อพยพ 34:1-9
อพยพ 34:1-9 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้ตัดหินมาสองแผ่น เหมือนกับสองแผ่นแรก เราจะเขียนบัญญัติลงบนแผ่นหินสองแผ่นนี้ เป็นบัญญัติเดียวกับที่ได้เขียนไว้แล้วบนแผ่นหินสองแผ่นแรก ที่เจ้าได้ทำแตกเป็นชิ้นๆ ให้เตรียมพร้อมในตอนเช้า ให้ขึ้นไปบนภูเขาซีนาย และคอยเราอยู่บนยอดเขานั้น อย่าให้ใครขึ้นมากับเจ้า อย่าให้เราเห็นใครบนภูเขานั้น และอย่าให้ฝูงแกะ ฝูงวัวไปกินหญ้าที่เชิงเขานั้นด้วย” แล้วโมเสสก็ได้ตัดหินมาสองแผ่น เหมือนกับหินสองแผ่นแรก โมเสสลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ และขึ้นไปยังภูเขาซีนาย ตามที่พระยาห์เวห์สั่งเขาไว้ และนำแผ่นหินสองแผ่นนั้นไปด้วย พระยาห์เวห์ลงมาในเมฆและยืนอยู่กับเขาที่นั่น และโมเสสเรียกชื่อพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ผ่านหน้าโมเสสไป และประกาศว่า “เราคือยาห์เวห์ ยาห์เวห์ พระเจ้าผู้ซึ่งเห็นอกเห็นใจและเมตตากรุณา ผู้ซึ่งโกรธช้า เต็มไปด้วยความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ ผู้ซึ่งเก็บความจงรักภักดีไว้ให้กับคนเป็นพันๆรุ่น และยกโทษให้กับความผิดทั้งหลาย การกบฏต่างๆรวมทั้งพวกบาปของพวกเขา แต่เราจะไม่ปล่อยให้คนผิดพ้นโทษเป็นอันขาด เราจะลงโทษพวกเขาไปสามสี่ชั่วคนสำหรับความผิดที่พ่อแม่เขาทำ” โมเสสรีบก้มกราบลงกับพื้น และนมัสการพระองค์ โมเสสพูดว่า “ถ้าข้าพเจ้าเป็นที่ชื่นชอบในสายตาพระองค์ ขอให้พระองค์อยู่ท่ามกลางพวกข้าพเจ้าด้วยเถิด ถึงแม้ว่าประชาชนเหล่านั้นจะเป็นคนดื้อรั้นหัวแข็ง ขอให้พระองค์ยกโทษให้กับความชั่วช้าและความบาปของพวกข้าพเจ้า และรับพวกข้าพเจ้าไว้เป็นมรดกของพระองค์ด้วยเถิด”
อพยพ 34:1-9 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงสกัดศิลาสองแผ่นให้เหมือนอย่างเดิม แล้วเราจะจารึกบนศิลานั้นด้วยถ้อยคำที่อยู่ในศิลาชุดเดิมที่เจ้าทำแตก จงเตรียมให้พร้อมในเวลาเช้า แล้วจงขึ้นภูเขาซีนายแต่เช้า จงเข้าเฝ้าเราที่นั่นบนยอดเขานั้น อย่าให้ผู้ใดขึ้นมากับเจ้า และอย่าให้เห็นผู้ใดทั่วบริเวณภูเขา อย่าให้ฝูงแพะแกะ ฝูงโคกินหญ้าอยู่หน้าภูเขานี้เลย” ดังนั้นโมเสสจึงสกัดศิลาสองแผ่นเหมือนชุดแรก แล้วท่านตื่นแต่เช้า ขึ้นไปบนภูเขาซีนายตามรับสั่งของพระยาห์เวห์ พร้อมกับศิลาสองแผ่น พระยาห์เวห์เสด็จลงมาในเมฆและทรงยืนอยู่กับท่านที่นั่น และทรงประกาศพระนามของพระยาห์เวห์ แล้วพระยาห์เวห์เสด็จผ่านไปข้างหน้าท่าน ตรัสว่า “พระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ เป็นพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระกรุณาและพระคุณ พระองค์กริ้วช้า ทรงบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และความสัตย์จริง ผู้ทรงสำแดงความรักมั่นคงจนถึงพันๆ ชั่วอายุคน ผู้ประทานอภัยการล่วงละเมิด การทรยศและบาป แต่จะไม่ทรงละเว้นการลงโทษอย่างแน่นอน และทรงให้โทษบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน” โมเสสจึงรีบกราบลงถึงดินนมัสการ แล้วกราบทูลว่า “องค์เจ้านาย ถ้าข้าพระองค์เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์ ก็ขอพระองค์โปรดเสด็จไปกับพวกข้าพระองค์แม้ว่าประชากรนั้นหัวแข็ง และขอประทานอภัยการล่วงละเมิดและบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย และขอทรงรับพวกข้าพระองค์เป็นมรดกของพระองค์ด้วย”
