อพยพ 32:1-27

อพยพ 32:1-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

เมื่อ​ประชาชน​เห็น​ว่า​โมเสส​ขึ้นไป​บน​ภูเขา​นาน ไม่ยอม​ลง​มา​สักที พวกเขา​จึง​พากัน​ไป​หา​อาโรน และ​พูด​ว่า “ลุกขึ้นมา​สร้าง​พระต่างๆ​ให้​กับ​พวกเรา​หน่อย เพื่อ​พระ​พวกนั้น​จะได้​มา​นำหน้า​พวกเรา เพราะ​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​โมเสส ชาย​คน​ที่​นำ​พวกเรา​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์” อาโรน​พูด​กับ​พวกเขา​ว่า “ไป​ถอด​ต่างหู​ทองคำ จาก​หู​ของเมีย​พวกท่าน จาก​ลูกชาย​และ​ลูกสาว​ของ​พวกท่าน และ​เอา​มา​ให้​เรา” ดังนั้น ประชาชน​จึง​ถอด​ต่างหู​ทองคำ​ออก และ​เอา​มา​ให้​อาโรน อาโรน​ก็​รับ​ทองคำ​จาก​มือ​ของ​พวกเขา แล้ว​เอา​เครื่องมือ​มา​ตี​ทอง​ที่​หลอม​แล้วนั้น​ขึ้น​เป็น​ลูกวัว พวกเขา​พูด​ว่า “ชาว​อิสราเอล​ทั้งหลาย นี่​คือ​พวก​พระ​ของ​พวกท่าน ผู้ที่​นำ​พวกท่าน​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์” เมื่อ​อาโรน​เห็นเข้า เขา​ก็​สร้าง​แท่นบูชา​ไว้​ตรงหน้า​ลูกวัว​ตัวนั้น อาโรน​ประกาศ​ว่า “พรุ่งนี้​จะ​มี​งาน​เทศกาล​เฉลิม​ฉลอง​พระยาห์เวห์” วันรุ่งขึ้น​ประชาชน​ก็​ลุกขึ้น​แต่​เช้าตรู่ และ​ถวาย​เครื่อง​เผา​บูชา​และ​เครื่อง​สังสรรค์​บูชา แล้ว​พวกเขา​ก็​นั่งลง​ดื่ม​กิน และ​ลุกขึ้น​ร้องรำ​กัน​อย่าง​สนุก​สนาน พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โมเสส​ว่า “ลงไป​ได้แล้ว ตอนนี้​คน​ของเจ้า ที่​เจ้า​ได้​พา​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์​นั้น กำลัง​ทำตัว​เสื่อม​เสีย พวกเขา​ได้​หัน​ไป​จาก​ทาง​ที่​เรา​ได้​สั่ง​พวกเขา​ไว้ พวกเขา​ได้​หล่อ​ลูกวัว​ขึ้นมา​สำหรับ​ตัว​พวกเขา​เอง พวกเขา​ได้​กราบไหว้​มัน และ​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ให้​กับมัน พวกเขา​ยัง​พูด​อีก​ว่า ‘ชาว​อิสราเอล​ทั้งหลาย นี่​คือ​พวก​พระ​ของ​พวกท่าน ที่​ได้​นำ​พวกท่าน​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์’” พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โมเสส​ว่า “เรา​ได้​เห็น​ชนชาติ​นี้​แล้ว มัน​ดื้อดึง​เหลือเกิน ตอนนี้ อย่า​มา​ยุ่ง​กับเรา เพื่อ​ความโกรธ​ของเรา​จะ​ได้​เผาผลาญ​กลืนกิน​พวกมัน​จนหมด แล้ว​เรา​จะ​สร้าง​เจ้า​ขึ้นมา​เป็น​ชนชาติ​ใหม่” โมเสส​ได้​อ้อนวอน​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของเขา​ว่า “ข้าแต่​พระยาห์เวห์ อย่า​ปล่อย​ให้​ความโกรธ​ของ​พระองค์ เผาผลาญ​ประชาชน​ของ​พระองค์​เลย พระองค์​เป็น​ผู้​ที่​พา​คน​พวกนี้​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์ ด้วย​พลัง​อัน​ยิ่งใหญ่​และ​มือ​ของ​พระองค์​ที่​ยื่น​ออก​มา​ช่วย พระองค์​จะ​ทำ​ให้​ชาว​อียิปต์​พูด​ได้​ว่า ‘พระยาห์เวห์​มี​แผนชั่ว​ในใจ ถึง​ได้​พา​ชาว​อิสราเอล​ออก​มา เพื่อ​พระองค์​จะ​ได้​ฆ่า​พวกเขา​ที่​ภูเขา​และ​ทำลาย​พวกเขา​ให้​หมดสิ้น​ไป​จาก​โลกนี้’ ขอให้​หัน​จาก​ความ​เกรี้ยว​โกรธ​ของ​พระองค์​ด้วยเถิด และ​ขอให้​พระองค์​เปลี่ยนใจ อย่า​ได้​ทำ​สิ่ง​ที่​เลวร้าย​กับ​ประชาชน​ของ​พระองค์​เลย ขอให้​พระองค์​ระลึก​ถึง​อับราฮัม อิสอัค และ​อิสราเอล พวก​ผู้รับใช้​ของ​พระองค์ พระองค์​ได้​สาบาน​ไว้​กับ​พวกเขา​โดย​อ้าง​ชื่อ​ของ​พระองค์​เอง​ว่า ‘เรา​จะ​ทำให้​ลูกหลาน​ของ​พวกเจ้า​เพิ่มทวี อย่าง​กับ​ดวงดาว​บน​ท้องฟ้า และ​เรา​ได้​สัญญา​ว่า​เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​ทั้งหมด​นี้​ให้​กับ​ลูกหลาน​ของ​พวกเจ้า และ​พวกเขา​จะ​ได้​ครอบ​ครอง​มัน​ตลอดไป’” แล้ว​พระยาห์เวห์​ก็​เปลี่ยนใจ เกี่ยวกับ​เรื่อง​เลวร้าย​ที่​พระองค์​บอก​ว่า​จะ​ทำ​กับ​ประชาชน​ของ​พระองค์ แล้ว​โมเสส​ก็​กลับ​ลงมา​จาก​ภูเขา พร้อมกับ​ถือ​แผ่นหิน​แห่ง​ข้อตกลง​สองแผ่น​ที่​มี​คำสั่ง เขียน​อยู่​ทั้ง​ด้านหน้า​และ​ด้านหลัง แผ่นหิน​นั้น​เป็น​ผลงาน​ของ​พระเจ้า ตัวหนังสือ​บน​แผ่นหิน​ก็​เป็น​ลายมือ​ของ​พระเจ้า สลัก​อยู่​บน​แผ่นหิน​ทั้ง​สอง​นั้น เมื่อ​โยชูวา​ได้ยิน​เสียง​ร้อง​ตะโกน​ของ​ประชาชน เขา​จึง​พูด​กับ​โมเสส​ว่า “มี​เสียง​ของ​สงคราม​อยู่​ใน​ค่าย” โมเสส​ตอบ​ว่า “เสียง​ที่​เรา​ได้ยิน​นั้น มัน​ไม่ใช่​เสียง​ร้อง​ตะโกน​แห่ง​ชัยชนะ​หรือ​พ่ายแพ้ แต่​เป็น​เสียง​ร้องเพลง” เมื่อ​โมเสส​เข้ามา​ใกล้​ค่าย เขา​ก็​เห็น​ลูกวัว​ทองคำ​และ​การ​ร้องรำ​ทำเพลง โมเสส​ก็​โกรธ​มาก จึง​ขว้าง​หิน​ทั้ง​สองแผ่น​นั้น​จาก​มือ ทำ​ให้​มัน​แตก​เป็น​ชิ้นๆ​อยู่​ที่​ตีนเขา​นั้น แล้ว​โมเสส​ก็​เอา​ลูกวัว ที่​ประชาชน​สร้าง​ขึ้นมา เผาไฟ และ​บด​จน​เป็น​ผง แล้ว​โปรย​ลง​ใน​น้ำ และ​บังคับ​ให้​ประชาชน​ชาว​อิสราเอล​ดื่ม​มัน โมเสส​พูด​กับ​อาโรน​ว่า “คน​พวกนี้​ไป​ทำ​อะไร​ให้​กับ​พี่​หรือ พี่​ถึง​ได้​นำ​พวกเขา​ไป​ทำ​บาป​อัน​ยิ่งใหญ่​มหาศาล​นี้” อาโรน​ตอบ​ว่า “ขอ​เจ้านาย อย่า​ได้​โกรธ​เลย ท่าน​ก็​รู้จัก​คน​พวกนี้​ดี​อยู่แล้ว มัน​มี​ใจ​เอนเอียง​ที่​จะ​ทำชั่ว​อยู่แล้ว พวกเขา​มา​พูด​กับ​ผม​ว่า ‘สร้าง​พวกพระ​ขึ้นมา​ให้​กับเรา เพื่อ​มัน​จะ​ได้​นำหน้า​พวกเรา​ไป เพราะ​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​โมเสส ชาย​คน​ที่​นำ​พวกเรา​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์’ ผม​ก็​เลย​บอก​กับ​พวกเขา​ว่า ‘ใคร​ที่​มี​ทองคำ ก็​ให้​ถอด​มา​ให้​กับ​ผม’ แล้ว​ผม​ก็​โยน​มัน​เข้าไป​ใน​กองไฟ แล้ว​ลูกวัว​ตัวนี้​ก็​ออกมา” เมื่อ​โมเสส​เห็น​ว่า​ประชาชน​วุ่นวาย​มาก ไม่​สามารถ​ควบคุม​ได้แล้ว เพราะ​อาโรน​ได้​ปล่อย​พวกเขา​จน​ไม่​สามารถ​ควบคุม​ได้ และ​นี่​จะ​เป็น​เหตุ​ทำ​ให้​พวก​ศัตรู​หัวเราะ​เยาะ​ได้ โมเสส​จึง​ไป​ยืน​อยู่​ตรง​ประตู​เข้า​ค่าย​และ​พูด​ว่า “ใคร​ที่​อยู่​ฝ่าย​พระยาห์เวห์​มา​หา​เรา” ชาว​เลวี​ทั้งหมด​ได้​มา​รวมตัว​กับ​โมเสส โมเสส​พูด​กับ​พวกเขา​ว่า “พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​อิสราเอล พูด​อย่างนี้​ว่า ‘ให้​ทุกคน​พก​ดาบ​ไว้​ข้างตัว แล้ว​เข้า​ไป​ใน​ค่าย แล้ว​ให้​เดิน​กลับไป​กลับมา​จาก​ประตู​ด้านนี้​ไป​สุด​ด้านโน้น ฆ่า​คน​พวกนั้น​ให้​หมด ไม่ว่า​จะ​เป็น​พี่น้อง เพื่อนฝูง หรือ​เพื่อน​บ้าน​ของท่าน​ก็ตาม’”

