ปฐมกาล 24:1-32
ปฐมกาล 24:1-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
อับราฮัมก็แก่มากแล้ว และพระยาห์เวห์ได้อวยพรอับราฮัมในทุกเรื่อง อับราฮัมพูดกับคนรับใช้ที่ทำงานกับเขามานานที่สุด เขาคอยดูแลทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของอับราฮัม อับราฮัมบอกกับเขาว่า “เอามือเจ้ามาวางไว้ใต้ขาเรา เราจะให้เจ้าสาบานกับเราต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ว่าเจ้าจะไม่หาเมียให้ลูกชายของเรา จากหญิงชาวคานาอัน ที่เรากำลังอาศัยอยู่นี้ เจ้าต้องสาบานว่า เจ้าจะกลับไปยังประเทศของเรา ไปหาญาติพี่น้องของเรา และหาเมียให้อิสอัคลูกชายของเราจากที่นั่น” แล้วคนรับใช้นั้นพูดกับอับราฮัมว่า “ถ้าเกิดผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมตามข้าพเจ้ามาในดินแดนแห่งนี้ล่ะครับท่าน ข้าพเจ้าควรจะพาลูกชายของท่านกลับไปยังประเทศที่ท่านจากมาหรือเปล่า” อับราฮัมบอกกับเขาว่า “อย่าพาลูกชายของเรากลับไปที่นั่น พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ เป็นผู้ที่ได้พาเราออกมาจากบ้านของพ่อเรา และจากแผ่นดินของญาติๆเรา และเป็นผู้ที่พูดกับเรา และให้สัญญากับเราว่า ‘เราจะยกดินแดนนี้ให้กับลูกหลานของเจ้า’ พระองค์จะส่งทูตสวรรค์ของพระองค์นำหน้าเจ้า และเจ้าจะได้หาเมียให้กับลูกชายของเราจากที่นั่น แต่ถ้าหญิงคนนั้นไม่ยอมตามเจ้ามา เจ้าก็จะเป็นอิสระจากคำสาบานที่เจ้าให้กับเรา แต่เจ้าจะต้องไม่พาลูกชายของเรากลับไปที่นั่นอย่างเด็ดขาด” แล้วคนรับใช้นั้นได้วางมือของเขาไว้ใต้ขาของอับราฮัม และเขาได้สาบานกับอับราฮัมเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วคนรับใช้นั้นได้เอาอูฐสิบตัวจากฝูงสัตว์ของเจ้านายไปด้วย พร้อมกับของขวัญหลายอย่างจากเจ้านายไปกับเขาด้วย เขาออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองนาโฮร์ ที่อยู่ในดินแดนเมโสโปเตเมีย เขาให้อูฐคุกเข่าพักอยู่ที่ข้างบ่อน้ำนอกเมือง ตอนนั้นเป็นเวลาเย็น พวกสาวๆทั้งหลายในเมืองจะออกมาตักน้ำกัน แล้วเขาพูดว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมเจ้านายของข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าประสบความสำเร็จในวันนี้ด้วยเถิด ขอโปรดแสดงความเมตตากับอับราฮัมเจ้านายของข้าพเจ้าด้วยเถิด ดูเถิด ข้าพเจ้ากำลังยืนอยู่ข้างบ่อน้ำนี้ และพวกสาวๆทั้งหลายในเมืองกำลังออกมาตักน้ำกัน ขอให้มันเป็นไปตามนี้ด้วยเถิด คือเมื่อข้าพเจ้าพูดกับหญิงคนหนึ่งว่า ‘ขอดื่มน้ำจากเหยือกของเจ้าหน่อย’ ขอให้นางตอบว่า ‘ดื่มสิคะ ฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านดื่มด้วย’ ก็ขอให้นางเป็นคนนั้นที่พระองค์ได้แต่งตั้งให้กับอิสอัค ผู้รับใช้ของพระองค์ ด้วยวิธีนี้ ข้าพเจ้าจะได้รู้ว่าพระองค์ได้แสดงความเมตตากับเจ้านายของข้าพเจ้า” และก่อนที่คนรับใช้จะพูดจบ เรเบคาห์ได้ปรากฏตัวออกมา นางเป็นลูกสาวของเบธูเอล เบธูเอลเป็นลูกชายของมิลคาห์เมียของนาโฮร์ นาโฮร์เป็นน้องชายของอับราฮัม เรเบคาห์แบกเหยือกน้ำอยู่บนบ่าของเธอ เธอเป็นหญิงสาวที่สวยมาก และเป็นหญิงพรหมจารี ยังไม่เคยร่วมหลับนอนกับผู้ชายคนไหนเลย นางเดินลงไปที่บ่อน้ำและเติมน้ำจนเต็มเหยือก จากนั้นเดินกลับมา คนรับใช้วิ่งไปหานางและพูดว่า “ขอเราดื่มน้ำจากเหยือกของเจ้าหน่อย” นางตอบว่า “เชิญดื่มเลยค่ะท่าน” แล้วนางรีบเอาเหยือกน้ำลงจากบ่ามาถือไว้ในมือและให้เขาดื่ม เมื่อนางให้เขาดื่มน้ำเสร็จแล้ว นางพูดว่า “ฉันจะตักน้ำให้อูฐท่านดื่มด้วย จนกว่าพวกมันจะดื่มเสร็จ” แล้วนางรีบเทน้ำในเหยือกลงในรางจนหมด แล้ววิ่งกลับไปตักน้ำที่บ่อมาอีก และนางได้ตักน้ำให้อูฐทุกตัวของเขาดื่ม คนรับใช้เฝ้ามองดูนางอยู่เงียบๆเพื่อจะได้รู้ว่า พระยาห์เวห์จะทำให้การเดินทางของเขาประสบความสำเร็จหรือไม่ เมื่ออูฐทุกตัวดื่มน้ำจนเสร็จแล้ว คนรับใช้ได้เอาห่วงทองคำสำหรับใส่จมูก หนักห้ากรัมครึ่ง และกำไลข้อมือทองคำหนึ่งคู่ หนักข้างละห้าสิบห้ากรัม รวมเป็นหนึ่งร้อยสิบกรัมให้กับนาง และพูดว่า “ช่วยบอกเราหน่อยว่าเจ้าเป็นลูกสาวของใคร แล้วที่บ้านพ่อเจ้าพอจะมีห้องว่างให้พวกเราพักค้างคืนได้หรือเปล่า” เรเบคาห์ตอบเขาว่า “ฉันเป็นลูกสาวของเบธูเอล ลูกชายของมิลคาห์กับนาโฮร์” เรเบคาห์พูดต่อไปว่า “เรามีทั้งฟางและหญ้าแห้งอย่างเหลือเฟือ และมีที่ว่างให้ท่านพักค้างคืนด้วย” แล้วคนรับใช้ได้ก้มกราบนมัสการพระยาห์เวห์ เขาพูดว่า “สรรเสริญพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมเจ้านายของข้าพเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ที่เมตตาและซื่อสัตย์ต่อเจ้านายของข้าพเจ้า ส่วนข้าพเจ้า พระยาห์เวห์ได้นำทางข้าพเจ้ามาจนถึงบ้านญาติๆของเจ้านายของข้าพเจ้า” แล้วหญิงสาวได้วิ่งไปบอกคนในครัวเรือนของแม่นางเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด เรเบคาห์มีพี่ชายหนึ่งคนชื่อลาบัน เรเบคาห์ได้เล่าเรื่องต่างๆที่ชายคนนั้นได้บอกกับนาง เมื่อลาบันได้ฟังและเห็นห่วงที่ใส่จมูกและกำไลบนข้อมือของน้องสาว เขาก็วิ่งไปหาชายคนนั้นที่บ่อน้ำ และพบชายคนนั้นยืนอยู่กับอูฐของเขาข้างๆบ่อน้ำ ลาบันจึงพูดว่า “เชิญเข้ามาสิครับ ท่านผู้ที่พระยาห์เวห์อวยพร ท่านยืนอยู่ข้างนอกนี้ทำไม ผมได้เตรียมบ้านและสถานที่สำหรับอูฐของท่านไว้แล้ว” แล้วชายคนนั้นได้เข้าไปในบ้าน แล้วลาบันให้คนขนของลงจากหลังอูฐเหล่านั้น แล้วเอาฟางมาเลี้ยงอูฐ จากนั้นเอาน้ำมาให้ชายคนนั้นและพวกชายที่มากับเขาล้างเท้ากัน
ปฐมกาล 24:1-32 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ฝ่ายอับราฮัมก็ชราแล้ว มีอายุมากทีเดียว และพระยาห์เวห์ทรงอวยพรอับราฮัมทุกประการ อับราฮัมพูดกับคนใช้ของท่านที่อาวุโสที่สุดในบ้าน ผู้ดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดของท่านว่า “เอามือเจ้าวางไว้ใต้ขาอ่อนของเรา แล้วเราจะให้เจ้าสาบานโดยพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ และพระเจ้าแห่งแผ่นดินโลกว่า เจ้าจะไม่หาภรรยาให้บุตรชายของเราจากบุตรหญิงของคนคานาอัน ที่เราอาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเขา แต่จะไปยังดินแดนและหมู่ญาติของเราเพื่อหาภรรยาให้แก่อิสอัคบุตรชายของเรา” คนใช้ก็เรียนท่านว่า “ถ้าหญิงนั้นไม่ยอมตามข้าพเจ้ามายังดินแดนนี้ ข้าพเจ้าไม่ต้องนำบุตรชายของท่านกลับไปยังดินแดนซึ่งท่านจากมานั้นหรือ?” อับราฮัมพูดกับเขาว่า “จงระวัง เกรงว่าเจ้าจะทำให้บุตรชายของเรากลับไปที่นั่น พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ผู้ทรงนำเรามาจากบ้านบิดาเรา และจากดินแดนหมู่ญาติของเรา พระองค์ตรัสกับเราและทรงปฏิญาณว่า ‘เราจะมอบแผ่นดินนี้ให้แก่เชื้อสายของเจ้า’ พระองค์จะทรงใช้ทูตของพระองค์ไปข้างหน้าเจ้า เจ้าจงหาภรรยาคนหนึ่งให้บุตรชายของเราจากที่นั่น ถ้าหญิงนั้นไม่ยอมตามเจ้ามา เจ้าก็จะพ้นจากคำสาบานของเรานี้ แต่เจ้าอย่าพาบุตรชายของเรากลับไปที่นั่นเท่านั้น” คนใช้จึงเอามือของเขาวางใต้ขาอ่อนของอับราฮัมนายของเขา และสาบานต่อท่านตามเรื่องนี้ คนใช้นำอูฐสิบตัวของนายมา แล้วออกเดินทางไป โดยนำของมีค่าต่างๆ จากนายติดมือไปด้วย เขาไปยังเมโสโปเตเมีย ไปเมืองของนาโฮร์ เขาให้อูฐคุกเข่าลงที่ริมบ่อน้ำข้างนอกเมืองในเวลาเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้หญิงออกมาตักน้ำ เขาอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ขอประทานความสำเร็จแก่ข้าพระองค์ในวันนี้ และขอทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่อับราฮัมนายของข้าพระองค์ ข้าพระองค์กำลังยืนอยู่ที่ริมน้ำพุ และบรรดาบุตรหญิงของชาวเมืองนี้กำลังออกมาตักน้ำ ขอให้หญิงสาวคนที่ข้าพระองค์พูดกับนางว่า ‘โปรดลดเหยือกของเธอลง ให้ฉันดื่มน้ำ’ และผู้ซึ่งตอบว่า ‘เชิญดื่มเถิด และดิฉันจะให้น้ำแก่อูฐของท่านด้วย’ นั้น เป็นคนที่พระองค์ทรงกำหนดให้เป็นภรรยาอิสอัคผู้รับใช้ของพระองค์ อย่างนี้ข้าพระองค์จะทราบได้ว่า พระองค์ทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่นายของข้าพระองค์” เขาทูลยังไม่ทันจบ เรเบคาห์ผู้เกิดแก่เบธูเอลบุตรชายของมิลคาห์ภรรยาของนาโฮร์ น้องชายของอับราฮัม ก็แบกไหน้ำบนบ่าเดินออกมา หญิงสาวนั้นงามมาก เป็นพรหมจารี ยังไม่มีเพศสัมพันธ์กับชายใด เธอลงไปที่น้ำพุเติมน้ำเต็มเหยือกแล้วก็ขึ้นมา คนใช้นั้นก็วิ่งไปพบเธอ แล้วพูดว่า “ขอน้ำจากเหยือกน้ำของเธอให้ฉันดื่มสักหน่อย” เธอตอบว่า “นายของดิฉัน เชิญดื่มเถิด” แล้วเธอก็รีบลดเหยือกของเธอลงมาถือไว้ และให้เขาดื่ม เมื่อให้เขาดื่มเสร็จแล้ว เธอจึงว่า “ดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านกินจนอิ่มด้วย” เธอรีบเทน้ำในเหยือกของเธอใส่ราง แล้ววิ่งไปตักน้ำที่บ่ออีก เธอตักน้ำให้อูฐทั้งหมดของเขา ชายนั้นเพ่งดูเธอเงียบๆ เพื่อตรึกตรองดูว่าพระยาห์เวห์ทรงให้การเดินทางของเขาสำเร็จหรือไม่ เมื่ออูฐกินน้ำเสร็จแล้ว ชายนั้นก็ให้แหวนทองคำหนัก 6 กรัม และกำไลข้อมือทองแก่เธอคู่หนึ่งหนัก 120 กรัม และพูดว่า “ขอบอกฉันว่าเธอเป็นบุตรหญิงของใคร? ในบ้านบิดาของเธอนั้นมีที่ให้เราพักบ้างไหม?” เธอตอบเขาว่า “ดิฉันเป็นบุตรหญิงของเบธูเอลบุตรชายของนางมิลคาห์และนาโฮร์” เธอพูดอีกว่า “เรามีทั้งฟางและหญ้าแห้งมากมาย และมีที่ให้พักด้วย” ชายนั้นก็ก้มลงนมัสการพระยาห์เวห์ และอธิษฐานว่า “สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ผู้ไม่ได้ทรงทอดทิ้งความรักมั่นคง และความซื่อสัตย์ของพระองค์ต่อนายของข้าพระองค์ ส่วนข้าพระองค์นั้นพระเจ้าทรงนำมาตามทางจนถึงบ้านหมู่ญาติของนายข้าพระองค์” แล้วหญิงสาวนั้นก็วิ่งไปบอกคนในครอบครัวของมารดาถึงเรื่องราวเหล่านี้ เรเบคาห์มีพี่ชายคนหนึ่งชื่อ ลาบัน ลาบันวิ่งไปหาชายนั้นที่น้ำพุนอกเมือง เมื่อเขาเห็นแหวนและกำไลที่ข้อมือของน้องสาว และเมื่อเขาได้ยินคำของเรเบคาห์น้องสาวว่า “ชายนั้นพูดกับฉันอย่างนี้” เขาก็ไปหาชายนั้น และพบว่าชายนั้นกำลังยืนอยู่กับอูฐที่น้ำพุ เขาพูดว่า “ข้าแต่ท่านผู้รับพระพรของพระยาห์เวห์ เชิญเข้ามาเถิด ท่านยืนอยู่ข้างนอกทำไม เพราะข้าพเจ้าเตรียมบ้านและเตรียมที่สำหรับอูฐแล้ว” ชายนั้นจึงเข้าไปในบ้าน ลาบันก็แก้อูฐ ให้ฟางและหญ้าแห้งสำหรับอูฐ ให้น้ำล้างเท้าเขาและคนที่มากับเขา
ปฐมกาล 24:1-32 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ฝ่ายอับราฮัมก็ชราแล้ว มีอายุมากทีเดียว และพระเยโฮวาห์ทรงอวยพระพรอับราฮัมทุกประการ อับราฮัมพูดกับคนใช้ของท่านที่มีอาวุโสที่สุดในบ้าน ผู้ดูแลทรัพย์สมบัติทุกอย่างของท่านว่า “เอามือเจ้าวางไว้ใต้ขาอ่อนของเรา แล้วเราจะให้เจ้าปฏิญาณในพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และพระเจ้าแห่งแผ่นดินโลก ว่าเจ้าจะไม่หาภรรยาให้บุตรชายของเราจากบุตรสาวของคนคานาอัน ที่เราอาศัยอยู่ท่ามกลางเขานี้ แต่เจ้าจะไปยังประเทศและหมู่ญาติของเราเพื่อหาภรรยาคนหนึ่งให้แก่อิสอัคบุตรชายของเรา” คนใช้ก็เรียนท่านว่า “หากว่าหญิงนั้นจะไม่เต็มใจมากับข้าพเจ้ายังแผ่นดินนี้ ถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้ามิต้องนำบุตรชายของท่านกลับไปยังแผ่นดินซึ่งท่านจากมานั้นหรือ” อับราฮัมพูดกับเขาว่า “ระวังอย่าพาบุตรชายของเรากลับไปที่นั่นอีก พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ผู้ทรงนำเรามาจากบ้านบิดาเรา และจากแผ่นดินแห่งญาติของเรา พระองค์ตรัสกับเราและทรงปฏิญาณกับเราว่า ‘เราจะมอบแผ่นดินนี้ให้แก่เชื้อสายของเจ้า’ พระองค์จะทรงใช้ทูตสวรรค์ของพระองค์ไปข้างหน้าเจ้า เจ้าจงหาภรรยาคนหนึ่งให้บุตรชายของเราจากที่นั่น ถ้าหญิงนั้นไม่เต็มใจมากับเจ้า เจ้าก็จะพ้นจากคำปฏิญาณของเรานี้ แต่เจ้าอย่าพาบุตรชายของเรากลับไปที่นั่นก็แล้วกัน” คนใช้จึงเอามือของเขาวางใต้ขาอ่อนของอับราฮัมนายของตน และปฏิญาณต่อท่านตามเรื่องนี้ คนใช้นำอูฐสิบตัวของนายมาแล้วออกเดินทางไป ด้วยว่าข้าวของทั้งสิ้นของนายเขาอยู่ในอำนาจของเขา เขาลุกขึ้นไปยังเมโสโปเตเมีย ถึงเมืองของนาโฮร์ เขาให้อูฐคุกเข่าลงที่ริมบ่อน้ำข้างนอกเมืองเวลาเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้หญิงออกมาตักน้ำ เขาอธิษฐานว่า “โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ขอทรงประทานความสำเร็จแก่ข้าพระองค์ในวันนี้ และขอทรงสำแดงความเมตตาแก่อับราฮัมนายของข้าพระองค์ ดูเถิด ข้าพระองค์กำลังยืนอยู่ที่ริมบ่อน้ำ และบรรดาบุตรสาวของชาวเมืองนี้กำลังออกมาตักน้ำ ขอให้หญิงสาวคนที่ข้าพระองค์จะพูดกับนางว่า ‘โปรดลดเหยือกของนางลงให้ข้าพเจ้าดื่มน้ำ’ และนางนั้นจะว่า ‘เชิญดื่มเถิดและข้าพเจ้าจะให้น้ำอูฐของท่านกินด้วย’ ให้คนนั้นเป็นคนที่พระองค์ทรงกำหนดสำหรับอิสอัคผู้รับใช้ของพระองค์ อย่างนี้ข้าพระองค์จะทราบได้ว่า พระองค์ทรงสำแดงความเมตตาแก่นายของข้าพระองค์” และต่อมาเมื่อเขาอธิษฐานยังไม่ทันเสร็จ ดูเถิด เรเบคาห์ ผู้ที่เกิดแก่เบธูเอลบุตรชายของนางมิลคาห์ภรรยาของนาโฮร์น้องชายของอับราฮัม ก็แบกไหน้ำของนางเดินออกมา หญิงสาวนั้นงามมาก เป็นพรหมจารียังไม่มีชายใดสมสู่นาง นางก็ลงไปที่บ่อน้ำเติมน้ำเต็มไหน้ำแล้วก็ขึ้นมา คนใช้นั้นก็วิ่งไปต้อนรับนาง แล้วพูดว่า “ขอน้ำจากไหน้ำของนางให้ข้าพเจ้าดื่มสักหน่อย” นางตอบว่า “นายเจ้าข้า เชิญดื่มเถิด” แล้วนางก็รีบลดไหน้ำของนางลงมาถือไว้แล้วให้เขาดื่ม เมื่อให้เขาดื่มเสร็จแล้ว นางจึงว่า “ข้าพเจ้าจะตักน้ำให้อูฐของท่านกินจนอิ่มด้วย” นางรีบเทน้ำในไหน้ำของนางใส่รางแล้ววิ่งไปตักน้ำที่บ่ออีก นางตักน้ำให้อูฐทั้งหมดของเขา ชายนั้นเพ่งดูนางเงียบๆเพื่อตรึกตรองดูว่าพระเยโฮวาห์ทรงให้การเดินทางของตนบังเกิดผลหรือไม่ และต่อมาเมื่ออูฐกินน้ำเสร็จแล้ว ชายนั้นก็ให้แหวนทองคำหนักครึ่งเชเขล และกำไลสำหรับข้อมือนางคู่หนึ่งทองหนักสิบเชเขล และพูดว่า “ขอบอกข้าพเจ้าว่านางเป็นบุตรสาวของใคร ในบ้านบิดาของนางนั้นมีที่ให้พวกเราพักอาศัยบ้างไหม” นางตอบเขาว่า “ข้าพเจ้าเป็นบุตรสาวของเบธูเอลบุตรชายของนางมิลคาห์ซึ่งนางบังเกิดให้กับนาโฮร์” นางพูดเสริมว่า “เรามีทั้งฟางและเสบียงพอ และมีที่ให้พักด้วย” ชายนั้นก็ก้มศีรษะลงนมัสการพระเยโฮวาห์ และอธิษฐานว่า “สรรเสริญแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ผู้มิได้ทรงทอดทิ้งความกรุณา และความจริงของพระองค์ต่อนาย ส่วนข้าพระองค์นั้นพระเยโฮวาห์ทรงนำมาตามทางจนถึงบ้านหมู่ญาติของนายข้าพระองค์” แล้วหญิงสาวนั้นก็วิ่งไปบอกคนในครอบครัวของมารดาถึงเรื่องเหล่านี้ เรเบคาห์มีพี่ชายคนหนึ่งชื่อ ลาบัน ลาบันวิ่งไปหาชายคนนั้นที่บ่อน้ำ และต่อมาเมื่อท่านเห็นแหวนและกำไลที่ข้อมือน้องสาว และเมื่อท่านได้ยินคำของเรเบคาห์น้องสาวว่า “ชายนั้นพูดกับข้าพเจ้าอย่างนี้” ท่านก็ไปหาชายนั้น และดูเถิด เขากำลังยืนอยู่กับอูฐที่บ่อน้ำ ท่านพูดว่า “ข้าแต่ท่านผู้รับพระพรของพระเยโฮวาห์ เชิญเข้ามาเถิด ท่านยืนอยู่ข้างนอกทำไม เพราะข้าพเจ้าเตรียมบ้านและเตรียมที่สำหรับอูฐแล้ว” ชายนั้นจึงเข้าไปในบ้าน ลาบันก็แก้อูฐของเขา ให้ฟางและอาหารสำหรับอูฐ ให้น้ำล้างเท้าเขาและคนที่มากับเขา
ปฐมกาล 24:1-32 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ฝ่ายอับราฮัมก็ชราแล้ว มีอายุมากทีเดียว และพระเจ้าทรงอำนวยพระพรอับราฮัมทุกประการ อับราฮัมพูดกับคนใช้ของท่านที่มีอาวุโสที่สุดในบ้าน ผู้ดูแลทรัพย์สมบัติของท่านว่า <<เอามือเจ้าวางไว้ใต้ขาอ่อนของเรา แล้วเราจะให้เจ้าสาบาน ในพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ และพระเจ้าแห่งพิภพโลก ว่าเจ้าจะไม่หาภรรยาให้บุตรชาย ของเราจากบุตรหญิงของคนคานาอัน ที่เราอาศัยอยู่ท่ามกลางเขานี้ แต่จะไปยังประเทศและหมู่ญาติของเราเพื่อหาภรรยา คนหนึ่งให้แก่อิสอัคบุตรชายของเรา>> คนใช้ก็เรียนท่านว่า <<เผื่อหญิงนั้นอาจจะไม่ยอมมากับข้าพเจ้ายังแคว้นนี้ ถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้ามิต้องนำบุตรชายของท่านกลับไป ยังดินแดนซึ่งท่านจากมานั้นหรือ>> อับราฮัมพูดกับเขาว่า <<ระวังอย่าพาบุตรชายของเรากลับไปที่นั่น พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ผู้ทรงนำเรามาจากบ้านบิดาเรา และจากบ้านเกิดเมืองนอนของเรา พระองค์ตรัสกับเราและทรงปฏิญาณว่า <เราจะมอบแผ่นดินนี้ให้แก่เชื้อสายของเจ้า> พระองค์จะทรงใช้ทูตของพระองค์ไปข้างหน้าเจ้า เจ้าจงหาภรรยาคนหนึ่งให้บุตรชายของเราจากที่นั่น ถ้าหญิงนั้นไม่ยอมมากับเจ้า เจ้าก็จะพ้นจากคำสาบานของเรานี้ แต่เจ้าอย่าพาบุตรชายของเรากลับไปที่นั่นก็แล้วกัน>> คนใช้จึงเอามือของเขาวางใต้ขาอ่อน ของอับราฮัมนายของตน และสาบานต่อท่านตามเรื่องนี้ คนใช้นำอูฐสิบตัวของนายมาแล้วออกเดินทางไป โดยนำเอาของมีค่าต่างๆจากนายติดมือไปด้วย เขาไปยังเมโสโปเตเมีย ถึงเมืองของนาโฮร์ เขาให้อูฐคุกเข่าลงที่ริมบ่อน้ำข้างนอกเมือง เวลาเย็นซึ่งเป็นเวลาที่ผู้หญิงออกมาตักน้ำ เขาอธิษฐานว่า <<ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอับราฮัมนาย ของข้าพระองค์ ขอทรงประทานความสำเร็จแก่ข้าพระองค์ในวันนี้ และขอทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่อับราฮัมนาย ของข้าพระองค์ ข้าพระองค์กำลังยืนอยู่ที่ริมน้ำพุ และบรรดาบุตรหญิงของชาวเมืองนี้กำลังออกมาตักน้ำ ขอให้หญิงสาวคนที่ข้าพระองค์พูดกับนางว่า <โปรดลดเหยือกของเธอลง ให้ฉันดื่มน้ำ> และผู้ซึ่งตอบว่า <เชิญดื่มเถิดและดิฉันจะให้น้ำอูฐของท่านกินด้วย> นั้น เป็นคนที่พระองค์ทรงกำหนดให้ เป็นภรรยาอิสอัคผู้รับใช้ของพระองค์ อย่างนี้ข้าพระองค์จะทราบได้ว่า พระองค์ทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่นายของข้าพระองค์>> เขาอธิษฐานยังไม่ทันเสร็จ เรเบคาห์ผู้ที่เกิดแก่ เบธูเอลบุตรชายของมิลคาห์ภรรยาของนาโฮร์ น้องชายของอับราฮัม ก็แบกไหน้ำของเธอเดินออกมา หญิงสาวนั้นงามมาก เป็นพรหมจารียังไม่มีชายใดสมสู่เธอ ลงไปที่น้ำพุเติมน้ำเต็มเหยือกแล้วก็ขึ้นมา คนใช้นั้นก็วิ่งไปต้อนรับเธอ แล้วพูดว่า <<ขอน้ำจากเหยือกน้ำของเธอให้ฉันดื่มสักหน่อย>> เธอตอบว่า <<นาย เชิญดื่มเถิด>> แล้วเธอก็รีบลดเหยือกของเธอลงมาถือไว้ และให้เขาดื่ม เมื่อให้เขาดื่มเสร็จแล้ว เธอจึงว่า <<ดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านกินจนอิ่มด้วย>> เธอรีบเทน้ำในเหยือกของเธอใส่ราง แล้ววิ่งไปตักน้ำที่บ่ออีก เธอตักน้ำให้อูฐทั้งหมดของเขา ชายนั้นเพ่งดูเธอเงียบๆ เพื่อตรึกตรองดูว่าพระเจ้าทรงให้การเดินทาง ของตนบังเกิดผลหรือไม่ เมื่ออูฐกินน้ำเสร็จแล้ว ชายนั้นก็ให้แหวนทองคำหนักครึ่งเชเขล และกำไลสำหรับข้อมือเธอคู่หนึ่ง ทองหนักสิบเชเขล และพูดว่า <<ขอบอกฉันว่าเธอเป็นบุตรหญิงของใคร ในบ้านบิดาของเธอนั้นมีที่ให้เราพักอาศัยบ้างไหม>> เธอตอบเขาว่า <<ดิฉันเป็นบุตรหญิงของเบธูเอล บุตรชายของมิลคาห์และนาโฮร์>> เธอพูดเสริมว่า <<เรามีทั้งฟางและเสบียงพอ และมีที่ให้พักด้วย>> ชายนั้นก็กราบลงนมัสการพระเจ้า และอธิษฐานว่า <<สาธุการแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้า ของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ผู้มิได้ทรงทอดทิ้งความรักมั่นคง และความเที่ยงธรรมของพระองค์ต่อนาย ส่วนข้าพระองค์นั้นพระเจ้าทรงนำมา ตามทางจนถึงบ้านหมู่ญาติของนายข้าพระองค์>> แล้วหญิงสาวนั้นก็วิ่งไปบอกคนในครอบครัวของมารดา ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เรเบคาห์มีพี่ชายคนหนึ่งชื่อ ลาบัน ลาบันวิ่งไปหาชายนั้นที่น้ำพุ เมื่อท่านเห็นแหวนและกำไลที่ข้อมือน้องสาว และเมื่อท่านได้ยินคำของเรเบคาห์น้องสาวว่า <<ชายนั้นพูดกับฉันอย่างนี้>> ท่านก็ไปหาชายนั้น และพบเขากำลังยืนอยู่กับอูฐที่น้ำพุ ท่านพูดว่า <<ข้าแต่ท่านผู้รับพระพรของพระเจ้า เชิญเข้ามาเถิด ท่านยืนอยู่ข้างนอกทำไม เพราะข้าพเจ้าเตรียมบ้านและเตรียมที่สำหรับอูฐแล้ว>> ชายนั้นจึงเข้าไปในบ้าน ลาบันก็แก้อูฐ ให้ฟางและอาหารสำหรับอูฐ ให้น้ำล้างเท้าเขาและคนที่มากับเขา
ปฐมกาล 24:1-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
อับราฮัมชรามากแล้ว และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรเขาทุกด้าน วันหนึ่งอับราฮัมพูดกับหัวหน้าคนรับใช้ซึ่งเป็นผู้ดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาว่า “จงเอามือของเจ้าไว้ที่หว่างขาของเรา ขอให้เจ้าสาบานต่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้สร้างสวรรค์และโลก ว่าเจ้าจะไม่หาลูกสาวของชาวคานาอันซึ่งเป็นหมู่ชนที่เราอาศัยอยู่นี้มาเป็นภรรยาลูกชายของเรา แต่จะไปยังบ้านเกิดและญาติพี่น้องของเรา เพื่อหาภรรยาให้อิสอัคลูกชายของเรา” คนรับใช้นั้นจึงถามเขาว่า “หากหญิงสาวนั้นไม่ยอมจากบ้านตามข้าพเจ้ามายังดินแดนนี้เล่า? ข้าพเจ้าควรจะพาลูกชายของท่านกลับไปยังบ้านเมืองที่ท่านจากมาหรือ?” อับราฮัมกล่าวว่า “อย่าพาลูกชายของเรากลับไปที่นั่นเด็ดขาด พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้สร้างสวรรค์ ผู้ทรงนำเราออกมาจากครัวเรือนของบิดาและจากบ้านเกิดเมืองนอนของเรา ผู้ซึ่งได้ตรัสและสัญญากับเราโดยคำปฏิญาณได้ตรัสว่า ‘เราจะมอบดินแดนนี้แก่เชื้อสายของเจ้า’ พระองค์จะทรงให้ทูตของพระองค์นำเจ้าไป เพื่อเจ้าจะหาภรรยาให้ลูกชายของเราจากที่นั่น ถ้าหญิงนั้นไม่เต็มใจจะกลับมากับเจ้า เจ้าก็พ้นจากคำสาบานนี้ แต่อย่าพาลูกชายของเรากลับไปที่นั่นเด็ดขาด” ดังนั้นคนรับใช้จึงเอามือไว้ที่หว่างขาของอับราฮัมผู้เป็นนายและให้คำสาบานต่อเขาในเรื่องนี้ แล้วคนรับใช้นั้นจึงนำอูฐของนายสิบตัวบรรทุกของมีค่าทุกประเภทจากนายของเขาออกเดินทางไปอารัมนาหะราอิม และมุ่งหน้าไปยังเมืองของนาโฮร์ เขาให้อูฐหมอบลงพักใกล้บ่อน้ำนอกเมือง ขณะนั้นใกล้เวลาเย็นแล้ว ซึ่งเป็นเวลาที่พวกผู้หญิงพากันออกมาตักน้ำ แล้วเขาอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ขอประทานความสำเร็จแก่ข้าพระองค์ในวันนี้ และขอทรงเมตตาอับราฮัมนายของข้าพระองค์ตามที่ทรงสัญญาไว้ ดูเถิด ข้าพระองค์ยืนอยู่ที่ข้างบ่อน้ำนี้ และสาวๆ ในเมืองกำลังออกมาตักน้ำ ถ้าหากข้าพระองค์พูดกับหญิงสาวคนใดว่า ‘ขอน้ำในถังของเธอให้ฉันดื่มหน่อย’ แล้วนางตอบว่า ‘เชิญดื่มเถิด และฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย’ ก็ถือว่านางเป็นผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้ให้อิสอัคผู้รับใช้ของพระองค์ หากเป็นไปตามนี้ ข้าพระองค์ก็จะรู้ว่าพระองค์ได้ทรงเมตตานายของข้าพระองค์แล้ว” ขณะที่เขาอธิษฐานยังไม่ทันจบ เรเบคาห์ก็แบกถังน้ำใส่บ่าออกมา นางเป็นบุตรสาวของเบธูเอล ผู้เป็นบุตรชายของมิลคาห์ มิลคาห์เป็นภรรยาของนาโฮร์น้องชายของอับราฮัม เรเบคาห์เป็นหญิงงามมาก เป็นสาวพรหมจารี ไม่เคยหลับนอนกับผู้ชาย เธอลงไปที่บ่อน้ำ เติมน้ำเต็มถังแล้วก็ขึ้นมา คนรับใช้นั้นรีบวิ่งไปหานางและกล่าวว่า “ขอน้ำในถังของเธอให้ฉันหน่อยเถิด” นางตอบว่า “นายเจ้าข้า เชิญดื่มเถิด” แล้วนางก็รีบยกถังลงให้เขาดื่มทันที หลังจากให้เขาดื่มน้ำแล้ว นางก็พูดว่า “ฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านกินจนอิ่มด้วย” เธอจึงรีบเทน้ำทั้งหมดจากถังลงในราง แล้ววิ่งไปที่บ่อ ตักน้ำให้อูฐจนทุกตัวกินอิ่ม ชายนั้นเฝ้าสังเกตดูนางอยู่เงียบๆ เพื่อดูว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงให้การเดินทางของเขาประสบความสำเร็จแล้วหรือไม่ เมื่ออูฐทุกตัวกินน้ำอิ่มแล้ว เขาก็หยิบห่วงจมูกทองคำหนักราวสองสลึง และกำไลทองคู่หนึ่งหนักราว 7 บาทออกมา และเขาถามว่า “เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร กรุณาบอกฉันเถิดว่าที่บ้านบิดาของเธอมีที่ว่างให้พวกเราพักค้างคืนได้ไหม?” นางตอบเขาว่า “ฉันเป็นลูกสาวของเบธูเอล บุตรชายของมิลคาห์กับนาโฮร์” และนางกล่าวต่อไปว่า “เรามีฟางกับอาหารสัตว์มากมาย พร้อมทั้งที่ว่างให้ท่านพักค้างคืนด้วย” แล้วเขาจึงก้มลงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า และกล่าวว่า “สรรเสริญพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ผู้ไม่ได้ทรงละทิ้งความเมตตาและความซื่อสัตย์ของพระองค์ต่อนายของข้าพระองค์ ส่วนข้าพระองค์นั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงนำข้าพระองค์ให้เดินทางมาถึงบ้านพี่น้องนายของข้าพระองค์” นางจึงวิ่งกลับไปบอกเรื่องนี้แก่คนที่บ้านของมารดา เรเบคาห์มีพี่ชายคนหนึ่งชื่อลาบัน แล้วลาบันรีบรุดมาพบชายนั้นที่บ่อน้ำ ทันทีที่เขาเห็นห่วงจมูกและกำไลที่ข้อมือของน้องสาว และได้ฟังเรเบคาห์เล่าสิ่งที่ชายคนนั้นพูดกับนางแล้ว เขาก็ออกไปหาชายคนนั้นและพบเขายืนอยู่ข้างบ่อน้ำกับฝูงอูฐ ลาบันกล่าวว่า “มาเถิด ท่านผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพร ทำไมท่านจึงยืนอยู่ข้างนอกตรงนี้? เราได้จัดบ้านไว้และเตรียมที่สำหรับฝูงอูฐแล้ว” ชายนั้นจึงไปที่บ้าน มีคนมาปลดสัมภาระลงจากฝูงอูฐ ให้ฟางและอาหารแก่พวกมัน และจัดหาน้ำมาให้เขาและคนของเขาล้างเท้า
ปฐมกาล 24:1-32 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
บัดนี้อับราฮัมชราลง ท่านมีอายุมากแล้ว และพระผู้เป็นเจ้าได้ให้พรอับราฮัมในทุกด้าน อับราฮัมพูดกับผู้รับใช้ที่มีอายุมากที่สุดในบ้าน และเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินทั้งหมดของท่านว่า “จงวางมือของเจ้าไว้ที่ใต้ขาอ่อนของเรา และเราจะให้เจ้าสาบานในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกว่า เจ้าจะไม่หาลูกสาวจากชาวคานาอันมาเป็นภรรยาลูกชายของเรา เราเองก็อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเขา แต่เจ้าจะกลับไปที่ประเทศและหมู่ญาติพี่น้องของเรา และหาภรรยาให้อิสอัคลูกชายของเรา” ผู้รับใช้ตอบท่านว่า “ถ้าทางฝ่ายหญิงไม่ยอมติดตามข้าพเจ้ามายังดินแดนนี้ ข้าพเจ้าจะพาลูกชายของท่านกลับไปยังดินแดนที่ท่านจากมาหรือไม่” อับราฮัมพูดกับเขาว่า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เจ้าอย่าพาลูกชายของเรากลับไปที่นั่น พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ผู้นำเรามาจากบ้านของบิดาของเรา และจากดินแดนที่เรากำเนิด และเป็นองค์ผู้กล่าวกับเราและปฏิญาณดังนี้ว่า ‘เราจะให้ดินแดนนี้แก่ผู้สืบเชื้อสายของเจ้า’ พระองค์จะให้ทูตสวรรค์ของพระองค์ล่วงหน้าไปก่อนเจ้า และเจ้าจะหาภรรยาจากที่นั่นให้ลูกชายของเราได้ แต่ถ้าผู้หญิงไม่ยอมติดตามเจ้า เจ้าก็จะพ้นจากคำสาบานของเรา ขอเพียงแต่เจ้าอย่าพาลูกชายของเรากลับไปที่นั่น” ดังนั้นผู้รับใช้จึงวางมือของเขาไว้ที่ใต้ขาอ่อนของอับราฮัมนายของเขา และสาบานต่อท่านในเรื่องนี้ ผู้รับใช้นำอูฐ 10 ตัวของนายมา แล้วออกเดินทางไป เขานำของมีค่าสารพัดชนิดของนายติดมือไปด้วย เขาไปยังอารัมนาหะราอิม ยังเมืองของนาโฮร์ เขาให้อูฐคุกเข่าลงที่นอกเมืองใกล้บ่อน้ำในเวลาเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่พวกผู้หญิงพากันไปตักน้ำ แล้วเขาพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้าได้พบความสำเร็จในวันนี้เถิด ข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระองค์ ขอพระองค์แสดงความรักอันมั่นคงต่ออับราฮัมนายข้าพเจ้าเถิด ดูเถิด ข้าพเจ้ากำลังยืนอยู่ที่ข้างบ่อน้ำพุ และบรรดาลูกสาวของคนในเมืองนี้ออกมาตักน้ำ ขอให้หญิงสาวคนที่ข้าพเจ้าจะพูดกับเธอว่า ‘โปรดวางโถของเธอลงให้ฉันดื่ม’ เป็นคนที่จะพูดกับข้าพเจ้าว่า ‘ดื่มเถิด และฉันจะให้อูฐของท่านกินน้ำด้วย’ โปรดให้เธอเป็นคนที่พระองค์มั่นหมายไว้สำหรับอิสอัคผู้รับใช้ของพระองค์ ถ้าเกิดขึ้นตามนี้ ข้าพเจ้าจะได้ทราบว่าพระองค์ได้แสดงความรักอันมั่นคงของพระองค์แก่นายของข้าพเจ้า” เขายังพูดไม่ทันจบ ดูเถิด เรเบคาห์บุตรหญิงของเบธูเอลบุตรของมิลคาห์ภรรยาของนาโฮร์น้องชายของอับราฮัม ก็แบกโถน้ำบนบ่าของเธอเดินออกมา หญิงสาวผู้นั้นโฉมงามนักและเธอเป็นพรหมจาริณี ซึ่งยังไม่มีชายใดแตะต้องมาก่อน เธอลงไปที่น้ำพุ ตักน้ำใส่โถของนางจนเต็ม และกลับขึ้นมา ครั้นแล้วผู้รับใช้คนนั้นก็วิ่งไปพบเธอ พลางพูดว่า “โปรดให้ฉันดื่มน้ำจากโถของเธอสักนิด” เธอพูดว่า “เชิญดื่มเถิด นาย” แล้วเธอก็ลดโถน้ำที่ประคองในมือของเธอลงโดยเร็ว และให้เขาดื่ม เมื่อเธอให้เขาดื่มเสร็จแล้ว เธอพูดว่า “ฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย จนกว่าจะกินกันอิ่ม” เธอจึงรีบเทน้ำจากโถของเธอลงในรางน้ำ แล้ววิ่งไปตักน้ำจากบ่ออีก เธอตักน้ำให้อูฐของเขาทุกตัว ชายผู้นั้นจ้องดูเธอโดยไม่ปริปาก เพื่อดูว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ให้การเดินทางของเขาสำเร็จผลหรือไม่ เมื่ออูฐกินน้ำเสร็จแล้ว ชายผู้นั้นก็หยิบแหวนทองคำหนักครึ่งเชเขล กับกำไลมือทองคำ 2 วงหนัก 10 เชเขล และพูดว่า “บอกฉันเถิดว่าเธอเป็นลูกสาวของใคร บ้านบิดาของเธอมีห้องพักให้พวกเราค้างแรมหรือเปล่า” เธอพูดตอบเขาว่า “ฉันเป็นลูกสาวของเบธูเอลผู้เป็นลูกชายของนาโฮร์กับมิลคาห์” เธอพูดต่ออีกว่า “เรามีทั้งฟางและอาหารพอ รวมทั้งห้องสำหรับค้างแรมด้วย” ชายผู้นั้นก้มศีรษะและกราบนมัสการพระผู้เป็นเจ้า พลางพูดว่า “สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอับราฮัมนายข้าพเจ้า พระองค์ไม่ลืมความรักอันมั่นคงของพระองค์ และความสัตย์จริงที่มีต่อนายของข้าพเจ้า พระผู้เป็นเจ้าได้นำทางข้าพเจ้าให้มาถึงบ้านของญาติพี่น้องของนายข้าพเจ้า” แล้วหญิงสาวผู้นั้นวิ่งไปบอกคนในครัวเรือนของมารดาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ลาบันพี่ชายเรเบคาห์วิ่งไปหาชายผู้นั้นที่น้ำพุ เมื่อเขาเห็นแหวนกับกำไลที่ข้อมือน้องสาว และเมื่อเขาได้ยินเรเบคาห์น้องสาวพูดว่า “ชายคนนั้นพูดกับฉันอย่างนี้” เขาก็ไปหาชายคนนั้น และเห็นว่าเขากำลังยืนอยู่ข้างอูฐที่น้ำพุ เขาจึงพูดว่า “เชิญเข้ามาข้างใน ท่านผู้ได้รับพระพรของพระผู้เป็นเจ้า ทำไมท่านจึงยืนอยู่ข้างนอก ข้าพเจ้าได้เตรียมบ้านให้เรียบร้อยแล้ว และมีที่สำหรับพวกอูฐด้วย” ชายคนนั้นจึงเข้าไปในบ้าน ลาบันยกของลงจากอูฐ ให้ฟางและอาหารแก่อูฐ มีน้ำล้างเท้าให้เขาและพวกผู้ชายที่มากับเขาด้วย