ปฐมกาล 12:1-13

ปฐมกาล 12:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พระยาห์เวห์​พูด​กับ​อับราม​ว่า “ให้​ออก​จาก​ประเทศ​ของเจ้า ละทิ้ง​ประชาชน และ​ครอบครัว​ของ​พ่อเจ้า​เสีย และ​ให้​มุ่ง​ไป​ยัง​ดินแดน​ที่​เรา​จะ​แสดง​แก่เจ้า เรา​จะ​ทำให้​เจ้า​เป็น​ชนชาติ​ที่​ยิ่งใหญ่ เรา​จะ​อวยพร​เจ้า และ​ทำ​ให้​ชื่อเจ้า​เป็น​ที่​รู้จัก​กว้างขวาง และ​เจ้า​จะ​เป็น​พระพร​สำหรับ​คนอื่น เรา​จะ​อวยพร​คนที่​อวยพร​เจ้า และ​จะ​สาปแช่ง​คนที่​สาปแช่ง​เจ้า คนทั้งหลาย​บน​โลกนี้​จะ​ได้รับ​พร​จาก​เจ้า​ด้วย” อับราม​จึง​ออก​จาก​เมือง​ฮาราน​พร้อม​กับ​โลท และ​ทำตาม​ที่​พระยาห์เวห์​บอก ใน​ขณะนั้น​เขา​มี​อายุ​เจ็ดสิบห้า​ปี อับราม​พา​เมีย​เขา​ที่​ชื่อ​ซาราย และ​หลานชาย​ชื่อ​โลท​ไปด้วย รวมทั้ง​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้งหมด​และ​ทาส​ทั้งหมด​ที่​เขา​ได้​มา​จาก​เมือง​ฮาราน พวกเขา​ทั้งหมด​ได้​ออก​เดินทาง​มา​จน​ถึง​แผ่นดิน​คานาอัน อับราม​เดินทาง​ผ่าน​ดินแดน​ของ​ชาว​คานาอัน​และ​สถานที่​ศักดิ์สิทธิ์​ใน​เมือง​เชเคม สู่​ต้นก่อ​ของ​โมเรห์ (ซึ่ง​ชาว​คานาอัน​อาศัย​อยู่​ใน​เวลานั้น) พระยาห์เวห์​ปรากฏ​ตัว​ให้​อับราม​เห็น​และ​พูด​กับเขา​ว่า “เรา​จะ​ให้​ดินแดน​แห่งนี้​แก่​ลูกหลาน​ของเจ้า” อับราม​สร้าง​แท่นบูชา​ขึ้น​แท่นหนึ่ง​ให้กับ​พระยาห์เวห์​ที่​ได้​ปรากฏตัว​ให้​เขาเห็น แล้ว​เขา​ก็​ย้าย​จาก​ที่นั่น​ไป​ยัง​แถบ​เนินเขา​ทาง​ตะวันออก​ของ​เมือง​เบธเอล เขา​ตั้ง​เต็นท์​ขึ้น​ที่นั่น ด้าน​ตะวันตก​คือ​เมือง​เบธเอล ทาง​ตะวันออก​คือ​เมืองอัย เขา​สร้าง​แท่นบูชา​ขึ้น​อีกแท่น​ที่นั่น และ​เขา​ได้​นมัสการ​พระยาห์เวห์ หลังจากนั้น​เขา​ก็​เดินทาง​ต่อไป​ยัง​เนเกบ ในขณะนั้น​เกิด​ภาวะ​ฝนแล้ง​และ​กันดาร​อาหาร​อย่าง​รุนแรง อับราม​จึง​เดินทาง​ไป​อาศัย​ใน​อียิปต์ ก่อน​ที่​เขา​จะ​เข้า​สู่​เขตแดน​ของ​อียิปต์ เขา​บอก​นาง​ซาราย​เมีย​ของเขา​ว่า “ฟังนะ พี่​รู้ว่า​น้อง​เป็น​ผู้หญิง​ที่​สวย​มาก ถ้า​ผู้ชาย​ชาว​อียิปต์​พบ​น้อง​เข้า พวกเขา​จะ​พูด​ว่า ‘ผู้หญิง​คนนี้​เป็น​เมีย​ของ​ผู้ชาย​ที่​มา​ด้วย​แน่’ พวกนั้น​ก็​จะ​ฆ่า​พี่​แต่​ไม่ฆ่า​น้อง​หรอก ฉะนั้น​ให้​บอก​ไป​ว่า​น้อง​เป็น​น้องสาว​ของพี่ เพื่อ​คนพวกนั้น​จะ​ได้ดี​กับพี่​และ​พี่​ก็​จะ​รอดชีวิต​เพราะ​น้อง”

