กาลาเทีย 1:6-24

กาลาเทีย 1:6-24 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ผม​งง​มากเลย ที่​ยัง​ไม่​ทันไร​พวกคุณ​ก็​ทิ้ง​พระเจ้า​ผู้ที่​ได้​เรียก​คุณ​มา​ด้วย​ความ​เมตตา​กรุณา​ของ​พระคริสต์ แล้ว​หัน​ไป​ติดตาม​ข่าวดี​อันอื่น​เสียแล้ว ซึ่ง​จริงๆ​แล้ว​ไม่ใช่​ข่าวดี​เลย แต่​มี​บางคน​ทำให้​คุณ​สับสน และ​พยายาม​บิดเบือน​เรื่อง​ข่าวดี​ของ​พระคริสต์ ถ้า​ใคร​มา​ประกาศ​ข่าวดี​อื่นๆ​ที่​แตกต่าง​ไป​จาก​ที่​เรา​เคย​ประกาศ​ให้​กับ​พวกคุณ​ไว้​แล้ว​นั้น ไม่ว่า​จะ​เป็น​พวกเรา​เอง หรือ​ทูตสวรรค์ หรือ​ใคร​ก็ตาม ก็​ขอให้​คนนั้น​ถูก​สาปแช่ง​ให้​ตกนรก​ตลอดไป ผม​ขอย้ำ​อีก​ครั้งหนึ่ง​เหมือนกับ​ที่​เคย​พูด​ไปแล้ว​ว่า​ใคร​ก็ตาม​ที่​มา​ประกาศ​ข่าวดี​ที่​ขัด​กับ​ข่าวดี​ที่​คุณ​ได้รับ​ไว้​แล้ว​นั้น ก็​ขอให้​คนนั้น​ถูก​สาปแช่ง​ตลอดไป ดูเหมือน​ผม​กำลัง​พูด​ให้​คน​ยอมรับ หรือ​ให้​พระเจ้า​ยอมรับ​กัน​แน่ ผม​คิด​แต่​จะ​เอาใจ​คน​อย่าง​นั้น​หรือ ถ้า​ผม​อยาก​จะ​เอาใจ​คน ผม​ก็​คง​ไม่มา​เป็น​ทาส​ของ​พระคริสต์​หรอก พี่น้อง​ครับ ผม​อยาก​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ข่าวดี​ที่​ผม​ประกาศ​อยู่นี้​ไม่ได้​มา​จาก​มนุษย์ ไม่มี​มนุษย์​คนไหน​สอน​ผม​หรือ​ให้​ผม​มา แต่​ผม​ได้​มา​จาก​พระเยซูคริสต์​โดยตรง ตอนที่​พระองค์​มา​ปรากฏ​ตัว​ให้​ผมเห็น พวกคุณ​ก็​รู้​อยู่แล้ว​ว่า​เมื่อก่อน​ผม​เป็น​อย่างไร ตอนที่​ยัง​ใช้ชีวิต​ตาม​แบบ​ของ​ชาวยิว​นั้น ผม​ได้​ข่มเหง​หมู่ประชุม​ของ​พระเจ้า​อย่าง​รุนแรง และ​พยายาม​ทำลาย​มัน​ให้​สิ้นซาก ใน​สมัยนั้น ผม​ก้าวหน้า​ใน​ลัทธิ​ยิว​มากกว่า​ทุกคน​ใน​รุ่นเดียว​กัน และ​ยิ่งกว่านั้น ผม​ยัง​ทุ่มเท​อย่าง​เต็มที่​ต่อ​ประเพณี​ที่​สืบทอด​กันมา​จาก​บรรพบุรุษ​ของ​ผม แต่​พระเจ้า​มี​ความ​เมตตา​กรุณา​ต่อผม พระองค์​เลือกผม​ตั้งแต่​ผม​ยัง​อยู่​ใน​ท้องแม่​ซะอีก แล้ว​พระองค์​ก็​เรียก​ให้​ผม​มา​รับใช้​พระองค์ พระองค์​พอใจ​ที่​จะ​เปิดเผย​พระบุตร​ของ​พระองค์​กับ​ผม เพื่อ​ผม​จะ​ได้​ประกาศ​ข่าวดี​เรื่อง​พระบุตร​นั้น​กับ​คน​ที่​ไม่ใช่​ยิว ตอนนั้น​ผม​ก็​ไม่ได้​ปรึกษา​ใคร​เลย และ​ก็​ไม่ได้​ขึ้นไป​เมือง​เยรูซาเล็ม เพื่อ​หารือ​กับ​พวก​ที่​เป็น​ศิษย์เอก​มา​ก่อน​ผม​ด้วย แต่​ผม​ไป​แถบ​อาระเบีย​ทันที แล้ว​ถึง​ค่อย​กลับมา​เมือง​ดามัสกัส สามปี​ต่อมา ผม​ได้​ขึ้นไป​ที่​เมือง​เยรูซาเล็ม เพื่อ​เยี่ยมเยียน​เปโตร