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 32

อพยพ 32:1-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

เมื่อ​ประชาชน​เห็น​ว่า​โมเสส​ขึ้นไป​บน​ภูเขา​นาน ไม่ยอม​ลง​มา​สักที พวกเขา​จึง​พากัน​ไป​หา​อาโรน และ​พูด​ว่า “ลุกขึ้นมา​สร้าง​พระต่างๆ​ให้​กับ​พวกเรา​หน่อย เพื่อ​พระ​พวกนั้น​จะได้​มา​นำหน้า​พวกเรา เพราะ​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​โมเสส ชาย​คน​ที่​นำ​พวกเรา​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์” อาโรน​พูด​กับ​พวกเขา​ว่า “ไป​ถอด​ต่างหู​ทองคำ จาก​หู​ของเมีย​พวกท่าน จาก​ลูกชาย​และ​ลูกสาว​ของ​พวกท่าน และ​เอา​มา​ให้​เรา” ดังนั้น ประชาชน​จึง​ถอด​ต่างหู​ทองคำ​ออก และ​เอา​มา​ให้​อาโรน อาโรน​ก็​รับ​ทองคำ​จาก​มือ​ของ​พวกเขา แล้ว​เอา​เครื่องมือ​มา​ตี​ทอง​ที่​หลอม​แล้วนั้น​ขึ้น​เป็น​ลูกวัว พวกเขา​พูด​ว่า “ชาว​อิสราเอล​ทั้งหลาย นี่​คือ​พวก​พระ​ของ​พวกท่าน ผู้ที่​นำ​พวกท่าน​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์” เมื่อ​อาโรน​เห็นเข้า เขา​ก็​สร้าง​แท่นบูชา​ไว้​ตรงหน้า​ลูกวัว​ตัวนั้น อาโรน​ประกาศ​ว่า “พรุ่งนี้​จะ​มี​งาน​เทศกาล​เฉลิม​ฉลอง​พระยาห์เวห์” วันรุ่งขึ้น​ประชาชน​ก็​ลุกขึ้น​แต่​เช้าตรู่ และ​ถวาย​เครื่อง​เผา​บูชา​และ​เครื่อง​สังสรรค์​บูชา แล้ว​พวกเขา​ก็​นั่งลง​ดื่ม​กิน และ​ลุกขึ้น​ร้องรำ​กัน​อย่าง​สนุก​สนาน พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โมเสส​ว่า “ลงไป​ได้แล้ว ตอนนี้​คน​ของเจ้า ที่​เจ้า​ได้​พา​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์​นั้น กำลัง​ทำตัว​เสื่อม​เสีย พวกเขา​ได้​หัน​ไป​จาก​ทาง​ที่​เรา​ได้​สั่ง​พวกเขา​ไว้ พวกเขา​ได้​หล่อ​ลูกวัว​ขึ้นมา​สำหรับ​ตัว​พวกเขา​เอง พวกเขา​ได้​กราบไหว้​มัน และ​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ให้​กับมัน พวกเขา​ยัง​พูด​อีก​ว่า ‘ชาว​อิสราเอล​ทั้งหลาย นี่​คือ​พวก​พระ​ของ​พวกท่าน ที่​ได้​นำ​พวกท่าน​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์’” พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โมเสส​ว่า “เรา​ได้​เห็น​ชนชาติ​นี้​แล้ว มัน​ดื้อดึง​เหลือเกิน ตอนนี้ อย่า​มา​ยุ่ง​กับเรา เพื่อ​ความโกรธ​ของเรา​จะ​ได้​เผาผลาญ​กลืนกิน​พวกมัน​จนหมด แล้ว​เรา​จะ​สร้าง​เจ้า​ขึ้นมา​เป็น​ชนชาติ​ใหม่” โมเสส​ได้​อ้อนวอน​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของเขา​ว่า “ข้าแต่​พระยาห์เวห์ อย่า​ปล่อย​ให้​ความโกรธ​ของ​พระองค์ เผาผลาญ​ประชาชน​ของ​พระองค์​เลย พระองค์​เป็น​ผู้​ที่​พา​คน​พวกนี้​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์ ด้วย​พลัง​อัน​ยิ่งใหญ่​และ​มือ​ของ​พระองค์​ที่​ยื่น​ออก​มา​ช่วย พระองค์​จะ​ทำ​ให้​ชาว​อียิปต์​พูด​ได้​ว่า ‘พระยาห์เวห์​มี​แผนชั่ว​ในใจ ถึง​ได้​พา​ชาว​อิสราเอล​ออก​มา เพื่อ​พระองค์​จะ​ได้​ฆ่า​พวกเขา​ที่​ภูเขา​และ​ทำลาย​พวกเขา​ให้​หมดสิ้น​ไป​จาก​โลกนี้’ ขอให้​หัน​จาก​ความ​เกรี้ยว​โกรธ​ของ​พระองค์​ด้วยเถิด