อพยพ 33:7-20

อพยพ 33:7-20 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

โมเสสเคยตั้งเต็นท์หลังหนึ่งไว้ข้างนอกไกลจากค่าย และเรียกว่า เต็นท์นัดพบ ต่อมาทุกคนที่ปรารถนาจะเข้าเฝ้าพระยาห์เวห์ ก็มักจะออกไปยังเต็นท์นัดพบซึ่งตั้งอยู่นอกค่าย และเมื่อไรที่โมเสสออกไปยังเต็นท์นั้น ประชาชนทุกคนก็จะลุกขึ้นยืนอยู่ที่ประตูเต็นท์ของตนมองดูโมเสส จนท่านเข้าไปในเต็นท์ เมื่อโมเสสเข้าไปในเต็นท์แล้ว เสาเมฆก็ลอยลงมาตั้งอยู่ที่ประตูเต็นท์ แล้วพระองค์ก็ตรัสกับโมเสส เมื่อไรที่ประชาชนทั้งหมดเห็นเสาเมฆนั้นตั้งอยู่ที่ประตูเต็นท์ พวกเขาก็จะลุกขึ้นและนมัสการอยู่ที่ประตูเต็นท์ของตน พระยาห์เวห์เคยตรัสกับโมเสสสองต่อสอง เหมือนมิตรสหายสนทนากัน แล้วโมเสสก็กลับไปยังค่าย แต่ผู้รับใช้หนุ่มของท่าน คือโยชูวาบุตรนูน ไม่ได้ออกไปจากเต็นท์ โมเสสกราบทูลพระยาห์เวห์ว่า “ดูสิ พระองค์ตรัสสั่งข้าพระองค์ว่า ‘จงนำประชากรนี้ขึ้นไป’ แต่พระองค์ไม่ได้ทรงแจ้งให้ข้าพระองค์ทราบว่า จะใช้ใครขึ้นไปกับข้าพระองค์ พระองค์เองยังตรัสว่า ‘เรารู้จักชื่อของเจ้า และเจ้าเป็นที่โปรดปรานในสายตาของเราด้วย’ และบัดนี้ ถ้าข้าพระองค์เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์แล้ว ขอโปรดสำแดงพระมรรคาของพระองค์แก่ข้าพระองค์ แล้วข้าพระองค์จะรู้จักพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะเป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์ และขอทรงนับชนชาตินี้เป็นประชากรของพระองค์” พระองค์ตรัสว่า “เราเองจะไปกับเจ้า และให้เจ้าได้พัก” แล้วโมเสสจึงกราบทูลพระองค์ว่า “ถ้าพระองค์ไม่เสด็จไปกับข้าพระองค์ ก็ขออย่าทรงนำพวกข้าพระองค์ขึ้นไปจากที่นี่เลย ทำอย่างไรใครๆ จะทราบได้ว่า ข้าพระองค์และประชากรของพระองค์เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์แล้ว นอกจากพระองค์จะเสด็จไปกับพวกข้าพระองค์ด้วยไม่ใช่หรือ? ดังนั้นข้าพระองค์และประชากรของพระองค์ จึงแตกต่างจากชนชาติอื่นๆ ทั่วโลก” พระยาห์เวห์ตรัสตอบโมเสสว่า “สิ่งที่เจ้าขอนั้นเราจะทำให้ เพราะว่าเจ้าเป็นที่โปรดปรานในสายตาของเราแล้ว และเรารู้จักชื่อของเจ้า” โมเสสจึงกราบทูลว่า “ขอทรงสำแดงพระสิริของพระองค์แก่ข้าพระองค์เถิด” พระองค์จึงตรัสตอบว่า “เราจะให้คุณความดีทั้งสิ้นของเราประจักษ์แจ้งต่อหน้าเจ้า และเราจะประกาศนามของยาห์เวห์ต่อหน้าเจ้า เราประสงค์จะโปรดปรานผู้ใดก็จะโปรดปรานผู้นั้น และเราประสงค์จะเมตตาผู้ใด เราก็จะเมตตาผู้นั้น” พระองค์จึงตรัสว่า “เจ้าจะเห็นหน้าของเราไม่ได้ เพราะมนุษย์เห็นหน้าเราแล้วจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้”