และ​ได้​พัก​อยู่​กับ​เขา​สิบห้า​วัน ผม​ไม่ได้​เจอ​กับ​ศิษย์เอก​คน​อื่นๆ​เลย นอกจาก​ยากอบ​น้องชาย​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต​เท่านั้น สาบาน​ต่อหน้า​พระเจ้า​ได้​เลย​ว่า เรื่อง​ที่​เขียน​มา​ทั้งหมดนี้​เป็น​ความจริง หลังจากนั้น​ผม​ก็​ไป​แคว้น​ซีเรีย​และ​แคว้น​ซีลีเซีย แต่​ใน​หมู่ประชุม​ต่างๆ​ของ​พระเจ้า​ที่​แคว้น​ยูเดีย ไม่มี​ใคร​รู้จัก​ผม​เป็น​การ​ส่วนตัว​เลย พวกเขา​ได้ยิน​แต่​คน​พูด​กัน​ว่า “คน​ที่​เคย​ข่มเหง​เรา​เมื่อก่อน ตอนนี้​ได้​กลับ​มา​ประกาศ​ความเชื่อ​ที่​ครั้งหนึ่ง​เขา​เคย​พยายาม​จะ​ทำลาย” แล้ว​พวกเขา​ก็​ได้​สรรเสริญ​พระเจ้า​เพราะ​ผม

กาลาเทีย 1:6-24 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจที่พวกท่านด่วนละทิ้งพระองค์ผู้ซึ่งทรงเรียกท่านมาโดยพระคุณของพระคริสต์ และหันไปหาข่าวประเสริฐอื่นเสีย ซึ่งที่จริงไม่ใช่ข่าวประเสริฐ แต่มีบางคนทำให้พวกท่านยุ่งยาก และปรารถนาบิดเบือนข่าวประเสริฐของพระคริสต์ แม้แต่เราเองหรือทูตจากฟ้าสวรรค์ ถ้าประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่พวกท่าน ซึ่งขัดกับข่าวประเสริฐที่เราได้ประกาศแก่พวกท่านไปแล้วนั้น ก็จะต้องถูกแช่งสาป ตามที่เราได้พูดไว้ก่อนแล้ว และบัดนี้ข้าพเจ้าขอพูดอีกว่า ถ้าใครประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่พวกท่าน ที่ขัดกับข่าวประเสริฐซึ่งพวกท่านได้รับไว้แล้ว ให้ผู้นั้นถูกแช่งสาป บัดนี้ข้าพเจ้ากำลังแสวงหาการยอมรับจากมนุษย์หรือจากพระเจ้า? ข้าพเจ้าอุตส่าห์เอาใจมนุษย์หรือ? ถ้าข้าพเจ้ากำลังเอาใจมนุษย์อยู่ ข้าพเจ้าก็ไม่ใช่ทาสของพระคริสต์ พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทราบว่า ข่าวประเสริฐที่ประกาศโดยข้าพเจ้านั้นไม่ใช่ของมนุษย์ เพราะว่าข้าพเจ้าไม่ได้รับข่าวประเสริฐนั้นจากมนุษย์ ไม่มีใครสอนข้าพเจ้า แต่พระเยซูคริสต์ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้า เพราะว่าท่านก็ได้ยินถึงชีวิตในอดีตของข้าพเจ้า เมื่อยังอยู่ในศาสนายิวว่า ข้าพเจ้าได้ข่มเหงคริสตจักรของพระเจ้าอย่างร้ายแรงยิ่งนัก และพยายามทำลายเสีย และข้าพเจ้าได้ก้าวหน้าในด้านศาสนายิวเหนือกว่าเพื่อนร่วมชาติหลายคนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ข้าพเจ้ามีความกระตือรือร้นกว่าในเรื่องขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษของข้าพเจ้า แต่เมื่อพระเจ้า