และ​ขอให้​พระองค์​เปลี่ยนใจ อย่า​ได้​ทำ​สิ่ง​ที่​เลวร้าย​กับ​ประชาชน​ของ​พระองค์​เลย ขอให้​พระองค์​ระลึก​ถึง​อับราฮัม อิสอัค และ​อิสราเอล พวก​ผู้รับใช้​ของ​พระองค์ พระองค์​ได้​สาบาน​ไว้​กับ​พวกเขา​โดย​อ้าง​ชื่อ​ของ​พระองค์​เอง​ว่า ‘เรา​จะ​ทำให้​ลูกหลาน​ของ​พวกเจ้า​เพิ่มทวี อย่าง​กับ​ดวงดาว​บน​ท้องฟ้า และ​เรา​ได้​สัญญา​ว่า​เรา​จะ​ยก​แผ่นดิน​ทั้งหมด​นี้​ให้​กับ​ลูกหลาน​ของ​พวกเจ้า และ​พวกเขา​จะ​ได้​ครอบ​ครอง​มัน​ตลอดไป’” แล้ว​พระยาห์เวห์​ก็​เปลี่ยนใจ เกี่ยวกับ​เรื่อง​เลวร้าย​ที่​พระองค์​บอก​ว่า​จะ​ทำ​กับ​ประชาชน​ของ​พระองค์ แล้ว​โมเสส​ก็​กลับ​ลงมา​จาก​ภูเขา พร้อมกับ​ถือ​แผ่นหิน​แห่ง​ข้อตกลง​สองแผ่น​ที่​มี​คำสั่ง เขียน​อยู่​ทั้ง​ด้านหน้า​และ​ด้านหลัง แผ่นหิน​นั้น​เป็น​ผลงาน​ของ​พระเจ้า ตัวหนังสือ​บน​แผ่นหิน​ก็​เป็น​ลายมือ​ของ​พระเจ้า สลัก​อยู่​บน​แผ่นหิน​ทั้ง​สอง​นั้น เมื่อ​โยชูวา​ได้ยิน​เสียง​ร้อง​ตะโกน​ของ​ประชาชน เขา​จึง​พูด​กับ​โมเสส​ว่า “มี​เสียง​ของ​สงคราม​อยู่​ใน​ค่าย” โมเสส​ตอบ​ว่า “เสียง​ที่​เรา​ได้ยิน​นั้น มัน​ไม่ใช่​เสียง​ร้อง​ตะโกน​แห่ง​ชัยชนะ​หรือ​พ่ายแพ้ แต่​เป็น​เสียง​ร้องเพลง” เมื่อ​โมเสส​เข้ามา​ใกล้​ค่าย เขา​ก็​เห็น​ลูกวัว​ทองคำ​และ​การ​ร้องรำ​ทำเพลง โมเสส​ก็​โกรธ​มาก จึง​ขว้าง​หิน​ทั้ง​สองแผ่น​นั้น​จาก​มือ ทำ​ให้​มัน​แตก​เป็น​ชิ้นๆ​อยู่​ที่​ตีนเขา​นั้น แล้ว​โมเสส​ก็​เอา​ลูกวัว ที่​ประชาชน​สร้าง​ขึ้นมา เผาไฟ และ​บด​จน​เป็น​ผง แล้ว​โปรย​ลง​ใน​น้ำ และ​บังคับ​ให้​ประชาชน​ชาว​อิสราเอล​ดื่ม​มัน โมเสส​พูด​กับ​อาโรน​ว่า “คน​พวกนี้​ไป​ทำ​อะไร​ให้​กับ​พี่​หรือ พี่​ถึง​ได้​นำ​พวกเขา​ไป​ทำ​บาป​อัน​ยิ่งใหญ่​มหาศาล​นี้” อาโรน​ตอบ​ว่า “ขอ​เจ้านาย อย่า​ได้​โกรธ​เลย ท่าน​ก็​รู้จัก​คน​พวกนี้​ดี​อยู่แล้ว มัน​มี​ใจ​เอนเอียง​ที่​จะ​ทำชั่ว​อยู่แล้ว พวกเขา​มา​พูด​กับ​ผม​ว่า ‘สร้าง​พวกพระ​ขึ้นมา​ให้​กับเรา เพื่อ​มัน​จะ​ได้​นำหน้า​พวกเรา​ไป เพราะ​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​โมเสส ชาย​คน​ที่​นำ​พวกเรา​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์’ ผม​ก็​เลย​บอก​กับ​พวกเขา​ว่า ‘ใคร​ที่​มี​ทองคำ ก็​ให้​ถอด​มา​ให้​กับ​ผม’ แล้ว​ผม​ก็​โยน​มัน​เข้าไป​ใน​กองไฟ แล้ว​ลูกวัว​ตัวนี้​ก็​ออกมา” เมื่อ​โมเสส​เห็น​ว่า​ประชาชน​วุ่นวาย​มาก ไม่​สามารถ​ควบคุม​ได้แล้ว เพราะ​อาโรน​ได้​ปล่อย​พวกเขา​จน​ไม่​สามารถ​ควบคุม​ได้ และ​นี่​จะ​เป็น​เหตุ​ทำ​ให้​พวก​ศัตรู​หัวเราะ​เยาะ​ได้ โมเสส​จึง​ไป​ยืน​อยู่​ตรง​ประตู​เข้า​ค่าย​และ​พูด​ว่า “ใคร​ที่​อยู่​ฝ่าย​พระยาห์เวห์​มา​หา​เรา” ชาว​เลวี​ทั้งหมด​ได้​มา​รวมตัว​กับ​โมเสส โมเสส​พูด​กับ​พวกเขา​ว่า “พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​อิสราเอล พูด​อย่างนี้​ว่า ‘ให้​ทุกคน​พก​ดาบ​ไว้​ข้างตัว แล้ว​เข้า​ไป​ใน​ค่าย แล้ว​ให้​เดิน​กลับไป​กลับมา​จาก​ประตู​ด้านนี้​ไป​สุด​ด้านโน้น ฆ่า​คน​พวกนั้น​ให้​หมด ไม่ว่า​จะ​เป็น​พี่น้อง เพื่อนฝูง หรือ​เพื่อน​บ้าน​ของท่าน​ก็ตาม’”

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 32

อพยพ 32:1-27 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เมื่อประชาชนเห็นโมเสสล่าช้าอยู่ ไม่ลงมาจากภูเขา จึงพากันมาหาอาโรน กล่าวว่า “จงลุกขึ้นสร้างพระให้เรา ซึ่งจะนำหน้าเรา เพราะว่าโมเสสคนนี้ที่ได้นำเราออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราไม่ทราบว่าเขาเป็นอะไรไปแล้ว” อาโรนจึงกล่าวกับพวกเขาว่า “จงปลดตุ้มหูทองจากหูภรรยาและหูบุตรชายหญิงของเจ้าทั้งหลาย แล้วนำมาให้เราเถิด” ประชาชนทั้งหมดจึงปลดตุ้มหูทองจากหูของตนมามอบให้อาโรน เมื่ออาโรนได้ทองคำจากพวกเขาแล้ว จึงใช้เครื่องมือหล่อทองคำเป็นรูปโคหนุ่ม แล้วเขาทั้งหลายประกาศว่า “โอ อิสราเอล สิ่งเหล่านี้แหละเป็นพระของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์” เมื่ออาโรนเห็นดังนั้นแล้ว จึงสร้างแท่นบูชาไว้ ตรงหน้ารูปโคนั้น แล้วอาโรนประกาศว่า “พรุ่งนี้จะเป็นวันเทศกาลเลี้ยงถวายเกียรติพระยาห์เวห์” รุ่งขึ้นพวกเขาก็ลุกขึ้นแต่เช้าถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัว และนำเครื่องศานติบูชามา ประชาชนก็นั่งลง กินและดื่ม แล้วก็ลุกขึ้นทำสิ่งที่น่าบัดสีต่อกัน พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “เจ้าจงลงไปทันที เพราะว่าประชากรของเจ้าซึ่งเจ้าได้นำออกจากแผ่นดินอียิปต์นั้น ได้ทำเรื่องเสื่อมเสีย พวกเขาได้หันจากทางซึ่งเราบัญชาเขาไว้นั้นอย่างรวดเร็ว คือได้หล่อรูปโคขึ้นสำหรับตน และกราบไหว้ และถวายสัตวบูชาแก่รูปนั้น และกล่าวว่า ‘โอ อิสราเอล สิ่งเหล่านี้แหละเป็นพระของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์’ ” “และพระยาห์เวห์ยังตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เราได้เห็นชนชาตินี้แล้ว และดูสิ เขาเป็นชนชาติที่หัวแข็ง บัดนี้ ขออย่ายับยั้งเรา เพื่อความโกรธของเราจะเดือดพลุ่งขึ้นต่อพวกเขา และเพื่อเราจะทำลายเขาทั้งหลายเสีย ส่วนเจ้า เราจะให้เป็นชนชาติใหญ่” แต่โมเสสกราบทูลวิงวอนพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ทำไมพระองค์จึงกริ้วยิ่งนักต่อประชากรของพระองค์ ซึ่งทรงนำออกจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ และด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์เล่า? ทำไมโปรดให้คนอียิปต์กล่าวว่า ‘พระองค์ทรงนำพวกเขาออกมาเพื่อจะทรงทำร้ายพวกเขา เพื่อจะทรงประหารพวกเขาที่ภูเขาและทำลายพวกเขาเสียจากแผ่นดิน’? ขอพระองค์ทรงหันกลับจากพระพิโรธอันแรงกล้า และขอเปลี่ยนพระทัยอย่าทำอันตรายประชากรของพระองค์ ขอทรงระลึกถึง อับราฮัม อิสอัค และอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์เองทรงปฏิญาณกับเขาเหล่านั้นว่า ‘เราจะให้เชื้อสายของเจ้าทั้งหลายทวีขึ้นเหมือนดังดวงดาวในท้องฟ้า และเราจะยกแผ่นดินนี้ทั้งหมดที่เราสัญญาให้แก่เชื้อสายของพวกเจ้า และพวกเขาจะรับไว้เป็นมรดกตลอดไป’ ” แล้วพระยาห์เวห์จึงเปลี่ยนพระทัย ไม่ทรงทำอันตรายประชากรของพระองค์อย่างที่มีพระดำริไว้แก่ประชากรของพระองค์ โมเสสก็กลับลงมาจากภูเขาถือแผ่นศิลาพระโอวาทสองแผ่นซึ่งจารึกทั้งสองด้าน จารึกทั้งด้านนี้และด้านนั้น แผ่นศิลาทั้งสองแผ่นเป็นพระราชกิจของพระเจ้า และอักษรที่จารึกนั้นเป็นลายพระหัตถ์ของพระเจ้าสลักไว้บนแผ่นศิลานั้น เมื่อโยชูวาได้ยินเสียงประชาชนอื้ออึงอยู่ เขาจึงเรียนโมเสสว่า “มีเสียงสงครามในค่าย” แต่โมเสสตอบว่า “นั่นไม่ใช่เสียงร้องของผู้ชนะ และไม่ใช่เสียงร้องของผู้แพ้ แต่เป็นเสียงร้องเพลงกันที่เราได้ยิน” พอโมเสสเข้ามาใกล้ค่าย ได้เห็นรูปโคและคนเต้นรำ โทสะของโมเสสก็เดือดพลุ่งขึ้น ท่านโยนแผ่นศิลาในมือทิ้งตกแตกเสียที่เชิงภูเขานั่นเอง แล้วท่านเอารูปโคที่พวกเขาทำไว้ไปเผาเสีย และบดเป็นผงโรยลงในน้ำ และบังคับให้คนอิสราเอลดื่ม โมเสสจึงถามอาโรนว่า “ประชาชนนี้ทำอะไรแก่ท่านเล่า? ท่านจึงนำบาปใหญ่นี้มาสู่พวกเขา” อาโรนตอบว่า “อย่าให้ความโกรธของเจ้านายของข้าเดือดพลุ่งขึ้นเลย ท่านก็รู้จักประชาชนพวกนี้แล้วว่า พวกเขาเอนเอียงไปในทางชั่ว พวกเขามากล่าวกับข้าว่า ‘ขอสร้างพระให้เรา ซึ่งจะนำหน้าเรา ด้วยว่าโมเสสคนนี้ที่ได้นำเราออกจากแผ่นดินอียิปต์นั้น เราไม่ทราบว่าเขาเป็นอะไรไปแล้ว’ แล้วข้าตอบพวกเขาว่า ‘ใครมีทองคำให้ปลดออกมา’ พวกเขาก็มอบทองคำให้ข้า แล้วข้าก็โยนลงไปในไฟ แล้วโคนี้ก็ออกมา” เมื่อโมเสสเห็นประชาชนเตลิดไป (เพราะอาโรนปล่อยเขาทั้งหลายให้เตลิดไป จนพวกเขาถูกพวกศัตรูเย้ยหยัน) แล้วโมเสสยืนอยู่ที่ประตูค่ายร้องว่า “ใครอยู่ฝ่ายพระยาห์เวห์? จงมาหาเราเถิด” คนเลวีทั้งหมดก็มาหาโมเสสพร้อมกัน โมเสสจึงกล่าวกับพวกเขาว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ‘แต่ละคน จงเหน็บดาบแนบกายและไปมาตามประตูค่าย แล้วแต่ละคนจงฆ่าพี่น้องและมิตรสหายอีกทั้งเพื่อนบ้านของตัวเอง’ ”

