กาลาเทีย 2:16-20

กาลาเทีย 2:16-20 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แต่​เรา​รู้​ว่า​การ​ที่​พระเจ้า​จะ​ยอมรับ​ใคร​นั้น ก็​เพราะ​คนนั้น​ไว้วางใจ​ใน​พระคริสต์ ไม่ใช่​เพราะ​เขา​ทำ​ตามกฎ พวกเรา​ก็​เลย​ไว้วางใจ​ใน​พระเยซู​คริสต์ เพื่อ​พระเจ้า​จะ​ยอมรับ​เรา ดังนั้น​เรื่องนี้​ขึ้น​อยู่​กับ​ความ​ไว้วางใจ​ใน​พระคริสต์ ไม่ใช่​การ​ทำ​ตามกฎ เพราะ​จะ​ไม่มี​ใคร​เป็น​ที่​ยอมรับ​ของ​พระเจ้า​ได้​จาก​การ​ทำ​ตามกฎ แต่​ถ้า​ใน​ช่วงนี้ ที่​เรา​อยาก​จะ​ให้​พระเจ้า​ยอมรับ​เรา​ผ่าน​ทาง​พระคริสต์​นั้น ปรากฏ​ว่า​เรา​ยัง​เป็น​คนบาป​อยู่ นี่​หมายถึง​พระคริสต์​สนับสนุน​ให้​เรา​เป็น​คนบาป​หรือ ไม่มี​ทาง กฎ​ของ​โมเสส​สร้าง​กำแพง​ระหว่าง​พวกเรา​ที่​เป็น​คนยิว​และ​คนอื่น ผม​ได้​ทำลาย​กำแพง​นั้น แต่​ถ้า​ผม​จะ​สร้าง​มัน​ขึ้น​มา​ใหม่ ก็​แสดง​ว่า​ก่อน​หน้า​นั้น​ผม​ทำ​ผิด​ต่อ​กฎ​นั้น เพราะ​กฎ​นี่แหละ​ที่​ทำให้​ผม​ต้อง​ตาย และ​เพราะ​ผม​ได้​ตาย​ไป​แล้ว ผม​จึง​เป็น​อิสระ​พ้น​จาก​กฎ​นั้น เพื่อ​ผม​จะ​ได้​มีชีวิต​อยู่​เพื่อ​พระเจ้า ผม​ได้​ถูก​ตรึง​บน​ไม้กางเขน​จน​ตาย​ไป​พร้อม​กับ​พระคริสต์ คน​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​ตอนนี้​ไม่ใช่​ตัว​ผม​แล้ว​แต่​เป็น​พระคริสต์​ต่างหาก​ที่​อยู่​ใน​ตัว​ผม ชีวิต​ที่​มี​อยู่​เดี๋ยวนี้​ก็​เป็น​ชีวิต​ที่​ไว้วางใจ​ใน​พระบุตร​ของ​พระเจ้า ผู้​ที่รัก​ผม​และ​เสียสละ​ชีวิต​ให้​ผม

กาลาเทีย 2:16-20 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ยังรู้ว่าไม่มีใครถูกชำระให้ชอบธรรมได้ โดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติ แต่โดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์เท่านั้น เราเองก็ได้เชื่อในพระเยซูคริสต์ เพื่อจะถูกนับว่าชอบธรรมโดยความเชื่อในพระคริสต์ ไม่ใช่โดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติ เพราะว่าโดยการประพฤติตามธรรมบัญญัตินั้น ไม่มีมนุษย์คนใดจะถูกนับว่าชอบธรรมได้เลย แต่ถ้าในขณะที่เรากำลังขวนขวายจะถูกชำระให้ชอบธรรมโดยพระคริสต์นั้น กลับถูกพบว่าเป็นคนบาปไปด้วย พระคริสต์จะทรงเป็นผู้ส่งเสริมบาปหรือ? ไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะว่าถ้าข้าพเจ้าก่อสิ่งซึ่งข้าพเจ้าได้รื้อทำลายลงแล้วขึ้นมาอีก ข้าพเจ้าก็แสดงตัวว่าข้าพเจ้าเองเป็นคนละเมิดธรรมบัญญัติ เพราะโดยธรรมบัญญัตินั้น ข้าพเจ้าได้ตายต่อธรรมบัญญัติแล้ว เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ต่อพระเจ้า ข้าพเจ้าถูกตรึงร่วมกับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า

กาลาเทีย 2:16-20 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ก็​ยังรู้ว่าไม่​มี​ผู้​ใดเป็นคนชอบธรรมได้โดยการกระทำตามพระราชบัญญั​ติ แต่​โดยความเชื่อในพระเยซู​คริสต์​เท่านั้น ถึงเราเองก็​มี​ความเชื่อในพระเยซู​คริสต์ เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อในพระคริสต์ ไม่ใช่​โดยการกระทำตามพระราชบัญญั​ติ เพราะว่าโดยการกระทำตามพระราชบัญญั​ติ​นั้น ‘​ไม่มี​ผู้​หน​ึ่งผู้ใดเป็นคนชอบธรรมได้​เลย​’ แต่​ถ้าในขณะที่เรากำลังขวนขวายจะเป็นคนชอบธรรมโดยพระคริสต์​นั้น เราเองยังปรากฏเป็นคนบาปอยู่ พระคริสต์จึงทรงเป็นผู้ส่งเสริมบาปหรือ ขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย เพราะว่าถ้าข้าพเจ้าก่อสิ่งซึ่งข้าพเจ้าได้รื้อทำลายลงแล้วขึ้นมาอีก ข้าพเจ้าก็ส่อตัวเองว่าเป็นผู้​ละเมิด เหตุ​ว่าโดยพระราชบัญญั​ติ​นั้นข้าพเจ้าได้ตายจากพระราชบัญญั​ติ​แล้ว เพื่อข้าพเจ้าจะได้​มี​ชี​วิตอยู่เพื่อพระเจ้า ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์​แล้ว แต่​ข้าพเจ้าก็ยั​งม​ี​ชี​วิตอยู่ ไม่ใช่​ข้าพเจ้าเองมี​ชี​วิตอยู่​ต่อไป แต่​พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมี​ชี​วิตอยู่ในข้าพเจ้า และชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้า ผู้​ได้​ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า