ผู้ทรงแยกข้าพเจ้าไว้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาและได้ทรงเรียกใช้ข้าพเจ้าโดยพระคุณของพระองค์นั้น พอพระทัย ที่จะทรงสำแดงพระบุตรของพระองค์แก่ข้าพเจ้า เพื่อให้ข้าพเจ้าประกาศพระบุตรแก่คนต่างชาตินั้น ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ปรึกษากับมนุษย์คนใดเลย และข้าพเจ้าก็ไม่ได้ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อพบกับผู้ที่เป็นอัครทูตก่อนข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าได้ออกไปยังประเทศอาระเบียทันที แล้วก็กลับมายังกรุงดามัสกัสอีก สามปีต่อมา ข้าพเจ้าขึ้นไปหาเคฟาสที่กรุงเยรูซาเล็ม และพักอยู่กับท่านสิบห้าวัน แต่ว่าข้าพเจ้าไม่ได้พบอัครทูตคนอื่นเลย นอกจากยากอบ น้องขององค์พระผู้เป็นเจ้า (เรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนมาถึงท่านนี้ ข้าพเจ้าขอกล่าวเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าว่าข้าพเจ้าไม่โกหกเลย) หลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็เข้าไปในเขตแดนซีเรียและซีลีเซีย ข้าพเจ้าไม่เป็นที่รู้จักของคริสตจักรเหล่านั้นในแคว้นยูเดียที่อยู่ในพระคริสต์เลย เขาทั้งหลายเพียงแต่ได้ยินว่า “ผู้ที่เคยข่มเหงเรา บัดนี้ได้ประกาศความเชื่อซึ่งเขาได้เคยพยายามทำลาย” พวกเขาได้สรรเสริญพระเจ้าก็เพราะข้าพเจ้า

กาลาเทีย 1:6-24 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ข้าพเจ้าประหลาดใจนักที่ท่านทั้งหลายได้ผินหน้าหนีโดยเร็วจากพระองค์ ผู้​ได้​ทรงเรียกท่านให้​เข​้าในพระคุณของพระคริสต์ และได้ไปหาข่าวประเสริฐอื่น ซึ่​งม​ิ​ใช่​อย่างอื่นดอก แต่​ว่ามีบางคนที่​ทำให้​ท่านยุ่งยาก และปรารถนาที่จะบิดเบือนข่าวประเสริฐของพระคริสต์ แต่​แม้ว​่าเราเองหรือทูตสวรรค์ ถ้าประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่​ท่าน ซึ่งขั​ดก​ับข่าวประเสริฐที่เราได้ประกาศแก่ท่านไปแล้​วก​็​ให้​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง ตามที่​เราได้​พู​ดไว้ก่อนแล้ว บัดนี้​ข้าพเจ้าพูดอี​กว่า ถ้าผู้ใดประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่ท่านที่ขั​ดก​ับข่าวประเสริฐซึ่งท่านได้รับไว้​แล้ว ผู้​นั้นจะต้องถูกสาปแช่ง บัดนี้​ข้าพเจ้ากำลังพูดเอาใจมนุษย์​หรือ หรือให้เป็​นที​่ชอบพระทัยพระเจ้า ข้าพเจ้าอุตส่าห์ประจบประแจงมนุษย์​หรือ เพราะถ้าข้าพเจ้ากำลังประจบประแจงมนุษย์​อยู่​ข้าพเจ้าก็​ไม่ใช่​ผู้รับใช้​ของพระคริสต์ พี่​น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทราบว่า ข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าได้ประกาศไปแล้​วน​ั้นไม่​ใช่​ของมนุษย์ เพราะว่าข้าพเจ้าไม่​ได้​รับข่าวประเสริฐนั้นจากมนุษย์ ไม่มี​มนุษย์​คนใดสอนข้าพเจ้า แต่​ข้าพเจ้าได้รับข่าวประเสริฐนั้นโดยพระเยซู​คริสต์​ทรงสำแดงแก่​ข้าพเจ้า เพราะท่านก็​ได้​ยินถึงชีวิตในหนหลังของข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้ายังอยู่ในลัทธิยิวแล้​วว​่า ข้าพเจ้าได้ข่มเหงคริสตจักรของพระเจ้าอย่างร้ายแรงเหลือเกิน และพยายามที่จะทำลายเสีย และเมื่อข้าพเจ้าอยู่ในลัทธิยิ​วน​ั้น ข้าพเจ้าได้ก้าวหน้าเกินกว่าเพื่อนหลายคนที่​มีอายุ​รุ่นราวคราวเดียวกัน และที่เป็นชนชาติ​เดียวกัน เพราะเหตุ​ที่​ข้าพเจ้ามีใจร้อนรนมากกว่าเขาในเรื่องขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษของข้าพเจ้า แต่​เมื่อเป็​นที​่ชอบพระทัยพระเจ้า ผู้​ได้​ทรงสรรข้าพเจ้าไว้​แต่​ครรภ์​มารดาของข้าพเจ้า และได้ทรงเรียกข้าพเจ้าโดยพระคุณของพระองค์ ที่​จะทรงสำแดงพระบุตรของพระองค์ในตัวข้าพเจ้า เพื่อให้​ข้าพเจ้าประกาศพระบุตรแก่ชนต่างชาติ​นั้น ในทันที​นั้นข้าพเจ้าก็​ไม่ได้​ปรึกษากับเนื้อหนังและเลือดเลย และข้าพเจ้าก็​ไม่ได้​ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อพบกับผู้​ที่​เป็​นอ​ัครสาวกก่อนข้าพเจ้า แต่​ข้าพเจ้าได้ออกไปยังประเทศอาระเบีย แล้วก็​กล​ับมายังเมืองดามัสกัสอีก แล​้วสามปี​ต่อมา ข้าพเจ้าขึ้นไปหาเปโตรที่​กรุ​งเยรูซาเล็ม และพักอยู่กั​บท​่านสิบห้าวัน แต่​ว่าข้าพเจ้าไม่​ได้​พบอัครสาวกคนอื่นเลย นอกจากยากอบน้องชายขององค์​พระผู้เป็นเจ้า แต่​เรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนมาถึงท่านนี้ ดู​เถิด ต่อพระพักตร์​พระเจ้า ข้าพเจ้าไม่​มุ​สาเลย หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็​เข​้าไปในเขตแดนซีเรียและซีลี​เซ​ีย และคริสตจักรทั้งหลายในแคว้นยูเดียซึ่งอยู่ในพระคริสต์​ก็​ยังไม่​รู้​จักหน้าข้าพเจ้าเลย เขาเพียงแต่​ได้​ยิ​นว​่า “​ผู้​ที่​แต่​ก่อนเคยข่มเหงเรา บัดนี้​ได้​ประกาศความเชื่อซึ่งเขาได้เคยพยายามทำลาย” พวกเขาได้สรรเสริญพระเจ้าก็เพราะข้าพเจ้าเป็นเหตุ