ปฐมกาล 12:1-13 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พระยาห์เวห์ตรัสแก่อับรามว่า “เจ้าจงออกจากดินแดนของเจ้า จากญาติพี่น้องของเจ้า จากบ้านบิดาของเจ้า ไปยังดินแดนที่เราจะสำแดงแก่เจ้า เราจะให้เจ้าเป็นชนชาติใหญ่ เราจะอวยพรเจ้า จะให้เจ้ามีชื่อเสียงใหญ่โต แล้วเจ้าจะเป็นพร เราจะอวยพรคนที่อวยพรเจ้า เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า บรรดาเผ่าพันธุ์ทั่วโลกจะได้พรเพราะเจ้า” ฝ่ายอับรามก็ไปตามพระดำรัสของพระยาห์เวห์ โลทก็ไปด้วย เมื่ออับรามออกจากเมืองฮารานนั้นท่านมีอายุได้ 75 ปี อับรามพานางซารายภรรยาของท่าน กับโลทบุตรของน้องชายและทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่สะสมไว้ ทั้งบรรดาผู้คนที่ได้ไว้ที่ฮารานนั้นออกเดินทางไปยังแผ่นดินคานาอัน เมื่อเข้าไปในแผ่นดินคานาอันแล้ว อับรามก็ผ่านดินแดนนั้นมาถึงสถานที่ของเชเคม คือ ที่ต้นโอ๊ก ณ โมเรห์ คราวนั้นคนคานาอันอยู่ที่แผ่นดินนั้น พระยาห์เวห์ทรงปรากฏพระองค์แก่อับราม ตรัสว่า “ดินแดนนี้เราจะยกให้เชื้อสายของเจ้า” ณ ที่นั่นอับรามสร้างแท่นบูชาแด่พระยาห์เวห์ผู้ปรากฏพระองค์แก่ท่าน ท่านย้ายไปจากที่นั่น มาถึงภูเขาทางทิศตะวันออกของเบธเอล จึงตั้งเต็นท์อยู่ที่นั่น โดยเบธเอลอยู่ทางทิศตะวันตกและอัยอยู่ทางทิศตะวันออก และสร้างแท่นบูชาพระยาห์เวห์ที่นั่น และนมัสการออกพระนามพระยาห์เวห์ แล้วอับรามก็เดินทางต่อไป ยกเต็นท์เดินทางเรื่อยไปทางเนเกบ เกิดการกันดารอาหารในแผ่นดินนั้น อับรามจึงลงไปที่อียิปต์และอาศัยอยู่ที่นั่น ด้วยว่ามีการกันดารอาหารหนักในแผ่นดิน เมื่อใกล้จะเข้าอียิปต์ อับรามก็พูดกับนางซารายภรรยาของท่านว่า “นี่แน่ะ ฉันรู้ว่าเธอเป็นหญิงรูปงาม เมื่อคนอียิปต์เห็นเธอ พวกเขาจะว่า ‘หญิงคนนี้เป็นภรรยาของเขา’ แล้วก็จะฆ่าฉันเสีย แต่จะไว้ชีวิตเธอ ขอให้บอกว่าเธอเป็นน้องสาวของฉัน เพื่อเขาจะได้ทำดีต่อฉันเพราะเธอ และฉันจะได้รอดชีวิตเพราะเธอ”

ปฐมกาล 12:1-13 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