อพยพ 34:1-9 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงสกัดศิลาอีกสองแผ่นเหมือนเดิมแล้วเราจะจารึกคำเหมือนในแผ่นเก่าที่เจ้าทำแตกนั้นให้ จงเตรียมให้พร้อมเวลาเช้า แล้วจงขึ้นมาบนภูเขาซีนายแต่เช้า จงคอยเฝ้าเราบนยอดภูเขานั้น อย่าให้ผู้ใดขึ้นมาด้วย และอย่าให้ผู้ใดมาอยู่ตลอดทั่วทั้งภูเขา อย่าให้ฝูงแพะแกะ ฝูงวัวกินหญ้าอยู่หน้าภูเขานี้เลย” ฝ่ายโมเสสจึงสกัดศิลาสองแผ่นเหมือนสองแผ่นแรก แล้วท่านก็ตื่นแต่เช้าขึ้นไปบนภูเขาซีนายตามรับสั่งของพระเยโฮวาห์ถือศิลาไปสองแผ่น ฝ่ายพระเยโฮวาห์เสด็จลงมาในเมฆ และโมเสสยืนอยู่กับพระองค์ที่นั่น และออกพระนามพระเยโฮวาห์ พระเยโฮวาห์เสด็จผ่านไปข้างหน้าท่าน ตรัสว่า “พระเยโฮวาห์ พระเยโฮวาห์พระเจ้า ผู้ทรงพระกรุณา ทรงกอปรด้วยพระคุณ ทรงกริ้วช้า และบริบูรณ์ด้วยความเมตตาและความจริง ผู้ทรงสำแดงความเมตตาต่อมนุษย์กระทั่งพันชั่วอายุ ผู้ทรงโปรดยกโทษความชั่วช้า การละเมิดและบาปของเขาเสีย แต่จะทรงถือว่าไม่มีโทษก็หามิได้ และให้โทษเพราะความชั่วช้าของบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานสามชั่วสี่ชั่วอายุคน” ฝ่ายโมเสสจึงรีบกราบลงที่พื้นดินนมัสการ แล้วทูลว่า “โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ถ้าแม้ข้าพระองค์ได้รับพระกรุณาในสายพระเนตรของพระองค์ ข้าพระองค์ทูลวิงวอนต่อพระองค์ ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์โปรดเสด็จไปท่ามกลางพวกข้าพระองค์เพราะเป็นชนชาติคอแข็งดื้อดึง และขอทรงโปรดยกโทษความชั่วช้าและความบาปของพวกข้าพระองค์ และโปรดรับพวกข้าพระองค์เป็นมรดกของพระองค์ด้วย”
อพยพ 34:1-9 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า <<จงสกัดศิลาอีกสองแผ่นเหมือนเดิม แล้วเราจะจารึกคำเหมือนในแผ่นเก่าที่เจ้าทำแตกนั้นให้ จงเตรียมให้พร้อมเวลาเช้า แล้วจงขึ้นมาบนภูเขาซีนายแต่เช้า จงคอยเฝ้าเราบนยอดภูเขานั้น อย่าให้ผู้ใดขึ้นมาด้วย และอย่าให้มีผู้ใดมาอยู่ที่ภูเขา อย่าให้ฝูงแพะแกะ ฝูงโคกินหญ้าอยู่หน้าภูเขานี้เลย>> ฝ่ายโมเสสจึงสกัดศิลาสองแผ่นเหมือนสองแผ่นแรก แล้วท่านก็ตื่นแต่เช้า ขึ้นไปบนภูเขาซีนายตามรับสั่งของพระเจ้า ถือศิลาไปสองแผ่น ฝ่ายพระเจ้าเสด็จลงมาในเมฆ และโมเสสยืนอยู่กับพระองค์ที่นั่น และออกพระนามพระเจ้า พระเจ้าเสด็จผ่านไปข้างหน้าท่าน ตรัสว่า <<พระเยโฮวาห์ พระเยโฮวาห์ พระเจ้าผู้ทรงพระกรุณา ทรงกอปรด้วยพระคุณ ทรงกริ้วช้า และบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และความสัตย์จริง ผู้ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อมนุษย์กระทั่งพันชั่วอายุ ผู้ทรงโปรดยกโทษการล่วงละเมิด การทรยศ และบาปของเขาเสีย แต่จะทรงถือว่า ไม่มีโทษก็หามิได้ และให้โทษบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานสามชั่ว สี่ชั่วอายุคน>> ฝ่ายโมเสสจึงรีบกราบลงที่พื้นดินนมัสการ แล้วทูลว่า <<ข้าแต่พระเจ้า ถ้าแม้ข้าพระองค์ได้รับความโปรดปรานจากพระองค์ แม้ว่าชนชาตินั้นหัวแข็ง ก็ขอพระองค์โปรดเสด็จไปท่ามกลางพวกข้าพระองค์ และขอทรงโปรดยกโทษ และบาปของพวกข้าพระองค์ และโปรดรับพวกข้าพระองค์เป็นมรดกของพระองค์ด้วย>>
อพยพ 34:1-9 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงสกัดศิลาอีกสองแผ่นเช่นเดียวกับชุดแรกเพื่อเราจะจารึกข้อความเดิมเหมือนในแผ่นเก่าที่เจ้าทำแตกไปแล้ว พรุ่งนี้เช้าจงเตรียมตัวให้พร้อมและขึ้นมาพบเราบนยอดเขาซีนาย อย่าให้ใครมาด้วยและห้ามผู้หนึ่งผู้ใดขึ้นมาบนภูเขา แม้แต่ฝูงสัตว์ก็อย่าปล่อยให้มากินหญ้าใกล้ๆ ภูเขา” ดังนั้นโมเสสจึงสกัดศิลาสองแผ่นตามแบบชุดแรกและขึ้นไปบนภูเขาซีนายตั้งแต่เช้าตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา เขาถือศิลาสองแผ่นนั้นขึ้นไปด้วย แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาในเมฆและประทับอยู่ที่นั่นกับโมเสส และประกาศพระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์ พระองค์เสด็จผ่านหน้าโมเสสไปพร้อมทั้งประกาศว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณาและพระคุณ ทรงกริ้วช้า บริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ ผู้แสดงความรักมั่นคงต่อคนนับพันชั่วอายุ โดยให้อภัยความชั่วร้าย การกบฏ และบาป แต่พระองค์จะไม่ทรงละเว้นโทษผู้กระทำผิด พระองค์จะทรงลงโทษลูกหลานของเขาเพราะบาปของบรรพบุรุษถึงสามสี่ชั่วอายุคน” โมเสสจึงหมอบลงกับพื้นทันทีและนมัสการ เขาทูลวิงวอนว่า “พระองค์เจ้าข้า หากข้าพระองค์เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์ ขอโปรดเสด็จไปกับข้าพระองค์ทั้งหลาย แม้ว่าข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นชนชาติที่ดื้อรั้น ขอทรงอภัยโทษความชั่วร้ายและบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย และขอทรงรับข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นมรดกของพระองค์”
อพยพ 34:1-9 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “จงสลักศิลา 2 แผ่นเหมือนครั้งแรก แล้วเราจะเขียนคำบนแผ่นศิลาเช่นเดียวกับศิลา 2 แผ่นแรกที่เจ้าทำแตก จงเตรียมพร้อมแต่เช้า และขึ้นไปบนภูเขาซีนายในเช้านั้น ยืนพบเราที่ยอดภูเขานั่น อย่าให้ใครมากับเจ้า และอย่าให้มีผู้ใดอยู่ที่ภูเขานั้น อย่าให้ฝูงสัตว์ใดๆ เล็มหญ้าอยู่แม้แต่ที่เชิงเขา” ดังนั้น โมเสสสลักแผ่นศิลา 2 แผ่นเหมือนครั้งแรก ท่านลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ถือแผ่นศิลาขึ้นไปบนภูเขาซีนายตามที่พระผู้เป็นเจ้าสั่ง พระผู้เป็นเจ้าลงมาในลักษณะของก้อนเมฆ พระองค์ยืนอยู่กับท่านที่นั่นและประกาศพระนามคือพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าผ่านไปข้างหน้าท่านและประกาศว่า “พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความสงสารและความเมตตา ไม่โกรธง่าย เปี่ยมด้วยความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริง รักษาความรักอันมั่นคงหลายพันชั่วอายุคน ให้อภัยการกระทำผิด การล่วงละเมิด และบาป แต่ก็ไม่ปล่อยให้ผู้กระทำผิดรอดตัวไปได้ และเราจะทำให้บาปของบิดาตกทอดถึงบุตรของเขาไปจนถึง 3 และ 4 ชั่วอายุคน” โมเสสก็รีบก้มศีรษะและกราบนมัสการแทบพื้นดิน และพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า บัดนี้ถ้าข้าพเจ้าเป็นที่โปรดปรานของพระองค์ ขอพระองค์โปรดร่วมทางไปกับพวกเราแม้ว่าจะเป็นพวกหัวรั้น และให้อภัยการกระทำผิดและบาปของพวกเรา และรับเราเป็นผู้สืบมรดกของพระองค์เถิด”