กาลาเทีย 1:6-24 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจ ที่พวกท่านพากันละทิ้งพระองค์ไปอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงเรียกท่านมาโดยพระคุณของพระคริสต์ แต่ท่านกลับหันไปหาข่าวประเสริฐอื่นเสีย ความจริงข่าวประเสริฐอื่นไม่มี แต่ว่ามีบางคนที่ทำให้ท่านยุ่งยาก และปรารถนาที่จะบิดเบือนข่าวประเสริฐของพระคริสต์ แม้แต่เราเองหรือทูตสวรรค์ ถ้าประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่ท่าน ซึ่งขัดกับข่าวประเสริฐที่เราได้ประกาศแก่ท่านไปแล้วนั้น ก็จะต้องถูกแช่งสาป ตามที่เราได้พูดไว้ก่อนแล้ว บัดนี้ข้าพเจ้าพูดอีกว่า ถ้าผู้ใดประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่ท่าน ที่ขัดกับข่าวประเสริฐซึ่งท่านได้รับไว้แล้ว ผู้นั้นจะต้องถูกแช่งสาป บัดนี้ข้าพเจ้ากำลังพูดเอาใจมนุษย์หรือ ข้าพเจ้าทำให้เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้ามิใช่หรือ ข้าพเจ้าอุตส่าห์ประจบประแจงมนุษย์หรือ ถ้าข้าพเจ้ากำลังประจบประแจงมนุษย์อยู่ ข้าพเจ้าก็ไม่ใช่ผู้รับใช้ของพระคริสต์ พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทราบว่า ข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าได้ประกาศไปแล้วนั้นไม่ใช่ของมนุษย์ เพราะว่าข้าพเจ้าไม่ได้รับข่าวประเสริฐนั้นจากมนุษย์ ไม่มีมนุษย์คนใดสอนข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าได้รับข่าวประเสริฐนั้น โดยพระเยซูคริสต์ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้า เพราะท่านก็ได้ยินถึงชีวิตในหนหลังของข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้ายังอยู่ในลัทธิยิวแล้วว่า ข้าพเจ้าได้ข่มเหงคริสตจักรของพระเจ้าอย่างร้ายแรงเหลือเกิน และพยายามที่จะทำลายเสีย และเมื่อข้าพเจ้าอยู่ในลัทธิยิวนั้น ข้าพเจ้าได้ก้าวหน้าเกินกว่าเพื่อนหลายคนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน และที่เป็นชนชาติเดียวกัน เพราะเหตุที่ข้าพเจ้ามีหัวรุนแรง ยิ่งกว่าเขาในเรื่องขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษของข้าพเจ้า แต่เมื่อพระเจ้าผู้ทรงสรรข้าพเจ้าไว้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา และได้ทรงโปรดบัญชาใช้ข้าพเจ้าโดยพระคุณของพระองค์ ทรงพอพระทัย ที่จะทรงสำแดงพระบุตรของพระองค์แก่ข้าพเจ้า เพื่อให้ข้าพเจ้าประกาศพระบุตรแก่ชนต่างชาตินั้น ข้าพเจ้าก็มิได้ปรึกษากับมนุษย์คนใดเลย และข้าพเจ้าก็ไม่ได้ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อพบกับผู้ที่เป็นอัครทูตก่อนข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าได้ออกไปยังประเทศอาระเบียทันที