พระเยโฮวาห์​ได้​ตรัสแก่อับรามแล้​วว​่า “​เจ้​าจงออกไปจากประเทศของเจ้า จากญาติ​พี่​น้องของเจ้า และจากบ้านบิดาของเจ้า ไปยังแผ่นดิ​นที​่เราจะชี้​ให้​เจ้​าเห็น เราจะทำให้​เจ้​าเป็นชนชาติ​ใหญ่​ชนชาติ​หนึ่ง เราจะอวยพรเจ้า ทำให้​เจ้​ามีชื่อเสียงใหญ่​โต และเจ้าจะเป็นแหล่งพระพร เราจะอวยพรผู้​ที่​อวยพรเจ้า และสาปแช่งผู้​ที่​สาปแช่งเจ้า บรรดาครอบครั​วท​ั่วแผ่นดินโลกจะได้รับพระพรเพราะเจ้า” ดังนั้​นอ​ับรามจึงออกไปตามที่พระเยโฮวาห์​ได้​ตรัสแก่ท่านและโลทก็ไปกั​บท​่าน อับรามมี​อายุ​ได้​เจ​็ดสิบห้าปีขณะเมื่อท่านออกจากเมืองฮาราน อับรามพานางซารายภรรยาของท่าน โลทบุตรชายของน้องชายท่าน บรรดาทรัพย์​สิ​่งของของพวกเขาที่​ได้​สะสมไว้ และผู้คนทั้งหลายที่​ได้​ไว้​ที่​เมืองฮาราน พวกเขาออกไปเพื่อเข้าไปยังแผ่นดินคานาอัน และพวกเขาไปถึงแผ่นดินคานาอัน อับรามเดินผ่านแผ่นดินนั้นจนถึงสถานที่เมืองเชเคม คือที่ราบโมเรห์ คราวนั้นชาวคานาอันยังอยู่ในแผ่นดินนั้น พระเยโฮวาห์ทรงปรากฏแก่อับรามและตรั​สว​่า “เราจะให้​แผ่​นดินนี้​แก่​เชื้อสายของเจ้า” อับรามจึงสร้างแท่นบูชาที่นั่นถวายแด่พระเยโฮวาห์ ผู้​ทรงปรากฏแก่​ท่าน ท่านย้ายไปจากที่นั่นมาถึงภูเขาลูกหนึ่งทางทิศตะวันออกของเมืองเบธเอลแล้วตั้งเต็นท์ของท่าน โดยเมืองเบธเอลอยู่ทางทิศตะวันตกและเมืองอัยอยู่ทางทิศตะวันออก ณ ที่​นั่นท่านสร้างแท่นบูชาแด่พระเยโฮวาห์ และร้องออกพระนามของพระเยโฮวาห์ และอับรามก็ยังคงเดินทางเรื่อยไป ไปทางทิศใต้ เก​ิดการกันดารอาหารที่​แผ่นดิน อับรามได้ลงไปยั​งอ​ียิปต์เพื่ออาศัยอยู่​ที่นั่น เพราะว่าการกันดารอาหารในแผ่นดินนั้นมากยิ่งนัก ต่อมาเมื่อท่านใกล้​จะเข้​าอียิปต์ ท่านจึงพู​ดก​ับนางซารายภรรยาของท่านว่า “​ดู​เถิด บัดนี้​ข้าพเจ้ารู้ว่าเจ้าเป็นหญิงรูปงามน่าดู เพราะฉะนั้นต่อมาเมื่อคนอียิปต์จะเห็นเจ้า พวกเขาจะพูดว่า ‘​นี่​เป็นภรรยาของเขา’ และพวกเขาจะฆ่าข้าพเจ้าเสีย แต่​พวกเขาจะไว้​ชี​วิตเจ้า กรุ​ณาพูดว่าเจ้าเป็นน้องสาวของข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะอยู่อย่างสุขสบายเพราะเห็นแก่​เจ้า และข้าพเจ้าจะมี​ชี​วิตเพราะเหตุ​เจ้า​”

ปฐมกาล 12:1-13 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