กาลาเทีย 2:16-20 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ก็ยังรู้ว่าไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมได้ โดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติ แต่โดยศรัทธาในพระเยซูคริสต์เท่านั้น ถึงเราเองก็มีใจศรัทธาในพระเยซูคริสต์ เพื่อจะได้เป็นคนชอบธรรมโดยศรัทธาในพระคริสต์ ไม่ใช่โดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติ เพราะว่าโดยการประพฤติตามธรรมบัญญัตินั้น ไม่มีมนุษย์คนใดเป็นคนชอบธรรมได้เลย แต่ถ้าในการที่เรากำลังขวนขวายจะเป็นคนชอบธรรมโดยพระคริสต์นั้น เราเองกลับเป็นคนบาปไปด้วย พระคริสต์จะทรงเป็นผู้ส่งเสริมบาปหรือ ไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะว่าถ้าข้าพเจ้าก่อสิ่งซึ่งข้าพเจ้าได้รื้อทำลายลงแล้ว ขึ้นมาอีก ข้าพเจ้าก็ส่อตัวเองว่าเป็นคนทำผิด เหตุว่าโดยธรรมบัญญัตินั้น ข้าพเจ้าได้ตายจากธรรมบัญญัติแล้ว เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่กับพระเจ้า ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยศรัทธาในพระบุตรของพระเจ้า ผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า

กาลาเทีย 2:16-20 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ยังรู้ว่าไม่มีใครถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมได้โดยการถือรักษาบทบัญญัติ แต่เป็นได้โดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์ ฉะนั้นเราเองจึงเชื่อในพระเยซูคริสต์เพื่อจะได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อในพระคริสต์ ไม่ใช่โดยการทำตามบทบัญญัติ เพราะว่าไม่มีใครถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมได้โดยการทำตามบทบัญญัติเลย “ถ้าขณะที่เรามุ่งจะให้พระเจ้าทรงนับเราเป็นผู้ชอบธรรมในพระคริสต์ ก็ปรากฏชัดว่าเราเองเป็นคนบาป นั่นหมายความว่าพระคริสต์ส่งเสริมบาปหรือ? ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน! หากข้าพเจ้าสร้างสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ทำลายลงแล้วขึ้นใหม่ ก็แสดงว่าข้าพเจ้าเป็นคนละเมิดบทบัญญัติ เพราะโดยทางบทบัญญัติข้าพเจ้าได้ตายต่อบทบัญญัติแล้ว เพื่อว่าจะได้มีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าจึงไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป พระคริสต์ต่างหากทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตที่ข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในกายนี้ ข้าพเจ้าดำเนินด้วยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงรักข้าพเจ้าและประทานพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า

กาลาเทีย 2:16-20 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

เรา​ทราบ​ว่า​มนุษย์​ไม่​ได้​พ้นผิด​โดย​การ​ปฏิบัติ​ตาม​กฎ​บัญญัติ แต่​พ้นผิด​เพราะ​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​คริสต์ ดังนั้น พวก​เรา​จึง​ได้​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​คริสต์ เพื่อ​ว่า​เรา​จะ​พ้นผิด​ได้​โดย​การ​เชื่อ​ใน​พระ​คริสต์ ไม่​ใช่​โดย​การ​ปฏิบัติ​ตาม​กฎ​บัญญัติ ด้วย​ว่า​ไม่​มี​ใคร​ที่​จะ​พ้นผิด​ได้​จาก​การ​ปฏิบัติ​ตาม​กฎ​บัญญัติ ถ้า​ใน​ขณะ​ที่​เรา​หา​หน​ทาง​ที่​จะ​พ้นผิด​โดย​ผ่าน​พระ​คริสต์​แล้ว กลับ​พบ​ว่า​เรา​เป็น​คน​บาป หมาย​ความ​ว่า พระ​คริสต์​เป็น​ผู้​ส่งเสริม​ให้​เรา​ทำ​บาป​อย่าง​นั้น​หรือ ไม่​ใช่​แน่ ถ้า​ข้าพเจ้า​สร้าง​สิ่ง​ที่​ข้าพเจ้า​ทำลาย​ขึ้น​มา​ใหม่ ก็​หมาย​ความ​ว่า​ข้าพเจ้า​เป็น​คน​ละเมิด​กฎ เพราะ​โดย​กฎ​บัญญัติ​แล้ว ข้าพเจ้า​ตาย​จาก​กฎ​บัญญัติ เพื่อ​จะ​ได้​มี​ชีวิต​อยู่​เพื่อ​พระ​เจ้า ข้าพเจ้า​ถูก​ตรึง​บน​ไม้​กางเขน​ด้วย​กัน​กับ​พระ​คริสต์​แล้ว และ​ไม่​ใช่​ข้าพเจ้า​ที่​ดำรง​ชีวิต​อยู่ แต่​พระ​คริสต์​ดำรง​อยู่​ใน​ตัว​ข้าพเจ้า และ​ชีวิต​ที่​ข้าพเจ้า​ดำรง​อยู่​ใน​ร่างกาย​นี้ ข้าพเจ้า​ดำรง​อยู่​ด้วย​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า ผู้​รัก​ข้าพเจ้า และ​สละ​ชีวิต​เพื่อ​ข้าพเจ้า