แล้วก็กลับมายังกรุงดามัสกัสอีก สามปีต่อมา ข้าพเจ้าขึ้นไปหาเคฟาสที่กรุงเยรูซาเล็ม และพักอยู่กับท่านสิบห้าวัน แต่ว่าข้าพเจ้าไม่ได้พบอัครทูตคนอื่นเลย นอกจากยากอบ น้องขององค์พระผู้เป็นเจ้า (เรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนมาถึงท่านนี้ พระเจ้าทรงเป็นพยานได้ว่า ข้าพเจ้าไม่มุสาเลย) หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็เข้าไปในเขตแดนซีเรียและซีลีเซีย ข้าพเจ้าไม่ได้พบกับคริสตจักรทั้งหลายในแคว้นยูเดียเลย เขาเพียงแต่ได้ยินว่า <<ผู้ที่แต่ก่อนเคยข่มเหงเรา บัดนี้ได้ประกาศความเชื่อซึ่งเขาได้เคยพยายามทำลาย>> พวกเขาได้สรรเสริญพระเจ้าก็เพราะข้าพเจ้าเป็นเหตุ

กาลาเทีย 1:6-24 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ข้าพเจ้าประหลาดใจที่ท่านทั้งหลายทิ้งพระองค์ผู้ทรงเรียกท่านโดยพระคุณของพระคริสต์ไปอย่างรวดเร็ว และหันไปหาข่าวประเสริฐอื่น ซึ่งไม่ใช่ข่าวประเสริฐเลย เห็นได้ชัดว่าบางคนกำลังทำให้ท่านสับสนวุ่นวายและพยายามบิดเบือนข่าวประเสริฐของพระคริสต์ ไม่ว่าเราหรือทูตสวรรค์ หากประกาศข่าวประเสริฐอื่นซึ่งต่างจากข่าวประเสริฐที่เราได้ประกาศแก่ท่าน ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งชั่วนิรันดร์! ดังที่เราได้บอกไว้แล้ว บัดนี้ข้าพเจ้าขอกล่าวย้ำอีกครั้งว่าหากใครประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่ท่านนอกเหนือจากที่ท่านได้รับไว้แล้ว ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งชั่วนิรันดร์! นี่ข้าพเจ้ากำลังมุ่งให้มนุษย์หรือพระเจ้ายอมรับกันแน่? หรือว่าข้าพเจ้ากำลังพยายามทำให้มนุษย์พอใจ? หากข้าพเจ้ากำลังพยายามทำให้มนุษย์พอใจ ข้าพเจ้าก็ไม่ใช่ผู้รับใช้ของพระคริสต์ พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทราบว่าข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าประกาศนั้นไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์แต่งขึ้น ข้าพเจ้าไม่ได้รับข่าวประเสริฐนี้จากมนุษย์คนใดหรือมีคนมาสอน แต่รับการทรงสำแดงจากพระเยซูคริสต์ ในเมื่อท่านก็ทราบว่าเมื่อก่อนขณะยังถือศาสนายิวข้าพเจ้าใช้ชีวิตอย่างไร ข้าพเจ้าได้ข่มเหงคริสตจักรของพระเจ้าอย่างรุนแรงและพยายามจะทำลายให้สิ้น เมื่ออยู่ในศาสนายิวข้าพเจ้าก้าวหน้ากว่าพี่น้องยิวหลายคนในรุ่นเดียวกัน