ปฐมกาล 18:20-33

ปฐมกาล 18:20-33 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เสียงร้องกล่าวโทษเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์นั้นดังเหลือเกิน และบาปของเขาก็หนักมาก เราจะลงไปดูว่าพวกเขาทำผิดจริงตามคำร้องที่มาถึงเรานั้นหรือไม่ ถ้าไม่ เราก็จะรู้” บุรุษเหล่านั้นจึงหันไปจากที่นั่นเดินไปยังเมืองโสโดม แต่อับราฮัมยังยืนเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ อับราฮัมเข้ามาใกล้ ทูลว่า “พระองค์จะทรงทำลายผู้ชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรมหรือ? สมมุติว่ามีคนชอบธรรมห้าสิบคนอยู่ในเมืองนั้น พระองค์จะยังทรงทำลายเมืองนั้น ไม่ทรงละเว้นเพราะเห็นแก่คนชอบธรรมห้าสิบคนที่อยู่ในเมืองนั้นหรือ? ขอพระองค์อย่าทรงคิดทำเช่นนี้เลย อย่าทรงคิดที่จะฆ่าคนชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรม ทำกับคนชอบธรรมอย่างเดียวกับคนอธรรม ขอพระองค์อย่าทรงทำเช่นนั้นเลย พระองค์ผู้พิพากษาสากลโลกจะไม่ทรงทำสิ่งที่ยุติธรรมหรือ?” พระยาห์เวห์ตรัสว่า “ที่โสโดมถ้าเราพบคนชอบธรรมในเมืองห้าสิบคน เราจะละเว้นเมืองนั้นทั้งเมืองเพราะเห็นแก่พวกเขา” อับราฮัมทูลตอบว่า “ขอทรงอภัยโทษที่ข้าพระองค์บังอาจทูลต่อองค์เจ้านาย ข้าพระองค์ผู้เป็นเพียงผงคลีและขี้เถ้า สมมุติว่าในห้าสิบคนนั้นขาดไปห้าคน พระองค์จะยังทรงทำลายเมืองนั้นทั้งเมืองเพราะขาดห้าคนหรือ?” และพระองค์ตรัสว่า “เราจะไม่ทำลาย ถ้าเราพบคนชอบธรรมสี่สิบห้าคนที่นั่น” ท่านก็ทูลพระองค์อีกว่า “สมมุติว่าพระองค์ทรงพบสี่สิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำเพราะเห็นแก่สี่สิบคนนั้น” ท่านจึงทูลว่า “ขอองค์เจ้านายอย่าทรงพระพิโรธเลย ข้าพระองค์จะขอทูล สมมุติพระองค์ทรงพบเพียงสามสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำ ถ้าเราพบสามสิบคนที่นั่น” ท่านทูลว่า “ขอทรงอภัยโทษที่ข้าพระองค์บังอาจทูลต่อองค์เจ้านาย สมมุติว่าทรงพบยี่สิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเพราะเห็นแก่ยี่สิบคนนั้น” ท่านทูลว่า “ขอองค์เจ้านายอย่าทรงพระพิโรธเลย ข้าพระองค์ขอทูลอีกครั้งนี้ครั้งเดียว สมมุติว่า ทรงพบเพียงสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเพราะเห็นแก่สิบคนนั้น” เมื่อพระยาห์เวห์ตรัสกับอับราฮัมจบลงแล้ว พระองค์ก็เสด็จไป ส่วนอับราฮัมก็กลับไปที่ของเขา

ปฐมกาล 18:20-33 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แล้ว​พระยาห์เวห์​พูด​ว่า “มี​เสียง​บ่น​ต่อว่า​เมือง​โสโดม​และ​เมือง​โกโมราห์​เยอะ​มาก และ​บาป​ของ​พวกเขา​ก็​หนักหนาสาหัส เรา​จะ​ลง​ไป​ดู​สิ​ว่า พวกเขา​ได้​ทำ​อย่าง​ที่​เรา​ได้ยิน​มา​หรือเปล่า และ​ถ้า​ไม่​เป็น​อย่างนั้น​เรา​จะ​ได้​รู้” แล้ว​ชาย​พวกนั้น​ก็​บ่ายหน้า​ไป​จาก​ที่นั่น แล้ว​มุ่ง​ตรง​ไป​เมือง​โสโดม แต่​อับราฮัม​ยัง​คง​ยืน​อยู่​ต่อหน้า​พระองค์ อับราฮัม​เข้า​มา​ใกล้​พระองค์​และ​พูด​ว่า “พระองค์​จะ​ทำลาย​คนดี​ไป​พร้อมๆ​กับ​คนชั่ว​จริงๆ​หรือ แล้ว​ถ้า​เกิด​มี​คนดี​สัก​ห้าสิบ​คน​ใน​เมือง​นั้นล่ะ พระองค์​จะ​ทำลาย​เมืองนั้น​อีก​หรือ พระองค์​จะ​ไม่​ยกโทษ​ให้​กับ​เมืองนั้น เพราะ​เห็น​แก่​คนดี​ห้าสิบ​คน​หรือ พระองค์​คง​จะ​ไม่​ทำ​อย่างนั้นแน่ ที่​จะ​ฆ่า​คนดีๆ​ไป​พร้อม​กับ​คนชั่ว ถ้า​เป็น​อย่างนั้น​คนดี​กับ​คนชั่ว​ก็​ไม่ต่างกัน​เลย พระองค์​คง​ไม่​ทำ​อย่างนั้น​แน่ ข้าพเจ้า​รู้​ว่า พระองค์​ผู้เป็น​ผู้พิพากษา​โลกนี้ จะ​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ถูกต้อง​อย่าง​แน่นอน” แล้ว​พระยาห์เวห์​ก็​พูด​ว่า “ถ้า​เรา​เจอ​คนดี​ใน​เมือง​โสโดม​ห้าสิบ​คน เรา​ก็​จะ​ไว้​ชีวิต​คน​ใน​เมือง​นั้น​เพราะ​เห็น​แก่​ห้าสิบ​คนนั้น” แล้ว​อับราฮัม​ก็​พูด​ว่า “ดูเถอะ ข้าพเจ้า​นี่​ช่าง​บังอาจ​นัก​ที่​พูด​กับ​เจ้านาย​ของ​ข้าพเจ้า​อย่างนี้ ทั้งๆที่​ข้าพเจ้า​เป็น​แค่​ฝุ่น​และ​ขี้เถ้า แล้ว​ถ้า​เกิด​คนดี​ห้าสิบ​คนนั้น ขาด​ไป​สัก​ห้าคน​ล่ะ​ครับ พระองค์​ยัง​จะ​ทำลาย​เมือง​ทั้ง​เมือง เพราะ​ขาด​ไป​แค่​ห้า​คน​ไหม​ครับ​ท่าน” แล้ว​พระองค์​พูด​ว่า “เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​นั้น ถ้า​เรา​เจอ​คนดี​สี่สิบห้า​คน​ที่นั่น” แล้ว​อับราฮัม​ก็​พูด​กับ​พระองค์​อีก​ว่า “แล้ว​ถ้า​เจอ​แค่​สี่สิบ​คน​ที่นั่น​ล่ะ​ครับ​ท่าน” พระองค์​ตอบ​ว่า “เรา​ก็​จะ​ไม่​ทำลาย​มัน​เพราะ​เห็น​แก่​สี่สิบ​คนนั้น” แล้ว​อับราฮัม​พูด​ต่อไป​ว่า “ขอ​พระองค์​อย่า​ได้​โกรธ​ข้าพเจ้า​เลย ข้าพเจ้า​ขอ​ถาม​อีกคำ แล้ว​ถ้า​เจอ​แค่​สามสิบ​คน​ที่นั่น​ล่ะ​ครับท่าน” พระองค์​ตอบ​ว่า “เรา​ก็​จะ​ไม่​ทำลาย​มัน ถ้า​เรา​เจอ​คนดี​สามสิบ​คน​ที่นั่น” แล้ว​อับราฮัม​ก็​พูด​ว่า “ดูเถอะ ข้าพเจ้า​นี่​ช่าง​บังอาจ​จริง ที่​พูด​กับ​เจ้านาย​ของ​ข้าพเจ้า​อย่างนี้ แล้ว​ถ้า​เกิด​เจอ​แค่​ยี่สิบ​คน​ที่นั่น​ล่ะ​ครับท่าน” พระองค์​ตอบ​ว่า “เรา​ก็​จะ​ไม่​ทำลาย​มัน เพราะ​เห็น​แก่​ยี่สิบ​คนนั้น” แล้ว​อับราฮัม​พูด​ว่า “ขอ​พระองค์​อย่า​ได้​โกรธ​ข้าพเจ้า​เลย ขอ​ถาม​อีก​แค่​ครั้งเดียว แล้ว​ถ้า​เกิด​เจอ​แค่​สิบคน​ที่นั่น​ล่ะ​ครับท่าน” พระองค์​ตอบ​ว่า “เรา​ก็​จะ​ไม่​ทำลาย​มัน เพราะ​เห็น​แก่​สิบ​คนนั้น” เมื่อ​พระองค์​พูด​กับ​อับราฮัม​เสร็จ​แล้ว พระองค์​ก็​จากไป แล้ว​อับราฮัม​ก็​กลับ​ไป​ที่อยู่​ของเขา

ปฐมกาล 18:20-33 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “เพราะเสียงร้องของเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ดังมากและเพราะบาปของพวกเขาก็​หน​ักเหลือเกิน เราจะลงไปเดี๋ยวนี้​ดู​ว่าพวกเขากระทำตามเสียงร้องทั้งสิ้นซึ่งมาถึงเราหรือไม่ ถ้าไม่ เราจะรู้” บุ​รุษเหล่านั้นหันหน้าจากที่นั่นไปทางเมืองโสโดม แต่​อับราฮัมยังยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ อับราฮัมเข้ามาใกล้ทูลว่า “​พระองค์​จะทรงทำลายคนชอบธรรมพร้อมกับคนชั่วด้วยหรือ บางที​มี​คนชอบธรรมห้าสิบคนในเมืองนั้น พระองค์​จะทรงทำลายและไม่ละเว้นเมืองนั้นเพราะคนชอบธรรมห้าสิบคนที่​อยู่​ในนั้นด้วยหรือ ขอพระองค์อย่ากระทำเช่นนี้​เลย ที่​จะฆ่าคนชอบธรรมพร้อมกับคนชั่ว และให้คนชอบธรรมเหมือนอย่างคนชั่ว ให้​การนั้นอยู่ห่างไกลจากพระองค์ ผู้​พิพากษาของทั่วแผ่นดินโลกจะไม่กระทำการยุ​ติ​ธรรมหรือ” พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “ถ้าเราพบคนชอบธรรมในท่ามกลางเมืองโสโดมห้าสิบคน เราจะละเว้นทั้งเมืองเพราะเห็นแก่​พวกเขา​” อับราฮั​มท​ูลตอบว่า “​ดู​เถิด กรุ​ณาเถิด ข้าพระองค์​มี​เจตนาทูลต่อองค์​พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งข้าพระองค์เป็นเพียงผงคลี​ดิ​นและขี้​เถ้า บางที​คนชอบธรรมห้าสิบคนจะขาดไปห้าคน พระองค์​จะทรงทำลายเมืองนั้นทั้งเมืองเพราะขาดห้าคนหรือ” พระองค์​ตรั​สว​่า “ถ้าเราพบสี่​สิ​บห้าคนที่​นั่น เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น” เขายังทูลต่อพระองค์​อี​กครั้งว่า “​บางที​จะพบสี่​สิ​บคนที่​นั่น​” และพระองค์ตรั​สว​่า “เราจะไม่กระทำเพราะเห็นแก่​สี​่​สิ​บคน” เขาทูลต่อพระองค์​ว่า “​โอ ขอทรงโปรดอย่าให้​องค์​พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธเลย และข้าพระองค์จะกราบทูล บางที​จะพบสามสิบคนที่​นั่น​” และพระองค์ตรั​สว​่า “เราจะไม่กระทำถ้าเราพบสามสิบคนที่​นั่น​” เขาทูลว่า “​ดู​เถิด กรุ​ณาเถิด ข้าพระองค์​มี​เจตนาทูลต่อองค์​พระผู้เป็นเจ้า บางที​จะพบยี่​สิ​บคนที่​นั่น​” และพระองค์ตรั​สว​่า “เราจะไม่ทำลายเมืองนั้นเพราะเห็นแก่​ยี​่​สิ​บคน” เขาทูลว่า “​โอ ขอทรงโปรดอย่าให้​องค์​พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธเลย และข้าพระองค์จะยังกราบทูลครั้งนี้ครั้งเดียว บางที​จะพบสิบคนที่​นั่น​” และพระองค์ตรั​สว​่า “เราจะไม่ทำลายเมืองนั้นเพราะเห็นแก่​สิ​บคน” เมื่อพระองค์ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับอับราฮัมจบลงแล้ว พระเยโฮวาห์​ได้​เสด็จไปและอับราฮัมก็​กล​ับไปที่​อยู่​ของตน

ปฐมกาล 18:20-33 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

พระเจ้าได้ตรัสว่า <<เสียงร้องกล่าวโทษเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ นั้นดังเหลือเกิน และบาปของเขาก็หนักมาก เราจะลงไปดูว่า พวกเขากระทำผิดจริงตามคำร้องทุกข์ที่มาถึงเรานั้นหรือไม่ ถ้าไม่เราก็จะรู้>> บุรุษเหล่านั้นจึงออกจากที่นั่นเดินตรงไปยังเมืองโสโดม แต่อับราฮัมยังยืนเฝ้าพระเจ้าอยู่ อับราฮัมได้เข้ามาใกล้ กราบทูลว่า <<พระองค์จะทรงทำลายผู้ชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรมหรือ สมมุติว่ามีคนชอบธรรมห้าสิบคนอยู่ในเมืองนั้น พระองค์จะยังทรงทำลายเมืองนั้นไม่ยับยั้งอาชญา เพราะเห็นแก่คนชอบธรรมห้าสิบคนที่อยู่ในเมืองนั้นหรือ ขอพระองค์อย่าคิดที่จะกระทำเช่นนั้นเลย อย่าคิดที่จะฆ่าคนชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรม ทำกับคนชอบธรรมอย่างเดียวกับคนอธรรม ขอพระองค์อย่าทรงทำเช่นนั้นเลย พระองค์ผู้พิพากษาสากลโลกจะไม่กระทำสิ่งที่ยุติธรรมหรือ>> พระเจ้าตรัสว่า <<ที่โสโดมถ้าเราพบคนชอบธรรมในเมืองห้าสิบคนเราจะ ไม่ลงอาชญาในเมืองนั้นทั้งเมืองเพราะเห็นแก่เขา>> อับราฮัมทูลตอบว่า <<ขอประทานโทษ ที่ข้าพระองค์บังอาจกราบทูลต่อพระเจ้า ข้าพระองค์ผู้เป็นเพียงผงคลีและขี้เถ้า สมมุติว่าในห้าสิบคนนั้นขาดไปห้าคน พระองค์จะยังทรงทำลายเมืองนั้นทั้ง เมืองเพราะขาดห้าคนหรือ>> และพระองค์ตรัสว่า <<เราจะไม่ทำลาย ถ้าเราพบคนชอบธรรมสี่สิบห้าคนที่นั่น>> ท่านก็ทูลพระองค์อีกว่า <<สมมุติว่าพระองค์ทรงพบสี่สิบคนที่นั่น>> พระองค์ตรัสตอบว่า <<เพราะเห็นแก่สี่สิบคนเราจะไม่กระทำ>> ท่านจึงทูลว่า <<ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่าทรงพระพิโรธเลย ข้าพระองค์จะขอกราบทูล สมมุติพระองค์ทรงพบเพียงสามสิบคนที่นั่น>> พระองค์ตรัสตอบว่า <<เราจะไม่ลงอาชญา ถ้าเราพบสามสิบที่นั่น>> ท่านทูลว่า <<ขอประทานโทษที่ข้าพระองค์บังอาจกราบทูล ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า สมมุติว่าทรงพบเพียงยี่สิบคนที่นั่น>> พระองค์ตรัสตอบว่า <<เพราะเห็นแก่ยี่สิบคน เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น>> ท่านทูลว่า <<ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่าทรงพระพิโรธเลย ข้าพระองค์ขอกราบทูลอีกครั้งนี้ครั้งเดียว สมมุติว่า ทรงพบเพียงสิบคนที่นั่น>> พระองค์ตรัสตอบว่า <<เพราะเห็นแก่สิบคนเราจะไม่ทำลายเมืองนั้น>> เมื่อพระองค์ตรัสกับอับราฮัมจบลงแล้ว พระเจ้าก็เสด็จไป ส่วนอับราฮัมก็กลับไปบ้าน

ปฐมกาล 18:20-33 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เสียงฟ้องร้องเมืองโสโดมกับโกโมราห์ก็ดังสนั่น และพวกเขาทำบาปมหันต์ จนเราต้องลงไปดูว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นเลวร้ายอย่างเสียงฟ้องร้องที่ขึ้นมาถึงเราหรือไม่ ถ้าไม่จริง เราก็จะได้รู้” คนเหล่านั้นจึงหันหน้าเดินไปยังเมืองโสโดม แต่อับราฮัมยังยืนอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วอับราฮัมเข้าไปหาพระองค์และทูลว่า “พระองค์จะทรงกวาดล้างคนชอบธรรมไปพร้อมกับคนชั่วหรือ? พระองค์จะทำอย่างไรถ้าหากว่ามีคนชอบธรรมห้าสิบคนในเมืองนั้น? พระองค์จะทรงกวาดล้างเมืองนั้นจริงๆ หรือ พระองค์จะไม่ทรงละเว้นชาวเมืองนั้นเพื่อเห็นแก่คนชอบธรรมห้าสิบคนในนั้นหรือ? พระองค์จะไม่ทรงทำอย่างนั้นแน่ พระองค์จะไม่ทรงประหารคนชอบธรรมไปพร้อมกับคนชั่ว หรือปฏิบัติต่อคนชอบธรรมเช่นเดียวกับคนอธรรมเลย พระองค์จะไม่ทรงทำอย่างนั้นแน่ องค์ตุลาการแห่งสากลโลกจะไม่ธำรงความยุติธรรมไว้หรือ?” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “หากเราพบคนชอบธรรมห้าสิบคนในเมืองโสโดม เราจะละเว้นคนทั้งเมืองนั้นเพราะเห็นแก่พวกเขา” อับราฮัมทูลอีกว่า “ข้าพระองค์ซึ่งเป็นเพียงผงธุลีและขี้เถ้าไม่ควรอาจเอื้อมทูลขอต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่หากคนชอบธรรมขาดไปห้าคนจากห้าสิบคนเล่า? พระองค์จะยังทรงทำลายเมืองนั้นทั้งเมืองเพราะคนห้าคนหรือ?” พระองค์ตรัสว่า “หากเราพบสี่สิบห้าคนที่นั่น เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น” อับราฮัมจึงทูลอีกว่า “หากพบเพียงสี่สิบคนเล่าพระเจ้าข้า?” พระองค์ตรัสว่า “เพื่อเห็นแก่สี่สิบคนนั้น เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น” แล้วอับราฮัมจึงทูลว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่าได้ทรงพระพิโรธเลย ข้าพระองค์ขอกราบทูลอีก หากพบเพียงสามสิบคนที่นั่นเล่า?” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลาย หากเราพบสามสิบคนที่นั่น” อับราฮัมทูลว่า “ในเมื่อข้าพระองค์ก็กล้าอาจเอื้อมกราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าไปแล้ว หากพบเพียงยี่สิบคนเท่านั้นเล่า?” พระองค์ตรัสว่า “เพื่อเห็นแก่ยี่สิบคน เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น” แล้วอับราฮัมทูลว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่าทรงพระพิโรธเลย ข้าพระองค์ขอกราบทูลอีกเพียงครั้งเดียว หากพบแต่เพียงสิบคนเท่านั้นเล่า?” พระองค์ตรัสตอบว่า “เพื่อเห็นแก่สิบคน เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น” เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอับราฮัมจบแล้วก็เสด็จจากไป ส่วนอับราฮัมก็กลับบ้าน

ปฐมกาล 18:20-33 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​ว่า “เพราะ​มี​เสียง​ร้อง​ทุกข์​ต่อต้าน​เมือง​โสโดม​และ​โกโมราห์​ดัง​มาก และ​ผู้​คน​ทำ​ใน​สิ่ง​เลว​ร้าย​ยิ่ง เรา​จะ​ลง​ไป​ดู​ว่า พวก​เขา​ได้​กระทำ​ความ​เลว​จริง ดัง​ที่​เสียง​ร้องทุกข์​มา​ถึง​เรา​หรือ​ไม่ จะ​จริง​เท็จ​อย่างไร เรา​ก็​จะ​รู้” ฉะนั้น ชาย​ทั้ง​สาม​ท่าน​จึง​ไป​จาก​ที่​นั่น เพื่อ​ไป​ยัง​เมือง​โสโดม แต่​อับราฮัม​ยัง​ยืน​อยู่ ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า อับราฮัม​จึง​เข้า​ไป​ใกล้​พลาง​พูด​ว่า “พระ​องค์​จะ​ทำ​ให้​คน​มี​ความ​ชอบธรรม​ถึง​แก่​ชีวิต​ไป​ด้วย​กับ​คน​ชั่วช้า​จริงๆ หรือ สมมุติ​ว่า​ผู้​มี​ความ​ชอบธรรม​อยู่​ใน​เมือง 50 คน แล้ว​พระ​องค์​จะ​ทำ​ลาย​สถาน​ที่​นั้น โดย​ไม่​ไว้​ชีวิต​คน​มี​ความ​ชอบธรรม 50 คน​ที่​อยู่​ใน​นั้น​หรือ ไม่​มี​วัน​ที่​พระ​องค์​จะ​ทำ​เช่น​นั้น ไม่​มี​วัน​ที่​จะ​ฆ่า​ผู้​มี​ความ​ชอบธรรม​ไป​พร้อม​กับ​คน​ชั่ว ไม่​มี​วัน​กระทำ​ต่อ​ผู้​มี​ความ​ชอบธรรม​เหมือน​กับ​ที่​กระทำ​ต่อ​คน​ชั่ว ไม่​มี​วัน​ที่​พระ​องค์​จะ​ทำ​เช่น​นั้น องค์​ผู้​พิพากษา​ของ​ทุก​คน​ใน​โลก​จะ​ไม่​กระทำ​ด้วย​ความ​ยุติธรรม​หรือ” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จึง​กล่าว​ว่า “ถ้า​เรา​พบ​ผู้​มี​ความ​ชอบธรรม 50 คน​ใน​เมือง​โสโดม เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​นั้น​ทั้ง​หมด​เพราะ​เห็น​แก่​คน​เหล่า​นั้น” อับราฮัม​ตอบ​ว่า “โปรด​ให้​อภัย​ข้าพเจ้า​ที่​บังอาจ​พูด​สิ่ง​ต่อ​ไป​นี้​กับ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ข้าพเจ้า​เป็น​เพียง​ผง​ธุลี​และ​เศษ​เถ้า แต่​สมมุติ​ว่า​ใน 50 คน​ของ​ผู้​มี​ความ​ชอบธรรม​ขาด​ไป 5 คน แล้ว​พระ​องค์​จะ​ทำลาย​ทั้ง​เมือง​เพราะ​ขาด​ไป 5 คน​หรือ” พระ​องค์​ตอบ​ว่า “เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​นั้น​ถ้า​เรา​พบ 45 คน​ที่​นั่น” ท่าน​จึง​พูด​กับ​พระ​องค์​ต่อ​ไป​อีก​ว่า “แล้ว​สมมุติ​ว่า​พบ​เพียง 40 คน​ที่​นั่น” พระ​องค์​ตอบ​ว่า “เพราะ​เห็น​แก่ 40 คน เรา​จะ​ไม่​ทำ” แล้ว​ท่าน​ก็​พูด​ว่า “โอ ขอ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​อย่า​โกรธ​เลย ข้าพเจ้า​ต้อง​ขอ​ถาม​ต่อ​อีก​ว่า สมมุติ​ว่า​พบ 30 คน​ที่​นั่น” พระ​องค์​ตอบ​ว่า “เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​นั้น ถ้า​เรา​พบ 30 คน​ที่​นั่น” ท่าน​พูด​ว่า “โปรด​ให้​อภัย​ที่​ข้าพเจ้า​บังอาจ​กล้า​พูด​กับ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ต่อ​อีก​ว่า ถ้า​สมมุติ​ว่า​พบ 20 คน​ที่​นั่น” พระ​องค์​ตอบ​ว่า “เพราะ​เห็น​แก่ 20 คน เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​นั้น” แล้ว​ท่าน​พูด​ว่า “โอ ขอ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​อย่า​โกรธ​เลย และ​ข้าพเจ้า​จะ​พูด​อีก​ครั้ง​เดียว​ว่า สมมุติ​ว่า​พบ 10 คน​ที่​นั่น” พระ​องค์​ตอบ​ว่า “เพราะ​เห็น​แก่ 10 คน เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​นั้น” ครั้น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​อับราฮัม​เสร็จ​แล้ว พระ​องค์​ก็​ไป​ยัง​จุดหมาย​ของ​พระ​องค์ ใน​ขณะ​อับราฮัม​ก็​กลับ​ไป​ยัง​ที่​ของ​ท่าน