้านบิดาของเรา แล้วเจ้าจะพ้นจากคำสาบานของเรา เมื่อเจ้ามาถึงหมู่ญาติของเราแล้ว ถ้าเขาไม่ยอมให้หญิงนั้นกับเจ้า เจ้าก็พ้นจากคำสาบานของเรา’ “วันนี้ข้าพเจ้ามาถึงบ่อน้ำและทูลว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ขอพระองค์โปรดให้ทางที่ข้าพระองค์ไปนั้นสำเร็จ เวลานี้ ข้าพระองค์กำลังยืนอยู่ที่น้ำพุ ขอให้หญิงสาวที่ออกมาตักน้ำ ผู้ซึ่งข้าพระองค์จะพูดด้วยว่า “ขอน้ำให้ฉันดื่มจากเหยือกของเธอสักหน่อย” และผู้ซึ่งจะตอบข้าพระองค์ว่า “เชิญดื่มเถิด และดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย” คนนั้นเป็นหญิงที่พระยาห์เวห์ทรงเลือกเป็นภรรยาบุตรชายของนายข้าพระองค์’ “ก่อนที่ข้าพเจ้าจะพูดในใจจบ ก็พอดีเรเบคาห์แบกเหยือกบนบ่าเธอเดินออกมา เธอลงไปตักน้ำที่น้ำพุ ข้าพเจ้าพูดกับเธอว่า ‘ขอน้ำฉันดื่มหน่อย’ เธอก็รีบลดเหยือกจากบ่าของเธอและว่า ‘เชิญดื่มเถิด แล้วดิฉันจะให้น้ำแก่อูฐของท่านด้วย’ ข้าพเจ้าจึงดื่ม เธอก็ตักน้ำให้อูฐกินด้วย แล้วข้าพเจ้าถามเธอว่า ‘เธอเป็นบุตรสาวของใคร’ เธอตอบว่า ‘เป็นบุตรสาวของเบธูเอลบุตรชายของนาโฮร์และนางมิลคาห์’ ข้าพเจ้าจึงใส่ห่วงที่จมูกของเธอและสวมกำไลที่ข้อมือเธอ แล้วข้าพเจ้าก็ก้มลงนมัสการพระยาห์เวห์ และสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัมนายข้าพเจ้า ผู้ทรงนำข้าพเจ้ามาตามทางที่ถูก เพื่อหาบุตรสาวของญาตินายให้บุตรชายท่าน บัดนี้ถ้าท่านยอมแสดงความเมตตาและจริงใจต่อนายของข้าพเจ้าแล้ว ขอกรุณาบอกข้าพเจ้า ถ้าท่านปฏิเสธก็ขอบอกข้าพเจ้าด้วย เพื่อข้าพเจ้าจะหันไปทางขวาหรือทางซ้าย” ลาบันและเบธูเอลจึงตอบว่า “สิ่งนี้มาจากพระยาห์เวห์ เราจะพูดดีหรือร้ายกับท่านก็ไม่ได้ ดูเถิด เรเบคาห์ก็อยู่ต่อหน้าท่าน พาเธอไปเถิด และให้เธอเป็นภรรยาบุตรชายนายของท่าน ดังที่พระยาห์เวห์ตรัสแล้ว” เมื่อคนใช้ของอับราฮัมได้ยินถ้อยคำของพวกเขา ก็โน้มตัวลงถึงดินนมัสการพระยาห์เวห์ แล้วนำเครื่องอาภรณ์ ซึ่งทำด้วยเงินด้วยทองออกมา พร้อมกับเสื้อผ้ามอบให้แก่เรเบคาห์ เขายังมอบของมีค่าให้แก่พี่ชายและมารดาของเธอด้วย แล้วเขากับคนที่มากับเขาก็รับประทานและดื่ม และค้างคืนที่นั่น เมื่อพวกเขาลุกขึ้นในเวลาเช้า คนใช้นั้นก็กล่าวว่า “ขอให้ข้าพเจ้ากลับไปหานายข้าพเจ้าเถิด” พี่ชายและมารดาของเธอว่า “ขอให้หญิงสาวอยู่กับเราสักหน่อยก่อน อย่างน้อยสักสิบวัน แล้วเธอจะไปก็ได้” แต่คนใช้นั้นพูดกับเขาทั้งสองว่า “อย่าหน่วงข้าพเจ้าไว้เลย เพราะพระยาห์เวห์ทรงให้ทางของข้าพเจ้าสำเร็จแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าออกเดินทางไปหานายข้าพเจ้า” เขาทั้งสองก็ว่า “เราจะเรียกหญิงสาวมาถามดู” เขาทั้งสองจึงเรียกเรเบคาห์มาหาและพูดกับเธอว่า “เจ้าจะไปกับชายคนนี้หรือไม่?” เธอตอบว่า “ฉันจะไป” พวกเขาจึงส่งเรเบคาห์น้องสาวกับพี่เลี้ยงของเธอไปกับคนใช้ของอับราฮัมและคนของเขา พวกเขาอวยพรเรเบคาห์ และกล่าวแก่เธอว่า “น้องเอ๋ย ขอให้เจ้าเป็นมารดาคนนับแสนๆ และขอให้เชื้อสายของเจ้าได้ประตูเมืองของคนที่เกลียดชังเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์” แล้วเรเบคาห์และเหล่าสาวใช้ของเธอก็ลุกขึ้นและขึ้นอูฐตามชายนั้นไป คนใช้ก็พาเรเบคาห์ไป ฝ่ายอิสอัคมาจากเบเออลาไฮรอย เพราะเขาอาศัยอยู่ในดินแดนเนเกบ เวลาเย็นอิสอัคออกไปที่ทุ่งนาเพื่อจะไตร่ตรองเรื่องต่างๆ พอเงยหน้าขึ้นมองไปเห็นมีฝูงอูฐเดินมา
ปฐมกาล 24:33-63 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
แล้วจัดอาหารมาเลี้ยงเขา แต่เขาว่า “ข้าพเจ้าจะไม่รับประทาน จนกว่าข้าพเจ้าจะพูดถึงธุระที่ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายมานั้นให้ท่านฟังเสียก่อน” ลาบันก็ว่า “เชิญพูดเถิด” เขาจึงพูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนใช้ของอับราฮัม พระเยโฮวาห์ทรงอวยพระพรแก่นายข้าพเจ้าอย่างมากมาย ท่านก็เจริญขึ้น และพระองค์ทรงประทานฝูงแพะแกะ และฝูงวัว เงินและทอง คนใช้ชายหญิง อูฐและลา และนางซาราห์ภรรยานายข้าพเจ้าได้บังเกิดบุตรชายคนหนึ่งให้แก่นายเมื่อนางแก่แล้ว และนายก็ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้บุตร นายให้ข้าพเจ้าปฏิญาณว่า ‘เจ้าอย่าหาภรรยาให้แก่บุตรชายของเราจากบุตรสาวของคนคานาอัน ซึ่งเราอาศัยอยู่ในแผ่นดินของเขานี้ แต่เจ้าจงไปยังบ้านบิดาของเราและไปยังหมู่ญาติของเรา และหาภรรยาคนหนึ่งให้แก่บุตรชายของเรา’ ข้าพเจ้าพูดกับนายว่า ‘หญิงนั้นอาจจะไม่ยอมมากับข้าพเจ้า’ แต่ท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า ‘พระเยโฮวาห์ผู้ซึ่งเราดำเนินอยู่ต่อพระองค์จะทรงใช้ทูตสวรรค์ของพระองค์ไปกับเจ้า และให้ทางของเจ้าบังเกิดผล และเจ้าจะหาภรรยาคนหนึ่งให้บุตรชายของเราจากหมู่ญาติของเรา และจากบ้านบิดาของเรา แล้วเจ้าจะพ้นจากคำปฏิญาณของเรา เมื่อเจ้ามาถึงหมู่ญาติของเราแล้ว ถ้าเขาไม่ยอมให้หญิงนั้น เจ้าก็พ้นจากคำปฏิญาณของเรา’ วันนี้ข้าพเจ้ามาถึงบ่อน้ำและทูลว่า ‘โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ถ้าบัดนี้พระองค์ทรงโปรดให้ทางที่ข้าพระองค์ไปนั้นเกิดผล ดูเถิด ข้าพระองค์กำลังยืนอยู่ที่บ่อน้ำ และต่อมาเมื่อสาวพรหมจารีออกมาตักน้ำ และข้าพระองค์พูดกับนางด้วยว่า “ขอน้ำให้ข้าพเจ้าดื่มจากไหน้ำของนางสักหน่อย” และนางจะตอบข้าพระองค์ว่า “เชิญดื่มเถิด และข้าพเจ้าจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย” ให้ผู้นั้นเป็นหญิงที่พระเยโฮวาห์ทรงกำหนดตัวไว้สำหรับบุตรชายของนายข้าพระองค์’ เมื่อข้าพเจ้าอธิษฐานในใจไม่ทันขาดคำ ดูเถิด นางเรเบคาห์แบกไหน้ำของนางเดินออกมา นางลงไปตักน้ำที่บ่อน้ำ ข้าพเจ้าพูดกับนางว่า ‘ขอน้ำให้ข้าพเจ้าดื่มหน่อย’ นางก็รีบลดไหน้ำจากบ่าของนางและว่า ‘เชิญดื่มเถิด แล้วข้าพเจ้าจะให้น้ำแก่อูฐของท่านด้วย’ ข้าพเจ้าจึงดื่ม และนางก็ตักน้ำให้อูฐกินด้วย แล้วข้าพเจ้าถามนางว่า ‘นางเป็นบุตรสาวของใคร’ นางตอบว่า ‘เป็นบุตรสาวของเบธูเอลบุตรชายของนาโฮร์ ซึ่งนางมิลคาห์กำเนิดให้แก่เขา’ ข้าพเจ้าจึงใส่แหวนที่จมูกของนางแล้วสวมกำไลที่ข้อมือนาง แล้วข้าพเจ้าก็ก้มศีรษะลงนมัสการพระเยโฮวาห์ และถวายสรรเสริญแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอับราฮัมนายข้าพเจ้า ผู้ทรงนำข้าพเจ้ามาตามทางที่ถูก เพื่อหาบุตรสาวของน้องชายนายให้บุตรชายของนาย บัดนี้ถ้าท่านยอมแสดงความเมตตาและจริงใจต่อนายข้าพเจ้าแล้ว ขอกรุณาบอกข้าพเจ้า ถ้ามิฉะนั้นก็ขอบอกข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะหันไปทางขวาหรือซ้าย” ลาบันและเบธูเอลจึงตอบว่า “สิ่งนี้มาจากพระเยโฮวาห์ เราจะพูดดีหรือร้ายกับท่านก็ไม่ได้ ดูเถิด เรเบคาห์ก็อยู่ต่อหน้าท่าน พานางไปเถิด และให้นางเป็นภรรยาบุตรชายนายของท่านดังที่พระเยโฮวาห์ตรัสแล้ว” และต่อมาเมื่อคนใช้ของอับราฮัมได้ยินถ้อยคำของท่านทั้งสอง ก็กราบลงถึงดินนมัสการพระเยโฮวาห์ แล้วคนใช้ก็นำเอาเครื่องเงินและเครื่องทอง พร้อมกับเสื้อผ้ามอบให้แก่เรเบคาห์ เขายังมอบของอันมีค่าให้แก่พี่ชายและมารดาของนางด้วย แล้วพวกเขาก็รับประทานและดื่ม คือเขากับคนที่มากับเขา และค้างคืนที่นั่น และพวกเขาลุกขึ้นในเวลาเช้า คนใช้นั้นก็กล่าวว่า “ขอให้ข้าพเจ้ากลับไปหานายข้าพเจ้าเถิด” พี่ชายและมารดาของนางว่า “ขอให้หญิงสาวอยู่กับเราสักหน่อยก่อน อย่างน้อยสักสิบวันแล้วนางจะไปก็ได้” แต่ชายนั้นพูดกับพวกเขาว่า “อย่าหน่วงข้าพเจ้าไว้เลย เพราะพระเยโฮวาห์ทรงให้ทางของข้าพเจ้าเกิดผลแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าออกเดินทางเพื่อข้าพเจ้าจะได้กลับไปหานายข้าพเจ้า” พวกเขาว่า “เราจะเรียกหญิงสาวมาถามดู” พวกเขาก็เรียกเรเบคาห์มาหา และพูดกับนางว่า “เจ้าจะไปกับชายคนนี้หรือไม่” นางตอบว่า “ข้าพเจ้าจะไป” พวกเขาจึงส่งเรเบคาห์น้องสาวกับพี่เลี้ยงของนางไปพร้อมกับคนใช้ของอับราฮัม และคนของเขา พวกเขาอวยพรเรเบคาห์ และกล่าวแก่นางว่า “น้องสาวเอ๋ย ขอให้เจ้าเป็นมารดาคนนับแสนนับล้าน และขอให้เชื้อสายของเจ้าได้ประตูเมืองของคนที่เกลียดชังเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์” แล้วเรเบคาห์และเหล่าสาวใช้ของนางก็ขึ้นอูฐไปกับชายนั้น คนใช้ก็พาเรเบคาห์ไป ฝ่ายอิสอัคมาจากบ่อน้ำลาไฮรอย เพราะท่านไปอาศัยอยู่ทางใต้ เวลาเย็นอิสอัคออกไปตรึกตรองที่ทุ่งนาและท่านก็เงยหน้าขึ้นมองไป และดูเถิด มีอูฐเดินมา
ปฐมกาล 24:33-63 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
แล้วลาบันจัดอาหารมาเลี้ยงเขา แต่เขาว่า <<ข้าพเจ้าจะไม่รับประทาน จนกว่าข้าพเจ้าจะพูดถึงธุระ ที่ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายมานั้นให้ท่านฟังเสียก่อน>> ลาบันก็ว่า <<เชิญพูดเถิด>> เขาจึงพูดว่า <<ข้าพเจ้าเป็นคนใช้ของอับราฮัม พระเจ้าทรงอำนวยพระพรแก่ นายข้าพเจ้าอย่างมากมายท่านก็เจริญ พระองค์ทรงประทานฝูงแพะแกะ และฝูงโค เงินและทอง คนใช้ชายหญิง อูฐและลา ซาราห์ภรรยานายข้าพเจ้าได้บุตรชาย คนหนึ่งให้แก่นายเมื่อนางแก่แล้ว และนายก็ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้บุตร นายให้ข้าพเจ้าปฏิญาณว่า <เจ้าอย่าหาภรรยาให้แก่บุตรชายของ เราจากบุตรหญิงของคนคานาอัน ซึ่งเราอาศัยอยู่ในดินแดนของเขานี้ แต่เจ้าจงไปยังบ้านบิดาของเราและไปยังหมู่ญาติของเรา และหาภรรยาคนหนึ่งให้แก่บุตรชายของเรา> ข้าพเจ้าพูดกับนายว่า <หญิงนั้นอาจจะไม่ยอมมากับข้าพเจ้า> แต่ท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า <พระเจ้าผู้ซึ่งเราดำเนินอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์จะทรงส่งทูตของพระองค์ไปกับเจ้า และให้ทางของเจ้าบังเกิดผล เจ้าจงหาภรรยาคนหนึ่งให้บุตรชายของเรา จากหมู่ญาติของเราและจากบ้านบิดาของเรา แล้วเจ้าจะพ้นจากคำสาบานของเรา เมื่อเจ้ามาถึงหมู่ญาติของเราแล้ว ถ้าเขาไม่ยอมให้หญิงนั้น เจ้าก็พ้นจากคำสาบานของเรา> <<วันนี้ข้าพเจ้ามาถึงบ่อน้ำและทูลว่า <ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของ ข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงโปรดให้ทางที่ข้าพระองค์ไปนั้นเกิดผล เวลานี้ ข้าพระองค์กำลังยืนอยู่ที่น้ำพุ ขอให้หญิงสาวที่ออกมาตักน้ำ ผู้ซึ่งข้าพระองค์จะพูดด้วยว่า <<ขอน้ำให้ฉันดื่มจากเหยือกของเธอสักหน่อย>> และผู้ซึ่งจะตอบข้าพระองค์ว่า <<เชิญดื่มเถิด และดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย>> เป็นหญิงที่พระเจ้าทรงกำหนดตัวไว้ให้เป็นภรรยา บุตรชายของนายข้าพระองค์> <<ก่อนที่ข้าพเจ้าจะพูดในใจจบ ก็พอดีเรเบคาห์แบกเหยือกของเธอเดินออกมา เธอลงไปตักน้ำที่น้ำพุ ข้าพเจ้าพูดกับเธอว่า <ขอน้ำฉันดื่มหน่อย> เธอก็รีบลดเหยือกของเธอจากบ่าของเธอและว่า <เชิญดื่มเถิด แล้วดิฉันจะให้น้ำแก่อูฐของท่านด้วย> ข้าพเจ้าจึงดื่ม เธอก็ตักน้ำให้อูฐกินด้วย แล้วข้าพเจ้าถามเธอว่า <เธอเป็นบุตรหญิงของใคร> เธอตอบว่า <เป็นบุตรหญิงของเบธูเอลบุตรชายของนาโฮร์และนางมิลคาห์> ข้าพเจ้าจึงใส่แหวนที่จมูกของเธอและสวมกำไลที่ข้อมือเธอ แล้วข้าพเจ้าก็กราบลงนมัสการพระเจ้า และถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้า ของอับราฮัมนายข้าพเจ้า ผู้ทรงนำข้าพเจ้ามาตามทางที่ถูก เพื่อหาบุตรหญิงของญาตินายให้บุตรชาย บัดนี้ถ้าท่านยอมแสดงความภักดีและจริงใจต่อนายข้าพเจ้าแล้ว ขอกรุณาบอกข้าพเจ้า ถ้ามิฉะนั้นก็ขอบอกข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะหันไปทางขวาหรือทางซ้าย>> ลาบันและเบธูเอลจึงตอบว่า <<สิ่งนี้มาจากพระเจ้า เราจะพูดดีหรือร้ายกับท่านก็ไม่ได้ ดูเถิด เรเบคาห์ก็อยู่ต่อหน้าท่าน พาเธอไปเถิด และให้เธอเป็นภรรยาบุตรชายนายของท่าน ดังที่พระเจ้าตรัสแล้ว>> เมื่อคนใช้ของอับราฮัมได้ยินถ้อยคำของท่าน ก็กราบลงถึงดินต่อพระพักตร์พระเจ้า แล้วก็นำเอาเครื่องอาภรณ์ ซึ่งทำด้วยเงินด้วยทองออกมา พร้อมกับเสื้อผ้ามอบให้แก่เรเบคาห์ เขายังมอบของอันมีค่าให้แก่พี่ชายและมารดาของเธอด้วย แล้วเขากับคนที่มากับเขาก็รับประทานและดื่ม และค้างคืนที่นั่น เมื่อพวกเขาลุกขึ้นในเวลาเช้า คนใช้นั้นก็กล่าวว่า <<ขอให้ข้าพเจ้ากลับไปหานายข้าพเจ้าเถิด>> พี่ชายและมารดาของเธอว่า <<ขอให้หญิงสาวอยู่กับเราสักหน่อยก่อน อย่างน้อยสักสิบวัน แล้วเธอจะไปก็ได้>> แต่เขาพูดกับเขาทั้งสองว่า <<อย่าหน่วงข้าพเจ้าไว้เลย เพราะพระเจ้าทรงให้ทางของข้าพเจ้าเกิดผลแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าออกเดินทางเพื่อข้าพเจ้าจะได้กลับไปหานายข้าพเจ้า>> เขาทั้งสองก็ว่า <<เราจะเรียกหญิงสาวมาถามดู>> เขาทั้งสองก็เรียกเรเบคาห์มาหาและพูดกับเธอว่า <<เจ้าจะไปกับชายคนนี้หรือไม่>> เธอตอบว่า <<ฉันจะไป>> เขาจึงส่งเรเบคาห์น้องสาวกับพี่เลี้ยงของเธอ ไปพร้อมกับคนใช้ของอับราฮัมและคนของท่าน พวกเขาอวยพรเรเบคาห์ และกล่าวแก่เธอว่า <<น้องเอ๋ย ขอให้เจ้าเป็นมารดาคนนับแสนนับล้าน และขอให้เชื้อสายของเจ้าได้ประตูเมืองของคนที่ เกลียดชังเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์>> แล้วเรเบคาห์และเหล่าสาวใช้ของเธอก็ขึ้นอูฐไปกับชายนั้น คนใช้ก็พาเรเบคาห์ไป ฝ่ายอิสอัคมาจากเบเออลาไฮรอย ไปอาศัยอยู่ที่เนเกบ เวลาเย็นอิสอัคออกไปที่ทุ่งนาเพื่อจะสงบอารมณ์ เงยหน้าขึ้นมองไปเห็นมีอูฐเดินมา
ปฐมกาล 24:33-63 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แล้วยกอาหารมาตั้งตรงหน้าชายนั้น แต่เขากล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะยังไม่รับประทานจนกว่าจะได้บอกให้ท่านรู้ถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าจำเป็นจะต้องพูด” ลาบันกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้น จงบอกเราเถิด” เขาจึงพูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนรับใช้ของอับราฮัม องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรนายของข้าพเจ้าอย่างล้นเหลือ จนท่านกลายเป็นคนมั่งคั่ง พระองค์ประทานฝูงแกะ ฝูงวัว อูฐ ลา เงินและทอง ตลอดจนคนรับใช้ชายหญิง ต่อมานางซาราห์ภรรยาของนายคลอดลูกชายคนหนึ่งให้นายเมื่อนางอายุมากแล้ว และนายยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ลูกคนนี้ แล้วนายก็ให้ข้าพเจ้าสาบานและกล่าวว่า ‘เจ้าจะต้องไม่หาลูกสาวของชาวคานาอันซึ่งเป็นเจ้าของดินแดนที่เราอาศัยอยู่นี้มาเป็นภรรยาของลูกชายเรา แต่จงไปยังครอบครัวบิดาของเรา ไปยังญาติพี่น้องของเรา และหาภรรยาให้ลูกชายของเรา’ “แล้วข้าพเจ้าก็ถามนายว่า ‘ถ้าหญิงนั้นไม่ยอมตามข้าพเจ้ามาเล่า?’ “นายตอบว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ที่เราดำเนินชีวิตอยู่ในทางของพระองค์นั้นจะทรงส่งทูตของพระองค์ไปกับเจ้า และจะทรงทำให้การเดินทางของเจ้าประสบความสำเร็จ เพื่อเจ้าจะสามารถหาภรรยาให้ลูกชายของเราจากญาติพี่น้องของเรา และจากครอบครัวบิดาของเรา เมื่อเจ้าไปหาญาติพี่น้องของเราแล้ว เจ้าก็พ้นจากคำสาบานที่ให้กับเรา ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ยอมยกนางให้เจ้า เจ้าก็จะพ้นจากคำสาบาน’ “วันนี้เมื่อข้าพเจ้ามาถึงบ่อน้ำก็อธิษฐานว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ถ้าเป็นพระประสงค์ของพระองค์ โปรดให้การเดินทางของข้าพระองค์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ดูเถิด ข้าพระองค์กำลังยืนอยู่ข้างบ่อน้ำ ถ้าหญิงสาวคนหนึ่งออกมาตักน้ำ และข้าพระองค์พูดกับนางว่า “กรุณาให้ฉันดื่มน้ำจากถังของเธอสักหน่อยเถิด” และถ้านางตอบว่า “เชิญดื่มเถิด และฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย” ก็ขอให้นางเป็นผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกสรรไว้ให้ลูกชายของนายข้าพเจ้า’ “ก่อนที่ข้าพเจ้าจะจบคำอธิษฐานในใจ เรเบคาห์เดินออกมาพร้อมกับแบกถังน้ำบนบ่า นางเดินไปที่บ่อน้ำและตักน้ำ แล้วข้าพเจ้าก็พูดกับนางว่า ‘ขอน้ำให้ฉันดื่มหน่อยเถิด’ “นางก็รีบยกถังลงมาจากบ่าและบอกว่า ‘เชิญดื่มเถิด และฉันจะตักน้ำให้ฝูงอูฐของท่านด้วย’ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงดื่ม และนางก็ตักน้ำให้ฝูงอูฐด้วย “ข้าพเจ้าถามนางว่า ‘เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร?’ “นางก็ตอบว่า ‘เป็นลูกสาวของเบธูเอล ผู้เป็นบุตรของนาโฮร์กับมิลคาห์’ “ข้าพเจ้าจึงสวมห่วงที่จมูกของนางและสวมกำไลที่แขนของนาง แล้วข้าพเจ้าก็ก้มลงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพเจ้าสรรเสริญพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้ามาถูกทางเพื่อจะได้นำหลานสาวของน้องชายนายข้าพเจ้าไปให้แก่ลูกชายของเขา บัดนี้ ถ้าท่านจะกรุณานายของข้าพเจ้า ขอบอกข้าพเจ้า และถ้าท่านจะปฏิเสธ ก็โปรดบอกข้าพเจ้าเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป” ลาบันกับเบธูเอลจึงตอบว่า “เรื่องนี้เป็นมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ขอให้เป็นไปตามนั้น เรเบคาห์อยู่นี่ พานางไปเถิด ให้นางไปเป็นภรรยาลูกชายเจ้านายของท่าน ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำ” เมื่อคนรับใช้ของอับราฮัมได้ยินเช่นนั้นก็ก้มกราบลงถึงพื้นนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วคนรับใช้หยิบแก้วแหวนเงินทองและเสื้อผ้าอาภรณ์ให้นางเรเบคาห์ และให้ของขวัญล้ำค่าต่างๆ แก่พี่ชายและมารดาของนาง แล้วคนรับใช้นั้นกับคนของเขาก็กินดื่มและพักค้างคืนที่นั่น เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมา คนรับใช้นั้นจึงกล่าวว่า “โปรดส่งข้าพเจ้ากลับไปหานายของข้าพเจ้าเถิด” แต่พี่ชายและมารดาของเรเบคาห์ตอบว่า “ขอให้นางอยู่กับเราอีกสักสิบวันแล้วท่านค่อยไป” แต่คนรับใช้นั้นกล่าวกับพวกเขาว่า “อย่ารั้งข้าพเจ้าไว้เลย ในเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานความสำเร็จแก่การเดินทางของข้าพเจ้าแล้ว ขอได้ส่งข้าพเจ้ากลับไปหานายของข้าพเจ้าเถิด” แล้วพวกเขาจึงกล่าวว่า “ให้เราเรียกนางมาถามดู” ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกเรเบคาห์มาถามว่า “เจ้าจะไปกับชายผู้นี้หรือไม่?” นางตอบว่า “ฉันจะไป” พวกเขาจึงส่งเรเบคาห์น้องสาวของเขาไปพร้อมกับพี่เลี้ยงของนางและคนรับใช้ของอับราฮัมกับคนของเขา พวกเขาอวยพรเรเบคาห์และกล่าวกับนางว่า “น้องเอ๋ย ขอให้ลูกหลานของเจ้าทวีขึ้น เป็นแสนเป็นล้าน ขอให้วงศ์วานของเจ้าครอบครอง ประตูเมืองของศัตรู” จากนั้นเรเบคาห์กับบรรดาสาวใช้ของนางก็เตรียมตัวไว้พร้อมและขึ้นอูฐออกเดินทางกลับไปพร้อมกับคนรับใช้นั้น ดังนั้นคนรับใช้ก็พาเรเบคาห์จากไป ฝ่ายอิสอัคกลับมาจากเบเออร์ลาไฮรอย เพราะเขาอยู่ในเนเกบ เย็นวันหนึ่งเขาออกไปที่ท้องทุ่ง เดินคิดใคร่ครวญอยู่ และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นขบวนอูฐกำลังเคลื่อนเข้ามา
ปฐมกาล 24:33-63 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
จากนั้นก็มีอาหารตั้งไว้ที่ตรงหน้าเขาเพื่อรับประทาน แต่เขาพูดว่า “ข้าพเจ้าจะไม่รับประทานจนกว่าจะได้พูดเรื่องธุระก่อน” ลาบันพูดว่า “เชิญท่านพูดเถิด” เขาจึงพูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของอับราฮัม พระผู้เป็นเจ้าได้อวยพรนายของข้าพเจ้าจนท่านมั่งมี พระองค์ได้ให้แพะแกะและโคเป็นฝูงๆ แก่ท่าน ทั้งเงินและทอง ผู้รับใช้ชายและหญิง อูฐ และลา ส่วนซาราห์ภรรยาของนายข้าพเจ้าได้กำเนิดลูกชายคนหนึ่งให้แก่ท่านในวัยชรา นายข้าพเจ้าได้ให้ทุกสิ่งที่ท่านมีแก่ลูกของท่าน นายข้าพเจ้าให้ข้าพเจ้าสาบานว่า ‘เจ้าจะไม่หาลูกสาวจากชาวคานาอันมาเป็นภรรยาลูกชายของเรา เราเองก็อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเขา แต่เจ้าจะไปยังบ้านบิดาของเราและตระกูลของเรา และหาภรรยาให้อิสอัคลูกชายของเรา’ ข้าพเจ้าพูดกับนายข้าพเจ้าว่า ‘ทางฝ่ายหญิงอาจจะไม่ยอมติดตามข้าพเจ้ามา’ แต่ท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าซึ่งเป็นผู้ที่ข้าพเจ้าเชื่อฟังจะให้ทูตสวรรค์ของพระองค์ไปกับเจ้า และจะมอบความสำเร็จให้แก่เจ้า เจ้าจะหาภรรยาจากตระกูลของเราและจากบ้านบิดาของเราให้แก่ลูกชายของเรา เจ้าก็จะพ้นจากคำสาบานของเรา เวลาเจ้าไปหาคนในตระกูลของเรา แล้วถ้าพวกเขาไม่ยอมให้เธอไปกับเจ้า เจ้าก็จะพ้นจากคำสาบานของเรา’ วันนี้ข้าพเจ้าไปที่น้ำพุ ข้าพเจ้าพูดว่า ‘โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอับราฮัมนายข้าพเจ้า โปรดให้การเดินทางของข้าพเจ้าสำเร็จผล ดูเถิด ข้าพเจ้ากำลังยืนอยู่ที่ข้างบ่อน้ำพุ ขอให้หญิงสาวคนที่มาตักน้ำ เป็นคนที่ข้าพเจ้าจะพูดด้วยว่า “โปรดให้ฉันดื่มน้ำจากโถของเธอสักนิด” และเป็นคนที่จะพูดกับข้าพเจ้าว่า “ดื่มเถิด และฉันจะตักให้อูฐของท่านด้วย” ขอให้เธอเป็นหญิงที่พระผู้เป็นเจ้าได้มั่นหมายไว้สำหรับลูกชายของนายข้าพเจ้าเถิด’ ข้าพเจ้าอธิษฐานยังไม่ทันจบ ดูเถิด เรเบคาห์แบกโถน้ำบนบ่าของเธอเดินออกมา และเธอลงไปที่น้ำพุเพื่อตักน้ำ ข้าพเจ้าพูดกับเธอว่า ‘โปรดให้ฉันดื่มน้ำเถิด’ เธอประคองโถน้ำของเธอลงจากบ่าโดยเร็ว และพูดว่า ‘เชิญดื่มเถิด และฉันจะให้อูฐของท่านกินด้วย’ ข้าพเจ้าจึงดื่ม และเธอก็ให้อูฐกินด้วย แล้วข้าพเจ้าถามเธอว่า ‘เธอเป็นลูกสาวของใคร’ เธอพูดว่า ‘ลูกสาวของเบธูเอลผู้เป็นลูกชายของนาโฮร์กับมิลคาห์’ ข้าพเจ้าจึงใส่แหวนที่จมูก และกำไลที่ข้อมือให้เธอ แล้วข้าพเจ้าก้มศีรษะและกราบนมัสการพระผู้เป็นเจ้า และสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอับราฮัมนายข้าพเจ้า องค์ผู้นำทางให้ข้าพเจ้าตรงมายังที่หมาย เพื่อพาลูกสาวของญาติพี่น้องของนายข้าพเจ้า ไปให้ลูกชายของท่าน มาบัดนี้ ถ้าท่านจะแสดงความกรุณาและความภักดีต่อนายข้าพเจ้า ขอให้ท่านบอกข้าพเจ้า และหากว่าไม่ ก็ขอให้บอกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะได้ทราบว่าจะทำอย่างไรต่อไป” ลาบันและเบธูเอลตอบว่า “เรื่องนี้มาจากพระผู้เป็นเจ้า พวกเราจะว่าอะไรได้ ดูเถิด เรเบคาห์ก็อยู่ตรงหน้าท่าน เชิญพาเธอไป ให้เธอไปเป็นภรรยาของลูกชายของนายท่าน ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวไว้” เมื่อผู้รับใช้ของอับราฮัมได้ยินคำพูดของพวกเขาแล้ว เขาก็ก้มลงกราบที่พื้น ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า แล้วผู้รับใช้หยิบเครื่องประดับกายเงินและทองคำ และเสื้อผ้าออกมาให้เรเบคาห์ เขาให้ของอันมีค่าแก่พี่ชายและมารดาของเธอด้วย หลังจากนั้น เขาและพวกผู้ชายที่มากับเขาก็รับประทานและดื่มกัน แล้วค้างแรมที่นั่น เมื่อลุกขึ้นในตอนเช้า เขาพูดว่า “ให้ข้าพเจ้ากลับไปยังนายของข้าพเจ้าเถิด” พี่ชายกับมารดาของเธอพูดว่า “ให้เธออยู่กับเราสักพัก อย่างน้อย 10 วัน และหลังจากนั้น เธอจึงไปได้” แต่เขาพูดตอบว่า “อย่ารั้งข้าพเจ้าเลย ในเมื่อพระผู้เป็นเจ้าได้ให้การเดินทางของข้าพเจ้าสำเร็จผล ปล่อยให้ข้าพเจ้าไป ข้าพเจ้าจะได้ไปหานายของข้าพเจ้า” พวกเขาพูดว่า “เราจะเรียกหญิงสาวมาถามเอง” แล้วพวกเขาจึงเรียกเรเบคาห์มา และถามเธอว่า “เจ้าจะไปกับชายคนนี้หรือไม่” เธอตอบว่า “ฉันจะไป” ดังนั้น พวกเขาจึงส่งตัวเรเบคาห์น้องสาวกับพี่เลี้ยงของเธอ ไปกับผู้รับใช้ของอับราฮัมและคนของท่าน แล้วพวกเขาอวยพรเรเบคาห์ พลางพูดกับเธอว่า “น้องสาวของเรา ขอให้เจ้าเป็นมารดา ของคนจำนวนมากมายเกินที่จะนับได้ และขอให้บรรดาผู้สืบเชื้อสาย ของเจ้ายึดครองเมืองของพวกศัตรูได้” เรเบคาห์กับพวกสาวใช้ก็ลุกขึ้น แล้วขึ้นขี่อูฐตามชายคนนั้นไป ผู้รับใช้คนนั้นก็พาเรเบคาห์ไป ส่วนอิสอัคเพิ่งกลับมาจากเบเออลาไฮรอย และกำลังอาศัยอยู่ที่เนเกบ ครั้นใกล้ยามเย็นอิสอัคออกไปใคร่ครวญอยู่ในทุ่งนา ท่านเงยหน้าขึ้นเห็น ดูเถิด มีอูฐเดินมา