และหัวรุนแรงอย่างยิ่งในการยึดถือประเพณีตามบรรพบุรุษของข้าพเจ้า แต่เมื่อพระเจ้าทรงเลือกข้าพเจ้าไว้ตั้งแต่กำเนิด และทรงเรียกข้าพเจ้าโดยพระคุณของพระองค์ พระองค์พอพระทัย ที่จะสำแดงพระบุตรของพระองค์ในข้าพเจ้า เพื่อให้ข้าพเจ้าประกาศพระบุตรนั้นท่ามกลางชาวต่างชาติ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ปรึกษามนุษย์คนใด ทั้งไม่ได้ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อพบบรรดาคนที่เป็นอัครทูตก่อนข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าตรงไปยังประเทศอาระเบียทันที และภายหลังได้กลับมายังเมืองดามัสกัส สามปีต่อมาข้าพเจ้าขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อทำความรู้จักกับเปโตร และพักอยู่กับเขาสิบห้าวัน ข้าพเจ้าไม่ได้พบอัครทูตคนอื่นๆ เลยนอกจากยากอบน้องขององค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าขอยืนยันต่อหน้าพระเจ้าว่าที่เขียนมานี้ไม่ได้โกหก หลังจากนั้นข้าพเจ้าไปยังเขตแดนซีเรียและซิลีเซีย คริสตจักรต่างๆ ในพระคริสต์ที่แคว้นยูเดียไม่รู้จักข้าพเจ้าเป็นการส่วนตัว พวกเขาเพียงแต่ได้ข่าวว่า “คนที่แต่ก่อนเคยข่มเหงเราเดี๋ยวนี้ประกาศความเชื่อซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยพยายามทำลาย” และพวกเขาสรรเสริญพระเจ้าเนื่องด้วยข้าพเจ้า

กาลาเทีย 1:6-24 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ข้าพเจ้า​แปลกใจ​ที่​ท่าน​ด่วน​เอาใจ​ออก​ห่าง​จาก​พระ​องค์ ผู้​ได้​เรียก​ท่าน​โดย​พระ​คุณ​ของ​พระ​คริสต์ และ​ท่าน​กลับ​ไป​เชื่อ​ข่าว​ประเสริฐ​ที่​แตกต่าง​ออก​ไป ซึ่ง​ความ​จริง​แล้ว ไม่​มี​ข่าว​ประเสริฐ​อื่น​ใด​อีก มี​บาง​คน​กำลัง​ทำ​ให้​ท่าน​สับสน และ​อยาก​บิดเบือน​ข่าว​ประเสริฐ​ของ​พระ​คริสต์ หาก​ว่า​พวก​เรา​หรือ​ทูต​จาก​สวรรค์​จะ​ประกาศ​ข่าว​ประเสริฐ​ซึ่ง​แตกต่าง​ไป​จาก​ข่าว​ประเสริฐ​ที่​เรา​ได้​ประกาศ​แก่​พวก​ท่าน​แล้ว ก็​ให้​ผู้​นั้น​ถูก​สาปแช่ง​เถิด ตาม​ที่​พวก​เรา​ได้​พูด​ไป​แล้ว เวลา​นี้​ข้าพเจ้า​ขอ​พูด​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ว่า ถ้า​ใคร​ประกาศ​ข่าว​ประเสริฐ​แก่​ท่าน​แตกต่าง​ไป​จาก​ที่​ท่าน​ได้​รับ​แล้ว ให้​ผู้​นั้น​ถูก​สาปแช่ง​เถิด ข้าพเจ้า​พยายาม​ทำ​ให้​ใคร​เห็น​ดี​ด้วย​เล่า มนุษย์​หรือ​พระ​เจ้า หรือ​ว่า​ข้าพเจ้า​พยายาม​เอาใจ​มนุษย์ ถ้า​ข้าพเจ้า​ยัง​เอาใจ​มนุษย์​อยู่ ข้าพเจ้า​คง​จะ​ไม่​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​คริสต์​หรอก พี่​น้อง​เอ๋ย ข้าพเจ้า​อยาก​ให้​ท่าน​ทราบ​ว่า ข่าว​ประเสริฐ​ที่​ข้าพเจ้า​ประกาศ​นั้น​ไม่​ใช่​ข่าว​สาร​ที่​มนุษย์​แต่ง​ขึ้น ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​รับ​รู้​มา​จาก​มนุษย์​คนใด ไม่​มี​ใคร​สอน​ข้าพเจ้า แต่​พระ​เยซู​คริสต์​เป็น​ผู้เผย​ให้​ข้าพเจ้า​ทราบ ด้วย​ว่า​พวก​ท่าน​ได้​ทราบ​ถึง​วิถี​ชีวิต​เดิม​ของ​ข้าพเจ้า ครั้ง​ที่​ยัง​เชื่อ​ใน​ศาสนา​ยิว ข้าพเจ้า​เคย​กดขี่​ข่มเหง​คริสตจักร​ของ​พระ​เจ้า​อย่าง​รุนแรง และ​พยายาม​จะ​ทำลาย​คริสตจักร​ให้​สาบสูญ​ไป ใน​ทาง​ศาสนา​ยิว ข้าพเจ้า​ก้าวหน้า​กว่า​พวก​พ้อง​ที่​อยู่​ใน​วัย​เดียว​กัน​อยู่​หลาย​คน อีก​ทั้ง​ยัง​เคร่งครัด​ต่อ​ประเพณี​นิยม​ของ​บรรพบุรุษ​ของ​ข้าพเจ้า​อย่าง​ที่​สุด แต่​เมื่อ​พระ​องค์​ผู้​แต่งตั้ง​ข้าพเจ้า​ตั้งแต่​ข้าพเจ้า​อยู่​ใน​ครรภ์​มารดา มี​ความ​ยินดี และ​เรียก​ข้าพเจ้า​โดย​พระ​คุณ​ของ​พระ​องค์ โปรด​ให้​ข้าพเจ้า​เห็น​พระ​บุตร​ของ​พระ​องค์ เพื่อ​ข้าพเจ้า​จะ​ได้​ประกาศ​เรื่อง​ของ​พระ​องค์​ใน​หมู่​คนนอก ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​ขอ​คำ​แนะนำ​จาก​มนุษย์​คนใด ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​ขึ้น​ไป​ยัง​เมือง​เยรูซาเล็ม​เพื่อ​พบ​กับ​บรรดา​ผู้​เป็น​อัครทูต​รุ่น​ก่อน​ข้าพเจ้า แต่​ข้าพเจ้า​ได้​เข้า​ไป​ใน​อาณาเขต​อาระเบีย และ​กลับ​มา​ยัง​เมือง​ดามัสกัส​อีก​ครั้ง​หนึ่ง สาม​ปี​ต่อ​มา​ข้าพเจ้า​ขึ้น​ไป​ยัง​เมือง​เยรูซาเล็ม​เพื่อ​ทำ​ความ​คุ้นเคย​กับ​เคฟาส และ​พัก​อยู่​กับ​เขา​เป็น​เวลา 15 วัน ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​พบ​อัครทูต​อื่นๆ ยกเว้น​ยากอบ​น้อง​ชาย​ของ​พระ​เยซู​เจ้า สิ่ง​ที่​ข้าพเจ้า​เขียน​ถึง​พวก​ท่าน​ต่อ​หน้า​พระ​เจ้า ข้าพเจ้า​พูด​ความ​จริง​ทั้ง​สิ้น หลัง​จาก​นั้น​ข้าพเจ้า​ก็​เข้า​ไป​ยัง​เขต​แดน​แคว้น​ซีเรีย​และ​ซีลีเซีย ใน​หมู่​คริสตจักร​ของ​พระ​คริสต์​ใน​แคว้น​ยูเดีย ยัง​ไม่​เคย​มี​ใคร​รู้จัก​ข้าพเจ้า​มา​ก่อน พวก​เขา​เพียง​แต่​ได้ยิน​กัน​ว่า “บัดนี้ คน​ที่​เคย​กดขี่​ข่มเหง​พวก​เรา กลับ​เปลี่ยน​มา​ประกาศ​ความ​เชื่อ​ที่​เขา​เคย​พยายาม​ทำลาย​ล้าง​มา​ก่อน” พวก​เขา​เหล่า​นั้น​จึง​สรรเสริญ​พระ​เจ้า เพราะ​สิ่ง​ที่​พระ​องค์​กระทำ​ผ่าน​ข้าพเจ้า

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา