ปฐมกาล 15:6-21

ปฐมกาล 15:6-21 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

อับรามก็เชื่อพระเจ้า ความเชื่อนั้นพระองค์ทรงนับว่าเป็นความชอบธรรม แก่ท่าน แล้วพระองค์ตรัสแก่อับรามว่า <<เราคือพระเจ้าที่พาเจ้าออกจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดีย เพื่อจะยกดินแดนนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า>> อับรามทูลว่า <<ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์จะรู้ได้อย่างไรว่าจะได้ดินแดนนี้เป็นกรรมสิทธิ์>> พระองค์จึงตรัสแก่อับรามว่า <<เอาลูกวัวตัวเมียอายุสามปีแพะตัวเมียอายุสามปี และแกะตัวผู้อายุสามปี นกเขาตัวหนึ่งกับนกพิราบโตตัวหนึ่งมาให้เรา>> อับรามจึงนำสัตว์เหล่านี้มาถวาย และผ่ากลางตัววางข้างละซีกตรงกัน แต่นกนั้นหาได้ผ่าไม่ ครั้นฝูงเหยี่ยวบินลงมาที่เนื้อสัตว์เหล่านั้น อับรามก็ไล่ไปเสีย เมื่อเวลาอาทิตย์ใกล้จะตก อับรามก็นอนหลับสนิท เวลานั้นความกลัวและความมืดอย่างยิ่งก็มาทับถมอับราม พระองค์จึงตรัสแก่อับรามว่า <<เจ้าจงรู้แน่เถิดว่าพงศ์พันธุ์ ของเจ้าจะเป็นคนต่างด้าวในดินแดนซึ่งมิใช่ที่ของเขา และเขาจะต้องรับใช้ชาวเมืองนั้น ชาวเมืองนั้นจะบีบบังคับเขาถึงสี่ร้อยปี ส่วนประเทศที่เขารับใช้อยู่นั้น เราจะพิพากษาลงโทษ ต่อมาพงศ์พันธุ์ของเจ้าจะออกมา มีทรัพย์สมบัติมาก ฝ่ายเจ้าจะไปตามปู่ย่าตายายของเจ้าโดยผาสุก เจ้าจะตายเวลาชรามากแล้วเขาจะฝังศพเจ้าไว้ ในชั่วอายุที่สี่ พงศ์พันธุ์ของเจ้าจะกลับมาที่นี่อีก ด้วยว่าความชั่วลามกของคนอาโมไรต์ยังไม่ครบถ้วน>> ครั้นดวงอาทิตย์ตกและค่ำมืดก็มีเตาที่ควันพลุ่งอยู่ และคบเพลิงเลื่อนลอยมาระหว่างกลางซีกสัตว์เหล่านั้น ในวันนั้นพระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญาไว้กับอับรามว่า <<เรามอบดินแดนนี้ให้เชื้อสายของเจ้าแล้ว ตั้งแต่แม่น้ำอียิปต์ไปถึงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส ทั้งแผ่นดินคนเคไนต์ คนเคนัส และคนขัดโมไนต์ กับคนฮิตไทต์ คนเปริสซี คนเรฟาอิม คนอาโมไรต์ คนคานาอัน คนเกอร์กาชีและคนเยบุสด้วย

ปฐมกาล 15:6-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แล้ว​อับราม​ก็​ไว้วางใจ​ใน​พระยาห์เวห์ และ​เพราะ​ความไว้วางใจ​ของ​อับราม​นั่นเอง พระองค์​ถึง​ได้​ยอมรับ​เขา พระองค์​จึง​บอก​อับราม​ว่า “เรา​คือ​ยาห์เวห์ ผู้​ที่​นำ​เจ้า​ออก​จาก​เมือง​เออร์ ของ​ชาว​เคลเดีย เพื่อ​มอบ​ดินแดนนี้​ให้​กับเจ้า​เป็นเจ้าของ” อับราม​ก็​พูด​ว่า “ข้าแต่​พระยาห์เวห์ องค์​เจ้า​ชีวิต ข้าพเจ้า​จะ​รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ข้าพเจ้า​จะ​ได้​เป็น​เจ้าของมัน” พระองค์​ก็​บอก​กับ​เขา​ว่า “ให้​เอา​ลูกวัว​ตัวเมีย​อายุ​สามปี​มา​ตัวหนึ่ง แพะ​ตัวเมีย​อายุ​สามปี​ตัวหนึ่ง แกะ​ตัวผู้​อายุ​สามปี​อีก​ตัวหนึ่ง นกเขา​และ​นกพิราบ​อย่าง​ละ​ตัว​มา​ให้​กับ​เรา” อับราม​ก็​ได้​เอา​สัตว์​ทั้งหมด​นี้​มา และ​ผ่า​กลาง​ลำตัว​ออก​เป็น​สองซีก แล้ว​วางไว้​ข้างละซีก​ตรงกัน แต่​เขา​ไม่ได้​ผ่า​พวกนก ต่อมา​มี​นก​ตัวใหญ่​หลายตัว​บิน​ลงมา​จะ​กิน​ซากสัตว์​พวกนั้น อับราม​จึง​ไล่​ฝูงนก​พวกนั้นไป ขณะนั้น​ตะวัน​เริ่ม​ตกดิน อับราม​หลับสนิท ความมืด​อัน​น่ากลัว​ก็​แผ่​ปกคลุม​บน​ตัวเขา พระยาห์เวห์​พูด​กับ​อับราม​ว่า “เจ้า​ต้อง​รู้​ว่า​ลูกหลาน​ของเจ้า​จะ​เป็น​คนแปลกหน้า​ใน​ประเทศ​ที่​ไม่ใช่​ของ​พวกเขา และ​จะ​เป็น​ทาส​ของ​คนพวกนั้น และ​คนพวกนั้น​ก็​จะ​กดขี่​ข่มเหง​พวกเขา​เป็น​เวลา​สี่ร้อยปี แต่​เรา​จะ​ตัดสิน​ลงโทษ​ชนชาตินั้น ที่​พวกลูกหลาน​ของเจ้า​ไป​รับใช้ แล้ว​หลังจากนั้น พวกลูกหลาน​ของเจ้า​ก็​จะ​ออกมา​พร้อมกับ​ทรัพย์​สมบัติ​มากมาย แต่​เจ้า​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​อย่าง​ยืนยาว​และ​ตาย​อย่าง​สงบสุข​และ​ถูก​ฝังไว้ หลัง​ผ่านพ้น​ไป​สี่ชั่วอายุคน ลูกหลาน​ของเจ้า​ก็​จะ​กลับ​มา​ที่​ดินแดน​แห่งนี้ เพราะ​ก่อน​หน้า​นั้น​ความบาป​ของ​ชาว​อาโมไรต์​ยัง​ไม่​ครบถ้วน” เมื่อ​ตะวันตกดิน มัน​มืด​มาก แล้ว​มี​หม้อ​ที่​มี​ควันไฟ​และ​คบเพลิง​ที่​มี​เปลวไฟ​ลุก​อยู่​พุ่ง​ผ่าน​กลาง​สอง​ซีก​ของ​ซากสัตว์​พวกนั้น ใน​วันนั้น​พระยาห์เวห์​ได้​ทำ​สัญญา​กับ​อับราม พระองค์​พูด​ว่า “เรา​ได้​มอบ​แผ่นดินนี้​ให้​กับ​ลูกหลาน​เจ้า จาก​แม่น้ำ​อียิปต์ ไป​จนถึง​แม่น้ำ​ยูเฟรติส​อัน​ยิ่งใหญ่ รวมทั้ง​แผ่นดิน​ของ​ชาว​เคไนต์ ชาว​เคนัส ชาว​ขัดโมไนต์ ชาว​ฮิตไทต์ ชาว​เปริสซี ชาว​เรฟาอิม ชาว​อาโมไรต์ ชาว​คานาอัน ชาว​เกอร์กาชี​และ​ชาว​เยบุส”

ปฐมกาล 15:6-21 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

อับรามก็เชื่อพระยาห์เวห์ ความเชื่อนั้นพระองค์ทรงถือว่าเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน แล้วพระองค์ตรัสแก่อับรามว่า “เราคือยาห์เวห์ผู้พาเจ้าออกจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดีย เพื่อจะยกดินแดนนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า” อับรามทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ข้าพระองค์จะทราบได้อย่างไรว่า จะได้ดินแดนนี้เป็นกรรมสิทธิ์?” พระองค์จึงตรัสแก่อับรามว่า “เอาลูกโคตัวเมียอายุสามปี แพะตัวเมียอายุสามปีและแกะตัวผู้อายุสามปี นกเขาตัวหนึ่งกับนกพิราบตัวหนึ่งมาให้เรา” อับรามจึงนำสัตว์ทั้งหมดเหล่านี้มาถวาย และผ่าครึ่งวางข้างละซีกตรงกัน แต่ไม่ได้ผ่าครึ่งนก เมื่อฝูงเหยี่ยวบินลงมาที่ซากสัตว์เหล่านั้น อับรามก็ไล่ไปเสีย เมื่อเวลาดวงอาทิตย์ใกล้จะตก อับรามก็นอนหลับสนิท เวลานั้นความกลัวและความมืดอย่างยิ่งก็มาทับถมอับราม พระองค์จึงตรัสแก่อับรามว่า “เจ้าจงรู้แน่เถิดว่าเชื้อสายของเจ้าจะเป็นคนต่างด้าวในดินแดนซึ่งไม่ใช่ที่ของพวกเขา และพวกเขาจะต้องรับใช้ชาวเมืองนั้น ชาวเมืองนั้นจะกดขี่เขาถึงสี่ร้อยปี ส่วนชนชาติที่เขารับใช้อยู่นั้น เราจะพิพากษาลงโทษ ต่อมาเชื้อสายของเจ้าจะออกมา พร้อมกับทรัพย์สมบัติมากมาย ฝ่ายเจ้าจะไปยังบรรพบุรุษของเจ้าอย่างสงบ เขาจะฝังศพเจ้าเมื่อเจ้าชรามากแล้ว ในชั่วอายุที่สี่ เชื้อสายของเจ้าจะกลับมาที่นี่อีก ด้วยว่าความบาปชั่วของคนอาโมไรต์ยังไม่ครบถ้วน” เมื่อดวงอาทิตย์ตกและมืดมิดก็มีเตาที่ควันพลุ่งอยู่ และคบเพลิงเลื่อนลอยมาระหว่างกลางซีกสัตว์เหล่านั้น ในวันนั้นพระยาห์เวห์ทรงทำพันธสัญญากับอับรามว่า “เรามอบดินแดนนี้ให้เชื้อสายของเจ้าแล้ว ตั้งแต่แม่น้ำอียิปต์ไปถึงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส ทั้งแผ่นดินคนเคไนต์ คนเคนัส และคนขัดโมไนต์ กับคนฮิตไทต์ คนเปริสซี คนเรฟาอิม คนอาโมไรต์ คนคานาอัน คนเกอร์กาชีและคนเยบุสด้วย”

ปฐมกาล 15:6-21 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ท่านเชื่อในพระเยโฮวาห์ และพระองค์ทรงนับว่าเป็นความชอบธรรมแก่​ท่าน พระองค์​ตรัสแก่ท่านว่า “เราคือเยโฮวาห์​ที่​ได้​พาเจ้าออกจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดีย เพื่อยกดินแดนนี้​ให้​เป็นมรดกแก่​เจ้า​” ท่านทูลว่า “ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า ข้าพระองค์จะรู้​ได้​อย่างไรว่าข้าพระองค์จะได้​ดิ​นแดนนี้เป็นมรดก” พระองค์​ตรัสแก่ท่านว่า “จงเอาวัวตัวเมียอายุสามปี แพะตัวเมียอายุสามปี แกะตัวผู้​อายุ​สามปี นกเขาตัวหนึ่งและนกพิราบหนุ่มตัวหนึ่งมาให้​เรา​” ท่านจึงนำบรรดาสัตว์​เหล่านี้​มาและผ่ากลางตัวมันวางข้างละซีกตรงกัน แต่​นกทั้งหลายนั้นท่านหาได้ผ่าไม่ เมื่อฝูงเหยี่ยวลงมาที่​ซากสัตว์​เหล่านั้น อับรามก็​ไล่​มันไปเสีย เมื่อดวงอาทิตย์​ใกล้​จะตก อับรามก็นอนหลับสนิท และดู​เถิด ความหวาดกลัวความหดหู่ใจอย่างยิ่​งก​็ทับถมท่าน พระองค์​ตรัสแก่อับรามว่า “จงรู้​แน่​เถิดว่าเชื้อสายของเจ้าจะเป็นคนต่างด้าวในแผ่นดิ​นที​่​ไม่ใช่​ของพวกเขาและจะรับใช้พวกนั้น พวกนั้นจะกดขี่ข่มเหงพวกเขาสี่ร้อยปี เช่​นก​ันเราจะพิพากษาประเทศนั้นซึ่งพวกเขาจะรับใช้ และต่อมาพวกเขาจะออกมาพร้อมกับทรัพย์​สิ​่งของเป็​นอ​ันมาก เจ้​าจะไปตามบรรพบุรุษของเจ้าโดยผาสุก ในเวลาชรามากเจ้าจะถูกฝังไว้ แต่​ในชั่วอายุ​ที่สี่​พวกเขาจะกลับมาที่​นี่​อีกครั้ง เพราะว่าความชั่วช้าของคนอาโมไรต์ยังไม่​ครบถ้วน​” ต่อมาเมื่อดวงอาทิตย์ตกและค่ำมืด ดู​เถิด เตาที่ควันพลุ่งอยู่และคบเพลิงได้เลื่อนลอยมาที่ระหว่างกลางซีกสัตว์​เหล่านั้น ในวันเดียวกันนั้นพระเยโฮวาห์ทรงกระทำพันธสัญญากับอับรามว่า “เราได้ยกแผ่นดินนี้​แก่​เชื้อสายของเจ้าแล้ว ตั้งแต่​แม่น​้ำอียิปต์ไปจนถึงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส ทั้งแผ่นดินของคนเคไนต์ คนเคนัส คนขัดโมไนต์ คนฮิตไทต์ คนเปริสซี คนเรฟาอิม คนอาโมไรต์ คนคานาอัน คนเกอร์กาชี และคนเยบุส”

ปฐมกาล 15:6-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

อับรามเชื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระองค์ทรงนับว่าเขาเป็นคนชอบธรรมเพราะความเชื่อนี้ พระองค์ตรัสกับเขาด้วยว่า “เราคือพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้นำเจ้าออกจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดีย เพื่อจะยกดินแดนนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า” แต่อับรามทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ข้าพระองค์จะรู้ได้อย่างไรว่าดินแดนนี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของข้าพระองค์?” ดังนั้นพระยาห์เวห์ จึงตรัสกับเขาว่า “จงนำวัวตัวเมีย แพะ และแกะผู้ ซึ่งแต่ละอย่างมีอายุสามปี พร้อมกับนกเขาและนกพิราบรุ่นอย่างละตัวมาให้เรา” อับรามนำสัตว์เหล่านี้มาถวาย โดยผ่าเป็นสองซีก แต่ละซีกวางไว้ตรงข้ามกัน ส่วนนกนั้นเขาไม่ได้ผ่า แล้วฝูงเหยี่ยวโฉบมาที่ซากสัตว์เหล่านั้น แต่อับรามไล่มันไปเสีย ขณะดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า อับรามหลับสนิท ความมืดทึบอันน่าหวาดกลัวแผ่ปกคลุมเขา แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอับรามว่า “จงรู้แน่เถิดว่า ลูกหลานของเจ้าจะเป็นคนต่างด้าวในต่างแดน และจะตกเป็นทาสถูกกดขี่ข่มเหงสี่ร้อยปี แต่เราจะลงโทษชนชาติที่เขาเป็นทาสรับใช้ และหลังจากนั้นเขาจะออกมาพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติมากมาย ส่วนเจ้าจะตามบรรพบุรุษไปอย่างสงบสุขและถูกฝังเมื่อชรามากแล้ว ในชั่วอายุที่สี่ ลูกหลานของเจ้าจะกลับมาที่นี่ เพราะขณะนี้บาปของชาวอาโมไรต์ยังไม่ถึงที่สุดที่เราจะลงโทษพวกเขา” เมื่อดวงอาทิตย์ลับไปและความมืดเข้ามาปกคลุม ก็มีกระถางไฟควันโขมงและคบเพลิงที่ลุกโชติช่วงปรากฏขึ้น และเคลื่อนผ่านสัตว์เหล่านั้น ในวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำพันธสัญญากับอับรามว่า “เราจะมอบดินแดนนี้แก่ลูกหลานของเจ้า ตั้งแต่ลำน้ำแห่งอียิปต์จดแม่น้ำใหญ่คือยูเฟรติส คือดินแดนของชาวเคไนต์ ชาวเคนัส ชาวคัดโมไนต์ ชาวฮิตไทต์ ชาวเปริสซี ชาวเรฟาอิม ชาวอาโมไรต์ ชาวคานาอัน ชาวเกอร์กาชี และชาวเยบุส”

ปฐมกาล 15:6-21 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

แล้ว​ท่าน​ก็​เชื่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​พระ​องค์​จึง​นับ​ว่า​ท่าน​เป็น​ผู้​มี​ความ​ชอบธรรม และ​พระ​องค์​กล่าว​กับ​ท่าน​ว่า “เรา​คือ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ผู้​นำ​เจ้า​มา​จาก​เมือง​เออร์​ของ​ชาว​เคลเดีย เพื่อ​มอบ​ดินแดน​นี้​ให้​เจ้า​ครอบครอง” แต่​ท่าน​พูด​ว่า “โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่ ข้าพเจ้า​จะ​ทราบ​ได้​อย่างไร​ว่า ข้าพเจ้า​จะ​ได้​ครอบครอง​ดินแดน​นี้” พระ​องค์​กล่าว​กับ​ท่าน​ว่า “จง​นำ​ลูก​โค​ตัว​เมีย​และ​แพะ​ตัว​เมีย​อายุ 3 ปี​อย่าง​ละ​ตัว แกะ​ตัว​ผู้​อายุ 3 ปี 1 ตัว นก​เขา​และ​นก​พิราบ​อย่าง​ละ​ตัว​มา​ให้​เรา” ท่าน​จึง​นำ​สัตว์​เหล่า​นี้​มา​ถวาย​แด่​พระ​องค์ ผ่า​ซีก​สัตว์​แต่​ละ​ตัว และ​วาง​ไว้​ข้าง​ละ​ซีก​เป็น 2 แถว แต่​ท่าน​ไม่​ได้​ผ่า​ตัว​นก​เป็น 2 ซีก เมื่อ​ฝูง​แร้ง​บิน​ลง​บน​ซาก​สัตว์ อับราม​ก็​ไล่​เตลิด​ไป ขณะ​ที่​ดวง​อาทิตย์​กำลัง​ตก อับราม​นอน​หลับ​สนิท​อยู่ ทันใด​นั้น​ท่าน​รู้สึก​ครั่นคร้าม​ยิ่ง​นัก แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​อับราม​ว่า “จง​รู้​ไว้​ว่า เชื้อสาย​ของ​เจ้า​จะ​ไป​อาศัย​อยู่​ชั่ว​คราว​ใน​ดินแดน​ของ​ชาติ​อื่น และ​จะ​ต้อง​ตก​เป็น​ทาส​ถูก​กดขี่​ข่มเหง​เป็น​เวลา 400 ปี อย่างไร​ก็​ดี​เรา​จะ​ลง​โทษ​ประชา​ชาติ​ที่​ใช้​เขา​เยี่ยง​ทาส และ​ใน​ภาย​หลัง​พวก​เขา​จะ​อพยพ​ออก​มา​พร้อม​กับ​ทรัพย์​สิน​มากมาย สำหรับ​ตัว​เจ้า​เอง เจ้า​จะ​สิ้น​ชีวิต​อย่าง​สันติ ร่าง​ของ​เจ้า​จะ​ถูก​บรรจุ​ก็​เมื่อ​ตอน​แก่​เฒ่า แล้ว​พวก​เขา​จะ​กลับ​มา​ที่​นี่​เมื่อ​ถึง 4 ชั่วอายุ​คน เพราะ​ต้อง​รอ​คอย​จน​ความ​ชั่ว​ของ​ชาว​อาโมร์​พุ่ง​ถึง​ขีดสุด​เสียก่อน” ครั้น​ดวง​อาทิตย์​ตก​และ​มืด​มาก ดู​เถิด มี​ควัน​ไฟ​จาก​เตา​ผิง​และ​คบเพลิง​ที่​ลุก​โพลง​ลาม​เลีย​ไป​ระหว่าง​ซีก​สัตว์​พวก​นั้น ใน​วัน​นั้น พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​ทำ​พันธ​สัญญา​กับ​อับราม โดย​กล่าว​ว่า “เรา​ให้​แผ่นดิน​นี้​กับ​บรรดา​ผู้​สืบ​เชื้อสาย​ของ​เจ้า ตั้งแต่​แม่น้ำ​ของ​อียิปต์​ถึง​แม่น้ำ​ใหญ่​คือ แม่น้ำ​ยูเฟรติส ของ​ชาว​เคน ชาว​เคนัส ชาว​ขัดโมน ชาว​ฮิต ชาว​เปริส ชาว​เรฟา ชาว​อาโมร์ ชาว​คานาอัน ชาว​เกอร์กาช และ​ชาว​เยบุส”