พระเจ้าตรัสแก่อับรามว่า <<เจ้าจงออกจากเมือง จากญาติพี่น้อง จากบ้านบิดาของเจ้า ไปยังดินแดนที่เราจะบอกให้เจ้ารู้ เราจะให้เจ้าเป็นชนชาติใหญ่ เราจะอวยพรแก่เจ้า จะให้เจ้ามีชื่อเสียงใหญ่โตเลื่องลือไป แล้วเจ้าจะช่วยให้ผู้อื่นได้รับพร เราจะอำนวยพรแก่คนที่อวยพรเจ้า เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า บรรดาเผ่าพันธุ์ทั่วโลกจะได้พรเพราะเจ้า>> ฝ่ายอับรามก็ไปตามพระดำรัสของพระเจ้า โลทก็ไปด้วย เมื่ออับรามออกจากเมืองฮารานนั้น อายุได้เจ็ดสิบห้าปี อับรามพานางซารายภรรยาของตน กับโลทบุตรของน้องชายและทรัพย์สมบัติที่ได้สะสมไว้ ทั้งบรรดาผู้คนที่ได้ไว้ที่เมืองฮารานนั้นออกเดินทาง ไปยังแผ่นดินคานาอัน เมื่อไปถึงแคว้นคานาอันแล้ว อับรามก็เดินผ่านเขตแดนมาถึงสถานที่เมืองเชเคม คือ ที่ต้นก่อหลวง ณ โมเรห์ คราวนั้นคนคานาอันอยู่ที่แผ่นดินนั้น พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์ให้ปรากฏแก่อับราม ตรัสว่า <<ดินแดนนี้เราจะยกให้พงศ์พันธุ์ของเจ้า>> อับรามสร้างแท่นที่นั่นถวายบูชาแก่พระเจ้าผู้สำแดงพระองค์ ให้ปรากฏแก่ท่าน อับรามย้ายไปจากที่นั่น มาถึงภูเขาทางทิศ ตะวันออกของเมืองเบธเอล จึงตั้งเต็นท์อยู่ที่นั่น ให้เมืองเบธเอลอยู่ทางทิศตะวันตกและเมืองอัยอยู่ทิศตะวันออก ส่วนท่านสร้างแท่นบูชาพระเจ้าที่นั่น และนมัสการออกพระนามพระเจ้า แล้วอับรามก็เดินทางต่อไป ยกเต็นท์เดินทางเรื่อยไปเป็นระยะๆยังเนเกบ เกิดกันดารอาหารที่แคว้นคานาอัน อับรามจึงไปอาศัยอยู่ที่ประเทศอียิปต์ ด้วยว่าในคานาอันอดอยากอาหารนัก เมื่อใกล้จะเข้าอียิปต์ อับรามก็พูดกับนางซารายภรรยาว่า <<ฉันรู้ว่าเจ้าเป็นหญิงรูปงาม เมื่อคนอียิปต์เห็นเจ้า เขาจะว่า <หญิงคนนี้เป็นภรรยาของเขา> แล้วก็จะฆ่าฉันเสีย แต่จะไว้ชีวิตเจ้า ขอให้บอกว่าเจ้าเป็นน้องสาวของฉัน เพื่อฉันจะได้รับการต้อนรับอย่างดีเพราะเจ้า และเขาจะไว้ชีวิตฉันเพราะเจ้า>>

ปฐมกาล 12:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

องค์พระผู้เป็นเจ้าได้เคยตรัสกับอับรามว่า “จงละบ้านเมืองของเจ้า วงศ์ตระกูลของเจ้า และครอบครัวบิดาของเจ้าเพื่อไปยังดินแดนที่เราจะสำแดงแก่เจ้า “เราจะทำให้เจ้าเป็นชนชาติใหญ่ และเราจะอวยพรเจ้า เราจะทำให้ชื่อเสียงของเจ้าเลื่องลือ และเจ้าจะเป็นพร เราจะอวยพรบรรดาผู้ที่อวยพรเจ้า และเราจะสาปแช่งบรรดาผู้ที่แช่งเจ้า ทุกชนชาติทั่วโลก จะได้รับพรผ่านทางเจ้า” ดังนั้นอับรามจึงไปตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา โลทก็ไปด้วย อับรามออกจากเมืองฮารานเมื่ออายุ 75 ปี เขานำซารายผู้เป็นภรรยาและโลทผู้เป็นหลานชาย พร้อมด้วยทรัพย์สมบัติทั้งหมดและบริวารที่พวกเขาได้มาเมื่อยังอยู่ที่เมืองฮาราน ออกเดินทางมาจนถึงดินแดนคานาอัน อับรามเดินทางอยู่ในดินแดนนั้นไปไกลจนถึงสถานบูชาต้นไม้ใหญ่แห่งโมเรห์ในเมืองเชเคม ครั้งนั้นชาวคานาอันอาศัยอยู่ที่นั่น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปรากฏแก่อับรามและตรัสว่า “เราจะมอบดินแดนนี้แก่เชื้อสายของเจ้า” ดังนั้นเขาจึงสร้างแท่นบูชาขึ้นที่นั่นถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงปรากฏแก่เขา จากนั้นเขาเดินทางไปยังแถบเนินเขาด้านตะวันออกของเมืองเบธเอล และตั้งเต็นท์ขึ้นโดยมีเบธเอลอยู่ทางตะวันตกและเมืองอัยอยู่ทางตะวันออก เขาได้ก่อแท่นบูชาขึ้นถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและนมัสการร้องออกพระนามพระยาห์เวห์ที่นั่น จากนั้นอับรามก็ออกเดินทางต่อไปยังเนเกบ เวลานั้นเกิดการกันดารอาหารในดินแดนคานาอัน อับรามจึงอพยพลงไปอียิปต์และอาศัยอยู่ที่นั่นระยะหนึ่ง เพราะการกันดารอาหารรุนแรงมาก ขณะที่กำลังจะเข้าเขตแดนอียิปต์ อับรามพูดกับซารายผู้เป็นภรรยาว่า “ฉันรู้ว่าเจ้าเป็นคนสวยมาก เมื่อชาวอียิปต์เห็นเจ้า เขาจะพูดกันว่านี่คือ ‘ภรรยาของชายคนนี้’ แล้วพวกเขาจะฆ่าฉัน แต่จะไว้ชีวิตเจ้า ขอให้เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นน้องสาวของฉัน เพื่อเขาจะปฏิบัติต่อฉันอย่างดีเพราะเห็นแก่เจ้า และเขาจะไว้ชีวิตฉันเพราะเจ้า”

ปฐมกาล 12:1-13 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​อับราม​ว่า “เจ้า​จง​ไป​จาก​ดินแดน​ของ​เจ้า จาก​ญาติ​พี่​น้อง​และ​ครัวเรือน​ของ​บิดา​ของ​เจ้า มุ่ง​หน้า​ไป​สู่​ดินแดน​ที่​เรา​จะ​ชี้​ให้​เจ้า​ดู เรา​จะ​ให้​ประชา​ชาติ​หนึ่ง​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​เกิด​ขึ้น​มา​จาก​ตัว​เจ้า และ​เรา​จะ​ให้​พร​แก่​เจ้า เรา​จะ​ทำ​ให้​ชื่อ​ของ​เจ้า​เป็น​ที่​รู้จัก​แพร่​หลาย​ออก​ไป และ​เจ้า​จะ​เป็น​ผู้​ที่​ทำ​ให้​ผู้​อื่น​ได้​รับ​พร เรา​จะ​อวยพร​บรรดา​ผู้​ที่​อวยพร​เจ้า และ​เรา​จะ​สาป​แช่ง​คน​ที่​สาป​แช่ง​เจ้า