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 32

อพยพ 32:1-27 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เมื่อพลไพร่​เห​็นโมเสสล่าช้าอยู่ ไม่​ลงมาจากภูเขาจึงได้พากันมาหาอาโรน เรียนว่า “​ลุกขึ้น ขอท่านสร้างพระให้​แก่​พวกข้าพเจ้า ซึ่งจะนำพวกข้าพเจ้าไป ด้วยว่าโมเสสคนนี้​ที่​ได้​นำข้าพเจ้าออกมาจากประเทศอียิปต์เป็นอะไรไปเสียแล้ว ข้าพเจ้าไม่​ทราบ​” ฝ่ายอาโรนได้​กล​่าวแก่เขาว่า “จงปลดตุ้มหูทองคำออกจากหู​ภรรยา และหู​บุ​ตรชายหญิงของเจ้าทั้งหลายแล้วนำมาให้เราเถิด” พลไพร่ทั้งปวงจึงได้ปลดตุ้มหูทองคำจากหูของตนมามอบให้กับอาโรน เมื่ออาโรนได้รับทองคำจากมือเขาแล้ว จึงใช้เครื่องมือสลักหล่อรูปเป็​นว​ัวหนุ่ม แล​้วเขาทั้งหลายประกาศว่า “​โอ อิสราเอล สิ​่งเหล่านี้แหละเป็นพระของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์” เมื่ออาโรนได้ยินดังนั้นแล้วจึงสร้างแท่นบูชาไว้ตรงหน้ารูปวัวหนุ่​มน​ั้น แล​้วอาโรนประกาศว่า “​พรุ่งนี้​จะเป็​นว​ันเทศกาลเลี้ยงถวายพระเยโฮวาห์” ครั้​นร​ุ่งขึ้นเขาตื่นขึ้นแต่​เช้ามืด ถวายเครื่องเผาบู​ชา และนำเครื่องสันติบูชามา พลไพร่​ก็​นั่งลงกินและดื่มแล้​วก​็​ลุ​กขึ้นเล่นสนุ​กก​ัน ฝ่ายพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “​เจ้​าลงไปเถิด ด้วยว่าชนชาติของเจ้าซึ่งเจ้าได้นำออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์​นั้น ได้​ทำความเสื่อมเสียมากแล้ว เขาได้หันเหออกจากทางซึ่งเราสั่งเขาไว้​อย่างรวดเร็ว คือหล่อรูปวัวขึ้​นร​ูปหนึ่งสำหรับตน และกราบไหว้​รู​ปน​ั้น และถวายสัตวบูชาแก่​รู​ปน​ั้นและกล่าวว่า ‘​โอ อิสราเอล สิ​่งเหล่านี้แหละเป็นพระของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์’” แล​้วพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “เราเห็นพลไพร่​นี้​แล้ว ดู​เถิด เขาเป็นชนชาติ​คอแข็ง ฉะนั้นบัดนี้​เจ้​าจงปล่อยเราตามลำพัง เพื่อความพิโรธของเราจะเดือดพลุ่งขึ้นต่อเขาและเพื่อเราจะผลาญทำลายเขาเสีย ส่วนเจ้าเราจะให้เป็นประชาชาติ​ใหญ่​” ฝ่ายโมเสสก็วิงวอนกราบทูลพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านว่า “ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ไฉนพระองค์จึงทรงพระพิโรธอย่างแรงกล้าต่อพลไพร่ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงนำออกมาจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ ด้วยฤทธานุภาพอันใหญ่​ยิ่ง และด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์​เล่า เหตุ​ไฉนจะให้ชนชาวอียิปต์​กล่าวว่า ‘​พระองค์​ทรงนำเขาออกมาเพื่อจะทรงทำร้ายเขา เพื่อจะประหารชีวิตเขาที่​ภู​เขาและทำลายเขาเสียจากพื้นแผ่นดินโลก’ ขอพระองค์ทรงหันกลับเสียจากความพิโรธอันแรงกล้าของพระองค์ และทรงกลับพระทัยอย่าทำอันตรายแก่พลไพร่ของพระองค์​เอง ขอพระองค์​ได้​ทรงระลึกถึ​งอ​ับราฮัม อิสอัค และอิสราเอลผู้​รับใช้​ของพระองค์ เป็นผู้ซึ่งพระองค์​ได้​ทรงปฏิญาณด้วยพระองค์เองแก่เขาเหล่านั้นไว้​ว่า ‘เราจะให้เชื้อสายของเจ้าทวีขึ้นดุจดวงดาวในท้องฟ้า และแผ่นดินนี้ทั้งหมดซึ่งเราสัญญาไว้​แล้ว เราจะยกให้​แก่​เชื้อสายของเจ้า และเขาจะรับไว้เป็นมรดกตลอดไป’” แล​้วพระเยโฮวาห์จึงทรงกลับพระทัย มิได้​ทรงทำอันตรายอย่างที่​พระองค์​ทรงดำริว่าจะกระทำแก่พลไพร่ของพระองค์ ฝ่ายโมเสสกลับลงมาจากภูเขาถือแผ่นศิลาพระโอวาทมาสองแผ่น ซึ่งจารึกทั้งสองด้าน จาร​ึกทั้​งด​้านนี้และด้านนั้น แผ่​นศิลาเหล่านั้นเป็นงานจากฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า และอักษรที่​จาร​ึกนั้นเป็นลายพระหัตถ์ของพระเจ้า สลักไว้บนแผ่นศิ​ลาน​ั้น เมื่อโยชูวาได้ยินเสียงพลไพร่อื้​ออ​ึงอยู่เขาจึงเรียนโมเสสว่า “​ที่​ค่ายมีเสียงเหมือนเกิดสงคราม” ฝ่ายโมเสสตอบว่า “​ที่​เราได้ยิ​นม​ิ​ใช่​เสียงอื้​ออ​ึงของคนที่​มี​ชัยชนะ และมิ​ใช่​เสียงคนที่​แพ้ แต่​เป็นเสียงคนร้องเพลงกัน” ต่อมาพอโมเสสเข้ามาใกล้​ค่าย ได้​เห​็​นร​ูปวัวหนุ่มและคนเต้นรำ โทสะของโมเสสก็เดือดพลุ่งขึ้น ท่านโยนแผ่นศิลาทิ้งตกแตกเสียที่เชิงภูเขานั่นเอง แล​้​วท​่านเอารูปวัวหนุ่​มท​ี่พลไพร่ทำไว้นั้นเผาเสีย และบดเป็นผงโรยลงในน้ำ และบังคับให้​ชนชาติ​อิสราเอลดื่​มน​้ำนั้น โมเสสจึงถามอาโรนว่า “พลไพร่​นี้​กระทำอะไรแก่ท่านเล่า ท่านจึงนำบาปอันใหญ่​นี้​มาสู่​พวกเขา​” ฝ่ายอาโรนตอบว่า “อย่าให้ความโกรธของเจ้านายของข้าพเจ้าเดือดพลุ่งขึ้นเลย ท่านก็​รู้​จักพลไพร่พวกนี้​แล​้​วว​่า เขาเอนเอียงไปในทางชั่ว เขามาร้องขอข้าพเจ้าว่า ‘ขอจงทำพระให้พวกข้าพเจ้า ซึ่งจะนำพวกข้าพเจ้าไป ด้วยว่าโมเสสคนนี้​ที่​ได้​นำพวกข้าพเจ้าออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์นั้นเกิดอะไรขึ้​นก​ับเขา ข้าพเจ้าไม่​ทราบ​’ แล​้วข้าพเจ้าตอบแก่เขาว่า ‘​ผู้​ใดมีทองคำให้ปลดออกมา’ เขาก็มอบทองคำให้​แก่​ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจึงโยนลงไปในไฟแล้​วว​ั​วน​ี้​ก็​ออกมา​” เมื่อโมเสสเห็นประชาชนแสดงออกถึงการเปลือยเปล่าเสียแล้ว (เพราะว่าอาโรนปล่อยให้เขาเปลือยเปล่าจนน่าละอายท่ามกลางพวกศั​ตรู​) แล​้วโมเสสยืนอยู่​ที่​ประตู​ค่ายร้องว่า “​ผู้​ใดอยู่ฝ่ายพระเยโฮวาห์​ให้​ผู้​นั้นมาหาเราเถิด” ฝ่ายลูกหลานของเลวี​ได้​มาหาโมเสสพร้อมกัน โมเสสจึงกล่าวแก่เขาว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลตรั​สส​ั่​งด​ังนี้​ว่า ‘จงเอาดาบสะพายทุกคนแล้วจงไปมาตามประตูต่างๆทั่วค่าย ทุ​กๆคนจงฆ่าพี่น้องและมิตรสหายและเพื่อนบ้านของตัวเอง’”

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 32

อพยพ 32:1-27 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เมื่อประชาชนเห็นโมเสสล่าช้าอยู่ ไม่ลงมาจากภูเขา จึงได้พากันมาหาอาโรน เรียนว่า <<ลุกขึ้น ขอท่านสร้างพระให้แก่พวกข้าพเจ้า ซึ่งจะนำพวกข้าพเจ้าไป ด้วยว่าโมเสสคนนี้ที่ได้นำ ข้าพเจ้าออกมาจากประเทศอียิปต์เป็นอะไรไปเสียแล้ว ข้าพเจ้าไม่ทราบ>> ฝ่ายอาโรนได้กล่าวแก่เขาว่า <<จงปลดตุ้มหูทองคำออกจากหูภรรยา และหูบุตรชายหญิงของเจ้าทั้งหลายแล้วนำมาให้เราเถิด>> ประชาชนทั้งปวงจึงได้ปลดตุ้มหูทองคำจากหูของ ตนมามอบให้กับอาโรน เมื่ออาโรนได้รับทองคำจากมือเขาแล้ว จึงใช้เครื่องมือสลักหล่อรูปเป็นโคหนุ่ม แล้วเขาทั้งหลายประกาศว่า <<โอ อิสราเอล สิ่งเหล่านี้แหละเป็นพระของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์>> เมื่ออาโรนได้ยินดังนั้นแล้ว จึงสร้างแท่นบูชาไว้ ตรงหน้ารูปโคหนุ่มนั้น แล้วอาโรนประกาศว่า <<พรุ่งนี้จะเป็นวันเทศกาลเลี้ยงถวายพระเจ้า>> ครั้นรุ่งขึ้นเขาก็ตื่นขึ้นแต่เช้ามืดถวายเครื่องเผาบูชา และนำเครื่องศานติบูชามา ประชาชนก็นั่งลงกินและดื่มแล้วก็ลุกขึ้นเล่นสนุก กัน ฝ่ายพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า <<เจ้าจงลงไปเถิด ด้วยว่าชนชาติของเจ้าซึ่งเจ้าได้นำออกจากแผ่นดินอียิปต์นั้น ได้ทำความเสื่อมเสียมากแล้ว เขาได้หันเหออกจากทางซึ่งเราสั่งเขาไว้อย่างรวดเร็ว คือหล่อรูปโคขึ้นรูปหนึ่งสำหรับตน และกราบไหว้รูปนั้น และถวายสัตวบูชาแก่รูปนั้น และกล่าวว่า <โอ อิสราเอล สิ่งเหล่านี้แหละเป็นพระของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์> >> แล้วพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า <<เราเห็นประชากรนี้แล้ว นี่แหละเขาเป็นชนชาติหัวแข็ง เหตุฉะนี้เจ้าจงปล่อยเขาตามลำพัง เพื่อความพิโรธของเราจะเดือดพลุ่งขึ้นต่อเขา และเพื่อเราจะผลาญทำลายเขาเสีย ส่วนเจ้า เราจะให้เป็นประชาชาติใหญ่>> ฝ่ายโมเสสก็วิงวอนกราบทูลพระเจ้าของท่านว่า <<ข้าแต่พระเจ้า ไฉนพระองค์จึงทรงพระพิโรธต่อประชากรของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงนำออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ ด้วยฤทธานุภาพอันใหญ่ยิ่ง และด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์เล่า เหตุไฉนจะให้ชนชาวอียิปต์กล่าวว่า <พระองค์ทรงนำเขาออกมาเพื่อจะทรงทำร้ายเขา เพื่อจะประหารชีวิตเขาที่ภูเขาและทำลายเขาเสียจากแผ่นดิน> ขอพระองค์ทรงหันกลับเสียจากความพิโรธอันแรงกล้าของ พระองค์ และทรงกลับพระทัยอย่าทำอันตรายแก่ประชากรของ พระองค์เอง ขอพระองค์ได้ทรงระลึกถึง อับราฮัม อิสอัค และอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์เป็นผู้ซึ่ง พระองค์ได้ทรงปฏิญาณแก่เขาเหล่านั้นไว้ว่า <เราจะให้เชื้อสายของเจ้าทวีขึ้นดุจดวงดาว ในท้องฟ้า และแผ่นดินนี้ทั้งหมดซึ่งเราสัญญาไว้แล้ว เราจะยกให้แก่เชื้อสายของเจ้า และเขาจะรับไว้เป็นมรดกตลอดไป> >> แล้วพระเจ้าจึงทรงกลับพระทัย มิได้ทรงทำอันตรายอย่างที่พระองค์ทรงดำริว่า จะกระทำแก่ประชากรของพระองค์ ฝ่ายโมเสสกลับลงมาจากภูเขาถือแผ่นศิลาพระโอวาท มาสองแผ่นซึ่งจารึกทั้งสองด้าน จารึกทั้งด้านนี้และด้านนั้น แผ่นศิลาเหล่านั้น เป็นงานจากฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า และอักษรที่จารึกนั้น เป็นลายพระหัตถ์ของพระองค์สลักไว้บนแผ่นศิลานั้น เมื่อโยชูวาได้ยินเสียงประชาชนอื้ออึงอยู่ เขาจึงเรียนโมเสสว่า <<ที่ค่ายมีเสียงเหมือนเกิดสงคราม>> ฝ่ายโมเสสตอบว่า <<ที่เราได้ยินมิใช่เสียงอื้ออึงของคนที่มีชัยชนะ และมิใช่เสียงคนที่แพ้ แต่เป็นเสียงคนร้องเพลงกัน>> พอโมเสสเข้ามาใกล้ค่าย ได้เห็นรูปโคหนุ่ม และคนเต้นรำ โทสะของโมเสสก็เดือดพลุ่งขึ้น ท่านโยนแผ่นศิลาทิ้งตกแตกเสียที่เชิงภูเขานั่นเอง แล้วท่านเอารูปโคหนุ่มที่ประชาชนทำไว้นั้นเผาเสีย และบดเป็นผงโรยลงในน้ำ และบังคับให้ชนชาติอิสราเอลดื่มน้ำนั้น โมเสสจึงถามอาโรนว่า <<ประชาชนนี้กระทำอะไรแก่ท่านเล่า ท่านจึงนำบาปอันใหญ่นี้มาสู่พวกเขา>> ฝ่ายอาโรนตอบว่า <<อย่าให้ความโกรธของเจ้านายของข้าพเจ้าเดือดพลุ่งขึ้นเลย ท่านก็รู้จักประชาชนพวกนี้แล้วว่า เขาเอนเอียงไปในทางชั่ว เขามาร้องขอข้าพเจ้าว่า <ขอจงทำพระให้พวกข้าพเจ้า ซึ่งจะนำพวกข้าพเจ้าไป ด้วยว่าโมเสสคนนี้ที่ได้ นำพวกข้าพเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์นั้น เกิดอะไรขึ้นกับเขา ข้าพเจ้าไม่ทราบ> แล้วข้าพเจ้าตอบแก่เขาว่า <ผู้ใดมีทองคำให้ปลดออกมา> เขาก็มอบทองคำให้แก่ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจึงโยนลงไปในไฟ แล้วโคนี้ก็ออกมา>> เมื่อโมเสสเห็นประชาชนเตลิดไป (เพราะว่าอาโรนปล่อยเขาให้เตลิดไป จนเขารับคำเยาะเย้ย จากพวกศัตรู) แล้วโมเสสยืนอยู่ที่ประตูค่ายร้องว่า <<ผู้ใดอยู่ฝ่ายพระเจ้า ให้ผู้นั้นมาหาเราเถิด>> ฝ่ายบุตรหลานเลวีได้มาหาโมเสสพร้อมกัน โมเสสจึงกล่าวแก่เขาว่า <<พระเจ้าของอิสราเอลตรัสสั่งดังนี้ว่า <จงเอาดาบสะพายทุกคน แล้วจงไปมาตามประตูค่ายทุกๆคน จงฆ่าพี่น้องและมิตรสหายและเพื่อนบ้านของตัวเอง> >>

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 32

อพยพ 32:1-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

เมื่อเหล่าประชากรเห็นว่าโมเสสล่าช้าไม่กลับลงมาจากภูเขา จึงพากันไปหาอาโรนและกล่าวว่า “มาเถิด ช่วยสร้างเทพเจ้าขึ้นมานำพวกเราไป เพราะเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโมเสสผู้ที่นำพวกเราออกมาจากอียิปต์” อาโรนตอบพวกเขาว่า “ถอดตุ้มหูทองคำซึ่งภรรยา ลูกชาย และลูกสาวของพวกท่านสวมอยู่มาให้ข้าพเจ้าสิ” ดังนั้นประชาชนทั้งปวงจึงนำตุ้มหูมามอบให้อาโรน เขาใช้ทองนั้นหล่อลูกวัวขึ้นมาตัวหนึ่ง คนทั้งหลายต่างพูดกันว่า “อิสราเอลเอ๋ย นี่คือเทพเจ้าของท่านผู้นำท่านออกมาจากอียิปต์” เมื่ออาโรนเห็นเช่นนั้น จึงก่อแท่นบูชาขึ้นต่อหน้ารูปลูกวัวและประกาศว่า “วันพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า” ดังนั้นวันรุ่งขึ้นเหล่าประชาชนจึงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่มาถวายเครื่องเผาบูชา เครื่องสันติบูชา แล้วนั่งล้อมวงกินดื่มและลุกขึ้นรื่นเริงในงานเลี้ยง แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงลงไปเถิด เพราะประชากรที่เจ้าพาออกมาจากอียิปต์เสื่อมทรามไปแล้ว พวกเขาละทิ้งคำบัญชาของเราอย่างรวดเร็วและหล่อรูปเคารพเป็นลูกวัวขึ้นมากราบไหว้และถวายเครื่องบูชา แล้วพูดกันว่า ‘อิสราเอลเอ๋ย นี่คือเทพเจ้าของท่านผู้นำท่านออกมาจากอียิปต์’” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เราเห็นแล้วว่าคนเหล่านี้ดื้อด้านจริงๆ ด้วยเหตุนี้จงปล่อยไว้ให้เป็นธุระของเราเอง เราจะระบายความโกรธทำลายล้างพวกเขาให้หมด แล้วเราจะทำให้เจ้าเป็นชนชาติใหญ่” แต่โมเสสทูลวิงวอนขอพระเมตตาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าเหตุใดจึงทรงพระพิโรธต่อประชากรของพระองค์เอง ผู้ซึ่งพระองค์ทรงพาออกมาจากอียิปต์ด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่และด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์? เหตุใดจะให้ชาวอียิปต์พูดได้ว่า ‘พระเจ้าทรงล่อพวกเขาออกมาเพื่อฆ่าทิ้งที่ภูเขา และทำลายล้างให้สิ้นจากแผ่นดินโลก’? ขอทรงระงับพระพิโรธและอดกลั้นพระทัยไว้ ไม่ปล่อยให้ภัยพิบัติเกิดแก่ประชากรของพระองค์เอง ขอทรงระลึกถึงอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณไว้กับเขาเหล่านั้นโดยอ้างพระองค์เองว่า ‘เราจะทวีวงศ์วานของเจ้าให้มากมายดั่งดวงดาวบนท้องฟ้า และเราจะยกดินแดนทั้งหมดนี้ที่เราสัญญาไว้ให้วงศ์วานของเจ้าครอบครองตลอดไป’ ” องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงเปลี่ยนพระทัยและไม่นำภัยพิบัติมาเหนือประชากรของพระองค์ตามที่ทรงดำริไว้ โมเสสก็ลงมาจากภูเขา นำศิลาสองแผ่นซึ่งจารึกพระบัญญัติสิบประการไว้ทั้งสองด้านลงมาด้วย บทบัญญัติที่จารึกบนศิลาทั้งสองแผ่นนั้นเป็นลายพระหัตถ์ของพระเจ้าเอง เมื่อโยชูวาได้ยินเสียงคนข้างล่างโห่ร้องอึกทึกก็เอ่ยกับโมเสสว่า “ฟังดูเหมือนกำลังรบกันอยู่ในค่ายพัก” แต่โมเสสตอบว่า “นั่นไม่ใช่เสียงของคนชนะ ไม่ใช่เสียงของคนแพ้ แต่ที่เราได้ยินนั้นเป็นเสียงร้องรำทำเพลง” เมื่อลงมาใกล้ค่ายพัก โมเสสมองเห็นรูปลูกวัวและคนร่ายรำ โทสะของเขาก็พลุ่งขึ้นจึงทุ่มศิลาจารึกลงกับพื้นจนแตกกระจายอยู่ที่เชิงเขานั้นเอง และเขาเอารูปลูกวัวนั้นมาเผาไฟ แล้วบดเป็นผงโรยลงน้ำและบังคับให้ชนอิสราเอลดื่ม โมเสสถามอาโรนว่า “คนพวกนี้ทำอะไรท่านหรือ ท่านจึงนำพวกเขาเข้าสู่บาปที่ร้ายแรงถึงเพียงนี้?” อาโรนตอบว่า “โอ เจ้านาย อย่าเพิ่งโมโหเลย ท่านก็รู้จักคนพวกนี้ดีว่าเขาโน้มเอียงไปทางชั่วแค่ไหน พวกเขากล่าวกับข้าพเจ้าว่า ‘ช่วยสร้างเทพเจ้าขึ้นมานำพวกเราไป เพราะเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโมเสสผู้ที่นำเราออกมาจากอียิปต์’ ข้าพเจ้าจึงบอกพวกเขาว่า ‘ใครมีเครื่องทองก็จงถอดออกมา’ พวกเขาก็เอาทองมาให้ ข้าพเจ้าโยนทองลงไปในไฟก็ได้ออกมาเป็นลูกวัวนี่แหละ!” เมื่อโมเสสเห็นว่าประชากรเตลิดไปโดยแรงสนับสนุนจากอาโรน เป็นที่น่าเย้ยหยันสำหรับศัตรู ดังนั้นเขาจึงไปยืนตรงทางเข้าค่ายและกล่าวว่า “ทุกคนที่อยู่ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้าจงมาหาเรา” แล้วคนเลวีทั้งหมดก็มา แล้วเขากล่าวกับคนเหล่านั้นว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘แต่ละคนจงถือดาบตะลุยไปทั่วค่าย ฆ่าทุกคนแม้ว่าจะเป็นพี่น้อง เพื่อน หรือเพื่อนบ้านก็ตาม’ ”

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 32

อพยพ 32:1-27 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

เมื่อ​ประชาชน​เห็น​ว่า​โมเสส​ยัง​ล่าช้า​อยู่​และ​ไม่​ลง​มา​จาก​ภูเขา จึง​รวม​กลุ่ม​กัน​ไป​หา​อาโรน​และ​บอก​ท่าน​ว่า “ลุก​ขึ้น​เถิด ช่วย​สร้าง​เทวรูป​ให้​เรา​เพื่อ​นำ​หน้า​พวก​เรา​ไป​เถิด ไม่​รู้​ว่า​โมเสส​คน​ที่​ได้​นำ​เรา​ออก​มา​จาก​อียิปต์​เป็น​อะไร​ไป​แล้ว” อาโรน​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “ไป​ปลด​ต่างหู​ทองคำ​ออก​จาก​หู​ภรรยา​และ​บุตร​ชาย​บุตร​หญิง​ของ​พวก​เจ้า​เสีย แล้ว​เอา​มา​ให้​เรา” ดังนั้น​ประชาชน​ทั้ง​หมด​ต่าง​ก็​ปลด​ต่างหู​ทองคำ​ออก​จาก​หู​ของ​ตน​มา​ให้​อาโรน ท่าน​รับ​ของ​จาก​ทุก​คน​ที่​ยื่น​ให้ แล้ว​ใช้​เครื่องมือ​ตี​ทอง​เข้า​ด้วย​กัน แล้ว​หล่อ​เป็น​รูป​ลูก​โค พวก​เขา​พูด​ว่า “โอ อิสราเอล นี่​คือ​บรรดา​เทพเจ้า​ของ​เจ้า​ที่​นำ​เจ้า​ออก​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์” ครั้น​อาโรน​เห็น​เช่น​นั้น​จึง​สร้าง​แท่น​บูชา​ไว้​ตรง​หน้า​รูป​ลูก​โค และ​ประกาศ​ว่า “จะ​มี​งาน​ฉลอง​แด่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ใน​วัน​พรุ่งนี้” ประชาชน​ลุก​ขึ้น​แต่​เช้าตรู่​และ​นำ​สัตว์​มา​ให้​เผา​เป็น​ของ​ถวาย และ​มอบ​ของ​ถวาย​เพื่อ​สามัคคี​ธรรม ผู้​คน​นั่ง​ลง​ดื่ม​กิน​แล้ว​ลุก​ขึ้น​เฮฮา​กัน แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​โมเสส​ว่า “จง​ลง​ไป เพราะ​ประชาชน​ของ​เจ้า​ที่​เจ้า​ได้​นำ​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์​เสื่อมทราม​ไป​แล้ว พวก​เขา​หัน​หลัง​ให้​กับ​วิถี​ทาง​ที่​เรา​สั่ง​ให้​ปฏิบัติ​อย่าง​รวดเร็ว เขา​หล่อ​รูป​ลูก​โค​ขึ้น​ตัว​หนึ่ง​ให้​พวก​เขา​เอง แล้ว​ยัง​นมัสการ​และ​ถวาย​เครื่อง​สักการะ​แก่​ลูก​โค พวก​เขา​พูด​ว่า ‘โอ อิสราเอล นี่​คือ​บรรดา​เทพเจ้า​ของ​เจ้า​ที่​นำ​เจ้า​ออก​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์’” แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​โมเสส​ว่า “เรา​เห็น​คน​พวก​นี้​แล้ว ดู​เถิด เป็น​คน​หัว​รั้น ฉะนั้น คราว​นี้​ปล่อย​ให้​เป็น​เรื่อง​ของ​เรา ความ​กริ้ว​ของ​เรา​จะ​พลุ่ง​ขึ้น​ต่อ​พวก​เขา และ​เรา​จำต้อง​กำจัด​พวก​เขา​เสีย​ให้​สิ้น แล้ว​เรา​จะ​ให้​ประชา​ชาติ​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​เกิด​ขึ้น​มา​จาก​ตัว​เจ้า” แต่​โมเสส​อ้อนวอน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​ว่า “โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เหตุใด​ความ​กริ้ว​ของ​พระ​องค์​จึง​พลุ่ง​ขึ้น​ต่อ​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​ได้​นำ​พวก​เขา​ออก​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์​ด้วย​อานุภาพ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​และ​พลานุภาพ​ของ​พระ​องค์ เหตุ​ไฉน​จะ​ให้​ชาว​อียิปต์​พูด​ได้​ว่า ‘พระ​องค์​นำ​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​ออก​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์ แล้ว​ลวง​มา​ฆ่า​เสีย​ที่​ภูเขา และ​เพื่อ​กำจัด​พวก​เขา​ไป​จาก​แผ่นดิน​โลก’ ขอ​โปรด​ยับยั้ง​ความ​กริ้ว​อัน​ร้อนแรง​ของ​พระ​องค์ และ​เปลี่ยน​ใจ​โดย​อย่า​ให้​สิ่ง​ร้ายๆ เกิด​ขึ้น​กับ​คน​ของ​พระ​องค์​เลย ขอ​พระ​องค์​รำลึก​ถึง​คำ​ปฏิญาณ​ที่​พระ​องค์​เอง​ได้​ให้​ไว้​กับ​อับราฮัม อิสอัค และ​อิสราเอล​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์​ว่า ‘เรา​จะ​เพิ่ม​ผู้​สืบ​เชื้อสาย​ให้​แก่​เจ้า​มาก​ยิ่ง​ขึ้น มากมาย​ราว​กับ​ดวง​ดาว​บน​ท้องฟ้า และ​เรา​จะ​ให้​ดินแดน​ที่​เรา​ได้​สัญญา​ไว้​แก่​บรรดา​ผู้​สืบ​เชื้อสาย​ของ​เจ้า และ​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​เป็น​มรดก​ไป​ตลอด​กาล’” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จึง​เปลี่ยน​ใจ และ​ไม่​ทำ​ให้​สิ่ง​ร้ายๆ เกิด​ขึ้น​ดัง​ที่​หมาย​ไว้​ว่า​จะ​กระทำ​ต่อ​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ โมเสส​กลับ​ลง​ไป​จาก​ภูเขา​ถือ​แผ่น​พระ​บัญญัติ 2 แผ่น​ไว้​ใน​มือ แต่​ละ​แผ่น​มี​คำ​เขียน​ทั้ง 2 ด้าน แผ่น​ศิลา​ทั้ง​สอง​เป็น​ผลงาน​ของ​พระ​เจ้า และ​ข้อ​ความ​จารึก​เป็น​งาน​จารึก​ของ​พระ​เจ้า สลัก​บน​แผ่น​ศิลา ครั้น​โยชูวา​ได้ยิน​เสียง​ประชาชน​ร้อง​ตะโกน​จึง​พูด​กับ​โมเสส​ว่า “มี​เสียง​เหมือน​เกิด​สงคราม​ที่​ค่าย” โมเสส​ตอบ​ว่า “ไม่​ใช่​เสียง​ตะโกน​ของ​การ​มี​ชัย หรือ​เสียง​ร้อง​ของ​การ​พ่ายแพ้ แต่​เรา​ได้ยิน​ว่า​เป็น​เสียง​ร้อง​เพลง” ทันที​ที่​โมเสส​เข้า​ไป​ใกล้​ค่าย​ก็​เห็น​รูป​ลูก​โค​และ​การ​เต้น​รำ​ทำ​เพลง โมเสส​เดือดดาล​มาก​จึง​โยน​แผ่น​ศิลา​ทิ้ง​ลง​กับ​พื้น และ​ทำ​ให้​แผ่น​ศิลา​แตก​ที่​เชิง​เขา ท่าน​เอา​รูป​ลูก​โค​ที่​พวก​เขา​หล่อ​ไว้​มา​เผา​ไฟ ทุบ​จน​แหลก​ละเอียด โรย​ลง​ใน​น้ำ แล้ว​บังคับ​ให้​ประชาชน​ของ​อิสราเอล​ดื่ม โมเสส​พูด​กับ​อาโรน​ว่า “ประชาชน​พวก​นี้​ทำ​อะไร​กับ​ท่าน ท่าน​จึง​เป็น​เหตุ​ให้​พวก​เขา​กระทำ​บาป​มหันต์​เช่น​นี้” อาโรน​ตอบ​ว่า “ขอ​ท่าน​อย่า​เดือดดาล​ไป​เลย​นะ ท่าน​ก็​รู้จัก​คน​เหล่า​นี้​ดี​ว่า​เขา​มี​ใจ​จะ​ทำ​สิ่ง​เลว​ร้าย​อยู่​แล้ว พวก​เขา​พูด​กับ​เรา​ว่า ‘ช่วย​สร้าง​เทวรูป​ให้​เรา​เพื่อ​นำ​หน้า​พวก​เรา​ไป​เถิด ไม่​รู้​ว่า​โมเสส​คน​ที่​ได้​นำ​เรา​ออก​มา​จาก​อียิปต์​เป็น​อะไร​ไป​แล้ว’ เรา​บอก​พวก​เขา​ว่า ‘ใคร​มี​ทองคำ​ก็​ปลด​ออก​มา’ เขา​ก็​ให้​เรา​มา เรา​จึง​โยน​ลง​ไป​ใน​ไฟ แล้ว​ก็​เป็น​ลูก​โค​ตัว​นี้​ออก​มา” เมื่อ​โมเสส​เห็น​ว่า​ประชาชน​ไม่​อยู่​ใน​ระเบียบ และ​อาโรน​ปล่อย​ให้​พวก​เขา​กระทำ​ตาม​ใจ​ชอบ​จน​เป็น​ที่​เย้ยเยาะ​ของ​ศัตรู​ของ​พวก​เขา โมเสส​จึง​ยืน​ที่​ประตู​ทาง​เข้า​ค่าย​และ​พูด​ว่า “ใคร​เป็น​ฝ่าย​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​มา​อยู่​ที่​นี่” บรรดา​บุตร​ของ​เผ่า​เลวี​ก็​รวม​กลุ่ม​กัน​ไป​หา​โมเสส แล้ว​ท่าน​บอก​พวก​เขา​ว่า “พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล​กล่าว​ว่า ‘ชาย​ทุก​คน​จง​สะพาย​ดาบ ตระเวน​ให้​ทั่ว​ค่าย​ทุก​ประตู จง​ฆ่า​พี่​น้อง​ของ​เจ้า มิตร​สหาย และ​เพื่อน​บ้าน​ของ​ตัว​เอง’”

แบ่งปัน
อ่าน อพยพ 32