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 33

อพยพ 33:7-20 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

โมเสส​เคย​ตั้ง​เต็นท์​หลังหนึ่ง​นอกค่าย ห่าง​ออกไป​จาก​ค่าย และ​เขา​เรียก​มัน​ว่า​เต็นท์​นัดพบ ใคร​ที่​แสวงหา​พระยาห์เวห์ ก็​จะ​ออก​มา​ที่​เต็นท์​หลังนี้​ที่​อยู่​นอก​ค่าย เมื่อ​โมเสส​ออกไป​ที่​เต็นท์​นัดพบ ประชาชน​ทั้งหมด​ก็​จะ​ลุกขึ้น และ​ยืน​อยู่​ที่​ทางเข้า​เต็นท์​ของ​แต่ละคน พวกเขา​จะ​เฝ้าดู​โมเสส จนกระทั่ง​โมเสส​เข้าไป​ใน​เต็นท์​นั้น เมื่อ​โมเสส​เข้าไป​ใน​เต็นท์ เสาเมฆ​ก็​จะ​ลอย​ลงมา​อยู่​ตรง​ทางเข้า​ของ​เต็นท์​นัดพบ​นั้น และ​พระยาห์เวห์​ก็​จะ​พูด​กับ​โมเสส เมื่อ​ประชาชน​ทุกคน​เห็น​เสาเมฆ​ลอย​ลงมา​อยู่​ตรง​ทางเข้า​ของ​เต็นท์​นัดพบ พวกเขา​ทั้งหมด​ก็​จะ​ก้ม​กราบ​ลง​ที่​ตรง​ทางเข้า​เต็นท์​ของ​ตัวเอง พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โมเสส​แบบ​ซึ่งๆ​หน้า เหมือนกับ​ที่​คน​คุย​กับ​เพื่อน​ของเขา และ​เมื่อ​โมเสส​กลับ​มา​ที่​ค่าย โยชูวา​ผู้ช่วย​ของเขา ลูก​ของ​นูน ก็​จะ​ยังคง​อยู่​ที่​เต็นท์​นั้น โมเสส​พูด​กับ​พระยาห์เวห์​ว่า “ดูสิ พระองค์​บอก​กับ​ข้าพเจ้า​ว่า ‘ให้​นำ​ประชาชน​เหล่านี้​ขึ้นไป’ แต่​พระองค์​ไม่ได้​เปิดเผย​ว่า​พระองค์​จะ​ส่ง​ใคร​ไป​กับ​ข้าพเจ้า​บ้าง พระองค์​พูด​ว่า ‘เรา​รู้จัก​เจ้า​ดี และ​เรา​ก็​ชื่นชอบ​เจ้า​ด้วย’ ตอนนี้ ถ้า​ข้าพเจ้า​เป็น​ที่​ชื่นชอบ​ใน​สายตา​ของ​พระองค์ ขอ​พระองค์​เปิดเผย​ทาง​ของ​พระองค์​ให้​ข้าพเจ้า​ได้​รู้จัก​ด้วยเถิด เพื่อ​ข้าพเจ้า​จะ​ได้​รู้จัก​พระองค์ และ​เป็น​ที่​ชื่นชอบ​ใน​สายตา​ของ​พระองค์ อย่าลืม​ว่า​ประชาชน​พวกนี้​เป็น​ชนชาติ​ของ​พระองค์​เอง” พระยาห์เวห์​พูด​ว่า “ตัวเรา​จะ​ไป​กับเจ้า และ​นำทาง​เจ้า” โมเสส​พูด​กับ​พระองค์​ว่า “ถ้า​พระองค์​ไม่ไป ก็​ขอ​อย่า​ได้​นำ​พวก​ข้าพเจ้า​ไป​จาก​ที่นี่​เลย ถ้า​พระองค์​ไม่ไป​กับ​พวก​ข้าพเจ้า แล้ว​จะ​มี​อะไร​แสดง​ให้​เห็น​ว่า พระองค์​พอใจ​ใน​ตัว​ข้าพเจ้า​และ​คน​ของ​พระองค์ แล้ว​ข้าพเจ้า​และ​คน​ของ​พระองค์​จะ​แตกต่าง​จาก​ชนชาติ​อื่นๆ​บน​พื้น​แผ่นดิน​โลกนี้​อย่างไร” พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โมเสส​ว่า “เรา​จะ​ทำ​ตาม​สิ่ง​ที่​เจ้า​ได้​พูด​มานี้ เพราะ​เรา​ชอบใจ​ใน​ตัวเจ้า และ​เรา​รู้จัก​เจ้าดี” โมเสส​พูด​ว่า “ขอ​ได้โปรด​แสดง​รัศมี​ของ​พระองค์​ให้​ข้าพเจ้า​เห็น​ด้วยเถิด” พระยาห์เวห์​จึง​พูด​ว่า “เรา​จะ​ทำ​ให้​ความดี​ทั้งหมด​ของเรา ผ่าน​ไป​ต่อหน้า​เจ้า และ​เรา​จะ​เรียก​ชื่อ​พระยาห์เวห์​ต่อหน้า​เจ้า เรา​อยาก​จะ​ทำดี​กับ​ใคร เรา​ก็​จะ​ทำดี​กับ​คนนั้น เรา​อยาก​จะ​เมตตา​ใคร เรา​ก็​จะ​เมตตา​คนนั้น” พระยาห์เวห์​พูด​ว่า “เจ้า​จะ​ไม่​สามารถ​มอง​หน้า​เรา​ได้ เพราะ​ไม่มี​มนุษย์​คนไหน​ที่​เห็น​หน้า​เรา แล้ว​ยัง​มีชีวิต​อยู่ได้”

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 33

อพยพ 33:7-20 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ฝ่ายโมเสสตั้งพลับพลาหลังหนึ่งไว้ข้างนอกไกลจากค่าย และเรียกว่าพลับพลาแห่งชุ​มนุ​ม ต่อมาทุกคนซึ่งปรารถนาจะเข้าเฝ้าพระเยโฮวาห์​ก็​ออกไปยังพลับพลาแห่งชุ​มนุ​ม ซึ่งตั้งอยู่นอกบริเวณค่าย และต่อมาเมื่อไรที่โมเสสออกไปยังพลับพลานั้น พลไพร่ทั้งปวงก็จะลุกขึ้นยืนอยู่​ที่​ประตู​เต็นท์​ของตน มองดู​โมเสสจนท่านเข้าไปในพลับพลา ครั้นโมเสสเข้าไปในพลับพลาแล้ว เสาเมฆก็ลอยลงมาตั้งอยู่​ที่​ประตู​พลับพลา แล​้วพระเยโฮวาห์​ก็​ตรัสสนทนากับโมเสส เวลาพลไพร่ทั้งปวงเห็นเสาเมฆนั้นตั้งอยู่​ที่​ประตู​พล​ับพลาเมื่อไร ทุ​กคนก็จะลุกขึ้นยืนนมัสการอยู่​ที่​ประตู​เต็นท์​ของตน ดังนี้​แหละพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสสองต่อสอง เหมือนมิตรสหายสนทนากัน แล​้วโมเสสก็​กล​ับไปยังค่าย แต่​โยชูวาผู้​รับใช้​หนุ่ม ผู้​เป็นบุตรชายของนูน มิได้​ออกไปจากพลับพลา โมเสสกราบทูลพระเยโฮวาห์​ว่า “​ดู​เถิด พระองค์​ได้​ตรั​สส​ั่งข้าพระองค์​ว่า ‘จงนำพลไพร่​นี้​ขึ้นไป​’ แต่​พระองค์​มิได้​แจ​้งให้ข้าพระองค์ทราบว่า จะใช้​ผู้​ใดขึ้นไปกับข้าพระองค์ แม้​กระนั้นพระองค์​ก็​ยังตรัสกับข้าพระองค์​ว่า ‘เรารู้จักเจ้าตามชื่อของเจ้า และเจ้าก็​ได้​รับความกรุณาในสายตาของเราด้วย’ ฉะนั้นบัดนี้ ข้าพระองค์ทูลวิงวอนต่อพระองค์ ถ้าแม้​ข้าพระองค์​ได้​รับพระกรุณาในสายพระเนตรของพระองค์​แล้ว ขอทรงโปรดสำแดงพระมรรคาของพระองค์​ให้​ข้าพระองค์​เห​็นในกาลบัดนี้ เพื่อข้าพระองค์จะรู้จักพระองค์ แล​้วจะรับพระกรุณาในสายพระเนตรของพระองค์ และขอทรงถือว่าชนชาติ​นี้​เป็นพลไพร่ของพระองค์” ฝ่ายพระองค์ตรั​สว​่า “เราเองจะไปกับเจ้า และให้​เจ้​าได้​พัก​” ฝ่ายโมเสสจึงกราบทูลพระองค์​ว่า “ถ้าพระองค์​มิได้​เสด็จไปกับข้าพระองค์ ก็​ขออย่านำพวกข้าพระองค์ขึ้นไปจากที่​นี่​เลย ทำอย่างไรจะทราบได้​ตรงนี้​ว่า ข้าพระองค์และพลไพร่ของพระองค์​ได้​รับพระกรุณาในสายพระเนตรของพระองค์​แล้ว ก็​เมื่อพระองค์เสด็จไปกับพวกข้าพระองค์ด้วยมิ​ใช่​หรือ ดังนี้ เราทั้งหลายทั้งข้าพระองค์และพลไพร่ของพระองค์จึงจะแยกออกจากชนชาติทั้งปวงที่​อยู่​บนพื้นแผ่นดินโลก” ฝ่ายพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “เราจะกระทำสิ่งที่​เจ้​ากล่าวถึงนี้ด้วยเพราะว่าเจ้าได้รับความกรุณาในสายตาของเราแล้ว และเรารู้จักเจ้าตามชื่อของเจ้า” โมเสสจึงกราบทูลว่า “ขอทรงโปรดสำแดงสง่าราศีของพระองค์​แก่​ข้าพระองค์​เถิด​” พระองค์​จึงตรัสตอบว่า “เราจะให้​คุณความดี​ของเราประจั​กษ​์​แจ​้งต่อหน้าเจ้า และเราจะประกาศนามของเราคือ เยโฮวาห์ ให้​ประจักษ์​ต่อหน้าเจ้า เราประสงค์จะโปรดปรานผู้​ใด เราก็จะโปรดปรานผู้​นั้น และเราประสงค์จะเมตตาแก่​ผู้ใด เราก็จะเมตตาผู้​นั้น​” พระองค์​จึงตรั​สว​่า “​เจ้​าจะเห็นหน้าของเราไม่​ได้ เพราะมนุษย์​เห​็นหน้าเราแล้วจะมี​ชี​วิตอยู่​ไม่ได้​”

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 33

อพยพ 33:7-20 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ฝ่ายโมเสสเคยตั้งเต็นท์หลังหนึ่งไว้ข้างนอกไกลจากค่าย และเรียกว่า เต็นท์นัดพบ ต่อมาทุกคนซึ่งปรารถนาจะเข้าเฝ้าพระเจ้า ก็มักจะออกไปยังเต็นท์นัดพบ ซึ่งตั้งอยู่นอกบริเวณค่าย และเมื่อไรที่โมเสสออกไปยังเต็นท์นั้น ประชาชนทั้งปวงก็จะลุกขึ้นยืนอยู่ที่ ประตูเต็นท์ของตนมองดูโมเสส จนท่านเข้าไปในเต็นท์ ครั้นโมเสสเข้าไปในเต็นท์แล้ว เสาเมฆก็ลอยลงมาตั้งอยู่ที่ประตูเต็นท์ แล้วพระเจ้าก็ตรัสสนทนากับโมเสส เวลาประชาชนทั้งปวงเห็นเสาเมฆนั้นตั้งอยู่ที่ ประตูเต็นท์เมื่อไร ทุกคนก็จะลุกขึ้นยืนนมัสการอยู่ที่ประตูเต็นท์ของตน ดังนี้แหละพระเจ้าเคยตรัสสนทนากับโมเสสสองต่อสอง เหมือนมิตรสหายสนทนากัน แล้วโมเสสก็กลับไปยังค่าย แต่โยชูวาผู้รับใช้หนุ่ม ผู้เป็นบุตรของนูน มิได้ ออกไปจากเต็นท์ โมเสสกราบทูลพระเจ้าว่า <<นี่แหละพระองค์ได้ตรัสสั่งข้าพระองค์ว่า <จงนำประชากรนี้ขึ้นไป> แต่พระองค์มิได้แจ้งให้ข้าพระองค์ทราบว่า จะใช้ผู้ใดขึ้นไปกับข้าพระองค์ แม้กระนั้นพระองค์ก็ยังตรัสกับข้าพระองค์ว่า <เรารู้จักเจ้าด้วยนามของเจ้า และเจ้าเป็นที่โปรดปรานของเราแล้ว> เหตุฉะนี้ ถ้าแม้ข้าพระองค์เป็นที่โปรดปรานของพระองค์แล้ว ขอพระองค์ทรงโปรดสำแดงพระมรรคาของพระองค์ให้ ข้าพระองค์เห็นในกาลบัดนี้ เพื่อข้าพระองค์จะรู้จักพระองค์ แล้วจะรับความเมตตาในสายพระเนตรของพระองค์เสมอไป และขอทรงนับชนชาตินี้เป็นประชากรของพระองค์>> ฝ่ายพระองค์ตรัสว่า <<เราเองจะไปกับเจ้า และให้เจ้าได้พัก>> ฝ่ายโมเสสจึงกราบทูลพระองค์ว่า <<ถ้าพระองค์มิได้เสด็จไปกับข้าพระองค์ ก็ขออย่านำพวกข้าพระองค์ขึ้นไปจากที่นี่เลย ทำอย่างไรจะทราบได้ว่า ข้าพระองค์และประชากรของพระองค์เป็นที่โปรดปราน ของพระองค์แล้ว ก็เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นไปกับพวกข้าพระองค์ด้วยมิใช่หรือ ดังนี้ข้าพระองค์และประชากรของพระองค์ จึงแตกต่างกับชนชาติอื่นๆทั่วพื้นแผ่นดินโลก>> ฝ่ายพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า <<สิ่งซึ่งเจ้าขอแล้วเราจะกระทำตาม เพราะว่าเจ้าเป็นที่โปรดปรานของเราแล้ว และเรารู้จักชื่อของเจ้า>> โมเสสจึงกราบทูลว่า <<ขอทรงโปรดสำแดงพระสิริของพระองค์แก่ข้าพระองค์เถิด>> พระองค์จึงตรัสตอบว่า <<เราจะให้คุณความดีของเราประจักษ์แจ้งต่อหน้าเจ้า และเราจะประกาศนามของเราคือ เยโฮวาห์ ให้ประจักษ์ต่อหน้าเจ้า เราประสงค์จะโปรดปรานผู้ใดก็จะโปรดปรานผู้นั้น และเราประสงค์จะเมตตาแก่ผู้ใด เราก็จะเมตตาผู้นั้น>> พระองค์จึงตรัสว่า <<เจ้าจะเห็นหน้าของเราไม่ได้ เพราะมนุษย์เห็นหน้าเราแล้วจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้>>

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 33

อพยพ 33:7-20 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

โมเสสเคยตั้งเต็นท์หลังหนึ่งไว้นอกค่าย ไกลออกมาหน่อยหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า “เต็นท์นัดพบ” ทุกคนที่ต้องการคำปรึกษาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไปที่เต็นท์นัดพบซึ่งอยู่นอกค่ายนั้น เมื่อใดก็ตามที่โมเสสออกไปที่เต็นท์นัดพบ ประชากรทั้งหมดจะลุกขึ้นยืนอยู่ตรงทางเข้าเต็นท์ของตนคอยดูจนโมเสสเข้าไปในเต็นท์นัดพบ เมื่อโมเสสเข้าไป เสาเมฆจะเคลื่อนมาหยุดอยู่ตรงทางเข้าขณะที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสส ทุกครั้งที่ประชากรเห็นเสาเมฆอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ พวกเขาทุกคนก็จะยืนนมัสการอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์ของตน องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสต่อหน้าเหมือนเพื่อนคุยกัน หลังจากนั้นโมเสสจะกลับมาที่ค่ายพัก แต่โยชูวาบุตรนูนชายหนุ่มผู้ช่วยของโมเสสยังคงอยู่ในเต็นท์ โมเสสกราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “พระองค์ตรัสกับข้าพระองค์ว่า ‘จงนำประชากรเหล่านี้ไป’ แต่พระองค์ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะทรงส่งผู้ใดไปกับข้าพระองค์ พระองค์ตรัสว่า ‘เรารู้จักชื่อของเจ้าและเจ้าเป็นที่โปรดปรานของเรา’ หากพระองค์ทรงพอพระทัยข้าพระองค์ ขอทรงสอนทางของพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะรู้จักพระองค์และเป็นที่โปรดปรานของพระองค์สืบไป นอกจากนี้ขอทรงระลึกว่าชนชาตินี้เป็นประชากรของพระองค์” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “เราเองจะไปกับเจ้าและให้เจ้าได้หยุดพัก” โมเสสจึงกราบทูลว่า “หากพระองค์ไม่ได้เสด็จไปกับข้าพระองค์ทั้งหลายก็ขออย่าให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเคลื่อนไปจากที่นี่เลย หากพระองค์ไม่ได้เสด็จไปด้วย ใครเล่าจะทราบได้ว่าข้าพระองค์และประชากรของพระองค์เป็นที่โปรดปรานและแตกต่างจากประชากรอื่นใดบนพื้นโลก?” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เราจะทำตามที่เจ้าขอ เพราะเจ้าเป็นที่โปรดปรานของเรา และเรารู้จักชื่อของเจ้า” โมเสสจึงกราบทูลว่า “บัดนี้ขอทรงสำแดงพระเกียรติสิริของพระองค์แก่ข้าพระองค์” และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะให้ความดีทั้งหมดของเราประจักษ์แจ้งต่อหน้าเจ้า และเราจะประกาศนามของเรา คือพระยาห์เวห์ต่อหน้าเจ้า เราจะเมตตาใครก็จะเมตตาคนนั้น เราจะกรุณาใครก็จะกรุณาคนนั้น แต่เจ้าไม่อาจเห็นหน้าเราเพราะมนุษย์เห็นเราแล้วไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้”

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 33

อพยพ 33:7-20 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

โมเสส​มัก​จะ​ตั้ง​กระโจม​ไว้​ที่​นอก​ค่าย และ​เรียก​ว่า กระโจม​ที่​นัด​หมาย ทุก​คน​ที่​แสวง​หา​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​จะ​ออก​ไป​ยัง​กระโจม​ที่​นัด​หมาย​ซึ่ง​อยู่​ที่​นอก​ค่าย เมื่อใด​ที่​โมเสส​ออก​ไป​ยัง​กระโจม​หลัง​นั้น ประชาชน​ทั้ง​ปวง​จะ​ลุก​ขึ้น ทุก​คน​ยืน​อยู่​ที่​ทาง​เข้า​กระโจม​ของ​ตน​มอง​ตาม​โมเสส จน​ท่าน​เข้า​ไป​ใน​กระโจม ครั้น​โมเสส​เข้า​ไป​ใน​กระโจม เมฆ​ก้อน​มหึมา​ดั่ง​เสา​หลัก​ก็​ลอย​เคลื่อน​ลง​มา และ​หยุด​อยู่​ที่​ทาง​เข้า​กระโจม แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​สนทนา​กับ​โมเสส เวลา​ประชาชน​ทั้ง​ปวง​เห็น​เมฆ​ก้อน​มหึมา​ดั่ง​เสา​หลัก​อยู่​ที่​ประตู​กระโจม พวก​เขา​ทุก​คน​จะ​ยืน​ขึ้น แล้ว​ก้ม​ลง​กราบ​นมัสการ​อยู่​ที่​ทาง​เข้า​กระโจม พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​สนทนา​กับ​โมเสส​ต่อ​หน้า​เช่น​เดียว​กับ​คน​หนึ่ง​พูด​กับ​สหาย แล้ว​โมเสส​กลับ​ไป​ยัง​ค่าย​อีก ส่วน​ผู้​ช่วย​หนุ่ม​ของ​ท่าน​ชื่อ​โยชูวา​บุตร​ของ​นูน​ยัง​อยู่​ใน​กระโจม โมเสส​พูด​กับ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า “พระ​องค์​ดู​เถิด พระ​องค์​พูด​กับ​ข้าพเจ้า​ไว้​ว่า ‘จง​พา​ชน​ชาติ​พวก​นี้​ออก​ไป’ แต่​พระ​องค์​ยัง​ไม่​ได้​ให้​ข้าพเจ้า​ทราบ​ว่า​พระ​องค์​จะ​ให้​ใคร​ไป​กับ​ข้าพเจ้า กระนั้น​พระ​องค์​ยัง​กล่าว​อีก​ว่า ‘เรา​รู้จัก​เจ้า​ดี​แม้​แต่​ชื่อ​ของ​เจ้า และ​เจ้า​เป็น​ที่​โปรดปราน​ใน​สายตา​ของ​เรา​ด้วย’ ฉะนั้น​บัดนี้​หาก​ว่า​ข้าพเจ้า​เป็น​ที่​โปรดปราน​ของ​พระ​องค์ โปรด​ให้​ข้าพเจ้า​ทราบ​ความ​ประสงค์​ของ​พระ​องค์​เถิด ข้าพเจ้า​จะ​ได้​รู้จัก​พระ​องค์​และ​เป็น​ที่​โปรดปราน​ของ​พระ​องค์​ต่อ​ไป ขอ​พระ​องค์​ระลึก​ด้วย​ว่า​ประชา​ชาติ​นี้​เป็น​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​โดย​แท้​จริง” พระ​องค์​กล่าว​ว่า “เรา​จะ​ไป​กับ​เจ้า​เอง และ​เรา​จะ​ให้​เจ้า​ได้​หยุด​พัก” ท่าน​ตอบ​ว่า “ถ้า​พระ​องค์​ไม่​ไป​กับ​ข้าพเจ้า ก็​ขอ​อย่า​ให้​พวก​ข้าพเจ้า​ต้อง​ออก​ไป​จาก​ที่​นี่​เลย จะ​มี​ใคร​ทราบ​ได้​อย่างไร​ว่า ข้าพเจ้า​และ​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​เป็น​ที่​โปรดปราน​ของ​พระ​องค์ นอกจาก​ว่า​พระ​องค์​จะ​ไป​กับ​พวก​เรา ข้าพเจ้า​และ​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​แตกต่าง​กับ​ชน​ชาติ​อื่น​บน​พื้น​โลก​ก็​เนื่องจาก​พระ​องค์​ไป​กับ​พวก​เรา​มิ​ใช่​หรือ” แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​โมเสส​ว่า “เรา​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​เจ้า​ขอ​มา​นี้ เพราะ​เจ้า​เป็น​ที่​โปรดปราน​ของ​เรา​และ​เรา​รู้จัก​เจ้า​ดี​แม้​แต่​ชื่อ​ของ​เจ้า” โมเสส​ตอบ​ว่า “ขอ​พระ​องค์​โปรด​ให้​ข้าพเจ้า​เห็น​พระ​บารมี​ของ​พระ​องค์​เถิด” พระ​องค์​กล่าว​ว่า “เรา​จะ​ทำ​ให้​คุณ​ความ​ดี​ของ​เรา​ทั้ง​หมด​ปรากฏ​ต่อ​หน้า​เจ้า และ​จะ​ประกาศ​ใน​นาม​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ต่อ​หน้า​เจ้า เรา​มี​ความ​เมตตา​ให้​กับ​ผู้​ใด เรา​ก็​จะ​เมตตา​ผู้นั้น และ​เรา​มี​ความ​สงสาร​ให้​กับ​ผู้​ใด เรา​ก็​จะ​สงสาร​ผู้​นั้น” พระ​องค์​กล่าว​ว่า “แต่​เจ้า​จะ​มอง​ไม่​เห็น​หน้า​เรา เพราะ​ไม่​มี​ผู้​ใด​ที่​เห็น​เรา​แล้ว​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​รอด”

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 33