และ​มนุษย์​ทั้ง​ปวง​ใน​โลก​จะ​ได้​รับ​พร​โดย​ผ่าน​เจ้า” ครั้น​แล้ว​อับราม​ก็​ออก​เดิน​ทาง​ไป ตาม​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​บอก​ไว้ โลท​ก็​ร่วม​ทาง​ไป​กับ​ท่าน​ด้วย ขณะ​ที่​อับราม​ออก​เดินทาง​ไป​จาก​เมือง​ฮาราน​ท่าน​มี​อายุ​ได้ 75 ปี อับราม​พา​ซาราย​ภรรยา​ของ​ตน กับ​โลท​บุตร​ของ​น้อง​ชาย​และ​ทรัพย์​สิ่ง​ของ​ที่​ได้​สะสม​ไว้ รวม​ทั้ง​บรรดา​ผู้​คน​ที่​มี​อยู่​จาก​เมือง​ฮาราน ออก​เดินทาง​เพื่อ​ไป​ยัง​แผ่นดิน​คานาอัน จน​ได้​มา​ถึง​ยัง​ที่​หมาย​คือ​แผ่นดิน​คานาอัน อับราม​เดินทาง​ผ่าน​เข้า​ไป​ใน​แผ่นดิน​นั้น​จนถึง​สถาน​ที่​แห่ง​หนึ่ง​ใน​เมือง​เชเคม​คือ ที่​ต้น​โอ๊ก​แห่ง​โมเรห์ เป็น​แผ่นดิน​ที่​ชาว​คานาอัน​อาศัย​อยู่​ใน​เวลา​นั้น พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ปรากฏ​แก่​อับราม และ​กล่าว​ว่า “เรา​จะ​ให้​ดินแดน​นี้​แก่​ผู้​สืบ​เชื้อสาย​ของ​เจ้า” ดังนั้น​ท่าน​จึง​สร้าง​แท่น​บูชา​ที่​นั่น​ถวาย​แด่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​ปรากฏ​แก่​ท่าน จาก​นั้น​มา อับราม​ก็​ย้าย​จาก​ที่​นั้น​ไป​ตั้ง​กระโจม​ทาง​ภูเขา​ซึ่ง​อยู่​ทาง​ด้าน​ตะวัน​ออก​ของ​เมือง​เบธเอล โดย​มี​เมือง​เบธเอล​อยู่​ทาง​ตะวัน​ตก​และ​เมือง​อัย​อยู่​ทาง​ตะวัน​ออก ณ ที่​แห่ง​นั้น​ท่าน​ได้​สร้าง​แท่น​บูชา​ถวาย​แด่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​ร้องเรียก​พระ​นาม​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า จาก​นั้น​อับราม​ก็​ออก​เดิน​ทาง​ต่อ​ไป โดย​มุ่ง​หน้า​ไป​ทาง​เนเกบ เกิด​ทุพภิกขภัย​ขึ้น​ใน​แผ่นดิน อับราม​จึง​ลง​ไป​ยัง​ประเทศ​อียิปต์ เพื่อ​อาศัย​อยู่​ชั่วคราว เพราะ​อดอยาก​ยิ่ง​นัก เมื่อ​ใกล้​จะ​ถึง​เขต​แดน​อียิปต์ อับราม​ได้​พูด​กับ​ซาราย​ภรรยา​ของ​ท่าน​ว่า “ฉัน​รู้​ว่า​เจ้า​เป็น​หญิง​รูป​งาม เมื่อ​ชาว​อียิปต์​เห็น​เจ้า ก็​จะ​พูด​กัน​ว่า ‘นี่​เป็น​ภรรยา​ของ​เขา’ แล้ว​พวก​เขา​ก็​จะ​ฆ่า​ฉัน แต่​จะ​ไว้​ชีวิต​เจ้า ฉะนั้น​จง​บอก​ว่า เจ้า​เป็น​น้อง​สาว​ของ​ฉัน แล้ว​ทุก​สิ่ง​จะ​เป็น​ไป​ด้วย​ดี​สำหรับ​ฉัน เพราะ​เขา​เห็น​แก่​เจ้า ฉัน​จะ​รอด​ชีวิต​ได้​ก็​เพราะ​เจ้า”

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา